ความคิดเห็นที่ 1   ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นเขาใส่กันแล้วครับ แถมที่บ้านพ่อเขาเป็นแบบผู้บังคับบัญชามีต้องฝากฝังดูแลกันอีก อันนั้นยาวเลยครับพี่ เข้าใจว่าระบบซองนี่ดีแล้วจบในงาน ไม่ต้องตะขิดตะขวงใจทีหลัง จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 08:50:09 A:202.139.223.18 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 2   แต่ก่อนน่าจะเป็นการไปช่วยงานมากกว่าครับ มีเป็ดก็นำเป็ดไป มีหมูก็นำหมูไป มีข้าวก็นำข้าวไป ถ้าไม่มีอะไรก็ใช้แรงงาน ในการช่วยงานศพ สมัยก่อน บ้านวัด เชื่อมต่อกันได้อย่างแน่นแฟ้นกว่าสมัยนี้มาก จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 10:12:52

ความคิดเห็นที่ 3   ไม่ใช่เรื่องเงินหรอกครับ จขกท เป็นการช่วยค่าใช้จ่าย และทำบุญไปให้น่ะครับ วิธีการทำบุญก็แล้วแต่แต่ละศาสนา ภรรยาผมเพิ่งเสียชีวิตเมื่อสามเดือนมานี้เอง เห็นกันชัดๆ เลย ผมเป็นคริสต์นะ ถือว่าคนที่เสียชีวิตแล้ว ร่างกายฝ่ายโลกไม่มีความหมายอะไรแล้ว จึงจัดอย่างเรียบง่ายมาก ขนาดนั้นผมยังหมดไปเกือบหกหมื่นนะครับ ถ้าตามธรรมเนียมจีน บางรายใช้เงินหลายแสน บางรายถึงหลักล้าน ผมยังสั่งลูกไว้ว่าถ้าผมตาย ให้จัดงานศพผมอย่างเรียบง่ายที่สุด ไม่ต้องแคร์เสียงชาวบ้าน ใครจะนินทาอย่างไร ช่างหัวมัน เก็บเงินไว้ให้หลานผมดีกว่า 555 จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 16:43:06

ความคิดเห็นที่ 4   ยายเคยเล่าให้ฟังก็เหมือน #2 นั่นแหละเช่นในครอบครัวเรามี5คนก็ส่งหนึ่งคนไปช่วยแรงงานทั้งวันเลยจนกว่างานจะเสร็จ(บ้านนอก)แต่ระยะหลังต่างต้องแข่งเวลาทำมาหากินมากขึ้นไม่มีเวลาเลยคิดว่าช่วยเป็นเงินค่าใช้จ่ายในการจัดการเรืองงานศพแทน จะเห็นว่าบางเจ้าภาพที่ไม่มีปัญหาการใช้จ่ายเขาจะบริจาคเงินจำนวนนี้เพื่อการกุศลต่อไป จากคุณ : ฉันคนเกาหลีชื่อจนจังกู เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 18:13:49

ความคิดเห็นที่ 5   ผมไม่รู้การใส่ซองมันจะกลายเป็นปัญหาได้หรือเปล่า ปกติบนกระดานก็จะเห็นชื่อเจ้าภาพในแต่ละวันอยู่แล้ว ซึ่งก็คือผู้ที่ช่วยออกค่าใช้จ่ายในวันนั้นหรือแล้วแต่จะกำหนด พอมีซองเงินสด ก็จะเป็นเงินส่วนเกิน ญาติคนไหนก็รับซองจากคนที่ตัวรู้จัก หรือครอบครัวรู้จัก ลงกองกลาง แล้วแต่ครอบครัวจะเอาไปทำอะไร ถ้าแขกเยอะ ก็อาจเป็นเงินหลายแสน ถ้าบ้านไหนสามัคคีกันดีก็ดีไป ถ้าบ้านไหนไม่สามัคคีก็คงมีปัญหา ไม่เหมือนซองงานแต่งงาน เพราะไม่มีใครมาแย่งบ่าวสาว นอกจากเม้มซอง ผมคิดว่าสมัยเมื่อ 50-60 ปีก่อน ไม่มีการใส่ซองหรือเปล่าครับ จากคุณ : กนก67 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 20:39:18 A:58.64.68.252 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 6   เรื่องการใส่ซองนี่ไม่ทราบที่ไปที่มาจริงๆๆ แต่ทราบว่าบางบ้านมีงานศพ เวลาคนมาช่วยซองแล้วนั้นก็จะนำเงินไปทำกิจกรรมต่างๆๆออกไปบางคนเอามาออกค่าใช้จ่ายในการจัดงาน บางคนนำเงินทั้งหมดบริจาคให้เป็นสาธารณะกุศล  คงอาจจะเป็นเพราะเราเคยไปช่วยเค้ามาก่อนแล้วเมื่อถึงงานเราเค้าเลยมาช่วยเราคืน คือแบบนี้ ที่บ้านผมนั้นเมื่อมีงานอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องแจกซองไป เมื่อแขกเค้านำซองมาให้เรา ก็จะจดบันทึกเอาไว้ว่าใครมาช่วยซองเรา ใส่มาเท่าไหร่ เมื่อถึงเวลาที่บ้านเค้ามีงานก็จะเปิดดูสมุดบันทึกนี่แหละเมื่อจะได้ทราบว่าเค้าใส่ให้เรามาเท่าไหร่ แล้วก็ใส่ไปเท่ากับที่เค้าใส่มาหรือให้มากกว่าที่เค้าเคยใส่ให้เรามา ผมทราบแต่เพียงธรรมเนียมพวกนี้มากกว่า  อย่างบ้านไหนมีลูกเยอะๆๆๆได้เปรียบ ไหนจะงานแต่ง งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ สารพัดจะงาน รับซองเละ ส่วนบ้านไหนลูกน้อยจะเสียเปรียบ ฮ่าาา จากประสบการณ์ในการจัดงานสารพัดนั้น โอกาสน้อยมากที่จัดงานแล้วได้กำไร ส่วนใหญ่จะขาดทุนทั้งนั้น จากคุณ : ติดปีกบินไปให้ไกลไกลแสนไกล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 52 21:38:44

ความคิดเห็นที่ 7   เขาเรียกกันว่าเอาเงินใส่ซองช่วยทำบุญให้ผู้ตาย เมื่อประมาณยุค 60s เวลา ไปในงานเผาศพก็มักจะมอบซองใส่เงินช่วยทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย ประมาณ 20-50 บาท แล้วแต่ความคุ้นเคย ยุค 80s นี่ชักเริ่มเป็นใบม่วงแล้ว ก่อนหน้านั้นหน่อยนึงก็สัก 2-300 บาท เดี๋ยวนี้อย่างต่ำคือใบม่วง จากคุณ : satitp เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 00:58:38

ความคิดเห็นที่ 8   ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า การให้เงินใส่ซองเป็นประเพณีการทำบุญในงานศพมานานมากแล้ว ถูกไหมครับ ซึ่งปัจจุบันโดยทั่วไปก็จะใส่กัน 500 ขึ้นไป จากคุณ : กนก67 เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 09:03:29 A:58.64.71.34 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 9   สมัยก่อนนู้น  ใครมีอะไรก็นำมาช่วยกัน แป๊ะแอ้ดขายหมูหาบหมูมาช่วยงานศพคุณนายท่านผู้ว่า เจอกับกำนันไทยเข้า  กำนันสะดุ้งโหยง   งานศพผู้ว่านะแป๊ะ  ผู้ว่าเท่งทึง คุณนายยังอยู่ แป๊ะร้องเสียงแปลก ๆ   หาบหมูกลับบ้านไปเลย (ต่อมาแป๊ะก็ไปเป็นนักร้อง   ลือกันมาว่าเสียงดีมาก   ข่าวลือนี้กรองแล้ว) จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 11:23:19