สวัสดีครับคุณเจ้าของกระทู้ และเพื่อนสมาชิก 
เรื่องของศาสนา ความเชื่อ และศรัทธา ต่างๆ ผมไม่ขอถกละกันนะครับ เพราะเป็นสิทธิ ส่วนบุคคลใครก็มีสิทธิ์ เชื่อ หรือ แม้แต่สงสัยได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้านำมาถกกัน อาจนำไปสู่การลบหลู่
หมายถึงการกล่าวในเชิงลบ กับศาสนาที่ถูกพูดถึง ซึ่งเป็นการละเมิดกฎของบอร์ดแห่งนี้
เจ้าของกระทู้เองก็มีสิทธิ์สงสัยได้ ไม่ว่ากับเรื่องอะไรที่คุณยังไม่รู้หรือไ่ม่เข้าใจ แต่ประเด็นนี้
เป็นประเด็นที่อ่อนไหว ซึ่งอาจสร้างความไม่พอใจให้กับคนบางกลุ่ม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมเป็นชาวพุทธ และปฏิบัติอย่างพุทธ ซึ่งมันทำให้ผมมีความสุข เมื่อก่อนผมก็เคยสงสัย
ไม่ต่างจากคุณเจ้าของกระทู้เลย หลายๆ อย่างผมกลับรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลยกตัวอย่าง
การกรวดน้ำ สำหรับคนที่ไม่มีน้ำอยู่ในมือ ก็จะใช้วิธีแตะคนข้างหน้า เหมือนการลิงค์กัน
ยังไงยังงั้น แล้วถ้าเราคิดอีกแบบล่ะ ??? โดยให้ผู้ที่มีน้ำอยู่ในมือ (Host) ตั้งจิตอธิษฐาน
ว่าบุญกุศลที่ได้จากการกรวดน้ำจะกระจายลงสู่พื้นเป็นบริเวณกว้างกี่ตารางเมตรผู้ใดก็ตาม
ที่อยู่ในบริเวณนี้จะได้รับผลบุญโดยทั่วกัน หรือจะให้กระจายไปในอากาศแบบ Wireless ก็ได้
ใครก็ตามที่ตั้งจิตอธิษฐานว่า ขออนุโมทนาสาธุ กับผู้ที่ทำบุญกรวดน้ำ ก็เท่ากับ Login เข้าไปรับ
ส่วนบุญนั้นๆ ด้วย มีหลายอย่างที่ผมสงสัยตามความรู้อันน้อยนิดที่ผมมี ซึ่งมันก็แปลกพิสดาร
ขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด จนผมได้มีโอกาสบวชและพระอาจารย์ท่านก็เมตตาสอนผมหลายอย่าง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนปัจจุบันนี้ผมก็ยังเป็นศิษย์ของท่านอยู่ ท่านแนะนำให้ผมอ่านหนังสือของท่านพระพุทธทาส
ผมเองก็ยังไม่ได้อ่าน แต่มีโอกาสได้ฟังเทศน์จาก CD ที่พ่อเอามาให้ เท่านั้นแหละครับผมเลิกสงสัย
ไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว เพราะสงสัยไปก็เท่านั้น เราอาจใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อหาคำตอบ แต่
ต่อให้เราได้คำตอบ ก็ใช่ว่าจะเป็นความจริง จนเราก็ไม่เชื่อเลยสักคำตอบ กลายเป็นว่า
เราเสียเวลาทั้งชีวิตทำอะไรก็ไม่รู้ เพราะเมื่อเราได้คำตอบที่ 1 เราจะมีคำถามที่ 2 และ ที่ 3
ตามมาอย่างไม่รู้จบ ผมจึงเลือกที่จะปล่อยวาง ไม่คิดไม่สงสัย เพราะผมยึดหลักความเชื่อเดียว
คือ อิทัปปัจจยตา ซึ่งหมายถึง สิ่งทั้งหลายเิกิดขึ้นได้ด้วยเหตุปัจจัย
เมื่อมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิด และการดับไปของสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป
ยกตัวอย่าง เมื่อมีเชื้อเพลิง(ฟืน ฯลฯ) มีความร้อนมากพอ และมีอากาศ จึงทำให้เกิดเปลวไฟ
และเมื่อขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป หรือการหมดไปของอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงทำให้เปลวไฟดับไป
คุณต้องได้ลองฟังดูแล้วจะเข้าใจ บทเทศน์ของท่า่นพระพุทธทาสนั้น เหมาะกับคนรุ่นใหม่มากๆ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณเจ้าของกระทู้ลองหาฟังดูนะครับ ถ้าคุณเป็นชาวพุทธ บทเทศน์นี้จะช่วยคุณได้มาก
แต่ถ้าคุณไม่ใช่ชาวพุทธ คุณก็จะได้แนวคิดใหม่ๆ ที่คุณอาจไม่เคยได้จากที่ไหนมาก่อน
แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 55 09:56:13
แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 55 09:51:03
แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 55 09:49:56