ความคิดเห็นที่ 1 หน้าตาของสถานี จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:13:03

ความคิดเห็นที่ 2 วิธีการดูว่าเราไปที่ไหนก็ง่าย ๆ สะดวกมาก ที่อินเดียจะมีป้ายไฟเพื่อบอกว่ารถไฟสายไหนออกที่ชานชลาที่เท่าไหร่ ท่านก็ดูว่า ชื่อขบวนนี้หมายเลขนี้ อยู่ตรงไหน อะไรยังไงแล้วก็ไปตรงนั้น แค่นั้นเอง  พวกเราทั้งหมดก็ได้มาอยู่ตรง ชานชลาที่ 7 เพื่อรอขบวนรถไฟ Taj Express สภาพภายในก็พอ ๆ กะชั้นสามบ้านเรา ซึ่งก็พอรับได้ แต่เมื่อขบวนรถไฟเทียบชานชลานั้นก็จะมีคนประมาณล้านแสนแปดคนพยายามเบียดขึ้นรถไฟให้จงได้ แทบตายชีวิต เมื่อเราได้นั่งแล้วท่าน ๆ ทั้งหลายจงทำใจเล็กน้อย เนื่องจากว่ารถไฟชั้นนี้ไม่มีอาหารบริการฉะนั้นท่านจะต้องหาขนมมาประทังชีวิตเอง พร้อมกับบรรยากาศสองฝั่งที่มีมนุษย์มานั่งยอง ๆ มองรถไฟกันตาแป๋ว อยู่เนือง ๆ ท่าน ๆ คิดว่าเขามาทำอะไรกัน ...ถ้าเห็นด้วยตาก็น่าจะทายถูกว่าพวกเขามา”ปลดทุกข์” ตอนเช้า ตรงริมทางรถไฟ กันเต็มไปหมด และไม่มีทีท่าว่าจะอายฟ้าดินแต่อย่างใด รูปประกอบไม่สามารถลงได้ขออภัยด้วย จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:14:53

ความคิดเห็นที่ 3 หากท่านไม่เชื่อ นี่ยุคไหนแล้วใครจะมา อึ๊ตรงริมทางรถไฟอีก เป็นไปบ่ได้ แนะนำให้ท่านลองไปอินเดียสักครั้งแล้วจะติดใจ อยากกลับไปอีกสักครั้ง อิอิ  บรรยากาศข้างทางระหว่างไปอักรา ก็สวยบ้างไม่สวยบ้างเป็นธรรมดา สักอึดใจ (สามชั่วโมงกว่า ๆ ) พวกเราก็มาถึง สถานีที่รอคอย Agra Cantt ที่อินเดีย ไม่มีเสียงใด ๆ บ่งบอกว่าท่านถึงสถานีใดแล้ว สิ่งที่ท่านจะทำได้คือ ใช้จักษุศาสตร์ ในการมองหาว่า ตัวเองอยู่สถานที่ใดแล้ว เพราะไม่งั้นนั่งเลยสถานีจะไม่ตลกเอา  ก่อนหน้าที่จะถึง Agra Cantt ท่านจะถึง Agra ก่อน ช่วงนั้นจะมีคนลงเยอะมาก ถึงมากที่สุด (ตามแต่กรรมแต่วาระ) ฉะนั้นหากท่านเห็นป้าย Agra station ล่ะก็ ท่านควรที่จะเตรียมตัว  ลงสถานีต่อไปได้ในทันที จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:18:34

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อเราออกมาจากสถานีรถไฟ Agra Cantt ท่านจะได้พบกับผู้คนจากทั่วทุกสารทิศที่เดินกันขวักไขว่ ถ้าหากผ่านประสบการณ์จาก ตลาด Chandni chowk มาแล้วจะถือว่า เรื่องนี้จิ๊บ ๆ เป็นยิ่งนัก แต่ท่าหากยังไม่เคยผ่านล่ะก็ท่านอาจจะประสาทเสียได้ เพราะคนขับสามล้อหรือ ออโต้ริกชอว์นั้นตามท่านตั้งแต่ปากประตูรถไฟเลยทีเดียว  เมื่อท่าน ๆ ฝ่าฝูงชนนับแสนนับพันออกมา   ท่านจะพบกับ pre-paid taxi booth ที่อยู่ตระหง่านตรงหน้าสถานี ที่ซึ่งแท๊กซี่จะมาบอกให้คนเขียนคิวให้ตน และแล้วพวกอิชั้นก็ตกเป็นเหยื่อของแท๊กซี่คนนั้นจนได้ แม้ว่าพวกเราพยายามที่จะไปหา pre-paid taxi แล้วก็ตาม  โรงแรมที่เราพักชื่อว่า Hotel sheela อยู่ตรง east gate ของ ทัชมาฮาล เรียกได้ว่า เราสามารถเดินไปหาทัชมาฮาลได้ทุกเมื่อ โดยไม่ต้องอาศัยรถ แถมเป็นแหล่งที่เงียบสงบอีกต่างหาก ได้ประโยชน์สองต่อเลยนะเนี่ย จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:20:58

ความคิดเห็นที่ 5 ค่ารถจาก สถานี Agra Cantt มาที่ โรงแรม Sheela เป็นเงินทั้งหมด 250 รูปี สำหรับ  4 คน 4 กระเป๋า  ตอนนั้นก็ยังกลัว ๆ อยู่ว่าในอักราจะมีอะไรมาหลอกอีกหรือไม่  และแล้วสิ่งที่อิชั้นคาดไว้ก็เกิดขึ้นกับอิชั้นอีกครั้ง เมื่อคนขับรถจอดรถตรงวงเวียนอะไรก็ไม่รู้ ปล่อยให้อิชั้น และพวกพ้องต้องเดินไปกันเอง โดยไม่รู้ชะตากรรมเวรใด ๆ ทั้งสิ้น พวกเราก็ได้แต่ถามหาโรงแรมที่พวกเราจะไปเนือง ๆ นับรวมระยะทางได้กว่า หนึ่งกิโลเมตร   เวรกรรมอะไรเช่นนี้หนอ ชีวิต ซึ่งคนขับรถแท๊กซี่บอกว่าที่เข้าไปไม่ได้เพราะว่ารถแท๊กซี่มาส่งได้แค่นี้ แต่พวกเราก็เห็น ออโต้ริกชอว์ วิ่งเข้าวิ่งออกได้นะ ลองนึกสภาพดูนะพี่น้อง สำหรับคนที่หิว ง่วง และเหนื่อย 4 คน  เดินในตรอกแคบ ๆ ที่มีทั้งรถ ทั้งวัว ทั้งหมู ทั้งอูฐ เดินกันให้ขวักไขว่ไปมา และสุดท้ายผลบุญที่พวกเราทำไว้แต่ปางก่อนก็ส่งให้พวกเรานั้นมาถึงที่โรงแรม Sheela ได้อย่างสวัสดีภาพ ถึงแม้จะอิดโรยและเหนื่อยอ่อนไปบางก็ตามที   น้องวัวเทพ ที่บังเอิญเจอระหว่างทาง จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:23:25

ความคิดเห็นที่ 6 รูปดังต่อไปนี้ แสดงถึงเขตที่กั้นห้ามรถเข้า   ท่านจงจำไว้ว่าหากท่านมาไม่ถึงจุดนี้ล่ะก็ ยังไงก็ไม่ยอมลงเด็ดขาด  จากนั้นพวกเราก็ เช็คอินในโรงแรม sheela ซึ่งห้องก็ว่าง และว่างมาก เสียด้วย  พร้อมทั้งได้ยินเรตค่าห้องของ walk in กับ pre booking มาก่อนแบบอิชั้นว่ามันต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ก็ไม่เป็นไรถือว่าซื้อความสบายใจซะว่ายังไงห้องก็ว่างแน่นอน จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:32:58

ความคิดเห็นที่ 7 จากนั้นนี่ก็คือมื้อแรกใน อักรา กระปุกใส ๆ นั่น แบกกันมาเองจากกทม. นี่คือน้ำพริกปลากรอบที่เพิ่มรสชาติให้อาหารได้อีกโข  จากนั้นพวกเราก็เริ่มจัดการกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่จะ ไปสถานที่ต่อไปนั่นคือ Fatehpusikri แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 23:38:20 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:36:56

ความคิดเห็นที่ 8 และเมื่อเก็บเงิน ราคา ที่เห็นขีดฆ่าตอนแรกคือ 680 อิชั้นเป็นคนรอบคอบเสมอ เลยบวกใหม่ ได้ 620 นั่นไง ขนาดใน sheela ยังต้องระวัง และนับจากนั้น ไม่ว่าไปกินข้าวที่ใดก็ตาม ถ่ายใบเสร็จแล้ว บวกใหม่ตลอด เพื่อความปลอดภัย จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:41:05

ความคิดเห็นที่ 9 ปฏิบัติการตามหาทางไปฟาเตปูร์ สิคริ ก็เริ่มต้นขึ้น เราพยายามถาม ราคาและวิธีการไปจากหลายสำนัก โดยที่ทุกที่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องเหมารถแท๊กซี่ไป ในราคา 1,200 รูปี  จริง ๆ ก็จ่ายได้อ่ะนะ แต่งก และจากที่เราสืบทราบมาก็คือ มีรถเมล์ไปที่นั่น  ในราคาคนละ 20 กว่ารูปี และระยะเวลา ประมาณ หนึ่งชั่วโมง เอาล่ะสิ ด้วยความงกบังเกิด อิชั้นและพ้องเพื่อนเลยตกลงกันว่าเราจะนั่งรถเมล์กันไปเพื่อประหยัดค่าเดินทาง จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:44:43

ความคิดเห็นที่ 10 สภาพรถเมล์ก็แบบที่เห็นนั่นแหละเพคะ และนางแบบนั้นก็หม่อมแม่อิชั้นเอง เอาแม่มาทรมานนนน การเดินทางจึงเริ่มต้นอีกครั้งโดยมีตัวอิชั้นเป็นแกนนำขบวน (พูดอย่างกะจะประท้วง) อิอิ  จากนั้นพวกเราก็เดินไปหารถ ออโต้ริกชอว์ เพื่อนำตัวพวกเราไปส่งยังสถานีรถอิดการ์ ซึ่งอยู่ใกล้  ๆ กับ โรงแรม ซากุระ ที่จะซื้อตั๋วไป จัยปูร์ได้อีกด้วย อะไรจะ เจ๋งแบบนี้   คนขับชื่อโซนู แถมถามเราด้วยว่าให้รอมั้ย เราก็บอก โอเค ๆ ก็ได้ ๆ ห้าโมงก็แล้วกัน  ณ เวลานั้นเกือบ ๆบ่ายสองแล้ว จากนั้นเราสี่คนก็ได้ จ่ายเงิน 100 รูปี เพื่อไป สถานีรถอิดการ์  จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการตามล่าหารถ โดยการเดินไปที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วที่อยู่ด้านใน และถามว่า ไป ฟาเตห์ นั่งรถคันไหน  ซึ่งก็ไปตามมือของพี่แขกที่เค้าชี้มานั่นแหละค่ะ ว่าคันนี้และไปจ่ายเงินบนรถ ราคาคนละ 27 รูปี พอดิพอดี  จำไว้ว่าจงถามราคาจากหลาย ๆ แห่งก่อน เพราะในอินเดีย คุณไม่สามารถเชื่ออะไรกับใครได้ทั้งนั้น เป็นอันขาด สิบอกให้   แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 23:49:03 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 23:48:19 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:46:40

ความคิดเห็นที่ 11 บรรยากาศภายในรถก็เป็นเยี่ยงนี้แล เป็นรถที่ใช้แอร์ธรรมชาติ พร้อมกลิ่นแขกมาดามหอมชื่นใจอีก ด้วย  พวกเราก็รอกันเหงือกแห้งแล้วแห้งอีก รถก็ยังล้อไม่หมุนเสียที จากนั้นก็ได้ยินเสียงลุงคนนึงพูดอะไรสักอย่าง ทำให้ทุกคนเปลี่ยนคันรถหมด พวกเราก็ตามพวกพี่ ๆ เขาไปบ้าง  และจากนั้นรถก็ค่อย ๆ ล้อหมุนอย่างเชื่องช้า และจอดรับคนแทบทุกที่ ถ้าจอดได้ สิริรวมเวลาจากสถานีที่เราขึ้นนั้น เกือบจะสองชั่วโมงเลยทีเดียว  เตือนทุกท่านที่อยากจะประหยัดเงินว่า จงเผื่อเวลาไว้เยอะ ๆ ด้วยเพราะไม่งั้นอาจจะเป็นแบบเราได้ เสียดายเวลามว๊ากกกกก นี่คนเก็บเงิน จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:50:53

ความคิดเห็นที่ 12 และนี่คือตั๋ว 27 รูปีต่อคน จาก สถานีอิดกาห์ ถึง ฟาเตห์ปูสิคริ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:52:26

ความคิดเห็นที่ 13 แต่บรรยากาศข้างทางที่เราผ่านมานั้น เป็นสิ่งที่หาคำเปรียบไม่ได้  ความสนุกของการเดินทางมันอยุ่ตรงนี้ล่ะ เมื่อถึงป้ายสุดท้าย พวกเราก็ลงจากรถและบังเอิญซะจริง ที่จู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเดินมาบอกว่า ขึ้นฟาตห์ทางนี้ พวกเราก็เดินตามไป ด้วยความที่คิดว่าที่นี่คงไม่เหมือนกับที่นิวเดลีหรอก (แต่คิดผิด) เมื่อเราเดินไปทักพัก ก็มาถึงซอยแคบ ๆ ที่มีหินกรวด และเปลี่ยว ๆ จนทำให้เราสับสนว่า แน่ใจ ฤว่า นี่คือทางที่จะไปฟาเต และแล้วด้วยสัญชาตญานของอิชั้นมันบอกว่าเรากำลังถูกหลอกอย่างแน่นอน ก็วิ่งกลับแบบไม่คิดชีวิต จนกระทั่งเดินมาเจอทางขึ้นฟาเตห์ จริง ๆ  ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน หากท่านอยากจะลองลิ้มชิมรสการเดินทางแบบข้าพเจ้าล่ะก็ เมื่อลงรถแล้ว เดินเข้าตลาด ไปทางหอนาฬิกา  แล้วพยายามมองทางขวาเอาไว้ จะมีทางขึ้นฟาเตห์ เป้นทางกว้าง  ๆ  เป็นทางอย่างดี จะต้องไม่ใช่ตรอกเล็ก ๆ ขรุขระอย่างแน่นอน พวกเราก็คิดกันไปว่า หากเราเดินตามไปเรื่อย ๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของเราหนอ หรือนายคนนี้อาจจะเป็นปลิงที่เกาะไม่ปล่อยอยู่ตลอด เอวัง .... เมื่อพวกเราเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ  ภาพนี้ก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 23:58:48 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:57:49

ความคิดเห็นที่ 14 ท่านจะเห็นได้ว่าบันไดนั้นหลายขั้นเหลือเกิน กว่าจะเกิดได้เหนื่อยแทบตาย  เมื่อมาถึงข้างบนก็มีคนมารุมพวกเราเยี่ยง ซุป’ตาอีกแล้ว ไม่ว่าจะขอถ่ายรูป ขายของ ขอเงิน  โอ้วนี่หรือ เมืองแขก มันเป็นเช่นนี้นี่เอง ชีวิต จากนั้นพวกเราก็เริ่มจะปลงชีวิตด้วยการใช้ อหิงสา เป็นการดีที่สุดในการดำเนินชีวิตนักท่องเที่ยวอินเดียคือ อหิงสา จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:01:59

ความคิดเห็นที่ 15 และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการมาเที่ยวที่นี่คือ ถุงใส่รองเท้า ที่ต้องเตรียมแทบทุกสถานที่ เพราะว่าในอินเดีย ก็คล้าย ๆ พม่า นั่นคือ ท่านผู้มีอุปการคุณต้องเดินเท้าเปล่าในการชมโบราณสถาน  พวกเราจึงเอารองเท้าใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมมา พร้อมเข้าไปเยี่ยมชมบรรยากาศด้านใน จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:03:31

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อถึงด้านใน ยกแรก จะมี มัคคุเทศก์ (เถื่อน) เดินมาให้ความช่วยเหลือพวกท่าน  ขอพวกท่านจงพูดว่า  ‘No English’  แล้ว ท่านจะรอดปลอดภัย  เพราะอิชั้นใช้วิธี หูหนวก เป็นใบ้ ผู้อังกฤษไม่เป็นมาแล้ว ขจัดความรำคาญได้หนึ่งยก  ส่วนเด็กขอเงิน อิชั้นก็ขอเงินกลับ ผลคือ พวกเราเดินกันอย่าง มีความสุข ได้แป๊ปนึง  แล้วก็มีคนมาขายของอีก สิ่งที่เรา ๆ ท่าน ๆ ทำได้คือ คิดว่าพวกนี้มันเป็นอากาศธาตุไปซะก็หมดเรื่อง  แต่หากท่านเป็นคนไทยแล้วล่ะก็ ท่าทางจะหลีกเลี่ยงการถูกขอถ่ายภาพร่วมยาก เพราะอิชั้นและคณะ ถูกขอถ่ายรูปจนเกือบไม่ได้เที่ยวกันมาแล้ว  ก็ถ่ายพอเป็นพิธีพอ ไม่งั้นอาจจะต้องถ่ายรูปร่วมกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวแขกเป็นแน่แท้ ภาพบรรยากาศโดยรอบ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:04:47

ความคิดเห็นที่ 17 จากนั้นพวกเราก็ถ่ายรูปกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ได้คิดอะไร ถึงแม้จะพยายามมีคนมารุมล้อมพวกเราก็บางก็ตามที แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้สนใจจนกระทั่ง เมื่อพวกเราไปเยือนในสถานที่แห่งนี้  นั่นคือ สุสานของนักบวช  Salim Chisti ซึ่งเป็นคนที่ให้พร พระเจ้าอัคบาร์มหาราช จนมีบุตรขึ้นมาลืมตาดูโลก คนส่วนใหญ่ที่นี่ก็มาอธิษฐานขอพรให้ได้ลูกชายกัน จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:06:32

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อพวกเราเข้าไปข้างในก็ เข้าเมืองตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม เอาผ้ามาโพกหัวตามแต่จะมี แล้วก็เข้าไป แต่จนแล้วก็จนรอดก็ถูก พวกพี่แขกพยายามหลอกอีกจนได้ ภายในสามารถเดินได้รอบ  โดยมึหลุมศพเป็นห้องตรงกลาง ขณะที่พวกเรากำลังจะเดินวนขวานั่นเอง ก็มีชายคนหนึ่งมาบอกว่า เดินไม่ได้ ชายเท่านั้นที่จะเดินวนขวา ในตอนนั้นอิชั้นก็เชื่อตามพี่แก แล้วก็เดินตามพี่แกไป สักพักก็เริ่มเอะใจ มันแปลก ๆ เห็นผู้หญิงเค้าก็เดินกัน อีตานี่มาหลอกอีกล่ะ และพูดกันเหมือนกันว่าเตรียมกันมาว่า ผมไม่ใช่มัคคุเทศน์ ผมมาเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จากนั้นพี่แขกคนนี้ก็พยายามเข้ามาช่วยเหลือ ชี้จุดถ่ายรูป  ด้วยความที่อิชั้นเบื่อพวกนี้ จึงพยายาม ปรึกษากับพรรคพวกหลบหนีโดยเร็วที่สุด  นั่นคือวิ่งออกมาข้างนอกแบบไม่คิดชีวิต นั่นเอง เออมันก็สนุกดีนะ ขำๆ  ไปอีกแบบ   แต่จนแล้วจนรอดพวกเราก็ไม่รอด มีคนเข้ามาขายของอีกแล้วครับท่าน  เราจึงพยายามหนี หนีไปอีกประตู ซึ่งเป็นประตูทางด้าน ขวามือ( หันหน้าเข้าสุสาน)  เพื่อที่จะไปยัง ฟาเตห์ส่วนที่ต้องจ่ายเงินค่าเข้านั่นเอง  ตอนนั้นแทบจะประสาทเสียที่มีแต่คนเดินตามเป็นพรวน ๆ พร้อมกับข้าวของเครื่องประดับและโปสการ์ดที่ไม่ต้องการ มันน่าเบื่อจริง ๆ นะพี่น้อง รูปนี้เป็นโฉมหน้าของประตูที่เรากำลังจะออกไปอีกฝั่ง โดยเบื้องหลังเป็นอิชั้นและผ้องเพื่อนกำลังถูกรุมขอเงิน แบบซุป’ตา  กว่าจะได้แต่ละภาพมานี่ยากเย็น แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 00:08:35 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:08:09

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อออกมาจาก ส่วนของมัสยิดแล้วท่านจะพบกับ ถนนที่จะลาดไปถึงอีกฝั่งของ ฟาเตห์ปูสิคริ  ท่านผู้มีอุปการะคุณ อาจจะกำลังสงสัยว่าเหตุไฉนจึงมี บุรุษเสื้อขาวกำลังเข็นรถเข็มเยี่ยงนี้อยู่   อันนี้มีไว้บริการนักท่องเที่ยวที่เป็น สว (สูงวัย) โดยที่คนเข็นอายุก็ไม่ได้ต่างกันเลย  และหากท่านจะนั่งบ้างล่ะก็อิชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าราคานั้นประมาณเท่าไหร่ เพราะพอลุงแกมาถามแม่อิชั้น ซึ่งแม่อิชั้นพิโรธ แบบปักษาพิโรธมาก เพราะแม่ยังไม่แก่ (ฮา) จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:10:20

ความคิดเห็นที่ 20 อิชั้นจึงบอกลุงว่า ลุง ๆ นั่งนะ เดี๋ยวหนูเข็นเอง จนกระทั่งลุงเอามือไล่อิชั้นด้วยความรำคาญ  และในขณะที่อิชั้นเดินไปนั้นก็ยังมีเหล่ามิตรรักแฟนเพลงทุกท่านพยายามตามมาชื่นชมอยุ่เนื่อง  จนอิชั้นแทบประสาทเสีย โอ้ว....อยู่เมืองไทยไม่เคยมีคนสนใจมาเมืองแขกแตกตื่นทั้งเมือง สำหรับค่าเข้าชมนั้น คือ หากคุณเป็นคนไทยถือหนังสือเดินทางไทยล่ะก็ เสียค่าเข้าชมเท่ากับ คนอินเดียไม่ต้องไปถามนะว่า คนไทยเสียเท่าไหร่ อะไรยังไง คนไทยเสียเท่าอินเดียเลยเพคะ คือ 20 รูปี  รวมภาษี ไม่ขาดไม่เกิน แต่หากวันที่ท่าน ๆ ไปนั้นราคาปรับก็ดุตามที่ปรับกับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเท่านั้น อย่าลืมว่าเรามีสนธิสัญญาความร่วมมืออ่าวเบงกอล จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:13:33

ความคิดเห็นที่ 21 ระหว่างที่กำลังจะไปซื้อนั้นเองก็มีเด็ก ๆ มาขอซื้อตั๋วต่อเมื่อออกมาแล้ว ชิชะ เด็กเอ๋ย เด็กน้อย หารู้ไม่ว่าพวกเราน่ะ ใช้ตั๋วสำหรับคนอินเดียย่ะ กรั๊ก ๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:16:47

ความคิดเห็นที่ 22 และเหมือนเดิม พอมาถึงฝั่งนี้ก็มีคุณพี่ไกด์เข้ามาตามเราเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่ได้ขอ จุดสุดท้ายอิชั้นก็ต้องแกล้ง เป็นใบ้หูหนวก ตาบอด งอยแดร๊ก ...เอ๊ย แกล้งทำเป็นไม่รู้ภาษาอังกฤษเจ้าค่ะ พี่แกก็มอง ๆ แล้วส่ายหัวก่อนเดินจากไปอย่างเสียอารมณ์ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:19:26

ความคิดเห็นที่ 23 เอาล่ะมาเจอกับอันนี้ดีกว่า หลายคนอ่าน ดิวาอิกัส  อิชั้นเห็นมีเด็กนักเรียนเหมือนมาทัศนศึกษายืนอยู่เลยถามว่า อ่านยังไงจ๊ะหนู   น้องบอกว่า “ดิวาอิคาส” ค แบบมีเสียง เคอะ r แบบฝรั่งเศสในคอด้วยอ่า  พอบอกเสร็จน้องก็รีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว  อันนี้เด่นยังไง ถึงได้ต้องเอามาบรรตา เอ๊ย ยาย อันนี้ เป็นท้องพระโรง ที่มันผสมสถาปัตยกรรมหลากหลาย เอามายำ ๆ รวมกันจนเป็นเอกลักษณ์ ความวิจิตรบรรจงขนาดนี้ โอ้ว....ซาร่า มันจอร์ดมาก จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:26:14

ความคิดเห็นที่ 24 จขกท รีวิวสนุกมากมากๆค่ะ ติดตามอย่างไม่ลดละ จากคุณ : flymom เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:26:41

ความคิดเห็นที่ 25 เสานี่มันพิเศษอย่างไร อิชั้นก็ไม่ทราบได้ แต่เขาบอกว่า นั่นน่ะ คือ นาค พญานาค เทือก ๆ นี้ที่ซ้อน ๆ กัน เพื่อรับน้ำหนัก  ตัวเสานี่มีลาย ๆ ดอกบัว จากศาสนาฮินดู และมีลายแฉกไปแฉกมาแบบอิสลามอีกด้วย  เป็นการผสมความเชื่อจนเป็นเอกลักษณ์ อัตตลักษณ์ สบู่ลัก เอ๊ย ไม่ใช่ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:29:09

ความคิดเห็นที่ 26 flymon นอนดึกจังนะ อิอิ ต่อ ๆ อันนี้ในห้องเก็บสมบัติ  ท่านอาจจะสงสัยว่า รู ๆ นี่มีไว้ทำอะไร  อาจจะไม่ใช่แค่ที่นี่ อาจจะเห็นในสถานที่อื่นในอินเดียด้วย คือว่าเมื่อตอนอินเดียเป็นอณานิคมของพี่บริเตนใหญ่ หรืออังกฤษเนี่ยนะ พี่แกก็กลัวเพชรนิลจินดาของอินเดียจะถูกขโมย จะเปื้อน จะเก่า พี่แกเลย เลาะเอาไปเก็บไว้ให้หมดเลย  เพื่อความสุขของปวงประชาชี  ส่วนคนอินเดียก็ยิ้มแหย ๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:36:11

ความคิดเห็นที่ 27 ตึกอันนี่ คือ พันช์มาฮาล รูปร่างประหลาดพิลึกกึกกือยิ่งนัก มีเสาทั้งหมด 84 ต้น มีคนเขาบอกว่า 84 เป็นเลขมงคลในอินเดีย เหอะๆ เอาล่ะพี่น้อง งวดนี้เฮง ๆ ๆเอ๊ย ไม่ใช่  จริงๆ มันมีฉากกั้นนะ แต่ฉากมันผุน่ะ ตามกาลเวลา  เป็นพระตำไม่เบา (ตำหนัก) ฮามั้ย เอิ้ก ๆ ให้ พระชายา พระสนมอาศัยน่ะ โห....ใหญ่นะ สนม กับ ชายา รวมแล้วนี่ น่าจะเยอะพอดู จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:42:36

ความคิดเห็นที่ 28 พวกเราก็เดินเป๋ไปเป๋มา ไปเรื่อย จนถึงสวนแห่งนี้ แต่มิว่ามีเด็กมาขอเงินอีก - -“ น่าเบื่อจริงพับเผื่อย ตรูจะมานอนเล่นนั่งเล่น ก็ต้องจรลีหนีหายไป พอจะกลับเข้าข้างในยามก็ขอดูตั๋วอีก เจริญพรจริง ๆ  เป็นต่างชาติมาเที่ยวอินเดียนี่เครียดไม่ใช่น้อย ๆ นะเนี่ย จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:45:47

ความคิดเห็นที่ 29 พอเดินเข้ามาอีกครั้งก็มีไกด์อีกรายมาพยายามจะตะครุบเหยื่ออีกแล้ว ...อิชั้นก็ตอบไปแบบเหนื่อย ๆ ตับ ไต ไส้พุงว่า พอแล้วลูกเอ๋ย....พวกเราเหนื่อยมาก เดินดูครบจะกลับแล้ว ..... พี่แกก็หัวต้องซ่อม(เสีย) กลับไปอีกราย จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:48:01

ความคิดเห็นที่ 30 พอเห็นแล้วว่าเริ่มเย็นล่ะ พวกเราก็รีบกลับจริง ๆ นัดกับคนขับออโต้ริกชอว์ไว้นะเนี่ย แต่ว่าคงไม่ทันล่ะเพราะมองนาฬิกาก็ห้าโมงกว่า ๆ แล้ว เมื่อพวกเราลงจากฟาเตห์ บรรดามิตรรักสหายแฟนเพลงก็เข้ามามารุมมาตุ้มรุมรักอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเด็ก แก่ บลา ๆ - -“ โอ๊ย น่ารำคาญอะไรแบบนี้หนอย พวกเราก็คุยบ้าง เล่นบ้างตามประสา หลุดออกมาถึงพื้นพสุธา ข้างล่างและจะไปขึ้นรถเมล์ ขออภัยที่ต่อจากนี้ไม่มีภาพประกอบเพราะคิดไม่ทันจริง ๆ ที่ตอนนั้นมีคนประมาณหนึ่งล้านแปดแสนคนกำลังรอคนเมล์คันเดียวกัน สภาพปลากระป๋องมารอตรงหน้าแล้ว พวกเราเลยแวะซื้อองุ่น ส้มกินพลาง จนกระทั่ง รถเมล์มา และจากนั้น ก็มีเหมือนกับผู้อพยพกำลังพยายามขึ้นรถเมล์ไม่ว่าจะเป็นทางหน้าต่างหรือประตู เป็นภาพที่ทำให้อิชั้นตะลึงมาก สะพรึงอะไรเยี่ยงนี้ พวกเราจึงไปถามรถออโต้ริกชอว์ แถวนั้นว่าจะไปทัชมาฮาลเนี่ยเท่าไหร่ แต่ละคนส่ายหน้าบอกให้ขึ้นรถเมล์ มันคงจะคิดนะ จะบ้าเหรอ สี่สิบกว่ากิโลฯ จะให้ไปยังไง พวกเราก็เออเอาวะ ไปก็ไปดีกว่าที่จะต้องมารอจนมืดค่ำที่นี่  คิดดูเอาเองว่า ประมาณครึ่งชม.แล้วเขายังขึ้นรถเมล์ ไม่เสร็จกันเลยทีเดียว พวกเราสี่คนเลยต้องไปเป็นปลาซาดีนในเครื่องเทศกะเขาบ้าง  เมื่อรถเริ่มออก ท้องฟ้าเริ่มมืด มืด มืด เอ๋...ทำไมไม่เปิดไฟในรถเมล์ มองไปมองมาเพดานไม่มีหลอดไฟ - -“ ตามที่เรา ๆ ท่าน ๆ คิดกันนั่นแหละพ่ะย่ะค่ะ คือรถคันนี้มุ่งหน้าสู่อักราด้วยความมืดมิด โชคยังดีที่อิชั้นได้นั่ง ทุกคนจึงเอากระเป๋ามาฝากกับอิชั้น  และเมื่อจ่ายเงินค่าตั๋ว อีตาคนเก็บตั๋วไม่คืนเงินทอน สามรูปีอีกนี่สิ เซ็งเป็ด ไก่ มาก แต่ยังดีกว่าฝรั่ง ที่พี่แกเล่นเอาเงินไปเลยสี่สิบรูปี เออให้มันได้อย่างนี้สิจอร์ด เอ๋ย ประมาณทุ่มเศษๆ พวกเราก็ถึงสถานีรถอิดกาห์ อีกครั้งหนึ่งอย่างอ่อนล้า และหิวโซ ...... โอ้.... จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:57:37

ความคิดเห็นที่ 31 หลังจากนั้น สิ่งที่พวกเราต้องทำคือซื้อตั๋วรถบัสไปที่ จัยปูร์ ที่โรงแรมซากุระ เดินออกไปทางซ้าย หันหลังให้สถานี ท่านจะพบกับความมืดมิดที่มีแสงไฟริบหรี่ แต่เดี๋ยวก่อน เราต้องไปดู คนขับออโต้ริกชอว์ที่นัดไว้ ตอนนี้จะสองทุ่มแล้วจะอยู่เหรอ ..สรุปไม่อยู่ เหอๆ ใครจะรอ(วะ) สุดท้ายพวกเราก็เดินไปที่โรงแรมซากุระ แม้ ๆชิชะ ชื่อญี่ปุ่นมาอยู่เมืองแขก แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 12:41:59 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 01:02:05

ความคิดเห็นที่ 32 จริงๆ  แล้วตารางนี้มาถ่ายอีกวันนะ ราคาต่อคน ของรถ Volvo ปรับอากาศ ตอน 14: 30 น.  คือ 418 Rs. ซึ่งแพงที่สุด แต่ด้วยเวลาที่โอเค และสภาพรถที่โอเคกว่า เราจึงตัดสินใจไปอันนี้ เราก็พูดกับคนขายตั๋วที่นั่งอยู่ด้านใน พี่แกก็เหมือนฟังไม่ออกเลย และแล้วก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ตอนแรกอิชั้นก็นึกว่าเป็นพนักงานของที่นี่ มาอำนวยความสะดวก เรื่องเวลา การเดินทาง อธิบายค่าตั๋ว บลา ๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 01:07:15

ความคิดเห็นที่ 33 สุดท้าย สิ่งที่ตามมาคือ โรงแรมคุณอยู่ไหน ผมจะไปส่ง - -“ กำ นี่มันคนขับออโต้ริกชอว์นี่หว่า อุเหม่  พอปรึกษากันแล้วทุกคนบอกว่าจ้างคนนี้แหละจะได้ไม่ต้องไปหาใหม่ โอเค เมื่อเราจ้าง เขาบอกว่า 120 Rs. อิชั้นกำมือถือไว้ในมือ และบอกว่า เราจะโทรให้คนอื่นมารับซึ่งคนนั้นให้ 100 รูปีเอง  และแล้ว 100 รูปีก็เป็นอันตกลง ต้องไปส่งถึงเขตกั้นตรง east gate นะ ก็กลัวเป็นแบบแท๊กซี่เมื่อเช้า เดินแทบตาย เวง แต่ ต่อ100 ก็ได้เลย เออง่ายจริง ๆ แสดงว่าค่ารถไม่ถึงหรอก  ว่าจะไม่โดนนะ แต่ก็โดน เหอะๆ เอาน่าสี่คน คนละ ยี่สิบห้ารูปี คิดในทางที่ดีไว้  จากนั้นพอขับไปสักพัก เริ่มแสดงอาการ เช่น ไปกินข้าวมั้ย มีภัตรคารแถวนี้อร่อย ๆ นะ อิชั้นก็บอก ไม่เอารีบไปโรงแรมเดี๋ยวนี้ ถ้าทำให้อิชั้นโมโหอิชั้นจะแยกเขี้ยวใส่ แง่ง ๆ   จากนั้นพอพวกเรามาถึงตรง east gate ร้านรวงก็ปิดแล้ว  บรรยากาศน่ากลัวมาก ๆ คือเอาเป็นว่า พวกเราตัดสินใจกินองุ่น กับส้มที่ซื้อมาในห้องแล้วนอนเลยนั่นแหละ มาดูหน้าตาของตั๋วกันดีกว่า จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 01:14:20

ความคิดเห็นที่ 34 สี่คนใบเดียว ประหยัดดี ก่อนนอนอิชั้นก็จะอาบน้ำ และแล้วน้ำอุ่นก็ไม่มี T-T คืนละ 800 Rs. นะเนี่ย ทำไมทำกับข้อยแบบนี้ ตอนแรกจอง 600 Rs ไป จู่ๆ มาบอกว่าหมด - -" ให้ได้งี้สิจอร์ด บอกเหลือแต่ห้องละ 800 Rs. เออ ถือว่า โดนมั่งก็ได้ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 01:17:54

ความคิดเห็นที่ 35 คือ ถ้าเป็นไปได้ อิชั้นคิดว่าอาจจะไม่กลับมาพักที่นี่อีกเป็นอันขาด ขอลาแล้ว ลาขาด ว่าจะให้ดูรูปห้องนะ ก็ใช้ได้อยู่แต่ว่าไม่รู้ไปไหนเลยอดฮาๆๆๆ ด้วย ภาคสองขอจบเพียงเท่านี้ อิชั้นก็ง่วงเหงาหาวนอนด้วยเป็นุทน ก็ขอม้า เอ๊ย ล่อ เอ๊ย ลา ไปด้วย รูปก๊อกน้ำของโรงแรม ชีลา What's my name? What's my name? My name is Sheela ...Sheela gi jawani I'm just sexy for you medehantanaani.... คือ เพลงนี้พี่คนขับออโต้ริกชอว์ แกร้องตอนขับรถไปด้วยน่ะ ชื่อในเพลงก็ชีลา โรงแรมก็ ชีลา เลยเอามาขับกล่อมให้ท่าน ๆ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ พบกันใหม่ใน ภาค 3 ตะลุย ทัชมาฮาล  สุสานอัคบาร  ป้อมอักรา และจัยปูร์ตอนเย็น ๆ   สวัสดีเด้อค่าเด้อ... จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 01:23:03

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณค่าาาา... อ่านไปก็เริ่มเหนื่อยใจ  ต๊อแต้...ว่าตัวเองจะเก่งกล้าสามารถไปลุยอินเดียคนเดียวได้หรือเปล่า... อิอิอิ    รู้สึกว่าพม่าจะง่ายกว่ากันเยอะเลยจ้าาา... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 02:58:14

ความคิดเห็นที่ 37 ขอตามไปอินเดียอีกกระทู้ด้วยคนจ้าาาา ชอบอ่านรีวิวคุณกุหลาบคิมหันต์มากๆๆๆ ค่ะ สนุกดี หัวเราะเอิ้กอ้ากกก ถ้ารีวิวอีกเคาะหลังบ้านด้วยนะคะ ไม่อยากพลาดการติดต่อจ้าาา อิอิ จากคุณ : MoMMaMjAnG เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:52:47

ความคิดเห็นที่ 38 ตามไปเที่ยวครับบบ......................... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:13:31

ความคิดเห็นที่ 39 น่าไปเที่ยวจัง  ขอบคุณครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:14:00

ความคิดเห็นที่ 40 คุณกุหลาบฯ รีวิวหนุกม๊ากกก ค่ะ ชอบๆ ^.^ กำลังจะไปแคชเมียร์สงกรานต์นี้ ไปกับทัวร์ค่ะ ยังไม่มีภูมิคุ้มกันพอจะแบคแพคได้ กลัวแขกนิดหน่อย ขอไกด์ไทยพอเป็นกันชนนิดดด ขอติดตามเกาะล้อรีวิวนี้ ไปด้วยนะคะ จากคุณ : jily เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 16:23:49

ความคิดเห็นที่ 41 CR:::::::สามเหลี่ยมทางคำสุดคลาสิก::::: นิวเดลี >>> อักรา >>> จัยปูร์ PART III ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ E11944925 จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 00:10:41

ความคิดเห็นที่ 42 คุณป้าฟู  หนูว่ามีคนไปเป็นเพื่อนดีกว่าค่ะ หลาย ๆ อย่างค่อนข้างน่ากลัว คุณ MoMMaMjAnG รับทราบค่ะ เดี๋ยวจะไปเคาะก๊อกๆ คุณสายลมแห่งวิงค์ ตามมาเลยค่า คุณเล็กทาโร่ ยินดีพาเที่ยวค่ะ คุณ jily  ขอให้สนุกนะคะ  คุณกุหลาบคิมหันต์ อุ้ย ตัวเราเองนี่ คริกๆๆๆ จากคุณ : กุหลาบคิมหันต์ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 13:13:22