ความคิดเห็นที่ 1   กระทู้แรก เปิด RRR ตอบคำถาม คุยกันทั่วไป ยังไม่มีรีวิว http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8020687/K8020687.html กระทู้สอง วันที่ 1-5 ก.ค. http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8032206/K8032206.html กระทู้สาม วันที่ 5-11 ก.ค. http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8048490/K8048490.html กระทู้สี่ วันที่ 12-17 ก.ค. http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8072958/K8072958.html กระทู้ห้า วันที่ 17-26 ก.ค. http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8094480/K8094480.html กระทู้หก วันที่ 27-31 ก.ค. http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8127789/K8127789.html กระทู้เจ็ด วันที่ 1-6 ส.ค. ได้แชมป์เดือนแรก http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8150310/K8150310.html กระทู้ที่แปด วันที่ 6-15 ส.ค. http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8170715/K8170715.html กระทู้ที่เก้า วันที่ 16-25 ส.ค. http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8206874/K8206874.html กระทู้ที่สิบ วันที่ 26-31 ส.ค. แชมป์เดือนสิงหา http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8246178/K8246178.html กระทู้ที่สิบเอ็ด วันที่ 1-5 ก.ย. เริ่มนับใหม่ กันยา http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8268985/K8268985.html จากคุณ : อั๊งอังอา เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 00:42:45

ความคิดเห็นที่ 2   อัพเดทคะแนนค่ะ **  คะแนนของคุณปลายทางของสายรุ้ง เพิ่มโบนัสแล้ว **  คะแนนที่ต้องแก้ในกระทู้ก่อน ในไฟล์นี้ แก้เรียบร้อยแล้ว **  ส่วนท่านที่ยังไม่ได้เคลมครบจำนวนเล่ม ยังไม่ได้ลงคะแนนให้ค่ะ อันนี้เหมือนเดิม แต่เตือนเวลาทำคะแนนเอง จากคุณ : อั๊งอังอา เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 00:49:06

ความคิดเห็นที่ 3   ท้วงนิดนึงค่ะ  พอดีจำรีวิวช่วงวันสองวันหลังได้เพราะว่าง คุณ ^^EterNaL ReturN^^  อ่าน "ในกรงแก้ว" (15-10) ในคห. 133 ทำไมไม่มีรายชื่อในเดือนกันยาล่ะ? (แต่คะแนนรวมกลับอัพเพิ่มแล้ว?  จาก 195 เป็น 210) สามออ (ยิ้ม) ไก่หลุดออกมาอีกแล้ว ฮี่ๆ ((ล้อเขานี่น่ากลัวโดนเอาคืนตอนรอบตัวเองชะมัดเลย เอิ้กๆๆ)) จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 01:09:20

ความคิดเห็นที่ 4   มาประเดิมกระทู้ใหม่ด้วย รีวิวครึ่งหลังของโจทย์ผี ๆ ค่ะ  ^___^ 30-5. [ปลายทางของสายรุ้ง] หนังสือเรื่องผีเท่านั้น จำนวน 2 เล่มหรือมากกว่า รวมจำนวน 500++ หน้า   โดยเป็นเรื่องผีน่ากลัวกับผีน่ารัก และห้ามไม่ให้ผีน่ากลัวกับผีน่ารักเป็นเล่มเดียวกัน คราวที่แล้วผีน่ารัก คราวนี้เป็นผีน่ากลัวบ้าง อย่างที่บอกไว้ในกระทู้ก่อน คือ ขุดกรุมาตอบ เพราะสองเล่มนี้มาจากหนังสือชุด “เปิดกรุผีไทย” ของครูเหม เวชกร โดยทั่วไปแล้ว เรามักจะคุ้นกับชื่อของเหม เวชกรในฐานะจิตรกร นักวาดภาพประกอบหนังสือ และจิตรกรที่ฝากฝีมือการวาดภาพวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ตอนศึกมังกรกัณฐ์บนระเบียงวัดพระแก้วมาแล้ว แต่ยังมีอีกมุมหนึ่งซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทราบ คือ นอกจากเป็นจิตรกรแล้ว ครูยังเป็นนักเขียนด้วย โดยงานเขียนของครูเป็นเรื่องผีล้วน ๆ แต่หลายรส มีทั้งน่ากลัว น่าสงสาร ขำบ้างก็มี คละกันไป สำหรับ “เปิดกรุงผีไทย” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นแนวผีของครูเหม เวชกรค่ะ เรื่องที่เลือกมา มีชื่อว่า “ขึ้นมาจากหลุม” กับ “ผ้าป่าผีตาย” แค่ชื่อของสองเล่มนี้ก็รับประกันความหลอนแล้ว (เล่มแรก 178 หน้า เล่มหลัง 173 หน้า บวกผีน่ารักอีก 156 หน้า 178+173+156 = 507 เกิน 500 แบบฉิวเฉียด) เปิดกรุผีไทย ตอน ผ้าป่าผีตาย ผู้เขียน : เหม เวชกร สำนักพิมพ์ : ดอกหญ้า (พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2537 แต่พิมพ์ครั้งแรกสุดกับสำนักพิมพ์บรรณาคาร พ.ศ. 2509) จำนวนหน้า : 178 หน้า เปิดกรุผีไทย ตอน ผ้าป่าผีตาย ประกอบด้วยเรื่องสั้นจำนวน 12 เรื่อง โดยเรื่องสั้นหลายเรื่องใช้ตัวละครต่อเนื่อง และทุกเรื่องใช้การบอกเล่าด้วยสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง โดยเป็นเรื่องที่ผู้เล่าเจอเองบ้าง ฟังมาจากคนอื่นบ้าง ในตอน ไปชุบตัว น้าเกียรติ อ้ายกล้าจะตายไม่ได้ อ้ายบักสอย อ้ายเรืองพเนจร เป็นเรื่องของนายเรือง ตั้งแต่ออกจากบ้านมาบโพธิ์มาทำงานที่กรุงเทพฯ จนมีเหตุให้ต้องกลับมาและกลับไปกรุงเทพฯ อีก ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน เรืองก็ถูกผีหลอก หรือมีเหตุให้ต้องเจอผีมันได้ทุกทีและทุกที่สิน่า - -' ตั้งแต่มีผีมาบอกเหตุการณ์ตาย ผีที่ไปสิงร่างของแม่ของคนที่ตัวเองรัก คนที่ถูกฆ่าตายแล้วถูกปลุกขึ้นมา ขนาดไปกับพระแล้วทั้งพระทั้งคนก็ยังอุตส่าห์ถูกผีหลอก ไหนจะไปเจอผีแบบแฮตทริกตอนไปป่าช้าอีกล่ะ ส่วนตอนนั่งหวย ผีปอบ ผ้าป่าผีตาย อ้ายป็อก เงินยวง เรื่องเก่าที่บ้านเกิด กับอ้ายทุยผู้ซื่อสัตย์ คนเล่าเป็นคนละคนกัน วิธีหลอกของผีก็ไม่ซ้ำกัน เรื่องเงินยวงนี่ออกแนวผีน่าสงสารมากกว่าน่ากลัว ถ้าถามถึงตอนที่อ่านแล้วหลอนที่สุดของกลุ่มนี้ ส่วนตัวยกให้เรื่อง “นั่งหวย” กับ “ผ้าป่าผีตาย” ค่ะ นึกภาพคนกำลังนั่งส่องเลขกันอยู่มืด ๆ แล้วมีเงาคนสีขาวไต่เสาลงมาแบบกลับหัวต่อหน้าต่อตาแล้วหายแว้บ ส่วนอีกเรื่องแค่ตอนเล่าถึงที่ทอดผ้าป่าไว้บนศพจริง ๆ ในป่าช้าแล้วนิมนต์พระไปเอานี่ก็สยองพออยู่แล้ว ซึ่งผลที่ได้รับจากการเอาเล่นพิเรนทร์นี่ก็น่ากลัวไม่แพ้กันเลยและที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้เพราะความเมาเป็นเหตุแท้ ๆ เปิดกรุผีไทย ตอน ขึ้นจากหลุม ผู้เขียน : เหม เวชกร สำนักพิมพ์ : ดอกหญ้า (พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2537 พิมพ์ครั้งแรกสุดกับสำนักพิมพ์บรรณาคาร พ.ศ. 2509) จำนวนหน้า : 173 หน้า รวมเรื่องสั้นเล่มนี้ มีผู้เล่าหลักคือนายทองคำค่ะ รายนี้ก็เป็นมนุษย์ที่ดึงดูดผีพอ ๆ กับนายเรือง และดูเหมือนจะยิ่งกว่าด้วยซ้ำ เพราะชีวิตเขาตั้งแต่เด็ก ๆ ไปจนอายุเข้าวัยกลางคนในตอนสุดท้าย หนีไม่พ้นผีเลย ช่วงแรก ๆ จะโดนผีหลอกเป็นส่วนใหญ่ แต่ช่วงหลัง ๆ น่ากลัวว่าเจอบ่อย ๆ คงจะเริ่มชิน เพราะต้องมาอยู่กับผีโดยไม่รู้ตัว ตกกระไดพลอยโจน ทำงานให้ผี แล้วก็เลยอยู่กินกับผีไปซะเลย เอากับเขาสิ - -' เปิดกรุผีไทย ตอน ขึ้นจากหลุม ประกอบด้วยเรื่องสั้น 12 เรื่อง เรื่องของนายทองคำจะมีอยู่ในตอน ไปฝังศพ ขึ้นจากหลุม ศาลาทางเปลี่ยว หมอผี ไปจับจิ้งหรีด ผู้ที่กลับมา เลขานุการผี มรดกยุ่งยาก แดนประหลาด รำเพยจะเป็นของคุณทุก ๆ ชาติ ค่ะ เรื่องตอนที่ทองคำยังเป็นเด็กนี่น่ากลัวทุกเรื่อง แต่มีระดับความน่ากลัวแตกต่างกันไป สำหรับเล่มนี้ เรื่องสั้นตอที่ส่วนตัวเห็นว่าอ่านแล้วชวนขนลุกมาก ๆ คือ ไปฝังศพ กับ ขึ้นจากหลุมนี่ละค่ะ ถ้าอยู่ดี ๆ หน้าของเด็กที่มีคนฝากไว้ให้อุ้มกลายเป็นคนแก่ เคี้ยวหมากปากแดง หัวเราะฮิ ๆ อยู่คามือ หรือ มีคนที่ตายไปแล้วเข้าฝันให้ไปขุดขึ้นมาเพราะเขายังไม่ตาย ถึงไม่กลัวผีแต่เจอแบบนี้เขาก็ไม่เอาด้วยนะ T T แต่สองเรื่องหลังคือแดนประหลาดกับรำเพยจะเป็นของคุณทุก ๆ ชาติออกแนวแฟนตาซีกับโรแมนติกมากกว่า ส่วนอีกสองเรื่องคือ เธอว่าอะไร? กับ ก็ผีน่ะซี! เป็นเรื่องของคนอื่นที่ไม่ใช่ทองคำค่ะ   เรื่องแรกกว่าคนโดนหลอกนึกออกว่าถูกผีหลอกก็ใช้เวลาหน่อย เรื่องหลังนี่หลอกกันซึ่งหน้าเลยทีเดียว ถ้าถามว่าเรื่องผีของครูเหมเป็นแนวไหน สำหรับคนที่คุ้นเคยกับหนังสยองขวัญประเภทหลอกกันตั้งแต่ต้น เลือดสาดกระจาย เอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง และไม่ชอบเรื่องบรรยายรายละเอียดเยอะ อาจจะไม่ใช่แนวค่ะ เพราะเปิดกรุผีไทยเป็นเรื่องสั้นที่เดินอย่างเรียบ ๆ แต่บรรยายได้เห็นภาพ ไม่มีผีหลอกแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซล แต่อ่านแล้วเย็นวูบปนระแวงนิด  ๆ เพราะไม่รู้ว่าผีจะโผล่มาตอนไหน เพราะวิธีการเล่าของบางเรื่องก็เล่าไปเรื่อย ๆ เหมือนพาไปเที่ยว พอเผลอ ๆ ผีก็โผล่ออกมา หรืออ่าน ๆ แล้ว มารู้เอาตอนหลังว่าคนนี้เป็นผีก็มีเหมือนกัน นอกจากการเดินเรื่อง สิ่งที่ทำให้เรื่องสั้นชุดนี้มีความหลอนเป็นพิเศษ คือ ภาพประกอดฝีมือครูเหม เพราะเขียนเอง วาดเอง ภาพประกอบเรื่องนี้จึงสื่อถึงส่วนที่เป็นไฮไลท์ของเรื่องแบบเน้น ๆ เลยทีเดียว แถมภาพประกอบยังเป็นภาพขาวดำกับภาพปกโทนซีเปียด้วยก็เลยยิ่งขลังเข้าไปใหญ่ ส่วนตัวแล้ว เป็นคนเฉย ๆ กับเรื่องผี อ่านเรื่องผีได้เหมือนนิยายปกติทั่วไป ไม่ได้กลัวอะไร ส่วนที่ตัวเองเห็นว่าน่าสนใจที่สุดในเรื่องชุดนี้ คือ ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ในช่วงปลาย พ.ศ. 2490 ปลาย ๆ ไปจนถึง พ.ศ. 2500 ต้น ๆ อย่างเรื่องไปชุบตัวก็จะเป็นเรื่องของนักหนังสือพิมพ์และงานโรงพิมพ์สมัยนั้น หรือคนงานต่างถิ่นที่มารับจ้างทำถนนในกรุงเทพฯ แล้วก็ยังมีเรื่องชีวิตของคนชนบทในต่างจังหวัดสมัยก่อน สำหรับนิยายชุดเปิดกรุผีไทย อ่านแล้วได้อะไรมากกว่าเรื่องสยองขวัญหรือน่ากลัวเยอะเลยละค่ะ ^ ^ เพื่อสวัสดิภาพและความสงบสุขในยามวิกาลของทุกท่าน ขออนุญาตไม่เอาภาพประกอบมาลงให้ดูก็แล้วกันนะคะ ^ ^' แถมท้ายด้วยประวัติและผลงานของครูเหม เวชกรจากนิตยสารสารคดีแทนก็แล้วกันค่ะ http://www.sarakadee.com/feature/2000/10/hem.htm อันนี้เป็นภาพปก น่าจะพิมพ์ครั้งที่สามแล้วค่ะ ภาพพิมพ์ครั้งที่สองที่ตัวเองมีเป็นภาพฝีมือครูเหมสีซีเปีย แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 02:37:01 จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 02:28:47

ความคิดเห็นที่ 5   ย้ายวิกมาที่ใหม่ค่ะ ส่วนที่ ๒ ของโจทย์ข้อนี้ 30-3. [อั๊งอังอา] คลาสสิก: อ่านหนังสือ 2 เล่มเวอร์ชั่นเต็ม (ไม่ใช่ฉบับย่อ) ที่พิมพ์ช่วงปี 1800-1950 แผลเก่า ผู้ประพันธ์ ไม้ เมืองเดิม พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๗๙ เล่มที่มีมาจากโครงการ มิตรน้ำหมึก ซึ่งรวบรวมผลงานอมตะมาพิมพ์ใหม่อีกครั้ง เรื่องนี้พิมพ์ในลักษณะเหมือนถ่ายเอกสารมาจากเล่มดั้งเดิมคือจากสำนักพิมพ์คณะเหมเลยค่ะ คงไม่มีใครที่ไม่รู้เรื่องราวรักรันทดระหว่างขวัญ หนุ่มห้าวแห่งบ้านทุ่งบางกะปิ กับเรียม สาวงามซึ่งเป็นที่หมายปองของหลายชาย คงไม่เล่าซ้ำนะคะ เพราะการที่คนทุกยุคทุกสมัยเข้าใจซึ้งถึงความรักของขวัญกับเรียมก็คงเป็นเครื่องยืนยันได้แล้วถึงความเป็นอมตะของนิยายเรื่องยาวขนาดสั้นเรื่องนี้ ที่จริงก็รู้รายละเอียดของเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เพิ่งจะได้มาอ่านฉบับเต็มๆ อย่างเป็นเรื่องเป็นราวก็คราวนี้เองค่ะ อ่านจบแล้วทึ่งมากว่าเรื่องสั้นแค่นี้เอง แต่ถึงพร้อมในทุกด้านของความเป็นวรรณกรรมที่ขึ้นขั้นเป็นระดับคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็นสำนวนภาษาที่เหมาะสมกับลักษณะของเนื้อเรื่อง ของสถานที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น รวมไปถึงการนำเสนอที่เหมาะสมกับการเล่าเรื่องนี้ คือไม่เยิ่นเย้อ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่รวบรัดจนผู้อ่านเข้าไม่ถึงความรู้สึกของตัวละครหลัก เรื่องนี้เขียนมาร่วม ๗๐ ปีแล้ว แต่สำนวนไม่ล้าสมัยเลยค่ะ อ่านแล้วยังรู้สึกถึงบรรยากาศความเป็นลูกทุ่ง รู้สึกถึงความละเมียดละไมของภาษา แม้เรื่องจะสั้น แต่อ่านแล้วซาบซึ้งเสียยิ่งกว่านิยายเรื่องยาวที่มีเค้าโครงเรื่องลักษณะเดียวกันอีกหลายๆ เรื่องที่เคยอ่านค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 03:19:49

ความคิดเห็นที่ 6   สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ค่ะ มาส่งการบ้าน 1 เล่ม ก่อนออกไปข้างนอก ตอบโจทย์ 5-7. [หมูย้อมสี] หนังสือที่เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ เช่น วิญญาณ มนุษย์ต่างดาว ด้วยเรื่องนี้ แม่ศรีบางกอก : สุวรรณี สุคนธา สำนักพิมพ์ดอกหญ้า พิมพ์ครั้งแรก (ของสนพ.) เมษายน 2540 ราคา 110 บาท / 232 หน้า ตอนที่อ่านคำนำ เรากะจะเอาเล่มนี้ไปตอบโจทย์ ข้ามเวลา ข้ามมิติ แต่พออ่านจบ ประเด็นนี้กว่าจะกล่าวถึงก็เหลืออีก 5 บทจบเรื่อง เลยต้องยกมาตอบโจทย์มนุษย์ต่างดาวแทน เพราะกล่าวถึงและมีบทบาทสำคัญกว่า ผู้เขียนสร้างให้ตัวละครดำเนินชีวิตอยู่ในปีพ.ศ.2563 เป็นสมัยที่กรุงเทพทันสมัยล้ำยุค (หมายถึงยุคของผู้เขียน - พ.ศ.2513) เรียกว่า "เมืองบางกอก" น.ส.สาวศรี เป็นนางแบบสาวดาวเด่นของสังคม มีหนุ่มนักเรียนนอก ควงคู่ซ้ายขวา 2 หนุ่ม ในสมัยของสาวศรีนั้น แค่นอกประเทศยังไม่พอหรอก ต้องเป็นหนุ่มนักเรียนนอกโลก จบจากมหาวิทยาลัยจากดาวศุกร์ จินตนาการของคุณสุวรรณีล้ำเลิศสุดๆ เลย แต่อ่านแล้วเราพบว่า เธอต้องการเสียดสีสังคมในยุคนั้นมากกว่า และสิ่งที่เธอเสียดสีไว้ตั้งแต่เวลาที่เขียนมันก็ยังปรากฎอยู่จนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเรื่องความเลื่อมล้ำในสังคมคนจน คนมี การสร้างภาพด้วยงานสังคมหรุหรา การขูดรีดภาษี  (มีกระทั่งภาษีลมหายใจ) ข้าราชการทำงานเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ในขณะที่ชาวดาวโลกไม่มีปัญหาประชากรล้นโลก เพราะมีสงครามไว้ลดปริมาณประชากร ดาว B63 กลับประสบปัญหาประชากรล้นโลก จนต้องส่ง B13 ออกมาสำรวจดาวโลก เพื่อใช้นโยบายรุกราน นาย B13 กลับมาตกหลุมรักสาวศรีซะได้ ...และคิดใช้วิธีการแทรกซึม จนพาเอาตัวสาวศรีมายังดาวของตัวเอง และแต่งงานกัน สาวศรีคิดว่าฝันไป ...แต่เป็นความจริง เมื่อสาวศรีตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธออยู่ในบ้านตัวเอง แต่เป็นบ้านในปีพ.ศ.2613 สามี (B13) เล่าว่าเขาตกลงกับเจ้านายเรื่องการรุกรานหรือไม่รุกรานดาวโลกไม่ได้ จึงพาสาวศรีหนีจากดาว B63 มาดาวโลก แต่เวลาก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และเขากับสาวศรีกลายเป็นมนุษย์คู่แรกของจักรวาลที่เป็นอมตะซะด้วย   เรื่องก็เป็นฉะนี้แล.... ปล. มีรายละเอียดที่อยากเขียนถึงอีก เอาไว้ไปร่ายยาวใน blog แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 13:37:47 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 10:18:52 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 10:18:15 จากคุณ : นัทธ์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 10:01:53

ความคิดเห็นที่ 7   ได้ส่งการบ้านละ โจทย์ 15-8. [อั๊งอังอา] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ของนักเขียนที่ไม่เคยอ่าน หรือนักเขียนใหม่ที่มีผลงานตีพิมพ์ชิ้นแรกในช่วงปี 2552 หนังสือที่เลือกมา จักรราศึฆาตกรรม (The Tokyo zodiac murders) โดย Soji Shimada แปลโดย สุวรรณา อะระอิ 392 หน้า พิมพ์ไทย 2552 (ต้นฉบับพิมพ์ 1979) เรื่องพูดถึงการคลี่คลายคดีฆาตกรรมตระกูลอุเมซาวะ ในปี 193x ศิลปินนักวาดรูปผู้พ่อ เฮกิจิได้เขียนเรื่องสั้นที่บรรยายถึงการสร้างผู้หญิงที่ สวยที่สุด ที่เรียกว่า Azoth โดยตัดจากชิ้นส่วนที่ดีที่สุดตามโหราศาสตร์จาก ผู้หญิง 6 คนที่เกิดในลัคนาต่างกัน ซึ่งก็คือบุตรและหลานของตนทั้ง 6 คน อย่างไรก็ตาม เฮกิจิถูกฆ่าตายเสียก่อน แถมเป็นการฆาตกรรมในห้องปิดตายด้วย พบศพก็พบเรื่องสั้นของเขาด้วย จากนั้น 1 เดือน ลูกเลี้ยงคนโตของเฮกิจิ ซึ่งไม่อยู่ในแผนการหั่นศพเป็น Azoth ก็ถูกฆาตกรรมข่มขืน อีก 1 เดือนก็เริ่มมีการพบชิ้นส่วนศพผู้หญิง ทำให้คาดว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนที่เหลือจากการสร้าง Azoth มีการทะยอยพบเศษชิ้นส่วนทั้งหมด 6 ครั้งในเวลาราว 1 ปี ศพถูกฝังตามเหมืองแร่ต่างๆ ที่เป็นธาตุเด่นตามลัคนาของสาวๆ ทั้งหมด กระจายออกไปทั่วเกาะ แล้วยังฝังไว้ลึกไม่เท่ากัน ทำให้ทะยอยถูกค้นพบ แม้ว่าจะมีการจับเมียคนที่ 2 ของเฮกิจิ (แม่เด็กสาว 4 คน) ว่าเป็นผู้ฆ่าเฮกิจิ แต่คดีนี้ก็ยังนับเป็นคดีที่ยังไม่คลี่คลาย กลายเป็น "คดีฆาตกรรมอิงโหราศาสตร์" ที่โด่งดังของญี่ปุ่น ด้วยคำถามหลักว่าแล้ว Azoth อยู่ที่ไหน ใครเป็นคนฆ่าหญิงสาวทั้ง 6 คนแน่ เพราะผู้เป็นแม่ คงไม่ฆ่าลูกตัวเองถึง 4 คนหรอก 40 ปีผ่านไป คะซึมินักวาดรูปประกอบซึ่งชอบนิยายสืบสวน ก็นำคดีนี้มาปรึกษากับมิตะไร นักพยากรณ์ตะวันตกผู้ซึมเศร้า มิตะไรใช้ความสามารถของตนเองสะสางคดีลงได้อย่างไร ไม่บอก เรื่องย่อแล้ว เอาความรู้สึกจากการอ่านบ้าง ปกติใช้เวลาอ่านหนังสือสืบสวนไม่นาน เล่มนี้เริ่มอ่านตั้งแต่ได้หนังสือใหม่ๆ อ่านไปได้แค่ร้อยหน้ามั้ง ก็คั่นไว้ มาอ่านรอบนี้ ปาเข้าไป 4 คืน อ่านแล้วหลับ อ่านแล้วหลับ อ่านไปครึ่งเล่มต้องค้นเน็ต จำได้เลาๆ ว่ามีคนจากคลับนักสืบแนะนำว่าดี อยากอ่านซ้ำว่าทำไมเขาว่าดี ฮ่าๆ แต่หาไม่เจอค่ะ สิ่งที่เจอคือ นิยายเล่มนี้เป็นต้นแบบของนิยายแนว "ฮอนกากุ" มีคนให้นิยามว่าคือนิยายแนวตรรกะที่ต้องแก้ปริศนาตลอดเรื่อง อืม .. มิน่า อ่านไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ คือส่วนตัวเป็นพวกจินตนาการต่ำ อะไรที่มีการบรรยายฉากเยอะๆ จะหลุด พอต้องมานั่งถกซ้ำไปซ้ำมา เช่น รอยเท้าเกิดขึ้นได้อย่างไร เราก็งง อีกอย่างที่ชวนปวดหัวมากคือ มีการถกกันว่าใครเป็นเอาศพไปทิ้งตามที่ต่างๆ แต่แล้วบทต่อมาก็บอกว่าจริงๆ แล้ว มีคนเคยเอาบันทึกมาให้มิตะไร เป็นบันทึกของพ่อซึ่งถูกบีบให้เอาชิ้นส่วนศพไปทิ้งนั่นเอง นะ ก็รู้อยู่แล้วว่าใครเอาศพไปทิ้ง แล้วถกกันทำไม เอ๊อ อีกอย่างที่ทำให้อ่านช่วงแรกของนิยายนี้ไม่สนุก เพราะลักษณะเฉพาะของความเป็นญี่ปุ่น ชื่อคล้ายๆ กัน บรรยายด้วยปีญี่ปุ่น เช่น เกิดปีเมจิ ที่ 33 ปีนี้เป็นปีโชวะที่ 11 คือไม่มีตัวเลขเดียวให้อิง พอไม่ใช่คนญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยเข้าใจ อีกอย่างที่รู้สึกว่าทำให้มีปัญหาคือการแปลและการเขียน เช่น มุมว่างในร่างกาย (มันคืออะไรเนี่ย) รูปประโยคบางอย่างอ่านแล้วงง แล้วการเขียนที่ไม่มีการบรยยายประกอบเท่าไหร่ เลยไม่แน่ใจว่าใครเป็นพูดย่อหน้านี้กันแน่ เครื่องหมายคำพูดปิดก็ลืมใส่บ่อยๆ หนังสือเริ่มสนุกตอนที่ผู้เขียน (โซจิตัวจริง) ท้าผู้อ่านว่าตอนนี้คุณมีข้อมูลครบแล้ว คุณแก้คดีได้หรือไม่ ท้า 2 ครั้งด้วย ครั้งที่ 2 มีข้อมูลเพิ่มขึ้นอีกนิดนึง (ทายถูกด้วย เย้) สรุปว่า ตัวปริศนา azoth โอเคเลยค่ะ แต่ส่วนตัว ไม่ถูกจริตกับลักษณะการเขียนแนวฮอนกากุที่ว่านี้ คือตัวปริศนา สามารถเขียนเป็นเรื่องสั้นแนวเครื่องจักรนักคิดได้เลย แต่ผู้เขียนทำฮอนกากุซะจนยาวร่วม 400 หน้าแน่ะ เพิ่มเติม ไม่ชอบสนพ.นานมีบุ๊คส์อย่างหนึ่ง ที่ไม่บอกว่าหนังสือต้นฉบับพิมพ์เมื่อไหร่ ตอนแรกยังงงว่าทำไมคนเขียนต้องเขียนให้ดำเนินเรื่องในปี 1979 นึกว่าต้องการตัดปัญหาการเข้าถึงเทคโนโลยี ปล่าว .. มันพิมพ์ตอนปีนั้นจริงๆ ตอนซื้อหนังสือแปลของฮิกกินส์ คลาร์กก็อีก จริงๆ อ่านต้นฉบับแล้วหลายเล่ม แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ มาแปลแล้วไม่บอกปีที่ต้นฉบับพิมพ์ เลยไม่รู้ว่าอ่านแล้วหรือยัง เซ็ง แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 15:16:18 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 13:33:04 จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 13:29:29

ความคิดเห็นที่ 8   ^ คุณ scottie อ่านอึดกว่าเราค่ะ เราจอดอยู่ที่ไม่กี่หน้าแรกนั่นแหละ  อุตส่าห์วางไว้ใกล้ที่นอนไว้แคะนะนั่น จนตอนนี้จัดบ้าน ต้องเก็บยาวไปละ บทบรรยายชวนให้อ่านแล้ววาง คำแปลก็..ไงล่ะ อ่านแล้วก็งงว่าคำนี้คืออะไร กลายเป็นมานั่งเถียงกับตัวเองแทนการแก้ตรรกะซะงั้น ขัดใจหนังสือแปลแนวสืบสวนฆาตกรรมในบ้านเราอยู่อย่าง ทำไมเลือกแต่เรื่องเก่าๆ มาพิมพ์ทั้งนั้นเลย  ซิดนีย์ เชลดอนงี้  MHK งี้ กระทั่งเอียน แรนกิ้น, แพทริเซ๊ย หรือคอนเนลลี่ก็ไม่ใช่ใหม่แล้ว  ยังดีว่าเขาเขียนเป็นซีรี่ส์เลยอดทนอ่านตามไป ตอนนี้รักแนวสืบสวนของสันสกฤตมากกว่าแฮะ   ล็อตที่ออกครั้งล่าสุดนี่โดนมาก  เรื่องล่าสุดที่อ่านคือ "เหยื่อ" ก็ดี ค่อยรู้สึกว่าได้อ่านหนังสือใหม่จริงๆ จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 15:36:11

ความคิดเห็นที่ 9   5-7. [หมูย้อมสี] หนังสือที่เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ เช่น วิญญาณ มนุษย์ต่างดาว เรื่อง : ประสบการณ์ผีหลอก   ผู้เขียน : ซาตาน’บอย จำนวน : 112 หน้า สำนักพิมพ์ : ไพลิน ราคาปก : 155 บาท ใครที่ไม่เคยมีประสบการณ์เชิญทางนี้ คนเคยถูกผีหลอกจะมาบอกต่อ แบ่งๆ กันลุ้นจนขนหัวลุก แล้วจะรู้ว่านาทีสยองตอนผีหลอกน่ะมันเขย่าขวัญแค่ไหน ๐ ตู้เก็บผี ๐ เสียงโซ่กระชากขวัญ ๐ วิญญาณพยาบาท ๐ แบ่งบุญกันบ้าง ๐ ลิฟต์มรณะ ๐ เจ้าที่ท่านไม่ชอบ! ๐ ห้องน้ำมีผี ๐ คืนแรม 15 ค่ำ ๐ เบื้องหลังจอคอมฯ ๐ ผีเด็กที่สระน้ำ ๐ ผีเฝ้าสวน ๐ เหตุเกิดที่ห้อง ว.406 ๐ ลิฟต์อาถรรพ์ ๐ ในห้องพักอาจารย์ ๐ นักศึกษาไม่รักดี ๐ ผู้หญิงสวมแว่น ๐ หอนี้ผีโหด! ๐ ใครกันที่ดาดฟ้า ๐ ตู้ ATM ที่ตึกเรียน ๐ เพื่อนรัก * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * เล่มนี้ไม่ต้องรีวิวอะไรมากเลยค่ะ ดูจากแต่ละตอนแล้วเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณล้วนๆ บางเรื่องก็น่ากลัว บางเรื่องก็เฉยๆ นะ แต่ถึงแม้จะเฉยๆ ถ้าอ่านตอนกลางคืนเงียบๆ คนเดียวก็หนาวได้เหมือนกันค่ะ จากคุณ : ส้มแช่อิ่ม เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 16:00:31

ความคิดเห็นที่ 10   ^ ^ โจทย์เดียวกัน แต่ของคุณส้ม หลอน กว่าของเราเยอะเลย แนวนี้ไม่ค่อยถนัดเลยล่ะ จากคุณ : นัทธ์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:27:52

ความคิดเห็นที่ 11   30-5. [ปลายทางของสายรุ้ง] เรื่องแต่งอย่างน้อย 2 เล่ม ที่มีผีรับบทเด่นและเป็นผีน่ารัก-ผีน่ากลัวอย่างละเล่มกัน  รวมแล้วหนา 500++ หน้า ผีน่ากลัว: ดวงใจสัมผัสรัก (ชญาน์พิมพ์) 312 หน้า ผีน่ารัก: หลอนรักนักเขียนผี (ชัชชมนต์) 248 หน้า ดวงใจสัมผัสรัก ผู้แต่ง: ชญาน์พิมพ์ สำนักพิมพ์อินเลิฟ, พิมพ์ครั้งแรก 2552, ราคา 219 บาท เมื่อเงื่อนไขสุดพิลึกในพินัยกรรมแสนหวาน ‘บังคับ’ ให้เขาและเธอมาเจอกัน ‘ภีม’... ร็อกเกอร์หนุ่มหน้าหวาน แบดบอยของวงการ ผู้ไม่เคยเชื่อมั่นในสิ่งที่ตามองไม่เห็นโดยเฉพาะเรื่องของความรัก ‘กอหญ้า’... สาวสวยเจ้าของสัมผัสพิเศษแรงกล้าผู้มีชีวิตแสนเรียบง่าย และเชื่อมั่นในทุกสิ่งที่รับรู้ได้ด้วยหัวใจ โดยเฉพาะความรัก... เส้นทางชีวิตของคนสองคน ที่เปรียบดังเส้นขนานกลับต้องมาบรรจบกัน แถมยังพ่วงมาด้วยเจ้านกแก้วมาคอว์ผีสิงตัวแสบ ความเรียบง่ายและความอ่อนโยนของเธอจะช่วยสอนให้หัวใจที่แข็งกระด้างของเขานุ่มนวลลงได้หรือไม่... หรือว่าเขาจะปิดตายหัวใจแล้วอยู่กับความร้ายกาจไปตลอดกาล * * * * * * * * เล่มนี้เป็นอินเลิฟคอลเลคชั่นล่าสุด Luscious ...ครั้งแรกของนวนิยายที่บนปกมีกลิ่นหอมของผลไม้ค่ะ   อย่างเล่มนี้เป็นปกรูปสตรอว์เบอรี่ ดมก็จะได้กลิ่นสตรอว์เบอรี่   ... คนออกแบบคงตั้งใจจะบอกว่า "รีบซื้อเสียก่อนกลิ่นบนปกจะจางหาย" ฮา พระเอกในเรื่องเป็นสไตล์นักร้องแบดบอย ลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่ที่ดูเหมือนเกลียดคนทั้งโลก เกรงใจพ่ออยู่คนเดียว  และท่าทางจะมีปมบางอย่างกับปู่และแม่ เพราะคนแต่งบรรยายความในใจเขาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยว่า ภีม ตั้งใจจะผลาญมรดกที่ปู่ภูริศยกให้จนเกลี้ยง  ไม่สนว่าญาติคนอื่นจะโวยวายว่าปู่ลำเอียง ยกสมบัติส่วนใหญ่ให้หลานนอกคอกคนนี้ เพียงแต่มรดกมาพร้อมเงื่อนไขคือต้องเลี้ยง เจ้าโซฟี นกแก้วมาคอว์ให้รอดปลอดภัย   เมื่อวันหนึ่ง ภีมเผลอลงมือกับโซฟีไปแล้วมันจ๋อยผิดปกติ  เขาจึงต้องพานกไปรักษากับฟาร์มเจ้าประจำ ทำให้ได้เจอ กอหญ้า สาวงามที่สร้างอาการคล้าย 'รักแรกพบ' ให้หนุ่มผู้ไม่เชื่อเรื่องความรัก กอหญ้าเป็นสาวไร้เดียงสาผู้มีสัมผัสวิญญาณ และสะสมลูกปัดมีพลังวิญญาณที่เรียกกันว่า "หน้าสะกด" ไว้มากมาย ดังนั้น เธอจึงเป็นคนเฉลยปริศนาว่าปู่ภูริศยังไม่ได้ไปสู่สุคติ และต้องการบอกบางอย่างกับหลานชาย (ซึ่งเกลียดปู่จนไม่ยอมรับรู้อะไรสักอย่าง)  ภูริศเลยใช้เรื่องนี้..และอิทธิพลทางการเงินของตระกูล..เป็นข้ออ้างดึงตัวสาวมาไว้ใกล้ตัวเสียเลย ระหว่างนั้น หมาป่าภีมก็พยายามใช้เล่ห์หลอกงาบหนูน้อยอ่อนโลก  มีพล็อตย่อยเป็นปริศนาตามฆ่าชิงมรดก (ใครคือคนร้าย?)  มีฉากให้หน้าสะกดออกมาปรามพระเอกหรือแสดงอิทธิฤทธิ์  มีพล็อตให้พระเอกเข้าใจผิดตามประสานิยายรักน้ำเน่า (ที่พระเอกอีคิวต่ำ)  สร้างสีสันให้ติดตามอ่านไปตลอดเรื่อง โดยรวมแล้ว โทนเรื่องไม่หวานจ๋อยชวนฝัน  แต่มีเรื่องผี เรื่องหน้าสะกด และบุคลิกพระเอกเลวๆ ให้อ่านแล้วรู้สึกแปลกใหม่  อ่านได้ในรวดเดียวค่ะ -- ส่วนนี้เป็นการตอบโจทย์ -- เรื่องนี้วิญญาณปู่เป็นต้นเหตุให้พระเอกมาพบนางเอกค่ะ นอกจากจะทำพินัยกรรมทิ้งไว้แล้ว ยังสิงนกจนป่วยให้พระเอกต้องไปหานางเอกด้วย  ที่สำคัญคือนางเอกมีพลังในการเห็นวิญญาณปู่ เลยต้องมาอยู่ใกล้พระเอกเพื่อช่วยเขา ความจริง  ปู่เป็นวิญญาณที่มีเจตนาดี แต่ขอบอกว่าสื่อสารไม่ได้เรื่องเลย  แค่จะเตือนว่า "อันตราย"  กลับสร้างฉากน่าผวาต่างๆ นาๆ เช่น สิงนกมาคอว์ทั้งกรงให้พูดคำเดียวกัน สิงเจ้าโซฟี หรือลากกอหญ้าที่เป็นคนตาบอดไปดูรูป ... เราว่าปู่เป็นวิญญาณแบบที่อาจทำอันตรายให้คนโดยไม่เจตนาได้ ดังนั้น เราขอสรุปว่าผีเรื่องนี้ "น่ากลัว" ค่ะ  โดยเฉพาะฉากสิงนกนี่ นึกภาพแล้วผวาพิลึก (ภาพจากเว็บสำนักพิมพ์) แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 21:38:20 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 52 21:16:59 จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 21:13:21

ความคิดเห็นที่ 12   หลอนรักนักเขียนผี ผู้แต่ง: ชัชชมนต์ สำนักพิมพ์แจ่มใส, พิมพ์ครั้งแรก 2552, ราคา 159 บาท หนังผีเรื่องไหนที่ใครๆ ว่าน่ากลัว คงไม่หลอนเท่าเรื่องที่ ‘คุณานันท์’ เจอกับตัว! เมื่อหญิงสาวที่เธอสู้อุตส่าห์พาไปส่งโรงพยาบาลพร้อม ‘ศิวยุทธ’ หนุ่มหล่อเข้มที่ทั้งฉุดทั้งลากเธอให้ตกกระไดพลอยโจนไปด้วยกัน กลับกลายเป็นผีตามมาหลอกหลอนทั้งคู่ทุกเช้าเย็น แถมยังขอตามจองล้างจองผลาญจนกว่าผีสาวจะเขียนนิยายจบ ไม่อย่างนั้นอย่าได้หวังว่าเจ้าหล่อนจะยอมไปผุดไปเกิด เรียกได้ว่าทำคุณบูชาโทษของแท้ งานนี้คนรอบตัวจึงหนีไม่พ้น เป็นต้องโดนลากเข้าไปยุ่งกับเรื่องหวีดสยอง พาให้หัวใจสองดวงของใครบางคนเต้นระทึกตามไปด้วยได้ยังไงไม่รู้!? * * * * * * * * เล่มนี้เป็นแนวผีสิงที่ให้อารมณ์เหมือนดูหนังผีไทยฮาๆ ค่ะ พล็อตตามปกหลังเลย  อ่านแล้วก็ข๊ำขำยุพาผกา..ผีที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดจนกว่าจะได้ตีพิมพ์นิยายเล่มแรกกับสำนักพิมพ์ดั๊งดังเจ้าเดียวเท่านั้น  นางเอกกับพระเอกที่อุตส่าห์ทำตัวเป็นพลเมืองดีเลยต้องรับอุปถัมภ์ผีอย่างเลือกไม่ได้ ความจริง ผีในเล่มนี้เฮี้ยนและอาละวาดเอาแต่ใจ ช่างเรียกร้องกว่าเล่มบนมาก (เพราะสื่อสารออกมาชัดเจนด้วย)  แต่สำนวนคนเขียนและวิธีการเดินเรื่องแบบหนังผีไทยทำให้โทนรวมออกมาขำขันมากกว่าขนหัวลุก   เช่น ตอนแรกอาจจะ..บรื๋อว์ มีผีเกาะหลังรถพระเอกไป  แต่พอฉากต่อมา นางเอกโทรไปหาพระเอกแล้วผีรับสาย "ไม่เจอกันวันเดียว คิดถึงเหรอ?"  คนอ่านก็ขำก๊ากเลย  ... ในเรื่องจะมีฉากที่เราอ่านแล้วหลุดหัวเราะออกมาหลายฉาก  ไม่ว่าจะเป็นตอนผีเครียดเวลาแต่งนิยาย  ผีกดดันบรรณาธิการ ฯฯลฯ  ดังนั้น จึงขอสรุปให้ผีเรื่องนี้ "น่ารัก" ค่ะ จุดตินิดเดียวในเล่มนี้คือความไม่สมจริงในฉากแรก เมื่อยุพาผกาโดนรถชน แล้วพระเอกดึงนางเอกให้ช่วยกันอุ้มเธอขึ้นรถเขาไปส่งโรงพยาบาล ... คือ คนโดนรถชนนี่อาจกระดูกหลังหัก คอเคลื่อน ห้ามขยับและไม่ควรให้คนไม่มีความรู้เข้าไปเคลื่อนย้ายโดยพลการอยู่แล้ว  หรือถ้าจะไปโรงพยาบาลก็ควรรอรถพยาบาลที่มีเครื่องมือ/ยาพร้อม   การกระทำของตัวเอกในเรื่องจึงผิดหลัก และดีเกินนิสัยมนุษย์ปุถุชนไปหน่อย (ภาพปกจากเว็บสำนักพิมพ์) จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 21:31:46

ความคิดเห็นที่ 13   คะแนนของ ^^Eternal Return^^  รวมเดือนสิงหาแล้วนะคะ 195 + 15  = 210   มันก็จนได้ล่ะ ยาคูลท์  เราทำใจไว้แล้ว จากคุณ : อั๊งอังอา เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 22:30:32

ความคิดเห็นที่ 14   สวัสดีค่ะ เพิ่งได้เข้ามาดูเป็นครั้งแรกค่ะ แต่เป็นคนอ่านหนังสือเยอะมาก เลยขอส่งการบ้านหน่อยนะคะ ^^ 30-2. [ยาคูลท์] อ่านนิยายหลายเล่มจบหรือซีรี่ส์ที่จำนวนหน้าทั้งหมดรวมกัน 900+ หน้าขึ้นไป จอมนางคู่บัลลังก์ สำนักพิมพ์ : ฟิสิกส์เซ็นเตอร์ โดย: เฟิงน่ง; หลินโหม่ว(แปล); ประเภท : นิยายแปล คำแนะนำเล่ม 1 ป๋ายพิงถิง ไม่เคยเชื่อคำกล่าว ซึ่งยึดถือกันมาแต่โบราณที่ว่า "คุณธรรมแห่งสตรีคือไร้สามารถ" นางเป็นเพียงสาวใช้ แต่กลับมีชีวิตความเป็นอยู่หรูหราสุขสบาย และเป็นที่นับหน้าถือตายิ่งเสียกว่าคุณหนูในห้องหอคนใด สิ่งที่ทำให้นางได้รับเกียรติยศเหล่านี้หาใช่หน้าตา หากแต่เป็นสติปัญญาที่เฉียบคมมากไหวพริบยิ่งเสียกว่าบุรุษ นางไม่เคยต้องการให้คนรอบข้างมานึกเสียดายต่อหน้าตาภายนอกที่แสนจะธรรมดาของนาง ผู้ที่นางต้องการคือชายซึ่งสามารถจะขี่ม้าเคียงข้างไปกับนาง มีสติปัญญาเฉียบแหลมไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่านาง สามารถแข่งขันกับนางได้อย่างทัดเทียม ด้วยเหตุนี้แม้ชายผู้นั้นจะเป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้นศัตรู แม้ระหว่างคนทั้งสองจะมีแต่คำโกหก แผนลวง และการชิงไหวชิงพริบ นางก็ยังมิอาจหวั่นไหวใจไปกับชายผู้นั้นได้ แต่ระหว่างความรักและความภักดี นางเลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น นางได้แต่ภาวนาว่า ความรักของฉูเป่ยเจี๋ย จะไม่ได้ลึกซึ้งมากเท่าที่นางคิด... ความเห็นส่วนตัว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้อ่านนิยายแปลจากภาษาจีนเลยค่ะ นิยายเล่มนี้ต้นฉบับ 7 เล่มจบ เอามาแปลเป็นไทย โดยคุณ หลินโหม่ว รวมเหลือ 4 เล่ม โดย 3 เล่มแรกหนาประมาณ 400 หน้า เล่มสุดท้าย ประมาณ 200 หน้า ตอนไปซื้อครั้งแรกซื้อแค่เล่ม 1 คนขายถึงกับบอกว่าไม่ซื้อไป 4 เล่มเลยเหรอคะ ระวัง ขาดใจตาย ปรากฏว่าวันต่อมาต้องรึบไปซื้อเล่ม 2-4 มาจนครบและอ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ปกติเป็นคนอ่านนิยายไม่ค่อยจบ ไม่ถูกใจก็เลิก ไม่ค่อยฝืนอ่านต่อ แต่นิยายเรื่องนี้ยาวรวมแล้ว 1400+ หน้า แต่อ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องความรักระหว่าง ป๋ายพิงถิงและฉูเป่ยเจี๋ย แต่ดำเนินเรื่องได้น่าติดตามด้วยเรื่องสงครามระหว่างแคว้นทั้ง 4 ซึ่งเป็นการรบด้วยเล่ห์กล แสดงให้เห็นถึงความฉลาด และรู้ทันกันของตัวละครหลักทั้งนางเอก พระเอก และตัวโกงของเรื่องคือ เหอเสีย รู้สึกประทับใจในเรื่องกลอุบายการรบในเรื่องนี้หลายๆ อย่าง คงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้อ่านนิยายจีน เลยเพิ่งได้สัมผัสเสน่ห์แบบนี้ ส่วนฉากสวีทระหว่างคู่พระเอกนางเอก ก็น่ารักมาก ความรักของทั้ง2คน ข้ามผ่านอุปสรรคยากๆ บางฉากอ่านแล้วรู้สึกหวานจนเขินแทน ตัวโกงของเรื่อง เหอเสีย เป็นตัวละครที่มีมิติมาก เริ่มเรื่องเป็นขุนศึกที่ภักดีต่อแคว้นของตัวเอง เป็นนายน้อยผู้อบอุ่นและอ่อนโยนของป๋ายพิงถิง แต่โดนกระทำหลายๆอย่าง จนกลายเป็นแค้น หน้ามืด ตามัว ทำสงครามจนได้อำนาจทุกอย่างมาอยู่ในมือของตัวเอง ถึงกับต้องฆ่าผู้หญิงที่ตัวเองรัก เพื่อมารู้ในสุดท้ายว่าตนเป็นผู้ชนะบนกองซากปรักหักพัง อ่านแล้วคิดถึงคำพูดในหลวงเลย สรุป ประทับใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ค่ะ ติดนิดเดียว ที่ผู้แปลติดทับศัพท์มากไปหน่อย คำแทนตัวเองของตัวละคะเป็นทับศัพท์ซึ่งตัวละครแต่ละตัวมีคำเรียกแทนตัวเองต่างกัน ทำให้บางทีอ่านแล้วงง หรือเสียอารมณ์ เช่น พระเอกแทนตัวเองว่า เปิ่นหวาง เวลาบอกรักนางเอกหรือพูดหวานๆ เช่น "เปิ่นหวางรักเจ้า" มันทำให้อารมณ์หลุดไปนิดนึงน่ะค่ะ สำหรับเรื่องสุภาษิต หรือตำนานจีน ที่ผู้แปลแทรกไว้ด้านล่างของหน้า ชอบมากค่ะ รู้สึกว่าได้สัมผัสวัฒนธรรมความเชื่อชาวจีนดี ^^ จากคุณ : Tin_girl เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 23:38:02

ความคิดเห็นที่ 15   ขอส่งการบ้านอีกสักข้อค่ะ 25-1. [อั๊งอังอา] อ่านหนังสืออะไรก็ได้ 1 เล่ม ที่จำนวนหน้า 500+ หน้า มีแต่อาศัยความหนาเข้าช่วย 555 The time traveler's wife by Audrey Niffeneger 560 pages นิยายเรื่องนี้แปลเป็นไทยชื่อเรื่อง ความรักของนักข้ามเวลา ค่ะ ตอนแรกที่รู้จักเรื่องนี้เนี่ย เนื่องมาจากเข้า www.amazon.com แล้วพบว่านิยายเรื่องนี้ เป็นอันดับ 1 ในหัวข้อ Romance ของ website นี้ และเป็น International Best seller แปล 33 ภาษา ยอดขาย 3 ล้านเล่ม กำลังจะเป็นหนังภาพยนตร์ (ตอนนี้เข้าโรงอยู่) ถ้าเป็นปกติหน้าปกอย่างนี้เห็นแล้วคงผ่านเลย แต่เนื่องจากชื่อเสียงของเธอโด่งดังจนไม่อาจทำเฉยได้ ต้องลองอ่านดูซะหน่อย เลย load ebook มาอ่าน อ่านไปได้ไม่ถึงครี่งก็ตัดสินใจไปซื้อเล่มจริงมาดีกว่า แต่ก็ต้องเซ็งในอารมณ์มาก เพราะหมดทั้ง Kinokuniya, Asiabooks ทุกสาขา เลยต้องทนอ่านใน PDA ต่อไป พร่ำพรรณนามาซะนานนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ เฮนรี่ ชายคนนึงซึ่งสามารถเดินทางไปในอดีตหรืออนาคตได้ โดยที่ตัวเองไม่ได้ต้องการ อยู่ดีๆเค้าก็จะหายตัวไปเหลือแต่กองเสื้อผ้าและไปโผล่ในอีกสถานที่อีกเวลาในสภาพที่ไม่มีอะไรติดตัวเลย แคล นางเอกของเรื่อง รู้จักกับเฮนรี่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เพราะเฮนรี่เดินทางจากอนาคตมาพบเธอบ่อยๆ ทั้งสองสนิทและเข้าใจกัน การได้พบกับเฮนรี่เป็นสิ่งที่แคลต้องรอคอยด้วยใจจดจ่ออยู่ตลอด และพอแคลอายุ 20 แคลก็ได้เจอกับเฮนรี่ในปัจจุบันเป็นครั้งแรก (ของเฮนรี่) (งงรึเปล่า) ตอนนั้นเฮนรี่อายุ 28 โดยพื้นฐานแล้วเนี่ยก็คือเป็นคน 2 คนพบกัน รักกัน แต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน เป็นเรื่องที่ธรรมดา แต่อยู่บนความไม่ธรรมดา เพราะเฮนรี่เป็นคนที่เดินทางข้ามเวลาได้ บางครั้งเฮนรี่หายไป 10 นาที บางครั้งหายไปหลายวัน ซึ่งทุกครั้งแคลจะเป็นห่วงมาก ในเรื่องนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องของการสูญเสีย เป็นเรื่องเศร้า ดราม่า รายละเอียดของเรื่องจะเยอะ ในตัวของพระเอกนางเอกจะมีปมในครอบครัวของตนเอง และในเรื่องโรคนี้ของพระเอกอีก ซึ่งจะกดดันหลายๆอย่าง แต่แคลก็ support เฮนรี่ตลอด รู้สึกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่   อีกอย่างที่ชอบคือ ความเป็นจิ๊กซอของเรื่อง บางตอนจะมีจุดที่สงสัย แล้วต่อมาจะมีเฉลย อ่ออย่างนี้นี่เอง ตอนนั้นถึงอย่างนั้น เหมือนมันเป็นจิ๊กซอที่หายไปแล้วมาลงพอดีให้เข้าใจภาพของเหตุการณ์นั้นๆมากขึ้น ชอบที่คนแต่งผูกเรื่องได้ขนาดนี้ เรื่องนี้อ่านแล้วกระแทกใจอย่างรุนแรง พออ่านจบมันไม่อยากให้จบเลย ไป search ทุกอย่าง เกี่ยวกับเรื่องนี้ เกี่ยวกับนักเขียน ดูทุกสัมภาษณ์ ดูตัวอย่างหนัง ดูสัมภาษณ์นักแสดง พยายามหา torrent หนังเรื่องนี้ คือเหมือนคนบ้าไปช่วงนึงทีเดียว สรุป อ่านแล้วสนุก อ่านแล้วคลั่ง อ่านแล้วร้องไห้ ปล. นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกของผู้แต่งคนนี้ ทำให้ทึ่งเข้าไปอีก จากคุณ : Tin_girl เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 00:24:28

ความคิดเห็นที่ 16   นัทธ์ ..มาแจมแอบอ่านรีวิวนิยายผีๆๆค่ะ นิยายผีที่คุณนัทธ์อ่านอีกเรื่อง ก็"เงารัก"ของอรพิมไง จำได้อยู่..ว่าแต่ว่ามันเป็นนิยายผีน่ารักหรือน่ากลัวเนี่ย?? "แม่ศรีบางกอก" ชื่อเรื่อง นึกว่าแนว"ร่มฉัตร"หรือ"สี่แผ่นดิน" แต่อ่านรีวิวแล้ว ไหงมันล้ำสมัยขนาด..ว๊าก..ชายหนุ่มจากต่างดาว ยาคูลท์ ..อ่านพล็อตนิยายคุณแล้ว น่ารักดีค่ะ งานของชญาณพิมพ์ เรากำลังตามหา"เฉินหมิง"อยู่ค่ะ อิอิ เพราะได้ข่าวว่าแมวดำตนนี้ หล่อเหลาทำเอาคนอ่านหลงเสน่ห์เหลือเกิน เคยอ่าน"ตราบดินสิ้นฟ้าสัญญารักนิรันดร์"หรือยังเอ่ย? เราจะหามาอ่านอยู่ ปล.พระเอกนิยายน้ำเน่า ไอคิวสูง อีคิวต่ำ เกือบทุกคนเลยแฮะ.. แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 01:05:44 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 00:44:35 จากคุณ : nikanda เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 00:43:37

ความคิดเห็นที่ 17   ส่งการบ้านหน่อยค่ะ เก็บคะแนนยิบย่อย ช่วงนี้อ่านหนังสือเอื่อยๆ ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ว่าจะหยุดรีวิวหนังสือไปเลย แต่ก็เสียดาย เพราะว่ายังอ่านอยู่เรื่อย แม้จะไม่ขมีขมันเท่าเดิมก็ตาม ขอข้อนี้แล้วกัน..หาลงโจทย์จนได้  อ่านโรมานซ์ง่ายๆ มันเพลินใจดี ไม่เครียด ไม่ต้องคิดถึงความมจริงมากนัก 5-5. [Clear Ice] นิยายที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ มาเฟีย / ยากูซ่า / ผู้ก่อการร้าย A Game Of Chance :: เกมส์เสี่ยงรัก :: By Linda Hovard นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อ่าน และเคยรีวิวไว้ที่บล็อกด้วย ขอยกมาเลยนะคะ สายลับแชนซ์ แมคเคนซี่รู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดในการจับตัวผู้ก่อการร้ายคือการใช้บุตรสาวของชายผู้นั้นเป็นเหยื่อล่อ เขาจึงหว่านเสน่ห์ซันนี่ มิลเลอร์ และในไม่ช้าเขาก็ได้รับความไว้วางใจ...และหัวใจ...จากเธอ... แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดก็คือ ซันนี่เองก็กำลังหลบหนีผู้เป็นบิดา การจะคุ้มครองเธอได้ เขาจะต้องบอกความจริงแก่เธอ ทว่า...มันจะทำให้เขาสูญเสียเธอไปหรือไม่ แชนซ์เป็นเด็กที่วูลฟ์และภรรยาเก็บมาเลี้ยง..วัยเด็กน่าสงสารมาก เขาถูกเลี้ยงมาเหมือนคู่แฝดของเชน พระเอกเล่มบน ตอนแรกไม่ค่อยถูกกัน แต่ตอนหลังกับกลายเป็นคู่พี่น้องที่รักกันมาก เล่มนี้ซึ้งกับความรักของครอบครัวที่มีให้พระเอก แม้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่พวกเขาก็รักแชนซ์ไม่น้อยกว่าลูกคนไหนๆ ให้ห้าดาวเต็ม เพราะแชนน์ก็เท่ห์สุดๆไม่แพ้เชนเลย นางเอกซันนี่ก็น่ารักมาก เธอต้องการหนีพ่อผ้มีอิทธิพลแต่พระเอกไม่รู้มาก่อน และตัวพระเอกต้องการใช้นางเอกเป็นเหยื่อล่อผู้ก่อการร้าย เรียกว่านางเอกหนีเสือปะจระเข้ เพราะพระเอกเล่นสวมรอยเข้ามาให้นางเอกไว้เนื้อเชื่อใจ แต่เมื่อพระเอกเริ่มรู้ความจริงที่เจ็บปวดของนางเอก ก็ยากที่จะแก้ไข..สนุกมากค่ะ ไม่ควรพลาด อ่านแล้วแอบจิ้น..จะมีบ้างไหมซักคนที่ปลอมตัวเข้ามาหา และกลายเป็นรักแท้ในที่สุด 55555+++ นี่คือความคิดเมื่อครั้งที่อ่านครั้งสุดท้าย..แต่เมื่อวานบ่าย หยิบมาอ่านเล่นๆ เพลินๆ ความโรแมนติกมันหายไปเยอะ เพิ่งรู้สึกว่าความรักของพระเอกนางเอกมันเกิดเร็วไปหน่อยมั๊ง นางเอกเริ่มรู้ตัวว่าหลงรัก...(รักนะคะ ไม่ใช่ติดตาต้องใจ) ตั้งแต่ยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย..(แต่โรมานซ์ก็อย่างนี้แหล่ะ ข้ามไป) แต่ถึงอย่างไร ก็ถือว่าสนุกค่ะ หยิบมาอ่านได้ ไม่เสียสตังค์แน่นอน(สำหรับคอโรมานซ์นะคะ) จากคุณ : nikanda เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 01:01:12

ความคิดเห็นที่ 18   คุณแจง....เรื่องผีน่ารัก..เราว่าที่บ้านมีหลายเรื่องเหมือนกันนะ..แต่เราหาผีน่ากลัวไม่เจอ (ไม่อยากหาด้วย) ก็เลยจะขอผ่านโจทย์ข้อนั้นไป... ปกติไม่ค่อยกินเส้นกับหนังสือผีผีซะด้วย จากคุณ : นัทธ์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 06:55:01

ความคิดเห็นที่ 19   สวัสดีค่ะ ^^ หายไปสองวัน ตามอ่านตามแจกกิ๊ฟรีวิวจากกระทู้เก่ามาจนถึงกระทู้นี้ใช้เวลาไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ ยินดีต้อนรับคุณTin_girl ค่ะ คุณนัทธ์...แม่ศรีบางกอกเคยอ่านเมื่อนานมากแล้ว เห็นคุณนัทธ์รีวิว ร่ำ ๆ จะไปหยิบมาอ่านใหม่นะเนี่ย ว่าแต่มันจะเข้าโจทย์ไหนได้บ้างล่ะคะ อ่านตอนนู้น(เมื่อยังเด็กอยู่) ก็ชอบนะ ไม่รู้ว่ามาอ่านตอนโต ๆ นี่จะเป็นยังไง หนังสือผี ๆ ที่คุณยาคูลท์อ่านก็น่าสน ความจริงแม่ไก่มีหนังสือผีเยอะเหมือนกันนะ แต่เป็นผีรุ่นโบราณทั้งนั้นเลยออกแนวผีน่ากลัวไปเสียทั้งหมด ผีน่ารักหายากชะมัด แต่ป่านนี้แล้วสงสัยจะไม่ทันอ่ะ เพราะดูโจทย์ที่เหลือ(ของตัวเอง)แล้ว ยังมีที่ต้องตามเก็บอีกหลายเล่ม ไปเจอ "พี่กับน้อง"ของหยูหัวในร้านหนังสือ วางโดดเด่นมาก แต่เล่มหนาปึก จึงยังไม่ได้หยิบมา ไม่ทราบว่ามีใครเคยอ่านไหมคะ จำได้ว่าคุณยาคูลท์เคยรีวิวหนังสือของนักเขียนคนนี้ ถ้ามีใครเชียร์สักคนจะกลับไปสอยมาค่ะ (ซีลพลาสติกอย่างดีเลยไม่ได้เปิดดูเนื้อในเลย) ดองรีวิวไว้หลายเล่มเลยค่ะ เดี๋ยวบ่าย ๆ อาจจะได้แว๊บเข้ามาแปะ ทักทายและเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 09:32:30 จากคุณ : แม่ไก่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 09:26:29

ความคิดเห็นที่ 20   ^ ^ คุณแม่ไก่  เรื่องแม่ศรีบางกอกเนี่ย เราพยายามหาโจทย์อื่นเพื่อให้ได้คะแนนมากกว่านั้นแล้ว แต่หาไม่ได้เลยล่ะ ...มีแต่มนุษย์ต่างดาวนั่นแหละ ... ไม่แน่ ...คุณแม่ไก่อ่านอีกครั้ง อาจจะจับประเด็นไปตอบโจทย์อื่นๆ ก็ได้นะ ... จากคุณ : นัทธ์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 12:26:17

ความคิดเห็นที่ 21   แค่อ่านรีวิวผี ก็แทบเป็นลม ... เฮ้ออ.. ********************** 15-10. [LMJ] 12 สิงหา วันแม่แห่งชาติ: ให้อ่านหนังสือที่ชื่อจริงหรือนามปากกาของนักเขียนขึ้นต้นด้วยพยัญชนะเดียว กับชื่อจริงหรือชื่อเล่นของคุณแม่ ***ยอดชายในฝัน / Mr Perfect*** Linda Howard แต่ง / อารีแอล แปล สำนักพิมพ์แก้วกานต์ 354 หน้า ราคา 235 บาท ปกหลัง : ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมมาแต่ชาติปางไหน ที่เจนอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบจนซื้อบ้านน้อยน่ารักเป็นของตัวเองได้ แต่กลับต้องมาเจอเพื่อนบ้านที่กวนประสาทสุด ๆ เขาทั้งขี้โมโห และ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย หน้าตาก็ยังกับอันธพาล หรือพวกค้ายาไม่มีผิด คนอย่างอีตานี่ไม่มีทางเป็นยอดชายในฝันของใครได้หรอก เจนเอาเรื่องเพื่อนบ้านผีทะเลคนนี้ไปปรารภกับเพื่อน ๆ ในที่ทำงาน แล้วสี่สาวก็นึกสนุกเขียนรายการคุณสมบัติของยอดชายในฝันขึ้นมา เขาควรจะสูงเข้ม แล้วก็หล่อสุด ๆ ไหม เขาควรจะโอบอ้อมอารีและเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นรึเปล่า หรือแค่เป็นเพศชายที่ล่ำบึ้กก็พอ... การณ์ปรากฏว่า รายการคุณสมบัตินั้น กลับเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วทั้งในที่ทำงานและในอินเทอร์เน็ต และแล้วสิ่งที่เริ่มจากการหยอกล้อ ระหว่างเพื่อนฝูง ก็กลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเมื่อหนึ่งในกลุ่มสาวซ่า ถูกฆาตกรรม เจนจำต้องหาทางปกป้องตนเองและเพื่อน ๆ ที่เหลือและคนที่จะช่วยหล่อนได้ กลับเป็นเพื่อนบ้านจอมกวนของหล่อนนี่เอง โรมานซ์สืบสวนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน อีกหนึ่งผลงานชิ้นเยี่ยมของนักเขียนผู้มีพรสวรรค์ ความรู้สึกหลังอ่าน ยอดชายในฝัน .. สิ่งที่พูดได้ง่าย ๆ แต่ทำได้ยากชะมัด .. (เหรอ??) 1. ความซื่อสัตย์ 2. สุภาพ 3. เชื่อถือได้ (ทำได้ตามที่พูด) 4. มั่นคง (ด้านการงานอาชีพ) 5. มีอารมณ์ขัน 6. เงิน 7. หน้าตาดี 8. xxx (เซ็นเชอร์) 9. xxx (เซ็นเซอร์) ขำโพด.. บทสนทนาระหว่างพระเอก-นางเอก จะมีอะไรให้ขำตลอด .. ช่วงตื่นเต้นก็เขียนได้ตื่นเต้นดี .. อ่านเรื่องนี้แล้ว ก็คิดถึง ซีรี่ยส์ Sex and The City .. เหมือนเอา คาแรกเตอร์ มาเลยล่ะ ... ส่วนพระเอก ก็จะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจาก Mr. Big.. แต่ไม่ใช่เพราะคาแรกเตอร์ นะคะ ... 555 จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 13:25:42

ความคิดเห็นที่ 22   5.4. [LMJ] หนังสือในหมวด Romantic Suspense ***หัวใจกำสรวล / Cry no More*** Linda Howard/ พิชญา แปล สำนักพิมพ์ แก้วกานต์ 358 หน้า ราคา 235 บาท ปกหลัง : เมื่อมิลล่าถูกแก็งขโมยเด็กพรากลูกน้อยไปจากอก และทำร้ายเธอปางตาย เธอจึงทำทุกอย่างเพื่อตามหาลูกกลับคืนมา ไม่ว่าจะต้องเสื่ยงอันตรายสักเพียงใด เธอไม่อาจรู้ได้ว่าลูกของเธอเป็นตายร้ายดีอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่เธอจะหมดหวังไม่ได้! .. จากวันเป็นเดือน.. จากเดือนเป็นปี.. ในที่สุดเธอก็ได้เงื่อนงำของคนที่ขโมยลูกเธอไป.. ชายตาเดียว! .. ในขณะที่เธอตามล่าเดนมนษย์รายนั้น เธอก็เจอเข้ากับชายผู้หนึ่ง เขาเป้นชายที่ลึกลับอันตราย ชีวิตของเขาเป็นปริศนา แต่สิ่งที่เป็นปริศนายิ่งกว่าคือจิตใจของเขา เธอต้องหวังพึ่งเขาในการตามหาลูก แต่เธอจะไว้ใขเขาได้หรือ.. นวนิยายโรมานซ์สืบสวนสะเทือนอารมณ์ ที่จบลงด้วยความสุขอิ่มเอมใจ ความรู้สึกหลังอ่าน พลอตเรื่อง + การดำเนินเรื่อง ออกแนวเครียดไปหน่อย ผิดระเบียบโรแมนซ์ มาก ๆ แต่ก็ยังอ่านได้เรื่อย ๆ... ไม่มีช่วงให้ขำขันเลย ...ช่วงตื่นเต้น ก็เฉย ๆ.. บทบรรยาย เยอะมาก ๆ...กว่าจะอ่านได้สนุก ก็เกือบครึ่งเรื่องแล้ว .. แต่ในช่วงดราม่าเรียกน้ำตาได้ พอสมควร ... สรุปว่าไม่ค่อยชอบแนวนี้เท่าไหร่ ... แต่ถ้าใครชอบดราม่า อาจจะชอบเรื่องนี้ก็ได้ จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 13:28:33

ความคิดเห็นที่ 23   รีวิวผีมาเยอะจัง  กลัวค่ะ  ไม่ได้อ่านเลย เลื่อนผ่านตลอด   -*- ต้อนรับ Tin_girl ค่ะ ตอนไปหานิยายจีน ที่ร้านก็แนะนำเหมือนกันเปี๊ยบ "ไม่รับยกชุดล่ะครับ บลา บลา"  เราก็เอามาสองเล่ม จนบัดนี้ยังไม่ได้อ่านเลยไม่รู้ว่าจะลงแดงไหมถ้าไม่มีเล่มสามใกล้มือ  แต่เห็นชอบมากๆ กันหลายคนแล้ว ปลายทางของสายรุ้ง Mr Perfect ตลกมาก อ่านแล้วยิ่งยืนยันว่าชอบเจ๊ลินดา  แต่เราชอบ Cry No More นะ เศร้ามาก ชอบที่สุดเท่าที่อ่านโรแมนซ์มา คือว่าชอบเครียดๆ เป็นทุนเดิม จากคุณ : อั๊งอังอา เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 14:09:35

ความคิดเห็นที่ 24   วันนี้มาแปะการบ้านสองข้อค่ะ เล่มแรกกับโจทย์นี้  25-2. [อั๊งอังอา] 26 มิ.ย. เป็นวันสุนทรภู่: ให้อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่ท่านแต่งหรือดัดแปลงมาจากเรื่องที่ท่านแต่ง หรือมีตัวละครจากเรื่องที่สุนทรภู่แต่ง พ่อภู่ ครูกวี ศรีสยาม : ฉลองสองร้อยปีกวีเอกของโลก กตัญญู ชูชื่น บรรณาธิการ (ร่วมด้วยนักเขียนเกียรติยศ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประจักษ์ ประภาพิทยากร เปลื้อง ณ นคร และภิญโญ ศรีจำลอง) จัดพิมพ์โดย สนพ.โอเดียนสโตร์ (พ.ศ. ๒๕๒๙) ไปค้นเจอหนังสือเล่มนี้ในห้องสมุดโรงเรียนเก่า เลยขออนุญาตยืมมา เมื่ออ่านจบแล้วอยากจะได้เป็นของตัวเองมาก ๆ มาพลิกดูหน้าปกในเห็นจำนวนพิมพ์แล้วอึ้งเลย เขาพิมพ์แค่ ๑,๐๐๐ เล่มค่ะ ผ่านกาลเวลามากว่า ๒๐ ปี ไม่แน่ใจว่ามีการพิมพ์ซ้ำหรือเปล่า เป็นหนังสือที่พิมพ์ขึ้นเนื่องในโอกาสที่ท่านสุนทรภู่ได้รับการประกาศเกียรติคุณจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในปีพ.ศ.๒๕๒๙ ซึ่งเป็นปีที่ท่านกวีผู้นี้มีอายุครบ ๒๐๐ ปี ในเล่มจะมีประวัติและผลงานของท่านในมุมมองของนักเขียนแต่ละท่าน รวมถึงบทวิเคราะห์ผลงานที่เด่น ๆ ด้วย ในส่วนที่เป็นชื่อหนังสือนั้น บรรณาธิการได้เกริ่นกล่าวไว้ว่า "ในภาคอีสาน เรียกบุคคลที่ควรแก่การยกย่องและค่อนข้างมีอายุว่า"พ่อ" แม้ว่าตามประวัติสุนทรภู่จะไม่เคยเดินทางขึ้นไปทางภาคอีสานของไทย แต่จากกลอนตัวอย่างจากเพลงยาวถวายโอวาท แสดงว่าสุนทรภู่เป็นปฏิภาณกวี เป็นนักแต่งเพลงยาวมีชื่อเสียงเล่าลือกันมาก จน..."เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร(ราชสีมา)" จากบทเต็ม... "อย่างหม่อมฉันอันที่ดีและชั่ว..........ถึงลับตัวก็แต่ชื่อเขาลือฉาว เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว.....เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร" ในบทที่ว่าด้วยจินตนาการของสุนทรภู่จากเรื่องพระอภัยมณี ผู้เขียนคือ "สัทธา อริยะธุกันต์" ได้เปรียบเทียบสุนทรภู่กับจูลส์ เวิร์นส นักเขียนชาวฝรั่งเศสที่สอดแทรกจินตนาการต่าง ๆ เกี่ยวกับประดิษฐกรรมในอนาคต ซึ่งปัจจุบันนักประดิษฐ์นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถทำในสิ่งที่นักเขียนจินตนาการไว้ สำหรับสุนทรภู่เรื่องที่แสดงถึงจินตนาการที่เด่นชัดมากก็คือพระอภัยมณี...นับตั้งแต่จินตนาการด้านการประดิษฐ์โครงเรื่องเลยทีเดียว พระอภัยมณีไม่ใช่นิทานพื้นเมืองโบราณ ไม่ใช่นิทานปรัมปรา และที่สำคัญไม่ใช่นิทานชาดก...พระอภัยมณีนับเป็นเรื่องที่สุนทรภู่ได้แหวกความจำเจซ้ำซากในเรื่องประเภทจักร์ ๆ วงศ์ ๆ ด้วยกัน โครงเรื่องใหญ่เป็นสูตรชายพบหญิง มีความขัดแย้งในระหว่างตัวเอก คือพระอภัยมณี สุวรรณมาลี และนางละเวง ...ในโครงเรื่องใหญ่ก็มีโครงเรื่องย่อยแทรกอยู่ด้วย และในโครงเรื่องย่อยก็มีการวางข้อมูลขัดแย้งที่สมเหตุสมผลโดยตลอด... พระอภัยมณี นางสุวรรณมาลี และนางละเวงเป็นตัวละครสมัยใหม่ เป็นการแสดงความคิดว่าไทยจะคบค้าสมาคมกับฝรั่งอย่างนางละเวงก็ได้ นางสุวรรณมาลีก็ยอมรับในสถานภาพของตนที่สามีมีเมียเป็นชาวต่างประเทศ พระอภัย ตัวเอกของเรื่องสามารถพูดภาษาฝรั่ง (แถมด้วยภาษาจีนและจาม) ดังคำกลอนที่ว่า "จะกล่าวถึงพระอภัยมณีนาถ............กับองค์ราชกุมารชาญสนาม หัดภาษาฝรั่งทั้งจีนจาม...................ราวกับล่ามพูดคล่องทั้งสององค์" นอกจากภาษาพูดแล้ว สุนทรภู่ยังได้แทรกเกร็ดวัฒนธรรมอื่น ๆ ให้สมจริงเช่นวัฒนธรรมการแต่งกาย.... "......... แอบฉะอ้อนวอนพระอภัยมณี..........เชิญพระพี่ขึ้นพลับพลาบนปราการ จงแต่งองค์ทรงสำอางอย่างฝรั่ง.......เป็นเจ้าลังกาเขตประเทศสถาน พวกเสนาข้าบาทในราชการ.............จะสำราญรักใคร่น้ำใจกัน" ฯลฯ "ประจักษ์ ประภาพิทยากร" ได้เขียนบทความเรื่อง "พระอภัยมณีกับการสะท้อนเหตุการณ์" ไว้ว่า... "วรรณกรรมย่อมเป็นกระจกฉายแสงให้เห็นเหตุการณ์ตลอดจนวัฒนธรรมในสมัยนั้น ๆ  คำกล่าวนี้เป็นความจริงอย่างยิ่ง แต่วรรณคดีเป็นเรื่องของจินตนาการ ฉะนั้นสังคมที่มีอิทธิพลต่อวรรณคดีจึงปรากฏในรูปของจินตนาการ การพรรณนาออกของวรรณคดีจึงเล็กบ้างใหญ่บ้างเป็นธรรมดา.......... ในพระอภัยมณี สุนทรภู่ได้สะท้อนเหตุการณ์ความเป็นไปของเมืองไทยในยุคนั้นไว้หลายตอน เหตุการณ์บางอย่างก็เกิดขึ้นในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ บางอย่างก็เกิดก่อนท่าน...การสะท้อนออกมาบางครั้งก็ไม่สะท้อนออกมาตรง ๆ แต่กระนั้นก็พอจะสังเกตรู้ได้ เมืองผลึกก็ดี เมืองรมจักรก็ดี เป็นเมืองไทยเรานี่เอง พลเมืองก็เรียกตัวเองว่าไทย จะเห็นได้จากสารของพระอภัยมณีที่มีถึงนางละเวง "ในสาราว่าองค์พระทรงสวัสดิ์............. สืบกษัตริย์ศาสนาภาษาสยาม" ตอนศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์ตามหาพระอภัยมณีจนไปในเมืองรมจักร นายด่านพาชมเมือง... "พราหมณ์หัวเราะรับคำที่รับสั่ง..........พลางชมวังนิเวศน์ประเทศสถาน งามปราสาทผาดเยี่ยมโพยมนาน.......ชัชวาลแก้วเก้าวะวาวตา มีบ้านช่องสองแถวแนวถนน.............ทั้งผู้คนคึกคักกันนักหนา มีโรงรถคชไกรไอยรา.....................สนามหน้าจักรวรรดิที่หัดพล ที่ท้ายวังตั้งล้วนแต่ตึกกว้าน..............บ้างนั่งร้านสองแถวแนวถนน นายด่านพาผ่านตลาดต้องหลีกคน.....ประชาชนซื้อหาพูดจากัน" คำพรรณนาตอนนี้คะเนได้ว่า สุนทรภู่เอาพระบรมมหาราชวัง ท่าเตียน ถนนบำรุงเมืองเป็นฉากสำหรับการพรรณนานั่นเอง นอกจากนี้ยังมีนักเขียนร่วมอีกหลายท่านที่เขียนถึงผลงานของกวีเอกสุนทรภู่ในประเด็นต่าง ๆ เช่น"ประกิจ จันตะเคียน" เขียนถึงลักษณะโคลงของสุนทรภู่ในนิราศสุพรรณ ซึ่งถึงแม้จะยึดถือกฏสำคัญ ๆ ของการแต่งโคลงเช่นเดียวกับกวีทั่ว ๆ ไป หากแต่มีลักษณะบางอย่างที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของสุนทรภู่ "โสภา ติสองเมือง" ได้เขียนถึงกลอนสุภาษิตของสุนทรภู่ว่าล้วนแต่เป็นคำกลอนที่มีคติสอนใจ ใช้คำสอนทางศาสนาและจริยธรรมเป็นสุภาษิตอมตะที่ใช้คำง่าย ๆ ภาษาง่าย แต่แฝงไว้ซึ่งหลักปรัชญาและคติธรรมอันมีค่าสุดจะประเมินได้ "กตัญญู ชูชื่น" เขียนถึงวรรณกรรมสร้างสรรค์แนวใหม่ของสุนทรภู่ : เพลงยาวสู่นิราศ อันเป็นการดัดแปลงวิธีการของกลอนเพลงยาวดั้งเดิม มาแต่งใหม่ โดยปรับปรุงเพิ่มเติมวิธีการคร่ำครวญและพรรณนาสถานที่จากโคลงนิราศเข้าไปด้วย เนื้อความในกลอนนิราศมีการเล่ารายละเอียดถึงสถานที่ ภูมิประเทศและเหตุการณ์ที่ได้พบเห็นมากกว่าที่เราได้เคยอ่านในเพลงยาวและโคลงนิราศก่อนหน้านี้ ในส่วนที่เป็นบทความของนักเขียนเกีนรติยศในเล่มนี้นั้น ประกอบด้วยบทความเรื่อง"พบวรรณกรรมเรื่องใหม่ของสุนทรภู่" กับ "ไปสืบหาวัดเจ้าฟ้าอากาศ" เขียนโดย "เปลื้อง ณ นคร" เรื่อง"ลายมือสุนทรภู่อยู่ไหน" โดยเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และ"พบหลักฐานต้นตระกูลสุนทรภู่เป็นพราหมณ์เมืองเพชรบุรี" โดยภิญโญ ศรีจำลอง เป็นหนังสือเก่าที่มีค่า น่าอ่านเป็นที่สุด ต้องขอบคุณคนตั้งโจทย์นี้ค่ะที่ทำให้เราได้ค้นพบหนังสือดี ๆ เช่นนี้ (ตอนแรกว่าจะอ่านค่าวซอพญาพรหมเรื่องพระอภัยมณี แต่...โห...ยาวค่ะเรื่องนั้นพันกว่าบท  แถมกว่าครึ่งเป็นตัวอักษรล้านนาเสียอีก เพราะยังไม่มีผู้ปริวรรติจนแล้วเสร็จเสียที...แต่ก็ยังจะอ่านอยู่ดีค่ะเพียงแต่คงไม่ทันจบในเดือนนี้แน่ ๆ ) ปกหนังสือได้จากเว็บทูโลค่ะ(แต่ตัวหนังสือไม่มีแล้ว) แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 52 14:05:57 จากคุณ : แม่ไก่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 15:06:34

ความคิดเห็นที่ 25   อีกเล่มกับโจทย์นี้ค่ะ 15-5. [พุดน้ำบุศย์] หนังสือ how-to สู่การพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น กลายเป็นหมาคว้าความสำเร็จ  (The Way of the Dog) ผู้แต่ง : Geoff Burch   ผู้แปล : มรกต เบญจวัฒนานันท์ ผู้พิมพ์ : Inspire สนพ.ในเครือนานมีบุคส์ เนื้อหาโดยย่อ : เดเรก สตับบินส์ เซลส์แมนขายบานพับกระจกผู้ล้มเหลว (หรือบางทีเขาอาจจะเป็นพนักงานขายผู้เก่งกาจ ที่ลูกค้าใจแคบไม่ยอมซื้อของด้วยต่างหาก) วันดีคืนร้ายเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็อุบัติ เขาไปขายของให้แม่มด ยังไม่ทันจะได้เรื่อง เขาก็ถูกแม่มดสาปให้กลายร่างเป็นหมาต้อนแกะ! เขาไม่เพียงต้องปรับตัวกับความเป็นหมา แต่ยังมีหน้าที่ต้อนฝูงแกะอีกด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของหมาพันธุ์บอร์เดอร์คอลลีนี้ เขาต้องทำให้สำเร็จสถานเดียว จึงจะได้กลับคืนเป็นคน เขาต้องฟันฝ่าอุปสรรคร้อยแปด ทั้งจากหมาเจ้าถิ่น หมานักเลง แกะหัวแข็ง... โดยมีเชป-หมาใหญ่ใจดีคอยสอนกลยุทธ์ต่างๆ เดเรกต้องเรียนรู้เคล็ดลับใหม่ๆ และฝ่าฟันอุปสรรคด้วยตัวเองจนถึงวันแข่งขัน ที่จะต้องลุ้นกันถึงวินาทีสุดท้ายว่าเขาจะทำสำเร็จ และพ้นคำสาปกลับมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้หรือไม่ โปรยปกหลัง : พบวิธีหลุดโลก สนุกสนานชวนลุ้น ช่วยให้คุณเปลี่ยนมุมมองได้แบบพลิกฝ่ามือ เพื่อหาโอกาสไขว่คว้าสิ่งที่คุณต้องการ จากชีวิตและการงาน ผ่านเรื่องราวตลกผสมแง่คิด ข้อชี้แนะและเคล็ดลับมากมาย ที่นำทางคุณให้ค้นพบคำตอบของคำถามน่ามึน เช่น ฉันจะจัดการชีวิตยังไงดี ทำไมฉันถึงอยากทำแบบนั้น  ฉันจะรับมือกับลูกค้า เพื่อนเทียม คู่แข่ง เจ้านายยังไงให้อยู่หมัด และฉันจะแงะก้นตัวเองให้ลุกมาหาความสำเร็จได้จริงหรือ...   ส่วนตัว.... ปกติไม่ค่อยอ่านหนังสือพวกฮาวทูเท่าไหร่ โดยเฉพาะฮาวทูที่เกี่ยวกับธุรกิจแบบนี้ ถ้าเป็นฮาวทูจำพวกเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตส่วนตัวจะยึดหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลัก ทั้งปฏิบัติปริยัติครบครัน แต่เล่มนี้แตกต่างค่ะ หนังสือเล่มนี้เป็นฮาวทูที่อ่านสนุกทีเดียว เพราะผู้เขียนได้ผูกเป็นเรื่องเป็นราวออกแนวนิทานเด็ก ผสานด้วยแฟนตาซีนิด ๆ เสียดสีหน่อย ๆ ... โดยใช้สัญชาตญาณและธรรมชาติแห่งสัตว์มาเปรียบเทียบกับวิธีคิดแบบคน ผู้เขียนมีหลักคิดง่าย ๆ ก็คือ... "ตามที่นักจิตวิทยาสัตว์ได้บอกไว้ว่า สุนัขไม่มีความสามารถที่จะคิดแบบนามธรรม และการที่มันคิดแบบนามธรรมไม่ได้นี่เองทำให้ไม่มีความคิดกลัวอนาคต พวกมันจะไม่รู้สึกสิ้นหวังหรือเหนื่อยที่จะทำอะไรซ้ำซาก...หมาจะไม่เหมือนคนที่วิตกจริตว่ายังมีอุปสรรครออยู่ข้างหน้าอีกมากมายและอยากจะเลิกล้มอยู่หลายครั้ง แต่หมาจะเห็นอุปสรรคแค่อย่างเดียว ความทรงจำเกี่ยวกับอุปสรรคก่อนหน้านี้ให้ประสบการณ์แก่มัน แต่ไม่ได้ทำให้มันรู้สึกท้อ มันไม่สนใจว่าอุปสรรคที่เจอจะยากหรืออันตราย มันจะรับมือกับอุปสรรคทีละอย่างจนกระทั่งแกะทั้งฝูงเข้าคอกอย่างปลอดภัยไปแล้ว...ถ้าไม่มีแกะเหลือให้ต้อนแล้ว มันก็จะสลัดความคิดเรื่องแกะออกจากหัวแล้วกลับมามีความสุขกับชีวิตประสาหมา..." น่าเอาอย่างไหมล่ะคะ...? ฮาวทูเล่มนี้ไม่เพียงแต่นำเสนอกลยุทธ์ในการชนะใจลูกค้าเท่านั้น ทริกต่าง ๆ ที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้ยังสามารถนำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งแข่งขันเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อีกด้วย จากคุณ : แม่ไก่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 15:11:46

ความคิดเห็นที่ 26   ชอบลินดาเหมือนกันค่ะ ปกติจะไม่ชอบเรื่องเศร้า แต่เรื่อง Cry No More ต้องขอยกเว้น เพราะถึงแม้จะเศร้าแต่อ่านจบแล้วมันรู้สึกดีแบบอิ่มเอมใจค่ะ จากคุณ : หมูย้อมสี เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 16:03:39

ความคิดเห็นที่ 27   #ปลายทางของสายรุ้ง "ยอดชายในฝัน / Mr Perfect" เราก็ชอบมากเลย สนุกมากเลยค่ะ ฮาด้วย เซ็กซี่ดีด้วย ... ส่วน"หัวใจกำสรวล / Cry no More" เราสั่งซื้อ รอหนังสืออยู่ค่ะ แต่อ่านตัวอย่างไปสามบท คิดว่าตัวเองจะชอบแน่ๆ ยิ่งแนวแม่ๆลูกๆ น่าจะทำบ่อน้ำตาแตกได้ง่ายๆ เห็นหลายคนบอกว่า นี่เป็นโรมานซ์ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลย จากคุณ : nikanda เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 16:23:39

ความคิดเห็นที่ 28   เข้ามาอ่านรีวิว เดือนนี้ผมยังไม่มีคะแนนเลย ไม่ได้การละต้องส่งการบ้านสักหน่อยแล้ว 25-4 [สาวไกด์ใจซื่อ]ออ่านหนังสือ 2 เล่มของสมาชิกบล็อกแก็งค์ 2 คน (เอาเฉพาะคนที่มีการสมัครและอัพบล็อกก่อนเดือนกรกฏาคม 2552 เท่านั้น) โดยเลือกจากสมาชิกที่มีชื่อล็อคอินเป็นภาษาเดียวกัน เช่น Clear Ice กับ II Maze หรือ ฯคีตกาลกับศรีสุรางค์ โจทย์ข้อนี้ผมขอเลือกของ 2 ท่านนี้ครับ คนแรก ผมอยู่ข้างหลังคุณ คนที่สอง พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง เล่มแรก หนังสือรัก ผู้เขียน ผมอยู่ข้างหลังคุณ สำนักพิมพ์ บาย เนเจอร์ พับลิชชิง “25 ความรักจากภาพยนตร์ในมุมมองของจิตแพทย์ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตนเองและคนรอบข้างได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม” นี่คือคำโปรยบนปกหน้าของหนังสือเล่มนี้ ที่รวบรวมมุมมองความรักจากภาพยนตร์ 25 เรื่อง ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ โดยผ่านมุมมองของจิตแพทย์ที่ชอบดูหนังและเคยมีความรัก ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ในเล่มผู้เขียนเขียนถึง 25 รูปแบบความรักในหนัง 25 เรื่อง ดังต่อไปนี้ โรงที่ 1 ‘เพื่อนสนิท’ เมื่อเส้นแบ่งของคนรักกับเพื่อนเริ่มเลือนราง โรงที่ 2 ‘My Best Friend’s Wedding’ ร้ายเพราะรัก รักที่หลุดลอย โรงที่ 3 ‘Brokeback Mountain’ รักซ่อนเร้น โรงที่ 4 ‘April Snow’ บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ โรงที่ 5 ‘Christmas in August’ เธอคือภาพถ่ายสุดท้ายในใจฉัน คุณคือแสงสว่างสุดท้ายในใจผม โรงที่ 6 ‘Closer’ เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร โรงที่ 7 ‘Walk the Line’ มิตรภาพในความรัก โรงที่ 8 ‘Nana’ โลกของนานะ โลกของความรัก, ความฝันและมิตรภาพ โรงที่ 9 ‘Lost in Translation’ เวลาที่หยุดเดินในชีวิตที่ชะงักงัน โรงที่ 10 ‘About Love’ เรื่องราวที่เกี่ยวกับ ‘รัก’ โรงที่ 11 ‘Perhaps Love’ รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน โรงที่ 12 ‘Mr. and Mrs. Smith’ เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น โรงที่ 13 ‘Shall We Dance’ คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? โรงที่ 14 ‘The Break Up’ วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ โรงที่ 15 ‘วัยอลวน 4’ การเดินทางของชีวิตครอบครัว โรงที่ 16 ‘Dear Frankie’ คำลวง ความรัก ครอบครัว โรงที่ 17 ‘Always : Sunset on Third Street’ บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ โรงที่ 18 ‘In Her Shoes’ หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต โรงที่ 19 ‘Be With You’ ความสุขของฉันคือ “การได้อยู่กับคุณ” โรงที่ 20 ‘Red Lights (Feux Rouges)’ ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ โรงที่ 21 ‘The Constant Gardener’ ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก โรงที่ 22 ‘Prime’ รักคงยังไม่พอ โรงที่ 23 ‘Sad Movie’ แม้รักต้องพลัดพราก ก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม โรงที่ 24 ‘Eternal Sunshine of the Spotless Mind’ จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ โรงที่ 25 ‘The Note Book & The Wedding’ รักนิรันดร์ สำหรับความรักที่ผู้เขียนเอามาเขียน ไม่ใช่มีแต่เฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น เขายังเอาความรักในรูปแบบต่างๆมาเขียนถึงอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ความรักของพ่อแม่กับลูก ความรักของครอบครัว ความรักของพี่น้อง ความรักของเพื่อน และที่ชอบเป็นพิเศษก็คือ ผู้เขียนได้แทรกข้อคิดและบอกปัญหาความรักนั้นๆในมุมมองของจิตแพทย์ จึงทำให้หนังสือเล่มนี้มีดีมากขึ้นอีกเยอะ และจะดีใหญ่ถ้ายิ่งเคยผ่านตาหนังเหล่านี้มาบ้าง เพราะคนอ่าน(หรือคนดู)อย่างเรา จะได้เห็นอีกมุมมองหนึ่งของความรักที่เราอาจไม่ทันได้คิดถึง ขอปิดท้ายด้วยประโยคที่ชอบ 2 ประโยค คือ “เรารู้สึกว่าอดีตมันทรมานใจ จนอยากลืมมันไป เราไม่ทันได้คิดว่า อดีตมันผ่านไปแล้ว อดีตไม่สามารถทำร้ายใจเรา สิ่งที่เราปล่อยให้ทำร้ายใจเราไม่ใช่ ‘อดีต’ แต่เป็น‘ความรู้สึก’ต่างหากที่มันตามติดมาถึงปัจจุบัน” กับ “คำพูดที่บอกความรู้สึกดีๆ ทำให้หัวใจพองโตได้ไปหลายสิบวัน แต่คำพูดว่าร้ายสั้นๆ สามารถทำร้ายหัวใจให้แตกสลายได้แค่ครั้งเดียว” สรุป เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบดูหนัง แล้วย้อนกลับมาดูตัวเองครับผม แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 52 09:46:08 จากคุณ : ปีศาจความฝัน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 17:30:04

ความคิดเห็นที่ 29   เล่มที่สอง รักระหว่างบรรทัด ผู้เขียน พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง สำนักพิมพ์ คลองบางหลวง “ไม่เป็นไร ฉันจะเป็นหมาที่ซื่อสัตย์ของเธอ” ฉันยืนยันหนักแน่น “แต่รอแป๊บนะ” “เอ๊ ” เธอสงสัย “ขอฉันไปเมาแป๊บ เวลาฉันเมาทีไรหมาทุกที” นี่คือคำโปรยบนปกหลังของหนังสือเล่มนี้ กับหนังสือรวมเรื่องสั้นที่ทุกบรรทัดแฝงไว้ด้วยความรัก +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องสั้นๆ จบในตอน มีทั้งสิ้น 31 ตอน ที่แต่ละตอนเหมือนกับเป็นเรื่องราวของความคิด ความอ่าน ความขี้สงสัยและความรักของชายคนหนึ่งต่อสิ่งต่างๆบนโลกใบนี้ ที่ใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “ฉัน” (แต่บางครั้งก็ใช้คำว่า “ผม” ซึ่งไม่รู้ว่าผู้เขียนจะเอายังไงกันแน่ แต่สำหรับผมชอบคำว่าฉันมากกว่า) ที่เขียนเรื่องราวของตัวเองออกมาเป็นตัวหนังสือ (ที่ผมเข้าใจว่าน่าจะเอาเรื่องจริงของผู้เขียนมาเขียนบ้างบางตอน) ที่เริ่มแรกในแต่ละตอนก็จะพูดถึงเรื่องราวตามชื่อตอนนั้นๆ แต่ตอนท้ายนี่ต่างหากละ คือจุดเป้าหมายที่แท้จริง เมื่อ “เธอ” สรรพนามคำนี้โผล่ขึ้นมา หลังจากนั้นนั่นเองเรื่องราว “ความรักระหว่างบรรทัด” จึงเกิดขึ้น อ่านไป ยิ้มไป นี่คืออาการที่เกิดขึ้นขณะอ่านหนังสือเล่มนี้ ที่ขำในอารมณ์ขันในบางตอน สำหรับตอนที่แนะนำก็คือ -พาหนะแห่งความรักและความสุข (ตอนนี้ผมชอบที่สุด) -โต๊ะก็คือโต๊ะ และสงครามของโลกตะวันออกและตะวันตก -ผู้พิชิต -บางแก้ว -I’m west ham till I died ปิดท้ายด้วยประโยคที่ชอบ คือ -ปลากริมไข่เต่า- “เธอว่าไหม ฉันอาจทำขนมไม่เก่ง ทำปลากริมไม่เป็น แต่ฉันเชื่อว่าฉันปรุงความรักของเราได้ เพราะฉันเชื่อมั่นในเครื่องปรุงที่ประกอบด้วย ความอดทน ความรัก ความหวังดีและความเชื่อใจ ฉันเชื่อจริงๆ ว่าเครื่องปรุงของฉันจะทำให้ความรักของเราเข้ากันได้เป็นอย่างดีและมันจะยิ่งเบ่งบานมากขึ้นทุกๆวัน” กับ -คนทรยศ- “บางทีคนเราก็ต้องยอมทรยศต่อความถูกต้องในจิตใจตนเอง” สรุป เป็นหนังสือรักในอีกรูปแบบหนึ่งไม่ค่อยเหมือนใครนะครับ ผมว่า จากคุณ : ปีศาจความฝัน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 17:33:09

ความคิดเห็นที่ 30   คุยกันต่อ -คุณscottie จักรราศีฆาตกรรม สรุปแล้วยังน่าอ่านอยู่ไหมครับ? ผมจะได้ซื้อมาอ่านบ้าง -คุณTin_girl  สำหรับ The Time Traveler's Wife ผมกำลังรอดูหนังอยู่อ่ะครับ คิดว่าถ้าดูแล้วจะหาซื้อหนังสือมาอ่านบ้างอ่ะครับ ตกลงเขาเอามาแปลเป็นภาษาไทยหรือยังครับสำหรับเล่มนี้? -พี่แจง ช่วงนี้เงียบๆ หายไปไหนมาครับพี่??? จากคุณ : ปีศาจความฝัน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 17:37:27

ความคิดเห็นที่ 31   คุณปลายทางของสายรุ้ง #22 : "Cry no more" เป็นอีกเล่มที่ธารเล็งๆ แลๆ ไว้ล่ะค่ะ แต่เห็นรีวิวแบบนี้คงจะต้องขอผ่านไว้ก่อน ช่วงนี้ยังไม่สามารถรับมือกับความหดหู่ได้ ช่วงนี้อาจจะมาส่งการบ้านแบบช้าๆ หน่อยนะคะ เพราะธารงัดเอานิยายในไหดองออกมาเขียนต่อล่ะค่ะ จากคุณ : ธาร นาวา เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 18:10:37

ความคิดเห็นที่ 32   คุณปีศาจความฝัน #28 : "หนังสือรัก" น่าสนใจมาก สงสัยต้องรีบไปสอยมาซะแล้ว จากคุณ : ธาร นาวา เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 18:19:09

ความคิดเห็นที่ 33   คุณ Tin_girl The Time Traveler's Wife  รอดูหนัง เช่นเดียวกันค่ะ คุณปีศาจความฝัน หนังสือ ภาษาไทย ยังไม่เห็นเช่นเดียวกัน คุณ ธาร นาวา หนังสือ cry no more  / น่าจะเป็นเพราะความแปลกใหม่ ของ ลินดา มากกว่าค่ะคือเวลา อ่านนักแต่งที่คุ้นเคยแล้ว เวลาเปิดหนังสือ จะมีความคาดหวังชนิดนึง ว่าน่าจะเป็นอารมณ์ไหน (ดันอ่านเรื่องขำก่อนซะด้วย) ... แต่เรื่องนี้ ผิดไปเลย .. แต่ต้องยอมรับว่า ครึ่งหลัง ของหนังสือเล่มนี้ สนุกนะคะ (โดยเฉพาะตอนนี้ตัวเอกเค้ารักกันแล้ว และเข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกที) ...ตอน 3-4 บทสุดท้าย ... น้ำตานอง ค่ะ เค้นอารมณ์ได้ดีมาก .. มันไม่ใช่หดหู่นะคะ แต่แบบ โอ... คือหัตถาครองพิภพ มาก ๆ น่ะค่ะ .. จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 19:04:44

ความคิดเห็นที่ 34   คุณปีศาจความฝันคะ จักรราศีฆาตกรรมจะน่าอ่านมั้ย ตอบแทนไม่ได้เน้อ ถ้าชอบให้ตัวละครถกกันเยอะๆ ว่าอะไรเกิดขึ้นเพราะอะไรก็โอเคค่ะ แต่ถ้าชอบคิดด้วยตัวเองจากข้อมูลที่จำเป็น เล่มนี้เข้าข่ายรกค่ะ จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 19:15:50

ความคิดเห็นที่ 35   # น้องไอซ์ พี่ก็วนๆอยู่แถวนี้แหล่ะจ้า แต่ว่าชักเบื่อๆเล่นบล็อก หนังสือที่รีวิว น่าอ่านทั้งสองเรื่องเลย โดยเฉพาะคำคมของหนัง โดนมาก มีหนังเรื่องหนึ่ง "Il Mare"(รึเปล่านะ)ที่บอกว่า "ที่เราเจ็บปวดกับความรัก ไม่ใช่เพราะความรักมันจากไปหรอก แต่เพราะมันยังอยู่ต่างหาก"(ประมาณนี้) โด๊น โดน อันนี้นอกเรื่อง รบกวนรกกระทู้หน่อยนะ แต่แค่อยากรู้น่ะค่ะ ว่าพัสดุลักษณะนี้เป็นความผิดของใครกันแน่ คนส่งหรือเข้าหน้าที่? เรื่องของเรื่อง คือพี่สาวส่งหนังสือมาให้หนึ่งลัง แล้วมันตกค้างอยู่ที่โรม มีจดหมายแจ้งมาวันนี้เอง ก็งงว่าอะไรผิดพลาดไป สรุปว่าเป็นเพราะลืมใส่น้ำหนัก,ราคาของ ดังภาพของล่างค่ะ ตรงที่เป็นขีดเส้นสีม่วงๆเดาว่าพี่สาวคงจะลืม..หรือไม่เห็นว่ามันสำคัญ และบรรทัดล่าง เจ้าหน้าที่ก็ใส่รายละเอียด แต่ที่ข้องใจคือถ้ารายละเอียดด้านบนไม่ครบ เจ้าหน้าที่ไม่เห็นบอก ดันปั้มตราผ่านให้..ก็เดินทางมาเรียบร้อย แล้วที่นี้มันค้างอยู่ที่โรม..อ่ะ ก็คงต้องส่งจดหมายเอกสารที่เนียบมากลับคืนและโดนปรับนิดหน่อย และรอไปอีกหลายวัน แต่แค่อยากรู้อะค่ะ ว่ารายละเอียดส่วนนี้สำคัญมากเลยหรือ (แฟนเราบอกว่าที่อิตาลี่สำคัญ) แล้วเมืองไทยหล่ะ สำคัญไหม ทำไมถึงปล่อยผ่านมาได้ งง งง ปล.อย่างเซ็ง จะได้อ่านหนังสือใหม่ ก็ดั๊นมีปัญหา..เฮ้อ..อ..ถอนหายใจ เราช่วยไขข้อข้องใจหน่อยเถอะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 21:35:56 จากคุณ : nikanda เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 21:31:08

ความคิดเห็นที่ 36   คุณแจง ยังไม่เคยอ่านงานของชญาน์พิมพ์แบบเป็นเรื่องเป็นราวเลยค่ะ ดีไม่ดี "ดวงใจสัมผัสรัก" นี่อาจเป็นเล่มแรกที่ได้อ่านด้วยซ้ำ แต่ซื้ออินเลิฟมาดองไว้แทบทุกเล่ม  ดอกไม้บานเต็มหนึ่งกล่องเต็มๆ  อ่านไม่ทันอยู่เนี่ย T^T เกือบอ่าน "จอมนางคู่บัลลังก์" ชนกับคุณ Tin_girl เสียแล้ว ใครไม่เคยอ่านชุดนี้ ขอยกมือเชียร์สุดตัวค่ะ  เป็นนิยายจีนที่สนุกน่าติดตามมาก (ไม่แนะนำให้ซื้อไปแค่เล่มเดียว เพราะจะค้าง ต้องวิ่งมาหาเล่มต่ออยู่ดี อิอิ) ยังไม่ได้อ่าน "พี่กับน้อง" เลยค่ะ คุณแม่ไก่  เห็นความหนาแล้ว...เอิ่ม ดองละกัน แต่เล่มนี้รู้สึกจะไม่มีเครดิตได้รางวัลแบบอีกสองเล่มนะคะ  น่าจะสนุกน้อยกว่า..รึเปล่า? ส่วนโจทย์ผีๆ  เราว่าคุณแม่ไก่น่าจะมีวรรณกรรมเด็กที่เป็นผีน่ารักหลายเรื่องนะ ยังไม่กล้าอ่าน Cry No More แฮะ  ไม่อยากร้องไห้  แต่ "ยอดชายในฝัน" นี่เป็นเรื่องโปรดเลย อ่านรีวิวคุณปลายทางฯ แล้วเกิดไอเดีย  ชื่อคุณแม่เราขึ้นด้วย "อ" เหมือนกัน แสดงว่าอ่านโรมานซ์ที่คุณอารีแอลแปลก็ได้นี่นา  ฮี่ฮี่  แบบนี้ง่ายละ ชอบ "หนังสือรัก" ค่ะ  ปกติก็แอบอ่านรีวิวหนังของคนเขียนอยู่บ่อยๆ จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 21:34:18

ความคิดเห็นที่ 37   ยาคูลท์ โหย..ย..เล่นซื้อยกสำนักพิมพ์เลยหรือคะ..เจิดมาก Cry No More ..มันอยู่ในกล่องหนังสือที่ตกค้างอยูที่โรมอ่ะค่ะ ว่าแตว่า ใครรู้ ช่วยตอบรายละเอียดที่เราถามหน่อยนะคะ..พรีส..ส จากคุณ : nikanda เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 21:39:56

ความคิดเห็นที่ 38   ^ เรื่องไปรษณีย์นี่ไม่มีความรู้เลยค่ะ  ไม่ค่อยส่งของแล้วก็ไม่ค่อยสังเกต แต่เดาว่าในไทยคงสนแค่น้ำหนักนะ ไว้คิดตังค์ค่าส่ง กรณีคุณแจงนี่ต้องเสียค่าปรับด้วยเหรอ?  แย่เลยสิ หวังว่าคงไม่ต้องถึงกับตีคืนพัสดุให้กลับมาส่งอีกรอบนะ  -*- จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 21:47:56

ความคิดเห็นที่ 39   น้องทีทำงานเรา แนะนำให้อ่านผลงานของชญาน์พิมพ์ ที่ชื่อเรื่องยาวๆ เหมือนกันล่ะ ยังไม่ได้เช่ามาอ่านเลย "จอมนางคู่บัลลังก์"  เราว่าจะซื้ออยู่หลายทีแล้ว ติดใจภาพปกอ่ะ สวยดี คำถามของคุณแจง วันพุธ จะไปถามเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ที่มาบริการที่ตึกให้นะ แล้วจะมาตอบ แต่ที่เราเคยสังเกตการทำงานของจนท. ถ้าเขียนไม่ครบ เค้าก็ถามแล้วเติมให้นะ จากคุณ : นัทธ์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 22:05:06

ความคิดเห็นที่ 40   คุณ nikanda ไม่เคยส่งที่โรมนะคะ แต่เคยส่งจากประเทศอื่น เจ้าหน้าที่จะให้ระบุราคา ค่ะ เพราะอาจจะปัญหาเรื่องศุลกากร ภาษี และ ยังรวมถึงค่าประกันความเสียหายด้วยค่ะ .. (คาดว่า เนื่องจากต้องส่งต่อ เค้าเลยกังวลเรื่องนี้รึเปล่า) แต่ถ้าส่งจากเมืองไทย เค้าไม่ค่อยซีเรียสเรื่องนี้หรอกค่ะ .. จริงๆ ที่นี่ก็ไม่เห็นซีเรียสอะไรซักอย่าง .. คุณยาคูลท์ นอกจาก กองดองหนังสือที่คล้ายกันแล้ว ชื่อแม่เรายังขึ้นต้น อ เหมือนกันอีกด้วย!!... รึว่า ... !!!! มีปานแดง รูปกระด่าย ที่แก้ม(ก้น) ด้านซ้ายด้วยป่าวคะ??? พลอตน้ำเน่าเริ่มมาแล้ว...555 ************** 20-3. [ยาคูลท์] อ่านหนังสือที่ได้รางวัลซีไรต์ 3 เล่ม โดยสามเล่มนี้ต้องได้รางวัลห่างกันอย่างน้อยสองปี (ตอนโพสต์แจ้ง ช่วยบอกปีที่ได้รางวัลด้วย) ***คำพิพากษา (พ.ศ. 2525)*** ชาติ กอบจิตติ 336 หน้า ราคา 120 บาท ปกหลัง : ฟักคิดว่าตัวเขาเองนั้น ไม่มีอะไรจะต้องสูญเสียอีกแล้ว หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ในตลอดเวลาที่ผ่านมา เขามีแต่ความสิ้นหว้ง ดังนั้นสิ่งที่ตัดสินใจจะทำลงไปนั้น ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เขาก็ไม่มีทางที่จะตกต่ำลงกว่านี้ได้อีก เขาได้ลงมาถึงขีดสุด ลงมาถึงตำแหน่งปลายแถวสุดท้ายแล้ว ถ้าแม้นว่าจะต้องตกเป็นฝ่ายเสียหาย ต่อการกระทำที่ตัดสินครั้งนี้ เขาก็ยังยืนอยู่ปลายแถวอยู่ดี แต่ถ้าผลออกมาว่า ... พลอตเรื่อง : เมื่อพ่อของเค้าตายลง เค้าต้องมารับช่วงต่อ เมืยสาว ของพ่อ ที่มีอาการผิดปกติทางสมอง .. เมื่อต้องอยุ่กับเมียสาวของพ่อ ที่คอยประกาศต่อคนทั่วไปว่า "อย่ายุ่งกะผันฉันนะ" หรือ "เห็นผัวฉันมั้ย" ทำให้ชาวบ้าน เข้าใจว่า เค้าได้เอาเมียพ่อ มาเป็นเมียตัวเองซะแล้ว... แล้วคำพิพากษา จากพวกชาวบ้าน ก็ได้ลงโทษตัดสินชีวิตของไอ้ฟักทันที ความรุ้สึกหลังอ่าน อ่าน กี่ครั้ง ๆ ก็ยังคงรู้สึกแย่อยู่นั่นเอง ... หนังสือจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนแรก เป็นส่วนที่ ฟักยงคงรักษา ศีล รักษาความดี แต่โดนชาวบ้านเข้าใจผิดไปเอง แม้จะเพียรพยายาม อธิบายอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ .. ขณะที่อ่านส่วนนี้จะรู้สึกหงุดหงิดกับพวกชาวบ้าน พวกนี้ซะจริง ๆ คนเราตายได้เพราะคำคนจริงๆ นะเนี่ย ส่วนที่สอง เป็นส่วนที่ ฟักได้จมลงกับขวดเหล้าแล้ว ได้กระทำสิ่งที่แย่ ๆ กับชีวิตของเขาด้วยตัวเอง ในส่วนนี้มีคนเชื่อในสิ่งที่เค้าอธิบายแล้ว แต่สำหรับไอ้ฟักแล้ว มันก็ยังไม่พอใจอยู่ดี ... อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึก อึดอัด กับสิ่งที่ว่า "ทำดีไม่ได้ดี" "ทำชั่วทำไมยังได้ดี" .. อืมม .. รู้สึก เฉา จริง ๆ ***สิ่งมีชีวิต ที่เรียกว่าคน (พ.ศ. 2542)*** วินทร์ เลียววาริณ 333 หน้า ราคา 150 บาท ปกหลัง : รวมเรื่องสั้น สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ดูการเลื่อนไหนของสังคมอีกมุมมองหนึ่งในภาพกว่าง ระดับจักรวาล โดยชี้ว่าปัญหาต่าง ๆ ของคนกับสังคม อาจมิได้เกิดจากสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว หากเกิดจากความเป็นคนเช่นนี้เอง อันเป็นผลสืบเนื่องตากกำเนิดของโลกเมื่อ 4600 ล้านปีมาแล้ว จนกลายเป็น "ตัวตน" แบบนี้ ยีน ระดับสารเคมีในร่างกาย ความเป็น หยิน-หยาง ล้วนส่งผลเป็นสิ่งเร้าภายใน เช่นความกลัว ความหิว ความรัก ความเกลียด อารมณ์เพศ ฯลฯ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะ ปฎิกิริยาลูกโซ่ระหว่างคนกับคน คนกับสัตว์ และคนกับจักรวาล เช่น การเกิดระบบ ศีลธรรม กฎเกณฑ์สังคม การแบ่งเส้นเขตแผ่นดิน สงคราม ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลง ภูมิศาสตร์ของโลก ทั้งหมดนี้ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความและเรื่องสั้นสะท้อนสังคมไทย 17 เรื่อง โดยนักเขียนรางวัลช่อการะเกดยอดนิยม รางวัลจากการประกวดหนังสือดีเด่น และรางวัลซีไรด์ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน เป็นการผสมผสานบทความ 17 บทความ และเรื่องสั้น 17 เรื่อง ผู้เขียนใช้บทความอธิบายความคิด ประเด็นทางปรัชญา และเป็นตัวนำเรื่องสั้นแต่ละเรื่องให้ผู้อ่านไปถึงจุดหมายที่ผู้เขียนต้อง การจะสื่อ บทความและเรื่องสั้นจึงมีความสัมพันธ์กันเป็นคู่ๆ ถือเป็นกลวิธีการสร้างสรรค์เรื่องสั้นที่น่าสนใจ copy จาก http://th.wikipedia.org/wiki/สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ความรู้สึกหลังได้อ่าน เรื่องเล่า ต่าง ๆ จิก กัด สังคมได้ เจ็บแสบดี ไม่ว่าเวลาจะผ่านล่วงไปนานแล้ว แต่ประเด็นต่าง ๆ ก็ยังไม่ล้าสมัยเลยจริงๆ.. แสดงให้เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ก็ยังคง อยู่ และคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ...ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นที่เกี่ยว กับ ศีลธรรม สังคม ความคิด ความเห็นแก่ตัว.. เรื่องสั้นเข้าใจได้ไม่ยากจนเกินไปนัก (แต่ก็ไม่ได้ง่าย)  .. บางเรื่องออกแนวขำขัน บางเรื่อง ก็เศร้าเชียว .. และแน่นอนที่บางเรื่องก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เหมือนกัน ... ***ความน่าจะเป็น (พ.ศ. 2545)*** ปราบดา หยุ่น 201 หน้า ราคา 125 บาท ปกหลัง : ...เป็นนักเขียนแล้วคนชอบอ่านเราก็จะยุ่ง เพราะเขียนหนังสือมันสนุก หยุดไม่ได้ เตือนแล้วไม่เชื่อ.. หลวมตัวเขียนหนังสือเป็นตุเป็นตะอย่างนี้แล้ว ถึงตอนนี้สายเกินแล้วละ ตัวใครตัวมันนะครับ .. จากพ่อผู้หลวมตัวมาก่อน .. สิทธิชัย หยุ่น ความน่าจะเป็น เป็นผลงานที่ได้รับรางวัลซีไรต์ หนังสือรวม 10 เรื่องสั้นของปราบดา หยุ่น ที่เคยตีพิมพ์ลงใน นิตยสารแพรวสุดสัปดาห์ พร้อม 3 เรื่องสั้นใหม่ ในหนังสือประกอบด้วยเนื้อหาของแง่มุมของคนที่มองโลก ในมุมกลับ เขาคิด กรองตรอง แล้วกล้ายิงคำถาม ด้วยการตั้งคำถามไว้มากมาย ที่คนทั่วไปไม่เคยถาม ซึ่งแต่ละคำถาม เป็นคำถามที่ผู้คน ไม่เคยคิดจะตอบ และเขาเองก็ไม่ต้องการคำตอบ นับเป็นการสร้างสรรค์จินตนาการ ที่แตกต่างไปจากคนอื่น แต่ทุกคำถามล้วนมี "ความน่าจะเป็น" ทั้งสิ้น copy จาก http://th.wikipedia.org/wiki/ความน่าจะเป็น_(หนังสือ) ความรู้สึกหลังอ่าน ต้องขอยอมรับเลยว่า อ่านเล่มนี้ เหมือนได้อ่านเรื่องสั้น .. เท่านั้น จบ.. ไม่ เก็ท กับสิ่งที่ สอดแทรกมากับเนื้อเรื่องเลย.. รึถ้าได้ ก็จะน้อยมาก .. แต่ละเรื่อง เหมือนจะมีคำถาม .. แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจว่าจะสื่ออะไรอยู่ดี .. หนังสือเล่มนี้อ่านง่าย .. ไม่ทำร้ายความรู้สึก .. แต่กลับมีความรู้สึกเสียใจอยู่ลึก ๆว่า.. สิ่งที่เราได้... คงน้อยกว่าที่ผู้เขียนตั้งใจอยากให้แน่ ๆ เลย .. แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 23:01:14 จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 22:52:54

ความคิดเห็นที่ 41   ^ ไม่มีปาน แต่มีล็อกเก็ตสลักรูปตัวออ  ข้างในใส่ปอยผมไว้ค่ะ 555 จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:13:31

ความคิดเห็นที่ 42   ปลายทางของสายรุ้ง "คำพิพากษา " ไม่เคยอ่านนะ แต่เคยดู"ไอ้ฟัก" ก็ให้อารมณ์คล้ายๆกัน ว่าคำคนนี่มันทำร้ายและทำลายคนได้ดีกว่ามีดเสียอีก แต่เดาว่า..หนังคงไม่ให้อารมณ์อึดอัดเท่าหนังสือหรอกมั๊ง ดูเรื่องนี้ แฟนเราบอก อู๊ว..ว..ว..ชอบตั๊ก บงกชจัง ฮา ฮา อ้อ..ขอบคุณที่ช่วยไขข้อข้องใจ ไม่ใช่อะไรค่ะ แค่แอบหงุดหงิด ที่จะได้อ่านหนังสือช้าไปอีกหลายวัน แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 52 23:28:50 จากคุณ : nikanda เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 52 23:27:28

ความคิดเห็นที่ 43   คุณปีศาจความฝัน เรื่อง The time traveler's wife มีแปลเป็นไทยแล้วค่ะ ชื่อ ความรักของนักท่องเวลา แปลโดย คุณ นันทวัน เติมแสงสิริศักดิ์ สำนักพิมพ์ Bliss Publishing คุณปลายทางสายรุ้ง ชอบเรื่องคำพิพากษามากเลยค่ะ เป็นนิยายเรื่องแรกที่อ่านเลย ชอบทุกเรื่องของน้าชาติที่เคยอ่าน อ่านแล้วรู้สึกมีคุณภาพมากมาย โดยเฉพาะพันธุ์หมาบ้า ชอบเรื่องนี้สุด ^^ จากคุณ : Tin_girl เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 00:47:29

ความคิดเห็นที่ 44   คุณปีศาจความฝัน ความจริงอยากให้อ่านนิยายก่อนดูหนังจังเลยค่ะ เห็นคนที่เคยดูหนังเค้ารีวิวกันว่าหนังสือทำดีกว่าหนังมาก คงเพราะเป็นเรื่องที่รายละเอียดเยอะ จากคุณ : Tin_girl เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 01:06:08

ความคิดเห็นที่ 45   คุณ Tin_girl ถามอากู๋(google)ครั้งแรก หาไม่เจอซะงั้น พอได้ชื่อไทย "ความรักของนักท่องเวลา" อากู๋ก็หาเจอเชียว ออกมาตั้งกะปี 51 แล้ว .. งั้นต้องหามือ2 ซะแล้ว.. แต่เป็นคนชอบดูหนังก่อน แล้วถึงอ่านหนังสือนะคะ เมื่อไหร่ที่อ่านก่อนแล้วชอบหนังสือล่ะก็ ไม่ว่าหนัง หรือ ละครเนี่ย มักทำให้อารมณ์เสียอยู่เรื่อยเชียว เรื่องพันธ์หมาบ้า อ่านมานานมาก ๆ แล้ว ค่ะ จำได้ แค่ อ๊อตโต้ และเห็ดเมา เท่านั้นเอง... เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ จำไม่ได้เลย หนังสือดันหายไปซะอีก คุณnikanda ใจร่ม ๆ ค่ะ ถือซะว่าเป็นการบ่มความรุ้สึกอยากอ่านให้สุกงอม.. มาปุ๊บ จะได้ลุยเลย .. เอาใจช่วยค่ะ.. คุณยาคูลท์ งั้นคงไม่ใช่... บ้านเค้าจน ทำได้แค่ ปูนแดงป้ายก้นเท่านั้น ... คงไม่ได้ทำล็อตเก็ตให้หรอก .. 555 จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 01:31:52

ความคิดเห็นที่ 46   สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้ไม่ได้คืบหน้าเรื่องการอ่านเลย แต่คืบหน้าใน FB มาก 555++ ตอบคุณแจงนิดนึง...ไปรษณีย์ไทยไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่นะคะกับเรื่องพวกนี้ ส่วนมากจะมีแต่ส่งกันในประเทศ พอมาเจอส่งต่างประเทศเค้าเลยนึกว่าคงเหมือนกันน่ะค่ะ ส้มว่าเสียค่าปรับนิดนึง (รึเปล่า) ยังดีกว่าหนังสือหายกลางทางทั้งกล่องนา แต่เอ...อยากรู้จังในกล่องมีเรื่องอะไรน่าสนบ้างน้อ จากคุณ : ส้มแช่อิ่ม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 10:50:36

ความคิดเห็นที่ 47   คุณ Nikanda มันขึ้นอยู่กับไปรณีย์แต่ละที่ด้วยมั้งคะ เพราะไปรษณีย์ไทยที่เคยใช้บริการเขาให้ระบุด้วย (ตรงนั้นเป็นย่านเกสต์เฮ้าส์ มีคนต่างชาติอยู่เยอะ เจ้าหน้าที่เลยรู้ระเบียบดี และเคร่งครัดหน่อย) ของ DHL กับ UPS เขาก็จัดการกรอกให้หมด หรือไปรษณีย์ของต่างประเทศที่เคยใช้ อย่าว่าข้ามประเทศเลย แค่ข้ามรัฐเอง แม้กระทั่งสเวตเตอร์ตัวเดียว เขายังให้ระบุจำนวน น้ำหนัก กับราคาของที่จะส่งด้วยละค่ะ เพราะมาถึงปลายทางเขาต้องเช็คอีกรอบว่าของคืออะไร น้ำหนักเท่าไหร่ ตรงกับที่ระบุไว้ที่ต้นทางไหม เนื่องจากเป็นเรื่องการขนส่ง ภาษี ค่าประกันความเสียหาย และเหตุผลเรื่องความปลอดภัยด้วย ชอบงานวิจารณ์หนังของคุณหมอผมอยู่ข้างหลังคุณเหมือนกันค่ะ ^ ^ มีหลายเรื่องเลยละที่คุณหมอวิจารณ์ได้ถูกใจมาก แล้วก็ได้อะไรมากกว่าแค่บทวิจารณ์หนังเยอะเลย ปกของดวงใจสัมผัสรักน่ากินจัง... เห็นรีวิวจักรราศีฆาตกรรมแล้วก็บอกตัวเองว่า กลับไปอ่านเครื่องจักรนักคิดของฟูเทรลล์ดีกว่า แต่เหมือนเคยอ่านในคลับนักสืบหรือที่ไหนสักที่นึงนะคะว่า เรื่องนี้แหละที่เป็นแรงบันดาลใจให้ การ์ตูนเรื่อง 'คินดะอิจิกับฆาตกรรมปริศนา' ตอน คดีหมู่บ้านหกมุม (ชอบคดีนี้ที่สุดในภาคแรกเลยละ) ส่วนตัวจะจำชื่อเรื่องนี้สลับกับ เสี่ยวนักสืบตอน 'ฆาตกรรมจักราศี' น่ะค่ะ ไหน ๆ มาละ ส่งการบ้านเลยละกัน ------------------------------------------------------------------ 15-8. [อั๊งอังอา] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ของนักเขียนที่ไม่เคยอ่าน หรือนักเขียนใหม่ที่มีผลงานตีพิมพ์ชิ้นแรกในช่วงปี 2552 หนังสือเล่มนี้เป็นงานเขียนของนักเขียนแนว non-fiction ที่ไม่เคยอ่านนะคะ 25 ความคิดพลิกโลก (25 BIG IDEAS: The Science That’s Changing Our World) ผู้เขียน : Robert Matthews ผู้แปล : ดร. ชัยวัฒน์ คุประตกุล สำนักพิมพ์ : วี วิชช์ สำนักพิมพ์ จำนวนหน้า : 279 หน้า ทำไมไข้หวัดนก ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ถึงระบาดได้รวดเร็วทั้งที่โลกก็กว้างออกขนาดนี้ เชื่อหรือไม่ว่าคอมพิวเตอร์ที่คิดเองได้ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ได้มีอยู่แค่ในนิยายวิทยาศาสตร์ มนุษย์ที่เรียกว่า Homo sapiens อย่างเรา ๆ ทุกวันนี้ มีบรรพบุรุษเป็นลิงจากแอฟริกาจริงหรือ พฤติกรรมของมนุษย์มีผลมาจากพันธุกรรมหรือการเลี้ยงดูกันแน่ เพราะอะไรคนเราถึงยอมเสียสละเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยคนอื่น ๆ อีกหลายคนให้รอด มีทฤษฎีอะไรที่ทำให้เราสามารถพิสูจน์ได้ว่าคำกล่าวอ้างของใครจริงมากกว่ากัน มีสมการใดไหมที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ของสสารที่เกิดขึ้นในโลกและจักรวาลนี้ได้ในสมการเดียว... คำถามเหล่านี้นี่แหละค่ะ คือส่วนหนึ่งของคำถามซึ่งเป็นที่มาของ  25 แนวคิดที่นักวิทยาศาสตร์พยายามหาคำตอบ และคำตอบที่พวกเขาได้มานั้น ได้กลายเป็นแนวความคิด ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่น่าอัศจรรย์ทั้ง 25 เรื่อง ที่อาจนำมาอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ หรืออาจทำได้แม้กระทั่งเปลี่ยนโลกทั้งใบได้เลย Robert Matthews ผู้เขียนเรื่องนี้เป็นผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ Sunday Telegraph แผนกวิทยาศาสตร์ ซึ่งของนักเขียนคนนี้ไม่มีอยู่ในสาระบบความทรงจำใด ๆ ของตัวเองทั้งสิ้น ปกติไม่ค่อยติดคนเขียน ส่วนสาเหตุที่ซื้อ คือ เห็นชื่อเรื่องน่าสนใจ แถมเหลือบนเล่มเดียวบนชั้นก็เกิดอยากได้ เอาง่าย ๆ งั้นละ  แหะ ๆ แต่เป็นหนังสือที่ซื้อมาแล้วไม่เสียดายสตางค์ เพราะอ่านแล้วทึ่งกับความคิดของคนเรามาก ๆ เลยละค่ะ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือวิทยาศาสตร์ที่แบ่งเนื้อหาเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน พูดถึงทฤษฎีต่าง ๆ เป็นเรื่อง ๆ ไป เช่น ในหมวด “ตัวเราและคนอื่น ๆ” (Ourselves and Others) ก็จะพูดถึงทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ 3 เรื่อง คือ จิตสำนึก (Consciousness) ทฤษฎีโลกเล็ก (Small World Theory) และทฤษฎีเกม (Game Theory) แต่ละหมวดจะเรียงลำดับจากเรื่องใกล้ตัวมาก ๆ ออกไปหาเรื่องที่ไกลตัวออกไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่เรื่องของตัวเรา ชีวิต โลก คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ ฟิสิกส์ ไปจนถึงเรื่องของจักรวาล โดยในแต่ละตอนจะมีประกอบด้วยส่วน In a Nutshell เป็นสรุปสาระสำคัญของเรื่องโดยย่อ มีส่วนของอภิธานศัพท์ (Jargon Buster) ลำดับเหตุการณ์ (Timeline) ของการค้นพบที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีนั้น ๆ ยอมรับตามตรงว่า บางทฤษฎีอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง อย่างเพลทโทนิคส์ ควอนตัม หรือสมการของเบเยส แต่ก็มีอีกหลายเรื่องเหมือนกันที่อ่านแล้วเข้าใจ และการทดสอบทฤษฎีหลายเรื่องก็มีผลการทดลองที่น่าสนใจ ใครจะไปคิดมาก่อนว่า การเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ตัวเองชนะจะทำให้เกิดทฤษฎีวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับรางวัลโนเบล หรือทฤษฎีโลกเล็กของมิลแกรมที่เสนอว่า คนเราต่างมีความเชื่อมโยงกันโดยไม่รู้ตัว จากการทดลองที่ขอให้กลุ่มตัวอย่างส่งของข้ามรัฐไปหาคนที่ไม่รู้จักเป็นทอด ๆ พบว่า ใช้เพียง 5-6 ทอดเท่านั้น และทฤษฎีโลกแคบนี้ก็สามารถนำมาไปในการอธิบายสาเหตุการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของโรคระบาดได้ด้วย แอบคิดว่า ถ้าอ่านเป็นภาษาอังกฤษคงสนุกกว่าอ่านภาษาไทยนิดนึงหรือเปล่านะ เพราะถึงชื่อของผู้แปล คือ ดร. ชัยวัฒน์ หรือ นักอ่านนิยายวิทยาศาสตร์คงคุ้นกับชื่อ ‘ชัยคุปต์’ จะการันตีคุณภาพ ไม่สงสัยเรื่องความรู้ แต่อ่านแล้วมีสะดุดกับบางสำนวนที่นึกออกเลยว่าภาษาอังกฤษคืออะไรอยู่เป็นระยะ เช่น (หน้า 232) “ทว่า อย่างไม่น่าเชื่อ ความเชื่อของไอน์สไตน์ในความสำคัญของความคิดที่เป็นของ ไคลน์และคาลูซา ในที่สุดก็ได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง” ซึ่งสำนวนประเภทนี้เจอได้ตลอดเล่ม ประโยคประเภท “มันเป็น...” ซึ่งมาจาก “It is ” อย่างนี้ก็บ่อย เรียกว่ายังได้กลิ่นนมเนยอยู่เยอะพอสมควรเลยละค่ะ และจะมีคำอ่านแบบแปลก ๆ นิดหน่อย เช่น มหาวิทยาลัย Paris-sud อาจารย์ถอดความว่า ปารีส-ซัด (ซึ่งถ้าออกเสียงให้ถูกน่าจะเป็น ปารี-ซุด เหมือนที่คำว่า coup d’etat ในภาษาอังกฤษต้องอ่าน คู เดตาต์น่ะค่ะ) แต่ปัญหาสำคัญที่สุดของสำนักพิมพ์นี้ คือ คำผิดเยอะมากค่ะ ซึ่งหนังสือให้ความรู้แบบนี้น่าจะระวังมากกว่านี้ อย่าง ออสตราโลพิเทคัส อฟาเรนซิล แต่จริง ๆ แล้วควรเป็น อฟาเรนซิส หรือ อีกเรื่องหนึ่งพูดถึงอนุภาค แต่อยู่ดี ๆ คำว่าอนุภาคกลายเป็นอนุภาพไปเฉย ๆ สองคำนี้มีคนละความหมาย แป้นพิมพ์ ค-พ ก็ไกลกันจะตาย ถ้าถามความรู้สึกส่วนตัว คือ ชอบในส่วนของเนื้อหาหนังสือนะคะ เพราะอ่านแล้วเข้าใจง่าย ได้ทราบประวัติของทฤษฎี การทดลองที่สำคัญแต่ละเรื่องที่อ่านจบได้ภายในไม่กี่หน้า ในขณะเดียวกันก็อ่านแล้วเริ่มคิดหนักว่า ควรซื้อ “จักรวาลในเปลือกนัท” ของ สตีเฟน ฮอว์กิง ฉบับแปลไทยไหม เพราะ จักรวาลในเปลือกนัท เป็นผลงานการแปลเรื่องแรกของอาจารย์ชัยวัฒน์น่ะค่ะ ^ ^” (แต่อาจจะดีก็ได้นะ แอบกระซิบถามที่นี่นิดนึง มีใครเคยซื้อมาอ่านแล้วบ้างไหมอะคะ สำนวนโอเคหรือเปล่า) . จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 13:13:09

ความคิดเห็นที่ 48   สวัสดีค่ะทุกคน หายหัวไปนาน วันนี้มาแอบดูเพื่อน ๆ เก็บคะแนนกันไปก่อนค่ะ คุณ Tin_girl อยากอ่านเหมือนกันค่ะ The time traveler's wife แอบไปจับไปคลำในร้านหนังสือหลายทีแล้วเหมือนกัน ขอบคุณที่มารีวิวไว้นะคะ ยินดีต้อนรับด้วยอีกคนค่ะ คุณไอซ์คุง ปีศาจความฝัน รักระหว่างบรรทัดนี่ก็อยากอ่านอีกเช่นกันค่ะ 555 มีแต่หนังสืออยากอ่านเต็มไปหมด เห็นอ้อน BeCoffe มาแนะนำอยู่ คุณแจง (nikanda) ขอให้ได้หนังสือไวไวนะตัวเอง เมืองนอกมักจะเคร่งครัดกว่าเมืองไทยเยอะ คือ สรุปว่าคนไทยผิดเองมากกว่า T___T คุณปลายทางของสายรุ้ง ตอนนี้ว่าจะเก็บคะแนนข้อซีไรต์เหมือนกันค่ะ แต่อ่านตั้งสามเล่มแน่ะ เลยไม่รู้ว่าจะอ่านทันไหม ดีที่กองดองตัวเองมีซีไรต์หลายเล่มเหมือนกัน ชอบ 'คำพิพากษา' มากเลยนะคะ อ่านแล้วรู้สึกได้เข้าถึงมนุษย์ดีจัง จากคุณ : นางสาวดุ่บดั่บ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 14:24:49

ความคิดเห็นที่ 49   10-4. [Clear Ice] เรื่องอิงประวัติศาสตร์ ***บูรพา*** ว.วินิจฉัยกุล แต่ง สำนักพิมพ์เพื่อนดี 728 หน้า ราคา 450 บาท ปกหลัง : แคธรีนไม่เคยตระหนักมาก่อนเลยว่า อารมณ์ล้ำลึกบางอย่างเปรียบได้กับน้ำ ที่ค่อย ๆ ไหลซึมขึ้นมาจากใต้ดิน กว่าจะรู้ น้ำใสก็เต็มแอ่งในหัวใจเสียแล้ว เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า จัสติน คือความอบอุ่นใจเมื่ออยู่ใกล้ .. คือความรื่นรมย์ที่จะได้พูดคุยด้วย ได้ฟังเขาเล่าเรื่องเราวเกี่ยวกับบูรพา และท้ายสุดคือการรับรู้จนไม่มีความรู้สึกแปลกแยกว่าเขาคือชายผู้ซึ่งแตกต่างทั้งเชื้อชาติและศาสนา ขอคัดจากอธิบายท้ายเล่มนะคะ "บูรพา" เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องที่ 4 ของผู้เขียน  ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในสมัยรัชกาล ที่ 4 และดำเนินเรื่อยมาถึงต้นรัชกาลที่ 5 เรื่องนี้จะแสดงถึงเรื่อง ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ โดยเฉพาะตะวันตก .. ในเรื่องนี้ ได้ยืมบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ตัวตนจริงอยู่บางท่าน เช่น ร้อยเอก โธมัส จอร์จ นอกซ์ หมอบรัดเลย์ คณะทูตไทย และสูงสุดคือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว .. แต่พระเอกนางเอกในเรื่องไม่ได้มีตัวตนจริง แต่ตัวละครได้แนวคิดมาจากชีวิตของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ และหม่อมแคธเธอรีน ในปลายรัชกาลที่  5 พลอตเรื่อง : เป็นความรักที่ต่างเชื้อชาติ ต่างประเพณี และยังต่างชนชั้นอีกด้วย .. เป็นเรื่องราวความรักระหว่าง ชายหนุ่มจากบูรพา และ หญิงสาวชาวอังกฤษ ผู้ที่ต้องการหนีสังคมอันเข้มงวดจากบ้านเกิดเมืองนอนเธอ มายังสังคมใหม่ (ปะจรเข้ รึเปล่า) แต่สิ่งที่เธอต้องเจอ ก็ความแตกต่างของประเพณี ค่านิยมต่าง ๆ แต่เธอก็ยังมีความรักเป็นตัวหล่อเลี้ยงชีวิต แต่เธอจะทนมันได้นานเท่าไหร่ และสุดท้ายความรักของเธอจะเป็นอย่างไร ... ความรู้สึกหลังอ่าน ตอนแรกนึกว่าอ่านเรื่องจริงซะอีก .. จนกระทั่งมาเจอท้ายบท กลายเป็นเรื่องแต่งซะงั้น ..  เรื่องนี้ อ่านแบบ รวดเดียวจบเลย ไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว.. เป็นเรื่องที่สร้างความอยากรู้ อยากเห็นได้เป็นอย่างดี .. อยากรู้ว่าตัวเอก จะตัดสินใจอย่างไร เมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ แล้วเมื่อได้ตัดสินใจไปแแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นอีก .. ตอนจบจะเป็นอย่างไร .. เรื่องนี้เป็นนิยาย ที่ไม่ใช่นิย้าย นิยาย เลยค่ะ ไม่ได้จบแบบ Happy Ending .. แต่ก็ได้จบในแบบที่มันควรจะเป็นแล้วล่ะค่ะ (แอบน้ำตานอง).. แล้วพอได้มาอ่าน บทส่งท้ายที่ผู้เขียนได้บอกเล่า ถึงขั้นตอนต่าง ๆ ในการหาข้อมูลมาแต่ง ยิ่งทำให้ ทึ่งมากขึ้นไปอีกค่ะ .. หาข้อมูล 4 ปี เขียนอีก 2 ปี ..เห็นลงท้ายไว้เลยว่า ไม่มีโครงการจะแต่งเรื่อง อิงประวัติศาสตร์อีก .. นับถือผู้แต่งมากค่ะ ไว้จะไปหา อีก 3 เรื่องที่เหลือมาอ่านค่ะ (รัตนโกสินทร์ สองฝั่งคลอง ราตรีประดับดาว) จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 16:11:19

ความคิดเห็นที่ 50   ทักทายทุกท่านนะคะ ยังไม่มีรีวิวมาง่ะ งานยุ่งมากมาย ยังอ่านเล่ม ๕ ไม่จบจนบัดนี้ ยินดีต้อนรับคุณ Tin_girl ค่ะ ความรักของนักท่องเวลานี่ ว่าจะซื้อ แต่เงินหมดก่อนทุกที (หนังสือที่เราอยากได้ช่างมากมายๆ ) ทักทายค่ะ แหะๆ จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 16:14:15

ความคิดเห็นที่ 51   แวะมารายงานตัวค่ะ ยังไม่มีรีวิวมาส่ง แต่ยังเกาะติดกระทู้อยู่ตลอดล่ะค่ะ จากคุณ : ธาร นาวา เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 16:28:31

ความคิดเห็นที่ 52   แวะมาอ่านรีวิว  ไม่มีความคืบหน้าเช่นกันค่ะ วันนี้จัดบ้าน ต่อจากที่ชะงักไว้คราวก่อน  ได้รื้อถุงออกมาดูสองสามถุง ในที่สุดก็ได้เจอนิยายของ ว. วินิจฉัยกุลหลายเรื่องทีเดียว คงได้อ่านเสียที (แต่ยังคงมีอีกหลายเรื่องที่งงๆ ว่าซื้อมาแล้วหรือซุกหายไปตามมุม) รื้อเจอหนังสือซีไรต์หลายเล่ม แต่อารมณ์ขณะนี้ไม่อยากอ่านอ่า ตอนนี้ต้องนิยายเบาสมองเท่านั้น   ขอสารภาพว่าเคยลองเปิดอ่าน "25 ความคิดฯ" ของคุณปิยะรักษ์ แล้วไม่เข้าใจค่ะ  เลยค่อยๆ หยิบหนังสือวางคืนชั้นอย่างเจียมตัว  แหะแหะ แต่ยังพยายามซื้อพวกประวัติย่อของกาลเวลา อะไรทำนองนี้มาเปิดๆ ดูเล่น สักวันความรู้มันคงออสโมซิสเข้าหัวเราได้สิน่า จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 22:05:36

ความคิดเห็นที่ 53   มารายงานตัวว่ายังคงอ่านรีวิวอยู่ค่ะ ... จากคุณ : นัทธ์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 22:44:45

ความคิดเห็นที่ 54   ขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับค่ะ ชื่อเอื้อยค่ะ เพิ่งเคยรีวิวหนังสือเป็นครั้งแรก อันที่จริงก็เพิ่งเคยเข้าห้องนี้เป็นครั้งแรกด้วย (ปกติเป็นสาวกห้องก้นครัวค่ะ) อยากเป็นนักเขียนนิยาย อยากมานาน นานมาก แต่ไม่เคยเริ่มซะที ช่วงนี้ก็อ่านนิยายไปวันๆ ส่วนใหญ่จะอ่านแต่นิยายรักๆ เป็น ebook เพราะไม่เสียตังค์ดี  แต่ตอนนี้เริ่มเมื่อยตาแล้ว เรื่อง 2 เรื่องที่รีวิวไป เป็นเรื่องที่เพิ่งอ่านจบแล้วชอบมาก ถ้าใครอ่านแล้วชอบมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ จากคุณ : Tin_girl เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 22:59:18

ความคิดเห็นที่ 55   ย่องมาอีกทีตอนดึก ในที่สุดก็เขียนรีวิวได้ครบข้อเสียที "ความรักริมดาว" นี่ธารอ่านจบมาหลายวันแล้วค่ะ ส่วน "รักสุขสันต์หัวใจหรรษา" เพิ่งอ่านจบเมื่อวาน 30-5. [ปลายทางของสายรุ้ง] หนังสือ (นิยาย การ์ตูน เรื่องสั้น อะไรก็ได้ ที่ไม่ผิดกฏ RRR) สยองขวัญ (ผีเท่านั้น)  และต้องเป็นเรื่องแต่ง 2 เล่มหรือมากกว่า กี่เล่มก็ได้  รวมจำนวน 500++ หน้า เล่มที่หนึ่ง...ผีน่ากลัว ชื่อเรื่อง : ความรักริมดาว ผู้เขียน : ทรายออน สำนักพิมพ์อรุณ อุ่นไอรัก จำนวนหน้า 306 หน้า ราคาปก 215 บาท โปรยปกหลัง... ‘ปวริศ’ ทำงานให้สาวสวยไฮโซผู้เย่อหยิ่งอย่าง ‘เพชรกะรัต’ มาห้าปีเต็ม จู่ๆ หล่อนก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุแบบไม่มีใครคาดคิด แต่แทนที่การจากไปของเธอจะทำให้ชีวิตเขาสงบลง มันกลับนำเขาเข้าไปอยู่ในพินัยกรรมสุดแสบที่หล่อนบังคับให้ปวริศเป็นผู้รับมรดกแบบจำยอม เรื่องราวที่ทำท่าว่าจะจบลงด้วยดีจึงเกิดอลวน เมื่อวิญญาณสาวโกงความตายกลับมาป่วนด้วยปัญหาชวนปวดเศียรเวียนเกล้า พร้อมกับการมาถึงของชายหนุ่มสี่คนซึ่งอ้างว่ามีพันธะทางใจและขอมีเอี่ยวในทรัพย์สินกองกลางอันมหาศาล แต่การแก้ปัญหาท่ามกลางความสับสนทำให้ปวริศค้นพบหัวใจของตนเอง... เพชรกะรัตเชิดหน้าน้อยๆ พยายามเรียกเอาความเป็นตัวตนของหล่อนกลับคืนมา มือที่กอดอกมั่นคล้ายจะแสดงเจตจำนงว่า การต่อรองที่หล่อนเสียเปรียบนี้จะต้องยุติลงโดยไว “ทีนี้บอกข้อสุดท้ายของนายมาได้แล้ว จากนี้ฉันจะถือว่าเราหายกัน อย่ามามีข้อแม้ที่สี่ที่ห้ากับฉันเด็ดขาด” หล่อนขู่ ก้าวสุดท้ายของปวริศก่อนที่เขาจะเลยผ่านม่านออกไปจากพื้นที่นั้น ทำให้ร่างเขาเฉียดข้างตัวเพชรกะรัตไปนิดเดียว ทว่าน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจของปวริศนั่นต่างหากที่ตรึงให้ร่างนิมิตของวิญญาณสาวไม่อาจก้าวตามออกไปได้เพราะความหวั่นไหว ซึ่งกลายเป็นอารมณ์อุ่นวาบขึ้นมา ขณะที่หล่อนเบิกตาค้างอย่างตะลึง “ข้อสุดท้ายคือ ผมจะรักคุณเพชร แล้วถ้าไม่มีปัญหาอะไรอีก คุณเพชรก็ควรจะรักผมได้สักที!” ~~~~~~~~~~ ตอนแรกที่อ่านโปรยปก ธารคิดว่านางเอกคงแกล้งหลอกว่า...ตัวเองตาย หรืออะไรทำนองนั้น ที่ไหนได้ตายจริงๆ แฮะ และถึงแม้ว่าโดยปกติธารจะไม่อ่านหนังสือแนวภูติผี วิญญาณ แต่ไหนๆ ก็หยิบมาแล้วก็เลยอ่านต่อไปจนจบ เรื่องนี้ธารชอบพระเอกนะคะ ใจเย็น หนักแน่นมั่นคงดี ขนาดว่า...คนที่รักตายไปแล้วก็ยังอุตส่าห์รักต่อไปเรื่อยๆ นี่สุดยอดค่ะ (อยากได้หวานใจแบบนี้จัง) ส่วนนางเอก...สรุปได้คำเดียวว่า... ‘หลอน’ ค่ะ ที่พูดนี้ไม่ได้หมายความว่าธารกลัวผีนางเอกนะคะ แต่ด้วยอุปนิสัยความเป็นคน (ผี) เจ้าอารมณ์...เอาแต่ใจอย่างที่เพชรกะรัตเป็นนี่ ต่อให้มาแบบคนเป็นๆ ไม่ใช่วิญญาณธารก็จะคงจะใช้คำนี้อยู่ดี ถึงจะไม่ชอบนางเอกแต่ธารก็แอบสะใจในความแสบของคุณเธออยู่เหมือนกันนะคะ แหม...เรียกญาติๆ ที่ไม่ชอบหน้ามารับมรดกเป็นเงินค่ารถหนึ่งร้อยบาทแล้วให้กลับบ้าน นี่ถ้าธารเป็นพระเอก...เห็นที่จะหนีเสียตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วล่ะค่ะ ผีอะไร...แสบทรวงดีแท้ เล่มที่สอง...ผีน่ารัก ชื่อเรื่อง : รักสุขสันต์ หัวใจหรรษา ผู้เขียน : กรมาศ สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ จำนวนหน้า 355 หน้า ราคาปก 230 บาท โปรยปกหลัง... รักต้องหวีดของคนสองคนที่ต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งเป็นสาววิศวกรซ่อมบำรุงและออกแบบบ้านผีสิง ผู้มีจิตที่สื่อกับวิญญาณได้ คืนหนึ่งเธอถูกขอร้องจากวิญญาณผู้หญิง ให้เข้าไปทำงานในสวนสนุกที่ชื่อ ‘สุขสันต์หรรษา’ ซึ่งเป็นคู่แข่ง กับสวนสนุกที่เธอเคยทำงานมาก่อนหน้า ภายใต้มาดนิ่ง ๆ ของเธอนั้น ซุกซ่อนไว้ด้วยปมในใจที่ไม่ปรารถนาให้ใครล่วงรู้ อีกคนหนึ่งเป็นหนุ่มวิศวกรที่ออกแบบรถไฟเหาะตีลังกาโมเดลใหม่ชื่อ ‘เดอะ ซีโร่’ เพื่อติดตั้งและเปิดบริการให้ทันวันครบรอบยี่สิบปี สวนสนุกสุขสันต์หรรษา -- กิจการของตระกูลที่เขาเป็นผู้บริหาร หนุ่มมาดเท่แสนกวนคนนี้กลัวผีสุดชีวิต ทั้งไม่อายที่ใครจะรู้จุดอ่อนนี้ของเขา คนสองคนนี้มีภารกิจร่วมกันคือ การคลี่คลายปมฆาตกรรม และความผิดปรกติที่เกิดขึ้นในสวนสนุก ท่ามกลางเสียงหวีดร้อง และอาการขนลุกขนชันของคนกลัวผี ~~~~~~~~~~ จะว่าไปแล้วเรื่องนี้จะนับเป็นนวนิยายแนว romantic suspense ก็ได้ แต่นับจากจำนวนผีๆ ในเรื่อง ธารเลยยกเอามาตอบข้อนี้แทน เพราะเรื่องนี้ผีเพียบค่ะ มีทั้งน่ารักและน่ากลัว แต่ตัวเด่นๆ จะออกแนวน่ารักสำหรับธารมากกว่า ทั้ง ‘จัสติน’ น้องกุมารทองของนางเอก และ ‘น้ำอบ’ - ‘น้ำปรุง’ ผีสาวฝาแฝดที่ความแก่กล้าไปด้วยแรงอาฆาต ‘ศรีนวล’ นางเอกของเรื่องตัดสินใจรับงานที่สวนสนุกสุขสันต์หรรษาเพราะคำขอร้องของวิญญาณดวงหนึ่งที่มาหาเธอถึงห้องพัก ที่นั่นหญิงสาวต้องทำงานร่วมกับ ‘บุญมาก’ หนึ่งในกรรมการบริหารสวนสนุกซึ่งรั้งตำแหน่งวิศวกรผู้ออกแบบรถไฟเหาะโมเดลใหม่ให้กับสวนสนุกไปด้วย คนสองคนที่ต่างกันสุดขั้วจึงต้องมาทำงานร่วมกัน บุญมากกลัวผีมากๆ และก็ไม่อายที่จะบอกใครๆ ว่าเขากลัวผี ในขณะที่ศรีนวลมีประสบการณ์เกี่ยวกับวิญญาณมาตั้งแต่เด็ก หญิงสาวมองเห็นวิญญาณต่างๆ ได้จนรู้สึกชินชาและไม่เคยกลัว แต่เธอไม่ค่อยถูกโรคกับความหวาดเสียวเทาใดนัก เป็นอีกเรื่องที่อ่านสนุกค่ะ อ่านไปก็ลุ้นไป ทั้งเรื่องความรักของคนทั้งคู่ แล้วก็เรื่องราวของการฆาตกรรมที่ดูเหมือนจะวนเวียนอยู่รอบตัวทั้งสองคนนั่นเอง แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 52 23:52:38 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 52 23:52:25 จากคุณ : ธาร นาวา เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 23:22:00

ความคิดเห็นที่ 56   กลับมาจากป่าแล้วค่า ^^ สวัสดีสมาชิกเก่า-ใหม่ทุกท่านเลยน้า อ่านกระทู้ไม่ทันแหล่ววววว ช่วงที่ไปเที่ยว อ่านจบเล่มเดียว แถมไม่ตรงโจทย์ด้วยค่ะ ฮา กลับมาเป็นหวัด ((โรคฮิต)) และงานกอง สัปดาห์หน้าคงจะได้มาไล่อ่านกระทู้ล่ะค่ะ ^^ ปล. โจทย์ใหม่ จะหาหนังสือไม่เจอก็ตรง "ผีน่ารัก" นี่ล่ะน้า ฮา จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 52 23:47:02

ความคิดเห็นที่ 57   30-5. [ปลายทางของสายรุ้ง] หนังสือ (นิยาย การ์ตูน เรื่องสั้น อะไรก็ได้ ที่ไม่ผิดกฏ RRR) สยองขวัญ (ผีเท่านั้น)  และต้องเป็นเรื่องแต่ง 2 เล่มหรือมากกว่า กี่เล่มก็ได้  รวมจำนวน 500++ หน้า   เล่มแรกก่อนนะคะ ผีน่ารัก เรื่องนี้คุณแก้วกังไสเคยพูดถึงไว้แล้ว ไม่เล่าซ้ำล่ะนะคะ เสริมก็แล้วกันว่าเด่นชาติ (พระเอก) ตายตั้งแต่เริ่มเรื่องเลย คือตายในพิธีแต่งงาน ตายแล้วตอนแรกไปขึ้นสวรรค์ก่อน แต่พิธีมากนัก ต้องทำบัตรอะไรต่ออะไรให้วุ่นวาย มองเห็นทางไปนรกเชิญชวนดี คือมีป้ายบอกไปอาบอบนวด บ่อนการพนัน อะไรพวกนั้น ก็เลยกระโดดขึ้นรถไปนรกแทน ได้ไปรู้จากยมบาลร่วมรุ่นว่าที่จริงตัวเองไม่ควรไปเกิดแต่แรกแล้ว แต่เป็นความผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ ก็เลยได้ไปเกิด แถมโตจนแต่งงานแล้วกว่าจะเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ต้องตายกลับมาใหม่ แต่เด่นชาติยังไม่อยากตายเพราะเข้าพิธืแต่งงานจริง แต่ยังไม่ทันได้เข้าหอเลย ต้องมาถูกรถบรรทุกชนตายเสียก่อน ก็เลยแอบแก้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองในคอมพิวเตอร์เสียใหม่ ให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ถึง 70 ปี กลับมาบนโลกมนุษย์ก็มาเจออะไรไม่ชอบมาพากลหลายๆ อย่างที่คุณแก้วพูดถึงไปแล้ว เรื่องนี้น่ารักมากเลยค่ะ ละครที่คุณแก้วพูดถึงยังไม่เคยดูเลยสักเวอร์ชั่นเดียวค่ะ ตามที่อ่านจากนิยาย คิดว่าตลกดีค่ะ น่ารักดี เรื่องนี้เป็นการเสียดสีสังคมด้วย อย่างเช่นเรื่องของการบริจาคเงินเข้าวัดแล้วมาแอบขโมยเอาพระพุทธรูปไป โดยใช้อิทธิพล หรือความเชื่อเรื่องเจ้าพ่อเจ้าแม่ ถูกคนทรงเจ้าหลอก หลายๆ ตอนอ่านแล้วเหมือนมีดวงตาเห็นธรรมยังไงไม่รู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความงมงายของคน เล่มนี้หนา ๓๒๑ หน้าค่ะ กำลังอ่านส่วนที่เป็นผีน่ากลัวอยู่ค่ะ จบแล้วจะมาต่อ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 52 06:08:09 จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 04:30:07

ความคิดเห็นที่ 58   เรื่อง บูรพา ตอนอ่านเครียดค่ะ แต่ยังไม่เท่า ราตรีประดับดาว นะคะ นั่นยิ่งกดดันหนักเข้าไปอีกค่ะเพราะใน บูรพา พระเอกไปมีผู้หญิงอีกคนก็เพราะจำเป็น ในขณะที่ ราตรีประดับดาว นั่นพอได้ผู้หญิงคนใหม่แล้วถึงขั้นหลง ลืมลูกลืมเมียไปเลยค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 04:33:39

ความคิดเห็นที่ 59   ส่งข้อนี้ค่ะ 15-3. [ยาคูลท์] นิยายที่ตัวเอกหรือคนรักเป็นเพศที่สาม ชื่อหนังสือ : ปริมณฑลแห่งรัก ผู้แต่ง : การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ จัดพิมพ์โดย : สนพ.มติชน พบกับเรื่องราวชีวิตของ "หวนคะนึง" และ "สุดคะเน" หญิงสาวผู้ทดลองใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อเรียนรู้ความรักว่าแท้จริงคืออะไร และใช้ตัวตนของตนเองเพื่อค้นหาความหมายแห่งรักเพื่อจรรโลงใจ และทำความเข้าใจวิถีชีวิตของผู้คน ที่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมี "รัก" และมี "ความทุกข์" ต่างๆ กันไป หลายชีวิตแตกดับ เพื่อให้รักก่อเกิด หลายชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานในรักที่สวนทางกับคนส่วนใหญ่ ในวิถีที่ไม่อาจเป็นไปได้ เพียงเพื่อเชื่อว่ามีความรักอยู่กับหัวใจตนเอง ทั้งอ่อนโยนและหนักอึ้ง แท้จริงแล้วสิ่งที่เราเรียกว่า "รัก" นั้น มีอยู่หรือเป็นจริงเพียงใด ร่วมค้นหาคำตอบพร้อมกันได้แล้วในเล่ม หลายคนต้องเคยได้ยินเรื่องนี้แน่ๆ เป็นนิยายที่ตีพิมพ์ในมติชนรายสัปดาห์เมื่อหลายปีที่แล้ว และเพิ่งมารวมเล่ม เมื่อปี 51 นี่เองค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ สุดคะเน ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกัน เป็นชีวิตของสุดคะเนตั้งแต่เริ่มมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงเป็นครั้งแรก จากสุดคะเนที่ไร้เดียงสา ได้พบความรัก และผิดหวัง   ลองมีความรักกับผู้ชาย เพื่อจะพบว่าไม่สามารถเปลี่ยนตัวตนที่แท้จริงได้ เป็นนิยายที่ใช้ภาษาไพเราะ สวยงาม ออกแนวอารมณ์ศิลปิน ค่อนข้างดราม่าเล็กน้อย ในเรื่องมีฉากเซ็กส์เยอะ ผู้แต่งบรรยายได้วาบหวามแต่ใช้คำสุภาพทุกคำ ให้ผู้อ่านต้องจินตนาการเอง อ่านแล้วคนอ่านเข้าถึงได้ ไม่ว่าตัวเองจะเป็นเพศอะไร มีเพื่อนผู้ชายที่อ่านนิยายเรื่องนี้ตอนที่อยู่ในมติชนรายสัปดาห์ แต่ก่อนเพื่อนคนนี้ชอบอ่านคอลัมน์ของนิวัติ กองเพียร แล้วนิยายเรื่องนี้อยู่หน้าติดกันก็เลยลองอ่านดู ปรากฏว่าหลังจากนั้นต้องซื้อมติชนรายสัปดาห์ทุกอาทิตย์เพราะอยากอ่านแต่นิยายเรื่องนี้  555 แล้วก็บ่นว่าตัวเองแปลกที่ทั้งที่เป็นผู้ชาย แต่ชอบอ่านเรื่องผู้หญิงกับผู้หญิง จากคุณ : Tin_girl เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 12:52:38

ความคิดเห็นที่ 60   สวัสดีทุกคนค่ะ มีคำถามเกี่ยวกับโจทย์สักหน่อยน่ะค่ะ 15-4. [ยาคูลท์] หนังสือที่ชื่อผู้แต่งมีตัวย่อ (เช่น ก. สุรางคนางค์, พ. เนตรรังษี) และหนังสือต้องหนา 100 หน้าขึ้นไป >>>ตัวย่อเป็นภาษาอังกฤษได้ไหมคะ 25-2. [อั๊งอังอา] 26 มิ.ย. เป็นวันสุนทรภู่: ให้อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่ท่านแต่งหรือดัดแปลงมาจากเรื่องที่ท่านแต่ง หรือมีตัวละครจากเรื่องที่สุนทรภู่แต่ง >>>เป็นการ์ตูนเรื่องพระอภัยมณีได้ไหมคะ ขอบคุณมากค่า จากคุณ : นางสาวดุ่บดั่บ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 13:00:50

ความคิดเห็นที่ 61   20-5. [piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้ เล่มที่ 1 ของโจทย์นี้ สัตว์ประหลาดในกระเป๋าเสื้อ TENGO UN MONSTRUO EN EL BOLSILLO เขียน : กราเซียลา มอนเตส แปล : ตริตาภรณ์ รามโกมุท สัตว์ประหลาดอยู่ในกระเป๋าเสื้อ เป็นวรรณกรรมเยาวชนในดวงใจของมูลนิธิดำรงชัยธรรม จากประเทศอาร์เจนตินา 1 ใน 5 วรรณกรรมเยาวชนนานาชุดคัดสรรล่าสุดของมูลนิธิดำรงชัยธรรม ซึ่งประกอบไปด้วย เกาะแห่งเวลาที่หายไป(อิตาลี), ใบไม้ผลิที่รอคอย (นอร์เวย์),โบโบ พิราบขาวผจญภัย (เกาหลี), คืนฝันวันฟลุก(ออสเตรเลีย) และสัตว์ประหลาดในกระเป๋าเสื้อ (อาร์เจนตินา) เรื่องย่อ : อิเนส เป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ผอมบาง พูดน้อย ช่างสงสัย ถนัดการสื่อสารทางการเขียนมากกว่าการพูด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็กลับมีความใฝ่ฝันอยากเจอสิ่งมหัศจรรย์ น่ากลัวและไม่ธรรมดา จนวันหนึ่งเธอได้เจอสัตว์ประหลาดตัวกลม ๆ อุ่น ๆ และกัดได้อยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุมของเธอ เธอจึงแอบเลี้ยงมันเอาไว้อย่างลับ ๆ แต่ถึงกระนั้น การเลี้ยงสัตว์ประหลาดในกระเป๋าเสื้อกลับไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตัวมันโตขึ้น ๆ คอยแต่จะทำตัวร้ายกาจมากยิ่งขึ้นทุกวัน แถมยังไม่ยอมไปจากอิเนสเลยด้วย หนังสือเล่มนี้น่ารักดี เขียนง่าย อ่านสนุก ทำให้ได้กลับไปสู่โลกแห่งความเป็นเด็กอีกครั้ง ตอนเด็ก ๆ ฉันก็เป็นเด็กเงียบ ๆ เรียบร้อย แต่ไม่ถึงขนาด 'อิเนส' และไม่ถึงกับใฝ่ฝันอยากจะมีสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตเหมือนเธอ แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีแอบอิจฉาเพื่อนที่สวย ๆ ในห้อง มีแต่หนุ่ม ๆ ไปรุมชอบอยู่เหมือนกัน และก็อดไม่ได้ที่จะคิดจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดเสียเองในบางที ความเห็นส่วนตัว : วรรณกรรมเยาวชนอาร์เจนตินาเล่มนี้ นอกจากจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมประเทศอาร์เจนตินาหลายอย่าง เช่น การไปโรงเรียนต้องมีเสื้อคลุมยาว วันประกาศอิสรภาพของประเทศอาร์เจนตินา และได้รู้จักขนมปาสตาฟรอล่าแล้ว ยังทำให้ได้คิดถึง 'สัตว์ประหลาด' ตัวน้อยในตัวเอง ซึ่งผู้เขียนแทนสัตว์ประหลาดเป็นความคิดด้านร้ายในตัวของทุกคน เมื่อเราคิดดี พูดดี ทำดี สัตว์ประหลาดก็จะตัวหดเล็กและอยู่ของมันอย่างสงบ แต่เมื่อใดที่เราคิดร้าย อิจฉาริษยา หรืออยากให้สัตว์ประหลาดทำอะไร มันก็จะออกมาเพ่นพ่านและตัวโตขึ้น ๆ ทุกที ลองสำรวจในกระเป๋าเสื้อตัวเองดูสิว่า...สัตว์ประหลาดของคุณ ตัวโตแค่ไหนแล้ว? จากคุณ : นางสาวดุ่บดั่บ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 14:30:24

ความคิดเห็นที่ 62   20-5. [piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้ เล่มที่ 2 กับโจทย์นี้ ดาวหางในเมืองมูมิน Comet in Moominland เขียน : ตูเว ยานซอน แปล : ธารพายุ สำนักพิมพ์ : แพรว หนังสือชุดมูมินโทรล เป็นวรรณกรรมเยาวชนจากประเทศฟินแลนด์ แปลเป็นภาษาต่าง ๆ กว่า 30 ภาษาทั่วโลก ได้รับการดัดแปลงเป็นสื่อต่าง ๆ มากมาย และได้รับรางวัลที่สำคัญหลายรางวัลเช่นกัน หนังสือชุดมูมิน เป็นเรื่องของมูมินโทรลตัวกลม ๆ ขาว ๆ เหมือนฮิปโป ที่อาศัยอยู่ในหุบเขามูมินพร้อมกับพ่อมูมิน แม่มูมินและผองเพื่อนที่มีชื่อประหลาด หน้าตาก็ประหลาด ๆ แต่ทั้งนั้นกลับเต็มไปด้วยความน่ารักของบทสนทนา ความสนุกสนานจากการผจญภัย ความขบขันจากมิตรภาพระหว่างเพื่อน และความอบอุ่นของการอยู่รวมกันเป็นครอบครัว ในเล่ม ดาวหางในเมืองมูมิน ที่ฉันอ่านนี้ เป็นตอนที่ดาวหางดวงใหญ่กำลังจะพุ่งชนโลกและเป็นตรงตำแหน่งหุบเขามูมินที่มูมินโทรลและผองเพื่อนอาศัยอยู่พอดี มูมินโทรลและสนิฟเพื่อนสนิทจึงออกเดินทางเพื่อตามหาศาสตราจารย์ผู้รอบรู้เรื่องดาวหาง และในระหว่างทางการผจญภัย ก็มีเรื่องราวสนุก ๆ เกิดขึ้นมากมาย และยังได้เพื่อนใหม่กลับมาด้วยอีกหลายคน(ตัว) ประโยค "เออแน่ะ ขอให้ฉันกลายเป็นสีชมพูเถอะ!" ของเจ้ามูมินตัวขาวกลม ก็ยังทำให้ฉันยิ้มขำไปได้ทุกครั้ง ความเห็นส่วนตัว : ฉันประทับใจเรื่องราวน่ารัก ๆ ระหว่างเพื่อนกับเพื่อน ลูกกับพ่อแม่ และคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกัน หนังสือเน้นเรื่อง 'ความสัมพันธ์' ระหว่างบุคคลเป็นพิเศษ ทำอย่างไรเราจะไม่ทำคนที่เราผ่านและพบเจอตกหล่นหายไประหว่างทาง นอกจากนั้นแล้ว ฉันยังค้นพบการมองโลกในแง่ดีและไม่คิดอะไรมากของมูมินและผองเพื่อน หากในเวลาวิกฤตนั้น เรายังร่าเริงและไม่ทุกข์ร้อนได้ ก็คงจะดี และจะยิ่งเป็นการดีหากเราไม่ทิ้งใครไประหว่างทางและยังทำให้เขารอดปลอดภัยไปกับเราด้วยอย่างอารมณ์ดี จากคุณ : นางสาวดุ่บดั่บ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 14:33:08

ความคิดเห็นที่ 63   20-5. [piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้ เล่มที่ 3 กับโจทย์นี้ ปลาย่าง เขียน : โอกูม่า ฮิเดโอ แปลและเรียบเรียง : มนตรี อุมะวิชนี สำนักพิมพ์ : เรือนปัญญา ปลาย่าง หนังสือเล่มบาง ๆ ของนักเขียนจากประเทศญี่ปุ่น ที่แปลโดยอ.มนตรี อุมะวิชนี เป็นเรื่องราวการเดินทางกลับบ้านของปลาแมคเคอเรลที่ถูกย่างเสียบไม้ มันคิดถึงสมัยที่ตัวเองเป็นปลามีชีวิต ที่นั่นมีพ่อแม่พี่น้องที่มันรัก มันคิดถึงผืนน้ำกว้างใหญ่ ปะการังสีแดง สาหร่ายสีเขียว และกลิ่นอายความเค็มของทะเลที่รัก มันจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ทั้งที่มีไม้เสียบปลายหาง ว่ามันจะมุ่งหน้ากลับบ้าน ฉบับที่ฉันอ่านครั้งนี้ เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 มีบทกลอนภาษาญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วยทุกหน้า มีภาพประกอบน่ารัก ๆ คั่น ครั้งแรกที่ฉันอ่าน เมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 1 เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาในวิชา TU 110 ต้องทำรายงานเป็นกลุ่มโดยวิเคราะห์เนื้อหาจากหนังสือ ตอนนั้นฉันอ่านคร่าว ๆ ผ่าน ๆ ตั้งใจแต่จะทำรายงานเอาคะแนนเท่านั้น จำไม่ได้ด้วยซ้ำไปว่าฉันรู้สึกอย่างไรกับหนังสือเล่มนี้ แต่ครั้งนี้ที่ได้หยิบมาอ่านอีกครั้ง ความรู้สึกเปลี่ยนไป ความคิดเปลี่ยนไป และแน่นอนว่าได้รับอะไรเปลี่ยนไปจากตอนนั้นแน่ ๆ ความเห็นส่วนตัว : แม้หนังสือเล่มนี้จะบางและจบไว แต่เนื้อหากลับไม่เบาบางและผ่านหัวไปไวเลยสักนิด ฉันเก็บกลับมาครุ่นคิดถึงปลาแมคเคอเรลย่างตัวหอม ในการเดินทางของคนคนหนึ่งเพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางนั้น นอกจากจะต้องกำหนดเป้าหมายที่ใกล้เคียงความจริงและเป็นไปได้แล้ว ยังต้องมีวิธีการที่เหมาะสมเพื่อจะเดินไปให้ถึงมัน โดยเลือกที่จะเสียอะไรไปให้น้อยที่สุดในระหว่างนั้น มิฉะนั้นแล้ว เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางได้ เราอาจจะพบว่าไม่เหลืออะไรไว้ให้ชื่นชมเลยสักนิดเดียว! ฉันยังคงตั้งคำถามและสงสัยต่อไปอยู่เหมือนกันว่า หากเจ้า 'ปลาย่าง' ตัวนี้เดินทางไปถึงทะเลโดยปลอดภัยและไม่มีใครและเล็มเนื้อระหว่างทาง มันจะยังคงได้ดื่มด่ำกับความงามของท้องทะเล และได้แหวกว่ายในเกลียวคลื่นสีฟ้าที่มันโหยหาหรือเปล่า...ในเมื่อมัน คือ 'ปลาย่าง' ตัวหนึ่งเท่านั้น?? จากคุณ : นางสาวดุ่บดั่บ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 14:35:08

ความคิดเห็นที่ 64   ปอยอ่านวรรณกรรมเยาวชนเยอะจังเลย รู้สุกว่าเรื่อง"ปลาย่าง" คุณนัทธ์เคยรีวิวเอาไว้ อ่านแล้วก็น่าหามาลองอ่านดู..ท่าทางน่าสนใจดี จากคุณ : nikanda เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 14:59:39

ความคิดเห็นที่ 65   เพิ่งรู้จากคุณปอยนี่แหละ ว่าภาษาญี่ปุ่นในเล่มคือ บทกวี เราคิดว่า เป็นฉบับพิมพ์ 2 ภาษาซะอีก คุณ Tin_Girl ผู้ชายชอบอ่านเรื่องหญิงรักหญิง ก็ไม่ต่างจากที่ผู้หญิงชอบอ่านเรืองชายรักชายหรอกคะ ... เพราะมนุษย์เรา เป็นสัตว์ประเภทสอดรู้สอดเห็น ...^___^ จากคุณ : นัทธ์ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 15:22:21

ความคิดเห็นที่ 66   25-2. [อั๊งอังอา] 26 มิ.ย. เป็นวันสุนทรภู่: ให้อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่ท่านแต่งหรือดัดแปลงมาจากเรื่องที่ท่านแต่ง หรือมีตัวละครจากเรื่องที่สุนทรภู่แต่ง ***นางในวรรณคดี*** ปิยตา วนนันทร์ เรียบเรียง สุดาสมร นุตเวช & ธารทิพย์ สมบัติแก้ว ภาพประกอบ สำนักพิมพ์ สุวีริยาสาส์น 107 หน้า ราคา 200 บาท ต้องขอออกตัวก่อนว่า เป็นพวก วรรณคดีอ่อนแอ ถึงขึ้นพิการเลยทีเดียว ได้อ่านบทสรุปอย่างนี้ค่อยเข้าใจง่ายหน่อย .. วรรณคดีมักจะมีตัวละครหลายคน ก็แน่ล่ะแค่บรรดาเมียๆ ก็ปาเข้าเท่าไหร่แล้ว และแต่ละชื่อก็ ยาวซะเหลือเกิน เกินความสามารถของสมองน้อย ๆ ของข้าพเจ้าซะเหลือเกิน .. แล้วสมองน้อย ๆ ของข้าพเจ้า ก็สามารถจับใจความได้เท่านี้แล หนังสือเล่มนี้ เป็นการรวบรวม สาวงามจากวรรณคดีเรื่องเด่น ๆ ของไทย ตั้งแต่ยุคสุโขทัย จนถึงรัตนโกสินทร์ มีอยู่ 26 นาง จาก 23 เรื่อง ได้แก่ นพมาศ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ : มาจากหนังสือเรื่อง ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือ นางนพมาศ .... เรื่องนี้เป็นเรื่องกึ่งตำนาน กึ่งประวัติศาสตร์ นางมีความรู้เป็นเลิศ ทั้งอ่านเขียน ภาษาไทย สันกฤต โหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ ทั้งสามารถ แต่งบทร้อยกรอง ท่องสุภาษิตต่าง ๆ เรียนรู้ถึงพระราชพิธีสิบสองเดือน... ด้านงานสตรี ก็เก่งกาจ ไม่ว่า ร้อยมาลัย แกะสลัก สติปัญญาดี หน้าตางดงาม .. วันหนึ่งเมื่อนางได้ถวายตัวเป็นพระสนมของพระร่วงแล้ว เมื่อถึงเดือน 12 นางได้คิดทำโคมเป็นรูปดอกบัว ตกแต่งสวยงามจนเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ทำเป็นประเพณีสืบต่อกันมา .. นอกจากกระทง นางก็เป็นผู้ริเริ่ม พานขันหมาก พุ่มดอกไม้ทอง พระเพื่อนพี่ แพงน้อง สองสมร : มาจาก ลิลิตพระลอ วรรณคดีสมัยต้นอยุธยา ไม่ปรากฏผู้แต่ง .. เห็นในหนังสือว่าสวย .. แต่ทำไมต้องทำเสน่ห์ล่อลวง พระลอ มาด้วยก็ไม่รู้ .. นางทั้ง 2 หลงรูปพระลอมาก ถึงกับลงทุนทำเสน่ห์ เพื่อให้พระลอตามมา (พระลอมีเมียอยู่แล้ว) .. พระลอก็คลุ้มคลั่งตามมา จะเข้าวังก็เข้าไม่ถูก หมอผีเลยต้องเสกไก่ ให้พระลอเดินตาม .. แต่ ทั้ง 2 เมืองเป็นศัตรูกัน พอเจ้าย่ารู้ว่า พระลอ แอบมาหา พระเพื่อน พระแพง ก็เลยฆ่าทิ้งทั้ง 3 คน .. จบโหด อุษา เทวดาอุ้มสม : มาจากวรรณคดีเรื่อง อนิรุทธ แต่งโดยศรีปราชญ์ สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่พอมาสมัยต้นรัตนโกสินท์ ชื่อเรืองก็เพี้ยนไปเป็น อุณรุท ... นางอุษาถือกำเนิดจากดอกบัว คิดว่านางอุษาน่าจะงามมากเชียว เพราะ เป็นหญิงที่เทวดา คิดว่างามที่สุดในแผ่นดินเชียว .. เทวดาชมชอบพระอนิรุทธมาก จึงคิดหาคู่ให้ อุ้มพระอนิรุทธไปยังห้องนอนของนางอุษา เป็นที่มาของคำว่า "เทวดาอุ้มสม" เรื่องนี้ พระอนิรุทธ มีมเหสีอยุ่แล้ว .. เทวดาไม่น่าเลย พินทุมดี มเหสีพระสมุทรโฆษ : มาจาก สมุทรโฆษคำฉันท์ เป็นวรรณคดีซึ่งคาบเกี่ยวตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงต้นรัตนโกสินทร์ มีแต่งถึง 3 ท่าน .. นางพินทุมดี มีความงามเลื่องลือมาก .. ได้คู่กับพระสุมทรโฆษ วันหนึ่งท่านได้พระขรรค์ทำให้เหาะเหินได้ ก็พานางพิมทุมดี ไปเที่ยวเล่นที่ป่าหิมพานต์ จนเหนือยเผลอหลับไป แล้วโดนโขมยพระขรรค์ จึงจำต้องเดินป่า กลับเมือง ระหว่างทางผ่านแม่น้ำ ทั้งสอง ก็เกาะขอนน้ำ เพื่อจะลอยไปอีกฝั่ง นางพินทุมดีถึงฝั่งเรียบร้อย แต่พระสมุทรโฆษ กลับลอยน้ำไปทุกข์ทรมานอยู่ถึง 7 วัน จนนางเมขลา เห็นใจอุ้มพระสุมทรโฆษขึ้นฝั่ง (เหมือนพระมหาชนกเลย??) แล้วออกตามหา นางพินทุมดี สุดท้ายก็เจอกัน มโนราห์ กินรี : จาก สุธนชาดก ในคัมภีร์ปัญญาสชาดก และแพร่หลายไปทั่วเอเชีย แต่อาจต่างกันในรายละเอียดเล็กน้อย เช่น ในจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นตัวนกยูง .. กินรีมีหน้าตาเหมือนมนุษย์ แต่มีปีกและหาง แต่ถอดออกได้ .. เรื่องยาวมาก เล่าไม่ไหว เตียวเสี้ยนสาวงามล่มเมือง : เป็นสาวงามในเรื่อง สามก๊ก มีการแปลเอาไว้ตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์  .. เตียวเสี้ยนมีความสวย ถึงขนาดทำให้แม่ทัพผู้เกรียงไกร หน้ามืดตามัวถึง 2 คนเลยทีเดียว คือลิโป้ กับ ตั๋งโต๊ะ โดยนางใช้มารยา กับทั้งสองคน .. ด้วยการบอกลิโป้ว่า ตั๋งโต๊ะ บังคับพาตัวนางมา แล้วก็บอก ตั๋งโต๊ะว่า นางโดนลิโป้ลวนลาม .. ทั้งสองเลยผิดใจกันเสียยกใหญ่ แต่ใช่ว่า เตียวเสี้ยนเป็นคนไม่ดีนะ ตั๋งโต๊ะ กะ ลิโป้ เป็นขุนนางที่ไม่ดี ..นางทำไปเพื่อช่วยบ้านเมือง นั่นเอง สีดา ลักษมีอวตาร : เป็นนางในวรรณคดีจากเรื่อง " รามเกียรติ์ " .. นางสีดาเป็นลูกของ นางมณโฑ และ ทศกัณฐ์ พอเกิดมา โหรก็ทายไว้ไม่ดี เลยถูกใส่ผอบ ลอยน้ำไป นางมีความงาม แม้แต่ผู้หญิงยังอิจฉา ถึงขั้นก่อให้เกิดสงคราม ล้างยักษ์ กันเลยทีเดียว บุษบา อุณากรรณ : เป็นนางในวรรณคดีจากเรื่อง " อิเหนา ".. นางบุษา กะ อิเหนา เป็นคู่หมั้นกัน แต่อิเหนากำลังหลงนางจินตะหรา เลยไม่ยอมไปแต่งงานด้วย .. พ่อ-แม่ บุษบา เลยยกให้ จรกา .. พอเกิดเหตุจำเป็น ที่อิเหนาต้องมาช่วยรบ แล้วได้มาป๊ะหน้า บุษาเท่านั้น ลมขึ้นเสียดายขึ้นมาเชียว ลืมเมียเก่า ซะสิ้น ไปลักพาตัวเค้ามาซะงั้น .. อีก ยาวเชียวเล่าไม่หมด.. พิมพิลาไลย หรือ วันทองสองใจ :  ขุนช้างขุนแผน เป็นวรรณคดีที่ร่วมกันแต่งโดยรัตนกวี ในสมัยของ รัชกาลที่2 ซึ่ง สุนทรภู่ได้แต่งตอน "กำเนิดพลายงาม" ... นางพิมเป็นเพื่อนเล่นแต่เด็ก ของฃุนช้าง และ พลายแก้ว.. ขุนช้างชอบนางพิม มาตั้งแต่เด็ก แต่นางพิมไม่ชอบ เพราะหน้าตาน่าเกลียด .. และนางพิมก็ชอบพอกับพลายแก้วด้วย ..สุดท้ายก็ได้แต่งงานกัน แล้วพลายแก้วก็ต้องจากนางพิมไปรบ .. แล้วก็โดนขุนช้างวางอุบายหลอกนางพิมว่า พลายแก้วตายแล้ว ให้มาแต่งกับขุนช้างซะ ดีกว่าจะต้องถูกริบเป็นหม้ายหลวง แต่นางพิม ก็ไม่ยอม จนป่วย เลยเปลี่ยนชื่อสะเดาะเคราะห์ เป็นวันทอง.. พลายแก้วชนะกลับมา กลายเป็นขุนแผน ตอนกลับมาเอาเมียใหม่มาด้วย นางพิมเลยโกรธ หึงหวง ขุนแผนโกรธ เลยตัดขาดนางวันทอง ก็เลยเสร็จขุนช้างเลย .. จากนั้นก็ยังแย่งกันไป-มา .. มีเรื่องกันอีกเยอะเลย จนสุดท้าย มีเรื่อง ถึงพระพันวษา เลยให้นางวันทองเลือกว่า จะอยู่กะใคร นางวันทองเลือกไม่ได้ เลยโดนประหาร ซะเลย .. เป็นที่มาของ นางวันทอง สองใจนั่นเอง ละเวงวัณฬามหาเสน่ห์ : อยู่ใน วรรณคดีเรื่อง "พระอภัยมณี"... นางละเวงวัณฬา เป็นธิดาเจ้ากรุงลังกา ... มีหน้าตาสะสวย และมีมนต์คาถา ถึงกับใช้หน้าตาลวงเจ้าเมืองต่าง ๆ มาช่วยรบได้ ..ต้องรบกับทางพระอภัยมณี เพราะ หวังแก้แค้นให้พ่อและพี่.. รบกันไป-มา พระอภัยมณี สินสุมทร สุดสาคร ก็หลงเสน่ห์นางละเวงวัณฬา เข้าไปอยู่ที่เมืองลังกากันหมดเลย .. แล้วนางละเวงวัณฬาก็เสร็จพระอภัยมณี .. ยังไม่จบ มีอีกยาวเชียว เงือกน้อย มารดาสุดสาคร : อยู่ใน วรรณคดีเรื่อง "พระอภัยมณี" .. ในหนังสือ ไม่ได้กล่าวอะไรมากนัก จันท์สุดา นางผมหอม : จากเรื่องหลวิชัยคาวี... เป็นนางที่มีรูปงาม และยังมีผมที่หอมอีกด้วย ตะเภาแก้ว-ตะเภาทอง : มาจากวรรณคดีเรื่อง ไกรทอง .. นาง 2 คนนี้ ไม่แแน่ใจว่าสวยรึเปล่า แต่ ก็ทำให้ ชาลวัล ต้องการนางให้ไปอยู่ที่ถ้ำบาดาล แต่ในส่วนของไกรทอง เมื่อได้ 2 นางนี้เป็นเมียแล้ว กลับไปติดอกติดใจ นางวิมาลาที่เป็นจรเข้ เสียอีก แล้วตกลง 2 คนนี้สวยหรือเปล่า?? ยอพระกลิ่น นางงามในปล้องไผ่ : จากเรื่องมณีพิชัย (ยอพระกลิ่น) เป็นลูกของ พระอินทร์ กับ นางเกศนี เกิดมาก็ตัวหอมเลย เลยชื่อว่า ยอพระกลิ่น  พระอินทร์ไม่สามารถนำนางไปเลี้ยงที่สวรรค์ได้ จึงเสกให้อยู่ปล้องไม้ไผ่ แล้วสาปไม่ให้ผู้ใดตัดได้ นอกจากเนื้อคู่ เท่าที่อ่าน ไม่รู้ว่าสวยรึไม่ รู้แต่พระมณีพิชัยน่าจะหล่อ .. มีแต่สาว ๆ อยากได้ สุวิญชา จำปาทอง : จากเรื่องไชยเชษฐ์ ที่นางชื่อจำปาทอง เพราะว่าเมื่อร้องไห้จะมีดอกจำปาทองร่วงลงมาทุกครั้ง เนื่องจากก่อเรื่องวุ่นวายในเมือง จึงถูกขับไล่ แล้วยักษ์ ก็รับไปเป็นลูกบุญธรรม เปลี่ยนชื่อว่า สุวิญชา ลำหับ เงาะป่าเลอโฉม : จากเรื่องเงาะป่า พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ...  ลำหับเป็นสาวเงาะที่มีหนุ่มเงาะหลายคนหมายปอง แม้ว่าจะมีคู่หมั้นแล้ว และยังเป็นสาเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาท ระหว่างคู่หมั้นและคนรัก จนสุดท้าย คนรักโดนฆ่าตาย ก่อนตายบอกให้นางกลับไปอยู่กับคู่หมั้น แต่นางไม่ยอมและฆ่าตัวตายตาม .. คู่หมั้นตามมาเห็นพอดี ก็เสียใจ ฆ่าตัวตายไปอีกคน ... แอบเศร้านะเนี่ย นอซาตอลอัวดัด นิทราชาคริต : จากเรื่อง ลิลิตนิทราชาคริต เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ชื่อแปลก ๆ นี้ มาจากนิทานอาหรับเรื่องหนึ่งที่อยุ่ใน 1001 อาหรับราตรี ในหนังสือไม่ได้เล่าว่าสวยมั้ย .. ดูจากรูปแล้ว ก็สวยดี ต่อด้านล่าง .. แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 52 02:51:27 จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 02:49:58

ความคิดเห็นที่ 67   ต่อ .. มัทนา เทวีดอกกุหลาบ : จากมัทนะพาธา เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เล่าเรื่องว่าด้วยตำนานเกี่ยวกับดอกกุหลาบ .. นางมัทนาเป็นเทพธิดาอยู่บนสวรรค์ ความงามไปต้องตา  เทพบุตรผู้ยิ่งใหญ่เข้า แต่นางกลับไม่ยอมรับรัก เลยโกรธสาปส่งให้ไปเกิดที่โลกมนุษย์ โดยให้เลือกว่าจะเป็นอะไร นางมัทนาเลือกที่จะเป็นกุหลาบแดง หนามคม กลิ่นหอม ซึ่ง ดอกไม้ชนิดนี้มีแต่ที่สวรรค์เท่านั้น ยังไม่มีที่โลกมนุษย์ เมื่อนางไปเกิดเป็นกุหลาย เทพสุเทษณ์ ยังสาบว่าเมื่อถึงวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง ให้นางเป็นมนุษย์ 1 วัน และ เมื่อนางหลังรักใคร นางจะคงรูปเป็นมนุษย์ตลอดไป แต่นาง จะต้องพบกับความทุกข์เพราะความรัก จนกว่านางจะยอมอ้อนวอน พระองค์จะถอนคำสาป แล้วให้กลับสวรรค์ .. แม้จะรู้คำสาป แต่นางก็ห้ามความรักที่เกิดขึ้นไม่ได้ ก็ต้องผจญทุกข์กันไป จนทนไม่ไหว จึงอ้อนวอนให้เทพสุเทษณ์ พากลับสวรรค์ เมือพากลับแล้ว เทพ ก็ยังจะเอาเป็นสนมอีก นางก็ยังไม่ยอม เทพโกรธ เลยสาบให้เป็นกุหลาบถาวรซะเลย .. อันโดรเมตา เจ้าสาวพระสมุทร : จากเรื่อง วิวาห์พระสมุทร  เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ... นางเป็นลูกเจ้าของเกาะแห่งหนึ่ง มีความงดงาม จึงทำให้ชายหลายคนมาติดพัน ทั้งยังหวังในสมบัติอีกด้วย .. บทกลอนในเรื่องจะคุ้นหูอยู่ท่อนนึง "ปากเป็นเอกเลขเป็นโทโบราณว่า" น่าจะเคยเรียนสมัยมัธยมนะ ศกุนตลา ธิดาพระฤาษี : จากเรื่อง ศกุนตลา บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว .. นางเป็นลูกเทพ .. เมื่อเกิดมาก็ให้นกช่วยเลี้ยงดู เลยชื่อศกุนตลา นางอุษา ชายะท้าวแสนปม : จากเรื่อง ท้าวแสนปม เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว .. ความงามดังไป 3 เมือง 8 เมืองทีเดียว แสนปมนั้นมาจากว่า พระชินเสนได้ปลอมตัวเป็นยาจก แล้วเอาสีมาแต้ม ๆ เป็นแสนปน ดูน่าอนาจ แต่ นางอุษา ก็ยังดูออกว่าเป็นผู้มีอันจะกินปลอมตัวมาซะอีก .. สาวิตรี ผู้ขอพรพระยม : พระราชนิพนธ์ ใน ร.๖ จากนิทานสันสกฤตใน มหาภารตะ .. เรื่องนี้ไม่แน่ใจว่าสวยมั้ย เพราะ ไม่มีชายใดมาขอ ต้องเดินทางไปเลือกสามีเอง แล้วสามีที่เลือกก็ดันอายุสั้นซะอีก พอตายไป เนื่องจากนางเป็นผู้เจริญศีลแก่กล้า ก็มองเห็นพระยม จึงได้ขอร้องให้คืนสามีมา พระยมก็ไม่ยอม นางจึงติดตามสนทนาธรรมไปด้วยเรื่อย ๆ จนพระยมชื่นชมจึงให้พรหลายข้อ แต่มาข้อนึง นางขอให้มีบุตร 100 คน พระยมก็ให้ แล้วพอข้อต่อไป นางก็ขอคืน เพราะบอกว่า สามีตายแล้วคงมีลูก 100 คนไม่ได้ พระยม เลยต้องคืนวิญญาณสามีกลับมา นางอิลา หรือท้าวอิลราช : อิลราชคำฉันท์ ผู้ประพันธ์อิลราชคำฉันท์คือ พระยาศรีสุนทรโวหาร .. นางอิลา และ ท้าวอิลราช เป็นคน ๆ เดียวกัน เรื่องคือ ท้าวอิลราชหลงเข้าไปยังดินแดนที่มีเพศหญิง เค้าเลยกลายเป็นหญิงไปด้วย .. แต่จะสลับเป็นชายหญิง อย่างละ 1 เดือน และจะจำเรื่องราวของอีกเพศไม่ได้เลย ... แต่สุดท้าย ก็ได้กลับกลายเป็นชายถาวร (เรื่องนี้ โดนเอาไปแต่งเป็นเรื่องพิมมาลา ของ แก้วเก้า) ทมยันตี ผู้มีความอดทน : จาก พระนลคำฉันท์ .. นางเป็นหญิงงาม เป็นที่หมายปองของเหล่าเทพ แต่เนื่องจากนางมั่นคงในรัก ก็ยังคงเลือกมนุษย์ธรรมดาเป็นคู่..เรื่องนี้ ตัวพระนางรักเดียวใจเดียวสุด ๆ อ่านจบแล้วยังเลือกไม่ได้ว่าใครสวยสุด แต่ถ้างามพร้อม .. ขอยกให้นางนพมาศ งามทั้งหน้าตา ทั้งสมอง .. เข้ายุคสมัยเป็นที่สุด หนังสือเล่มนี้เป็น e-book ค่ะ จาก TK Park e-Library รูปนี้เป็นรูปจาก ปฏิทิน เหล้าไทย เห็นว่าสวยดี จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 02:51:05

ความคิดเห็นที่ 68   ^ ^ นางในวรรณคดี น่าอ่านจัง หลายเรื่องเลย ที่เคยได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่เคยได้อ่านเรื่องราวเต็มๆเสียที นางไหนงามที่สุด..ไม่ทราบ แต่นางวันทองกับนางมัทนา..น่าสงสารจัง จากคุณ : nikanda เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 04:57:46

ความคิดเห็นที่ 69   ชอบปลาย่างค่ะ สำหรับเรา อ่านแล้วเศร้าน่ะ สำหรับบางคน สามารถยอมเสียศูนย์และสูญเสีย เพื่อสิ่งที่เรียกว่า "ความฝัน" จริงๆ นางในวรรณคดีน่าอ่านมากค่ะ ยังไม่มีรีวิว (แล้วยังกล้าเสนอหน้ามาอีก ) เมื่อวานก็ไปงานแต่งงานน่ะค่ะ หวังว่า วันนี้คงจะได้อ่าน และอ่านจบ จะได้มารีวิวพรุ่งนี้ ทักทายทุกท่านนะคะ ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ และขอต้อนรับคุณไอซ์กลับมาด้วยค่ะ จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 09:13:44

ความคิดเห็นที่ 70   10-1. [LMJ] อ่านหนังสือที่ชื่อเรื่องมีคำเกี่่ยวกับฝน หน้าฝน วายุ พายุ ฯลฯ ^ ^ ^ เป็นคำว่า "พิรุณ" ได้หรือเปล่าค่ะ จากคุณ : ปณาลี เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 15:01:40

ความคิดเห็นที่ 71   มีใครเพิ่งมาเริ่มเล่นเอาเดือนนี้บ้างไหมคะ จากคุณ : Tenjo_Utena เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 15:47:01

ความคิดเห็นที่ 72   ^ น่าจะเป็นคุณ Tin_girl นะคะ นางในวรรณคดี..เวอร์ชั่นชาวบ้านเอามาย่อเล่าให้ฟังเนี่ย ชอบมากค่ะ ถ้าให้อ่านเองคงเผลอถอดวิญญาณไปเฝ้าพระอินทร์ก่อนแน่ ฉะนั้น อ่านที่เขาเล่าอีกต่อ น่าจะได้ความกว่า ใครว่านารีมีรูปเป็นทรัพย์?  อ่านๆ ดู หลายรายเป็นทุกข์นะ ไม่มีรีวิวเหมือนสาวไกด์ฯ ค่ะ  (เค้าเปล่าเลียนแบบนะ) จริงๆ อ่านจบไปเล่มสองเล่มแหละ แต่รู้สึกจะตอบโจทย์ไม่ได้สักข้อ ส่วนเล่มที่ตอบโจทย์ได้..ก็ขี้เกียจหยิบอ่า คุณปณาลี "พิรุณ" ใช้ได้ค่ะ  แปลว่าฝนเหมือนกัน คุณนางสาวดุ่บดั่บ ข้อตัวย่อของเรา ใช้ตัวย่อฝรั่งก็ได้ค่ะ แต่ข้อสุนทรภู่ ลองถามสามอออีกทีดีกว่า  (ว่าแต่เป็นการ์ตูนแบบ manga เลยหรือการ์ตูนเล่มๆ ที่ขายในร้านหนังสือใหญ่ล่ะคะ) จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 16:37:35

ความคิดเห็นที่ 73   คุณแจง nikanda ช่วงนี้อ่านวรรณกรรมเยาวชนทั้งนั้นเลยค่ะแจง เพราะว่าต้องทำโครงการกับห้องสมุดชุมชนค่ะ ปลาย่างเป็นหนังสือดีทีเดียว กลับมาหาอ่านนะคะคราวนี้ คุณนัทธ์ เพิ่งทราบเหมือนกันค่ะว่าเป็นบทกวี เขียนเอาไว้ในคำนิยมของฉบับนี้น่ะค่ะ ถ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นออกคงจะดีนะคะ อิอิ คุณสาวไกด์ใจซื่อ อ่านเรื่องปลาย่างแล้วก็เศร้าเหมือนกันค่ะ แต่ชอบนะคะ ต่างคนต่างคิดไปคนละแบบดี คุณปลายทางของสายรุ้ง รีวิวได้ละเอียดและยาวดีจังเลยค่ะ ฟังดูแล้วชอบสาวิตรี เพราะว่าฉลาดจัง Tenjo_Utena เราก็เพิ่งเริ่มเล่นเดือนนี้เหมือนกันค่ะ คุณยาคูลท์ ขอบคุณค่ะสำหรับคำตอบ ส่วนพระอภัยมณี ไม่ใช่ manga นะคะ เป็นของสำนักพิมพ์ skybook เอารูปปกมาฝากด้วยค่ะ แต่ไม่เข้าโจทย์ก็ไม่เป็นไรนะคะ จากคุณ : นางสาวดุ่บดั่บ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 16:52:16

ความคิดเห็นที่ 74   แปะรีวิวบ้างค่ะ อิอิ เป็นหนังสือเล่มเดียวที่หยิบเข้าป่าไปด้วย ตอนแรกนึกว่าจะไม่ลงโจทย์อะไรเลย แต่ลองดูดีๆ แล้ว ลงเหมือนกันนิ กิกิ 15-6. [อั๊งอังอา] อ่านเรื่องแต่ง 2 เล่ม ที่ตัวละครหลักมีชื่อสามพยางค์ เช่น ชอลิ้วเฮียง ออนอเร่ ปริศนา สำหรับเรื่องนี้ นางเอกชื่อ Temperance ค่ะ ^^ ส่วนอีกเล่มขอติดไว้ก่อนนะคะ ^^" เรื่อง : Death du Jour เขียนโดย : Kathy Reichs รายละเอียด ในคืนอันหนาวเหน็บของเดือนมีนาคมในเมืองมอนทรีอัล นักนิติวิทยา/นักมานุษวิทยา ดร. Temperance Brennan ขุดศพของแม่ชีที่ได้รับการเสนอให้เป็นเซนต์จากใต้ดินของโบสถ์เก่าแห่งหนึ่ง ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเธอก็ถูกเรียกไปยังสถานที่เกิดเหตุวางเพลิงอันสยดสยอง ครอบครัวหนึ่งตายเรียบ พ่อ แม่ ลูกฝาแฝด และคนแก่ ดูเหมือนว่าจะไม่มีพยา ไม่มีเหตุจูงใจ ไม่มีคำอธิบาย Temperance กับลูกสาวไปเที่ยวเกาะของ Sam เพื่อนเก่า ซึ่งเป็นเกาะปิดสำหรับสังเกตพฤติกรรมของลิง ก็กลับพบศพปริศนาอีกสองศพ ในระยะเวลาเพียงไม่นาน Temperance พบศพคนตายศพแล้วศพเล่า เธอสืบไปจนพบว่า มันเกี่ยวข้องกับลัทธิลับแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอจะต้องสืบหาความจริงให้ได้ก่อนที่จะมีศพเพิ่มมากขึ้น และศพนั้นก็อาจจะเป็นน้องสาวของเธอเอง .... ไอซ์เคยอ่านงานของ Kathy Reichs มาแล้วเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นเล่มแรกของซีรียส์ที่มี Temperance Brennan ผู้เขี่ยวชาญด้านกระดูกเป็นตัวเอก ... ซึ่งก็คือเรื่อง Deja Dead ...อ่านมานานสักหกเจ็ดปีได้แล้วมั้ง ตอนนั้นจำได้ว่า อ่านแล้วไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ เพราะ Kathy Reichs ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ Patricia Cornwell ซึ่งตอนนั้นไอซ์โปรด Patricia Cornwell มากกว่า จนได้ดูซีรียส์ Bones ซึ่งไอซ์ชอบมาก ก็ลืมไปแล้วเสียด้วยซ้ำว่า ชื่อนางเอกซีรียส์เหมือนกับชื่อนางเอกของหนังสือชุดนี้ จนกระทั่งมาอ่านเรื่อง Death Du Jour นี่แหละค่ะ หนังสือกับซีรียส์ต่างกันเยอะเหมือนกัน ... และไอซ์ก็บอกได้เลยว่า ส่วนตัวแล้ว ชอบซีรียส์มากกว่าค่ะ ชอบบุคคลิกของ "Bones" ในซีรียส์ ชอบตัวละครอื่นๆ ชอบบทที่เชือดเฉือนกันอย่างชาญฉลาดและเจ็บแสบ ซึ่ง...ในหนังสือไม่มีง่ะ สำหรับ Death Du Jour นี้รายละเอียดก็เหมือนข้างบนค่ะ Tempe เจอศพแล้วศพเล่า ซึ่งตอนแรกดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ไปๆ มาๆ ก็เกี่ยวข้องกับ Cult แห่งหนึ่ง ซึ่งเธอมารู้ตอนหลังว่า น้องสาวของเธอก็เข้าร่วมด้วย ((แต่คนอ่านน่ะ รู้ตั้งแต่แรกๆ แล้ว)) ทำให้เธอต้องพยายามตามหาความจริงและช่วยน้องสาวออกมา ก็...อ่านได้เรื่อยๆ นะคะ ส่วนตัวคิดว่า การเดินเรื่องมันกระจายนิดนึง เน้นความเป็นไป ชีวิต และความคิดของตัวเอกคือ Tempe ค่อนข้างเยอะ เรื่องคดีก็เลยเอื่อยๆ นิดหน่อย อีกอย่างมีคดีเกินขึ้นในสถานที่ที่แตกต่างกัน ซึ่งดูเหมือนจะไม่เชื่อมโยงกัน แต่คนอ่านรู้ว่ามันต้องโยงกันแน่ๆ กว่าตัวเอกจะเจอจุดเชื่อมก็นานเชียว คนอ่านอย่างไอซ์เลยรู้สึกว่าเรื่องมันอืดๆ การพูดถึงเรื่อง Cult ค่อนข้างน่าสนใจ แต่...มันคล้ายๆ กับเรื่อง The Sleeping Doll ที่ไอซ์อ่านไปก่อนหน้า และรู้สึกว่า เรื่อง The Sleeping Doll ละเอียดกว่าอะค่ะ ^^" สรุปว่า...ส่วนตัวคิดว่า เล่มนี้พออ่านได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับติดหนึบ อาจจะหาเล่มอื่นๆ มาอ่านต่อ แต่ก็ไม่รู้สึกกระตือรือร้นขนาดนั้นนะคะ ชอบซีรียส์มากกว่าค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 18:38:09

ความคิดเห็นที่ 75   ลืมปก ^^" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 18:39:09

ความคิดเห็นที่ 76   ^^ ชอบซี่รี่ยส์ Bones เช่นเดียวกันค่ะ เห็นว่าในหนังสือมีบุตรด้วยเหรอ แล้วในซี่รี่ย์ส จะมีมั้ย ลุ้นอยู่เนี่ย .. จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 19:35:52

ความคิดเห็นที่ 77   ^ ^ ในหนังสือเทมเป้แต่งงานและหย่าแล้ว มีลูกสาวโตเป็นวัยรุ่นแล้วค่ะ ในซีรียส์นี่ไม่รู้ว่าเค้าวางไว้ยังไงเนาะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 20:19:10

ความคิดเห็นที่ 78   ^ ^ ในซีรี่ส์เธอยังโสดค่ะ ตามหาชุดนี้มาอ่านเพราะชอบซีรี่ส์ Bones เหมือนกัน ซื้อเล่มนี้ (ที่คนแต่งบอกว่าเป็นสไตล์ฉีกจากเล่มอื่นในชุด) กับเล่มแรกๆ มาประเดิมอ่าน  ปรากฎว่าไม่ปลื้มยัยเทมพ์ฯ ภาคนิยายเลย  อ่านไม่รอดอ่ะ คุณนางสาวดุ่บดั่บ ถ้าเป็นเล่มที่โพสต์ เราว่าตอบโจทย์ได้นะ   แต่ถ้าจะให้ดี รอเจ้าของโจทย์คือสามออมายืนยันอีกเสียงละกันค่ะ (ทำตาปิ๊งๆ ใส่ เดี๋ยวสามออก็จะใจอ่อน 555) จากคุณ : ยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 20:44:37

ความคิดเห็นที่ 79   ^ ^ ในซีรียส์เชียร์เทมเป้กับตาบู้ธอยู่ค่ะ ((ดูถึง S3 นะคะ)) จะลงเอยกันได้ไหม เอิ๊กๆ ในหนังสือเล่มนี้เธอก็ปิ๊งๆ กับตำรวจสืบสวนนะคะ แต่ยังวางท่าอยู่ ซีรียส์สนุกกว่าหนังสือมากค่ะ โฮะๆๆๆ ดูซีรียส์ดีกว่า >_< แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 52 20:52:48 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 20:51:41