ความคิดเห็นที่ 1 กรมพระราชบวรมหาศักดิพลเสพ ทรงสร้างวัดบวรนิเวศเมื่อปีใดไม่ปรากฏ แต่เรียกชื่อวัดในขณะนั้นว่า วัดใหม่ ส่วนชื่อวัดบวรนิเวศนั้น เล่ากันมาว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนิมนต์เจ้าฟ้าพระฯ ให้มาครองที่วัดนี้แล้ว จึงพระราชทานชื่อวัดว่า วัดบวรนิเวศวิหารเพื่อแสดงนัยว่าเจ้าฟ้าพระฯ พระองค์นี้มีฐานะเทียบเท่ากับวังหน้า จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 10:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แม้ในวันที่แห่เจ้าฟ้าพระฯ ให้มาประทับที่วัดนี้กล่าวกันว่าขบวนแห่ก็เสมอกับขบวนแห่ของวังหน้า วัดบวรนิเวศเดิมเป็นพระอารามสังกัดมหานิกายและมาแปลงเป็นธรรมยุกตินิกายเมื่อพระองค์เสด็จมาประทับที่วัดนี้   ในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปสององค์ คือ พระพุทธชินสีห์ (องค์ข้างหน้า) และพระสุวรรณเขต (องค์ข้างหลัง)หน้าตักกว้าง ๙ ศอก ๒๑ นิ้ว กรมพระราชวังบวรมหาศักดิ พลเสพได้ทรงอัญเชิญจากวัดสระตะพาน  จังหวัดเพชรบุรี จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 10:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ซุ้มปั้นลายพระมหามงกุฎประดิษฐานอยู่บนพาน รายล้อมด้วยพระแสง เช่น พระแสงหอก พระแสงง้าว เป็นต้น จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 10:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เนื่องจากพระอุโบสถมีลักษณะเป็นตรีมุข  ดังนั้นรูปพระอัครสาวก คือ พระโมคคัลลานะกับพะรสารีบุตรตึงถูกเสาบัง  ต้องสังเกตให้ดี จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 10:47:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถกล่าวกันว่าเป็นฝีมือหรือสกุลช่างขรัวอินโข่งพระภิกษุวัดราชบูรณะ เขียนในแนวตะวันตก เช่น ภาพฉฬาภิชาติ ภาพปริศนาที่เสา เป็นต้น จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 10:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สิ่งน่าชมภายในพระอุโบสถอย่างหนึ่ง คือ ธรรมาสน์ที่ระลึกเนื่องในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภาพนี้ภาพใกล้ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 10:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพนี้พยายามให้เห็นชัดที่สุด จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อีกอย่างหนึ่ง คือ มโหรทึกใช้สำหรับตีเมื่อเวลาพระลงทำวัดเช้า เย็น ที่วัดบวรนิเวศฯ ช่วงที่เจ้าฟ้าพระฯ เสด็จฯ มาครอง เป็นต้นแบบที่พระลงทำวัดสวดมนต์กันที่พระอุโบสถ  เดิมนั้นพระจะสวดกันที่หอสวดมนต์  และถ้าใครสังเกตให้ดีสำเนียบสวดของพระมหานิกายกับพระธรรมยุกติก็ต่างกันด้วย จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพลายด้านบนของมโหรทึก ตรงกลางทำเป็นรูปพระอาทิตย์ มีกบ 4 ตัว อยู่ริมนอกสุดตามความเชื่อของคนโบราณว่ากบเรียกฝนได้ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปที่คนนิยมมาสักการะบูชาอยู่เนืองๆ เป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบทวารวดี  อยู่ด้านซ้ายของพระอุโบสถ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ที่มุขหลังประดิษฐานพระพุทธรูปหิทรายปางนาคปรก ศิลปะแบบลพบุรีแต่ตอนนี้องค์พระเริ่มยุ่ยเสียแล้ว จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ รอยพระพุทธบาทสลัก ศิลปะสุโขทัย  มีรูปพระอสีติสาวกกำลังประทักษิณอยู่รอบรอยพระพุทธบาทนั้น  ประดิษฐานอยู่ที่ข้างศาลาด้านขวาของพระอุโบสถ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ภาพพระอสีติสาวก จากซ้าย พระโกญฑัญญะ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ (?) พระมหากัสสปะ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:19:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถัดจากเจดีย์ประธานของวัดจะพบกับวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธวชิรญาณ  พระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่น่าสนใจคือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้นเขียนเรื่องสามก๊ก เริ่มตั้งแต่ตอนที่โจโฉยกทัพลงใต้หมายจะปราบซุนกวนไปจนถึงโจโฉแตกทัพเรือ ภาพนี้เจียวก้านอาสาเกลี้ยกล่อมจิวยี่แต่ถูกซ้อนกลให้ช่วยประหารชัวมอ-เตียวอุ๋นแม่ทัพเรือของโจโฉ เรียกว่า ยืมดาบฆ่าคน จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพนี้ขงเบ้งตั้งปะรำพิธีเรียกลมมาให้จิวยี่  เนื่องจากทางฝ่ายกังตั๋งคิดใช้แผนเผาทัพเรือ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แต่ทำอย่างไรจึงใช้ไฟเผาทัพเรือของโจโฉได้หล่ะ? บังทองจึงอาสาทำทีว่าเข้าไปเสนอแผนให้โจโฉล่ามเรือไว้ 5 ลำ 10 ลำ  เนื่องจากทหารของโจโฉไม่ถนัดรบทางน้ำ แบบกังตั๋ง  โจโฉหลงเชื่อเพราะชัวมอกับเตียวอุ๋นแม่ทัพเรือก็ตายไปแล้ว จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ฝ่ายกังตั๋ง อุยกายอาสายอมเจ็บตัวแกล้งจะมาสวามิภักดิ์ แต่ในวันที่ตกลงกันกลับเรือไฟมาแทนเรือเสบียง  ผลคือทัพของโจโฉนับหมื่นพ่าย  (โจโฉเขียนหน้าแบบงิ้ว) จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 11:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพพระศาสดาในวิหารพระศาสดา เดิมประดิษฐานอยู่ที่วิหารวัดสุทัศน์เทพวราราม  แต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า พระศาสดาและพระพุทธชินสีห์ เคยประดิษฐานอยู่ในพระอารามเดียวกันที่เมืองพิษณุโลก จึงโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นใน วัดบวรนิเวศวิหาร แล้วอัญเชิญมาประดิษฐานเมื่อ พ.ศ. 2406 จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 12:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ข้ามมาที่เขตสังฆาวาส  ขณะนี้กำลังจัดงานที่ระลึก 50 ปีทรงพระผนวชที่อาคารมานุษยนาควิทยาทาน จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 13:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มานุษยนาค เป็นพระนามเดิมของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (มาจาก มานุษยนาคมานพ) พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับเจ้าจอมมารดาน้อยแพ   เมื่อทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศจึงทรงริเริ่มให้ภิกษุสามเณรที่บวชใหม่ เรียนพระธรรมวินัยในภาษาไทย มีการสอบความรู้ด้วยวิธีเขียน ต่อมาจึงกำหนดให้เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับคณะสงฆ์ เรียกว่า นักธรรม ทรงจัดตั้ง มหามงกุฎราชวิทยาลัย เป็นการริเริ่มจัดการศึกษาของพระภิกษุ สามเณรแบบใหม่คือ เรียนพระปริยัติธรรม ประกอบกับวิชาการอื่น ที่เอื้ออำนวยต่อการสอนพระพุทธศาสนา ซุ้มประตูจำลอง จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 13:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มุมหนึ่งภายในงานนิทรรศการ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 13:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตู้จัดแสดงเครื่องบริขารที่ทำด้วยทองแดง ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงผนวช ได้แก่ พานพระศรี พระเต้า ย่าม ฯลฯ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 13:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพโถงกลางของอาคาร  ทางด้านซ้ายจะเห็นบัลลังก์สำหรับสมเด็จพระสังฆราช อนึ่ง ถ้าเป็นเพียงสมเด็จพระสังฆราชจะใช้ฉัตรขาวสามชั้น  แต่ถ้าเป็นสมเด็จพระมหาสมณเจ้าจะใช้ฉัตรขาวห้าชั้น จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 13:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 25 หลายคนคงจะคุ้นหูกับชื่อ คณะเหลืองรังษีอันเป็นชื่อคณะหรือหมู่กุฎิพระสงฆ์ของวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งประกอบด้วย คณะเหลืองรังษี คณะแดงบวร คณะขาบบวร คณะเขียวบวร คณะตำหนัก คณะใต้ ฯลฯ ชื่อเหล่านี้มีที่มา (ขอเน้นเหลืองรังษี) คือ เดิมข้างๆ วัดบวรฯ มีวัดชื่อรังสีสุทธาวาสตั้งอยู่แต่พอในช่วงกลางๆ รัชกาลที่ 5 วัดรังสีฯ มีพระอยู่น้อยมากและคงจะทรุดโทรมมากด้วย  ทางการจึงมีมติให้ยุบรวมวัดรังสีฯ เข้ากับวัดบวรฯ แล้วจึงตั้งคณะเหลืองรังษีเพื่อเป็นที่ระลึก ภาพพระวิหารวัดรังสีฯ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 13:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ภาพพระอุโบสถ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 2 พ.ย. 49 13:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 น่าสนใจจังครับ ดูแล้วเพลินดี จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 8 พ.ย. 49 23:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มีหลายอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ขนาดผมบวชที่วัดบวรฯนะเนี่ย จากคุณ : เด็กค่ายมวย (เด็กค่ายมวย) - [ 9 ก.พ. 51 21:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ใช่เป็นพียงวัดหลวงวังหลวง น๊ะ  พระสงฆ์ องค์เจ้า (ส่วนมาก) เคร่งครัดในกฏ วินัยของสงฆ์ จะมีแต่ก็น้อยเป็นพระแต่ในเครื่องแบบ ไม่มีมารยาท ไม่อดทนไม่สมเป็นชายจะมาแย่งวัดคนศรัทธาบวชทำไม แอร์ทำความเย็นไม่เย็นจับขั้วปอด ก็เอะอะเอ็ดตะโลเหมือนไอ้กุ๊ยข้างถนน พระนางเจ้าฯเสด็จผ่าน ก็ไม่สำรวมกรูกันมามองเหมือนไทยมุง เฮ้อ...เสียภาพลักษณ์ของพระในวัดบวร รูปอื่นไปด้วย รีบรีบสึกไปเถอะ เสียพื้นที่วัดให้มานอนป่าว ๆ คราวหลังมาขอบวชหมู่ ( สกรีนดี ๆ น๊ะ หลวงลุงหลวงปู่ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 15:05:17 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 52 15:03:48 จากคุณ : เสือน้อยตัวหนึ่ง - [ 15 พ.ค. 52 15:01:02 ]