 |
สมโภช"ศาลหลักเมืองตรัง" ฉลองครองราชย์60ปี
"ศาลหลักเมืองตรัง" ตำบลควนธานี อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นโบราณสถานศูนย์รวมจิตใจและเคารพสักการบูชาของชาวจังหวัดตรัง
ในอดีต บริเวณอันเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมืองตรังแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของเมืองในสมัยแรก ที่สําคัญเป็นสถานที่ที่บรรดาผู้เป็นพ่อเมืองทุกยุคทุกสมัยจะต้องมากราบไหว้สักการะเป็นสิ่งแรก เมื่อเข้ามารับตําแหน่ง "ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง"
ย้อนรอยไปกว่าศตวรรษที่ผ่านมา ตามประวัติศาสตร์จังหวัดตรังได้จารึกความเป็นมาของ "ศาลหลักเมืองตรัง" ไว้อย่างน่าสนใจว่า สร้างขึ้นในสมัยหลวงอุไภยธานี ซึ่งเป็นเจ้าเมืองตรังคนแรก ตั้งอยู่ที่ ต.ควนธานี อ.กันตัง
โดยศาลหลักเมืองขณะนั้นเป็นศาลหลักเมืองที่ใช้ไม้มาเป็น "เสาหลักเมือง" ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ชาวบ้านที่เดินทางผ่านไปผ่านมาจะเข้ากราบไหว้สักการะ และมีการนําผ้าแพรหลากสีสวยสด ห่อหุ้มพันเอาไว้
ชาวบ้านบางคนอาศัยศาลหลักเมืองเป็นสิ่งช่วยชโลมทางจิตใจขอพรขอลาภและทําพิธีบนบานศาลกล่าวเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมาโดยตลอด
กระทั่งเสาหลักเมืองขณะนั้นถูกปกคลุมไปด้วยวัชพืชและมีดินปกคลุม มีลักษณะเป็นดินปลวกใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถมองเห็นเสาหลักเมืองได้ชัด
เมื่อปี พ.ศ.2535 ทางจังหวัดตรัง จึงมีดําริให้มีการบูรณะศาลหลักเมืองตรังขึ้นด้วยการก่อสร้างอาคารศาลหลักเมืองแบบหลังคาจัตุรมุข 1หลัง ขนาดกว้าง 8.20 เมตร ยาว 9.20 เมตร และสูง 7.80 เมตร ตามแบบแปลนของหน่วยศิลปากรที่ 9 จังหวัดสงขลา กรมศิลปากร
ทั้งนี้ การจัดทําเสาหลักเมืองใหม่ ใช้ไม้ชัยพฤกษ์หรือราชพฤกษ์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร ความยาว 2.59 เมตร ยอดหัวเสาเส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 18 เซนติเมตร
เสาหลักเมืองที่ทางจังหวัดจัดเตรียมไว้ในขณะนั้น ผ่านขั้นตอนการต้ม อบและกลึง วันที่ 31 สิงหาคม 2531 คณะกรรมการจัดสร้างหลักเมืองตรัง ได้นําหัวเสาหลักเมืองและแผ่นดวงเมืองตรัง เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตําหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อทรงเจิมและทรงพระสุหร่ายเสาหัวเมืองและแผ่นดวงเมืองให้แก่จังหวัดตรัง
ต่อมาวันที่ 16-19 กันยายน 2536 ทางจังหวัดได้จัดพิธีสมโภชหัวเสาหลักเมืองอย่างยิ่งใหญ่ โดยตระเวนไปตามอําเภอต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัด นอกจากนั้นยังเชิญเกจิอาจารย์ทั่วทุกภาคของประเทศมาทําพิธีปลุกเสกก่อนที่จะอัญเชิญพระเสาหลักเมืองสู่หลักเมืองเดิม
โดยโหรประกอบพิธีบวงสรวงเทพยดาด้วยเครื่องกระยาบวช ทั้ง 5ศาล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ 12 ตํานาน และนครฐานสูตร สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรและมหาสมัยกาณวาร
"เชิดพันธ์ ณ สงขลา" ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง บอกเล่าเรื่องศาลหลักเมืองหลังจากที่มีการบูรณะเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ทางจังหวัดได้ทําหนังสือถึงราชเลขาธิการ สํานักพระราชวัง ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมืองตรัง
ต่อมาหม่อมหลวง ทวีสันต์ ลดาวัลย์ ราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง มีหนังสือตอบมาว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์ ทรงเปิดศาลหลักเมืองตรัง เมื่อวันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2538 นําความปลื้มปีติยินดีต่อพสกนิกรชาวตรังเป็นล้นพ้น และยังเป็นสิริมงคลต่อศาลหลักเมืองจังหวัดตรังอีกด้วย
กระทั่งเวลาล่วงเลยมา 10 ปี ทางจังหวัดตรังเห็นสมควรให้มีการพัฒนาปรับปรุงบูรณะซ่อมแซมศาลหลักเมืองตรังขึ้นอีกครั้ง
"จังหวัดจัดสรรงบประมาณ 665,000 บาท เพื่อนําไปปรับปรุงพัฒนาซ่อมแซมศาลหลักเมืองตรัง จนแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง อําเภอกันตัง เทศบาลเมืองกันตัง องค์การบริหารส่วนตําบลควนธานี วัฒนธรรมจังหวัด ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัด ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัด สํานักพุทธศาสนาจังหวัด และหอจดหมายเหตุจังหวัด ร่วมกันจัดเตรียมงานสมโภชศาลหลักเมืองตรัง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี"
ผู้ว่าราชการจังหวัดยังบอกว่า คณะกรรมการทุกหน่วยงาน ศึกษาวันสําคัญของศาลหลักเมือง พร้อมติดต่อพราหมณ์ใหญ่จากกรุงเทพฯ ดูวันที่เหมาะสม จึงกําหนดจัดงานสมโภชขึ้นระหว่างวันที่ 21-30 กันยายน 2549 อันถือว่าครบรอบ 10 ปีพอดี
โดยในวันที่ 21 กันยายน จะเป็นวันสมโภช ประกอบพิธีทางศาสนา พิธีบวงสรวง (พราหมณ์) หลังจากนั้นจะมีการจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ มหรสพ การแสดงบนเวที การจําหน่ายสินค้าโอท็อป และอื่นๆ เพื่อให้การจัดงานสมโภชศาลหลักเมืองตรังมีความยิ่งใหญ่และเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนทั้งจังหวัด
"อีกประการหนึ่งเพื่อต้องการทําให้บริเวณศาลหลักเมืองตรังที่เคยเป็นที่ตั้งของเมืองตรังในอดีตได้รับการพลิกฟื้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดตรัง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวพบร่องรอยอันเป็นที่ตั้งของเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นเรือนจําเก่า บ้านเจ้าเมืองเก่า ที่จะต้องเข้าไปพัฒนา จัดระบบให้สมบูรณ์ ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานงานกับ อบต.ควนธานี และชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยกันพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว" ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าว
สำหรับการจัดงานสมโภชศาลหลักเมืองตรัง นอกจากเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีแล้ว ยังถือเป็นการพัฒนาบูรณะศาสนสถาน อันเป็นสิ่งคู่บ้านคู่เมืองให้ดำรงอยู่อย่างถาวร เพื่อจะได้เป็นศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดเพิ่มขึ้นอีกแห่งด้วย
แหล่งข่าวจากมติชน
http://www.trangzone.com/articles_detail.php?ID=51
จากคุณ |
:
ดา ดา
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ย. 54 12:00:21
|
|
|
|
 |