ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มการท่องเที่ยวโดยเที่ยวบิน TG 317 กรุงเทพฯ – มุมไบ ออกจากสุวรรณภูมิประมาณหกโมงเย็นกว่าๆ ถึงมุมไบเวลาสามทุ่มครึ่ง (เวลาที่อินเดียช้ากว่าไทยชั่วโมงครึ่งนะคะ) เราพักที่โรงแรมใกล้ๆสนามบิน ชื่อ Hotel Highway Residency แม่จองไว้ก่อนจากทางเน็ตเพราะขี้เกียจไปตามหาโรงแรมตอนมืดๆ ออกมาจากเครื่องบิน เดินตามหาป้ายชื่อตัวเองกันอยู่นานมากกก ทำไมหาไม่เจอซักที แม่ลองโทรหา สรุปโรงแรมบอกรถกำลังออกมา เอิ่มมม... หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก ชายหนุ่มตัวโตโผล่ออกมาพร้อมป้ายชื่อ อยากจะเหวี่ยงมาก พอดีอีกฝ่ายขนตายาวเลยใจอ่อนยอมนั่งรถไปโรงแรมแบบเงียบๆ โรงแรมนี้ทุกคนน่ารักดีค่ะ ช่วยจองรถ เรียกแท็กซี่ให้ในราคาค่อนข้างปกติเลย สรุปว่าใครไม่เป็นเก๊าหรือไขข้อเสื่อม ทนรอรถไปรับที่สนามบินได้ก็น่าไปพักค่ะ ฮ่าๆ ปล. เป็นโรงแรมที่เตียงเสริมสบายที่สุดเท่าที่เคยพบมาในชีวิตทีเดียว แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 55 02:43:50 จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:07:20

ความคิดเห็นที่ 2 ลิฟต์โรงแรมเป็นลิฟต์เปลือย! กรี๊ดมาก นวัตกรรมนี้เกิดขึ้นพร้อมการรุกรานของชาติตะวันตกหรือไม่? ปุ่มกดหายไปแล้ว คุณพนักงานใช้นิ้วแหย่เข้าไปในรูที่เคยเป็นปุ่มอย่างกระแทกกระทั้น โผล่หัวเข้าไปแหงนมองในช่องลิฟต์ ซักพักตัวลิฟต์จึงเคลื่อนลงมา ช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าระทึกใจยิ่ง จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:09:40

ความคิดเห็นที่ 3 ตื่นเช้าเจรจากับโรงแรมให้จองรถบัสไปออรังกาบัด คุณผู้จัดการถามว่าอยากได้แบบนั่งหรือนอน ราคาต่างกันสองสามร้อยรูปีได้ เราตัดสินใจจองรถนอนเพราะวันรุ่งขึ้นพอไปถึงออรังกาบัดวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวถ้ำเอลโลร่า เผื่อระหว่างทางไปเที่ยวถ้ำเจอหนุ่มๆตาจะได้ไม่โหล อิอิ จองตั๋วรถเสร็จก็เรียกแท็กซี่จากโรงแรมไป Gateway อย่างร่าเริง แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 55 02:44:40 จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:13:24

ความคิดเห็นที่ 4 Gateway  of India หรือประตูชัยแห่งอินเดีย สร้างเมื่อปีค.ศ. 1911 เพื่อเป็นที่ระลึกของการมาถึงอินเดียของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และพระราชินีแมรี่ สร้างด้วยหินบะซอลต์สีเหลือง ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษชื่อจอร์จ วิตเต็ท ในสไตล์ผสมผสานระหว่างคุชราติและอินโด-ซาราเซนิค เอ่อ...-“- อย่างงค่ะ เขาบอกเป็นศิลปะของศาสนาฮินดูและมุสลิมผสมกัน แหม จะพูดให้ยากทำไม จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:17:19

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่พูดพร่ำทำเพลงหรือต่อรองราคากับช่างถ่ายรูปที่มากเหลื๊อะเกิน รีบลงเรือไปเยี่ยมชมถ้ำเอเลฟันตะกันดีกว่า จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:20:33

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ำเอเลฟันตะ (Elephanta Caves) ตั้งอยู่บนเกาะซึ่งอยู่ห่างจาก Gateway ไป 10 กิโลเมตร รอบที่แล้วเคยไปมาแล้วค่ะ ชิลๆ แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าประเมินทะเลอาหรับยามมรสุมต่ำเกินไป! ไปรอบที่แล้วเมฆน้อยลมสงบ ไปรอบนี้แม่หันมาถามหน้านิ่งๆว่า “วันนี้เรือเล็กเขางดออกจากฝั่งรึเปล่า?” คลื่นลูกยักษ์มาก กว่าจะถึงพวกปรากฏการณ์ “แขกวิ่งไปอ้วก” เป็นระยะๆ เกือบประคองอาหารเช้าในท้องไม่อยู่เหมือนกัน หนึ่งชั่วโมงครึ่งแห่งการโยนตัวบนผืนทะเลผ่านไป ถึงแล้วค่า... จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:22:46

ความคิดเห็นที่ 7 เอ่อ ขึ้นรถรางไปก็ถึงแล้วค่า... จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:25:24

ความคิดเห็นที่ 8 เอ่อ ขึ้นบันไดก็ถึงแล้วค่า... ระหว่างทางแวะดื่มโค้กไม่เย็น คนอินเดียเขากินโค้กแบบเกือบอุ่นกันค่าอย่าได้ถามหาน้ำแข็ง (แหะๆ ขอสารภาพว่าเราเป็นคนเว่อร์อะค่ะ เล่าไรต้องหารนิดนะ จริงๆไม่ถึงกับไม่เย็นนะคะ แต่มันเย็นน้อยมากกก) จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:27:09

ความคิดเห็นที่ 9 คราวนี้ถึงจริงๆแล้วค่า! เอเลฟันตะเคฟ เคฟ เคฟ... (เสียงเมื่อวิ่งเข้าไปตะโกนอย่างบ้าคลั่งในถ้ำ) จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:29:22

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้ำเอเลฟันตะ สร้างเมื่อราว 1,500 ปีก่อน โดยกษัตริย์ราชวงศ์ไตรกูฏกะ ซึ่งปกครองดินแดนนที่ราบสูงเดคข่าน เพื่อเป็นเทวสถาน (ศาสนาฮินดูนะคะ) และเพื่อฉลองที่รบชนะ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:31:46

ความคิดเห็นที่ 11 จากความรู้ที่ได้รับและยังหลงเหลืออยู่บ้างจากการเรียน ศิลปะในถ้ำเอเลฟันตะถือเป็นศิลปะยุคเสื่อมแล้วค่ะ ฝีมือช่างไม่ดีเท่าเดิมแล้ว สังเกตจากรูปสลักเทพเจ้าจะทรงย้วยๆกันไปหมด อ่อนช้อยไป เยอะไป ไรงี้ ถ้ายังไม่เข้าใจตอนนี้ พอไปดูรูปสลักที่เอลโลร่าและอชันตาจะเข้าใจมากขึ้นค่ะ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:34:02

ความคิดเห็นที่ 12 รูปนี้ศิวนาฏราชค่ะ พระศิวะกำลังเต้นนั่นเอง จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:36:50

ความคิดเห็นที่ 13 ประติมากรรมที่โด่งดังที่สุดของที่นี่คือรูปสลักพระตรีมูรติสูง 20 ฟุต สวยจนพ่ออดใจไม่ไหว ขอถ่ายรูปด้วยหนึ่งทีเป็นที่ระลึก จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:40:47

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนนี่รูปสลักชุมนุมเทพ มีพระพิฆเนศเป็นประธานพิธี จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:47:18

ความคิดเห็นที่ 15 อ๊ะ! โปรเสเซอร์ ! บีแวร์! มังกี้ อิส วอชชิ่ง ยู! มังกี้ เลิฟ เป๊ปซี่ (ประโยคนี้คุณยามบอกมา) จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:49:18

ความคิดเห็นที่ 16 หันไปดูอีกที น้องจ๋อได้เป๊ปซี่ไปดื่มแก้กระหายคลายร้อนแล้ว ใครถือขวดน้ำหวานเดินชมถ้ำระวังนะคะ ลิงที่นี่ชอบดื่มน้ำอัดลมกันทุกตัว คอนเฟิร์ม เพราะแม่เราก็โดนแย่งเซเว่นอัพรสมะนาวไป ฮ่าๆ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:52:02

ความคิดเห็นที่ 17 ขอถ่ายรูปสาวๆอินเดียสุดสวยกลุ่มนี้มา พอกลับมาเปิดรูปดูในคอมจึงพบว่ามีคนสวยกว่ายืนยิ้มอยู่ด้านหลัง! หรือนี่อาจเป็นพลังงานหรือวิญญาณบางอย่าง... ก็เป็นได้... (ถ้ามาอ่านเจอขอโทษด้วยนะแม่ ลูกเล่นมุขเฉ๊ยเฉย) จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:54:16

ความคิดเห็นที่ 18 มาเที่ยวครั้งนี้แม่กู้เงินแสนมาเป็นค่าอาหาร เราจึงเริ่มปฏิบัติการ “กินเต็มที่ ตอนขรี้ค่อยว่ากัน” ทันที เริ่มด้วยอะไรบางอย่างที่ขายข้างทางระหว่างเดินไปถ้ำ อะไรบางอย่างนี้มีลักษณะเป็นแป้งกรอบๆสารพัดชนิดและถั่วลิสงทอด แม่ใช้นิ้วชี้ยกขึ้นมาเพียงหนึ่งที คุณป้าบรรจงตักแป้งกรอบแบบต่างๆมา ใช้มือคลุก (อย่าตกใจค่าเรื่องปกติ) กับพริกให้เข้ากันอย่างรวดเร็วแล้วส่งให้ เราลองถามบรรดาชายหนุ่มที่กินอยู่ในร้านว่านี่เรียกอะไร อืม เรียกอะไรบางอย่างแหละค่ะ ชื่อยาวเหลื๊อะเกินจำไม่ได้ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:57:37

ความคิดเห็นที่ 19 ลักษณะเป็นแบบนี้ อร่อยดีค่ะ เผ็ดๆ เปรี้ยวๆ กรอบๆ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 02:58:31

ความคิดเห็นที่ 20 ที่อร่อยติดใจจนต้องกลับมากินอีกครั้งคือข้าวโพดปิ้งค่ะ ข้าวโพดปิ้งอินเดียนั้นใช่ว่าสักแต่ว่าปิ้งๆกันไปก็ขายได้ แม่เราใช้นิ้วชี้กายสิทธิ์ยกขึ้นมาเพียงนิ้วเดียว คุณแม่ค้าจะชี้ไปที่มะนาวที่จิ้มอยู่ในพริกเกลือค่ะ ถ้าคุณเป็นคนกล้าหาญขอให้พยักหน้าตอบไป แม่ค้าจะค่อยๆไล้มะนาวพริกเกลือลงบนข้าวโพดของคุณ ปิ๊ง! กลายเป็นข้าวโพดคลุกพริกเกลือมะนาว อันนี้อร่อยค่ะ แนะนำ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:00:10

ความคิดเห็นที่ 21 อร่อยจนวัวยังอยากกิน! จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:02:14

ความคิดเห็นที่ 22 กลับขึ้นฝั่งมาอย่างสวัสดิภาพ (ขากลับทะเลสงบค่ะ ค่อยยังชั่ว ตอนแรกกลัวของที่ชิมบนเกาะไหลย้อนแทบแย่) ยังพอมีเวลาเลยเดินเล่นหลงทางเบาๆท่ามกลางแดดยามบ่าย ในที่สุดหลงจริงจังต้องเรียกแท็กซี่! ไปดูสถานีรถไฟวิคตอเรียกันค่ะ ที่นี่สร้างเมื่อปี 1887 ได้รับรางวัลมรดกโลกด้วยนะ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:04:08

ความคิดเห็นที่ 23 ข้างในวุ่นวายยิ่งกว่าหัวลำโพง กระซิบแม่เบาๆว่า เขาว่ากันว่ารถไฟอินเดียปราบเซียน ดีนะเราขึ้นรถบัสกัน จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:06:01

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าใครมีเวลาแนะนำให้ไปชมพิพิธภัณฑ์ Prince of Wales นะคะ ตาจอร์จ วิตเทตสร้างไว้เหมือนกัน รอบที่แล้วเราไปมา ใครเป็นนักศึกษาเอาบัตรนักศึกษาไปด้วยล่ะเขาลดราคาให้ตั้งครึ่งแน่ะ แถมมีหูฟังบรรยายภาษาต่างๆให้เช่าด้วยนะคะ ซึ่งแน่นอนว่า... ไม่มีภาษาไทย รูปจากกุ๊กเล่ค่ะ ขี้เกียจหาแผ่นรูปเมื่อห้าปีที่แล้วอ่า ขออภัยด้วยจ้ะ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:09:46

ความคิดเห็นที่ 25 มุมไบได้ชื่อว่าเป็น “ลอนดอนแห่งอินเดีย” เชียวนะคะ เพราะในเมืองมีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคสวยๆเพียบ ถ้าแดดไม่เผาหน้าคงนึกว่าเดินอยู่กลางยุโรปทีเดียว ขนาดที่ทำการไปรษณีย์ยังสวยเวอร์ แต่ภาพนี้ถ่ายมาเพื่อถามว่า “ในรูปนี้มีนกกี่ตัวเอ่ย?” ไม่มีเฉลยนะคะ นับไม่ไหว จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:10:56

ความคิดเห็นที่ 26 เจอน้ำผลไม้... จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:12:03

ความคิดเห็นที่ 27 ตามสไตล์ต้องแวะดื่ม... (อันนี้น้ำมะม่วงค่ะ เจ้มจ้นมากขอบอก มะม่วงทั้งลูกดีๆนี่เอง) จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:12:52

ความคิดเห็นที่ 28 ดึกแล้ว เหลือแต่จขกทกับดิฉันสองคน ฮ่าๆๆๆๆ กดเข้าคัลงกระทู้ให้แล้วค่ะ ติดตามอยู่ โหลดรูปเรื่องเร็วๆเข้่า จากคุณ : flymom เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:13:40

ความคิดเห็นที่ 29 อาหารเย็นค่ะ จาปาตี(แผ่นแป้ง) กับแกง และสลัด! สลัดจริงๆค่ะ ตั้งแต่มุมไบยันแคชเมียร์ สั่งสลัดทีไรจะได้หอมหัวใหญ่ แตงกวา มะเขือเทศ และแครอท มีมะนาวฝานมาให้บีบแทนน้ำสลัดอย่างใจดี TT_TT จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:13:55

ความคิดเห็นที่ 30 ทานข้าวเย็นเสร็จกะเวลาสำหรับไปขึ้นรถบัสนอนไว้สองชั่วโมง ปรากฏว่ารถติดแถมคุณแท็กซี่ยังพาหลงทางอีก ใจหายใจคว่ำมากๆ พอมาถึงต้องยืนรออยู่ดีเพราะรถเลทไปประมาณชั่วโมงได้ อินเดียไม่มีบขส.นะคะ บัสสเตชั่นคือยืนกันอยู่ข้างถนนนั่นแหละ รถเมล์ก็จอดนี่ รถบัสก็จอดนี่ วิ่งขึ้นวิ่งลงเป็นที่สนุกสนานค่ะ ตอนแรกก็ลุ้นอยู่ว่ารถเมล์นอนจะมีหน้าตาเป็นยังไง พอรถมา (ประมาณสี่ทุ่มกว่า) เก็บกระเป๋าได้ เดินขึ้นไป อ๋อ... มันคือรถเมล์อัศวินราตรีใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ นั่นเอง สะอาด สะดวก สบายมาก ว่าแล้วก็ล้มตัวลงนอนทันทีค่ะ เจ็ดโมงเช้าเจอกันนะออรังกาบัด^^ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:15:54

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณค่าคุณ flymom ดีใจที่ยังมีคนปาดบ้าง แฮ่ๆ จบตอนแล้วนะคะ รอติดตามกระทู้หน้าเป็นเพื่อนกันด้วยน๊าาา... จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 03:17:34

ความคิดเห็นที่ 32 เล่าเรื่องได้สนุกสนานดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่แข็งแรงเก่งจังตะลุยได้ไม่หวั่นเลย จะรอตอนต่อไปนะคะ :D ป.ล. เรื่องพี่แขกไม่กินน้ำแข็งนี่เป็นอัตลักษณ์ประจำชาติเลยนะเนี่ย จากคุณ : shallowbong เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 04:38:11

ความคิดเห็นที่ 33 กดเข้าคลังกระทู้ให้แล้ว...เรื่องน่าติดตามจัง จากคุณ : Airfoil เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 06:31:04

ความคิดเห็นที่ 34 สนุกดีครับ รอตอนต่อไปอยู่นะครับ :-) จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 06:32:19

ความคิดเห็นที่ 35 น่ารักอ่ะ ไปพ่อแม่ลูก จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 07:08:26

ความคิดเห็นที่ 36 น่ารักมากๆ เลยค่ะ ไปกับครอบครัว ^^ 18 วันด้วยอะ เที่ยวทั่วเลย ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 07:27:50

ความคิดเห็นที่ 37 เขียนขำดี  คุณแม่ก็ช่างชิมนะคะ โชคดีที่ไม่ท้องเสีย  ปีหน้าจะพาแม่ไปอินเดียเหมือนกัน กลัวเรื่องอาหารมากๆ กลัวแม่ท้องเสีย  คนแก่เวลาท้องเสียแล้วแย่เลย จากคุณ : ตกตะกอน เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 07:30:32

ความคิดเห็นที่ 38 น่าสนุกนะคะ รอชมต่อ จากคุณ : Prettycan เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 08:22:58

ความคิดเห็นที่ 39 เที่ยวนานดีจังเลยครับ จะรอติดตามต่อตอนหน้านะครับ จากคุณ : Traveller Among Mountains เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 09:28:31

ความคิดเห็นที่ 40 สนุกจังค่ะ อยากไปนานๆ แบบนี้บ้างจัง แต่ไม่รู้จะสู้รบกับพี่แขกไหวป่าว อิอิ ตอนต่อไปมาแล้ว รบกวนแวะเคาะหลังบ้านด้วยนะค้า ขอบคุณค่า จากคุณ : MoMMaMjAnG เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 11:41:41

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เราเคยไปอินเดียมาแล้วหนหนึ่ง ตอนนั้นไปแค่มุมไบกับออรังกาบัด ดูถ้ำเสร็จกลับบ้าน ถ้ำน่ะชอบค่ะ แต่เกลียดบรรยากาศโดยรวมมาก อาหารไม่อร่อย พ่อค้าขี้ตื๊อ เจ้าเล่ห์ ร้อนก็ร้อน ขยะ กลิ่น โอ๊ย ไม่ชอบเลยให้ตาย แต่แม่ยื่นคำขาดว่าต้องพาพ่อไปถ้ำด้วยให้ได้ เราก็อิดออดๆตลอด ในที่สุดก็ต้องไปจนได้ค่ะ แต่ไหงครั้งนี้ไปแล้วติดใจซะงั้น อันนี้อยากให้รอชมกันไป^^ ปล. คุณแม่ผู้กล้าหาญกลับมาไทยกินยำปูเค็มไป ท้องเสียค่ะ โถ อุตส่าห์อึดมาตั้ง 18 วัน ว่าแล้วก็หาวิธีแตกกระทู้ก่อน ไม่ค่อยได้ตั้งค่ะ ปกติซุ่มอ่าน เหะๆ จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 13:49:26

ความคิดเห็นที่ 42 ติดตามตอนต่อไป การผจญภัยในออรังกาบัด บัด บัด... ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ E12341635 จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 13:58:07

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 14:33:58

ความคิดเห็นที่ 44 ตามมาเที่ยวด้วยครับ บรรยายได้น่ารักและน่าติดตามมาก ^_^ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 55 22:57:55

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : numsiam เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:20:42

ความคิดเห็นที่ 46 เล่าเรื่องสนุกมากครับ :D จากคุณ : {-tgc-} เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:52:51

ความคิดเห็นที่ 47 ติดตามชมต่อนะคะ จากคุณ : อมรปุระ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 20:28:11