ความคิดเห็นที่ 1   ถ้าเรื่องนี้ไม่มีกิ๊บซี่แสดงนำ ผมคงเลิกดูไปตั้งแต่ครึ่งเรื่องแรกแล้ว นับวันยิ่งชอบหนังของเป็นเอกน้อยลงไปเรื่อยๆ จากคุณ : Savage_Garden เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 11:27:50

ความคิดเห็นที่ 2   หนังของเป็นเอก = หนังน่าเบื่อที่มาในคราบของหนังอาร์ต จากคุณ : ม้าหงอย เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 11:55:55

ความคิดเห็นที่ 3   ผมดูไม่เบื่อนะ อันนี้ไม่ได้กระแดะ แต่ดูจบแล้ว ผมไม่เก็ตอ่ะว่าหนังอยากสื่ออะไร แล้วผมควรได้อะไรจากหนัง ผมไม่มีประเด็นให้เก็บมาคิดเหมือนหนังเรื่องอื่น ๆ มัน Blank อ่ะครับ จากคุณ : Gorath เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 11:59:18

ความคิดเห็นที่ 4   ตอนแรกจะหามาดู เพราะกิ๊บซี่  แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะชื่อ เป็นเอก  เนี่ยแหละครับ  ยิ่งมาอ่าน คอมเม้น  . . .  ยิ่ง ตัดสินใจง่ายขึ้น   . . . จากคุณ : yos_yos_yos เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 12:01:52

ความคิดเห็นที่ 5   คือไม่ได้สื่อว่าชู้เป็นสิ่งไม่ดีหรอกครับ แค่จะบอกว่าการมีชู้ส่งผลต่อทัศนคติของแต่ละคนในแง่ไหน ฉากนพ+กรณ์ เป็นฉากสะท้อนจิตใต้สำนึกทั้งหมดของกรณ์ครับ การไปขอโทษต้นไม้ กลับไปอยู่กับเมีย มันกำลังบอกว่าจริงๆ แล้วกรณ์คิดยังไง ฉากนพ+เมย์ เป็นฉากสะท้อนจิตใต้สำนึกทั้งหมดของเมย์ นพกลับมาที่บ้าน ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เมคเลิฟกัน เมย์ตัดสินใจเลิกกับกรณ์ เป็นสิ่งที่เธอคาดหวังว่าน่าจะเป็น และเป็นการกำจัดความรู้สึกผิดในจิตใต้สำนึกของเธอ ฉากนพ+นางไม้ เป็นฉากสะท้อนจิตใต้สำนึกทั้งหมดของนพ บทบาททางโลกของนพหมดไปตั้งแต่เขาหายตัวไปแล้วครับ การปรากฏกายของนพทั้งหมดหลังจากนั้นมีเพื่อสะท้อนจิตใต้สำนึกของแต่ละตัวละครทั้งสิ้น ศพนักท่องเที่ยวเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นรูปธรรมที่สุดเพื่อบอกว่านพตายไปแล้ว จากคุณ : พลทหารไรอัน เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 12:07:08

ความคิดเห็นที่ 6   ถ้าอย่างคห.5 บอกก็ต้องบอกว่าค่อนข้างยากที่จะดูและตีความไปในทางนั้น และถ้าจะบอกว่าทุกสิ่งคือจิตใต้สำนึกของแต่ละคน แล้วรถเลียบทางด่วนขนต้นไม้มันก็ทำให้ทุกอย่างตกไปหมดสิครับ หรือ OK มันเป็นไม่ใช่ว่าจิตใต้สำนึกในแบบว่าคิดไปเอง แต่ผกก.อยากสื่อว่า ฉากที่แต่ละคัวละครคุยกันใน คห.5 นั้น เป็นสิ่งที่ "สะท้อน" ตัวละครแต่ละตัว ถ้าแบบนั้นก็...อืม..ยากที่จะให้คนคิดไปถึงตรงนั้นได้อยู่ดี มาคิดอีกที ถ้าไปแนวนั้น เคสของเมย์ผม OK นะ แต่นพ-นางไม้ และกรณ์-นพ นี่ผมไม่ค่อยโอนะ.. **คือผมไม่ได้หักล้างนะ แต่ผมอ่านแล้วก็เห็นเค้า เพียงแต่ยังไม่คิดว่านั่น "ใช่" สิ่งที่เค้าอยากสื่อจริง ๆ หรือไม่... แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 12:26:23 แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 52 12:25:00 จากคุณ : Gorath เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 12:22:45

ความคิดเห็นที่ 7   มีคำพูดประโยคนึงที่นพถามเกี่ยวกับเมียของกรณ์ครับ มันเป็นไปไม่ได้เลยว่านพจะรู้ข้อมูลในส่วนนี้ได้ยังไง ส่วนผู้กำกับเขาอยากจะสื่ออะไรเขาก็ไม่จำเป็นต้องบอกออกมาตรงๆ หรอกครับ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณได้อะไรจากการสื่อของเขามากกว่า และไม่จำเป็นด้วยว่าคุณต้องได้รับตามนั้นเป๊ะๆ มันอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ จากคุณ : พลทหารไรอัน เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 12:47:38

ความคิดเห็นที่ 8   ผมรอดูจากหนังกลางแปลงเอามาฉายก่อนครับ จากคุณ : ทุ่งหัวช้าง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 13:30:38

ความคิดเห็นที่ 9   ผมรู้สึกว่ามันเป็นหนังปลายเปิด  เหมือนหนังยุโรปหลายเรื่อง เพราะคนเรามีความรู้ต่างกัน มีภูมิหลังต่าง ก็เลยเข้าใจความหมายต่างกัน ไม่มีใครผิดใครถูก ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตีความยังไงมากกว่า ถ้าเกิดสื่อออกมาโต้งๆ ผมว่ามันหมดสนุกกันพอดี ******************************************** ป.ล. เป็นกำลังใจให้พี่ต้อมเสมอแม้หนังจะไม่ทำเงินในไทยมากนัก แต่ยังมีคนกลุ่มนึงที่รอดูผลงานพี่อยู่นะครับ ป.ล.2 แต่ผมเกลียดเรื่อง "คำพิพากษาของมหาสมุทร"มากนะ จากคุณ : หมีน้อยกินผึ้ง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 14:56:50

ความคิดเห็นที่ 10   นางไม้ ให้ตีความ ยากกว่า  ไปเรียน ปริญญาด้านพันธุ์พืช ซะอีก จากคุณ : TORUKUNG เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 14:57:22

ความคิดเห็นที่ 11   55 ไปอ่านแบบการ์ตูนมา ก็รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันก็เหมือนกันแหละ แต่ทำไมเข้าใจง่ายขึ้นก็ไม่รู้ (สงสัยเพราะว่ารายละเอียดน้อยกว่าล่ะมั้ง) = = แต่ ไม่ชอบลายเส้น จากคุณ : SICKHEART เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 15:23:32

ความคิดเห็นที่ 12   อ่านที่คุณพลทหารบอกค่อยเข้าเค้าหน่อย อืมๆ จากคุณ : โครโมโซม X เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 15:32:23

ความคิดเห็นที่ 13   ไม่เบื่อ และไม่พยายามคิดว่าหนังสื่ออะไร ไหลเอื่อยๆไปกับหนังครับ แต่ถ้าเทียบเรื่องนี้กับหนังของเจ้ย อย่าง syndrome of the century เรื่องนั้นทำได้ดีกว่ามากครับ ถึงจะไม่เก็ตแต่ก็เห็นความสวยงามของชีวิตมนุษย์ธรรมดาๆ แถมภาพสวย และที่ชอบที่สุดคือ หนังพยายามยัดคำพูดที่มันเหนือจริงใส่ปากตัวละคร แบประดักประเดิด แต่เนียน เหมือนชาวบ้านเพี้ยนๆนั่งคุยกันอ่ะ ชอบมาก ขำด้วยครับ จากคุณ : Ashitaka เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 15:53:38

ความคิดเห็นที่ 14   เรียนฟิสิกส์ไม่รู้เรื่องก็อย่าไปเกลียดครูฟิสิกส์ จากคุณ : ChuZzle เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 18:25:21

ความคิดเห็นที่ 15   ผมดูแล้วไม่งงนะ เพราะผมก็เข้าใจในแบบของผมอ่ะ อาจไม่หรูเท่าคนอื่นตีความ แต่มันก็เกิดจากประสบการณ์ของผมล้วนๆ จากคุณ : Fire Water Earth เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:22:30

ความคิดเห็นที่ 16   เพิ่มอีกหน่อยครับ ศพนั้นไม่ใช่ศพนพแน่ ๆ เพราะนพใส่นาฬิกาสายหนัง และคนเก็บของป่าเก็บนาฬิกาจากศพเป็นสายเหล็กครับ ผมว่าฉากนี้เค้าหมายถึงป่านี้คนตายเป็นเรื่องปกตินะ... ที่ตั้งกระทู้นี้ไม่ใช่เรื่องจับผิดหรือสับแหลกอะไรนะครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมบอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ ผมดูแล้วไม่ได้เบื่ออะไร ดูรวดเดียวจบ สมาธิดี ไม่เดือด ดูจบก็ไม่โกรธไม่อะไรฟะ เพียงแต่ดูจบแล้วมันไม่รู้สึกว่ามีประเด็นอะไรให้คิดต่อ หรือมีความซาบซึ้งใจอะไรเป็นพิเศษน่ะครับ มัน Blank มาก...และยิ่งไปอ่านกระทู้วิเคราะห์เก่า ๆ ยิ่งเห็นว่าไม่มีใครมองเรื่องนี้ประเด็นเดียวกันเลย เลยอยากมาตั้งใหม่น่ะครับ จากคุณ : Gorath เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 21:12:47

ความคิดเห็นที่ 17   พึ่งซื้อ VCD มาดู ในความคิดเห็นผม ต้นเรื่องฉายภาพ หญิงชาวบ้านถูกข่มขืน และสุดท้ายคนข่มขืนการเป็นศพ ลอยน้ำไกล้ต้นไม้ริมน้ำ อาจจะแสดงว่า ป่านี้มีบางอย่างที่คอยปกปักรักษาอยู่และกำจัดคนไม่ดี (เช่นคนที่ข่มขืนหญิงชาวบ้าน) และโดยเฉพาะต้นไม้ริมน้ำอาจมีบางอย่างอยู่ พระเอก เป็นช่างภาพ และมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ กับนางเอกซึ่งเป็นคนทำงาน office และมีชู้กับเจ้านาย วันหนึ่งพระเอกอยากพา นางเอกไปเที่ยว เพื่อให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น แต่โดยรวมก็ไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์เรื่องเพศ จะเห็นว่านางเอกกินยานอนหลับแล้วนอนเลย ไม่มีอะไรกับพระเอกในคืนแรกของการมาป่า โดยมีสายตาคู่หนึ่งจากป่าคอยมองดู เช้าพระเอกเข้าไปในป่าเพื่อถ่ายรูป เจอต้นไม้ต้นหนึ่ง เกิดความคิดขึ้นให้หัวแปลก ๆ ประกอบกับนางเอกไม่ยอมนอนด้วย (อารมณ์ค้าง) และอาจจะเพราะเกิดการดลใจจากนางไม้ในต้นไม้ดังกล่าว จึงมีอารมณ์ทางเพศขึ้นกับต้นไม้ โดยการลูบคลำและกอด นางเอกเข้าไปตามแต่ไม้พบพระเอก ทั้งที่ยืนอยู่ที่ต้นไม่ต้นเดียวกัน อาจจะเพราะถูกบังตา หรือเลื่อมเวลากัน  พระเอกออกจากป่าไปก่อนแล้ว แต่คิดว่าถูกบังตาเพราะสังเกตุว่าเป็นตอนเย็นค่ำ นางไม่น่าจะออกมาทำอะไรตอนกลางคืนหรือช่วงเย็นได้ตามความเชื่อของคนไทย   ซึ่งขณะที่นางเอกอยู่หน้าต้นไม่ก็เป็นช่วงเย็น  โดยนางเอกรู้สึกแปลก ๆ กับต้นไม้ต้นนั้น อาจจะเพราะสัญชาตญาณ รู้สึกว่าต้นไม้นี้ไม่ธรรมดา พอนางเอกออกจากป่า พบพระเอกกินกระต่าย อยู่อย่างอร่อยอาจจะสื่อว่าใช้แรงไปมากกับการมีอะไรกับนางไม่ แต่คาดว่าแค่กอดจูบเท่านั้น และหรืออีกอย่างคือ พระเอกยังเป็นมนุษย์ซึ่งเบียดเบียนสัตว์อื่นอยู่ และบอกเป็นนัยว่าเคยมีอะไรกับนางไม่ครั้งแรกโดยที่บอกว่ากินกระต่าย หรือกินของที่ได้จากธรรมชาติผิดแปลกกับ ที่คนปฏิบัติมาก่อน ตอนกลางคืนพระเอกขอมีอะไรกับนางเอก แต่นางเอกไม่ให้ พระเอกจึงเดินเข้าไปในป่า เพราะจิตสื่อกับนางไม้อยู่ พอเดินไปพระเอกเดินสะดุดหกล้มหัวฟาดพื้น และคาดว่าเสียชีวิตแล้ว นางไม่พาไปอยู่อีกภพ เช้ามานางเอกไม่เจอพระเอก ไปหาเจ้าหน้าที่ สอบถามถึงเรื่องต่าง ๆ เจ้าหน้าที่บอกให้ไปนอนที่ศูนย์ในคืนนี้แต่นางเอกไม่ยอมไป เจ้าหน้าที่เลยให้พระไว้ เย็นวันนั้นนางเอกจึงออกตาม และโทรศัพย์หาเข้าเครื่องพระเอก โทรศัพย์ติดแต่ไม่มีคนรับเพราะมันเป็นตอนกลางวัน นางเอกหาไปเลื่อย ๆ จนค่ำโทรอีกครั้งปรากฏว่าครั้งนี้เหมือนมีคนรับแต่เสียงเหมือนมีคนมีอะไรกับ มีเสียงชายหญิง นั้นคือ นางไม่กับพระเอกมีอะไรกัน นางเอกพยายามตามหาในป่าเจอ รองเท้าพระเอก สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่ต้นไม้ต้นเดิม แล้วก็เป็นลม นางไม่จึงลากนางเอกออกจากป่า พร้อมดึงรองเท้าออกจากมือ นางเอก แสดงว่าคน ๆ นี้เป็นของฉันแล้ว เช้าขึ้นเจ้าหน้าที่พบนางเอกหน้าเต๊น  แต่เข้าไปในเต๊นพบพระห้อยคอวางอยู่ที่หมอน นางเอกไม่ได้ใส่พระ เข้าใจว่าทำให้นางไม้มาสัมผัสตัวนางเอกได้ และวันนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งให้เจ้านายนางเอกมารับ (ชู้นั้นเอง) คืนนั้นหลังจากนางเอกกลับถึงบ้าน ฉากนางเอกหลับ มีฉากนางไม่กับพระเอกโดยนางไม่เหมือน ทำอะไรที่ขาพระเอกเหมือนช่วยอะไรซักอย่าง  เช้าวันรุ่งขึ้น นางเอกตื่นขึ้นลงมาด้านล่างพบพระเอกนอนอยู่ โดยบอกว่าหญิงชาวบ้านช่วย ให้ออกจากป่า แล้วนั่งรถมา คาดว่าเป็นวิณญาณ พระเอกมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยขอดื่มน้ำหลายที และเหมือนจะชอบอะไรที่เป็นเหมือนป่าโดย ไปซื้อต้นไม้มาปลูก เหมือนคิดถึงป่า และมีฉากเอาดินป้าย อาจสื่อถึงการกลับสู่ธรรมชาติโดยไม่อยากให้นางเอกไปทำงาน ซึ่งเหมือนการออกห่างจากธรรมชาติ ฉากสุดท้ายพระเอกดึงเสื้อนางเอกเหมือนจะอาลัยอาวรณ์ และขอมีอะไรด้วย นางเอกยอม การกับมาของวิญญาณพระเอกครั้งนี้เหมือนกับต้องการมาบอกนางเอกให้เลิกมีชู้ ซึ่งก็สำเร็จ นางเอกขอห่างกับเจ้านาย (ชู้) โดยบอกว่าพระเอกกลับมาแล้ว แต่คืนนั้น เจ้านาย (ชู้) แอบมาที่บ้าน อาจจะส่งสัยว่าพระเอกกลับมาได้อย่างไร แต่พบว่าไม่มีพระเอกอยู่ที่บ้านนางเอก โดยเช้านั้นนางเอกพบว่า ชู้นอนอยู่ที่โซฟา และหาพระเอกไม่เจอ นางเอกจึงโทรศัพย์อีกครั้งพบเสียงเหมือน คนมีอะไรกัน นางเอกและชู้จึงเดินทางไปป่าอีกครั้ง พอถึงก็เย็น นางเอกเข้าป่าพร้อมชู้แต่ชู้ไม่ยอม จึงตบจนนางเอกสลบและพามานอนที่เต๊น คืนนั้นนางไม้มาที่เต๊น นางเอกตื่นขึ้นมาพบ นางเอกถามนางไม้ว่าพระเอกอยู่ไหนนางไม้ไม่ตอบหนี้เข้าป่า นางเอกวิ่งตามมาหยุดที่ต้นไม้ต้นเดิม และนำไม้ตีต้นไม้  ฉากตัดมาที่นางไม้กับพระเอกโดยนางไม้ทำท่าเหมือนเจ็บโดยนอนอยู่ที่ตักพระเอก  แต่นางไม้ไม่ทำอะไรอาจเพราะนางเอกเป็นคนดีไม่เหมือนคนที่ข่มขื่นชาวบ้าน  นางเอกเหนื่อยจนสลบไป วิญญาณพระเอกจึงพาออกมา และขอ 3 ข้อ 1) ให้ไปขอโทษต้นไม้ เพราะต้นไม้ไม่ได้ทำอะไร (ถอดความ - เขาหกล้มเสียชีวิตเอง และเป็นปุ๋ย เลี้ยงธรรมชาติ เหมือนกับการมีอะไรกับต้นไม้ (นางไม้) ) 2) ให้ออกไปอย่ากลับมา (อย่าตามหาเขาเลยเพราะเขาเสียชีวิตแล้ว) 3) ไปคืนดีกลับเมีย (เพราะว่าพระเอกพยายามให้นางเอกเลิกกับ ชู้ตั้งแต่กลับมาครั้งแรกแล้ว) มีประเด็นอยู่ที่ ชายคนหนึ่งพบศพ ซึ่งเป็นชาย แต่ไม่ใช่ศพพระเอก เพราะใส่นาฬิกาคนละข้าง และคนละแบบเนื่องจากพระเอกใส่นาฬิกาสายหนังข้างซ้าย แต่ศพใส่นาฬิกาสายเหล็กข้างขวา แต่อาจจะสื่อว่า คนเสียชีวิตเยอะ โดยเฉพาะผู้ชายและก็ไปอยู่กับนางไม้ (ปุ๋ย) โดยเสียชีวิตแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ นั้นคือสุดท้ายชาวบ้านก็ถอดนาฬิกาไป เรื่องจึงจบลง โดยสรุปคือ 1) เรื่องนี้เป็นเรื่องปนกันในเรื่องความเชื่อเรื่องนางไม้ของไทย และเรื่องธรรมชาติของฝรั่ง โดยสื่อว่านางไม้ก็คือธรรมชาติ คนเราตายไปก็เป็นปุ๋ยให้ธรรมชาติ เหมือนผสมกันไป (มีอะไรกัน) ไม่ได้แยกว่าพืชหรือสัตว์ ธรรมชาติให้คุณและโทษ ถ้าเราทำดีธรรมชาติก็จะให้สิ่งดี แต่ทำไม่ดีก็จะให้สิ่งไม่ดี 2) พระเอกตายเนื่องจากหกล้มหัวฟาดพื้น แต่ยังห่วงนางเอกเลยกลับมาหา น่าจะเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณกี่วันจะกลับบ้าน 2 - 3 วันไม่แน่ใจ หลังจากนั้นก็กลับไปอยู่ในป่า ผมแปลตามที่ติดว่าน่าจะเป็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ จากคุณ : ประเทศไทยคือของใคร (ประเทศไทยคือของใคร) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 02:04:28