เสียความรู้สึกที่ร้านใช้อุปกรณ์ในร้านที่ง่ายต่อการแตกหัก แถมชาร์จค่าเสียหายดูเกินจริงไปนิด
|
|
วันนี้เราไปกินเค้กที่ร้านบนถนนเกษตร นวมินทร์ (ร้านสาขาของร้านดังในเชียงใหม่) เราสั่งเค้กสองชิ้น ชูครีม 1 ชิ้น ชา 1 กาใหญ่ นมคาราเมลอีกแก้ว รวมเบ็ดเสร็จน่าจะราว ๆ 400กว่าบาท แต่เรากินจนสะสมแต้มได้ฟรีเค้ก กับเครื่องดื่ม อย่างละ 1 เลยจ่ายแค่ 235บาท ในขณะกินใกล้หมดละ ก็เทชาจนหมดกา ทันใดนั้นเองฝากาซึ่งเหมือนวางอยู่บนกาเฉยๆ ไม่มีอะไรยึด ไม่มีฟันล็อก ก็แยกร่างออกจากกา หล่นลงบนโต๊ะด้วยระยะห่างไม่ถึง 15เซ็นต์ ฝาอันบอบบางก็แตกซะ ทันใดนั้นเอง เจ้าของร้านก็บอกว่า ขอชาร์จค่ากา เราก็อาฮะ แต่ว่ากาของคุณมันบอบบางมากเลยนะ แถมไม่มีอะไรยึด ไม่มีเชือกผูก เหมือนพร้อมหล่นถ้าคนเทไม่ได้จับฝาไว้ เจ้าของร้านก็บอกว่า สองวันก่อนก็มีคนพึ่งทำแตกไปเหมือนกันค่ะ (เราก็อ่าว แสดงว่าของใช้ของคุณมันเอาไว้ดักฟายอะดิ) ชีก็บอกอีกว่า เราซื้อของมาก็มีต้นทุนหวังว่าคุณจะเข้าใจ เราก็คิดในใจว่า ก็เข้าใจนะ แต่ว่าพวกค่าของเครื่องใช้พวกนี้คุณไม่ได้คิดรวมไปในต้นทุนค่าเค้กแล้วหรอ เค้กคุณก็ชิ้นนิดเดียว ชิ้นนึงก็ราคาเฉียดร้อย เราก็เลยพูดไปว่า แต่เราก็ใช้แบบปกตินะ ไม่ได้ทำหลุดมือหล่นพื้น มันเป็นเพราะกาของคุณมันไม่ดีนะ ที่ไม่มีตัวล็อก หรือเชือกผูก หรือคนทางร้านคุณตอนเสิร์ฟก็น่าจะเตือนให้เทแบบระมัดระวังฝาหล่น ชีก็ตอบกลับมาว่า เมื่อสองวันก่อนก็มีคนทำแตกแบบนี้ค่ะ เค้าก็ยอมจ่ายค่าเสียหาย เราก็บอกว่า เราไม่ใช่จะไม่ยอมจ่ายนะ แต่ของคุณมันไม่เหมาะกับการใช้ในร้านที่มันต้องใช้หลายๆมือ ชีก็ตอบกลับมาว่า เวลาลูกค้าใช้ก็ต้องระวังด้วยสิคะ (เราก็ เอ๊า ไรแว๊ มาหาว่าเราไม่ระวังอีก เราก็ไม่ได้ทำตกพื้นนี่นา มันไม่ใช่ของบ้านเรา ที่ใช้ทุกวันที่จะรู้นี่นา ว่าฝามันมีล็อกหรือไม่มี เพราะที่บ้านอิชั้นกาน้ำชาทุกใบมันล็อกหมด แถมหล่นระยะแค่นี้ก็ไม่น่าจะแตก ร้านนี้ก็ไม่ใช่ร้านแรกที่เราดื่มชา ไปร้านไหนๆ ก็ไม่เคยมีปัญหากับกา) สุดท้ายเราก็ขี้เกียจเถียง ตัดรำคาญ เลยบอกว่า งั้นจะคิดค่าเสียหายเท่าไหร่คะ ชีตอบกลับมาว่า คิดเท่ากะคนก่อนละกันค่ะ 400บาท ... แม่เจ้า กะอีแค่ฝาแตก 400บาท .. เราก็ขี้เกียจจะเสียอารมณ์ไปมากกว่านี้ ก็เลยยอมจ่าย แต่ขอกากลับด้วย...เสียความรู้สึกอย่างแรง
ปล. อยากรู้ว่าเวลาคนเปิดร้านอาหาร หรือร้านแบบนี้ เค้าไม่ได้คิดค่าข้าวของเครื่องใช้พวกนี้รวมไปในต้นทุนหรอคะ คือดูจากค่าเค้กชิ้นนึงก็เฉียดร้อยทั้งนั้น มันไม่ได้มีต้นทุนพวกนี้รวมอยู่เลยรึไง
ที่คิดว่าค่ากาน่าจะรวมอยู่ในต้นทุน เพราะร้านก็ไม่ใช่ร้านเล็ก ๆ อะค่ะ เป็นสินค้าน่าจะระดับ hi-street หรือ hi-end โดยปกติแล้วในการทำธุรกิจที่มีของที่สามารถเสื่อมหรือเสียหายได้ การคิดต้นทุน ต้องบวกค่า overhead ไว้ด้วยสำหรับตรงนี้ เพราะด้วยราคาชากาละ 150 บาท .. (เราก็ทำธุรกิจเหมือนกัน เพราะถ้าสินค้าเสียหายไม่ว่าจะใครทำ เราก็ต้องมีค่าใช้จ่ายสำรองไว้ที่ไม่เกี่ยวกับกำไร ขาดทุนเผื่อสำหรับตรงนี้..)
เพิ่มเติมค่ะ
แค่รู้สึกว่า..น่าจะมีการเตือนนิดนึงอะค่ะ ว่าให้ระวังฝา ถึงเราจะดื่มชาบ่อยก็จริง แต่บางทีเราก็มีเผลอมีลืมจับฝาเป็นบางครั้ง ยิ่งถ้าทางร้านรู้ว่ามีการทำแตกบ่อย ๆ ก็น่าจะยิ่งเตือนให้ลูกค้าระวัง
จขกท.เข้าใจค่ะว่าต้องมีการชาร์จไม่ได้ว่าจะไม่จ่าย แต่ราคาแอบแรงไปนิดนึง เพราะลักษณะกาไม่น่าจะหายากเท่าไหร่
หลังจากอ่านหลาย ๆ คอมเม้นต์แล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกเฉยๆแล้วค่ะ ถือว่าฟาดเคราะห์เพราะความประมาท สะเพร่าของตัวเอง จะได้ระวังไว้ เผื่อไปเจอร้านที่ของเครื่องใช้เค้าเป็น limited edition (ถือว่าฟาดแค่ 400 ดีกว่าโดนชุดจานหลุยส์จากยุโรป 55) แถมตอนนี้หาฝาให้มันได้แล้ว ได้เอากลับมาใช้ที่บ้านเป็นอนุสรณ์เตือนใจ ฮ่าๆ
***สำหรับคนที่อาจจะอ่านภาษาที่เราเขียนไม่เข้าใจ***
เราไม่ได้โยงประเด็นว่าเค้กชิ้นเล็กและราคาแพงแล้วเราสามารถทำกาแตกได้ แม้แต่น้อย แต่เราหมายถึงว่า ราคาสินค้าในร้านระดับนี้ น่าจะมีการ บวก overhead ตรงนี้ไว้แล้วค่ะ แต่ถ้าหลายคนบอกว่า เราทำแตกก็ต้องจ่าย ก็จะได้รับทราบ ว่าไม่ใช่ทุกร้านที่บวกตรงนี้...แล้วร้านนี้เราก็มาทานประจำ จนได้บัตรสะสมแต้มครบจะสองใบแล้ว ถ้าเค้ายอมอลุ่มอะล่วย คือประเมินจากค่ากาอาจจะให้เราจ่ายถูกกว่านี้นิดนึง (ซักสองร้อยคงทำใจได้) ก็คงจะได้ใจเราไปเต็ม ๆ และเราก็คงเป็นลูกค้าที่ loyalty ไม่ไปไหนแน่ๆ
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 14:39:17
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 14:38:09
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 09:49:57
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 08:48:04
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 01:34:17
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 01:28:18
| จากคุณ |
:
apt911  
|
| เขียนเมื่อ |
:
วันรัฐธรรมนูญ 55 22:29:30
|
|
|
| 
