ในที่สุด บริดเจ็ท โจนส์ (เรอเน่ เซลวีเกอร์) สาวโสดวัย 30 ชาวลอนดอน ที่ชอบสงสัยตัวเอง ชอบวิเคราะห์ตัวเอง เป็นพวกบ้างาน และชอบคำนวณปริมาณแคลอรี่ ก็ได้สุขสมหวังหวังในชีวิตรัก เป็นเวลานาน 6 อาทิตย์ที่แสนสุขสม บริดเจ็ทกลายเป็นแฟนสาวของ มาร์ก ดาร์ซี่ (โคลิน เฟิร์ธ) ทนายความหนุ่มผู้ไร้ที่ติ ชีวิตนี้คงไม่มีทางดีไปกว่านี้แล้ว หรือ...อาจจะมี? แม้ว่าดาร์ซี่จะทุ่มเทให้กับเธออย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกระนั้น บริดเจ็ทพบว่าเธอยังตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิต ความรัก และการหาวิธีเหมาะที่จะถอดชุดชั้นใน บริดเจ็ทซึ่งในที่สุดได้พบผู้ชายที่เหมาะกับเธอ ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย ในการจะรักษาตัวดาร์ซี่เอาไว้ ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่บริดเจ็ทจะสงสัยว่า จะเป็นยังไงต่อไป.. หลังตอนจบที่แสนสุข

เมื่อบริดเจ็ทเริ่มจะได้คำตอบ คู่แข่งเริ่มปรากฏตัว ซึ่งก็คือเพื่อนร่วมงานสาวคนใหม่ของดาร์ซี่ที่หุ่นเพรียวบาง และพูดจาอะไรก็ดูจะถูกไปหมด จู่ๆ ความอิจฉา ความไม่แน่ใจ และสิ่งยั่วยวน ได้ปรากฏตัวในรูปแบบของ แดเนียล คลีฟเวอร์ (ฮิวจ์ แกรนท์) เจ้านายเก่าของบริดเจ็ท ซึ่งเป็นอดีตหวานใจจอมเจ้าชู้ของเธอด้วย และคลีฟเวอร์ได้เข้ามาคุกคามฝันหวานของบริดเจ็ท ท่ามกลางความยุ่งเหยิง อันเกิดจากคำแนะนำแย่ๆ การคิดไปเองอย่างไร้สาระ และหายนะทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นได้ - - ก็แต่กับบริดเจ็ทเท่านั้น

ในเรื่องราวที่ดำเนินไป จากท้องถนนของนครลอนดอน จนถึงริมทะเลของประเทศไทย เราจะได้พบบริดเจ็ทขณะดิ่งพสุธา (หรือตกลงมาจากเครื่อง?), เล่นสกี (ทำนองนั้น) และเข้าคุก (เพราะความผิดพลาดครั้งใหญ่) Bridget Jones: The Edge of Reason พาสาวบริดเจ็ทที่น่ารักของเรา ออกเดินทางผจญภัยครั้งใหญ่ ที่คาดไม่ถึงและแสนเฮฮา เมื่อเธอท่องไปในเขตแดนของเรื่องราวความรักยุคใหม่ โดยบริดเจ็ทไม่เคยทิ้งอารมณ์ขัน ที่ยากจะหาใครเลียนแบบได้ของเธอ...

ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ร่วมกับ สตูดิโอคานัล และ มิราแม็กซ์ ฟิล์มส์ ภูมิใจเสนอ Bridget Jones: The Edge of Reason ผลงานการสร้างของ เวิร์กกิ้ง ไทเทิล โดย เรอเน่ เซลวีเกอร์ (Chicago, Cold Mountain) ดาราสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ กลับมารับบทเดิม ที่เคยทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งแรกมาแล้ว นอกจากนั้น ฮิวจ์ แกรนท์ (Love Actually, About a Boy) ที่เคยร่วมแสดงด้วยกันในภาพยนตร์เรื่อง Bridget Jones's Diary กลับมารับบทเป็น แดเนียล คลีฟเวอร์ และ โคลิน เฟิร์ธ (Girl With a Pearl Earring, Love Actually) กลับมารับบทเป็น มาร์ก ดาร์ซี่ ภายใต้การกำกับของ บีแบน คิดรอน (To Wong Foo, Thanks For Everything! Julie Newmar, Antonia and Jane, Used People, Swept from the Sea) จากบทภาพยนตร์ที่เป็นฝีมือของ แอนดรูว์ เดวีส (Circle of Friends, Bridget Jones's Diary, ผลงานทางทีวีเรื่อง Pride and Prejudice), เฮเลน ฟิลดิ้ง (ผู้แต่งหนังสือ Bridget Jones's Diary และ Bridget Jones: The Edge of Reason), ริชาร์ด เคอร์ติส (Love Actually, Bridget Jones's Diary, Notting Hill) และ อดัม บรู๊กส์ (Wimbledon, French Kiss, The Invisible Circus) Bridget Jones: The Edge of Reason อำนวยการสร้างโดย ทิม บีแวน และ อีริค เฟลล์เนอร์ จาก เวิร์กกิ้ง ไทเทิล (Love Actually, Bridget Jones's Diary, Notting Hill, Four Weddings and a Funeral) และ โจนาธาน คาเวนดิช (Bridget Jones's Diary, Gangster No. 1) โดยมี เดบร้า เฮย์วอร์ด และ ลิซ่า ชาซิน จาก เวิร์กกิ้ง ไทเทิล ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหาร

ที่กลับมารับบทเดิมอีกเช่นกันก็คือ จิม บรอดเบนต์ เจ้าของรางวัลออสการ์ (Iris, Moulin Rouge!) ในบทพ่อผู้ทุกข์ทรมานมานานของบริดเจ็ท, เจมม่า โจนส์ (Shanghai Knights, Harry Potter and the Chamber of Secrets) ในบทแม่ที่ไม่เคยเขินอายของบริดเจ็ท, ส่วนบทเพื่อนๆ ที่ซื่อสัตย์ของบริดเจ็ท อันประกอบไปด้วย จู๊ด, แชซเซอร์ และทอม รับบทแสดงโดย เชอร์ลี่ เฮนเดอร์สัน (Harry Potter and the Chamber of Secrets, Trainspotting), แซลลี่ ฟิลลิปส์ (Birthday Girl, ผลงานทางทีวีเรื่อง Smack the Pony) และ เจมส์ คัลลิส (Bridget Jones's Diary, ผลงานทางทีวีเรื่อง Victoria & Albert), ซีเลีย อิมรี (Calendar Girls, Hilary and Jackie) ในบทอูน่า เพื่อนสนิทของแม่ และ นีล เพียร์สัน (Bridget Jones's Diary, Fever Pitch) ในบท ริชาร์ด ฟินช์ เจ้านายของบริดเจ็ท ที่ร่วมแสดงอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ เจซินด้า บาร์เร็ตต์ (Ladder 49, The Human Stain) ในบทรีเบ็คก้า เพื่อนร่วมงานคนใหม่ของมาร์ก และ เจสซิก้า สตีเวนสัน (Shaun of the Dead, Born Romantic) ในบทโรบิน เพื่อนที่แต่งงานแล้วของบริดเจ็ท

ทีมงานหลังกล้อง ที่ช่วยกันสร้างโลกของบริดเจ็ทขึ้นมา ก็คือ ผู้กำกับภาพ เอเดรียน บิดเดิล, BSC. (Shanghai Knights, The Mummy Returns), ผู้ลำดับภาพ เกร็ก เฮย์เด้น (Austin Powers in Goldmember, Zoolander), โปรดักชั่นดีไซเนอร์ เจมม่า แจ็คสัน (Bridget Jones's Diary, Finding Neverland) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เจนี่ เทมไมม์ (Harry Potter and the Goblet of Fire, Harry Potter and the Prisoner of Azkaban) ดนตรีประกอบเป็นฝีมือของ แฮร์รี่ เกร็กสัน-วิลเลี่ยมส์ (Shrek, Chicken Run)