ในอนาคต สุริยจักรวาลแคบลง ชั้นโอโซนอ่อนแอ และมนุษยชาติตัดสินใจใช้พลังงานนิวเคลียร์มากขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้โลกถูกรุกรานจากสัตว์ประหลาดทั้งจากภายนอกและภายในโลก
ฟูเชีย โชว เป็นเจ้าหน้าที่มือใหม่ประจำหน่วยป้องกันสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้ หรือ ยูซีพี (Unidentified Creatures Protection) สาขาเกาะเซนท์ ไซมอน เกาะเล็กๆ ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสมาพันธรัฐนิวแลนด์ หน่วยงานยูซีพีเพิ่งมาเปิดได้ไม่นาน และได้รับการต่อต้านจากชาวเกาะเนื่องจากมีผลให้ภาษีของเกาะเพิ่มขึ้น ฟูเชียและคู่หูของเธอ โจ เดวิส ถูกตำหนิเพราะความสะเพร่าทำให้สัตว์ประหลาดบุกโรงเรียนประถมของเกาะ หลังจากนั้นฟูเชียก็ยังขัดขืนคำสั่งของหัวหน้า ลุยเดี่ยวปะทะกับสัตว์ประหลาดจากทะเล ฟูเชียสามารถทำให้ฝูงสัตว์ประหลาดล่าถอยไปได้ แต่ก็บาดเจ็บสาหัสจากการระเบิดของมันสมองของสัตว์ทะเล และเงี่ยงสัตว์ที่แทงเข้าที่ไหล่ขวา ฟูเชียและโจถูกพักงาน โจโกรธฟูเชียมาก แต่ฟูเชียไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร
เมื่อแผลของฟูเชียสมานเร็วกว่าปกติ ริคกี้ คอร์แมน โฆษกประจำยูซีพี เพื่อนสนิทของโจและหนุ่มที่ตามจีบฟูเชีย โดดงานพาเพื่อนทั้งสองไปพักที่ริมน้ำตก ฟูเชียพยายามง้อโจ แต่ไม่สำเร็จ ที่นั่น เด็กตัวอ้วนคนหนึ่งกำลังจะจมน้ำ โจรีบว่ายไปช่วย แต่เด็กตัวใหญ่ กอดรวบโจไว้จนโจแทบจมน้ำตามไป ฟูเชียพยายามจะตามไปช่วย แต่ริคกี้รั้งไว้ จู่ๆ สายน้ำก็ระเบิดออก พัดพาทุกคนขึ้นฝั่ง ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นอกจากฟูเชียและริคกี้
ฟูเชียพบว่าตัวเองควบคุมน้ำได้ แต่ก็เก็บเป็นความลับ ริคกี้พยายามช่วยปิดบังไว้ โจไม่แน่ใจว่าสองคนนี้มีความลับอะไรกัน แต่ไม่ชอบใจ วันหนึ่ง ซิฟ มนุษย์กลายพันธุ์ ได้แอบเข้าบ้านฟูเชีย หญิงสาวตกใจมาก แต่ซิฟบอกว่าเขาไม่คิดทำร้าย พร้อมทั้งสอนฟูเชียให้ใช้พลังที่ได้รับให้ถูกวิธี ซิฟไม่ชอบโจและริคกี้ บอกว่าสองคนนี้ไม่เข้าใจเธอเท่าที่เขาเข้าใจ เพราะซิฟก็เป็นเด็กขับเรือที่โดนสารเคมีจากทะเลจนกลายพันธุ์ เขาบอกว่า ตอนแรกเขาจะพิการแล้ว แต่เขาได้รับพลังจากสิ่งมีชีวิตตนหนึ่ง และสิ่งมีชีวิตตนนี้เองได้แอบถ่ายทอดยีนที่สามารถควบคุมโมเลกุลน้ำให้กับฟูเชีย เพราะฟูเชียมีความกล้า ความบ้าบิ่น และพรสวรรค์มากจนน่าสนใจ แถมยังพยายามทำลายธรรมชาติให้น้อยที่สุด
ฟูเชียนอนน้อยเพราะฝึกพลังตอนกลางคืนจนทำงานผิดๆ ถูกๆ เมื่อโจบ่นฟูเชียก็โกรธจนทะเลาะกัน ถึงงานจะสำเร็จแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้คืนดี ริคกี้ว่าโจจนคิดได้ โจจึงไปเยี่ยมบ้านฟูเชียตอนดึกเพื่อปรับความเข้าใจกับฟูเชีย แต่พบกับซิฟ โจเรียกกำลังเสริมก่อนที่ทั้งคู่จะต่อสู้กัน ซิฟกำลังจะแพ้โจ เพราะวันที่พระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์มีอิทธิพลกับน้ำจนซิฟควบคุมน้ำไม่ได้ แต่ฟูเชียมีพลังมากกว่าซิฟ จึงควบคุมน้ำเย็นจากก๊อกให้ระเบิดใส่หน้าโจ หัวก๊อกน้ำพุ่งด้วยพลังแรง กระแทกขาโจจนกระดูกร้าว ซิฟหนีไป แต่ฟูเชียมัวแต่ห่วงโจจนกำลังเสริมเข้ามา เฟย์ เพื่อนร่วมงานที่เป็นแฟนเก่าริคกี้ ใช้เครื่องตรวจพบว่าฟูเชียกลายพันธุ์ ที่อันตรายถึงขั้นทำร้ายเจ้าหน้าที่บาดเจ็บสาหัสได้ หญิงสาวจึงถูกจับส่งไปสนามทดลอง
ที่สนามทดลอง ฟูเชียพบว่า ความเชื่อที่เชื่อกันมาว่ามนุษย์ได้รับภูมิคุ้มกันไม่ให้กลายพันธุ์นั้นเป็นเรื่องที่ผิด รัฐบาลนิวแลนด์และยูซีพีร่วมกันปิดเรื่องเพื่อไม่ให้สังคมแตกตื่น จำนวนคนที่กลายพันธุ์นั้นมีน้อยและอ่อนแอ ส่วนใหญ่จึงตายหลังจากที่กลายพันธุ์ได้ไม่นาน ถ้าถูกจัดมาก็รอดมือนักทดลองไปได้ไม่เท่าไหร่ ฟูเชียพยายามปกป้องคนเหล่านั้นจากนักทดลองอย่างเต็มที่ จนโดนช็อตไฟฟ้าและขังเดี่ยว
โจบาดเจ็บที่ต้นขา และมีเจ้าหน้าที่เฝ้าเพื่อเตรียมสอบปากคำ เขาแอบขอให้ริคหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อบุกไปช่วยฟูเชียทั้งๆ ที่ขาเจ็บ ระหว่างทางทั้งคู่พบกับซิฟที่ทำสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพื่อช่วยหญิงสาวออกมา ซิฟอาศัยโอกาสที่ทุกคนกำลังโล่งใจผลักโจที่กำลังขาเจ็บจนหน้าคว่ำ แล้วพาฟูเชียหนี โจร้องหาฟูเซีย แต่ฟูเซียไม่หันกลังกลับมาหาเขาเพราะโจเคยว่าซิฟว่าเป็นอมนุษย์ สัตว์ร้าย และคำพูดเหล่านั้นทำร้ายจิตใจฟูเชียมาก
ที่ทะเล ฟูเชียได้พบกับสิ่งมีชีวิตตนหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่มีร่างเป็นสายน้ำ หญิงสาวคนนั้นแนะนำตัวว่าเธอชื่อฮามานีเรียด เป็นนีเรียด หนึ่งในสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ก่อนที่จะกลายพันธุ์เป็นมนุษย์ มีความสามารถในกลายปรับดีเอ็นเอให้ควบคุมสิ่งแวดล้อมรอบตัว และสามารถปลูกถ่ายดีเอ็นเอให้สิ่งมีชีวิตในสายพันธุ์ใกล้เคียงได้ หลายร้อยปีก่อน มนุษย์เรียกกลุ่มสายพันธุ์ของเธอว่า เทพเจ้า และมนุษย์ที่ได้รับการปลูกถ่ายดีเอ็นเอ ก็กลายเป็นผู้วิเศษ แต่ด้วยพฤติกรรมที่นีเรียดเองก็ไม่เข้าใจ มนุษย์กลับเลือกที่จะทำลายผู้มีพรสวรรค์ให้หมดสิ้นไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะล่าและทำลายแหล่งที่อยู่ของสายพันธุ์เธอจนหมดสิ้น ทำให้โลกกลายเป็นดวงดาวที่ร้อนและน่าเกลียดเหมือนทุกวันนี้ อีกทั้งเธอไม่เข้าใจว่าทำไมมนุษย์เกลียดและกลัวสัตว์ประหลาด ในเมื่อพวกมันก็แค่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่เท่านั้นเอง
ฮามานีเรียดขอให้ฟูเชียช่วย ด้วยพลังของนีเรียดที่ฟูเชียมี เธอสามารถล้างเอาอารยธรรมของมนุษย์ออกจากเกาะนี้ เหลือแต่คนเพียงกลุ่มน้อยที่เธอจะถ่ายทอดยีนให้ หลังจากนั้นเธอจะแผ่ขยายกองทัพนีเรียดที่มีอยู่แล้ว เพื่อทำสงครามกับนิวแลนด์
ฟูเชียปฎิเสธเพราะมองว่าสงครามไม่เคยให้ผลดีกับมนุษย์ ฮามานีเรียดได้แต่มองอย่างเศร้าๆ แล้วถามว่า ถ้าอย่างนั้นฟูเชียจะอยู่ยังไง เมื่อไม่มีที่ให้หนี เทย์เลอร์และเฟย์ เจ้าหน้าที่อีกสองคน แอบตามมาจนพบตัวระหว่างที่บทสนทนายังไม่จบ เทย์เลอร์พยายามทำร้ายฮามานีเรียด ซิฟจึงถ่ายทอดดีเอ็นเอของตัวเองเข้าสู่กระแสเลือดของชายหนุ่ม ร่างกายของเทย์เลอร์รับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันไม่ไหว เขากลายเป็นน้ำทะเลซึมทรายหายไป เฟย์หนีกลับหน่วยอย่างไม่คิดชีวิต
ฟูเชียตัดสินใจว่าเมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา เธอขอให้ริคกี้เปิดแถลงข่าวถึงมนุษย์กลายพันธุ์ผู้มีชีวิตรอด คือเธอ และขอความเห็นใจกับสิ่งที่กลายพันธุ์อื่นๆ มีคนที่สนับสนุนเธอไม่ใช่น้อย แต่ก็มีคนที่เกลียดและกลัวเธอ หาว่าเธอเป็นหนึ่งในสัตว์ประหลาดที่มีพลังสะกดจิต เหมือนพวกเงือกในนิทานปรัมปรา มีคนถามริคกี้ว่า ทำไมถึงเชื่อใจปิศาจตนนี้นัก ริคกี้จึงสารภาพรักกับฟูเซียต่อหน้าคนทั้งนิวแลนด์
เมื่อมีทั้งผู้สนับสนุนและต่อต้าน ฟูเชียจึงถูกขังให้อยู่แต่ในเซฟเฮาส์ ไม่อาจออกไปไหน แต่ก็ไม่ถูกปฎิบัติเหมือนเป็นสัตว์ทดลอง ยูซีพีเลือกโจให้คุมทางออกและนำน้ำกับอาหารมาให้ และคู่หูคนใหม่ของโจคือเฟย์ เฟย์คอยกระทบกระเทียบฟูเชียตลอดเวลาด้วยความรังเกียจ อีกทั้งยังแสดงความสนใจให้โจอย่างเปิดเผย ฟูเชียได้แต่มองทั้งสองทำงานด้วยกัน ตัวเองต้องติดอยู่ในห้องขัง จึงตั้งสมาธิ ฝึกใช้พลังของตัวเอง
ฮามานีเรียด ซิฟ และกองทัพนีเรียดตนอื่นๆ ยกคลื่นยักษ์ถล่มเซนท์ ไซมอน ในคืนจันทร์แรม คลื่นทะเลสูงยี่สิบเมตรยกขึ้นเตรียมกวาดทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง ฟูเชียรู้สึกถึงพลังของทั้งสอง จึงอ้อนวอนขอให้โจไว้ใจ โจยอมปล่อยฟูเชียไปท่ามกลางเสียงโวยวายของเฟย์ ฟูเชียออกมา ใช้พลังต้านคลื่นเอาไว้ไม่ให้มาถึงฝั่ง
นีเรียดเตือนฟูเชียว่า หากใช้พลังควบคุมสิ่งรอบตัวมากเกินตัวไป ฟูเชียจะต้องกลายเป็นสิ่งที่เธอควบคุม เหมือนกับเทย์เลอร์ที่กลายเป็นน้ำทะเล แต่ฟูเชียไม่สน นีเรียดถามว่าทำไมถึงปกป้องมนุษย์จำนวนมากทั้งที่คนพวกนั้นรังเกียจเธอ ฟูเชียจึงบอกว่า เพราะในคนเหล่านั้นมีหลายคนที่เธอรัก เธอรู้จักคนไม่มาก เพราะฉะนั้น ในจำนวนคนมหาศาลเท่านี้ มีอีกมากมายที่หากเธอได้รู้จักแล้ว จะได้รักเธอ และเธอจะได้รัก
ซิฟอ้อนวอน บอกว่าเขาและเธอจะได้ปกครองโลกใบใหม่เคียงข้างกัน แต่ฟูเชียบอกว่า หากเธอจะอยู่ข้างใคร คนคนนั้นมีเพียงคนเดียว แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่อยู่ข้างเธอก็ตาม
เพราะฉะนั้นเธอจะอยู่ข้างมนุษย์และปกป้องมนุษย์ให้ถึงที่สุด
นีเรียดเห็นอย่างนั้นก็ใจอ่อน บอกว่า เธอรู้จักมนุษย์ไม่กี่คน หากในโลกนี้มีหลายคนที่เป็นเหมือนกับฟูเชีย กองทัพนีเรียดของเธอก็อาจจะยังไม่จำเป็นในตอนนี้ ไปเตรียมตัวรับศึกหนักก่อนจะดีกว่า เธอจึงปล่อยหญิงสาวกลับไปยังเกาะ
โจวิ่งออกมารับ กอดฟูเชียไว้ บอกกับฟูเชียว่า ตอนแรกคิดว่าฟูเชียชอบริคกี้ เขาเลยไม่กล้าบอกรัก แต่วินาทีนี้เขาไม่สนอะไรแล้ว ฟูเชียบอกรักตอบชายหนุ่ม ก่อนที่ทั้งคู่จะว่ายน้ำเข้าฝั่ง
ริคกี้ โจ และฟูเชีย ลาออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่ยูซีพี ริคกี้ผันตัวไปศึกษาการเมืองและตั้งใจเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โจไปทำงานเป็นบอดีการ์ดให้ทนายด้านสิ่งแวดล้อมคนสำคัญ ฟูเชียเองออกเดินทางตามหานีเรียดคนอื่นๆ ตามสถานที่ธรรมชาติในนิวแลนด์ เพื่อใช้พลังของเธอฟื้นฟูแหล่งน้ำตามธรรมชาติ พร้อมทั้งให้การศึกษาชาวบ้านต่างๆ เกี่ยวกับการดูแลน้ำและสิ่งแวดล้อม โดยหวังว่า หากมีนีเรียดหรือมนุษย์กลายพันธุ์ตนอื่นๆ ที่พร้อมจะเดินทางสายเดียวกัน บางทีเธอจะมีกองทัพนีเรียดและผู้วิเศษของตัวเองที่ไม่ใช้ความรุนแรงต่อสู้กับภัยจากสิ่งแวดล้อมอีกต่อไปก็ได้
โจกับฟูเชียคู่สัญญาว่า อีกสิบปีจะมาพบกันอีกครั้ง และหากโลกนี้เป็นสถานที่ที่ดีขึ้น ทั้งสองจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
---------------------------------------------------- ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับคำติชมนะครับ
แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 55 21:41:52
จากคุณ |
:
คมลิขิต
|
เขียนเมื่อ |
:
6 พ.ย. 55 21:31:31
|
|
|
|