ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณที่ ลบ คห.1 ค่ะ  มันแบบว่าล่อแหลม ขึ้นต้นได้ดี  ลงท้ายได้แบบว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง จากคุณ : รักซ้อนซ่อนรัก เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 07:00:58

ความคิดเห็นที่ 3 อุบาทว์ ลามปามพระจริงๆ เพจนรก จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 07:30:54

ความคิดเห็นที่ 4 อารมณ์ขัน... อิชั้นมีนะคะ มีเยอะด้วย แต่อันนี้ไม่ขำอ่ะ แอดมินเอาออกไปดีม้ายยยย จากคุณ : ขวานน้อย มินิเร๊กซ์ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 07:41:12

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพนี้ไม่ขำเลย   พวกเพจนี่ ตรรกะบกพร่อง สมองบอดเป็นแห่งๆ รึเปล่า ไม่เห็นท่านจะกินฟรีตรงไหน ก็คนให้ด้วยความเต็มใจ แลกกับความอิ่มใจ สุขใจที่ได้จากท่าน ไปเอาภาพนักการเมืองในสภา  ที่คนเค้าไม่ยินดีให้กินฟรีมาลงสิ  เดี๋ยวจะแค่นขำให้ เหอๆ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 55 08:23:46 จากคุณ : ruralcrue เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 08:23:19

ความคิดเห็นที่ 6 ส่อนิสัยจริงๆ ทั้งคนตั้งและก็พวกกด like จากคุณ : พวงชมออน เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 08:25:49

ความคิดเห็นที่ 7 อย่าลบครับ โชว์ความต่ำของผู้ที่คิดได้ดี จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 08:27:35

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนผมบวชก็ฉันประมาณนี้แหละ ถ้าเป็นวันพระเยอะกว่านี้อีก ฉันไม่หมดหรอก ส่วนใหญ่จะตักแต่ด้านหน้า จานเดียวก็อิ่มแล้ว ที่เหลือก็พวกญาติโยมที่มาทำบุญนั่นแหละจัดการ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 55 09:14:41 จากคุณ : tb เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 08:48:53

ความคิดเห็นที่ 9 เพจพวกนี้มันยกตัวเองเปรียบกับพระเนี่ยนะ ?!?! หน้าด้านแล้วยังโง่อีก. -*- จากคุณ : aorp เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 09:44:09

ความคิดเห็นที่ 10 เวลาคนไปทำบุญ พระท่านก็เลือกไม่ได้หรอกค่ะ ว่าอย่าเอามาวางตรงหน้า ทุกคนก็อยากให้พระท่านฉันอาหารที่ตนเองทำมาหรือเลือกหาซื้อมาท้ังนั้น พระท่านจึงต้องฉันอย่างละนิดอย่างละหน่อย เพื่อให้ญาติโยมปลื้มบุญน่ะค่ะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 09:50:10

ความคิดเห็นที่ 11 กินฟรีก็คือกินฟรีครับ Authority ของการกินฟรีคือการสถาปนาอำนาจหรือวาทกรรมบางประการ หรืออย่างน้อย คือ ต้องสร้างสถานะบางอย่าง ถึงจะได้ "กินฟรี" เรามักจะแก้ตัวว่า กรณีนี้ๆ (ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นพระ) เราให้ท่านเหล่านั้นกินฟรีด้วยความ "เต็มใจ" แต่ความเต็มใจมาจากไหน ? เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันเป็นความ "เต็มใจ" ที่แท้จริง เรากำลังถูกลวงหลอกด้วยวาทกรรม การปลูกฝัง หรืออะไรหรือเปล่า ? ในที่สุดหากวิเคราะห์กันลงไปถึงแก่นแล้ว การ "กินฟรี" ทุกอย่างมีจุดร่วมเดียวกัน ถ้าเราขบกันแตกจริงๆ คือทำให้ฝ่ายที่ให้กิน "เชื่อ" แล้วจะได้ "ได้กิน" "เชื่อ" ว่า คนกิน "ควร" ได้กินฟรี เช่นหากไม่มีความเชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ ชีวิตหลังความตาย การหลุดพ้น ฯลฯ แล้ว ใครจะเลี้ยงนักบวช (ผมพูดรวมในทุกความเชื่อศาสนานะ) ดังนั้นเพื่อดำรงการกินฟรี นักบวชจึงต้องผลิต "ความเชื่อ" เช่นนั้นออกมาเรื่อยๆ จากรุ่นสู่รุ่น หากเราฝานลึกลงไปถึงแก่นแล้ว เราจะพบว่า ในทุกการกินฟรี มันมีแกนกลางร่วมกันจริงๆ เอาละครับ มันอาจจะเข้าใจยากเกินไป แต่ขอไกด์ไว้เท่านี้ ไว้สักวันที่เราพัฒนาความคิดไปถึงชั้นที่มองอะไรอย่างที่มันเป็น โดยตัดฝานสิ่งปลูกสร้างเชิงิตสำนึกออกไปได้หมด เราจะเข้าใจเพจ "กินฟรี" ได้ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 55 10:02:41 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 55 10:01:04 จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 09:59:09

ความคิดเห็นที่ 12 นรกจะกินกบาลเอานะคะ คนที่เขาเอาไปถวายพระ เขามีจิตใจสูงค่ะ จากคุณ : jeeper เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:10:44

ความคิดเห็นที่ 13 คห.11 พระไม่ใช่ฆราวาส อย่าเอาพระมาพูดจาเหมือนท่านเป็นฆราวาส นรกจะได้ถามหา พระปฏิเสธของที่ญาติโยมเอามาทำบุญไม่ได้หรอก เพราะทุกคนตั้งใจเอามาทำบุญ ยิ่งทำบุญกะพระปฏบัติดีปฏิบัติชอบยิ่งจะได้บุญ เมตตา่ท่านมีท่านก็ฉันตามที่ญาติโยมนำมาถวาย ท่านไม่ได้เรียกร้องหรือบอกว่าท่านอยากฉันอะไร คนจิตสำนึกดีคิดว่านี่เป็นการทำบุญ แต่คนไร้จิตสำนึกเอาไปคิดว่านี่เป็นการกินฟรี คห.11 เลือกเอานะว่าจะเป็นคนมีจิตสำนึกหรือ ไร้จิตสำนึก บัวมีสี่เหล่า เลือกเอาเองว่าจะเป็นเหล่าอะไร ระวังจิตใจอกุศลที่เต็มไปด้วยอคติมันจะฉุดคุณลงนรก จากคุณ : ตุ๊มาแว้ว เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:14:43

ความคิดเห็นที่ 14 กินฟรีก็คือ กินฟรีครับ จะพระจะอะไร ก็กินฟรี โดยที่มานั่วสวดนิดๆหน่อยๆ มีคนเลี้ยงข้าว มีตังกลับวัด มีรถไปกลับ แต่ทุกคนเชื่อไง ว่าการที่ให้พระกินฟรี มันคือการทำบุญ ทำให้มีบุญมากๆ ในทางกลับกัน พวกกินฟรีต่างออกไปนิดเดียว คือไม่ได้เชิญ และไม่ได้ห่มผ้าเหลือง เจ้าของงานได้บุญไหม ก็ได้ ปล. ผมชอบทำบุญกับคนไม่มีกินมากกว่า พวกที่งานการไม่ทำ วันๆรอกินอย่างเดียว ก็ไม่อยากให้เท่าไหร่หรอก จากคุณ : เขียนบน android (เป็นคนดีแต่ไม่มีใครเอา) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:18:10

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นล่าสุด อันนี้มุขขำๆ ใครไม่เกทแปลว่า ไม่แปลกใจบ้านเมืองไม่เจริญ พวกโง่ ไม่มีอารมณ์ขัน ถ้าผมเอออวย ขบขัน ชอบแล้วผมจะฉลาดขึ้นจริงๆเหรอ ** ลอกมาจาก คห. ของ จขกท. ค่ะ . . . เราคนนึงล่ะ ถ้าไม่ขำ ไม่ตลก กับเพจบ้าๆเนี่ย แล้วพวกวิบัติจะมองว่า เราโง่ เราก็ยอมค่ะ เราไม่คิดจะเเลกกับวิบากกรรมจากการปรามาสพระสงฆ์ จริงอยู่ เรื่อง เวรกรรม วิบากกรรมเป็น อจินไตย คนธรรมดาไม่มีญาณทัศนะที่จะทราบ ก็ได้แต่โชว์เท่ โชว์ฉลาดกันไป ด่าว่าพระสงฆ์กันสนุกปาก แต่เวลาได้มาเกิดใหม่ เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ มีความพิกลพิกรทางจิต ทางประสาท ไม่สมประกอบให้คนได้ล้อเลียน ขอบอกว่า สงสารไม่ลงหรอก.... บางคนก็ต้องเห็นโลงศพก่อน น้ำตาจึงจะตก จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:21:34

ความคิดเห็นที่ 16 จริงๆมาด่าเพจนี้ (หรือกระทั่งด่าความเห็นผม) มากๆ ยิ่งเป็นการสร้าง "กรณีศึกษา" นะครับ เอาแค่นี้ละ บอกแล้วว่า บางเรื่องมันยัง "ยาก" เกินไปจริงๆ จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:24:59

ความคิดเห็นที่ 17 แล้วจะให้พระท่านไปทำงานแลกเงินอะไรดีล่ะครับ คือเวลาท่านไปสวดมนต์ตามงานบุญญาติโยมถวายปัจจัยให้ จะให้พระท่านเอาตังนั้นมาจ่ายค่าอาหารให้ญาติโยมถึงเรียกไม่กินฟรีใช่ไหม จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:26:02

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ  Players จะสื่อว่าตัวเองฉลาดมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ใช่ไหมครับ ที่เข้าใจ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:26:52

ความคิดเห็นที่ 19 ลามปามกับความเชื่อของคนส่วนใหญ่มากไปนะ นรกจะกินกะบาลนะครับ ตรรกะเพจนี้เริ่มป่วยจริงๆ จากคุณ : wasabicrispy (wasabicrispy) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:33:28

ความคิดเห็นที่ 20 ใน  ทักขิณาวิภังคสูตร มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์  พระผู้มีพระภาคเจ้า   ทรงจำแนกอานิสงส์ ของทานที่ให้โดยเจาะจงและไม่เจาะจงไว้ตามลำดับขั้น ถึง ๒๑ ประเภท  คือ ๑.  ให้ทานแก่ดิรัจฉาน  มีอานิสงส์ร้อยชาติ  คือ  ให้อายุ  วรรณะ  สุขะ  พละ       และปฏิภาณ ถึง  ๑๐๐  ชาติ ๒.  ให้ทานแก่ปุถุชนทุศีล  มีอานิสงส์พันชาติ ๓.  ให้ทานแก่ปุถุชนผู้มีศีล  มีอานิสงส์แสนชาติ ๔.  ให้ทานแก่ปุถุชนผู้ปราศจากความยินดีในกาม  นอกพุทธศาสนา        อย่างพวกนักบวชหรือฤาษี ได้ฌานเป็นต้น  แม้ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา       ก็ยังมีอานิสงส์ถึงแสนโกฏิชาติ สี่ประเภทนี้เป็นปาฏิปุคคลิกทาน  เป็นทานที่ให้โดยเจาะจง คือให้แก่บุคคลใด บุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ และมีผลจำกัด  ยังมีปาฏิปุคคลิกทานที่มีผลไม่จำกัด   คือให้ผลนับประมาณชาติไม่ได้  มากน้อย ตามลำดับขึ้นอีก  ๑๐  ประเภท  ดังต่อไปนี้ ๑.  ให้ทานแก่บุคคลผู้ปฏิบัติ  เพื่อทำให้แจ้งซึ่ง  โสดาปัตติผล ๒.  ให้ทานแก่พระโสดาบันบุคคล  คือผู้ที่บรรลุโสดาปัตติผลแล้ว ๓.  ให้ทานแก่บุคคลผู้ปฏิบัติ  เพื่อทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล ๔.  ให้ทานแก่พระสกทาคามีบุคคล ๕.  ให้ทานแก่บุคคลผู้ปฏิบัติ  เพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ๖.  ให้ทานแก่พระอนาคามีบุคคล ๗.  ให้ทานแก่บุคคลผู้ปฏิบัติ  เพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัตตผล ๘.  ให้ทานแก่พระอรหันต์ ๙.  ให้ทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑๐.  ให้ทานแก่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมเป็นปาฏิปุคคลิกทาน  คือทานที่ให้โดยเจาะจง ๑๔ ประเภท  ใน  ๑๔  ประเภทนี้   ประเภทที่ ๑ มีผลน้อยที่สุด  ประเภทที่ ๑๔ มีผลมากที่สุด ทานที่ให้โดยไม่เจาะจงผู้ใดผู้หนึ่งที่เรียกว่า  สังฆทาน  มี ๗ อย่าง ๑.  ให้ทานในสงฆ์  ๒  ฝ่าย (คือภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์)                       มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ๒.  ให้ทานในสงฆ์  ๒  ฝ่าย  ในเมื่อพระตถาคตปรินิพพานไปแล้ว ๓.  ให้ทานในภิกษุสงฆ์ ๔.  ให้ทานในภิกษุณีสงฆ์ ๕.  ให้ทานในบุคคลที่ขอมาจากสงฆ์ ๒ ฝ่าย  ด้วยคำว่าขอได้โปรดจัด                      ภิกษุและภิกษุณีจำนวน เท่านี้ขึ้นเป็นสงฆ์แก่ข้าพเจ้า ๖.  ให้ทานในบุคคลที่ขอมาจากภิกษุสงฆ์  ด้วยคำว่าขอได้โปรดจัด                      ภิกษุจำนวนเท่านี้ขึ้นเป็น สงฆ์แก่ข้าพเจ้า   ๗.  ให้ทานในบุคคลที่ขอมาจากภิกษุณีสงฆ์  ด้วยคำว่าขอได้โปรด                      จัดภิกษุณีสงฆ์จำนวนเท่านี้ขึ้นเป็นสงฆ์แก่ข้าพเจ้า สังฆทานทั้ง ๗ อย่างนี้  ปัจจุบันเราทำได้เพียง ๒ อย่าง  คือให้ทานในภิกษุสงฆ์   และให้ทาน ในบุคคลที่ขอมาจากภิกษุสงฆ์เท่านั้นเพราะพระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้ว  ภิกษุณีสงฆ์ก็สูญวงศ์แล้ว อ่านเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ ทำความเข้าใจด้วย จะได้เข้าใจการให้ทานได้ดีขึ้น http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html ( สำหรับ อุบาสก อุบาสิกา ที่ยังเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอยู่ ใครไม่นับถือก็ข้ามไป ) ถ้าเข้าใจ จะไม่มีใครมาพูดอีกว่า ทำบุญกับคนนั้นคนนี้ดีกว่า ไม่อยากทำบุญกับพวก ไม่ทำงานทำการ ขอบอกว่า ภิกษุ แปลว่า ผู้ขอ นะคะ ในพระวินัย ระบุ ด้วยซ้ำห้ามทำมาหาเลี้ยงชีพเอง ทำอาหารเองก็มิได้ ปกติ คนบางจำพวก ก็ ไม่เคยสร้างบุญกุศลใดๆ อยู่เเล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้เเม้เเต่ ข้าวหมา ข้าวเเมว ยังมาโชว์พาวลามปามด่าพระ ตามแบบบุคคลในเพจกินฟรีนั่น.. เบื้องหน้าคงหนีนรกไม่พ้นเป็นเเน่ จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:35:45

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วใครให้ทำงานล่ะครับ ทุกวันนี้พระดังๆ เค้ามีอีเวนท์กินฟรีแบบดาราแล้ว ใครดังมาก ก็ได้กินดีๆ ค่าตัวก็จะสูง เพราะคนเค้าคิดว่าพระดัง ชั้นได้บุญเยอะ 555+ บวชทีบางคนได้เงินเยอะ กว่านั่งทำงาน หนักๆอีก เหอๆ จากคุณ : เขียนบน android (เป็นคนดีแต่ไม่มีใครเอา) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:39:27

ความคิดเห็นที่ 22 ที่ว่า "ยากไป" คือการ "ตัด" ความเชื่อเชิงศาสนาออกไปแล้ววิเคราะห์ด้วยรูปแบบความสัมพันธ์ครับ ซึ่งการ "ตัด" ความเชื่อเรื่องศาสนาออกไปเป็นเรื่องยากที่สุดของมนุษย์อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับโง่หรือฉลาดอะไร (ผมเคยช่วยนักวิทยาศาสตร์ระดับดอกเตอร์ จัดห้องทำงานตามหลักฮวงจุ้ยมาแล้ว) นั่นคือฝ่ายที่เชื่อในศาสนา ก็จะเชื่อว่า ศาสนาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับความจริงทั้งหลาย แต่ฝ่ายไม่เชื่อ ก็จะมองว่า ศาสนาเป็นรูปแบบความเชื่อหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความจริง ยกตัวอย่างเรื่อง "นรก" ที่เห็นแช่งๆ กันความเห็นเว้นความเห็น อย่าลืมว่า ใน "โลก" ของศาสนาอื่น ล้อพระไม่ล้อพระก็ไม่รู้ ไม่นับถือพระเจ้าของเรา ตกนรกคือกัน สมมติว่าในที่สุดแล้ว ศาสนาเหล่านั้น "ถูก" เราก็ได้ไปเถียงกับพวกเพจนี้ต่อใน "นรก" อยู่ดีละครับ พอจะนึกออกหรือยังครับ ? ว่ามันไม่ใช่เรื่องโง่เรื่องฉลาด ... แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 55 10:41:56 จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:40:48

ความคิดเห็นที่ 23 เราจึงขอ จบการตอบกระทู้นี้เเล้วล่ะ เพราะว่าตอบไป บางทีก็เหมือนตักน้ำรดหัวตอ ที่อยากบอกก็ได้บอกเเล้ว  แถมยังมีความรู้สึกว่า คนบางคน หาบาปได้ไม่เว้นเเต่ละวัน มีเเต่คนเขาจ้องจะสะสมบุญกุศลไม่เว้นเเต่ละวัน เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขทั้งของตนเองเเละสังคม นี่มันอะไรกัน บ้าไปเเล้ว.. เราไม่สนใจว่า ใคร หรือ อะไร จะสร้างตรรกะบิดๆเบี้ยวๆ โชว์สเตปเทพ ว่าตัวเองฉลาด ( แบบว่าคิดเอาเอง ) โชว์ว่า เสียดสีว่า พระกินฟรี แล้วเท่ ฉลาด เก่ง ก็ช่างพวกคุณ เพราะ ยังมีศาสนิกชนอีกมาก ที่เขามิได้มีความคิดที่เสื่อมวิบัติแบบพวกคุณ สังเกตว่าพวกนี้ ชีวิตปกติมักไม่มีความสุขหรอก จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:42:22

ความคิดเห็นที่ 24 ทุกวันนี้มีความสุขดีครับ งานดี เงินดี ความรักสดใส จากคุณ : เขียนบน android (เป็นคนดีแต่ไม่มีใครเอา) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:45:05

ความคิดเห็นที่ 25 สงสัยจะไม่ใช่พุทธ ถึงได้กราด แบบนี้ ถ้าเป็นพุทธ ตายไปอย่านิมนต์ พระมาสวดศพนะคะ เดี๋ยวจะหาว่า เรียกท่านมาสวดแลกข้าวฟรี พิมพ์ไป บาปในใจตัวเอง.. จากคุณ : แม่น้องมิวคะ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:50:06

ความคิดเห็นที่ 26 นิดๆหน่อยๆ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพจ คือ เรื่องแช่งตกนรกเนี่ย สมัยหนึ่ง ผมเคยเถียงกับผู้ประกาศข่าวของศาสนาหนึ่ง ประมาณว่าผมบอกว่า ผมเป็นพุทธนะ ผมเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยกรรมและการรู้ทันจิต ไม่มีใครพ้นทุกข์เพียงเพราะอ้อนวอนภาวนา ฯลฯ เถียงกับเขา (ฝรั่งด้วย) จนกระทั่งเขาอวยพรว่า "ขออย่าให้ท่านต้องทนเวทนาในไฟนรกเพราะความหลงผิดนานนัก" ความหลงผิดที่ว่า คือความหลงผิดในศาสนาพุทธนั่นเอง ตั้งแต่นั้นมาผมก็ปลงๆ ว่า ทางใดทางหนึ่ง เรามีเหตุไปลงนรกแล้วโดยไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่เชื่อไม่ตรงกับเขา นรกก็ถามหาเอง จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:52:59

ความคิดเห็นที่ 27 ถึงมีคำเปรียบเปรยไงค่ะ ว่าบัวมีสี่เหล่า บางเหล่ากอ ตักเตือนแล้ว ยังดื้อดึง ก็ต้องปล่อยเค้าไปตามวิธีของเค้าค่ะ มุมมองในชีวิตคนมาจากประสบการณ์และจิตส่วนลึกในใจ เราเปลี่ยนเค้าไม่ได้ ต้องปล่อยวางค่ะ สวัสดีปีใหม่นะคะ จากคุณ : via iPhone (mayny the kop) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:54:18

ความคิดเห็นที่ 28 ความเห็น 11 มาแนว post Modern ตกขอบอีกแล้วครับ มองเรื่องต่างๆเป็นวาทกรรม เชิงโครงสร้างไปทั้งหมด ไม่มีอะไรอธิบายความจริงเลย ลองถามว่าอะไรคือความจริงของพวกนี้ก็ตอบไม่ได้ เพราะมองทุกกรณีเป็นวาทกรรมไปซะหมด เสนอย้อนแย้งทุกทฤษฎี แต่ไม่ได้อธิบายอะไรได้ดีกว่าทฤษฎีเก่าเลย ความเห็นส่วนตัวนะครับ จากคุณ : Sand (econdpu) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 10:57:31

ความคิดเห็นที่ 29 สงสัยไม่เคยบวชพระ ภาพที่เห็น ใช่จะเป็นความหมายที่ใช่ จากคุณ : active48 (Copland) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 11:03:38

ความคิดเห็นที่ 30 อย่าทำให้ผมขำไปมากกว่านี้เลย แล้วผมก็คงไม่เผาด้วย เผาไปก็เหลือแต่เถ้า ควันก็ทำให้โลกร้อนอีก สู้ฝังไปเป็นปุ๋ย หรือไม่ก็ให้สัตว์กิน ก็ถือว่าทำบุญ วาระสุดท้าย อ้อ ผมไม่เชื่อนะว่าชาติหน้ามีจริง ทำวันนี้เพื่อวันข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อชาติหน้า จากคุณ : เขียนบน android (เป็นคนดีแต่ไม่มีใครเอา) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 11:05:09

ความคิดเห็นที่ 31 พระดี ก็นับถือ แต่พระ บางรูป มันน่า...... ทำตัวเป็นพวกสี เดียวกับ จีวร จากคุณ : อำเภอใจ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 11:11:41

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นเปรตแล้วยังไม่พอ เฮ่อ จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 11:12:42

ความคิดเห็นที่ 33 ผมเกทแต่ผมไม่ฮาว่ะครับ รู้สึกสมเพศเวทนาไอ้คนคิดมุข สมองคงโดนปลวกแทะไปหมดแล้ว จากคุณ : หิมะละลาย เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 11:21:22

ความคิดเห็นที่ 34 สงสัยเจ้าของเพจเค้าต้องจ่ายเงินกับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตตั้งแต่เกิดมาบนโลกนี้กระมัง เค้าเลยคิดว่าการให้ การทำบุญ เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพื่อนๆ อย่าไปรังเกียจเค้าเลย เราว่าคนพวกนี้น่าสงสารมากว่า ความสุขใกล้ตัวแค่นี้ยังรับรู้ไม่ได้ คงต้องดิ้นรนกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีสติปัญญาที่จะเข้าใจความจริงรอบตัว จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 11:32:38

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่ชอบก็อย่าไปยุ่งอะไรกับเพจเค้าเลยครับ พอคนเข้ามาเห็นต่างก็ด่าว่าเค้าอีก ถ้ายอมรับความเห็นต่างไม่ได้อย่าตั้งกระทู้ดีกว่าครับ เอาไปคุยกันเองในกลุ่มดีกว่า จากคุณ : hey_yapyap เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 11:33:39

ความคิดเห็นที่ 36 จขกท. จะไปตอแยเค้าทำไมอ่ะ คือถ้าไม่ชอบก็ยังสรรหา ยังเลือกจะติดตามเนอะ แปลกคนจัง จากคุณ : CuteBaby เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 11:46:05

ความคิดเห็นที่ 37 "เธอจงระวังความคิดของเธอ เพราะความคิดของเธอจะกลายเป็นความประพฤติของเธอ เธอจงระวังความประพฤติของเธอ เพราะความประพฤติของเธอจะกลายเป็นความเคยชินของเธอ เธอจงระวังความเคยชินของเธอ เพราะความเคยชินของเธอจะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ เพราะอุปนิสัยของเธอจะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต" ( หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง ) จากคุณ : กฤษณาวตาร เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 11:56:55

ความคิดเห็นที่ 38 บางคนไม่อยากเผา ศพ ตัวเองก็ปล่อยให้แร้งกา จิกกินก็ดีครับ ว่าแต่ว่าสั่งญาติไว้หรือยังครับ    หรือจะบริจาค ศพให้กับโรงเรียนแพทย์ก็ดีไม่น้อยนะครับดีกว่า ฝัง จากคุณ : คุณชายแรง เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 12:01:26

ความคิดเห็นที่ 39 โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน จากคุณ : ลึกลับซับ_tui เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 12:58:06

ความคิดเห็นที่ 40 ถึงทุกท่านที่บอกว่า "กินฟรี" คือ "กินฟรี" คห.๑๑ บอกว่าการกินฟรี คือกินฟรี  คือผลจากการสถาปนาอำนาจ คือการอาจถูกหลอกลวงด้วยวาทกรรม... อาห์...เราว่าคุณนี่แหละ  เจ้าแห่งวาทกรรมที่พยายามทำให้ทุกคนเห็นว่า  ทุกการ "กินฟรี" เหมือนกัน กินฟรี บางเรื่อง เช่น คนทำอาหารไปเลี้ยงคนไม่มีกิน เลี้ยงเด็กยากจน คนชรา หรือพระสงฆ์ จะเพราะหลงวาทกรรม หรือให้ใครสถาปนาอำนาจก็แล้วแต่...สำคัญคือเจ้าของรับรู้ว่ากำลังให้ใคร แต่กินฟรีบางเรื่อง เช่น นักการเมืองที่คอรัปชั่นของส่วนรวมไปกินฟรี (หรือใครเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องกินฟรี?) เจ้าของไม่ได้ยกให้ และบางทีก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครทำ...ส่วนคุณจะบอกว่าประชาชนรู้แต่อยากให้คอรัปชั่นเพราะหลงวาทกรรมนั่นก็ว่ากันไป 555555+ ตกลกว่า แกนกลางของคำว่ากินฟรี ที่คุณว่าเหมือนกัน  มันก็แค่คำ (วาทกรรม?) ว่า "กินฟรี" นั่นแหละ จริงๆ เราว่า พวกที่คิดว่าตัวเองฉลาดนัก  อย่ามัวแต่มาเล่นประเด็นพระที่ท่านมาสอนให้ทำดี ไม่ได้มีพิษภัยต่อส่วนรวมกินฟรีเลยนะ ไปเซ้นสิทีฟกับพวกแอบกินฟรีผลประโยชน์ของคุณของคนทั้งชาติ น่าจะดีกว่า ด้วยความเคารพ. แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 55 13:02:06 จากคุณ : ruralcrue เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 13:00:20

ความคิดเห็นที่ 41 ท่านไปขอใคร? ท่านทำใครเดือดร้อน? ก่วาจะถึงวันนี้ต้องสร้างสมบารมีมานานเท่าไร ดีก่วาเดินธุดงค์ในเมืองให้รถติดกันเดือดร้อนไปทั้งเมือง จากคุณ : jiwery เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 13:00:43

ความคิดเห็นที่ 42 ถึง #11 กินฟรีแบบในรูป ผมยอมให้กิน แต่กินฟรีสำหรับพวกที่อยู่ตรงข้ามโรงแรมสยามเก่า ผมไม่ให้กิน นี่มุกนะ เก็ทป่ะ ไม่เก็ทโง่นะเออ !!! จากคุณ : Tsukasa[hack-Sign] เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 13:08:29

ความคิดเห็นที่ 43 คิดว่าเข้าผิดห้องนะเนี่ย จากคุณ : ตุ่มโบ๊ะ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 13:18:55

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านบางความเห็นแล้วเศร้าใจ บางคนไม่มีศรัทธา แล้วยังไม่มีบุญให้ตัวเองได้เจอศรัทธาอีก เวทนาจริงๆ จากคุณ : ตุ๊มาแว้ว เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 13:50:38

ความคิดเห็นที่ 45 อร่อยจนลืมกลับวัด - มิตรสหายท่านหนึ่ง จากคุณ : supermean เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 13:53:42

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่เห็นด้วยกับเพจนี้เลย แต่ อร่อยจนลืมกลับวัดนี่ก็ไม่ไหวนะ ... ... บางทีญาติโยมนี่แหละ สปอยพระเกินไป ภาพนี้ก็เช่นกัน มันเกินพอดี จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 14:12:46

ความคิดเห็นที่ 47 สมถะ จบครับ จากคุณ : CwP_JtR เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 14:39:05

ความคิดเห็นที่ 48 คห.40 พูดแทนใจเราไปหมดแล้ว ^^ จากคุณ : KINO เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 15:23:20

ความคิดเห็นที่ 49 พวกจิตใจต่ำๆหรือไม่มีศาสนาเท่านั้นแหละ ถึงเห็นดีเห็นงามกับเรื่องแบบนี้ สงสารท่านว. จริงๆ จากคุณ : jiri เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 15:48:02

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่ตลก! จากคุณ : เจ้าหญิงใบไผ่ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 15:50:23

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านบางความเห็นแล้วอึ้งและงงนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจว่าระบบความคิด มุมมอง ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางเรื่อง บางคนเลือกมองอีกด้าน แต่จริงๆ แล้วมองถึงแก่นด้วยหัวใจที่ยุติธรรมแล้วหรือคะ หรือเลือกแต่เปลือกที่เข้ากับความเชื่อของตัวเอง จากคุณ : Yimie เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 16:26:35

ความคิดเห็นที่ 52 เรามองว่าการใส่บาตร เป็นกุศโลบายเพื่อให้คนรู้จักการแบ่งปัน และผูที่รับไปนั้นคือผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา การที่เราถวายภัตตาหาร เพื่อให้ท่านมุ่งสู่การปฏิบัติธรรมมากกว่า ไม่ใช่เน้นว่าต้องได้บุญ จากคุณ : mondhi เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 16:54:27

ความคิดเห็นที่ 53 ศาสนาไม่ได้เป็นเจ้าของการเผาศพนะครับ ไม่ได้นับถือพุทธก็เผาศพได้ แค่ไม่ต้องนิมนต์ใครมาสวดเท่านั้น ในความเห็นของผม คุณ Players เขียนความเห็นแบบระมัดระวังดีแล้วครับ ไม่มีคำหมิ่น เรื่องบางเรื่องก็อย่างที่ว่าจริงๆ ยังยากเกินไป แต่เอาเข้าจริงก็ง่ายนิดเดียว คนที่มองว่าง่ายก็จะสงสัย ว่าเส้นผมมันบังตาเราได้ไง เส้นเล็กแค่นั้น หยิบออกก็สิ้นเรื่อง จากคุณ : ayres เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 17:24:00

ความคิดเห็นที่ 54 สมกับเป็นดัดจริตแลนด์ เห็นต่าง ก็ตกนรก เป็นคนเลว ไม่เชื่อ ก็ตกนรก เป็นคนเลว ถึงว่าบ้านเมืองไม่ค่อยเจริญ ปล. เข้าใจละว่าทำไมหลายคนชอบพูดว่าคนไทยนับถือพุทธกันที่เปลือก จากคุณ : L'enFer เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 18:07:05

ความคิดเห็นที่ 55 หยาบคาย ชั่วช้า ใครที่เอาพระเจ้ามาเล่นในสิ่งที่ไม่สมควร ขอให้ตกนรก ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เขาถวายของพระ ญาติโยมเขาป็นปลี้มกันทุกคนที่พระฉันของเขา ท่านก็พยายามแตะนิดหน่อยให้เป็นพิธี ไม่ทำลายน้ำใจผู้มาถวาย อารมณ์ขัน ใช้ให้ถูกที่ถูกกาละเทศะ ไอ้พวกนรก จากคุณ : นัท (nutkamoltep) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 18:18:29

ความคิดเห็นที่ 56 ต้องด่าพระได้ จาบจ้วงได้ ถึงว่าไม่ดัดจริตสินะ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 18:37:22

ความคิดเห็นที่ 57 คนสามารถเหาะได้ เหาะให้เห็นๆ เลยนะ มิตรสหายท่านหนึ่ง จากคุณ : BFattitude เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 18:58:19

ความคิดเห็นที่ 58 ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน มิตรสหายอีกท่าน จากคุณ : BFattitude เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 18:59:01

ความคิดเห็นที่ 59 แล้วภาพนั้นมันมิจริงหรือ โล้นกินก็ไม่ได้จ่ายตังจิงๆนี่น่า กินฟรีจริงๆ ผมแนะนำให้ จขกท. ไปหาพรุนสกัดมากินแล้วไปนอนดีกว่าน่ะ กินฟรีก็คือกินฟรี จะให้ด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็คือฟรี เพจนี้เขาไม่ได้จั่วหัวว่าศีลธรรม แต่เขาจั่วหัวว่ากินฟรีนิครับ http://www.facebook.com/photo.php?fbid=388225134599342&set=pb.328185533936636.-2207520000.1356955897&type=3&src=http%3A%2F%2Fsphotos-c.ak.fbcdn.net%2Fhphotos-ak-ash4%2F483174_388225134599342_445280129_n.jpg&size=395%2C234 ยึดถือมากๆ ระวังเป็นไปตามภาพนี้น่ะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 55 19:12:16 จากคุณ : anima nightmare เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 19:08:17

ความคิดเห็นที่ 60 เพลียกับ เจ้าของความคิดของเว็บนั่น รวมถึง เจ้าของความเห็นบางคน บอกตรงๆ ขำไม่ออก แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจว่าใครกันแน่ที่ "โง่" ถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันถูก ก็เชิญเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ ผู้หวังดีเค้าก็เตือนแล้ว เชื่อไม่เชื่อก็เป็นเรื่องของคุณแล้วละ กรรมของคุณ วิบากก็ของคุณ ถ้ามาเสียใจในภายหลัง ก็คงต้องโทษตัวเองแหละนะ หวังว่าจะมีคนแบบนี้ไม่มาก บอกตรงๆว่ากลัว..... กลัวว่าโลกมันจะเสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 55 20:09:54 จากคุณ : i'm gaho70 เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 20:06:40

ความคิดเห็นที่ 61 ผมรำคาญกับบาง คห. เรื่อง นรกจะกินกบาล ถ้านรกจะกินกบาล ก็เป็นหน้าที่ของนรก ของยมบาล แต่หลาย คห.ทำตัวเป็น ยมบาล ตัดสินเอง ถ้าคุณเชื่อเรื่องบุญ เรื่องกรรม มันก็มีกฏแห่งกรรมตัดสินเอง คุณมีสิทธิอะไร ไปตัดสิน เค้าจะบาป หรือไม่บาป คนทำรับผิดชอบเอง ครับ ส่วน ประเด็น   พระ ว. ผมบอกตรงๆว่าผมไม่นับถือ แต่ไม่อยากจะวิจารณ์ มาก  เพราะห้องนี้มันห้องของกิน แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 55 20:57:00 จากคุณ : empaza เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 20:53:18

ความคิดเห็นที่ 62 ไอ้การทำอะไรด้วยความไม่รู้นี่แหละ พาคนไปลำบากมานักต่อนักแล้ว ไอ้ความไม่ดีไม่งามที่เข้ามาหาเราแบบไม่เต็มใจและไม่เข้าใจก็เกิดมาจากการกำระทำเพราะความไม่รู้นั่นแหละ สำรวมกาย วาจา ใจไว้เถิด เพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใคร จากคุณ : monkeypim เขียนเมื่อ : 1 ม.ค. 56 01:44:14

ความคิดเห็นที่ 63 ความเห็นส่วนตัวนะคะ -ว่าจะทักจขกท.ตั้งแต่กระทู้ที่ตั้งรอบสองแล้วว่า จะใส่ใจอะไรกับเพจนั่นนักหนา แต่ก็เอ๊ะ ไม่ดีกว่า นี่กระทู้ที่สามแล้ว ชักสงสัยแล้วค่ะ คือเราอ่านเพจที่คุณวิจารณ์อยู่ก็ไม่ใช่ว่าจะชอบนะ ไร้สาระมากสำหรับเรา ไม่น่าสนใจถึงขนาดไปตามอ่านน่ะ -อ่านคำพูดที่เค้าล้อเรื่องพระกินฟรี เราก็ไม่ชอบนะ รู้สึกว่าทำเกินไป ไม่ใช่เพราะท่านเป็นพระ เป็นใครเราก็ไม่ชอบ เพราะการเอาคนอื่นมาล้อเลียนส่อเสียดทางสาธารณะเราว่าไม่ดี อยากล้อควรล้อกันเองที่บ้าน -จะว่าเราก็ได้ แต่เราไม่ยึดติดกับอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นศาสนา ศาสดา หรือสาวก ทุกวันนี้ที่ทำสิ่งที่ดีดีเพราะอยากทำ ชาติหน้าบาปบุญมีจริงหรือไม่ ไม่เคยเก็บมาคิดเลย มีก็มีไม่เป็นไรเพราะไม่ได้ทำอะไรไม่ดีอยู่แล้ว จะว่าเราไม่มีศาสนาก็ว่าได้ แต่เราเลือกชอบคำสอนบางอย่างของบางศาสนานะ (ยกเว้นอิสลามกับคริสต์) -ชอบคห.ของคุณ Players ในกระทูนี้ ตรงเค้าเสนอมุมมอง "ความเชื่อ" ของเค้าออกมา โดยไม่ระรานความคิดที่เห็นต่างของใคร และไม่สุดโต่งดี จากคุณ : Schnuckiputz เขียนเมื่อ : 1 ม.ค. 56 04:22:50

ความคิดเห็นที่ 64 อ่านบางความเห็นของพวก "หัวคิดใหม่" แล้วขนลุก ขยะแขยงมาก หวังว่าคนที่เรารู้จักจะไม่มีทัศนคติแบบนี้นะ จากคุณ : กระแตตาโต เขียนเมื่อ : 1 ม.ค. 56 05:13:47

ความคิดเห็นที่ 65 อิพวกลูกเพจทั้งหลาย ถามจริง ๆ เห็นภาพนี้แล้วขำอย่างที่ว่ามั้ย อันนี้เหรอที่บอกว่าเป็นมุกชั้นสูง คนโง่ ๆ ทั่วไปจะไม่ขำ จากคุณ : เขาวานให้หมูเป็นสายลับ เขียนเมื่อ : 1 ม.ค. 56 05:41:42

ความคิดเห็นที่ 66 #11  สุดท้าย ก็ไม่วายยกตัวว่าฉลาดกว่าคนอื่น พูดยังไม่ทันขาดคำจริง ๆ โถ ผู้เจริญ ... จากคุณ : เขาวานให้หมูเป็นสายลับ เขียนเมื่อ : 1 ม.ค. 56 05:43:27