The Bourne Ultimatum
ปิดเกมล่าจารชน คนอันตราย
Official website
more info. from IMDB
แนว : แอ็คชั่น / ผจญภัย / ดราม่า / ลึกลับ / ระทึกขวัญ
ความยาว : 111 นาที
กำหนดฉาย : 9 สิงหาคม 2550

หลังจาก มารี คนรักของเขา ตายไปเพราะกระสุนนัดหนึ่งจากมือสังหาร สิ่งที่บอร์นต้องการมีเพียงการแก้แค้น เมื่อแก้แค้นได้สำเร็จ สิ่งที่เขาต้องการก็คือการหายตัวไปตลอดกาล และลืมชีวิตที่โดนขโมยไป แต่เรื่องราวที่ปรากฏเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ในหนังสือพิมพ์ของลอนดอนฉบับหนึ่ง ซึ่งนำเสนอการมีตัวตนอยู่ของเขา จบสิ้นความหวังนั้นอย่างสิ้นเชิง และ เจสัน บอร์น (แมตต์ เดม่อน) พบว่าเขาตกเป็นเป้าหมายขึ้นมาอีกครั้ง

บัดนี้ เทรดสโตน โครงการลับสุดยอดที่สร้างสุดยอดมือสังหารผู้นี้ขึ้นมา ได้ถูกล้มล้างไปแล้ว แต่แล้วมันถูกหยิบขึ้นมาริเริ่มใหม่ โดยเป็นโครงการที่ชื่อ แบล็คไบรเออร์ ของกระทรวงกลาโหม และได้สร้างนักฆ่าที่ผ่านการฝึกฝนรุ่นใหม่ ซึ่งถูกซ่อนตัวให้พ้นจากสายตาประชาชนอเมริกัน และคนทั่วโลก สำหรับพวกเขาแล้ว บอร์นคือภัยคุกคาม ที่มีความสามารถรอบด้านที่มีค่าตัวสูงถึง $30 ล้าน และเป็นคนที่ต้องถูกกำจัด สำหรับบอร์นแล้ว พวกเขาเป็นเพียงตัวเชื่อมโยง กับชีวิตที่เขาพยายามจะลืมให้ได้

บอร์นมาถึงสุดสายปลายทาง ครั้งนี้เขาจะไม่หยุดแค่การได้คำสัญญาปากเปล่า จากอดีตหัวหน้าของเขา หรือไม่แม้กระทั่งจะฆ่าคนที่ออกตามล่าตัวเขาอย่างไม่ยอมหยุดหย่อน เพราะไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว บอร์นจะใช้ทุกสิ่งที่เขาเคยได้รับการฝึกฝนมา และทุกสัญชาตญาณที่พวกนั้นเคยสอนเขา เพื่อตามล่าผู้สร้างเขาขึ้นมา และจัดการปิดบัญชีทั้งหมด

ความต้องการของเขาพาเขาเดินทางจากมอสโคว์, ปารีส และแมดริด ไปถึงลอนดอน และแทนเจียร์ เขาต้องหลบเลี่ยง หลอกล่อ เอาชนะพวกแบล็คไบรเออร์ เจ้าหน้าที่รัฐ และตำรวจท้องที่ ด้วยเล่ห์เหลี่ยมในทุกฝีก้าวที่เดินไปบนเส้นทางนี้ เพื่อตามหาคำตอบของคำถามที่ตามหลอกหลอนเขามาตลอด และการเดินทางของบอร์น จะนำเขาไปยังที่ซึ่งเรื่องทุกอย่างเริ่มต้น และที่ซึ่งมาถึงจุดจบ ...นั่นก็คือท้องถนนของนครนิวยอร์กซิตี้


เรารู้จัก เจสัน บอร์น ใช้ชีวิตในฐานะชายที่ไร้ชาติหรืออดีต เพราะเคยได้รับการฝึกอย่างหนักซึ่งเขาจำไม่ได้ โดยคนที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร บอร์นจึงกลายเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นอาวุธร้าย และกลายเป็นเป้าหมายที่ซีไอเอตามร่องรอยได้ยากที่สุด นับแต่ถูกช่วยขึ้นมาจากน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นอกชายฝั่งอิตาลีเมื่อหลายปีก่อน บอร์นได้ออกตามหาความจริงว่าเขาเป็นใคร และเพื่อค้นหาตัวคนที่สอนให้เขาฆ่าคน

ในภาพยนตร์ปี 2002 เรื่อง The Bourne Identity เขาพยายามสืบหาว่าตัวเองเป็นใคร ในภาพยนตร์ปี 2004 เรื่อง The Bourne Supremacy เขาออกแก้แค้นคนที่กระทำกับเขา บัดนี้ เขากลับมา และเขาจำทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว

แมตต์ เดม่อน กลับมารับบท เจสัน บอร์น มือสังหารที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ในการต่อสู้ให้รู้ดีรู้ชั่วครั้งล่าสุด ในภาพยนตร์เรื่อง The Bourne Ultimatum ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง The Bourne Identity และ The Bourne Supremacy ภาพยนตร์สุดฮิต ที่ทำรายได้จากทั่วโลกไปมากกว่า $500 ล้านเหรียญ และทำยอดขายในอเมริกาเหนือไปสูงเกือบๆ 20 ล้านก๊อปปี้ นับแต่เปิดตัวในรูปแบบของความบันเทิงภายในบ้าน พอล กรีนกราสส์ ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ (United 93, The Bourne Supremacy) มากำกับภาพยนตร์ทริลเลอร์แนวจารกรรมสุดตื่นเต้น ที่ทำให้คนดูได้เดินทางไปทั่วโลก และติดตามชายคนหนึ่ง ขณะที่เขาต้องก้าวนำหน้าผู้ต้องการสังหารชีวิตของเขา

ในโลกของการออกแบบคิวบู๊ ฉากไล่ล่า และพลอตเรื่องที่มีความคดเคี้ยวเลี้ยวลด ภาพยนตร์ชุด Bourne ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับภาพยนตร์แนวนี้ ด้วยโครงสร้างเรื่องที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งมอบความสนุกสนานให้กับแฟนๆ ผู้ติดตามภาพยนตร์ชุดนี้ และยังสร้างความตื่นเต้นให้กับคนดูกลุ่มใหม่ The Bourne Ultimatum เต็มไปด้วยจุดหักมุมและเรื่องราวเซอร์ไพรส์ เพราะให้ความสำคัญกับความสามารถที่มีเพิ่มมากขึ้นของเดม่อน และทีมนักแสดงสมทบ ที่ล้วนแต่เป็นสุดยอดฝีมือระดับคว้ารางวัลในภาพยนตร์เรื่อง The Bourne Ultimatum ผู้กำกับกรีนกราสส์ที่ได้รับคำชมไปทั่วโลก เข้าใจดีว่าคนดูต้องการเรื่องราวการจารกรรม ที่มีความเฉลียวฉลาด ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยอารมณ์กระชากหัวใจ และฉากแอ็คชั่นที่ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง

ที่มาร่วมแสดงกับเดม่อน ก็คือ ทีมนักแสดงสมทบชุดเดิม จูเลีย สไตลส์ (The Omen, ภาพยนตร์ชุด Bourne) รับบทเป็น นิคกี้ พาร์สันส์ เจ้าหน้าที่ผู้มีความขัดแย้งในใจ และ โจน อัลเลน ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วถึง 3 ครั้ง (The Upside of Anger, The Bourne Supremacy) รับบทเป็น พาเมล่า แลนดี้ ผู้สืบสวนสอบสวนคดีภายในซีไอเอ

ส่วนนักแสดงที่ถือว่าเป็นหน้าใหม่ของภาพยนตร์ชุดนี้ รวมถึง เดวิด สแตร็ทธาร์น (Good Night, and Good Luck, Fracture) ในบท โนอาห์ โวเซ่น หัวหน้าโครงการลับแบล็คไบรเออร์, สก็อตต์ เกลนน์ (The Silence of the Lambs, Training Day) รับบท เอซร่า เครเมอร์ ผอ.ซีไอเอ, แพ็ดดี้ คอนซิดีน (Hot Fuzz, In America) รับบท ไซม่อน รอสส์ นักข่าวชาวอังกฤษ ที่พร้อมจะแฉเรื่องของแบล็คไบรเออร์, เอ๊ดการ์ รามิเรซ (Domino, El Don) รับบท พาซ เจ้าหน้าที่ตัวอันตราย ที่ติดตามร่องรอยของบอร์นไปติดๆ และ อัลเบิร์ต ฟินนี่ย์ ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว 5 ครั้ง (Erin Brockovich, Big Fish) รับบท ดร.อัลเบิร์ต เฮิร์สช์

ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทโดย โทนี่ กิลรอย (The Bourne Identity, The Bourne Supremacy) และ สก็อตต์ ซี เบิร์นส์ (The Half Life of Timofey Berezin) และ จอร์จ โนลฟี่ (Ocean’s Twelve, The Sentinel) และคิดสร้างเรื่องโดย โทนี่ กิลรอย ภาพยนตร์เรื่องนี้อิงจากหนังสือชุดสายลับสุดคลาสสิกของ โรเบิร์ต ลัดลั่ม The Bourne Ultimatum อำนวยการสร้างโดย แฟรงก์ มาร์แชลล์ (ภาพยนตร์ชุด Bourne, Seabiscuit), แพทริค โครว์ลี่ย์ (ภาพยนตร์ชุด Bourne, Eight Below) และ พอล แอล แซนด์เบิร์ก (The Bourne Supremacy, Picking Up the Pieces) ผู้อำนวยการสร้างบริหารคือ เจฟฟรีย์ เอ็ม ไวเนอร์, เฮนรี่ มอร์ริสัน และ ดั๊ก ไลแมน

ทีมงานสร้างสรรค์หลังกล้อง นำทีมโดยผู้กำกับภาพ โอลิเวอร์ วู้ด (ภาพยนตร์ชุด Bourne, Fantastic Four), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ ปีเตอร์ เวนแนม (ผลงานทางทีวีเรื่อง Four Fathers), ผู้ลำดับภาพ คริสโตเฟอร์ เร้าส์ (The Bourne Supremacy, United 93) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เชย์ คันลิฟฟ์ (The Family Stone, I Could Never Be Your Woman) ดนตรีประกอบของภาพยนตร์ทริลเลอร์เรื่องนี้ เป็นฝีมือของ จอห์น พาวเวลล์ (ภาพยนตร์ชุด Bourne, United 93)