|
เราเข้าที่พักและรับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรมค่ะ
เห็นบางคนบอกว่านี่คือ"ข้าวมธุปายาส"
แต่ จขกท.คิดว่าไม่ใช่ ชิมแล้วรสคล้ายข้าวต้มใส่น้ำผึ้งและเครื่องเทศบางอย่างเท่านั้น
ข้าวมธุปายาสมีเครื่องปรุงมากมายหลายอย่าง มากถึง ๖๐ กว่าชนิด เช่น ถั่วงา, ลูกเดือย, ข้าวฟ่าง, ข้าวเม่า, เผือก, มัน, ผลไม้นานาชนิด และนมเนย เป็นต้น
...........
..ตำนานข้าวมธุปายาส มาจากเรื่องของ นางสุชาดา ธิดาเศรษฐี ณ หมู่บ้านเสนานี ใกล้ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม มีหญิงรับใช้ชื่อนางปุณณา นางสุชาดาได้บวงสรวงขอบุตรชายต่อเทวดาประจำต้นไทร เมื่อได้บุตรชายตามประสงค์แล้ว นางจึงให้คนตระเตรียมทำข้าวมธุปายาสเพื่อนำไปเป็นพลีแก่เทวดา ที่บันดาลให้ความหวังของนางเป็นจริง แต่ก็ได้ถวายแด่ นักบวชสิทธัตถะ ผู้ประทับนั่งใต้ร่มไทรนั้น ซึ่งเมื่อนางเห็นก็เข้าใจว่าเป็นรุกขเทวดาที่แสดงตนมาเป็นนักบวช เพราะมีลักษณะงาม นางจึงน้อมข้าวมธุปายาสนั้นเข้าไปถวาย
ครั้นนักบวชสิทธัตถะได้บอกความจริงแก่นางแล้วนางก็ยิ่งมีใจศรัทธา จึงได้ถวายข้าวนั้นทั้งถาด นักบวชสิทธัตถะได้นำข้าวมธุปายาสมาแบ่งเป็น ๔๙ ก้อน แล้วฉันจนหมด จากนั้นจึงนำถาดไปอธิษฐานแล้วลอยไปในแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อเสี่ยงทายเรื่องที่จะสามารถตรัสรู้ได้หรือไม่ ข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาจึงนับว่าเป็นอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่นักบวชสิทธัตถะจะได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า
* ขอขอบคุณข้อมูลจากบ้านมหา ดอทคอม
จากคุณ |
:
จุดตานิด
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ก.พ. 55 03:21:32
|
|
|
|
|