ความคิดเห็นที่ 1 และ...นี่คือเหตุผลที่ไอซ์ไม่เคยสามารถ list รายชื่อหนังสือ ที่ได้มาจากงานหนังสือได้ 555+ รูปทางด้านซ้าย คือกองที่ได้มาเมื่อวันเสาร์ที่ 1 เม.ย. ส่วนรูปด้านขวา คือกองที่ได้มาเมื่อวันเสาร์ที่ 8 เม.ย. เมื่อเห็นแล้วโปรดจงอภัยที่ไม่สามารถ list รายชื่อหนังสือได้นะจ๊า ^^" จากคุณ : Clear Ice - [ วันแรงงาน 21:20:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สนใจไปครับ^^ ลงชื่อไว้ก่อน จากคุณ : Nutonline - [ วันแรงงาน 21:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอแสดงความนับถือเลยค่ะ เคยคิดว่าตอนงานหนังสือซื้อไปเยอะแล้ว แต่พอเห็นในรูป  ขอยอมแพ้ค่ะ จากคุณ : wormearth - [ วันแรงงาน 23:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หนังสือเยอะมากๆ อ่ะค่ะ สุดยอด                 พี่ไอซ์ ซื้อหนังสือที่งานหนังสือ 1 ครั้ง เท่ากับที่หนูซื้อทั้งปีเลยมั้งน่ะ 555+ จากคุณ : ข้าวแช่ - [ 2 พ.ค. 49 10:36:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 20 จะไปกันกี่โมงค้า ว่างตอนเย็นๆหลัง สี่โมงครึ่งน่ะ แต่อยากไปมากๆๆๆ จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 2 พ.ค. 49 20:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น้องข้าวแช่คะ พี่ซื้อ 5 ปีรวมกัน ยังไม่เท่าไอซ์ซื้อรอบเดียวเลยค่ะ 555 กรี๊ดดดดด 20 พ.ค.นี่วันเดียวกับคอนเสิร์ตเบิร์ดะฮาร์ทใช่มั้ย มิน่ามันตงิดๆว่าติดอะไรตอนคุยกับแฟนว่าอยากดู แต่เบิร์ดกะฮาร์ทจะสำคัญกว่าพัทได้ยังไง จริงมั้ยจ๊ะ กร้าก เลี่ยนสุดๆ (ความเป็นจริง : ตั๋วแพงง่ะ สองคนเกือบห้าพัน ถ้าตั๋วถูกก็ดูได้แบบไกลๆ แฟนบอกรอซื้อดีวีดีมาดูกันดีก่า เอิก) โอ๊ย คิดหนัก ถ้าเจอกันก็ไม่อยากกลับเร็วอ่า แต่เบิร์ดกะฮาร์ทก็ศิลปินในดวงใจเค้าเลยนะ แบบว่าตอน 10 ปีก็พลาดไปแล้ว กลัวว่าถ้าพลาด 20 ปีไปรอดูตอนครบรอบ 30 ปี อาจต้องดูพี่ฮาร์ทพกไม้เท้าขึ้นเวทีด้วย งืมๆๆ มีตติ้งกันที่เมืองทองธานีได้ป่าว -"- จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 2 พ.ค. 49 20:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่งเข้ามาเยี่ยมเยียนห้องนี้ ชอบอ่านหนังสือ หลายประเภท ตำรา เรื่องสั้น นิยายอ่านได้หมด ขอตามไปด้วยคนได้มั๊ย อยากทราบรายละเอียดค่ะ จากคุณ : SPARROW99 (SPARROW99) - [ 3 พ.ค. 49 15:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 งั้นนัดสถานที่เลยไหมคะ เอาเป็น food loft ที่ชิดลมมั้ย เพราะมีให้เลือกกินหลายอย่าง ใครสนอะไรเลือกได้ตามสบาย นั่งคุยได้นานด้วย อาจจอแจเล็กน้อย แต่เราเลือกชั้นบนได้นะคะ งั้นพัทขอนัดเลยว่าเริ่มตั้งแต่เที่ยง วันเสาร์ที่ 20 food loft ชิดลม ใครมาได้ช่วยลงชื่อด้วยนะคะ จะได้จองโต๊ะไว้ก่อน น้องทินาตามมาก็ได้นะ พี่ๆหลายคนคงอยู่ยาว ลงชื่อเลยนะคะ จะได้นับคน จากคุณ : Il Maze - [ 3 พ.ค. 49 17:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไปด้วยคนค่ะ ลงชื่อพี่ไว้ได้เลย ฟู้ดลอฟท์ก็ดีค่ะ ง่ายดี จากคุณ : petitfour - [ 3 พ.ค. 49 19:27:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ลองดูที่ลิงค์นี้นะคะ เนื้อเรื่องคุ้นๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่บ้านเราเมื่อไม่นานมานี้เอง เห็นทีจะต้องรีบไปหามาอ่านซะหน่อยแล้ว (เป็นหนังสือแนะนำให้ทักษิณอ่านอีกเล่มก็ไม่เลวนะคะ 555555) http://www.faylicity.com/book/book1/seeing.html จากคุณ : petitfour - [ 3 พ.ค. 49 19:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ๊ะ แม่งานมาแว้ว 555+ ตกลงไม่เกะแล้วหรือคะพี่พัท ดีนะวันนั้นไม่ติดงานแต่งงาน ((ของชาวบ้านนะ โฮะๆ)) เดือน พ.ค. นี่ คนแต่งงานกันแยะจริงๆ ไอซ์ไปได้ค่ะ ฮี่ๆๆๆ ^^ เอิ๊กส์ พี่ๆ น้องๆ คะ อย่าหวาดผวากับกองหนังสือของไอซ์ เลยค่ะ พอดีที่บ้านอ่านหนังสือกันทุกคน และปกติไม่ค่อย จะได้ออกจากบ้านไปซื้อหนังสือเท่าไหร่อะค่า มันเลยดู น่ากลัวเยี่ยงนั้น แหะๆๆๆ อะ มาช่วยนับคน - พี่พัท - พี่เพติ๊ด - ปุ๋ย ((ต้องไปนะยะ ลุงเบิร์ดกับลุงฮาร์ทไว้ทีหลังเหอะ เอิ๊กส์)) - คุณ Nutonline ((อย่าลืมมาคอนเฟิร์มนะคะ)) - น้องทินา ((ทำไมมาเย็นนักล่ะน้อง)) - คุณ SPARROW99 เดี๋ยวค่อยๆ ตามรายละเอียด ที่ทู้นี้แหละค่ะ คงจะคุยกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะลงตัว แหะๆ - ไอซ์ ((เกือบลืมตัวเอง ฮา)) รอคนอื่นๆ นะค้า ปล. งานนี้ อ.โป้ เปิดตัวซักที ดีไหมคะ ฮี่ๆๆๆๆ ปล. อีกอัน พี่เพติ๊ด ชักอยากอ่าน Blindness ง่ะ มีใครบอกว่าอ่านยากใช่ป่ะ งือ จากคุณ : Clear Ice - [ 3 พ.ค. 49 21:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กรี๊ดดดดดดดดด พอไอซ์พูดถึงงานแต่งงาน ก็นึกขึ้นมาได้เลยว่าดิช้านติดงานแต่งงานนนนนนนน พี่น้องคะ ช่วยเช็กทีว่างานแต่งของแพท สุธาสินี มันคือวันที่ 20 รึเปล่า คือถ้างานเพื่อนตัวเองน่ะ อาจพอปลีกตัวได้ แต่งานนี้ต้องพาแม่ไปน่ะสิ โอย ทำไงดีๆๆ กรี๊ดๆๆๆ คิดว่าก็คงไปเร็วหน่อยอะค่ะ แต่ก็คงต้องกลับเร็วเช่นกัน ฮืออออออออ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 3 พ.ค. 49 22:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Blindness ยากตรงที่ย่อหน้าหนึ่งมันยาวสามสี่หน้าน่ะค่ะ แต่เนื้อเรื่องติดหนึบ อ่านแล้วขนลุกซู่ๆ พอๆ กับตอนอ่าน แนะนำ Seeing นั่นเลย ไสยศาสตร์มีจริง เอิ๊ก จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 4 พ.ค. 49 17:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตามไปอ่านลิงค์เรื่อง Seeing แล้ว พบว่าพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงจริงๆแฮะ พี่ไอซ์ขา ไปช้าเพราะติดงานเน้อ นี่ก็ต้องหาคนมารับเวรเย็นแทนแล้วนา จากคุณ : ทินา - [ 4 พ.ค. 49 22:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลงชื่อว่าไป หากไม่ติดงาน ตอนนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม แต่เหมือนมีหนี้สินต้องไปเคลียร์กับสาวในนี้ ยังไงก็ลงชื่อไว้ก่อนแล้วกัน จากคุณ : ปลาวาฬน้อย(ลุมพินี) - [ 4 พ.ค. 49 23:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ต้องหา seeing กับ blindness ตามลิงก์แนะนำคุณ petitfour มาบ้าง ต้องกุมขมับอ่านหรือเปล่าค่ะ จากคุณ : เกลือแกง - [ 6 พ.ค. 49 10:16:59 A:202.57.180.1 X: TicketID:072030 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไปค่ะ เกือบตกข่าวแน่ะ มัวแต่ไป say hello กับ ฉลามมา จากคุณ : scuba734 - [ 6 พ.ค. 49 16:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไปด้วยคนค่ะ (^_^)/ จากคุณ : นารูมิ - [ 8 พ.ค. 49 18:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โอย น้องทินา พี่ก็อยากเจอหนูมากเลย แต่พี่กลัวจริงๆว่าจะไม่ทัน -*- กระทู้ไม่ค่อยเคลื่อนเลย เอ หรือว่ากลัวการเผยโฉมหน้ากันรึยังไงคะ เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาไปพัทยามาค่ะ พาแม่และหลานไปพักผ่อน หนีบมาโอตอนแมวหิมะจากแดนเหนือไปด้วย งานของน้องพัณณิดาเนี่ย ยิ่งอ่านยิ่งติดใจ ลื่นไหลจริงๆเลย เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ดีมาก สอนอะไรหลายๆอย่าง ทั้งความกล้าหาญ ความเสียสละ ความมุ่งมั่น ความมีน้ำใจ สอดแทรกอยู่ตลอดเล่มเลย ภาษาก็ดี๊ดี พล็อตเรื่องมีเหตุผลชนะเลิศ เอิก ม้าสุดๆเลยเรา ฮี้กับๆ ใครสนใจแฟนตาซีเบาๆ ที่ฝีมือไม่เบา แนะนำเลยนะคะ โดยเฉพาะคนชอบแมว เขียนได้เห็นภาพเลยจริงๆ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 8 พ.ค. 49 22:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอาวะ ไหนๆก็ม้าแล้ว ม้ากันให้สุดๆไปเลยดีกว่า กร้าก เรื่องย่อจากเว็บนายอินทร์ค่ะ "หลังจากที่ประทับใจกับการผจญภัยของมาโอตอนแรกมาแล้วใน มาโอ การผจญภัยในตอนที่ 2 นี้ ยาวนานและหาญกล้ากว่าเดิมแม้พ่อมดระดับ 71 คนเดิม จะไม่ได้ไปด้วย แต่มาโอก็ได้เพื่อนคู่หูตัวใหม่เป็นแมวสาวแสนสวยและแสนดุ คู่กัดตัวฉกาจที่มาโอแสนจะไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจจึงแกว่งแปลกๆ เมื่อเข้าใกล้ ท่ามกลางศึกระหว่างเผ่าพันธุ์ที่แสนหนักหนาสาหัสจนแทบเอาตัวไม่รอด มาโอก็ได้เรียนรู้ชีวิตชนิดที่ไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน เพราะแท้จริงแล้วโรงเรียนก็มีหน้าที่เพียงเตรียมคนและแมวให้พร้อมที่จะออกไปเผชิญชีวิตข้างนอกเท่านั้น การเรียนรู้ชีวิตและออกผจญภัยสู่โลกภายนอก ก็เพียงเพื่อจะเข้าใจโลกที่อยู่ในตัวเองอย่างที่มาโอและลียาได้เรียนรู้ในที่สุดนั่นเอง" เล่ม 2 เนี่ย หนากว่าเล่ม 1 แบบเห็นได้ชัด ทีแรกก็รู้สึกแหยง กลัวอ่านไม่รอด แต่แล้วก็กลับวางไม่ลง หลังๆชักอ่านหนังสือเก่งขึ้นแฮะเรา อ่านก่อนนอนได้ด้วยแหละ ขอบอก รู้เรื่องดีไม่ขาดตอน เล่มนี้มาโอน่ารักมากเลย ชอบเวลามันเรียกลียาว่า ยัยผ้าพันคอ อย่างเวลาโมโหก็จะเรียกลียาว่า "ยัยผ้าพันคอไม่ได้ซักสามเดือน" ทั้งที่ตัวเองก็พรมเช็ดเท้าดีๆนี่เอง 555 จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 8 พ.ค. 49 23:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อันนี้เล่มแรกค่ะ บางๆ ร้อยกว่าหน้า เรื่องย่อจากเว็บนายอินทร์ เรื่องราวการผจญภัยอันสนุกสนานในดินแดนแห่งเวทมนตร์ มาโอ แมวน้อยแสนฉลาดแต่ดื้อรัน กับรุสโซ พ่อมดที่กำลังดำเนินการปฏิบัติการลับ ทั้งคู่ต้องมาทำงานร่วมกันทั้งๆ ที่ไม่ต้องการมีกันและกัน เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นตลอดการเดินทาง คุณผู้อ่านจะสัมผัสได้กับการผจญภัย มิตรภาพ ความขัดแย้ง และความรัก อ่านแล้ว " มาโอ " อาจจะทำให้คุณอยากเป็นเจ้าของแมวสักตัวขึ้นมาบ้างก็เป็นได้ สนุกดีค่ะ สั้นกำลังดี เปิดตัวมาโอกับพ่อมดและสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ต้องมาอยู่ด้วยกัน วางบุคลิกชัดตั้งแต่ต้นเลยค่ะ ว่ารุสโวนั้นเสือยิ้มยากเย็นชา ส่วนมาโอก็แมวหัวรั้นไม่ฟังใคร แค่คิดว่าสองคนนี้ต้องร่วมงานกันก็ปวดหัวแล้ว แนะนำเลยนะคะ สองเล่มนี้ สนุกมากค่ะ ถ้าน้องพัณณิดาได้มาอ่าน พี่รอเล่มสามอยู่นะคะ แหะๆ ^^" จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 8 พ.ค. 49 23:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาต่อกันที่ "ภาพที่ไร้เสียง" ค่ะ อ่านจบไปแล้ว ขอยืนข้างฝ่ายที่ชอบแล้วกันค่ะ แม้ไม่ถึงขั้นอ่านแล้ววี้ดว้ายกระตู้ฮู้ ชอบจังชอบจริง แต่เห็นเล่มหนาๆ อย่างนี้ อ่านจบยังคิดอ่านใหม่ ชอบกลวิธีเล่า วิธีบรรยาภาพที่ไร้เสียง การทารุณเทียบกับการบรรเลงเพลง ฯลฯ สรุปว่าเลือกอ่านเอาอรรถรสของการเล่นกับภาษา มากกว่าถามหาเหตุผลของตัวละครน่ะค่ะ ถึงจะรักหนังสือเล่มนี้ได้ :) จากคุณ : นารูมิ - [ 10 พ.ค. 49 09:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาเช็คชื่อ ไปด้วยอีกคนจ้า จากคุณ : grappa - [ 10 พ.ค. 49 09:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แง อยากไปเจอทุกคนจริงๆน้า เอางี้ ถ้าไปกันแต่หัววัน แล้วคนไข้ไม่ท่วมหัว ตอนเที่ยงๆจะซิ่งรถไฟฟ้าไปหาเสียรอบหนึ่งก่อน (พยายามสุดๆ) งานของคุณลวิตร์ (ติดชื่อนี้อะ) เจ๋งทุกเรื่องอยู่แล้วค่า แฟนพันธุ์แท้อย่างเรายืนยันได้ ตอนนี้ผู้เสกทรายในถนนฯก็กำลังเข้มข้นเลยนา มาโอเล่ม 3 นี่ถ้ามีน่าจะเกิดที่แดนเวทมนตร์บ้างเนาะ มีทั้งเรื่อง ณ แดนปีศาจ กับแดนมนุษย์แล้วนี่นา จากคุณ : ทินา - [ 10 พ.ค. 49 22:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โอ๊ย ตามลิงค์ของเพติ๊ดไปแล้ว อยากอ่าน seeing ขึ้นมาสุด ๆ เคยเห็นใครอ้างอิงว่าเป็นหนังสือที่แนะนำให้ท่านนายกอ่านแล้ว แต่ไม่ได้ตามลิงค์ไป ที่แท้มันอย่างนี้นี่เอง ชอบเรื่องมาโอเหมือนกันค่ะ คิดว่าถ้ามีภาคต่อคงจะเปลี่ยนโลเกชั่นไปตามแดนต่าง ๆ จนครบทุกเผ่าพันธุ์มั้ง? ... แต่ยังไงก็ชอบไมรอนที่สุด มืดมนถูกใจดีแท้ ขอมาลงชื่อเข้าชมหลินฮุ่ยช่วงช่วงอย่างเป็นทางการค่ะ คงไปถึงบ่าย ๆ นะคะ ถ้าไม่หลงทางตอนเข้าเมืองซะก่อน ไม่ได้เข้าเมืองเป็นชาติได้แล้ว ล่าสุด อ่าน "หมูบินได้" ขององอาจ ชัยชาญชีพ เป็นนิทานภาพอ่านง่าย ๆ แต่แฝงสาระน่าคิดดีมากค่ะ เคยเปิดอ่านเล่มนี้ก่อนซื้อ แล้วคิดว่า..ไม่เท่าไหร่ แต่พออ่านทั้งเล่มต่อเนื่อง รู้สึกว่าดีกว่าที่คิดไว้ค่ะ แล้วก็ได้อ่าน the Rule of Four ในที่สุด ชอบมากกว่าที่คิดไว้เช่นกัน อ่านแล้วได้อารมณ์คล้าย Dante Club ตรงที่ - เนื้อเรื่องจะค่อย ๆ เผยให้เห็นความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างเพื่อนผู้ชายในกลุ่ม เพียงแต่ใน RoF เป็นกลุ่มนศ. แต่ DC เป็นกลุ่มนักเขียน - ปริศนาในเรื่องอ้างอิงกับหนังสือที่มีอยู่จริง ทายยากเหมือนกันเลย (ความจริง ไม่มีทางทายเองได้หรอก) คงเพราะมันเดินเรื่องเนิบนาบ หลายคนเลยอ่านแล้วไม่สนุก แต่ติ่มอ่านแล้วชอบมากค่ะ อ๊ะ เช้าแล้ว แสดงว่าต้องเข้านอน ราตรีสวัสดิ์ค่ะ จากคุณ : ติ่มซำ - [ 11 พ.ค. 49 05:57:46 A:58.136.98.93 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 26 20 พ.ค. นี่เริ่มต้นนัดกี่โมงกันคะ? เดี๋ยวบลูไปแล้วพลาดแบบคราวที่แล้วอีกอ่ะ งือๆ ปล. แอบถามคุณโป้มาแล้วค่ะ คุณโป้ไ่ม่ไปหละ ว้า~ แฟนคลับคุณโป้เสียใจแย่เลยเนอะ วันวิสาขบูชาแล้ว ใครไปทำบุญที่ไหนกันบ้างหรือเปล่าเอ่ย? สุขสันต์วันวิสาขบูชานะคะ อิ่มบุญกันถ้วนหน้าเน้อ ^^' แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 49 00:30:28 จากคุณ : PinkyPiE - [ วันวิสาขบูชา 00:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีค่ะ ไม่ได้มามีตติ้ง ขอส่งรีวิวหนังสือแทนตัวสักสองเรื่องค่ะ Not the end of the world ของ Kate Atkinson ชอบชื่อเรื่องนี้เป็นพิเศษ พออ่านหนังสือจบยิ่งชอบใหญ่เลย เอาไว้เตือนตัวเองเวลาเจอเรื่องที่ชวนให้หงุดหงิดใจว่ามัน Not the end of the world น่า Not the end of the world ดูเหมือนหนังสือรวมเรื่องสั้น แต่เป็นเรื่องสั้นที่ยึดเนื้อหาตามแนวชื่อเรื่องทั้งหมด และในแต่ละเรื่องมีตัวละครเกี่ยวพันกันไปมากับเรื่องอื่นๆ แบบหลวมๆ จะอ่านแบบเรื่องสั้นทีละเรื่องก็ได้ แต่ถ้าอ่านต่อกันไปและพยายามเชื่อมโยงตัวละครของแต่ละตอนเข้าด้วยกันจะสนุกกว่าค่ะ เรื่องแรกเป็นเรื่องของสองสาวที่ออกช็อปปิ้ง ด้วยกันพร้อมความฝันต่างๆ นานาท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เสื่อมทรุดลงทุกวัน เรื่องสั้นที่ตามมาหลังจากนั้นมีตัวละครแตกต่างกันไป และเน้นเรื่องราวต่างกันไป แต่มีจุดร่วมอยู่ที่สถานการณ์ซึ่งชวนให้รู้สึกถึงความอับจน เปลี่ยวเหงา หรือไม่มีความสุข และลงท้ายด้วยความรู้สึกอย่างชื่อเรื่อง – Not the end of the world ส่วนเรื่องสุดท้ายย้อนกลับมาที่สองสาวคู่เดิมอีกครั้ง กับความพยายามหาความสุขให้ชีวิตที่ความหวังริบหรี่ลงทุกวันก่อนจะถึงวาระสุดท้าย อ่านสนุกค่ะ ยังคงสไตล์ของเคท แอตกินสันเต็มเปี่ยม คือมีตัวละครที่พฤติกรรมเพี้ยนๆ และเรื่องราวบางตอนออกแนวเหนือจริง แต่ที่แน่ๆ คือยังมีอารมณ์ขันแสบๆ คันๆ ตามแบบของแอตกินสัน ทำให้อ่านได้เพลินและไม่เครียดทั้งที่เนื้อหาออกแนวหม่นอึมครึม ขอแนะนำนะคะ หนังสือเล่มบาง ภาษาอ่านง่าย ใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของแอตกินสัน ลองอ่านเรื่องนี้ของเธอก่อนแล้วถ้าชอบก็ลองอ่านเรื่องยาว (งานชิ้นแรกๆ ของเธอ) อย่าง Behind the scene in the museum หรือ Emotionally Weird อาจจะถูกใจก็ได้ค่ะ จากคุณ : ป้าเองค่ะ (น้ำคำ) - [ วันวิสาขบูชา 03:01:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 The Accidental By Ali Smith ตั้งใจหาเรื่องนี้มาอ่านค่ะ เพราะเป็นหนังสือที่เข้ารอบสุดท้ายของ Booker Prize และได้รับรางวัลดีเด่นสาขานวนิยายของ Whitbread ด้วย เรื่องของครอบครัวสจ๊วร์ตระหว่างการเดินทางไปพักร้อนนอกเมืองค่ะ ครอบครัวนี้ประกอบด้วย อีฟ นักเขียนที่เพิ่งมีผลงานขายดี เธอมีลูกติดจากสามีเก่าสองคนคือ แมกนัส หนุ่ม 16 กับ แอสตริด สาวน้อยวัย 12 ส่วนไมเคิลสามีที่แต่งงานกันมานานเป็นอาจารย์สอนวิชาวรรณคดีอยู่ในมหาวิทยาลัย ทุกคนในครอบครัวต่างจมอยู่กับโลก และความลับของตัวเอง  แมกนัสอยู่กับความรู้สึกผิดที่การกระทำบางอย่างทำให้เพื่อนสาวร่วมโรงเรียนต้องฆ่าตัวตาย  อีฟ กำลังอยู่ในภาวะตีบตันเขียนหนังสือเรื่องต่อไปไม่ออก ไมเคิลมีสัมพันธ์กับลูกศิษย์สาวๆ แลกกับการให้เกรด  ส่วนแอสตริดหมกมุ่นอยู่กับกล้องถ่ายวิดิโอและความรู้สึกว่าไม่มีเพื่อน  แล้วโลกของทุกคนก็เปลี่ยนไปเมื่อแอมเบอร์ หญิงสาวแปลกหน้าที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปก้าวเข้ามาในครอบครัว  ขณะที่ไมเคิลคิดว่าเธอเป็นคนที่มาขอสัมภาษณ์อีฟ ส่วนอีฟคิดว่าเธอเป็นนักศึกษาสาวที่ตามมาสานความสัมพันธ์กับไมเคิลถึงบ้าน  กว่าจะรู้ตัวแอมเบอร์ก็เข้ามาสนิทสนมกับแอสตริดและแมกนัสจนสองสามีภรรยาต้องปล่อยเลยตามเลย เรื่องแบ่งเป็นสามตอนง่ายๆ เริ่มต้น ตอนกลาง และตอนจบ  แบ่งตอนย่อยโดยเล่าจากมุมมองและความหมกมุ่นของตัวละครแต่ละตัว  ไล่ไปจนถึงตอนสุดท้ายที่ความลับต่างๆ ของแต่ละคนเปิดเผยออกมาให้คนอื่นรับรู้ ไม่ค่อยชอบนะคะ  อ่านด้วยความรู้สึกรำคาญ เพราะรู้สึกว่าตัวละครบางตัวไม่น่าสนใจเอาเลย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวแม่ และลูกสาว  ตัวไมเคิลซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยออกจะน่าสนใจอยู่บ้าง แต่วิธีการนำเสนอความคิดที่ให้เต็มไปด้วยการอ้างอิงถึงวรรณกรรมคลาสสิกนี่ออกจะมากไปหน่อย  ส่วนตัวแอมเบอร์สาวลึกลับก็ออกจะลับซะจนน่ารำคาญ บางคนอาจชอบการเขียนสไตล์นี้นะคะ  ต้องยอมรับว่าบางช่วงน่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะการเอาเรื่องราวสารพัดในหนังมาร้อยรวมกันเป็นฉากๆ ในบางตอน (ซึ่งคอหนังอาจจะอ่านได้สนุกมาก) รวมทั้งการอ้างอิงวรรณกรรมต่างๆ นานา เรื่องนี้ไม่เชียร์นะคะ แต่ถ้าใครได้อ่านแล้วลองมาคุยกันก็ดีค่ะ ว่าชอบหรือไม่ อย่างไร บางทีป้าอาจจะได้มุมมองใหม่ๆ ขึ้นมาบ้าง จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ วันวิสาขบูชา 03:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ระยะนี้ป้าอ่านหนังสือได้เยอะค่ะ  คงเป็นเพราะตอนหัวค่ำไม่มีละครให้ดูอย่างตอนอยู่เมืองไทย เลยได้ใช้เวลาอ่านหนังสือจริงๆ จังๆ เสียดายอยู่นิดว่าหนังสือเท่าที่มีอยู่ส่วนใหญ่เป็นหนังสือเก่าทั้งนั้น ถ้าเอามารีวิวสงสัยจะโดน (แอบ) โห่ว่าเชยระเบิด อยากได้คำแนะนำจากคนในนี้ค่ะ ว่ามีหนังสือไทยออกใหม่เล่มไหนบ้างที่ป้าไม่น่าพลาด ทั้งหนังสือเก่าที่พิมพ์ใหม่ และหนังสือเขียนใหม่นะคะ รบกวนส่งเข้าประกวดสักห้าเล่ม มีเวลาเข้ากรุงเทพฯ ตอนกลางปีจะหาซื้อกลับมาค่ะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ วันวิสาขบูชา 03:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หวัดดีค่ะ ไม่รู้ยังจำกันได้ป่าว ปอเองนะคะ ^^' ช่วงหลังงานเยอะมากๆๆ เรียนหนักสุดๆๆๆ ไม่มีเวลามาอ่านหรือตอบทู้เท่าไหร่เลย แย่เนอะ บ้านช่องก็ไม่ได้กลับ วันๆ อยู่ใน cubicle ตรวจงานเด็ก ไม่ก็อ่านหนังสือ ทะเลาะกับอาจารย์ ไปตามเรื่องตามราว แต่ก็มีความสุขแบบเรื่อยๆ ดีนะคะ ให้แลกกับชีวิตอย่างอื่นก็คงไม่เอา ฮ่าๆ แบบว่าเริ่มเป็นจิต หลงใหลในการศึกษาเข้าอย่างแรง โดยเฉพาะเวลาอ่าน theories แปลกๆ แล้ว เก้ทนี่ นับได้ว่าเป็นความสุขอย่างหนึงที่หาได้ยากยิ่งในชีวิตอ่ะค่ะ แหะๆ (พูดเหมือนเนิร์ดเลย แต่ก็ใช่นะ ปอเป็นเนิร์ดดด ฮ่าๆๆๆ) จะบอกว่า แวะมาวันนี้ไม่ได้มาทักทายเปล่านาคะ แต่เอาอัพเดทหนังสืออื่นๆ ที่ไม่ใช่หนังสือเรียน หรือ required texts มานำเสนอด้วยค่ะ บางเล่มชอบมาก บางเล่มชอบน้อย แต่ก็จะรีวิวทุกเล่มนะคะ เยอะหน่อยๆ ทนเอาหน่อยนะคะ พี่น้องห้องสมุดทุกท่าน ^^ เล่มแรก By the River Piedra I Sat Down and Wept by Paulo Coelho เล่มนี้คุ้นๆ ว่าพี่พัทเคยพูดถึงนานแล้วว่าเป็นหนังสือรักที่ดีมาก แถมยังมีความรักความหลังอะไรด้วยอีกต่างหาก แหะๆ มีอยู่วันเซ็งๆ คุณแฟนหยิบให้อ่าน บอกว่าเล่มเล็กดี ยูคงอ่านจบเร็ว อ่านไปแล้วถึงตอนกลางเรื่องไม่อยากให้จบเลยค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก ศรัทธาในศาสนา แต่ในมุมมองใหม่ นักเขียนเสนอว่าศาสนาในปัจจุบันค่อนข้างบุรุษนิยม แต่ในความเป็นจริง ศาสนายังมีด้าน feminine side ที่ทำให้เราเข้าใจชีวิตและความรักได้มากยิ่งขึ้น ภาษาที่เขียนในเรื่องนี้สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีประโยคสวยๆ แต่ง่ายๆ ให้ได้จำมาใช้เยอะ ที่ชอบมากๆ ก็มี waiting is painful, forgetting is painful, but not knowing which to do is the worst kind of suffering แอบโดนใจ เวลาต้องรออะไรโดยไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี (อย่างรอผลสอบ ทำอะไรก็ไม่ได้เงี้ย) ทรมานโคดๆ นางเอกในเรื่องนี้ค่อนข้าง lost และ independent ส่วนพระเอกนี่กรี้ดมากเลยค่ะ ดูนิ่งๆ แต่ว่านะ ความรักของเค้าที่มีให้ Pilar นี่น่าประทับใจมาก แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เลี่ยนน่าเบื่อจนเกินไป แต่คุณแฟนปอไม่ชอบนะคะ เค้าบอกว่าเรื่องนี้ Coelho เสียศูนย์ ไม่น่าประทับใจเท่าเรื่องแรกๆ หรือเรื่องหลังมาหน่อย เหมือนเขียนในระหว่างที่เพิ่งสร้าง masterpiece เสร็จ แล้วกำลังจะสร้าง another masterpiece ประมาณว่าเป็นงานคั่นเวลา แต่คุณแฟนก็ชอบมากๆ ในแง่เกี่ยวกับศาสนา and พระเอก as a spiritual leader นะคะ เค้ายังบอกเลยว่าคล้ายๆ เรื่องเราสองคนเลยนะ (ตรงไหน?!?!?!?) เรื่องนี้ปอไม่ชอบแค่ตอนจบค่ะ มันไม่ค่อย fulfill ยังไงไม่รู้ อธิบายไม่ถูกอ่ะค่ะ แหะๆ สรุป ให้ 9.9/10 เลย ส่วนภาษาเกินสเกลจะให้ แบบว่าประทับใจจัด เล่นเอาอยากอ่านภาษาสแปนิชออกเลยค่า :D แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 49 08:14:11 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ปอ (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เล่มที่สอง Possession ของ A.S. Byatt เรื่องนี้คุณแฟนปอชอบมาก ถึงขั้นเอาใส่ไว้ในโปรไฟล์ favorite book เลยว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่ชอบบบบที่สุด ไอ้เราก็หลงเชื่อ หยิบมาอ่านบ้าง เชื่อป่าวคะว่าอ่านไปได้ chapter เดียว แค่ตาพระเอกไปหา manuscript อะไรนั่น ในห้องสมุดก็ปิดทิ้งแล้ว เหอๆ ภาษาเขียนไม่ชวนให้อ่านอย่างแรง แถมช่วงนี้ปอออกแนว shallow ไม่ค่อยชอบอ่าน เรื่องรักอะไรที่เขียนเป็นจดหมายตอบไปมา ตามแกะรอยปริศนารักเมื่อหลายร้อยปีก่อน ฮ่าๆ แค่หนังสือเรียนแนวนี้ก็ทุกข์ใจพอแล้ววววววววว ไม่มีคะแนนให้ค่ะ เพราะอ่านไม่จบ อาจจะเป็นหนังสือที่ดีก็ได้ แต่ปอว่ามันน่าเบื่อหน่อยๆ แหะๆ อ้อ ลืมบอกไปว่าหนังสือเล่มนี้ดังมากกก ที่นี่อ่ะค่ะ ได้รางวัลหลายรางวัล แต่ปอไม่ค่อยเชื่อในมาตรฐานอะไร พวกนี้อยู่แล้ว เพราะโลกนี้มันซับซ้อนเกินกว่าจะมาตัดสิน กันได้แค่ตราประทับไม่กี่ตราค่ะ จากคุณ : ปอ (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เล่มที่สาม The Feast of Love ของ Charles Baxter เล่มนี้ไปเดินๆ ร้านหนังสือในมหาลัย อารมณ์อยากอ่านอะไรง่ายๆ สบายๆ เบาๆ อ่านปกหลังเรื่องนี้แล้วน่ารักดี เลยซื้อมาอ่านซะเลยค่ะ ใจง่ายม่ะ เปิดเรื่องมาก็เป็นคนเขียนเรื่องนี้เองเลยนอนไม่หลับ เลยออกไปเดินชมจันทร์ในเมือง Ann Arbor (ฮ่าๆ inside joke) ไปเจอคู่รัก make love กันในสนามบอลของมหาลัย แล้วก็ไปเจอเพื่อนบ้านนอนไม่หลับ เหมือนกัน เพื่อนบ้านเลยเล่าเรื่องชีวิตรักของตัวเองให้ฟัง ก็มีความรักของคนหลายแบบดีค่ะ ตั้งแต่ bradley กับหมาของเค้า ซึ่งชื่อ bradley เหมือนกัน เรื่องราวของ Kathryn ภรรยาคนแรกของ Bradley ที่ทิ้ง bradley ไปหาผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เพราะเห็นว่าผู้ชายไม่เข้าใจอารมณ์ส่วนลึกของผู้หญิง (แอบเห็นด้วย ฮ่าๆ) Diana ภรรยาทนายความ Agatha น้องสาวของ Bradley คู่รักวัยรุ่น Chole กับ Oscar ที่ traditional อย่างไม่น่าเชื่อ (ขัดกับรูปลักษณ์ gothic looks) อะไรประมาณนี้ ภาษาที่ใช้ในเรื่องสวยแบบเรียบง่ายค่ะ หลายตอนอ่านแล้วต้องยิ้ม ^^ ชอบตอนที่แบรดลี่ย์เล่าถึงภรรยา คนแรกตอนยังรักกันมากๆ แบบนิ่งๆ ง่ายๆ แต่สวยงาม ตรึงใจไปหลายวันเลย อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้คิดได้ว่าชีวิตคนเรานั้นมีหลายรูปแบบนัก จะมองโลกด้านเดียวหาได้ไม่ ซึ่งสามารถโยงไปถึงพวกทฤษฎีเกี่ยวกับ multiplicity of truth ได้เลยอ่ะค่ะ สรุปปอชอบเรื่องนี้มากพอสมควร ให้ 9/10 ละกัน (คะแนนเฟ้อมาก แบบว่าเราใจดี แหะๆ) เรื่องนี้ไม่มีรูปนะคะ เพราะตอนจะถ่ายรูป ดันหาไม่เจอซะงั้น สงสัยหายไปในความรกซะแล้ว อ้อ ลืมบอกไปด้วยค่ะ ว่าที่ถ่ายรูปมาแปะเอา เพราะขี้เกียจไป search amazon แล้วเซฟเก็บไว้ในเครื่องอ่ะค่ะ (เหตุผลแปลกๆ เนอะ - -) จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เล่มที่สี่ เก่าหน่อยนะคะ The Grass is Singing ของ Doris Lessing เล่มนี้คุณแฟนยุให้อ่านหลายทีแล้ว แต่ปอไม่อยากอ่านเท่าไหร่เพราะเข็ดกับพวก settler novel แนว postcolonial ที่มีแต่ความรุนแรงเศร้าใจ อย่าง Coetzee's Disgrace เป็นต้น แต่บังเอิญต้องเขียนงาน เกี่ยวกับ dystopia novels เลยหยิบมาลองอ่านดูตามคำแนะนำค่ะ ก็เป็นเรื่องของ Mary and Dick Turner ที่ไปตั้งรกรากทำฟาร์มอยู่ในแอฟริกาใต้ ชีวิตที่นั่นเต็มไปด้วยความลำบาก ดิ๊กทำฟาร์มไม่เป็น เห็นแก่ตัว และอ่อนแอเกินไป ส่วนแมรี่ก็แต่งงานเพียงเพราะอยากหนีไปจากสังคมนินทาในเมือง และอยากหนีชีวิตโสด ชีวิตของพวกเขาเป็น tragedy อยู่แล้ว จนกระทั่ง คนงานผิวสี ชื่อ Moses ปรากฎตัวขึ้น เรื่องจบลงด้วยความโศกเศร้าและความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบของคนขาวในแผ่นดินที่ไม่ใช่ของเขา แม้พวกเขาจะพยายามอ้างความเป็นเจ้าของก็ตามที หนังสือเขียนได้ชวนติดตามมากๆ (สำหรับปอนะคะ หลายคนอาจจะไม่ชอบ เพราะบรรยายแหลก และภาษา ที่ใช้บรรยายนั้นก็ไม่ได้สวยงามอะไร) แต่อ่านแล้ววางไม่ลงไปจนจบเล่ม อ่านจบแล้วทั้งขนลุก ทั้งเศร้าใจ และทั้งอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก สำหรับคนที่เรียนทางด้านการต่อต้านอาณานิคมมาแสนนานอย่างปอ ฮ่าๆ ให้ 10/10 ค่ะ จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อีกรูปค่ะ ข้างหน้า จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เล่มที่ห้า ได้มาจากร้านหนังสือไทยตอนไปแอลเอค่ะ ลำเนาลม ของกิ่งฉัตร จริงๆ เรื่องนี้อ่านมานานแล้ว แต่จำเรื่องไม่ค่อยได้ เห็นร้านที่แอลเอขายแค่หกเหรียญก่าๆ เลยหยิบมาอ่านซะหน่อย เป็นเรื่องชีวิตนักเรียนนอก ในฝรั่งเศสอ่ะค่ะ แต่อ่านแล้วคุ้นมากกก เหมือนเกิดในเมกาได้ด้วย ฮ่าๆ ไม่ชอบตัวละครสักตัวเลยในเรื่อง ทั้งกันตยศ จิลลา ชเล ศวัส คมกฤช ก็เข้าใจนะคะว่าผู้เขียนคงอยากให้สมจริงมากๆ ไม่มีใครดี ไม่มีใครชั่วสมบูรณ์แบบ แต่อ่านแล้วมันอึดอัดอ่ะ เศร้าๆ ด้วยค่ะ เลยทำให้หงุดหงิดนิดหน่อย เล่มนี้ไม่มีรูปนะคะ เพราะให้เพื่อนยืมไปแล้วยังไม่กลับเลยอ่ะ - - แล้วก็ ปอไม่ชอบ sterotypes บางอย่างในเรื่อง เลยตัดคะแนนลงมาหน่อยเป็น 8/10 นะคะ อ้อ ลืมไปว่าภาษาที่ใช้ในเรื่องอ่านง่ายสบายใจ มีคำน่ารักๆ และมีแง่มุมให้ได้คิดหลายตอนทีเดียวค่ะ ^^ เล่มที่หก บูรพา ของ ว.วินิจฉัยกุล ค่ะ เล่มนี้แม่ของน้องโรงเรียนส่งมาให้ เลยได้อานิสงส์ ขออ่านไปด้วยเลย แฮ่ จริงๆ เคยอ่านเมื่อนานมากแล้วนะคะ ตั้งแต่มันยังพิมพ์แยกเป็นสองเล่มอยู่อ่ะ แต่เวอร์ชั่นของคุณน้องนี่เป็นเล่มเดียวอ่ะ ดูหนา บ้าพลังพอใช้ได้ ก็เป็นเรื่องความรักข้ามเชื้อชาติของเจ้านายไทยกับสาวอังกฤษแสนสวย ผิวผ่องแบบพีชกับครีมนะคะ มีทั้งอุปสรรค ความเศร้า สะเทือนใจ การจากเป็นและจากตายของหลายตัวละครครบสูตร เรื่องนี้ปอชื่นชมผู้เขียนตรงที่ค้นหาข้อมูลมาได้แน่นมาก แต่อยากจะสารภาพค่ะว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คือชอบพลอต และการดำเนินเรื่องนะคะ สวยงามสุดๆ แบบประทับใจโคตรๆ แต่ว่าไม่ชอบแคธรีนเลยอ่ะ เป็นนางเอกที่ไม่ชอบขึ้นอันดับหนึ่งในใจ ไม่ใช่เพราะเธอเป็นคนต่างชาตินะคะ แต่ชีมั่นแบบแปลกๆ ไปหน่อยอ่ะ คล้ายๆ คนที่รู้จักบางคนเลย แหะๆ อ่านไปเลยเกิดอาการโยงไป ไม่เป็นกลาง เลยไม่ค่อยออกรสเท่าไหร่ แต่ความอคติก็ไม่อาจบดบังความดีของหนังสือได้ค่ะ ให้ 9/10 เล่มนี้ก็ไม่มีรูปค่ะ เพราะคืนน้องไปแล้ว :D ปล แก้คำสะกดผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 49 07:27:11 จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เล่มที่เจ็ด The Rings of Saturn ของ W.G.Sebald เล่มนี้อ่านตามคุณแฟนอีกแล้วค่ะ เห็นหน้าพี่แกอินเหลือหลายตอนอ่าน เลยไปตบมาอ่านมั่ง ไม่เข็ดว่าจะกลายเป็น Possession reborn โอ้ว เปิดเรื่องมาได้น่าทึ่งกึ่งน่าเบื่อมากๆ มีภาพประกอบด้วยตลอดเล่ม แต่อ่านวางไม่ลงค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของตัวเอกที่เมืองชายฝั่งทะเลอังกฤษ แถบๆ East Anglia เนื้อเรื่อง จะตีความให้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ the decline of British colonialism ก็ได้ หรือจะอ่านให้เป็น Holocaust testimony ก็ได้ หลอน อึ้ง ทึ่ง ตะลึง มากๆ ค่ะ แต่จะมีน่าเบื่อเล็กน้อยตอนแรกๆ ถ้าใครได้อ่านแล้วช่วยบอกหน่อยนะคะว่า silk ในเรื่องนอกจาก represents colonialism แล้วยังหมายถึงอะไรได้อีกบ้าง :D ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ แอบเอาไปเขียนเปเปอร์ด้วย ให้ 10/10 (อย่าคาดหวังกะคะแนนปอนะคะ มันเป็นไปตาม ความชอบ และโรคจิตส่วนตัว) จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เล่มที่แปด Crossing the Mangrove ของ Marsye Conde เล่มนี้อ่านเป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ จริงๆ แล้วอยากอ่านภาษาอังกฤษมากกว่า แต่หาไม่ได้ แง่งๆๆ เลยยอมอ่านภาษานี้ก็ได้ฟะ ถึงแม้จะช้ากว่าภาษาอังกฤษร้อยเท่าก็ตาม เปิดเรื่องมาก็เร้าใจแล้วค่ะ เป็นความตายแบบ violent ของ Francis Sancher ชายหนุ่มลึกลับ ที่เดินทางเข้าไปในหมูบ้าน Riviere au sel เพื่อเขียนนิยาย และเพื่อค้นหา identity ของตัวเอง แต่กลับจบลงด้วยความตาย เรื่องนี้ไม่มีตัวเอกเลยค่ะ แม้แต่ FS เองก็ไม่ใช่พระเอก แต่ละบทเล่าผ่านมุมมองของตัวละคร แต่ละตัว ที่มารวมกันเพื่อถามว่า who is he for me? ซึ่งคำถามนี้ล้วนนำไปสู่คำถามหลักอันเป็นแก่นของเรื่อง คือ who am i เพราะเรื่องนี้เป็นการตามหา identity ที่หายไปของ Caribbean อ่ะค่ะ ตัวละครแต่ละตัวมีภูมิหลังที่น่าสนใจมากๆ ล้วน แสดงถึงความเป็นแคริบเบียนในแบบต่างๆ กัน เรียกได้ ว่ามีทุกตอนของประวัติศาสตร์ มีทั้ง พวกที่สืบตระกูลมาจากนายทาส มาจากทาส พวกชนชั้น elite ที่ได้รับการศึกษา ในระบบฝรั่งเศส และพวก indentured servants โทนของเรื่องมีทั้งหม่นมืดและสวยงามค่ะ ส่วน FS จะเป็นใครมาจากไหน ค้นหา identity พบหรือไม่ แก้คำสาปของตระกูล ได้หรือไม่นั้น ต้องลองไปตามอ่านกันดูค่ะ หลงรักเรื่องนี้สุดใจ แต่อย่างที่บอกนะคะ ปอเป็นโรคจิตหน่อยๆ ชอบอ่านเรื่องเพี้ยนๆ (คุณแฟนบอกมา) คะแนนอาจจะเชื่อถือไม่ได้ ให้ 100/10 เลยค่ะ ฮ่าๆ จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เล่มที่เก้า  Ourika ของ Claire de Duras เล่มเล็กๆๆ บางมากๆๆ ค่ะ อ่านไม่นานก็จบ เล่มนี้ปออ่านฉบับแปลจากฝรั่งเศสมาเป็นอังกฤษ เขียนตั้งแต่สมัย ศตวรรษที่ 18 มั้งคะ หลัง French Revolution อ่านตอนแรกหงุดหงิดว่าทำไม Eurocentric จัง ไม่ชอบๆๆ แต่พอมานึกได้ว่าเค้าเขียนตั้งนานแล้วถึงได้ทึ่งในความใจกว้างของ Duras เลยค่ะ (คนละคนกะ Marguerite Duras ที่เขียน L'Amant หรือ The Lovers อันลือลั่นนะคะ) เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกๆ ก็ว่าได้ค่ะที่ตัวเอก ผู้เล่าเรื่องเป็นคนผิวสี Ourika เป็นลูกกำพร้าชาว Senegalese ที่มีคนเก็บมาให้ Madame B ในฝรั่งเศสเลี้ยง เพื่อให้พ้นจากความเป็นทาส แต่ในเมื่อเธอเกิดมาเป็นคนผิวสีเสียแล้ว ก็ไม่มีวันหลุดพ้นจาก racial melancholia (ศัพท์คุณแฟน) ไปได้ และยิ่งเมื่อเธอไปหลงรัก Charles หนุ่มไฮโซผู้กำลังจะแต่งงานด้วยแล้ว เรื่องก็ยิ่งเศร้า การศึกษา และการเลี้ยงดูอย่างดีของ Madame B ไม่อาจช่วยเธอได้เลย อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้ปอคิดถึงนิยาย Victorian น้ำเน่าๆ หลายๆ เรื่อง ที่นางเอก (คนขาวชาวอังกฤษ หน้าตาน่ารักพีชกับครีม etc) ตกระกำลำบาก แต่ก็ได้ดี upgrade ชีวิตขึ้นมาได้เพราะการแต่งงาน และการศึกษา เศร้านะคะที่ Ourika ไม่มีโอกาสเช่นนั้น ทั้งที่มีการศึกษาเหมือนกัน มีความสามารถในหลายๆ ด้านอีกด้วย เพียงเพราะเธอเป็นคนผิวสีเท่านั้นเอง เล่มนี้ให้ 9/10 ค่ะ จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เล่มถัดมา เห็นขาวๆ ลุ่นๆ แบบนี้ ปกเค้าสวยนะคะ แต่ปอทำหายไปแล้ววว หายไปในความรกของบ้านแหล่ะค่ะ - -' มันคือ The Mermaid's Chair ของ Sue Monk Kidd เล่มนี้ซื้อมามั่วๆ เพราะเห็นวางเด่นอยู่ในร้านหนังสือของมหาลัย ปอไม่ได้อ่านเล่มแรกของซู คือ The Secret life of Bee ที่หลายคนชอบกัน เลย no clues มากว่าแนวเค้าเป็นยังไง แต่ก็ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะเทอมต่อมา ไปร้านเดิมอีก มันกลายเป็นปกอ่อน national bestseller ไปแล้ววว ดีใจนะเนี่ย นานๆ ทีจะซื้อปกแข็ง แล้วเห็นมันกลายเป็น bestseller ซะที ^^ แต่ปออ่านๆ ไปแล้วไม่ได้ประทับใจมากเป็นพิเศษนะคะ เพราะไม่ค่อยชอบหนังสือแนวชู้ๆ เท่าไหร่ ทั้งที่มันก้ไม่ได้ชู้ hardcore อะไร ก็เป็นเรื่องของนางเอกที่ยังไม่รู้ว่าอะไรขาดหายไปในชีวิต ต้องเดินทางจาก Huge สามีสุดหล่อ ไปยังเกาะเล็กๆ ในชายฝั่งทะเลแคโรไลน่าใต้ เพื่อไปดูแลแม่ที่อยู่ๆ ก็ลุกขึ้นมา ตัดนิ้วตัวเองแล้วเก็บไว้ในขวดแยม บนเกาะอันแสนสวยและเปี่ยมมนต์ขลังนี้เอง เธอก็ได้พบกับ whit พระหนุ่มนิกาย benedictine ที่มาบวชหลังจากภรรยาตายจากไป เรื่องนี้พอเดาได้ตลอดเรื่อง ตอนจบก็พอเดาได้ค่ะ ภาษาก็สวยดี อ่านได้เรื่อยๆ เพลินๆ เวลาฝนตกแล้วอยากไปเที่ยวทะเล :D ชอบเรื่องนี้ตรงที่เอาตำนานเกี่ยวกับนางเงือก อันเป็นสัญลักษณ์ของหญิงสาวทรงเสน่ห์ที่เฝ้ายั่วยวนให้ชาวประมงจมน้ำ แต่นางเงือกตนนี้กลับ converted และกลายเป็น Saint มาผูกเข้ากับเรื่องได้อย่างลื่นไหลและงดงาม น่าจะถูกใจคนชอบตำนานสวยงาม เรื่องรักสะเทือนใจ แต่จบน่าประทับใจ ฉากสวย และการค้นหา place to live ของผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว (ออก สตรีนิยม หน่อยๆ อ่ะค่ะ) คงชอบเรื่องนี้ ปอเดาว่าคงถูกแปลภายในเวลาไม่นาน ให้ 8/10 ค่ะ จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ่ะ ให้เห็นชื่อชัดๆ ค่ะ :D จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เล่มที่สิบเอ็ด Drive Me Crazy ของ Eric Jerome Dickey ฮ่าๆ เรื่องนี้คุณแฟนแบนห้ามอ่านซ้ำ แต่ปอกลับชอบแฮะ ทั้งที่มันเป็นเรื่องชู้อย่างรุนแรง ฮ่าๆๆๆ แต่ปอไม่แอนตี้อ่ะ เพราะพระเอก และนางเอก ในเรื่องนี้ มีอะไรน่าค้นหามากๆ เป็นนิยาย African American นะคะ นักเขียนคนนี้ฮิตมากพอสมควร เล่าไม่ได้อ่ะ ไม่รู้จะเล่ายังไงไม่ให้สปอยล์ เอาเป็นว่าสนุกมากๆๆๆๆ ภาษาสวยแบบสมัยใหม่ อ่านง่ายแต่ประทับใจ ปออ่านวันเดียวจบเลย สนุกโคตรๆๆๆๆ มีฉากต่อสู้แบบดุเดือดเลือดพล่าน แก้แค้นกันแบบสุดแรงเกิด และฉากติดเรทแบบ African American (ฮี่ๆ เล่าไม่ถูก ต้องอ่านเองค่ะ) เรียกได้ว่า drive me crazy จริงๆเลย ทำให้ต้องไปซื้ออีกหลายๆ เล่มของคนนี้มาอ่าน แต่กลับทำหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ซะงั้น เศร้าๆๆๆ เล่มนี้ให้ 10/10 (บอกอีกทีละกันค่ะว่าปอโรคจิต อาจจะไม่สนุกสำหรับคนหลายค่ะ โดยเฉพาะคนชอบเรื่องละเมียดๆ สวยๆ ลึกซึ้งๆ) จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เล่มที่สิบสอง เล่มนี้รักมากค่ะ เพราะทำให้พบรักและรักยิ่งๆ ขึ้นไปกะคุณแฟน ฮ่าๆ The Essence of Christianity ของ Feuerbach ทุกวันนี้เวลามีคนถามว่าเราสองคนรักกันได้ยังไง คุณแฟนจะตอบเสมอว่า Feuerbach introduced us to each other ฮ่าๆ ใครที่ไม่รู้จักฟอเยอบาค ก็จะถามต่อไปว่า ใครเหรอ your classmate? 555 ตลกดี เล่มนี้ George Eliot แปลค่ะ เป็นบรรทัดฐานให้กับงานเขียนของเอเลียตในยุคต่อๆ มา โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับ morality ต่างๆ ทำให้เห็นว่า Eliot เป็นนักเขียนที่นิยมสัจจะ และเลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องของเธอออกมาได้อย่าง สัจจนิยม (realism) ขนาดไหน และเธอเป็นนักเขียนที่หัวก้าวหน้าเพียงใด (ปอชอบเรื่อง Middlemarch ของเธอมากๆ ค่ะ) อ่านไม่ยากมากค่ะ แต่ชวนให้คิดเยอะเหมือนกันเกี่ยวกับแก่นของศาสนา และชวนให้คิดต่อด้วยว่า มนุษย์เรานั้นไม่มั่นคงและโดดเดี่ยวจริงหรือไม่ ขออนุญาตไม่ให้คะแนนนะคะ เพราะไม่รู้จะให้ยังไงอ่ะ - - แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 49 08:39:53 จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เล่มที่สิบสาม Bone by Fae Myenne Ng เล่มนี้จริงๆ แล้วเป็นหนังสือเรียนเมื่อเทอมก่อนอ่ะค่ะ แต่เทอมนี้นึกไงไม่รู้เอามาอ่านใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเเลือกสำหรับคนที่ชอบวรรณกรรมคนจีนโพ้นทะเลค่ะ Bone เป็นเรื่องของครอบครัวชาวจีนอพยพครอบครัวหนึ่งใน Chinatown ของ San Francisco ประกอบไปด้วยแม่ผู้เข้มแข็งและสวย แต่ก็แตกอยู่ลึกๆ ข้างใน พ่อเลี้ยงผู้เป็น loser ของสังคมอเมริกัน และลูกสาวสามคนสามแบบ ที่มีชีวิตแตกต่างกันออกไป แต่ละคนต่างพยายามดิ้นรนหาความเป็นตัวของตัวเอง เรื่องเริ่มขึ้นที่ความตายของ Ona ลูกสาวคนกลาง ที่ดูเงียบและปรับตัวได้มากที่สุด แต่จนจบเราก็ยังไม่แน่ใจ ว่าทำไมโอน่าถึงตาย เขียนได้ดีและสะเทือนใจมากๆ ค่ะ ทำให้ได้คิดอีกเยอะเกี่ยวกับ American Dream สังคมที่เหยียดผิว และการตัดสินว่าใครเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะ น่าเศร้าที่การดิ้นรนทั้งหมดกลับจบลงที่ ร่างกายอันแตกสลายของโอน่า ให้ 10/10 ค่ะ จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เล่มที่สิบสี่ Provincializing Europe ของ Dipesh Chakrabarty นักวิชาการคนนี้เคยฟังเค้าพูดไปเวลา conference พอไปซื้อหนังสือเรียน เห็นหนังสือเล่มนี้ขายอยู่ในกองของภาควิชาประวัติศาสตร์ เลยหยิบติดมือมาอ่านด้วย อ่านยากพอสมควรเลยค่ะ แต่นำเสนอแนวคิดได้น่าสนใจดี เกี่ยวกับการเขียนประวัติศาสตร์ (historiography) ว่าที่ผ่านมาล้วนเขียนโดยในยุโรปเป็นศูนย์กลาง โลกที่สาม หรืออะไร ล้วนถูก defined ด้วยความสัมพันธ์ที่มีกับยุโรป หรืออเมริกาทั้งสิ้น แม้แต่ในประวัติศาสตร์ของประเทศโลกที่สามเอง ก็ยังเขียนโดย based on ประวัติศาสตร์และวิธีการคิดแบบยุโรป จนทำให้โลกที่สามไม่มี ปวศ เป็นของตัวเองที่แท้จริง ตอนนี้ถึงเวลาหรือยังที่โลกที่สามจะลุกขึ้นมาเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ โดยไม่ได้อยู่บนพื้นฐานแบบยุโรป เพราะแท้จริงแล้วปวศ สากล ไม่ว่าจะเป็น metanarratives or universal history นั้นไม่มีจริง ประวัติศาสตร์ปรากฎในหลายรูปแบบ หลายเรื่องเล่า ขึ้นอยู่กับว่าใครจะตีความ ก็ออกแนว Foucauldian นิดนึงนะคะ แต่อ่านได้เรื่อยๆ ยากเหมือนกันในบางตอน บางตอนก็น่าจดโน้ตไปใช้มากๆ ให้ 8.5/10 ค่ะ จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มีอีกรูปอ่ะค่ะ :D จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เล่มที่สิบห้า The Magician's Assistant ของ Ann Patchett อันนี้เห็นในอเมซอนบอกว่าดี เลยใจง่ายสั่งมาอ่านซะเลย ฮ่าๆ อ่านไปได้ตอนเดียวก็เลิกค่ะ ไม่ชอบ ไม่รู้ทำไม ฮ่าๆ แย่เนอะ แต่เนื้อเรื่องน่าสนใจนะคะ เป็นเรื่องของนักมายากลที่ตายไปอย่างกระทันหัน แล้วภรรยาม่ายของเขาต้องเดินทางไปบ้านเกิดสามี ที่เนบราสก้า เพื่อจะค้นพบว่าครอบครัวที่สามีบอกว่าตายไปแล้วนั้น ที่จริงแล้วยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ทำไม ปออ่านไปๆ แล้วนึกถึง The Mulberry Tree ของ Jude Deveraux ยังไงชอบกล น่าจะออกแนวคล้ายๆ กันค่ะ ใครชอบแนวนี้ก็ลองหาอ่านดูได้ค่ะ ^^ จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:53:09 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อีกสองเล่ม ตามหน้าปกเลยนะคะ เพิ่งซื้อมาเมื่อวานค่ะ กำลังอ่านอยู่ ไว้ปออ่านจบเมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ :D เล่มแรกค่ะ จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 07:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เล่มที่สองค่ะ :D เล่มนี้อ่านไปได้หน่อยนึงแล้ว ตั้งต้นได้สนุกดี ไม่รู้ต่อไปจะเป็นยังไง เป็นอีกด้านหนึ่งของ เทพนิยายซินเดอเรลล่า แต่เล่าผ่านมุมมองของพี่สาว หน้าตาไม่สวยอ่ะค่ะ :D จากคุณ : por (pornarak) - [ วันวิสาขบูชา 08:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 49 กรี๊ดๆๆๆ ปอบ้าพลัง เอิ้ก ทั้งหมดนั่นพี่เคยอ่านไม่กี่เล่มเอง สนเรื่อง provincializing Europe แฮะ แต่ตอนนี้หวัดงองแงมเลยเอาแต่นอน ไม่ได้อ่านอะไรเลย น้องบลู มีตติ้งเริ่มเที่ยงเป็นต้นไปค่า จากคุณ : Il Maze - [ วันวิสาขบูชา 10:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 50 กรี๊ดดดดดด ปอๆๆๆๆๆ คิดถึงจังเลย โห รีวิวยาวเหยียดให้อ่านจนชื่นใจเลยค่ะ คิดถึงมากๆ อย่าหายไปอีกนะคะ ที่แนะนำมาี พี่เพติ๊ดกำลังสนใจ Sue Monk Kidd กับ W.G. Sebald อยู่มากๆเลย โดยเฉพาะคนหลัง วนๆหยิบๆจับๆอยู่นานเหมือนกันค่ะ ดีเลย ปอแนะนำ วันไหนว่างๆจะได้ไปซื้อหามาอ่านซักหน่อยแ้ล้ว ส่วน Doris Lessing ก็น่าสนนะคะ เห็นเพื่อนพี่ก็บอกว่าดี แต่พี่กลัวว่ามันจะหดหู่ง่ะ (เพราะเพื่อนพี่คนที่ชอบก็เลิฟ disgrace ซะเหลือเกิ๊น) ฮ่าๆๆๆ ดีใจจัง มีคนไม่ชอบ possession เหมือนเราเลยแฮะ น้องปอคนสวย ขวัญใจเรานี่เอง น่าเบื่อมั้ยหนู พี่อ่านแล้วเบื่อโคตรเลย อ่านไม่จบเหมือนกันเลยค่ะ ยิ่งตอนเขียนไดอารี่นี่น่าเบื่อสุดๆ พี่เขวี้ยงทิ้งเลย จบยังไงไม่รู้ไม่สนแล้ว เสียเวลาทำมาหากิน 555555 คิดถึงจริงๆนะคะ อยากอ่านที่ปอเขียนมานานนนนน มากแล้ว มาทีเป็นโหลเลยวุ้ย อ่านซะช่ำปอด 55555  (เอ่อ ... ถ้าไม่นับ possession นะคะ เห็นคุณแฟนอ่านหนังสือแล้วท่าทางน่ารักนะคะ  หล่อมั้ยเอ่ย? ฮี่ๆๆๆ) แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 49 20:09:02 จากคุณ : พี่เพติ๊ด (petitfour) - [ 13 พ.ค. 49 19:58:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 Happy Birthday P'Pat สุดสวยย้อนหลังนะคะ แหะๆ รู้ว่าช้าไปหน่อยยยย ;p ยังรักและคิดถึงพี่พัทเหมือนเดิมค่ะ อยากได้ไรทางนี้ก้อบอกมาเรยนะค้า ^^ จากคุณ : por (pornarak) - [ 13 พ.ค. 49 22:18:20 ]

ความคิดเห็นที่ 52 กรี๊ดดดดดดด คุยกันทุกวันลืมได้ไงเนี่ย แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะจ๊ะ พัทสุดสวย ช้านิดช้าหน่อยไม่ว่ากันน้า ขอให้สวยขึ้น รวยขึ้น ทุกวันๆๆๆ เป็นที่รักของคนรอบข้างและเจ้าบุ้งกี๋ไปนานๆๆๆ อ้อ หายป่วยไวๆด้วยนะ กรี๊ดอีกทีให้คุณน้องปอ มาทั้งที่มาเป็นชุดเลยนะยะ แล้วรีวิวแต่หนังสือที่อิชั้นต้องปีนกระไดอ่านทั้งนั้นเลย ฮ่วย! ตอนนี้อ่าน จินตนาการไม่รู้จบ อยู่ค่ะ ของอมรินทร์ สนุกดีจังเลย พัทจ๋า ไว้วันที่ 20 เค้าจะเลี้ยงขนมเค้กไถ่โทษนะ อิอิ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 13 พ.ค. 49 22:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อุ๊ยๆๆ ย้อนหลังปอเมื่อเดือนที่แล้วด้วยนะจ๊ะ คำอวยพรลอกของพี่พัทเลยจ้า ก้าก เค้กก็แบ่งกับพี่พัทนะจ๊ะ อิอิ ปล.รูปจากห้องอาหารการกินนะคะ ขอบคุณ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 13 พ.ค. 49 22:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อุ๊ยตาย ลืมไปด้วยคน แฮปปี้เบิร์ทเดย์จ้ะ เพื่อนรัก ขอโทษด้วยจ้ะที่เมื่อวานรีบคุยรีบวาง ขอโทษจริงๆ มีความสุข สวย รวย เริ่ด นะจ๊ะ อิๆ แล้วเจอกันวันที่ยี่สิบ จากคุณ : ปลาวาฬน้อย(ลุมพินี) - [ 13 พ.ค. 49 22:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 55 โอ้ สุดยอดมากเลยค่ะ น้องปอ กินยาโด้ปมารึเปล่า? (สนใจเล่มที่ว่าติดเรทสุด ๆ เลยอ่า) Happy Birthday (ย้อนหลัง) น้องพัทและน้องปอด้วยค่ะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดสมดังปรารถนานะคะ อ่าน The Magician's Assistant จบค่ะ  ตอนอ่านเซ็งนรก จะวางอย่างน้องปอก็หลายรอบ แต่ตอนนั้นอยู่ริมทะเล..จำใจต้องอ่าน  ยกนิ้วให้ว่าสำนวนคนแต่งหลอกให้ตามอ่านมาก  ถ้าไม่เกิดรำคาญขึ้นมาเสียก่อนว่าไม่เกิดอะไรขึ้นสักที ช่วงนี้โทรม แวะมาทักสั้น ๆ ละกัน จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 14 พ.ค. 49 05:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่ได้ลืมคุณป้านะคะ ยกมาตอบพิเศษคนเดียว ฮี่ๆ (ขอสารภาพว่ายังไม่ได้อ่านเสียส่วนใหญ่ค่ะ) - แนะนำชุด Modern Classic ของมติชนค่ะ น่าสนทุกเล่ม   โดยส่วนตัวตอนนี้ อยากอ่าน 'บึงหญ้า ป่าใหญ่' ที่สุด - ความสุขของกะทิ ของคุณงามพรรณ เวชชาชีวะ - คุณป้าสนกำลังภายในฝีมือคนไทยไหมล่ะคะ?  ตอนนี้มีเรื่อง "เงาอักษรใต้กระบี่" (หรือใต้คมกระบี่หว่า?) ออกมา 2 เล่ม แต่ยังไม่จบ  ... แอบอ่านไปนิดหน่อย น่าสนดีค่ะ - เล่นแร่แปรธาตุ ของ มุกหอม วงษ์เทศ - เขียนแผ่นดิน ของ เปลว สีเงิน - เขียนฝันด้วยชีวิต ของ ประชาคม ลุนาชัย - ปุชิตา ของ บินหลา สันกาลาคีรี - ถ้าเป็นแฟนของวสิษฐ เดชกุญชร รู้สึกจะมีเรื่อง ประกาศิตอสูร ออกมาเล่มค่ะ เป็นภาคต่อของบ่วงบาศ  (ไม่เคยอ่านอยู่ดี เลยไม่สน) ตอนนี้นึกออกเท่านี้  ไว้นึกอะไรออกแล้วจะมาเพิ่มเติมค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 14 พ.ค. 49 06:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอเพิ่มเรื่องนอน ของศักดิ์ชัย ลัคนาวิเชียร แล้วก็มีอีกหนึ่งฟางฝันของคุณจิระนันท์ ตามด้วยหนังสือของลูกชายคนเล็ก Theory of Life วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล aimless wanderer การเดินทางใต้เงาตึก วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ แล้วก็มีหนังสือนักเขียนไทยวัยยังอ่อนอยู่ที่เมื่อสองเดือนก่อนลงในกรุงเทพธุรกิจด้วยนะคะ น่าสนมากเลย พัทฝากปุ๋ยซื้อไว้ วันที่ 20 นี้จะไปเคลียร์หนี้ค่ะ อ้อ มีเรื่องร่างพระร่วงของเทพศิริ สุขโสภาด้วยนะคะ แต่พัทขอสารภาพล่ะพี่ยาคูลท์ว่าไปๆมาๆหลังจากอ่านความสุขของกะทิจบสองเล่มพัทไม่ค่อยชอบเท่าที่คิดแต่แรก ไม่ใช่เพราะตัวเรื่องหรือภาษานะคะ ภาษาน่ะดีมากเลย นุ่มนวล อ่อนโยน แต่ที่ไม่ชอบเพราะพัทรู้สึกว่ามันดูมีชนชั้นยังไงไม่รู้ (อันนี้ถ้าไม่ถูกใจใครที่รักหนังสือเล่มนี้ต้องขอโทด้วยมากๆนะคะ) คือครอบครัวของกะทิอันประกิบไปด้วยคุณตา อดีตนักเรียนเก่าอังกฤษ ชอบฟังแผ่นเสียงของอีฟ มงตง ยาย อดีตเลขาชาวต่างชาติ พูดภาษาฝรั่งเศสได้ แม่ อดีตทนายนอกฝือมือเป็นเลิศ เหมือนยกครอบครัวผู้ดีมีฐานะ ชาติตระกูล ความประพฤติงาม ฯลฯ ไปไว้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในอยุธยายังไงไม่รู้ค่ะ แล้วตอนที่สะกิดใจมากคือตอนที่กะทิต้องคิดโครงการขายของแล้วคิดไปออกไปปรึกษาตา ตาก็จะพูดว่าตระกูลพจนวิทย์ไม่ค่อยมีเลือด 'เซ็งลี้' ซักเท่าไหร่ โหย อ่านแล้วมันแบบ นี่คอนเซ็ปสมัยวิคตอเรียนรึเปล่าเนี่ย ผู้ดีต้องเลือดสีน้ำเงินกับค้าขายไม่เป็น ไอ้ความรู้สึกที่มีมาเอง (อย่างไม่ตั้งใจและไม่ได้จับผิดจริงๆ) ทำให้รู้สึเกแปร่งๆกับหนังสือเล่มนี้ไปพอสมควร อ่านแล้วต่างกับช่างสำราญของเดือนวาด พิมวนาอย่างคิดยังไงก็คิดไม่ตกเลยจริงๆค่ะ แล้วคุยกันค่ะ จากคุณ : Il Maze - [ 14 พ.ค. 49 07:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีค่ะ สวัสดีคุณปอเป็นพิเศษ ดีใจด้วยค่ะที่ชีวิตเป็นสุขตามอัตภาพ ...และหาเวลาว่างมากระหน่ำรีวิวหนังสือจนได้ เออแน่ะ...คุยกันมานานตั้งแต่คุณไอซ์ยังขวนขวายให้ได้ด็อก และคุณปอเริ่มชีวิตนักเรียนด็อก... แป๊บๆๆๆ... โตเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ใกล้จบ กำลังเป็นคุณหญิง คุณนายกันหมด ป่านนี้ลูกของสมาชิกรุ่นต้นๆ อย่างคุณหมี่คงโตเป็นสาวเรียบร้อยแล้ว Time flies เนาะ ... เพิ่งอ่าน Black Swan Green ของ David Mitchell จบค่ะ ขอบอก ว่าในชีวิตการอ่านหนังสือของป้านี่เป็นหนังสือภาษาอังกฤษใหม่เอี่ยมเล่มแรกที่ควักกระเป๋าตัวเองซื้อในราคาเต็มจริงๆ แถมเป็นเล่มใหญ่เสียด้วย... (เท่าที่ผ่านมา เคยแต่ซื้อลด ซื้อมือสอง และอ่านของห้องสมุด... หนังสือใหม่เอี่ยมที่ได้มักเป็นคนอื่นควักกระเป๋าซื้อให้ค่ะ) ตั้งแต่เห็นหนังสือเล่มนี้ที่ร้านก็กระสับกระส่าย อยากอ่านมากแต่คิดว่าเอาไว้ไปดูที่ร้านหนังสือมือสองเมืองไทยดีกว่า แต่ก็อดใจไม่ไหวค่ะไปซื้อมาจนได้ คนที่บ้านรำพึงว่า ป้าคงหลงใหลนายเดวิด มิทเชลล์เอามากๆ ไม่ผิดหวังค่ะ สมกับที่หลงรักนักเขียนคนนี้ เป็นเรื่องของเด็กชายวัยสิบสามที่เขียนได้สนุกมาก ผู้เขียนยังฉลาดแหลมคมสร้างตัวละครที่น่าสนใจให้คนอ่านติดใจได้ตามเคย แถมยังมีโบนัสเล็กๆ ให้คนที่ติดตามหนังสือของเขา ด้วยการยกเอาตัวละครจาก cloud atlas มากล่าวถึงให้หายคิดถึงด้วย ขอสารภาพค่ะ ว่าทั้งที่เดาได้ว่าจะจบอย่างไร พออ่านถึงครึ่งหน้าสุดท้ายยังไม่วายตาพร่า.. เป็นชู้ทางใจเข้าไปแล้วค่ะ หลงรักนักเขียนหนุ่มคนนี้จริงๆ จังๆ (ส่วนกิ๊กเก่าอย่างคุณปู่มาร์เกวซ ขอเก็บขึ้นหิ้งไว้ก่อน) เฮ้อ... คงต้องรออีกอย่างน้อยสองปีกว่าจะได้อ่านหนังสือของเขาอีก ไม่รู้ใครน่าสงสารกว่ากันนะคะ ... นักเขียนที่ใช้เวลา 2 -3 ปีเขียนหนังสือหนึ่งเล่ม หรือคนอ่านที่อ่านจบใน 4 - 5 วัน ยกให้ Black Swan Green เป็นหนังสือแห่งความประทับใจในต้นปีนี้ค่ะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 14 พ.ค. 49 16:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณค่ะคุณพัท - คุณยาคูลท์ ป้ามีบึงหญ้าป่าใหญ่ฉบับพิมพ์ครั้งแรกของสนพ.ดวงตา โน่นแน่ะค่ะ เล่มหนาเชียว เป็นหนังสือที่ทำให้นึกถึงวัยเด็กค่ะ ชอบมาก ส่วนหนังสือกำลังภายในถ้ายังไม่จบขอบายค่ะ   เพราะสำหรับป้าถ้าจะอ่านกำลังภายใน... ถ้ามิจบไม่เลิกรา... สมัยเด็กๆ ต้องหิ้วหนังสือกำลังภายในจากห้องสมุดกลับบ้านทีละ 10 - 20 เล่มบ่อยๆ เพราะถ้าอ่านค้างอาจลมปราณแตกซ่านได้ง่ายๆ สนใจ เล่นแร่แปรธาตุ นอน และเขียนฝันด้วยชีวิต เป็นพิเศษค่ะ อ้อ ร่างพระร่วงด้วยค่ะ ส่วนของวรรณสิงห์ ประเสริฐกุลนี่เคยอ่านบทความของเขา...ไม่ค่อยประทับใจนะคะ คงต้องบอกผ่าน คุณยาคูลท์ไม่เคยอ่านเรื่องชุดสารวัตรธนิต ของคุณวสิษฐหรอกหรือคะ  (ชุดเลือดเข้าตาน่ะค่ะ)  บู๊ดีออก แนว action-thriller แบบไทยๆ  บ่วงบาศเป็นสารวัตรธนิตภาคบรรลุธรรมค่ะ ป้าชอบนะ แต่ผู้ชายบางคนที่เคยเป็นแฟนชุดเลือดเข้าตาบอกว่าไม่ชอบ เพราะพระเอกหยุดฆ่าคน... วันนี้คุยยาว... ขอพอแค่นี้ก่อนค่ะ อ้อ..เห็น Black Swan Green แล้วอุดหนุนกันหน่อยนะคะ นักเขียนขวัญใจป้าจะได้รวยๆ อ่านแล้วชอบไม่ชอบมาบอกกันบ้างเน้อ.. จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 14 พ.ค. 49 16:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 60 รอดูสถานที่ครับ^^ จากคุณ : Nutonline - [ 14 พ.ค. 49 19:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ Nutonline คะ ตกลงว่าเป็น food loft เซ็นทรัลชิดลม ตั้งแต่เที่ยงเป็นต้นไปค่ะ   พัท พี่ก็รู้สึกหมั่นไส้กะทิเพราะความเป็น elite ของครอบครัวเธอตั้งแต่อ่านแล้วล่ะ  อีกจุดคือการตัดสินใจได้อย่างนางเอ๊กนางเอกของเด็กอายุ 10 ขวบ ที่พี่ว่ามันสวยเกินไปหน่อย  แต่สำนวน การวางโครงเรื่องและอะไรหลายอย่างในเล่มนี้มันดีมากจนไม่ค่อยคิดถึงข้อเสียน่ะ เรื่อง 'หลับ' นี่เคยไปเปิดอ่านแล้วค่ะ  แต่มันเหวอ ๆ อ่านไม่เข้าใจยังไงก็ไม่รู้  อาจต้องลองไปอ่านทั้งเล่มในร้านดูอีกทีเพื่อตัดสินใจ  เพราะล่าสุด อ่าน 'หมูบินได้' ขององอาจ ชัยชาญชีพที่เคยเหวอตอนอ่านไม่กี่หน้า  พอมาอ่านรวดเดียวทั้งเล่ม กลับชอบมากกว่าที่คิดแฮะ คุณป้า สรรหาชู้ทางใจไว้ครบรุ่นเลยเชียวนะคะ ^^ แทบไม่เคยอ่านของพลตำรวจเอกวสิษฐเลยคะ  ตอนมติชนพิมพ์งานแนวนี้ออกมา กำลังบ้านิยายแปล เมินแนวนี้ไปเต็ม ๆ  ยิ่งเป็นชุดด้วยแล้ว ยิ่งไม่อยากตามอ่านเลยค่ะ (ไม่มีเงินน่ะ) ไปทำงานก่อนค่ะ  พรุ่งนี้จะได้แวะบุ้คกาซีน (ถ้าไหว)  มีคูปอง/สมัครสมาชิกฟรี จะไม่ใช้ก็เสียดาย  ... แต่ดูแนวโน้มแล้วคงต้องปล่อยทิ้งไปแน่เลย  ขี้เกียจเข้าเมือง เฮ้อ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 14 พ.ค. 49 20:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 62 โอ๊ะ ลืมขอบคุณแม่ยกที่อวยพรวันเกิด ขอบคุณมากๆนะคะ :) ฝากบอกข่าวเซลล์ค่ะ (หมู่นี้ปันกับพี่กลางหายไปเลยแฮะ) แผนกรองเท้าและกระเป๋าสตรีเซ็นทรัลทุกสาขาเซลล์ซื้อคู่แรก ลดคู่สอง 30-50% แต่ต้องเป็นยี่ห้อเดียวกันหรือถ้ามีป้าย only@Central ก็ซื้อด้วยกันได้ค่ะ คุ้มค่าคุ้มราคามั่กๆ บางยี่ห้อลด 30% เดี่ยวๆด้วยนะคะ จากคุณ : Il Maze - [ 15 พ.ค. 49 07:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 63 หวัดดีค่าเพื่อนๆ ไม่ได้แวะเข้ามาเสียนานเลย มีนัดมีตติ้งกันอีกแล้ว อ่านแล้วคิดถึงวันที่ไปนั่งคุยๆๆๆๆ กัน ฟังกันสนุกสนานมากเลย คิดถึงพี่เพติ๊ดพี่คุยเก่งฟังเพลินไปเลย คิดถึงน้องพัท น้องพัทเค้าหน้าสวยเหมือนนางในวรรณคดีมากๆ เลยจริงๆ นะ อยากรู้ว่าเหมือนแค่ไหนต้องไปงานมีตติ้งนะคะเพื่อนๆ Happy Birthday ย้อนหลังให้น้องพัทคนสวย กะน้องปอด้วยนะคะ ขอให้สวยวันสวยคืนเน้อ ไอซ์ผอมลงหน่อยหรือป่าวเอ่ย ว่าแต่หนังสือเยอะมากเลยหล่ะ ของไอซ์ซื้อสองวันเนี่ยเท่ากับพี่สะสมมาเป็นปีๆ เลยนะนั่น สืบเนื่องมาจากทู้ก่อนที่พี่ติ่มถามไว้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ (ต้องย้อนขึ้นไปอ่านตั้งเยอะแน่ะ) ตอนแรกว่าจะกลับกลางปีหน้าอ่ะคะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจเป็นกลับช่วงใกล้ๆ ปลายปีนี้แทนค่ะ คิดถึงๆๆ อยากกลับบ้าน พอดีวันนี้เปิดทีวี เจอข่าวว่าหนังสือเรื่อง Devil wears Prada กำลังจะทำเป็นหนังแล้ว ชอบใจนักแสดงนำผู้หญิงมากเลยค่า ชอบมาตั้งแต่เรื่อง The Princess Diaries แล้ว คนอะไรไม่รู้ตาโต๊โต หน้าก้อค๊มคม ทักทายเพื่อนๆ ทุกคนด้วยค่า จากคุณ : Bigcrab - [ 15 พ.ค. 49 19:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สวัสดีค่ะ หายไปนานมากๆ เลย ช่วงนี้จับปลาหลายตัวมากเลยค่ะ แต่ยังไม่ได้ซักตัว เริ่มตั้งแต่... มงกุฏจันทรา1 เจ้าแห่งรัตติกาล (ถึงเล่ม2แล้วค่ะ) ดาวห่มฟ้า เริ่มต้นที่คนสองคนเจอกัน The  Notebook จินตนาการไม่รู้จบ คุณติ่มซำ งานหนังสือไม่ได้เข้าบู๊ทมติชนเลยค่ะ งานของHMลดตั้ง50% แน่ะ อยากอ่านNWมากๆ เลย สงสัยจะอ่านไม่จบหรือไม่ก็เป็นเพราะไม่ได้อ่านDCแน่ๆ เลยค่ะ  จึงรู้สึกว่ารู  ออฟ  โฟร์  คล้ายรีดเดอร์+ดาวินชี่  โค้ด  แต่ความลุ่มลึกสู้รีดเดอร์ไม่ได้เลย  ยิ่งถ้าเทียบความอลังการของดาวินชี่ก็ห่างชั้นหลายขุม  แต่โดยรวมก็ชอบแหละค่ะ  เดี๋ยวจะลองอ่านดูอีกซักรอบ เอ่อ... ขอถามคนเคยอ่านจินตนาการฯนิดว่าอ่านยังไงให้สนุกคะ อ่านตามสีหรือว่าอ่านรวดเดียวเลย แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 49 22:06:46 จากคุณ : นราชล - [ 15 พ.ค. 49 22:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 65 น้องพัทเค้าหน้าสวยเหมือนนางในวรรณคดีมากๆ เลยจริงๆ นะ ^ ^ เห็นด้วยค่ะ ปกติงามคมขำดั่งนางละเวง แต่ยามโกรธา น่าจะเป็นนางผีเสื้อสมุทรรึเปล่า? แว้ก.. ล้อเล่นๆๆ  อย่าปาอะไรมานะ!  (จะแต่งกลอนชมโฉมแล้วล่ะ แต่สมองตัน เปลี่ยนเป็นแซวดีกว่า) วันก่อนกำลังคิดอยู่เชียวว่าน้องปูหายไปเลย  ส่วนตาลฝากความคิดถึง (หลังไมค์) มาให้ทุกคนค่ะ  น่าเสียดายที่น้องปันกับคุณ tc บอกมาแล้วว่าจะไม่ไป  งานนี้เลยขาดมาลีงาม ๆ ไปอีกสองดอก คุณนราชล ใช่เดอะ รีดเดอร์ที่เป็นเรื่องของสาวแก่เต๊าะเด็กหนุ่มรึเปล่าคะ?  ถ้าเอาเล่มนี้เป็นมาตรฐาน..คงเทียบกันยากแน่นอนล่ะค่ะ 555   เพิ่งอ่าน เรื่องรักเบอร์ห้า ของปราย พันแสง จบ ใครชอบวิสวาวา ซิมโบร์สกา เจ้าของกลอนในหนัง "ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา"  แนะนำเล่มนี้ค่ะ  มีแปลกลอนของวิสวาวาออกมาสองสามบท  แล้วก็มีเรื่องสั้นของมูราคามิ  ซึ่งขอบอกว่า "โดน" มากเลย ...แต่จะให้เริ่มอ่านไตรภาคมุสิกก็ยังไม่อยากเริ่มแฮะ ไม่ว่างยาวขนาดนั้น ไว้คุยกันค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 16 พ.ค. 49 09:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 66 Happy birthday น้องๆ ย้อนหลังหลายวันเลย ขอให้มีความสุขมากๆ หวังสิ่งใดก็ขอให้สมตามความมุ่งมาดปรารถนาค่ะ ไม่ได้หายไปไหนค่ะ ยังตามอ่านกระทู้ แต่พอจะมาโพสท์ทีไร (เมื่อวานก็เริ่มเขียนไปได้หน่อย) ก็มีเรื่องมาแทรกทุกที มีตติ้งคราวนี้ไปไม่ได้ เพราะนัดไปแรลลี่กับที่บ้านไว้แล้ว เสียดายๆ ไว้งวดหน้าฟ้าใหม่ จะเบี้ยวงานไปมีตติ้งกับเขาสักครั้ง งวดนี้ขอรับใช้คนที่บ้านก่อนค่ะ หนังสือเพิ่งอ่านโรมานซ์จบไป 4 เล่มรวด ซื้อมาแบบเดาสุ่มๆ ของ Tara Janzen แต่ อ่านแล้วเนื้อเรื่องโอเคเลย เกิดอาการตาลาย เลยว่าจะเอารัสปูตินมาอ่านต่อ เห็นปันอ่านเสร็จแล้วและรีวิวไว้ในบล็อกเรียบร้อย จากคุณ : tc - [ 16 พ.ค. 49 09:51:42 A:203.151.122.254 X: TicketID:115840 ]

ความคิดเห็นที่ 67 แค่อยากมาบอกคุณ Clear Ice ว่าเป็นแฟนหนังสือที่คุณแปลด้วยค่ะ ชอบการแปลของคุณมาก ไม่เสียอรรถรสของหนังสือเลย (ทั้งๆที่ปรกติไม่ชอบอ่านหนังสือแปล เพราะอยากทำความเข้าใจกับมันเองน่ะค่ะ) แค่นี้แหละค่ะ ขอให้สร้างสรรค์ผลงานที่ดีให้คนอ่านต่อไปนะคะ จะรอตามซื้อค่ะ จากคุณ : 2nd Ave. - [ 16 พ.ค. 49 12:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เอ่อ เข้าทู้คราวนี้ร้อนๆหนาวๆ เอาเป็นว่านางในวรรณคดีนี่ได้แค่ผีเสื้อสมุทรจริงอย่างพี่ยาคูลท์ว่าแล้วกันค่ะ (พี่ปูคะ ขอบคุณมาก แต่วันหลังห้ามอำกันในทู้อย่างนี้นะพี่ เวลาเจอคนเค้ามันอาย) เอาเป็นว่าคอนเฟิร์มแล้วนะคะ Foodloft ชิดลม วันเสาร์ที่ 20 นี้ ตั้งแต่เที่ยงเป็นต้นไป ปุ๋ยจะช่วยจองโต๊ะให้ ไม่แน่ใจว่าในชื่อพัทหรือปุ๋ย จองไว้ประมาณ 15 ที่ ยังไงลองถามพนักงานดูนะคะ โต๊ะไหนที่มีสาวๆนั่งกันอยู่รวมสิริอายุแล้วได้สองพันปีก็โต๊ะนั้นล่ะค่ะ เสียดายจังที่ปันกับพี่ tc มาไม่ได้ อดเจอกันเลย โอกาสหน้านะคะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 49 07:31:29 จากคุณ : Il Maze - [ 17 พ.ค. 49 07:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เย้ๆ วันที่ 20 ไม่ต้องรีบกลับแล้วค่ะ เพราะงานแต่งแพทเค้าเลื่อนไปเป็นวันที่ 28 พระราชินีเสด็จด้วย ไปดีมั้ยเนี่ย กลัวรถติดอะ แต่งานใหญ่อย่างนี้อาหารน่าจะดี กร้าก เดี๋ยวจะจองโต๊ะให้นะคะ ใครที่ไม่เคยไป ฟูดลอฟท์จะมีสองชั้น ถ้าชั้นแรกไม่เจอ ขึ้นบันไดไปดูชั้นสองนะคะ แต่เดี๋ยวจองโต๊ะได้แล้วจะมาบอกอีกทีว่าได้ชั้นไหน ล่าสุดที่อ่านจบไป คือเรื่องจินตนาการไม่รู้จบค่ะ สนุกมากกกกก อ่านแล้วทึ่งจังเลย แม้ว่าจะไม่มีอภินิหารอะไรมาก แต่การผูกเรื่องทำให้รู้ว่าผู้เขียนเต็มไปด้วยจินจนาการสมชื่อจริงๆ เจอกันวันที่ 20 นะคะ ^_^ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 17 พ.ค. 49 09:12:12 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สงสัยจะไป meeting เสาร์นี้ไม่ได้แล้ว ต้องขอโทษคุณ Clear Ice ด้วยนะคะที่นับคนไปแล้ว ขอเป็นคราวหน้าแล้ว จะติดตามข้อมูลอยู่เรื่อยๆ นะคะ จากคุณ : SPARROW99 - [ 17 พ.ค. 49 10:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 71 อยากไปด้วยจัง ลุงเขายืมหนังสือมาเล่มนึงจากห้องสมุดที่ทำงาน หนังสือใหม่มากกกกก... ชื่อ 1001 BOOKS YOU MUST READ BEFORE YOU DIE แค่ชื่อเรื่องก็แหมมม... ชาตินี้จะอ่านหนังสือได้ถึง 300 เล่มหรือเปล่าก็ไม่รู้ (แต่บางคนในทู้น่าจะซื้อเกินจำนวนนี้ไปแล้ว 5555) ก็มีรายชื่อหนังสือเด่น กับเรื่องย่อและคำวิจารณ์น่ะค่ะ list พวกนี้ดูเอามันส์ค่ะ ไม่มีปัญญาวิ่งตามเขาบอกหรอก (แค่หนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน 100 เรื่องนั่น ป้ายังอ่านไม่ถึง 25 เรื่องเลยมั้ง) หรือจะอ่านไว้อวดฉลาดก็ได้ แบบ...ความจริงไม่เคยอ่านหรอกแต่รู้ไปหมด... เขาแบ่งหมวดทีละศตวรรษน่ะค่ะ อ่านแล้วก็ได้ความรู้เรื่องวรรณคดีบุร่ำบุราณของฝรั่ง (เริ่มมาตั้งแต่ ยุคก่อนค.ศ.1700) เห็นเรื่องแรกก็ตายตาหลับแล้วค่ะ... นิทานอีสป... ข้อมูลบอกว่า first edition 4BCE แต่กว่าจะได้ตีพิมพ์ก็ ปี 1475 โน่น พลิกดูหนังสือยุคหลังๆ อือ...มีหลายเล่มที่เราเอามาคุยกันในทู้ด้วยละ มี fingersmith ด้วยนะ แต่ไม่ยักกะมี davin ci code กับ Bridget Jones' แฮะ ถึงจะยังไม่ได้อ่านทั้งสองเรื่อง แต่ป้าว่าหนังสือสองเล่มนี้มีบทบาทสร้างกระแสในตลาดหนังสือไม่ใช่เล่นเลย หนังสือ 1001 Booksเล่มนี้มาจากอังกฤษค่ะ นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ก็เป็นค่ายอังกฤษ ก็เลยไม่น่าแปลกใจที่นิยายร่วมสมัยมากกว่าครึ่งเป็นของนักเขียนอังกฤษ และประเทศในเครือจักรภพ ที่ชอบมากคือภาพประกอบค่ะ มีภาพนักเขียนสวยๆ เยอะทีเดียว และภาพประกอบหนังสือรุ่นเก่าก็สวยมาก ราคา 20 ปอนด์ แค่ภาพประกอบก็ดูเพลินแล้วค่ะ น่าเสียดายที่ป้าไม่มีเครื่องสแกน เดาว่าคิโนคินูยะน่าจะมีเล่มนี้มาวางขาย ถ้าเห็นลองเปิดดูนะคะ อาจได้เห็นภาพนักเขียนในดวงใจหลายคน มีภาพ Harper Lee ผู้เขียน To kill a mocking bird เท่ซะ... ภาพปก 1984 ฉบับภาษาเยอรมัน เซ็กซี่จนลืมไปว่าเป็นหนังสือการเมือง ภาพ Yokio Mishima โพสอย่างซามูไรเตรียมพร้อมฆ่าตัวตาย กล้ามเป็นมัดเชียวค่ะ แต่อ่านคำบรรยายแล้วเศร้ามากเพราะนักเขียนคนนี้ฆ่าตัวตายด้วยวิธีการเดียวกัน จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 17 พ.ค. 49 11:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ช่ายค่ะ คุณป้า มิชิม่าฆ่าตัวตาย เหมือนกับคาวาบาตะอาจารย์ของเขาเลยค่ะ แต่ขอบอกว่า มิชิม่าหน้าตาล้อออหล่ออออออ มากๆๆๆๆๆ พระเอกสุดๆอ่านผลงานพี่แกมาหลายเรื่องเครียดๆทั้งน้าน อ่านจนเลิกอ่าน ไม่เคยรู้เล้ยว่าพี่แกจะหล่อเหลาปานเนี้ยะ เห็นรูปในคิโนะแล้วถึงกับยืนตกตะลึง เคลิ้มไปเลยค่ะ กร้ากกก ถึงกับต้องไปขุดหนังสือคุณพี่แกมาอ่านใหม่ แบบว่าเรามาคืนดีกันนะคะมิชิม่า ถึงจะเครียดไปหน่อย แต่หล่ออย่างเงี้ยะ ยังไงก็สู้ตายค่ะ เอิ๊กกกก ็ฺHBD พัท และน้องปอย้อนหลังด้วยค่า แล้วเจอกันที่มีทติ้งนะคะ พูดถึงกะทิ พี่ก็รู้สึกเหมือนหนูนั่นแหละ ตั้งแต่เล่มหนึ่งแล้ว พี่ว่าครอบครัวคุณหนูกะทิเขาไฮโซผิดปกติ แต่เห็นคนเขากี๊ดเรื่องนี้กันนักกันหนา พี่ก็เลยไม่ไ้ด้ว่าอะไร คิดว่าเราคงโลโซเอง แต่ไม่ค่อยชอบตั้งแต่แรกแล้ว (ไม่ชอบเรื่องที่ตัวละครเอกเป็นเจ้าเป็นนายคนน่ะค่ะ อ่านแล้วทนไม่ค่อยได้ เป็นอคติส่วนตัวค่ะ ขนาดแม่ยังว่าเลย ว่าเธอน่ะอคติเกิน) เลยไม่คิดจะซื้อ แต่สำนวนการเขียนและภาษาน่ะใช้ได้มากๆเลย แต่ว่าตัวละครพี่แกมันชนชั้นศักดินาไปนิ้ด สาวหา้เช้ากินค่ำใช้หนี้บัตรเครดิตแบบพี่เลยไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่ ยิ่งออกเล่มสองเลยยิ่งไม่คิดจะซื้อใหญ่เลยค่ะ อีกอย่างพี่ว่าคุณงามพรรณแกแปล The Trumpet of  swan ของพี่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ พี่เลยไม่ค่อยกรี๊ดแกมากนัก (ของออริจินัล E.b. white เขียนแบบน่ารักกิ๊กเลยค่ะ พี่กับเพื่อนรักหนังสือเล่มนี้กันแบบสุดๆ) ยู้ฮูคุณปู กลับมาเร็วๆนะคะ จะได้เจอกัน เดี๋ยวนี้สมาชิกชาวทู้เราได้ดิบได้ดีโกอินเตอร์กันไปหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ก็นับคนได้เรยยย เหงามากๆๆๆๆๆ กลับมาอยู่ด้วยกันเถอะค่ะ มามะ 5555 แต่ที่คุณป้าพูดถึงหนังสือ 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน หนูขอแนะนำ ฟ้าบ่กั้น ของคุณลาว คำหอมสุดตัวนะคะ เขียนดีเป็นที่สุด ให้ 1000 stars ไปเลย อ่านแล้วปลื้มใจมากๆๆ ไม่เคยรู้เลยว่าคนไทยเขียนหนังสือได้ดีขนาดนี้เชียว (กร้ากกก แบบว่าหลังเขามากๆ) หนูอ่านด้วยความสุขใจ ภาษาแบบว่า โอ้โห คนอีสานเขียนนะเนี่ย เขียนได้ดีขนาดนี้เชียว ยายกะท้ง กะทิ อะไรนั่น ชิดซ้ายไปเลย ไฮโซเกิน สู้แบบอีสาน อีสานของคุณลาว คำหอมไม่ได้ น่ารักเชียว ซื้อ ซื่อ แล้วก็น่าสงสารด้วย อ่านจบแต่ละเรื่องแล้วแบบว่าอึ้งไปนานเลยค่ะ เขียนดีสุดขีด แนะนำสุดตัวเลยค่า (อ่านฟ้าบ่กั้นแล้วบทแปลกลอนเนรูด้ากลายเป็นลิเกไปเลยค่ะ แทบจะต้องใส่ชฏาอ่านแล้วรำป้อออกไปทำงาน 5555555) แค่นี้ก่อนนะคะ ชักเหนื่อยแล้ว แล้วค่อยเม้าท์กันต่อตอนมีทติ้ง จะได้เก็บๆแรงเอาไว้หน่อย 55555 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 49 17:12:26 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 49 17:08:06 จากคุณ : petitfour - [ 18 พ.ค. 49 17:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 73 กี๊ดดด พลาดเลยวันเกิดพี่พัทไป ฮือๆๆ เลิฟๆ ค่ะพี่ มีความสุขมากๆๆๆๆๆๆ แฮปปี้ๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ช้อปเท่าไหร่ก็มีเงินเหลือ ฮี่ๆๆๆๆ น้องปอสุดเลิฟ กินยาโด๊ปมาหรือน้อง จุ๊บๆ คิดถึงน้า พี่ปูคะ ไอซ์เลือกรูปอยู่นานค่ะ รูปนั้นมืดสุดแล้ว ดูอ้วนน้อยสุดค่ะ ฮา ขอบคุณคุณ 2nd Ave. มากๆ เลยค่ะ ((ยิ้มปลื้มแก้มปริไปแว้วว)) จะพยายามต่อไปค่า ไม่เป็นไรค่าคุณ SPARROW99 ไว้งานหน้าก็ได้ค่า คุณป้าคะ ไอซ์ว่า Bridget Jones' ไม่หนุกง่ะ แหะๆๆๆ อิอิ มาสั้นๆ นะคะ หวัดดีทุกคนด้วยยยย เจอลิงก์ฮาๆ เอามาฝากค่ะ ตลกดี เค้าเขียนแซวพวกนิยายแฟนตาซีอะค่ะ กิกิ The Fantasy Novelist's Exam http://rinkworks.com/fnovel/ อ่านแล้วฮาสุดๆ ส่ายหัวด๊อกแด๊กไปเลยอะ ใจความก็คือ คุณ David J. Parker แกบ่นว่า ตั้งแต่ลุง J.R.R. Tolkien กับลุง C.S. Lewis เขียนนิยายแฟนตาซีเยี่ยมๆ ออกมาแล้ว ใครๆ ก็คิดว่าตัวเองแต่งนิยายแฟนตาซีที่มีเอกลักษณ์กันออกมาทั้งนั้น แต่แท้ที่จริงแล้ว นิยายแฟนตาซีเหล่านี้ ก็เหมือนกับนิยายแฟนตาซีดัดแปลง มีแต่พล็อตและตัวละครซ้ำๆ ซากๆ เพราะฉะนั้น นักเขียนที่คิดจะเขียนนิยายแฟนตาซีออกมาเนี่ย ควรทำข้อสอบนี้ดูก่อน ถ้าตอบว่า "Yes" แม้แต่ข้อเดียว แปลว่า "สอบตก" ควรเลิกเขียนนิยายเรื่องนั้นทันที 555 หวัดดีทุกคนค่า ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 18 พ.ค. 49 17:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 74 จองโต๊ะที่ Food Loft ได้ชั้นไหนคะ คุณ Ice ไปต่องาน Diving Expo กันไหมคะ ทริปราคาดีมาก ๆ แบบไม่ไปไม่ได้แล้ว จากคุณ : scuba734 - [ 19 พ.ค. 49 07:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ตกลงจอง Foodloft ไว้ที่ชั้นสองนะคะ เป็นโต๊ะยาว 15 ที่ ใช้ชื่อจองว่ามณฑารัตน์ค่ะ ตั้งแต่เวลา 11 นาฬิกาเป็นต้นไป แล้วเจอกันนะค้า ^_^ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 19 พ.ค. 49 10:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 76 แวะมาแฮปปี้เบิร์ทเดย์คุณพัทย้อนหลังค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ ไปละ รีบ รีบ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 19 พ.ค. 49 13:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ((กระมิดกระเมี้ยน)) หนังสือเล่มใหม่ของไอซ์ออกแล้วล่ะ ปกน่ารักมะ ฮี่ๆๆๆ http://www.jamsai.com/bookstore/basket.asp?proid=974-9962-94-X&submit=Detail&pg=&select1= ปล. กรี๊ๆ พี่ scuba เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ อยากไปดำน้ำจัง คืนครูไปหมดแล้วเนี่ย งือ จากคุณ : มาโฆษณา ฮี่ๆๆๆ (Clear Ice) - [ 19 พ.ค. 49 15:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แวะมาอวยพรวันเกิดย้อนหลัง และขอให้สังสรรค์กันให้สนุกถ้วนหน้า ฝากเม้ากันถึงผมด้วยเน้อ เด๋วจะไปอุดหนุนนะครับคุณไอซ์ หนังสือเล่มใหม่หน้าปกน่ารักจัง คุณบลู ผมง่วนกับการส่งเกรดยังไม่มีเวลาไปส่งของให้เลย แต่รับรองสัปดาห์หน้า ฉลุยแน่ครับ! จากคุณ : Filippo - [ 19 พ.ค. 49 16:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คุณโป้ๆๆ รู้ใจเจงๆ พวกเราเม้าถึงคุณโป้ทุกครั้งเลย อิอิ เม้าว่าคุณโป้อ่ะชอบหนีหน้า เป็นมาสค็อตทู้ซะเปล่า ฮึ่ม หนีหน้ามากๆวันหลังจะบุกไปเจอที่มหาลัยนะเอ้อ จากคุณ : Il Maze - [ 19 พ.ค. 49 19:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ไม่เป็นไรค่ะทุกคน ถึงคุณโป้ไม่ไป ปุ๋ยก็มีลายมือคุณโป้ไปให้ดู เก็บไว้อย่างดีทุกแผ่นนะคะ ขอบอก อิอิ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 19 พ.ค. 49 20:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ตื่นมาสรุปให้นะค้า มีตติ้งวันนี้ วันเสาร์ที่ 20 เซ็นทรัลชิดลม Foodloft ชั้นสอง เป็นโต๊ะยาว 15 ที่ ใช้ชื่อจองว่ามณฑารัตน์ ตั้งแต่เวลา 11 นาฬิกาเป็นต้นไป แล้วเจอกันค่า ^^ ไปนินทาคุณโป้ เอ๊ย ไปเมาธ์กัน ^^ ((ไอซ์คงจะไปเลทง่ะนะ ซักเที่ยงๆ แหะๆๆๆ เพิ่งตื่นๆ + ไม่ค่อยสบายนิดโหน่ยยยย ^^")) แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 49 09:22:30 จากคุณ : Clear Ice - [ 20 พ.ค. 49 09:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 82 มารอฟังพี่ๆ เมาท์ถึงมิตติ้งค่ะ ใครมีรูปส่งมาให้ดูบ้างน้า เสียดายมากๆ อดไป ดันติดงานกะทันหันซะนี่ เฮ้อ!!! ปล.ไม่เป็นไรค่าคุณโป้ ส่งมาเมื่อไหร่บอกด้วยเน้อ จะได้รอรับ ^^ ขอบคุณค่า จากคุณ : PinkyPiE - [ 20 พ.ค. 49 19:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 83 แฮ่ แฮ่ คงรายงานอะไรไม่ได้มาก เพราะแว่บไปนั่งอยู่แค่ได้แป๊บเดียวเองค่ะ บอกได้คำเดียวว่าแก๊งค์นี้มีแต่สาวสวยทุกคนเลย ^_^ จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 21 พ.ค. 49 21:19:56 ]

ความคิดเห็นที่ 84 สงสัยจะโดนอุ้มไปหมดแล้ว พี่ๆ คนสวยกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยหรือเปล่าคะ :) จากคุณ : นารูมิ - [ 22 พ.ค. 49 09:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ว้า ทำไมยังไม่มีผู้ใดมาเล่าเรื่องมีตติ้งเลยล่ะเนี่ย จากคุณ : tc - [ 22 พ.ค. 49 17:07:06 A:203.151.122.236 X: TicketID:115840 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เพิ่งทราบข่าวจาก NYTimes ว่า Stanley Kunitz กวีที่พี่ชื่นชอบผลงานมากๆได้เสียชีวิตลงแล้ว กำลังเศร้าและใจหายมากๆเลยค่ะ Kunitz เขียนกลอนดีมากๆๆๆเลย โดยเฉพาะเกี่ยวกับพื้นเพชาวยิวของเขา (บางบทอ่านแล้วถึงกับเงียบไปเลย) ตัวเขาก็หน้าตาน่ารักเชียวค่ะ แถมบ้านของเขาที่ Provincetown ก็น่ารักมากๆเลย สำหรับคนที่อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขามากกว่านี้ ตามลิงค์นี้ไปได้เลยนะคะ (ฮือๆๆๆ) http://www.nytimes.com/2006/05/16/books/16kunitz.html?_r=1&8bu&emc=bu&oref=slogin จากคุณ : petitfour - [ 23 พ.ค. 49 11:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 87 โอเค เราจะเล่าเป็นคนแรกก็ได้ เนื่องจากดูจะเป็นคนเดียวที่มีเวลาเหลือเฟือ แหะๆ วันมีตติ้งนะคะ ปุ๋ยไปถึงคนแรก ปรากฏว่าเขาจัดโต๊ะไว้ให้ชั้น 1 ค่ะ งงเหมือนกันแต่ถามแล้วก็ไม่ได้คำตอบอะไร เจ้าหน้าที่ที่คุยด้วยเค้าไม่ทราบเรื่อง ก็ไม่เป็นไรค่ะ ไปนั่งๆรอ แป๊บเดียวพี่วาฬน้อยกับพัทก็มาถึงแทบจะพร้อมกันเลย ก็เลยสั่งอะไรมากินแบบไม่รอใครทั้งนั้น 555 ไม่นานพี่เพติ๊ดก็ตามมาค่ะ ต่อด้วยใครอีกหว่า อ้อ ต่อด้วยน้องนารูมิ พี่สกูบ้า แล้วก็ไอซ์ มาไล่ๆกันเลย จำไม่ได้ใครมาก่อนใคร -"- มาถึงก็สั่งไปกินไปคุยไป คนเริ่มเยอะแล้วค่ะเพราะจวนจะเที่ยง พักใหญ่ก็ได้เจอพี่ติ่มซำและพี่หมี่ สมาชิกรุ่นเก๋า เม้ากระจาย คุยสัพเพเหระกันไปนานมากกกกกเลยค่ะ ก่อนจะลุกเพราะเริ่มเกรงใจ คนรอที่นั่งเยอะมากค่ะ ดีนะจองโต๊ะไว้ก่อน หลายคนในคณะบอกว่ามาถึงเห็นแถวยาว แต่พอบอกว่าเพื่อนจองโต๊ะไว้ก็เข้ามาได้เลย อ้อ น้องทินาก็แวบมาค่ะ เห็นแล้วรู้เลยว่ารีบมามากๆ หน้าตาอิดโรยน่าเห็นใจ เลยไม่ได้ต่อว่าอะไรที่อยู่ได้แป๊บเดียวก็ต้องกลับไปทำงานต่อ หาคนแลกเวรไม่ได้ ไว้โอกาสหน้านะจ๊ะ หลังจากอิ่มหนำแล้ว พี่สกูบ้าก็ขอตัวไปดูงาน diving ที่ศูนย์สิริกิติ์ค่ะ เราลงไปดูรองเท้ากันต่อ แหม นัดกันตอนเซ็นทรัลมีงานเซลพอดี๊พอดี แล้วน้องออฟก็ตามมาค่ะ หลังทำให้บางคนเสียค่ารองเท้าแล้ว เราก็ยกขบวนไปนั่งที่ซูเปอร์ของมาร์เก็ตเพลสค่ะ เพื่อจะได้นั่งเม้าต่อกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว 555 กอสซิปเรื่องโน้นเรื่องนี้กันอย่างออกรส ประหนึ่งว่าคนในมาเองเลยทีเดียว โดยมีพี่หมี่ พี่เพติ๊ และพัท เป็นเสมือนผู้นำหัวข้อการเม้า ส่วนที่เหลือนั่งฟังอ้าปากค้างเลยค่ะ 555 แต่ละเรื่องนี่เด็ดจริงๆ กว่าจะแยกกันกลับก็โน่นค่ะ ห้าโมงเย็นได้ ปุ๋ยแอบย่องไปดูรองเท้าอีกรอบ แหม ไหนๆได้จอดฟรี ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่ะ อิอิ สรุปว่าสนุกมากเลยค่ะ ใครไม่ไปเสียดายแทนจริงจริ๊งงงง จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 23 พ.ค. 49 14:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่น่าหนีไปงานดำน้ำเลย หมดตัวกลับมา แบบหมดจริง ๆ นะ ตอนจองทริปลืมบวกเลขนะ จากคุณ : scuba734 - [ 23 พ.ค. 49 16:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 89 รายงานเสริม: แท๊กซี่พาหลงเข้าสุขุมวิทค่ะ เลยเลทไปเยอะ แต่ไปทันเจอคุณทินาหนึ่งแว่บ ได้ยินข่าวดีว่าจะมีแปลเรื่องชุดของเม็ก คาบอทที่ติ่มชอบด้วย ยินดีด้วยค่ะ อาหารแพง เดินเลือกกับพี่หมี่อยู่นาน ไอ้จะสั่งข้าวกระเพราไก่ก็กลัวโดนค่อนขอดว่าสิ้นคิด (เหมือนคราวก่อนโน้น) เลยเอาผัดไทยละกัน อย่างน้อยก็คงดีกว่าข้าวแกงจานละร่วมร้อย งานนี้ได้เจอคุณ scuba กับน้องนารูมิครั้งแรก แต่ยังไม่ทันได้เม้าท์กันเพราะโต๊ะแบ่งเป็นสองวงเม้าท์ ก็แยกย้ายซะก่อน จากการช้อปรองเท้า พวกเราค้นพบว่าเท้าของคุณเพติ๊ดสวยมาก จึงตั้งข้อสงสัยจะรัดเท้าตั้งแต่เด็กแบบชาวจีน แต่เจ้าตัวเฉลยง่าย ๆ "เด็ก ๆ ชั้นไม่ได้ใส่รองเท้าด้วยซ้ำ เดินเท้าเปล่า" ... อ้าว? ไม่คิดจะสร้างภาพพจน์กันเลยเรอะ? หลังจากนั้นก็ย้ายลงไปชั้นล่าง เลือกโต๊ะห่างไกลชาวบ้านเพื่อบริหารปาก หัวข้อช่วงแรกยังแสดงถึงวุฒิภาวะ แสดงความห่วงใยเด็กรุ่นใหม่กับภัยอินเตอร์เน็ท ซุบซิบเรื่องในแวดวงหนังสือยุคนี้ ฯลฯ จนเสียงเบาลงเรื่อย ๆ ตามความฮ็อตของเรื่องจากผู้อยู่ใต้เตียงชาวบ้าน เพิ่งรู้นี่แหละว่าในนี้มี "เจ้ากรมข่าว" อยู่หลายคน หลังแยกย้ายกัน สาว? (สวย?) 4 คนก็นั่งแท๊กซี่มาทางเดียวกัน ติ่มแวะเดินห้างต่อ..ตามเคย เดินได้พักหนึ่งก็จองตั๋วหนัง และเข้าร้านอาหารไปรอครอบครัวพี่สะใภ้ เพื่อดูหนัง "ก้านกล้วย" ด้วยกันค่ะ หนังสนุกดี เป็นอนิเมชั่นฝีมือคนไทยที่ยังทำ movement ของสัตว์ได้ไม่ดีนัก แต่โดยรวมแล้วถือว่าน่าชมเชยค่ะ หลังจากวันนั้น ก็หาเวลาไปดู รหัสลับระทึกโลก รอบสามทุ่ม ปรากฏว่าหลับกลางเรื่องอ่ะ หนาวอีกต่างหาก ไม่น่าเลือกดูรอบนั้นวันนั้นเลย เฮ้อ ไว้คุยกันค่ะ ช่วงนี้โทรม ๆ ยังไงไม่รู้ จากคุณ : ติ่มซำ - [ 23 พ.ค. 49 21:13:04 A:58.136.93.113 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เชียงใหม่ก็หนาวลมฝนนะคะ อิอิ มาถึงเมื่อวาน แต่ใจยังอยู่กับวงเม้าอยู่เลย ฮ่าๆ (ว่าแล้วทำไมไม่มีผู้ชายกล้าไปเล้ย) ปุ๋ยๆ วันรุ่งขึ้นตอนไปรับหมาที่ทองหล่อก็แอบแว้บไปชิดลมอีกรอบเหมือนกัน สอยมาสองคู่ ตอนนี้ยังเอากล่องไปซุกหลบสายตาคนใกล้ตัวอยู่เลย ก่อนที่จะไร้สาระเกิน ขอบอกว่าหลังจากหาวารสารใต้ดิน underground bulettin ออกรายสามเดือนเรื่องแวดวงวรรณกรรม ก็ไปเจอที่ร้านบีทูเอส เซ็นทรัล รัตนาธิเบศน์หลายเล่มเหมือนกันค่ะ เลยซื้อเล่มล่าสุด สงครามหนังสือมา อ่านเรื่องของหนุ่ม เพื่อนเจ้าของร้านหนังสือเดินทางที่ปิดร้านตรงท่าพระอาทิตย์ไปเปิดใหม่ใกล้ๆหอศิลป์ศิริกิต์ของธนาคารกรุงเทพ ตรงข้ามภูเขาทอง ละแวกนั้นน่ะค่ะ คิดว่าเปิดแล้วนะคะ เพื่อนรักแฟนคลับเชิญไปอุดหนุนต่อได้ ร้านใหม่ใหญ่กว่าเดิมด้วยค่ะ ส่วนบทความอื่น ถ้าอ่านจบแล้วจะมาเล่า ถ้ามีอะไรน่าสนนะคะ จากคุณ : พัท (Il Maze) - [ 24 พ.ค. 49 10:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ฮ่า ฮ่า ถ้าพี่ปุ๋ยเห็นสภาพตอนเย็นของหนูจะยิ่งช็อคค่ะ โทรมกว่านั้นสักสิบเท่ามั้ง วิ่งวุ่นทั้งบ่ายเลย เสียดายจังอดฟังเรื่องเมาท์ของเหล่าเจ้ากรมข่าว ;D เพิ่งกลับจากดูก้านกล้วยหมาดๆ เชียร์ให้ไปดูกันค่ะ ถึงช้างฝ่ายอยุธยาจะดูหลากสีเป็น M&M ไปหน่อยก็เถอะ ส่วนช้างหงสา เหมือนหุ่นยนต์ช้างประจัญบาณเลยอะ จากคุณ : ทินา - [ 24 พ.ค. 49 23:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 92 แหม คุณติ่มซำโทรมหรือคะ? อย่าไปเชื่อเลย เดี๋ยวนี้ปรับลุคใหม่แล้วงามมั่กๆๆๆ ขอบอก ต้องแต่งตัวอย่างวันนั้นทุกวันนะยะ มีหวังที่หมอดูดูไว้แม่นแน่ๆ อ่านเรื่อง The Key จบแล้วค่ะ ชอบมากๆๆๆ ต้องขอบคุณติ่มซำ เพราะลำพังตัวเองคงหาเองไม่ได้ เพราะเรื่องนี้หลงหูหลงตามานานมั่กๆๆๆ หายังไงก็หาไม่ได้ซักที ขอบอกว่าสุดยอดมากๆๆๆ เนื้อเรื่องชวนให้นึกถึงเรื่อง House of the Sleeping Beauties ของคาวาบาตะ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้โจ๋งครึ่มกว่า ไม่มีกระมิดกระเมี้ยนกันเลย (แต่ก็ไม่น่าเกลียดนะคะ อยู่ในกรอบของ good literature ทุกประการ) The Key เป็นเรื่องของการเขียนไดอารีระหว่างสามี ภรรยา เพื่อเป็นการปลดปล่อย Sexual Fantasies ของกันและกัน เพราะชีวิตแต่งงานที่ผ่านมา ไม่สามารถสุขสมอารมณ์หมายเรื่องทางเพศของชีวิตคู่ได้ เนื่องด้วยสามีแก่กว่าภรรยาถึง 11 ปี และตอนที่เขียนนี้ก็กำลังอยู่ในช่วง decline ทางเพศ ในขณะที่ภรรยาเองก็ค่อนข้างมักมากในเรื่องแบบนี้ (พูดกันตรงๆเลยนะคะ) ทำใ้ห้ทางฝ่ายชา่ยต้องประดิษฐ์คิดค้นวิธีต่างๆเพื่อปลดปล่อยตัวเองและภรรยา ถึงแม้ว่าจะต้องหาชายอื่นมาชดเชยให้ภรรยาตัวเองก็ตาม เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างไม่มีการอ้อมค้อมเลยค่ะ สนุกมากๆๆๆ ตอนจบหักมุมแบบให้เห็นถึงความดำดิ่งทางจริยะธรรมที่ลงไปได้ต่ำสุดๆของทางฝ่ายภรรยาและลูกสาวที่อ่านแล้วชวนช็อค แต่สมเพชมากกว่า ที่ต้องชมคือสำนวนแปลของ Howard Hibbett ที่แปลแล้วมีชีวิตชีวามาก ตัวอักษรออกมาเต้นเร่าๆให้เห็นกันตรงหน้าเลยค่ะ ทานิซากิ เป็นนักเขียนที่มีเทคนิคการเขียนดีมากๆๆๆๆชั้นครูสุดๆ  ถึงแม้จะพลาดโนเบลไพรซ์ไป แต่ฝีมือการเขียนเมื่อเทียบกับคาวาบาตะ กินกันไม่ลงจริงๆค่ะ ในขณะที่คาวาบาตะ มีความสุนทรีย์แบบ Japanese Zen ที่แสนจะคลาสสิค แต่งานของทานิซากะอ่านแล้วก็จะ passionate กว่าได้อารมณ์ในแง่ของความเป็นมนุษย์ปุถุชนกว่า (lustful กว่าด้วย อิอิ) พูดได้คำเดียวว่ากินกันไม่ลงจริงๆสำหรับคู่นี้ ไม่มีใครเป็นรองใครเลย แถมทั้งคู่ยังชอบผู้หญิงเอามากๆเหมือนกันอีกด้วยค่ะ แนะนำค่ะ แนะนำ เรื่องนี้ สำหรับผู้ชายที่หลงไหลความเป็นผู้หญิง (ทั้งสรีระ และรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ) และสำหรับผู้หญิงที่หลงไหลความเป็นผู้ชาย ต้องหามาอ่านค่ะ อ่านไม่ยากด้วย ติดหนึบสุดๆ พี่ให้ 9 เต็ม 10 เลยค่ะสำหรับเรื่องนี้ ทราบว่ามีแปลเป็นไทยด้วยนะคะ พี่เองก็ไม่เคยอ่านเหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะแปลดีหรือไม่ดี ก็ดูเหมือนไม่สำคัญเท่ากับที่เลือกเรื่องนี้มาแปล ขอให้คะแนนเทสต์ในการเลือกพิมพ์เรื่องนี้ 10 เต็มไปเลย เลือกเก่งมาก ขนาดพี่เองยังหาไม่ได้เลยค่ะ นับถือๆๆ ใครอยากอ่านอะไรที่แปลกๆใหม่ๆ อ่านไม่ยากมาก ลองดูนะคะ ภาษาของทานิซากิ delicious มากๆ เหมือนอย่างที่มิชิม่าเคยบอกไว้ว่า delicious เหมือน French or Chinese cuisine เลยค่ะ ลองอ่านตอนที่สามีเขาพูดถึงภรรยาในไดอารี่นะคะ sensual มากๆเลย All the same, I felt a strange voluptousness in her slender, supple figure, her awkwardly curved legs.  There was something that had been concealed from me when she wore kimono.  As I watched her walk away I gazed admiringly at the distorted beauty of her legs below the tweed skirt.  And I thought of tonight.   ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณติ่มซำนะคะ อุตส่าห์ไปหามาให้เพื่อนเพติ๊ด น่ารักเจงๆ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 49 16:50:41 แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 49 16:45:45 จากคุณ : เพติ๊ด (petitfour) - [ 26 พ.ค. 49 16:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 93 บ่เป็นหยังดอก อีนาย (วู้ย ชมซะเขิน ...อย่าลืมเอาแมวมาแลกละกัน เอิ้กส์) เพิ่งอ่านแนว ญรญ จบไปเล่ม ชื่อเรื่อง "รักนี้มีแต่ผู้หญิง (คนนี้)" ลองดูสำนวนกันนะ: นับแต่วันที่ได้รู้ว่ารักเป็นเช่นไร สิ่งเดียวที่ทำให้นึกถึงคือใบหน้าของพี่เท่านั้น ความรักดั่งดอกฝิ่น ผลิบานสวยงามน่าหลงใหล ยามเสพทุกอย่างสมใจคล้ายความฝัน พลันขาดร่างกายก็อ่อนเปลี้ยเสียสิ้นลม ยากข่มใจให้ไม่หมายปอง ยิ่งเผชิญหน้ากับแรงห่วงหามากเท่าไหร่ ความหวั่นใจก็เริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ .... สำนวนแบบนี้ สไตล์ตัวละครแบบในเรื่อง ชวนให้เสียดายว่าทำไมไม่เขียนนิยายรักธรรมดาบ๊างงงง ~>_<~ จะให้อ่าน y มันก็กระดากน้า T^T ไว้คุยกันค่ะ ขอปั่นงานก่อน จากคุณ : ติ่มซำ - [ 26 พ.ค. 49 23:16:04 A:58.136.102.135 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ไปตามรอยเฟย์ลิซิตี้มาค่ะ อ่าน Chronicles Volume One ของ Bob Dylan ตามด้วย อย่างน้อยที่สุด ที่เป็นบทสัมภาษณ์ของเป็นเอก รัตนเรือง สรุปว่าประทับใจมากกกกกทั้งสองเรื่อง หยิบ Chronicles มาอ่านด้วยหัวใจหลั่นล้ามากๆ เพราะเพิ่งเห็นว่า อ๋อ ผู้ชายคนนี้นี่เองที่เป็นหนุ่มในโปสเตอร์ที่เราเคยหลงกิ๊กสมัยเด็ก คิดแล้วก็เสียดายที่เกิดไม่ทันยุครุ่งเรืองของเขา Bob Dylan เขียนหนังสือเล่มนี้ได้ดีมากกกก วิธีการเล่าถึงคนอื่นเขาก็เล่าได้น่ารักน่าเอ็นดู มีทั้งการเปรียบเทียบเปรียบเปรย อ่านแล้วลืมไปเลยว่าเขาเป็น "นักร้อง" แต่มันเหมือนได้อ่านหนังสือจากนักเขียนดีๆ แถมยังไม่เดินตามสูตรประมาณว่า 1. การฝ่าฟันกว่าจะได้เป็นนักร้อง 2. ความสำเร็จที่ประดับมาในเสี้ยวพริบตา 3. สิ่งที่ต้องสูญเสียไป แต่หนังสือเล่มนี้ เริ่มด้วย Bob Dylan สมัยเป็นวัยรุ่น แล้วเข้ามาระหกระเหินหาความฝันที่นิวยอร์ก แต่บทที่สองกลับกระโดดไปตอนเขาเป็นคุณพ่อวัยกลางคน และต้องโดนยัดเยียดฐานะ "กระบอกเสียงประชาชน" โดยที่เขาไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย อ่านจบเลยหลงทั้งรูปทั้งสมอง มาถึงผู้ชายไม่ธรรมดาอีกคนใน "อย่างน้อยที่สุด" อ่านเล่มนี้ด้วยความรู้สึกสะใจอยู่ลึกๆ เพราะคนตอบสัมภาษณ์ตอบได้ดุเดือดดีจริงๆ แถมหลายๆ ประเด็นก็โชะเข้ากลางใจ อย่างเรื่อง function ของเน็กไท หนูก็เคยเขียนไว้ใน "คนแรก คนสุดท้าย" เหมือนกัน สรุปว่าอินมากๆ 555+ แต่ตอนจบกลับทำให้ประทับใจเหนือคาด เพราะปรากฎว่าหนังสือเล่มนี้มีทิศทางและพัฒนาการด้วย (เป็นการสัมภาษณ์หลายหนน่ะค่ะ) อ้อ เห็นคุณเป็นเอกบอกด้วยว่าคนแถวนี้ ทาบทามให้เขาเขียนหนังสือดูด้วย ฝากขอให้ช่วยตื้อต่อหน่อยนะคะ อยากอ่าน :) จากคุณ : นารูมิ - [ 29 พ.ค. 49 10:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 95 บทสัมภาษณ์สาวเก่ง (สวย) แถวนี้ http://www.kwanruen.com/entertainment.php?isold=&mid=7&sub=2&section_code=book&PHPSESSID=d34158778cfb7d1587d5aa7a166acccc จากคุณ : tc - [ 31 พ.ค. 49 11:52:51 A:203.151.122.236 X: TicketID:046716 ]

ความคิดเห็นที่ 96 http://www.kwanruen.com/entertainment.php?isold=&mid=7&sub=2&section_code=book&PHPSESSID=d34158778cfb7d1587d5aa7a166acccc ทำลิงค์ให้ค่ะ จากคุณ : Il Maze - [ 31 พ.ค. 49 12:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 97 Hi Ice, congratualtions ja.. you're doing very well in your career :) Ok, let's move to the new Kratoo na ja... ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ K4434001 จากคุณ : Angel Eyes - [ 6 มิ.ย. 49 16:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 98 อยากไปแต่ว่างตอน 5 โมงไปแล้วอ่ะ  ทำไงได้บ้าง จากคุณ : ชราแล้ว - [ 16 พ.ค. 50 13:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 99 1 จากคุณ : lustful - [ 17 ธ.ค. 52 22:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 100 2 จากคุณ : lustful - [ 17 ธ.ค. 52 22:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 101 3 จากคุณ : lustful - [ 17 ธ.ค. 52 22:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 102 4 จากคุณ : lustful - [ 17 ธ.ค. 52 22:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 103 5 จากคุณ : lustful - [ 17 ธ.ค. 52 22:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ... จากคุณ : lustful - [ 19 ม.ค. 55 16:04:20 ]