 |
ความคิดเห็นที่ 13 |
|
แม้ว่าหลวงพระบางจะเป็นเมืองแห่งวัดวาอารามแต่วัดที่ดูแปลกตาที่สุดต้องยกให้วัดนี้ ด้วยพระธาตุเจดีย์รูปร่างโค้งมนเหมือนผลแตงโม โดนเด่นมองเห็นแต่ไกลแม้เพียงคุณนั่งรถผ่านไปยังถนนวิชุลนราช จะแลเห็นเจดีย์รูปทรงแตงโมผ่าครึ่งนี้สะดุดตา จนมีชื่อเรียกขานเล่นๆของชาวหลวงพระบางว่า วัดพระธาตุหมากโม และเจดีย์รูปทรงแปลกตานี้เองที่กระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรมของลาวยกให้มีความสำคัญ วัดพระธาตุหมากโมเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบางซึ่งได้อาราธนาขึ้นมาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ ซึ่งพระนางพันตีนเชียงพระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุลนราช โปรดฯให้สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2507 หลังจากสร้างวัดเสร็จแล้ว ที่มาของชื่อพระธาตุหมากโม มาจากการที่ชาวหลวงพระบางเห็นรูปทรงของเจดีย์คล้ายผลแตงโมผ่าครึ่ง หรือเป็นทรงโอคว่ำคล้ายสถูปแบบฟองน้ำที่สาญจี ประเทศอินเดีย ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบนมีเจดีย์ทิศทรงดอกบัวตูมทั้งสี่มุม พระธาตุหมากโมนี้เคยถูกบูรณะปฏิสังขรณ์มาแล้ว 2 ครั้ง คือในปีพ.ศ. 2402 รัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์ (คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และบูรณะอีกครั้งในปีพ.ศ. 2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ในการบูรณะครั้งนี้ได้มีการค้นพบโบราณศิลปะวัตถุมากมายเช่น เจดีย์ทองคำ, พระพุทธรูปหล่อสำริด, พระพุทธรูปทองคำ, พระพุทธรูปเงิน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้วเช่นเดียวกับพระแก้วมรกต โบราณวัตถุนี้ได้นำถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบางจวบจนปัจจุบัน ถัดมาที่ตัวพระอุโบสถหรือที่ชาวลาวเรียกว่า สิม สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบาง ตัวอุโบสถมีรูปทรงแบบอาคารไทลื้อสิบสองปันนา จุดเด่นอยู่ที่ส่วนคอชั้นสองจะยกระดับสูงขึ้นไป ส่วนบนหลังคาประดับด้วย โหง่ รูปพยานาค 3 เศียร ตรงกลางสันหลังคามีช่อฟ้าเป็นรูปปราสาทยอดฉัตรเล็กๆ ลดหลั่นหลายชั้นประดับอยู่ หน้าต่างอุโบสถประดับด้วยลูกมะหวดขนาดใหญ่ บานประตูด้านหน้าทั้ง 3 ช่อง แกะสลักลงรักปิดทองรูปพระศิวะ, พระวิษณุ, พระพรหมและพระอินทร์ อย่างสวยงามตามแบบศิลปะเชียงขวาง ภายในอุโบสถมีพระประธานขนาดใหญ่ ด้านหลังพระประธานมีโบราณวัตถุที่เก็บรวบรวมจากวัดร้างต่างๆในหลวงพระบาง เช่นพระพุทธรูปสำริดไม้จำหลักลวดลายต่างๆ พระพุทธรูปไม้แกะสลักลงรักปิดทองสูงเท่าคนจริงจำนวนมาก
จากคุณ |
:
k.j
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ต.ค. 52 10:04:54
|
|
|
|
 |