ความคิดเห็นที่ 1 ** เพิ่มภาพหน่อยครับ  13 Dec 1989 - 2012 จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:05:47

ความคิดเห็นที่ 2 1.ก่อนที่ผู้คนจะรู้จักเธอ Taylor Swift ก่อนที่เธอจะเข้ามาสู่วงการเพลงในค่าย Big Machine Record เชื่อหรือไม่ว่า เธอเคยร้องเพลงอยู่ตามร้านอาหาร, ร้านคาราโอเกะมาก่อน เส้นทางความฝันสู่การเป็นนักร้องของเธอได้เริ่มขึ้นในปี 2004 ด้วยการเซ็นสัญญากับ RCA Record แต่ทางค่ายได้ให้เซ็นสัญญาแต่ให้เซ็นสัญญาเป็นแบบ Development Deal คือ เขาจะดูว่าเราพัฒนาไปแค่ไหนถึงจะเซ็นมาเป็นศิลปินตัวจริง และนี่เองที่ทำให้เธอได้เจอกับ Liz Rose นักแต่งเพลงสาวที่ได้ร่วมงานกับเธอมาจนถึงในปัจจุบัน เพียงแค่ 1 ปี เธอก็ได้ขอออกจากที่ค่ายแห่งนี้โดยไม่สนใจเรื่องสัญญาอีกต่อไป เนื่องจากเหตุปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวกับการที่เธอจะได้เซ็นเป็นนักร้อง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังตั้งใจที่จะเข้าสู่วงการเพลงต่อให้ได้ จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:12:13

ความคิดเห็นที่ 3 และเเล้วจุดเปลี่ยนชีวิตของเธอก็มาถึง ภายในปีเดียวกันเธอได้มีโอกาสขึ้นแสดง คอนเสิร์ตเล็กๆที่ Bluebird Café การแสดงของเธอเป็นที่ต้องตาต้องใจ Scott Borchetta ผู้ก่อตั้ง Big Machine Records ที่บังเอิญอยู่ในนั้นด้วย ด้วยความที่ Scott ประทับใจในการแสดงของเธอมากเธอจึงได้เซ็นสัญญาเข้าสู่ Big Machine Records ทันที จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:15:03

ความคิดเห็นที่ 4 ในวันที่ 19 มิถุนายน ปี 2006 ทางค่ายได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรก Tim McGraw ขึ้น ซึ่งเพลงนี้ (และทุกเพลงเธอมีส่วนร่วมในการเเต่งทั้งสิ้น) Liz Rose ก็ได้ร่วมเเต่งเพลงนี้ด้วย โดยเพลงเเรกสุดในชีวิตของเธอได้ทะยานขึ้นบนบิลบอร์ดด้วยอันดับสูงที่สุดของเพลงนี้คือ 40 หลังจากนั้นทางค่ายก็ได้เริ่มโปรโมทเธอต่อมาเรื่อยๆ จนในวันที่ 24 ตุลาคมปีเดียวกัน อัลบั้มเเรกของเธอที่ชื่อ "Taylor Swift" ก็ได้วางออกสู่ตลาด จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:18:20

ความคิดเห็นที่ 5 อัลบั้มเเรกของเธอออกมาสู่สายตาชาวโลกในขณะนั้นยังไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างมาก 24 กุมภาพันธ์ 2007 ทางค่ายจึงปล่อยซิงเกิ้ลที่ 2 "Teardrops on My Guitar" (เพลงสุดอมตะของเธอ) ออกมาเพื่อกระตุ้นความดังของเธอ ต่อเนื่องด้วย 22 สิงหาคม 2007 ซิงเกิ้ลที่ 3 ด้วยเพลงใสๆอย่าง "Our Song" ที่ฮิตถล่มทลายถึงมาถึงทุกวัน และตามด้วยปลายปีที่ทางค่ายขอตบท้ายด้วยอัลบั้มต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสอย่าง Sounds of the Season: The Taylor Swift Holiday Collection จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:21:03

ความคิดเห็นที่ 6 ชื่อเสียงของเธอเริ่มเพิ่มขึ้นต้นปีถัดมา 29 มกราคม 2008 ซิงเกิ้ลที่ 4 "Picture To Burn" จึงได้ถูกปล่อยออกมา และในมิวสิควิดีโอเพลงนี้มีเพื่อนสนิทของเธอ Abigail Anderson ร่วมแสดงอยู่ด้วย รวมทั้งชื่อวงดนตรีของเธอที่ได้ชื่อว่า The Agency ก็มาจากเพลงนี้เช่นกัน 19 พฤษภาคม 2008 ซิงเกิ้ลสุดท้าย "Should've Said No" ได้ถูกปล่อยออกมาเพื่อปิดฉากของอัลบั้มเเรกลงอย่างสมบูรณ์ สองเดือนต่อมา อัลบั้มย่อย Beautiful Eyes ก็ได้ออกวางจำหน่าย โดยอัลบั้มนี้เป็นการเพิ่มเพลงใหม่เเละซิงเกิ้ลเดิมเเต่จังหวะใหม่ รวมไปถึงมิวสิควิดีโอที่ผ่านมา จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:26:31

ความคิดเห็นที่ 7 2. The Journey to “Fearless” หลังจากที่ชื่อของเธอได้รู้จักภายในวงกว้างมากขึ้น 12 กันยายน 2008  ซิงเกิ้ลที่เรียกได้ว่านึกถึงเพลงนี้เมื่อไรคือเธอทันที Love Story จากอัลบั้ม Fearless ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกด้วยอันดับที่ 16 บนบิลบอร์ดชาร์ท ก่อนจะทะยานขึ้นอันดับสูงที่สุดด้วยอันดับที่ 4   หลังจากนั้นเพียงไม่ถึงเดือน 9 ตุลาคม 2008 ซิงเกิ้ลที่ 2 White Horse ก็ได้ถูกปล่อยออกมา (โดยซิงเกิ้ลนี้ได้คว้ารางวัลแกรมมาถึง 2 สาขา Best Female Country Vocal Performance และ Best Country Song ในปี 2010) พร้อมกับ Grammy Award ปี 2008 เธอได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงสาขา Best New Artist แต่ก็พ่ายรางวัลให้กับ สาว Amy Winehouse ( RIP อีกครั้งครับ) จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:32:26

ความคิดเห็นที่ 8 11 พฤศจิกายน 2008 อัลบั้ม Fearless วางจำหน่ายขึ้นครั้งแรกพร้อมกับ 592,000 ก็อปปี้ที่ขายในสัปดาห์แรก และครองอันดับ 1 ถึง 11 สัปดาห์บนบิลบอร์ด 200 21 เมษายน 2009  ซิงเกิลที่ 3 ที่มียอดเข้าชมสูงที่สุดในยูทูปของเธอได้ถูกปล่อยออกมา You Belong  With Me พร้อมอันดับบิลบอร์ดที่สูงที่สุดของเธอในขณะนั้นคืออันดับที่ 2 นอกจากนี้ในเดือนเดียวกัน 23 เมษายน ที่ได้เริ่มโชว์คอนเสิร์ตของตัวเองเป็นครั้งแรกที่มีชื่อว่า Fearless Tour และ Fifteen (1 กันยายน 2009)  เป็นซิงเกิ้ลที่ 4 ที่ได้เพื่อนสนิทของเธอ Abigail ร่วมแสดงอีกครั้ง จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:38:13

ความคิดเห็นที่ 9 13 กันยายน 2009 ในงาน MTV Video Music Awards เพลง You Belong  With Me ของเธอได้รับรางวัลในสาขา Best Female Video แต่แล้วเรื่องที่สร้างอับอายให้กับเธอก็เกิดขึ้นในวันนี้ เมื่อ Kanye West ขึ้นมากระชากไมค์จากเธอไปบนเวทีพร้อมกับบอกว่า “รางวัลนี้ Beyoncé  ควรจะได้รับสำหรับวิดิโอ Single Ladies (Put a Ring on It) “ จากเหตุการณ์นี้ทำให้เธอถึงกับยืนอึ้งอยู่บนเวทีไปชั่วขณะก่อนที่Beyoncé จะเข้ามาปลอบใจเธอภายหลัง จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:41:50

ความคิดเห็นที่ 10 27 ตุลาคม 2009 อัลบั้ม Fearless Platinum Edition ได้ออกวางจำหน่าย โดยอัลบั้มนี้ได้เป็นเพิ่มเพลงใหม่อีก 6 เพลงและมิวสิควิดิโอของอัลบั้ม Fearless ทั้งหมด เมื่อกำลังจะก้าวสู่ปี 2010 ชื่อของเทย์เลอร์ สวิฟต์ได้ดังสนั่นไปทั่วโลก หลากหลายประเทศรู้จักเธอแทบทั้งสิ้น แม้กระทั่งประเทศไทยก็ยังมอบรางวัลให้กับเธอคือ รางวัล Channel [V] Thailand Music Video Award for Popular International New Artist จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:45:34

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากผ่านปีใหม่ของปี 2010 ได้ไม่นาน ซิงเกิ้ลสุดท้ายที่มีชื่อเดียวกับอัลบั้มของเธอ Fearless (4 มกราคม 2010) ได้ถูกปล่อยออกมาเพื่อปิดอัลบั้มที่สวยงามของเธออีกครั้ง โดยมิวสิควิดิโอเพลงนี้จะเป็นการตัดจากการแสดงคอนเสิร์ตแต่ละที่ทั้งหมดมารวมกัน หลังจากนั้นไม่กี่วัน 19 มกราคม 2010 ซิงเกิ้ล Today Was a Fairytale ที่เป็นซาวน์แทร็คประกอบภาพยนยตร์เรื่อง Valentine's Day (ที่เธอได้เล่นคู่กับหมาป่าหนุ่ม Taylor Lautner) ได้ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับยอดดาวโหลดที่ขึ้นที่ 1 iTunes ได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ (ทำลายสถิติของ Britney Spears – Womanizer) จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:51:38

ความคิดเห็นที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 ชื่อของเธอได้ถูกประกาศให้ดังสนั่นอีกครั้งในงาน Grammy Award 52nd โดยเธอได้รับรางวัลทั้งหมด 4 สาขาภายในค่ำคืนเดียวจากสาขาBest Country Album, Best Female Country Vocal Performance , Best Country Song และรวมถึง Album of The Year ซึ่งเป็นหนึ่งในรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของงานอีกด้วย จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 16:57:19

ความคิดเห็นที่ 13 3. I don't think you should wait I think you should “SPEAK NOW” 4 สิงหาคม 2010 ซิงเกิ้ล Mine เป็นซิงเกิ้ลแรก เปิดตัวอัลบั้ม Speak Now ได้ถูกปล่อยออกมา โดยเปิดตัวบนบิลบอร์ดชาร์ทที่อันดับที่ 3 ด้วยยอดดาวโหลดกว่า 350,000 ครั้ง และในวันที่ 25 ตุลาคมปีเดียวกันอัลบั้ม Speak Now ได้ถูกวางสู่ตลาดเป็นวันแรก และนั่นก็ทำให้ชื่อของเธอก็ดังสนั่นอีกครั้งในรอบปีเมื่อยอดขายของอัลบั้ม Speak Now ในสัปดาห์ในสัปดาห์แรกขายได้มากกว่า 1,047,000 ก็อปปี้ และนับเป็นคนที่ 16 ในประวัติศาสตร์ที่มียอดจำหน่ายอัลบั้มเกินหนึ่งล้านในสัปดาห์แรก รวมทั้งทุกเพลงของเธอในอัลบั้มนี้ได้เข้าชาร์ท Hot 100 ทุกเพลง จนทางบิลบอร์ดได้มอบรางวัล Most Entries ให้กับอัลบั้มนี้ไป จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:00:53

ความคิดเห็นที่ 14 15 พฤศจิกายน 2010 ซิงเกิ้ลที่ 2 Back To December ที่แต่งถึง Taylor Lautner ก็ได้ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับอันดับ 6 บนบิลบอร์ด หลังจากนั้นเธอก็ซุ่มทำเซอร์ไพร์สสวิฟตี้ทั่วโลก ด้วยการออกคอนเสิร์ต Speak Now World Tour ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2011 โดยเริ่มที่ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่าง สิงคโปร์ เป็นประเทศแรก (เสียดายที่ไม่มีประเทศไทย T^T) จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:03:47

ความคิดเห็นที่ 15 ระหว่างช่วงที่เธอเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตอยู่นั้น ก็จะมีบางช่วงที่เธอหยุดพักเพื่อกลับมาออกงานหรือกลับมาทำงานในอัลบั้มของตัวเองต่อ จน 7 มีนาคม 2011 ซิงเกิ้ลที่ 3 อย่าง Mean ที่มาพร้อมกับประโยคติดหูอย่าง Why you gotta be so mean ก็ถูกปล่อยออกมา หลังจากนั้นไม่นาน ซิงเกิ้ลต่อมา The Story of Us ก็ปล่อยตามมาติดๆเพียงหนึ่งเดือน แต่เนื่องด้วยกระแสของเพลง Mean ที่ติดหูมากกว่าทำให้ซิงเกิ้ลนี้เข้าได้เพียงแค่อันดับ 41 บนชาร์ท Hot 100 เท่านั้น จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:05:31

ความคิดเห็นที่ 16 18 กรกฎาคม ซิงเกิ้ล 5 อย่าง Sparks Fly ที่เป็นเพลงเปิดตัวเพลงแรกในทุกคอนเสิร์ต Speak Now World Tour ได้ถูกปล่อยขึ้น โดยในมิวสิควิดิโอเพลงนี้จะมีลักษณะเดียวกันกับมิวสิตวิดิโอเพลง Fearless คือ เป็นการตัดจากการแสดงคอนเสิร์ตแต่ละที่มาด้วยกัน และเนียนจนแยกไม่ออกเลย ถ้าไม่สังเกตที่แขนของเธอดีๆ ที่จะเป็นการนำเนื้อเพลงจากศิลปินที่เธอชื่นชอบมาเขียนไว้ทุกครั้งที่ขึ้นแสดง จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:07:16

ความคิดเห็นที่ 17 หลายคนอาจจะสังเกตว่านักร้องหลายคนส่วนใหญ่ พอดังได้สักพักก็จะเริ่มมีน้ำหอมของตัวเองขึ้น แน่นอนเทย์เลอร์ สวิฟต์ก็มีเช่นกัน ตุลาคมปีเดียวกัน “Wonderstruck” ก็ได้ถูกวางจำหน่ายทั่วสหรัฐก่อนที่จะขยายไปทั่วทุกมุมโลก (รวมถึงประเทศไทยในปีนี้ ช้ามากๆ  ) โดยน้ำหอมของเธอนั้นมาจากเนื้อเพลงเพลง Enchanted ในท่อนที่มีเนื้อร้องว่า "I'm wonderstruck blushing all the way home" และ 21 พฤศจิกายน ซิงเกิ้ลสุดท้ายของอัลบั้มอย่าง Ours ที่มีทำนองใสๆน่ารัก ก็ได้ถูกปล่อยออกมา ก่อนที่จะปิดอัลบั้มนี้ลงอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:14:34

ความคิดเห็นที่ 18 แม้ว่าอัลบั้มจะถูกปิดลงไปเพียงเดือนเศษๆ 23 ธันวาคม ซิงเกิ้ล Safe & Sound ซิงเกิ้ลที่ใช้โปรโมทภาพยนตร์เรื่องThe Hunger Games ก็ได้ถูกปล่อยออกมาเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าเป็นของขวัญส่งท้ายปี 2011 แก่สวิฟตี้ทั่วโลกที่น่ารักเลยทีเดียว 12 กุมภาพันธ์ 2012 Grammy Award 54th ชื่อของเธอก็ถูกประกาศขึ้นบนเวทีนี้อีกครั้งสำหรับเพลง Mean ในสาขา Best Country Solo Performance และ Best Country Song แต่ก็น่าเสียดายกับอัลบั้ม Speak Now ที่พลาด Best Country Album ให้กับ Own The Night ของ Lady Antebellum ไป หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องThe Hunger Games ได้ลงฉายสู่จอเงินเพียงไม่กี่วัน ซิงเกิ้ล Eyes Open ก็ได้ปล่อยออกมาพร้อมๆกัน พร้อมเปิดตัวบนอันดับที่ 19 บนบิลบอร์ดชาร์ท จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:18:34

ความคิดเห็นที่ 19 4.Red หลังจากที่ยุคสมัยของอัลบั้ม Speak Now ปิดตัวลงเป็นที่เรียบร้อย 13 สิงหาคม 2012 ได้เปิดเผยเซอร์ไพร์สครั้งใหญ่แก่สวิฟตี้ทั่วโลกอีกครั้ง ด้วยการเปิดเผยถึงอัลบั้มที่ 4 ของเธอ Red พร้อมกับปล่อยซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้ม We Are Never Ever Getting Back Together ให้ได้ฟังกัน หลังจากที่ปล่อยซิงเกิ้ลนี้ลง iTunes ซิงเกิ้ลนี้ก็ขึ้นที่ 1 US ทันทีด้วยเวลาเพียง 50 นาที ทำลายสถิติซิงเกิ้ล Born This Way ของ Lady GaGa ที่ครองแชมป์มาก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังทำลายสถิติยอดขายซิงเกิ้ลที่มากสุดของศิลปินหญิงในสัปดาห์แรกอย่าง Ke$ha เพลง Tik Tok ลงด้วย 623,000 ก็อปปี้ (Tik Tok ทำไว้ 610,000 ก็อปปี้) แต่ทั้งนี้เธอยังไม่สามารถทำลายสถิติเพลง Right Round ของ Flo Rida ลงได้ (Right Round ทำไว้ 636,000 ก็อปปี้) น่าเสียดายจังเลย นอกจากนี้ยังขึ้นที่ 1 iTunes ถึง 32 ประเทศ รวมประเทศไทยด้วย จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:25:00

ความคิดเห็นที่ 20 25 กันยายน 2012 ซิงเกิ้ลโปรโมทอัลบั้ม Red อย่าง Begin Again ได้ถูกปล่อยออกมาให้ดาวโหลดบน iTunes ซึ่งหลังจากนี้ทุกๆ สัปดาห์ก่อนวันที่อัลบั้ม Red จะวางจำหน่ายจะมาเกิ้ลโปรโมทอัลบั้มปล่อยออกมาให้ดาวโหลดตลอด จากนั้นตามด้วย Red , I Knew You Were Trouble และ State of Grace ภายหลังวันที่ 1 ตุลามคม Begin Again ถูกจัดเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 อย่างเป็นทางการ พร้อมกับมิวสิควิดิโอที่ยกกองไปถ่ายทำถึงเมือง Paris เลยทีเดียว จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:27:35

ความคิดเห็นที่ 21 22 ตุลาคม อัลบั้ม Red วางขายในสหรัฐอเมริกาพร้อมกับเริ่มทยอยไปทั่วโลก เพียงสัปดาห์แรกอัลบั้มนี้ก็ทำลายสถิติอัลบั้มก่อนหน้าตัวเองด้วยยอดจำหน่าย1,208,00 ก็อบปี้  อีกทั้งยังเป็นศิลปินหญิงคนที่สองที่มียอดจำหน่ายในอัลบั้มเกิน 1 ล้านก็อปปี้ในสัปดาห์แรก ซึ่งก่อนหน้านั้นมีศิลปินหญิงเพียงคนเดียวคือ Britney Spears กับอัลบั้มOops!... I Did It Again เมื่อปี 2002 เท่านั้น จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:30:12

ความคิดเห็นที่ 22 27 พฤศจิกายน I Knew You Were Trouble ถูกจัดเป็นซิงเกิ้ลที่ 3 อย่างเป็นทางการ และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ชื่อของเธอถูกเสนอให้เข้าชิง Grammy Award 55th    อีกครั้งกับ 3 สาขา Record of The Year สำหรับ We Are Never Ever Getting Back Together และ Best Country Duo/Group Performance กับ Best Song Written for Visual Media สำหรับ Safe & Sound และ I Knew You Were Trouble พรีเมียร์ในวันที่ 14 ธันวาคม ตี 4 ตามเวลาบ้านเราครับ (สหรัฐสี่โมงเย็น) จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:34:58

ความคิดเห็นที่ 23 และหลังจากนี้เธอมีแพลนที่จะ Tour อัลบั้มนี้ต่อภายในอเมริกาเหนือในปีหน้า ซึ่งหลายๆคนหวังว่า จะมีทัวร์นอกอเมริกาเหนือด้วย และที่สำคัญที่สุดผมอยากให้มี “Tour ที่ประเทศไทย” มากครับ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ขอบคุณทุกท่านนะครับที่ติดตาม ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงมาจาก Wikipedia , Billboard , Taylor Swift.com และแฟนเพจ Taylor Swift Thailand ครับ จากคุณ : ชีวิตไม่เคยรอใคร เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 17:36:01

ความคิดเห็นที่ 24 ช่วยกันโหวตเหอะ ^ ^ กระทู้คุณค่าของห้องเพลงสากล จากคุณ : Kopscout เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 18:03:12

ความคิดเห็นที่ 25 2000-2002 เปลี่ยนอย่างไว จากคุณ : 5555 เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 18:14:03 A:115.87.240.81 X: TicketID:382476

ความคิดเห็นที่ 26 Swift จากคุณ : daeza เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 19:12:04

ความคิดเห็นที่ 27 ให้กิฟต์ตั้งแต่เห็นเป็นกระทู้ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ โหวตตั้งแต่เจ้าของกระทู้ลงข้อมูลอัลบั้มแรก เพราะความชอบล้วนๆ ..สวย น่ารัก เก่ง ฝีมือเยี่ยม จากคุณ : ในรอยทาง...มีรอยยิ้ม เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 19:24:10

ความคิดเห็นที่ 28 รัก Taylor Swift Happy Birrth day ล่วงหน้า ขอให้มีความสุข สร้างสรรค์งานเพลงดีดีมาหให้แฟน ๆ ฟังเรื่อยๆ นานๆ น่ะครับ แม่สาวบ้านนา ล่าสุด I Knew You Were Trouble  จ่อรอกันดับ 1 ใน i-tune US แล้วรอเพียงให้ นักร้องจาก  The Voice ยอดแผ่วลง ลุ้นให้เพลงนี้ติดอันดับ 1 อีกเพลง อิอิ จากคุณ : TAT_BW เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 19:40:35

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณกระทู้ดีๆ แบบนี้ครับ จากคุณ : มังกรนรกานต์ เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 19:49:26

ความคิดเห็นที่ 30 เราชอบเพลงของเธอนะ เป็นคนมีพรสวรรค์มาก     แต่นั่นเป็นเรื่องเดียวที่เราปลื้มนางจริงๆ จากคุณ : บ่าบี๋ เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 20:31:43

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบเสียง และเพลงขจองเธอคนนี้ค่ะ จากคุณ : ผู้สรรเสริญ เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 20:43:05

ความคิดเห็นที่ 32 สุดยอด ชอบเนื้อหาเพลงของ taylor มากเลย จากคุณ : ยิ้มหน่อยน่านะน๊า เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 22:04:08

ความคิดเห็นที่ 33 ตอนนี้ กำลังติดเพลง Red กับ State of Grace มากๆๆๆๆ จากคุณ : สงกาดรุณ เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 22:12:11

ความคิดเห็นที่ 34 เพลงนี้เศร้าจัง จากคุณ : chrononaut เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 22:46:24

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้ามองด้านดนตรีอย่างเดียวนะ ชอบเธอมาก ชอบจริงๆๆๆๆๆ เป็นศิลปินอายุน้อยที่เก่งมากๆๆๆๆ เลิฟเทย์เทย์ แต่ถ้าเพลาๆเรื่องอื่นได้จะเพอร์เฟคกว่านี้นะ555555 จากคุณ : a'LooniiPoppii เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 02:36:27

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณสำหรับ กระทู้ดีๆครับผม จากคุณ : มังกรติดปีก เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:34:01