Perfume: The Story of a Murderer เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 18 เรื่องราวของฆาตกรชายคนหนึ่งซึ่งเป็นนักทำน้ำหอมมืออาชีพ และถูกตัดสินโทษประหารชีวิตโดยวิธีการตรึงกางเขน และโบย 12 ครั้ง โดยที่ขาและแขนต้องหักก่อนด้วย เป็นหนังที่ดูโหดในด้านจิตใจเป็นอย่างยิ่ง หนังเปิดเรื่องที่ฉากนี้ แล้วค่อยเล่าย้อนกลับไปถึงประวัติความเป็นมาของชายผู้นี้ว่าทำไมถึงได้ถูกตัดสินโทษ ฌอง แบ๊ปติส กรูโน ผู้ถือกำเนิดขึ้นกลางเมืองกรุงปารีส ซึ่งเป็นเมืองที่มีกลิ่นเหม็นที่เต็มไปด้วยร้านขายปลา และเขาก็มาพร้อมกับพรสวรรค์ที่มีประสาทสัมผัสทางด้านการดมกลิ่นเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้เขาเป็นคนที่พิเศษกว่าใครๆ เขาพูดไม่ได้จนกระทั่งอายุ 5 ปี เขาถึงเริ่มเรียนรู้ในการพูด แล้วสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุดก็คือ การได้รับรู้ถึงกลิ่นใหม่อยู่ตลอดเวลา เมื่อเขาถูกขายให้กับผู้ใช้แรงงาน เขาก็ไม่มีอิสระที่จะได้เรียนรู้กลิ่นใหม่ๆ แต่เขาก็ยังรอวันที่เข้าจะได้รับอิสระ แล้วได้ไปสัมผัสถึงกลิ่นใหม่ๆ เมื่อเขาได้ไปส่งของให้กับ นักทำน้ำหอมชื่อดัง บัลดินี่ เขาก็แสดงความสามารถให้บัลดินี่ได้เห็น บัลดินี่จึงรับเขาเข้ามาทำงานด้วย เพื่อยกรัดับฐานะอันตกต่ำของเขา ให้ฟื้นฟูและกลับเข้ามาในวงการน้ำหอมอีกครั้ง ฌอง แบ๊ปติส กรูโน จึงเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของ บัลดินี่ ฌอง แบ๊ปติส กรูโน พยายามให้บัลดินี่สอนวิธีการที่จะเก็บรักษากลิ่นที่ไม่สามารถคงอยู่ได้ถาวร บัลดีนี่ก็ได้สอนเขา แต่ ฌอง แบ๊ปติส กรูโน ก็ไม่เข้าใจถึงกลิ่นที่สามารถรักษาได้ และกลิ่นที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บไว้ เขาจึงเดินทางเพื่อไปเมืองกราสส์ เพื่อเรียนรู้ถึงวิธีเก็บรักษากลิ่นอย่างแท้จริง และเขาก็ได้ค้นพบวิธีนั้น จึงได้ทำการทดลองกับหญิงสาวบริสุทธิ์ โดยสกัดกลิ่นของเธอมาแต่ละคน เพื่อทำสุดยอดน้ำหอม ที่เรียกได้ว่า น้ำหอมแห่งจิตวิญญาณความบริสุทธิ์ แต่วิธีที่จะนำมาได้นั้นคือการฆ่าหญิงสาวบริสุทธิ์ เพื่อการทดลองครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของเขา แต่คนในสังคมที่ไม่ยอมรับถึงการฆ่าคนบริสุทธิ์และพยายามจับตัวฆาตกรที่ยังลอยนวลอยู่...


Perfume: The Story of a Murderer เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายขายดี ของนักเขียนชาวเยอรมัน ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของกลิ่นและอำนาจของมัน ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เล่าเรื่องได้เยี่ยมยอดมากๆ เข้าถึงจิตใจคนได้อย่างลึกซึ้งกินใจ และมีความตื่นเต้นระทึกไปกับตัวเอกว่า เขาจะทำได้สำเร็จหรือไม่ แต่ก็มีความรู้สึกขัดแย้งบางอย่างที่ทำให้เราคิดไปได้ว่า บางสิ่งก็ไม่ควรกระทำอย่างยิ่งและสมควรที่จะได้รับโทษ แต่ก็นะ พอถึงช่วงไคลแม็คซ์ตอนสุดท้ายผมถึงกับน้ำตาไหลออกมา.. เพราะรู้สึกซาบซึ้งกับความสำเร็จของ แบ๊ปติส ซึ่งนำพาความสุขของน้ำหอมที่เรียกว่าความบริสุทธิ์ของทั้งมวลมาให้แก่ชาวโลก และทุกคนก็ลืมทุกสิ่งที่เป็นอยู่ ถึงขนาดโป๊ป ยังทนไม่ไหวกับอำนาจของกลิ่นนี้เลย...(ไม่อยากบรรยายเยอะเดี๋ยวหมดสนุกกันพอดี)

ในแต่ละฉากในหนังถือว่าทำออกมาค่อนข้างรุนแรง และมีฉากชวนแหวะอยู่ด้วย ฉากโป๊เปลือยก็มีให้เห็นอย่างชัดเจนแทบทั้งเรื่อง (โดยเฉพาะตอนท้ายเรื่อง) แต่ละฉากถือว่าทำออกมาได้สุดยอด และด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ที่มีความอลังการในตัวของมันเอง ทำให้มีความรู้สึกน่าฉงนและสงสัยอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งผมชอบตรงเพลงประกอบมาก เพราะผู้กำกับก็ร่วมทำดนตรีขึ้นมาด้วย และยังมีเนื้อเรื่องบางซีนที่น่าทึ่งมากๆ เช่น ไม่ว่า ฌอง แบ๊ปติส กรูโน จะเข้าไปสู่ชีวิตใครก็ตาม ชีวิตของคนๆนั้นจะดีขึ้น แต่พอเขาจากไปเมื่อไหร่ ชีวิตผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นก็ต้องมีภัยอันตรายเกิดขึ้นโดยทันที เขาเป็นเทวดามาเกิดเหรอ? หรือว่าแค่มีพรสวรรค์เท่านั้น? คนเขียนเรื่องนี้ต้องการให้เกิดข้อสงสัยในแบบที่เราอยากที่จะรู้



ในช่วงครึ่งแรกของเรื่อง หนังเล่าถึงประวัติของ ฌอง แบ๊ปติส กรูโน ซึ่งทำให้คนดูสงสารเขาก่อน และคอยติดตามชีวิตของเขาไปเรื่อยๆ แต่พอในช่วงครึ่งหลังซึ่งบอกถึงการกระทำที่ไม่เหมือนคนทั่วไป นำพาซึ่งการฆาตกรรมอันโหดร้ายและการทำน้ำหอมจากการเสียสละของชีวิตคน ซึงในเรื่องนี้มีดาราดังๆร่วมเล่นอยู่น่าจะหลายคน แต่มีที่ผมรู้จักก็มีอยู่แค่ 2 คนคือ Dustin Hoffman เล่นเป็น นักทำน้ำหอมชื่อดัง บัลดินี่ และ Alan Rickman พ่อของลอรี่ ซึ่งทั้งคู่ก็เล่นได้อย่างดีเยี่ยม การออกแบบภาพและมุมกล้องถือว่าทำออกมาได้ดี มีเทคนิคแสงที่ทำให้ดูน่ากลัว ซึ่งทำให้ดูเป้นตัวร้ายซะมากกว่าในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง

เรื่องราวของน้ำหอมที่ผลิตขึ้นมาจากมนุษย์ของชายผู้มีพรสวรรค์ด้านการดมกลิ่น เป็นเรื่องราวที่ชวนติดตามอย่างยิ่งและมีความน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก โดยรวมแล้วผมก็ชอบมากๆ เป็นหนังที่ดูแล้วการันตีได้เลยว่าเยี่ยมยอดครับ

Grade A ครับ

ที่มา : http://www.popcornmag.com/bbs/index.php?showtopic=3483

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เรื่องนี้ไม่ดูไม่ได้แล้วนะเนี่ย

แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 49 18:49:10