คุณไอซ์คะ แรกๆ ที่อ่าน news of a kidnapping ป้าแทบทำลิสต์รายชื่อเลยค่ะ แต่ก็ขี้เกียจทำ ตอนหลังเลยอาศัยจำ ตำแหน่งกับความสำคัญของแต่ละคนเอา พออ่านสนุกก็เลยลืมไปว่ามันจำยาก แต่อื้อฮือ...ชื่อแต่ละคนฟังเพราะจังเลยนะคะ พอออกเสียงแล้วมันมีชีวิตชีวาดีชะมัด
หลังจากอ่านเรื่องนี้ไปได้ไม่นานได้ดูสารคดีประวัติชีวิตเอสโคบาร์ พาโบล เห็นหน้าตานักการเมืองหลายคนที่มาร์เกซเขียนถึง ตื่นเต้นเชียวค่ะ ยังกะเห็นญาติที่จากกันไปนานยังไงยังงั้น...(เวอร์ไปหรือเปล่าหว่า) ตอนนี้ป้าได้หนังสือชื่อ Killing Pablo มา กล่าวถึงปฏิบัติการของ CIA ที่จะสังหารพาโบล้ให้ได้ ยังไม่ได้อ่านค่ะ คุณไอซ์อ่าน news of a kidnapping แล้วอาจจะสนใจเรื่องนี้ด้วย
I'm fooling around my sweet fcuking University without my own PC. That's why I can't type in Thai for this review.
Well, :: The Five People You Meet In Heaven :: by Mitch Albom is one of the best book I ever read this past two months. Hands down the best of the first part of the year though! Hoorayy from Albom yay!
Part melodrama and part parable, Mitch Albom's The Five People You Meet in Heaven weaves together three stories, all told about the same man: 83-year-old Eddie, the head maintenance person at Ruby Point Amusement Park. As the novel opens, readers are told that Eddie, unsuspecting, is only minutes away from death as he goes about his typical business at the park. Albom then traces Eddie's world through his tragic final moments, his funeral, and the ensuing days as friends clean out his apartment and adjust to life without him. In alternating sections, Albom flashes back to Eddie's birthdays, telling his life story as a kind of progress report over candles and cake each year. And in the third and last thread of the novel, Albom follows Eddie into heaven where the maintenance man sequentially encounters five pivotal figures from his life (a la A Christmas Carol). Each person has been waiting for him in heaven, and, as Albom reveals, each life (and death) was woven into Eddie's own in ways he never suspected. Each soul has a story to tell, a secret to reveal, and a lesson to share. Through them Eddie understands the meaning of his own life even as his arrival brings closure to theirs.
*If you ever have the time to read, I highly suggest that you pick up this book. It's less than 200 pages of reading and it's quick. I actually enjoyed this book a whole lot and it really made me think and go "hmm.." You'll know what I mean if you read it.. I don't want to go into too much detail without giving too much away.. I don't want to go too much into the book to spoil it too much, but basically, the theme of the book is to try to illustrate an unsatisfied, confused, and upset man looking for answers to his life. And when he goes up to heaven, the 5 people he meets helps him find his peace, but not without some surprises. Read it, you'll like it ;P*
I leave you with some quotes from the book and a question for you avid readers out there..
"Strangers are just family you have :-) to come to know." "Each person is in your life for a reason" "No life is a waste. The only time we waste is the time we spending thinking we are alone."
Phewww....it's gone too long for a book review already. Time for dinner everyone ;) I bid you all adieu ^^
และก็ขอหนับหนุนทุกประการกับ 100 years of solitude และ a bend in the river ค่ะ สำหรับเรื่องแรก คุณป้าต้องอ่านให้ได้เลยนะคะ ดีมากเลย ประทับใจมาก เป็นงานแรกของมาร์เกซที่หนูเริ่มอ่าน จำได้ว่าอ่านครั้งแรกตอนเรียนมหาลัย (เมื่อหลายปีมากกกกกแย้ว) ฉบับแปลค่ะ (น่าจะแปลโดย ร. จันทรเสน พิมพ์ประมาณครั้งแรกเห็นจะได้ค่ะ เป็นหนังสือปกแข็งอย่างดี ซื้อที่ศูนย์หนังสือของมหาลัย) แล้วเกิดความประทับใจในตัวนักเขียนท่านนี้ถึงขีดสุดจนต้องขวนขวายหาฉบับภาษาอังกิดมาอ่าน จากนั้นก็ติดตามมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจให้ชอบอ่านหนังสือในแนว modern literature ได้เลยค่า คุณป้าต้องอ่านให้ได้นะคะ ดีมากๆ เป็นหนังสือที่ให้อะไรกับเราได้มากมายเกินคิด และคาดหวังเลยค่ะ และที่สำคัญ เป็นหนังสือที่อ่านสนุกมาก ตัวหนูเองประทับใจตัวละครที่ชื่อ Remedios the beauty ที่สุดค่ะ รองลงมาก็เป็นตัวเอก Ursula ส่วนตอนที่เขียนถึง การค้นพบน้ำแข็งว่าเป็น the greatest invention of our time นั่นก็อ่านแล้วขำก้ากเลยค่ะ ชอบค่ะ เล่มนี้ ให้ สิบเต็ม timeless สุดๆ
ป้าลังเลมากเลยนะคะระหว่าง 1984 กับ at swim two birds นี่ เพราะทั้งสองเรื่องต้องมีเวลาอ่านติดต่อกันอย่างช้าๆ ถึงจะสนุก เท่าที่อ่านมาคิดว่า 1984 น่าจะอ่านง่ายกว่า ติดนิดเดียวว่าป้ามีแต่เล่มที่ยืมห้องสมุดมา เป็นปกแข็งอ้ะค่ะ หนักกระเป๋า
กลุ่มกุ๊กกิ๊กนี่ลำบากมาก แนวโน้มที่จะอ่านไม่จบมีสูงค่ะ คิดว่าอาจจะตัดออกไปแล้วเสียบด้วย stories of eva luna ยังไงก็อ่านง่ายและไม่หนักมาก น่าจะแทนกันได้
Kingdom by the sea ยังไม่เคยมีใครพูดถึง แต่คุณพัทกับคุณไอซ์ อาจจะสน เป็นหนังสือแนวท่องเที่ยวของ Paul theraux ตระเวณไปรอบเมืองชายฝั่งของอังกฤษ (อ่านหนังสือแบบนี้แล้วคับข้องใจมากค่ะ อยากไปบ้างงงง)
the heart of the matter ของคุณปู่กรีนใช่แล้วค่ะคุณเพตื๊ด ป้ายังมี the comedian ของคุณปู่อยู่ในมืออีกเล่ม น่าอ่านทั้งคู่
ป้าอ่าน sushi for beginner ของ kayes ไปเล่มเดียวเอง ขอสารภาพว่าเป็น chic lit เล่มเดียวที่อ่านจบ อยากอ่านเรื่องรักสนุกๆ ตลกหน่อยแต่ลองแย้มดูหลายเล่มที่หลายคนชอบแล้ว ไม่เข้าทางป้าเท่าไหร่ สงสัยจะวัยเกินพิกัดไปแล้ว แต่ยังรอคำแนะนำอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ใครว่าเล่มไหนสนุกก็ลองอ่านบทแรกทุกที playing James ก็ลองอยู่ค่ะ แต่ยังไม่โดนแฮะ
อ้อ...คุณติ่ม last chance saloon เล่มบวมอืดของป้ายังอยู่ค่ะ เล่มไซส์ใหญ่อย่างนั้นตัดใจทิ้งได้ยาก ว่าแต่คุณติ่มไม่สน quarantine ของ jim crace บ้างหรือคะ รับรองว่าอ่านสนุก มีคุณเพติ๊ดมาช่วยประทับตรารับรองให้อีกคน
ไม่ได้รีวิวอะไร แต่ถ้าใครเงินหนากระเป๋าตุง แล้วเกิดอาการอยากจ่ายสตางค์ หรือเกิดอาการไม่รู้จะอ่านอะไรดี ป้ามีหนังสือสามสี่เล่มที่ลุงเพิ่งอ่านจบไป และบอกว่าสนุกดี (ป้ากำลังหาคนตีตรารับรองเพิ่มน่ะค่ะ)ลองดูไหมคะ the last king of scotland the english passenger shadow and wind hiroshima joe in siberia
dinner at the homesick restaurant ใช่ของ Anne Tyler หรือเปล่าครับคุณป้า ถ้าใช่ล่ะก็เรื่องมันไม่ถึงกับเบาแบบเรื่องอื่นๆ ในพวกเดียวกันที่คุณป้าจัดไว้นะครับ แต่ก็สนุกตามแบบ Tyler ครับ
ไอซ์อ่านเรื่อง News of a kidnapping จบแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวตื่นดี ๆ ก่อนจะมาพูดถึงหนังสือเล่มนี้นะคะ รวมทั้งเล่มที่อ่านจบไปแล้ว A bookseller of Kabul ด้วยค่ะ
... กรี๊ดดด โหม่งกะพี่เพติ๊ดเมื่อวาน ... มายกมือเห็นด้วยสองแขนเลยค่ะ หนังสือสำนวนไอริช ไอซ์ว่าอ่านยากกว่าจะเก็ท มุขของพวกเค้าก็จะ ต่างออกไปด้วยค่ะ เล่มล่าสุดที่ไอซ์อ่านไม่จบก็ Star of the sea ไงคะ เอิ๊กส์ ไอริชรุนแรงค่ะ
พูดถึงหนังสือของ Anne Tyler ได้อ่าน The Amateur Marriage ไปห้าสิบกว่าหน้า แต่รู้สึกว่าไม่ปิ๊ง ((ขอยืมใช้หน่อยนะคะ แหะแหะ)) เลยคืนห้องสมุดไปแล้วล่ะค่ะ เพราะเล่มนี้ ก็คนรอต่อคิวยาวเหมือนกัน
คุณป้าขา มะวันเชียร์ Kingdom by the sea ค่ะ เพราะฟังแล้วน่าอ่านดีค่ะ ได้ยินคน บอกหลายคนแล้วล่ะค่ะว่า the English Passenger สนุกน่ะค่ะ คุณป้าอ่านแล้วแวะ มาเล่าให้ฟังมั่งนะคะ
ขอกระซิบบอกคุณเพติ๊ดว่า ป้าหิ้ว true history of the kelly gang ไปด้วย (ตัดหน้า atonement ค่ะ) ถ้าอ่านถูกใจจะกลับมาอ่าน atonement เพื่อความเป็นธรรม (อ้อ...ถ้าเจอหนุ่มเซ็กซี่ทางความคิดจะถามเขาให้ว่าคิดอย่างไรกับ McEwan...ถ้าเขาชอบคุณเพติ๊ดจะใจละลายมั้ยเนี่ย....)
คุณมะวันคะ English passengers เล่มหนาจังค่ะ มีอีกเล่มชื่อ sweet thames จากผู้เขียนคนเดียวกัน เล่มบางกว่าแค่นิ้ดดดดเดียว ลุงบอกว่าสนุกดีหมือนกันค่ะ
วันนี้อ่าน love letter ฉบับแปลจบแล้ว สนุกและซึ้งกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ (ยอมรับว่าไม่ชอบพล็อต เลยไม่สนทั้งหนังและหนังสือ แต่พอดีมันเบาเลยคว้าหนังสือมา) แต่เจ็บใจแทนตัวเอกที่เป็นแฟนคนหลังนิดหน่อยแฮะ เหมือนเป็นตัวสำรองเลย
ไปแล้วค่ะ ยังทำงานไม่เสร็จเลย ส่งวันนี้แล้ว
คิดถึงทุกคนค่ะ พัท..พี่ยังไม่เปิดดูอะไรทั้งนั้นนะ แต่ดูรูปแล้ว หุหุ... no comment
Chapter: the Seventh tuesday We Talk about the Fear of Aging
" As you grow, you learn more."
" If you're always battling against getting older, you're always going to be unhappy, because it will happen anyhow."
" It is impossible for the old not to envy the young. But the issue is to accept who you are and revel in that. You have to find what's good and true and beautiful in your life as it is now. Looking back makes you competitive. And, age is not a competitive issue."
Most Challenged (Not Banned) Books 1. Of Mice and Men - John Steinbeck (จบสะเทือนใจสุดๆ) 2. The Catcher In the Rye -- J.D. Salinger (ความเบาหวิวของชีวิต) 3. The Chocolate War - Robert Cormier 4. I Know Why the Caged Bird Sings -- Maya Angelou 5. Scary Stories to Tell in the Dark -- Alvin Schwartz (รวมเล่มสองด้วยค่ะ) 6. The Adventure of Huckleberry Finn - Mark Twain 7. Go Ask Alice, anonymous (คาใจมากว่า...ทำไม) 8. Bridge to Terabithia - Katherine Peterson 9. The Witches -- Roald Dahl (โห ลุงติดมาด้วยอ่ะ... แต่เรื่องนี้เล่าสมจริงมาก) 10. The Harry Potter series - J.K.Rowling (เริ่มต้นด้วยความตาย) 11. The Alice Series - Phyllis Reynolds Naylor 12. Killing Mr.Griffin - Lois Duncan 13. Fallen Angels -- Walter Dean Myers 14. The Terrorist -- Caroline Cooney 15. The Giver -- Lois Lowry
ป.ล. ตอนนี้อ่าน The Bonesetter's Daughter ของ Amy Tan อยู้ค่ะ คุยกันไปหรือยังคะ แบบว่าตั้งความหวังไว้สูงมากเลยนะเนี่ย เพราะชอบ Joy Luck Club มาก อ่านแล้วอินสุดๆ ในฐานะอาหมวยคนนึง
พัท พี่เห็น Elizabeth & Mary (Dunn) กับ Six Wives of Henry VIII (Starky) ไซส์บีที่เอเชียบุ้คด้วยล่ะ ไม่รู้เลยคุยกันตอนแชทหรือเปล่า แต่สองเล่มนี้พี่เคยอยากอ่านอยู่ เห็นแล้วคิดถึงพัทสุด ๆ เลย ในคิโนะก็มี Mary, Queen of Scots (จำชื่อคนแต่งไม่ได้) ไซส์เทรดเปเปอร์ ...โอ๊ย เล่มหลังนี่ลองเปิดแล้วอยากอ่านมาก แต่เจียมตัวเลยวางก่อน แต่กลับมานั่งเพ้ออยู่เนี่ย อยากได้มากกกอด อิอิ
ตอนนี้เริ่มเห็นหนังสือใหม่ที่ออกหลังงานสัปดาห์แล้วค่ะ มีของสนพ. cupid หนึ่งเล่ม (คนแต่งคือ peti berg) แล้วหนังสือของนานมีอีกสองสามเล่ม หุหุ มีเล่มนึงเป็นเล่ม 1 ในชุด Roman Mysteries ที่ติ่มมีแล้ว (เจ็บใจจิ๊บ ทำไมไม่แปลซีรี่ส์ที่ตูไม่มี e ฟ่ะ?)
แล้วก็ได้ที่คั่นจากนายอินทร์มาเพียบเลยค่ะ มีลาย da vinci, tell no one, bloodwork ด้วย น้องคนขายบอกว่าวันหลังเดินไปขอเฉย ๆ ก็ได้ น่ารักมากเลย (ไอซ์ ได้ลาย "มัดใจ" ที่มีเรื่องสั้นของไอซ์ด้วยล่ะ)
มารีวิวหนังสือสองสามเล่มที่อ่านจบไปก่อนนะครับ The Bear Wish Project เขียนโดยเดปป์ นนทเขตคาม(นามปากกาของวงศ์ทนง ชัยณรงค์ศิลป์ เจ้าของหนังสือ A day ครับ)
รีวิว Angels and Demons เล่มแรกก่อน Da Vinci Code ค่ะ
