ความคิดเห็นที่ 1   ยุคสมัยของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย แบ่งตามลักษณะและวิธีการประดับได้เป็น ๒ สมัย ๑. สมัยก่อนปี พ.ศ. ๒๔๐๐ ๒. สมัยหลังปี พ.ศ. ๒๔๐๐ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทยสมัยก่อนปี ๒๔๐๐                  ปรากฏหลักฐานมาตั้งแต่ครั้งพระนครศรอยุธยาเป็นราชธานีจนมาถึงสมัยรัชกาลที่ ๔ (พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งราชวงศ์จักรี) คือเครื่องราชชูปโภคสำหรับพระพิชัยสงคราม  ซึ่งถือเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ลักษณะประดับ ไม่ได้ใช้ประดับกับเสื้อ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทยสมัยหลังปี พ.ศ. ๒๔๐๐                   ในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ประมาณ พ.ศ. ๒๔๐๐ พระองค์ได้สร้าง ดารา  (คือเครื่องประกอบราชอิสริยาภรณ์ ตั้งแต่ชั้นทวีติยาภรณ์ขึ้นไป มีลักษณะเป็นดาวรัศมี ๘ แฉกบ้าง ๑๖ แฉกบ้าง ถ้าเป็นดาราจักรี ก็ทำเป็นรูปจักร ๑๐ กลีบ) ขึ้นใช้ติดเสื้อ  ในสมัยนั้นเรียกว่า ตรา  แด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ "เครื่องประดับสำหรับยศ"  เครื่องสำคัญยศ ต่อมาพระองค์ได้ทรงตราระเบียบเครื่องราชอิสริยาภรณ์สยามขึ้นเป็นครั้งแรก  พ.ศ. ๒๔๑๒ โดยโปรดเกล้าฯ ให้เรียกว่า " เครื่องราชอิสริยยศ " ลักษณะการประดับ ใช้ประดับกับเสื้อทั้งสิ้น จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:25:05

ความคิดเห็นที่ 2   ประเภทของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย  ปัจจุบันแบ่งออกป็น ๔ ประเภท      ๑. เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับพระราชทานแก่ปรพมุขของรัฐ      ๒. เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับบำเหน็จความชอบในราชการแผ่นดิน      ๓. เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับบำเหน็จความชอบในพระองค์พระมหากษัตริย์      ๔. เหรียญราชอิสริยาภรณ์ต่าง ๆ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 23:58:24 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:27:27

ความคิดเห็นที่ 3   ๑) เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับพระราชทานแก่ประมุขของรัฐ รัชกาลที่ ๙ ทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ มีอย่างเดียวเรียกว่า " เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นมงคลยิ่งราชมิตราภรณ์ " (ไม่มีประกาศนียบัตรกำกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์  แต่จะประกาศพระนาม / นามของผู้ที่ได้รับพระราชทานในราชกิจจานุเบกษา ) ใช้อักษรย่อว่า "ร.ม.ภ."  มีชั้นเดียว จัดเป็นสำรับประกอบด้วย ๑. ดวงตราสำหรับห้อยสายสร้อย ๒. ดวงตราสำหรับห้อยสายสะพาย ๓. ดารา ๔. สายสร้อย ๕. สายสะพาย สะพายบ่าขวาเฉียงลงทางซ้าย แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 52 00:00:47 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:30:44

ความคิดเห็นที่ 4   สำหรับพระราชทานแก่ประมุขของรัฐต่างประเทศซึ่งเป็นสตรี  ดวงตรา ดาราและสายสะพายมีขนาดย่อมกว่า การพระราชทาน  พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานแก่ประมุขของรัฐต่างประเทศ ที่มีสัมพันธไมตรีต่อกัน แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 52 00:01:25 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:31:51

ความคิดเห็นที่ 5   ๒) เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับบำเหน็จความชอบในราชการแผ่นดิน มี ๘ ชนิด คือ ๒.๑  มหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.)  สร้างสมัย ร.๕ พ.ศ. ๒๔๓๕ คราวครบรอบ ๑๐๐ ปี ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ มีชั้นเดียวพระราชทานทั้งฝ่ายหน้า  และฝ่ายใน เมื่อจัดเป็นสำรับประกอบด้วย มหาจักรี  (ดวงตรา) ห้อยกับสายสร้อย จุลจักรี  (ดวงตรา) ห้อยกับสายสะพาย ดาราจักรี  ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย สายสร้อย สายสะพาย ถ้าเป็นฝ่ายในมีแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอเพิ่มขึ้นอีก  สายสะพายใช้สะพายบ่าซ้ายเฉียงลงทางขวา การพระราชทาน  สำหรับพระราชทานพระบรมวงศานุวงศ์ ผู้สืบเนื่องตามพระราชวงศ์โดยตรง ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ และผู้ซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์ดังกล่าวแล้ว ได้ทรงเสกสมรสด้วย จำนวน  ๒๕ สำรับเท่านั้น สำหรับพระมหากษัตริย์ ๑ สมเด็จพระบรมราชินี ๑ ส่วนอีก ๒๓ สำรับ ทรงพระราชทานตามพระราชอัธยาศัย แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 23:47:10 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:36:44

ความคิดเห็นที่ 6   ผู้ได้รับพระราชทาน  จะได้รับพระราชทานประกาศนียบัตรทรงลงพระปรมาภิไธย และประทับพระราชทานลัญจกรเป็นสำคัญ        การส่งคืน  ต้องนำส่งคืนเมื่อผู้ได้รับพระราชทานวายชนม์ ภายใน ๓๐ วัน หรือถูกเรียกคืน มิฉะนั้นจะต้องรับผิดชอบในราคา แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 23:48:28 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:38:57

ความคิดเห็นที่ 7   ๒.๒  นพรัตนราชวราภรณ์  (น.ร.)  มีชั้นเดียวทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ใช้ประดับไปในงานใหญ่ที่เป็นมงคลเท่านั้น เมื่อจดเป็นสำรับประกอบด้วย ฝ่ายหน้า ๑. มหานพรัตน์ (ดวงตรา)   ๒. ดารานพรัตน์ ๓. แหวนนวรัตน์ ๔. สายสะพายบ่าขวาเฉียงลงซ้าย ของพระมหากษัตริย์เหมือนของฝ่ายหน้า  แต่มีสังวาลย์นพรัตน์ด้วย แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 23:42:48 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:40:26

ความคิดเห็นที่ 8   ฝ่ายใน ๑. มหานพรัตน์ ๒. ดารานพรัตน์ ๓. สายสะพาย  หรือมีแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ      สำหรับสมเด็จพระบรมราชินีเหมือนของฝ่ายใน แต่ไม่มีสังวาลย์นพรัตน์  สำหรับดวงตรานั้นประดับเพชรทั้งสิ้น       การขอพระราชทาน สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่  และผู้ที่เป็นพุทธมามกะเท่านั้น ผู้ได้รับพระราชทาน ได้รับประกาศนียบัตรทรงลงพระปรมาภิไธย  และประทับพระราชทาน การส่งคืน ต้องนำส่งคืนเมื่อผู้ได้รับพระราชทานวายชนม์ ภายใน ๓๐ วัน หรือถูกเรียกคืน มิฉะนั้นต้องชดใช้ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 23:44:53 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:42:07

ความคิดเห็นที่ 9   ๒.๓  จุลจอมเกล้า สร้างสมัย ร. ๕ สำหรับฝ่ายหน้า พ.ศ. ๒๔๑๖ ฝ่ายใน พ.ศ. ๒๔๓๖ การแบ่งชั้น ฝ่ายหน้า ๓ ชั้น ๗ ชนิด, ฝ่ายใน ๔ ชั้น  ๕ ชนิด คือ ฝ่ายหน้า ชั้นที่ ๑ ๑. ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ ป.จ.ว. ไม่จำกัดจำนวน ๒. ปฐมจุลจอมเกล้า ป.จ. 3๐ สำรับ ชั้นที่ ๒ ๓. ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ท.จ.ว. ๒๐๐ สำรับ ๔. ทุติยจุลจอมเกล้า จ.ว. ๒๕๐ ดวง ชั้นที่ ๓ ๕. ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ต.จ.ว. ๒๕๐ ดวง ๖. ตติยจุลจอมเกล้า ต.จ. ๒๕๐ ดวง ๗. ตติยานุจุลจอมเกล้า ต.อ.จ. ๑๐๐ ดวง ในชั้นที่ ๑ ของฝ่ายหน้า คือ ป.จ.ว.  และ ป.จ. เป็นระดับชั้นสายสะพาย ส่วนประกอบในแต่ละชนิด จัดเป็นสำรับได้ดังนี้ ๑. ป.จ.ว. เมื่อจัดเป็นสำรับประกอบด้วย ๑) ดวงตรา สำหรับห้อยกับสายสะพายหรือสายสร้อย ๒) ดารา ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย ๓) ตติยานุจุลจอมเกล้า ๑ ดวง ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย ๔) สายสร้อยมี ๒ ชนิด ทองลงยา หรือทองคำ ๕) สายสะพายบ่าซ้ายเฉียงลงขวา ๒. ป.จ. เมื่อจัดเป็นสำรับประกอบด้วย ๑) ดวงตรา สำหรับห้อยกับสายสะพายหรือสายสร้อย ๒) ดารา ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย ๓) สายสร้อย ๔) สายสะพายบ่าซ้ายเฉียงลงขวา ๓. ท.จ.ว.  จัดเป็นสำรับประกอบด้วย ๑) ดวงตรา สำหรับสวมคอ ๒) ดารา ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย ๔. ท.จ. มีดวงตราสำหรับสวมคอ แต่ไม่มีดารา ๕. ต.จ.ว. มีดวงตราห้อยกับแพรแถบสีชมพู มีดอกไม้จีบติดบนแพรแถบประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย ๖. ต.จ. มีดวงตราห้อยกับแพรแถบสีชมพู ไม่มีดอกไม้ประดับ ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย ๗. ต.อ.จ. เป็นตราเงินห้อยกับแพรแถบ สำหรับพระราชทานผู้สืบสกุลชั้นหลาน  และเป็นตราพิเศษของ ป.จ.ว. ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย ฝ่ายใน ชั้นที่ ๑ ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) ๒๐ สำรับ จัดเป็นสำรับประกอบด้วย ดวงตรา, ดารา สายสะพายบ่าซ้ายเฉียงลงขวา หรือห้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแลงปอที่บ่าซ้าย ชั้นที่ ๒ ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) ๑๐๐  ดวง มีดวงตรา และสายสะพายบ่าซ้ายเฉียงลงขวา หรือแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ ไม่มีดารา ทุติยจุลจอมเกล้า ท.จ. ๑๐๐ ดวง ดวงตราห้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ ชั้นที่ ๓ ตติจุลจอมเกล้า ต.จ. ๒๕๐ ดวง ดวงตราห้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ ชั้นที่ ๔ จตุตถาจุลจอมเกล้า จ.จ. ๑๕๐ ดวง ดวงตราห้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ ฝ่ายในที่ได้รับพระราชทานเครื่องราช ฯ จุลจอมเกล้า - ระดับชั้นสายสะพาย ใช้คำนำนามใหม่ "ท่านผู้หญิง" - ระดับต่ำกว่าชั้นสายสะพาย ใช้คำนำนามใหม่ "คุณหญิง" - ส่วนสตรีที่ไม่ได้สมรส ที่ได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ตั้งแต่ชั้นจตุตถจุลจอมเกล้า ใช้คำนำนามว่า "คุณ" หมายเหตุ   ทั้งนี้ไม่รวมถึงสตรีที่มีบรรดาศักดิ์ว่า "หม่อม" หรือ "ชายา"  หรือหม่อมหลวงหรือหม่อมราชวงศ์ ฯลฯ สำหรับพระมหากษัตริย์เหมือนชั้นสูงสุดฝ่ายหน้า และสมเด็จพระบรมราชินีเหมิอนชั้นสูงสุดฝ่ายใน  แต่ดวงตรา ดารา, สายสร้อยประดับเพชรทั้งสิ้น การพระราชทาน สำหรับผู้ที่ทรงเห็นสมควรหรือผู้มีเกียรติต่างประเทศ  จะได้รับพระราชทานเป็นพิเศษนอกจำนวน ผู้ได้รับพระราชทาน จะได้รับประกาศนียบัตร ทรงลงพระปรมาภิไธยประทับพระราชทานลัญจกรเป็นสำคัญ การพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าสำหรับฝ่ายใน ๑. จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่ผู้ที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควร ๒. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าที่พระราชทานแก่ฝ่ายในนี้ ไม่มีการสืบตระกูล แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 52 00:03:00 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:42:30

ความคิดเห็นที่ 10   ๒.๔  เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี       พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๑  โดยทรงมีพระราชดำริว่า ราชการทหารเป็นกิจการพิเศษ จำต้องใช้กำลังและปัญญา อย่างอุกฤษฎ์ พร้อมที่จะสละชีวิต และร่างกายเป็นราชพลี จึงสมควรให้มีเครื่องราช อิสริยาภรณ์เป็นพิเศษ ได้มีการกำหนดฐานันดรของผู้ซึ่งได้รับพระราชทานตามชั้นยศ ของเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้เป็น ๔ ชั้นด้วยกัน คือ ชั้นที่ ๑ มีฐานันดร เรียกว่า เสนางคะบดี หมายอักษร ส.ร. ข้างหน้านาม ชั้นที่ ๒ มีฐานันดร เรียกว่า มหาโยธิน หมายอักษร ม.ร. ข้างหน้านาม ชั้นที่ ๓ มีฐานันดร เรียกว่า โยธิน หมายอักษร ย.ร. ข้างหน้านาม ชั้นที่ ๔ มีฐานันดร เรียกว่า อัศวิน หมายอักษร อ.ร. ข้างหน้านาม มีเหรียญอีก ๒ ชั้น คือ เหรียญรามมาลาเข็มกล้าสมร หมายอักษร ร.ม.ก. และเหรียญรามมาลา หมายอักษร ร.ม. ข้างหน้านาม หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้ระงับการขอพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ไประยะหนึ่ง ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันมีศักดิ์รามาธิบดีขึ้นใหม่ ได้ถวายอำนาจแก่พระมหากษัตริย์ที่จะพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ โดยไม่ต้องผ่านคณะที่ปรึกษาเหมือนแต่ก่อน ผู้ที่จะได้รับพระราชทานกฎหมายได้กำหนดลักษณะความชอบไว้ว่า ต้องทำความดีความชอบเป็นพิเศษ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ราชการทหาร ทั้งในยามสงบและยามสงคราม ตามที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชดำริเห็นสมควร ผู้ที่มีเกียรติอย่างยิ่งชาวต่างประเทศ อาจพระราชทานได้เป็นกรณีพิเศษ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:45:29

ความคิดเห็นที่ 11   สำหรับฐานันดรของผู้ได้รับพระราชทาน ตามกฏหมายเดิมได้ยกเลิกไป และแบ่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้เป็น ๖ ชั้น คือ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:46:47

ความคิดเห็นที่ 12   ชั้นที่ ๑ เสนางคะบดี               ใช้อัษรย่อ ส.ร. ประกอบด้วย ดารารูปไข่ ทำด้วยทอง มีปลายแหลมออกไปทั้งสี่ทิศ กลางดารา ด้านหน้าเป็นรูปพระปรศุรามาวตารปราบพญาการตวีรยะอยู่บนพื้น ลงยาสีลูกหว้าอ่อน ด้านหลังเป็นรูปอักษรพระปรมาธิไธยย่อ ร.ร. กับเลข ๖ อยู่ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ บนพื้นลงยาสีขาว ขอบสีขาบ มีรัศมีเงินแฉกใหญ่แปดแฉก รัศมีทองแฉกเล็กแทรกแปดแฉก การประดับให้ประดับที่หน้าอกเสื้อเบื้องซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:51:39

ความคิดเห็นที่ 13   แพรแถบสายสะพายกว้าง ๑๐ เซนติเมตร สีดำมีริ้วแดงกว้าง ๒ เซนติเมตร อยู่ใกล้ขอบทั้งสองข้าง มีดวงตราสำหรับห้อยกับสายสะพาย เป็นรูปไข่ทำด้วยทอง มีลายรูปอย่างเดียวกับกลางดาราแต่ไม่มีรัศมี สายสะพายนี้ให้สวมเฉียงจากขวาไปซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:52:34

ความคิดเห็นที่ 14   ชั้นที่ ๒ มหาโยธิน                  ใช้อัษรย่อ ม.ร. ประกอบด้วย ดารามีลักษณะเช่นเดียวกับเสนางคะบดี แต่ใช้ประดับที่หน้าอก เบื้องขวา จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:56:37

ความคิดเห็นที่ 15   ดวงตรามีลักษณะเช่นเดียวกับเสนางคะบดี แต่ใช้ห้อยแพรแถบ กว้าง ๔๕ มิลลิเมตร สีเดียวกับสายสะพายเสนางคะบดี สำหรับห้อยคอ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:57:42

ความคิดเห็นที่ 16   ชั้นที่ ๓ โยธิน            ใช้อัษรย่อ ย.ร. มีดวงตราลักษณะเดียวกับมหาโยธิน ห้อยกับแพรแถบคล้องคอไม่มีดารา จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 15:59:41

ความคิดเห็นที่ 17   ชั้นที่ ๔ อัศวิน   ใ               ช้อัษรย่อ อ.ร. มีดวงตราลักษณะเดียวกับโยธิน แต่ขนาดย่อมกว่า ใช้ห้อยกับแพรแถบ ขนาดกว้าง 32 มิลลิเมตร ประดับที่หน้าอกเสื้อเบื้องซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:00:53

ความคิดเห็นที่ 18   ชั้นที่ ๕ เหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร   ใ             ช้อัษรย่อ ร.ม.ก. ตัวเหรียญเป็นรูปไข่ทำด้วยเงิน ด้านหน้าเป็นรูปปรศุรามาวตารปราบพญาการตวีรยะ ด้านหลังเป็นพระปรมาภิไธยย่อ ร.ร. กับเลข ๖ อยู่ใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ ห้อยกับแพรแถบ กว้าง ๓๒ มิลลิเมตร มีเครื่องหมายวชิราวุธที่แพรแถบ ใช้ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย ในกรณีแต่งเครื่องแบบ ให้ประดับที่อกเสื้อเบื้องขวา ในกรณีที่แต่งชุดสากลให้ประดับที่คอพับเสื้อนอกเบื้องซ้าย ใต้ดุมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:02:25

ความคิดเห็นที่ 19   ชั้นที่ ๖ เหรียญรามมาลา                มีลักษณะเช่นเดียวกับ ชั้นที่ ๕ แต่ไม่มีเครื่องหมาย วชิราวุธที่แพรแถบใช้ประดับที่ หน้าอกเสื้อเบื้องซ้าย ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ตั้งแต่ชั้นอัศวินหรือชั้น ๔ ขึ้นไป จะได้รับพระราชทาน ประกาศนียบัตร ลงพระปรมาภิไธย และประทับตราพระราชลัญจกร ส่วนผู้ที่ได้รับพระราชทานชั้น ๕ และชั้น ๖ จะประกาศนาม ในราชกิจจานุเบกษาอย่างเดียว ไม่มีประกาศนียบัตร เมื่อผู้ได้รับวายชนม์หรือได้รับเลื่อนชั้นสูงขึ้นไม่ต้องส่งคืน เว้นแต่จะทรง เรียกคืนเป็นกรณีไป จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:03:20

ความคิดเห็นที่ 20   ๒.๕  เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก                 สร้างในสมัย ร. ๔  พ.ศ. ๒๔๐๔  และ  ร. ๕  ได้ทรงจัดสร้างเสียใหม่  มีทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน  โดยกำหนดแบ่งออกเป็น  ๘  ชั้น คือ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:06:26

ความคิดเห็นที่ 21   ชั้นสูงสุด        เรียกว่า   มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก  (ม.ป.ช.)           เมื่อจัดเป็นสำรับประกอบด้วย                                             -     ดวงตรา   สำหรับห้อยกับสายสะพ -     สายสะพาย   สะพายบ่าซ้ายเฉียงลงมาทางขวา จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:09:17

ความคิดเห็นที่ 22   -     ดารา   ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:10:23

ความคิดเห็นที่ 23   ชั้นที่  ๑            เรียกว่า   ประถมาภรณ์ช้างเผือก  (ป.ช.)  เ มื่อจัดเป็นสำรับประกอบด้วย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:14:40

ความคิดเห็นที่ 24   -     ดวงตรา   สำหรับห้อยกับสายสะพาย                                             -     ดารา   ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย                                             -     สายสะพาย   สะพายบ่าขวาเฉียงลงมาทางซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:15:36

ความคิดเห็นที่ 25   ชั้นที่  ๒           เรียกว่า   ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก  (ท.ช.) เมื่อจัดเป็นสำรับประกอบด้วย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:18:52

ความคิดเห็นที่ 26   -     ดวงตรา   ฝ่ายหน้าห้อยกับแพรแถบใช้สวมคอ   ฝ่ายในห้อยแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอประดับบ่าซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:21:45

ความคิดเห็นที่ 27   ดารา   ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:22:42

ความคิดเห็นที่ 28   ชั้นที่  ๓            เรียกว่า   ตริตาภรณ์ช้างเผือก  (ต.ช.) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:25:55

ความคิดเห็นที่ 29   ฝ่ายหน้ามีดวงตราห้อยกับแพรแถบใช้สวมคอ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:26:58

ความคิดเห็นที่ 30   ตริตาภรณ์ช้างเผือก จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:28:07

ความคิดเห็นที่ 31   ฝ่ายในห้อยแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ  ประดับบ่าซ้าย ไม่มีดารา จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:28:59

ความคิดเห็นที่ 32   ชั้นที่  ๔            เรียกว่า   จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก  (จ.ช.) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:31:21

ความคิดเห็นที่ 33   มีดวงตราห้อยกับแพรแถบ มีดอกไม้จีบติดบนแพร   สำหรับประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:32:45

ความคิดเห็นที่ 34   สำหรับฝ่ายในห้อยกับแพรแถบ  ผูกเป็นรูปแมลงปอ    ประดับที่หน้าบ่าซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:33:48

ความคิดเห็นที่ 35   ชั้นที่  ๕            เรียกว่า   เบญจมาภรณ์ช้างเผือก  (บ.ช.)                        มีดวงตราห้อยกับแพรแถบไม่มีดอกไม้จีบ   ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย                       สำหรับฝ่ายในห้อยกับแพรแถบ ผูกเป็นรูปแมลงปอ  ประดับที่บ่าซ้าย แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 16:40:49 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 16:39:31 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:36:21

ความคิดเห็นที่ 36   ชั้นที่  ๖             เหรียญทองช้างเผือก  (ร.ท.ช.)  ฝ่ายหน้าห้อยกับแพรแถบ ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย                                               ฝ่ายในห้อยแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอประดับบ่าซ้าย              ชั้นที่  ๗            เหรียญเงินช้างเผือก  (ร.ง.ช.)  ฝ่ายหน้าห้อยแพรแถบประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย                                               สำหรับฝ่ายในห้อยแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอประดับบ่าซ้าย การพระราชทาน                 สำหรับผู้ทำความดีความชอบแก่ประเทศชาติ  และสาธารณชน ผู้มีเกียรติของต่างประเทศ ผู้ได้รับพระราชทาน           ได้รับตั้งแต่ชั้น  ๕  ขึ้นไปถึงชั้นสูงสุด  มีประกาศนียบัตรกำกับ  ทรงลงพระปรมาภิไธย                                                และประทับพระราชลัญจกร   ส่วนชั้น  ๖  และ  ๗  ไม่มีประกาศนียบัตร  แต่มีชื่อในราชกิจจา ฯ การส่งคืน                             ส่งคืนเมื่อเลื่อนชั้น,  วายชนม์  หรือถูกเรียกคืน ภายใน ๓๐ วัน  หรือชดใช้ราคา จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:42:47

ความคิดเห็นที่ 37   ๒.๖  เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย                    สร้างในสมัย ร. ๕  พ.ศ. ๒๔๑๒   มีทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน  ปัจจุบันกำหนดแบ่งออกเป็น  ๘  ชั้น คือ ชั้นสูงสุด        เรียกว่า   มหาวชิรมงกุฎ  (ม.ว.ม.)  เมื่อจัดเป็นสำรับประกอบด้วย แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 16:52:20 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:49:47

ความคิดเห็นที่ 38                                               -    ดวงตรา    สำหรับห้อยกับสายสะพาย                                             -    ดารา    ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย                                             -    สายสะพาย    สะพายบ่าซ้ายเฉียงลงขวา แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 16:52:58 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:51:20

ความคิดเห็นที่ 39   ชั้นที่  ๑            เรียกว่า    ประถมาภรณ์มงกุฎไทย  (ป.ม.)  เมื่อจัดเป็นสำรับประกอบด้วย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:55:03

ความคิดเห็นที่ 40   -    ดวงตรา    ห้อยกับสายสะพาย -    ดารา    ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย -    สายสะพาย    สะพานบ่าเฉียงลงทางซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 16:56:32

ความคิดเห็นที่ 41   ชั้นที่  ๒           เรียกว่า    ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย  (ท.ม.)  จัดเป็นสำรับประกอบด้วย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:04:09

ความคิดเห็นที่ 42   ดวงตรา    ฝ่ายหน้าห้อยกับแพรแถบใช้สวมคอ                   สำหรับฝ่ายในแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงป ประดับบ่าซ้าย   ดารา    ประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:06:15

ความคิดเห็นที่ 43   ชั้นที่  ๓            เรียกว่า    ตริตาภรณ์มงกุฎไทย  (ต.ม.) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:11:27

ความคิดเห็นที่ 44   ฝ่ายหน้ามีดวงตราห้อยกับแพรแถบใช้สวมคอ สำหรับฝ่ายในแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอประดับบ่าซ้าย  ไม่มีดารา จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:12:26

ความคิดเห็นที่ 45   ชั้นที่  ๔            เรียกว่า    จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย  (จ.ม.) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:16:56

ความคิดเห็นที่ 46   ฝ่ายหน้ามีดวงตราห้อยกับแพรแถบมีดอกไม้จีบ ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย  ฝ่ายในห้อยกับแพรแถบ  ผูกเป็นรูปแมลงปอประดับบ่าซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:17:51

ความคิดเห็นที่ 47   ชั้นที่  ๕            เรียกว่า    เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย  (บ.ม.) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:20:18

ความคิดเห็นที่ 48   ฝ่ายหน้ามีดวงตราห้อยกับแพรแถบ  ไม่มีดอกไม้จีบ ประดับเช่นเดียวกับชั้นที่  ๔  ทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:21:42

ความคิดเห็นที่ 49   ชั้นที่  ๖             เรียกว่า    เหรียญทองมงกุฎไทย  (ร.ท.ม.)  มีเหรียญทองห้อยแพรแถบ ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย                                               ฝ่ายในห้อยกับแพรแถบผูกเป็นแมลงปอประดับบ่าซ้าย              ชั้นที่  ๗            เรียกว่า    เหรียญเงินมงกุฎไทย  (ร.ง.ม.)  มีเหรียญเงินห้อยกับแพรแถบ  ประดับเช่นเดียวกับชั้นที่  ๖                                               ทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน การพระราชทาน                สำหรับผู้ทำความดีความชอบต่อชาติและสาธารณชน  หรือผู้มีเกียรติของต่างประเทศ ผู้ได้รับพระราชทาน          ได้รับตั้งชั้นที่  ๕  ขึ้นไป  ได้รับพระราชทานประกาศนียบัตร  ทรงลงพระปรมาภิไธย                                                และประทับพระราชลัญจกร  ชั้นที่ ๖ และ ๗ ไม่มี  แต่ประกาศชื่อในราชกิจจา ฯ การส่งคืน                             ส่งคืนเมื่อเลื่อนชั้น,  วายชนม์  หรือถูกเรียกคืน ภายใน ๓๐ วัน หรือชดใช้ราคา จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:22:30

ความคิดเห็นที่ 50   ๒.๗  เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ  ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ               รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช พ.ศ. ๒๕๓๐  โปรดเกล้า ฯ  ให้สร้างตามพระราชบัญญัติเหรียญลูกเสือ  (ฉบับที่ ๔)  พ.ศ. ๒๕๓๐  ในโอกาสครบรอบ  ๗๕  ปี  ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ  พระราชทานกำเนิดกิจการลูกเสือไทย  เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๕   และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ในวโรกาสมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ  อีกทั้งเพื่อส่งเสริมกำลังใจแก่ผู้อุทิศตนให้กิจการลูกเสืออย่างแท้จริง ด้านหน้า    มีลักษณะเป็นรูปกลมรี  พื้นลงยาสีน้ำเงิน  ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร  ส่วนสูง ๓.๓ เซนติเมตร  กลางดวงตรามีตราหน้าเสือประกอบวชิระเงิน  ล้อมด้วยเม็ดไข่ปลาสีทอง และมีรัศมีเงินโดยรอบแปดแฉก  คั่นด้วยกระจังสีทอง  เบื้องบนมีพระมหามงกุฎรัศมีฉลุโปร่ง และเลข " ๙"  สีทอง ด้านหลัง    กลางดวงตราเป็นดุม  พื้นลงยาสีม่วง  มีรูปตราของคณะลูกเสือโลก  เบื้องล่างมีอักษรสีน้ำเงินว่า  "เราจะทำนุบำรุงกิจการลูกเสือไทย"  ที่ขอบส่วนบนของดวงตรามีห่วงห้อยแพรแถบคล้องคอ การพระราชทาน                ๑.    สำหรับพระราชทานแก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ ๑  และได้มีอุปการคุณช่วยเหลือลูกเสือ อย่างต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี นับแต่วันที่ได้รับพระราชทานเหรียญสดุดี ชั้นที่ ๑                ๒.    เมื่อคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ พิจารณาเห็นว่าผู้ใดสมควรได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามากีรติลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ  ให้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานต่อไป                ๓.    พระราชทานให้เป็นกรรมสิทธิ์  เมื่อผู้ได้รับพระราชทานวายชนม์ให้ทายาทโดยธรรมรักษาไว้เป็นที่ระลึก จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:23:44

ความคิดเห็นที่ 51   ๒.๘  เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์  พ.ศ. ๒๕๓๔        เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช   พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๔  เป็นเดรื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลใหม่  สำหรับพระราชทานแก่แก่ผู้กระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน  ตามที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควร  โดยมีการตรา  "พระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์   พ.ศ. ๒๕๓๔" จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:25:07

ความคิดเห็นที่ 52   เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์  มีชื่อและมีอักษรย่อตามลำดับชั้น ๗ ชั้น  พระราชทานให้ทั้งบุรุษและสตรี  ดังนี้ ชั้นที่ ๑     ปฐมดิเรกคุณาภรณ์                                            ป.ภ. ชั้นที่ ๒    ทุติยดิเรกคุณาภรณ์                                            ท.ภ. ชั้นที่ ๓    ตติยดิเรกคุณาภรณ์                                             ต.ภ. ชั้นที่ ๔    จตุตถดิเรกคุณาภรณ์                                           จ.ภ. ชั้นที่ ๕    เบญจมดิเรกคุณาภรณ์                                        บ.ภ. ชั้นที่ ๖    เหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์                                  ร.ท.ภ. ชั้นที่ ๗    เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์                                   ร.ง.ภ. ชั้นที่ ๑    ปฐมดิเรกคุณาภรณ์                สำหรับพระราชทานบุรุษ                                ประกอบด้วย ดวงตรา  ดารา  และสายสะพาย                สำหรับพระราชทานสตรี                                 ประกอบด้วย ดวงตรา  ดารา  และสายสะพาย  มีลักษณะเหมือนอย่างที่พระราชทานบุรุษ  แต่มีขนาดย่อมกว่า                                         ดวงตรา        ห้อยกับสายสะพาย                                         ดารา              ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย                                         สายสะพาย   ประกอบกับดวงตราสะพายบ่าขวาเฉียงลงซ้าย ชั้นที่ ๒    ทุติยดิเรกคุณาภรณ์                สำหรับพระราชทานบุรุษ                                ประกอบด้วย ดวงตรา  ดารา  และแพรแถบ                  สำหรับพระราชทานสตรี                                 ประกอบด้วย ดวงตรา  ดารา  มีขนาดย่อมกว่า  และดวงตราห้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ                                 ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย                                         ดวงตรา        ห้อยกับแพรแถบ  ใช้สวมคอ  ฝ่ายสตรี ดวงตราใช้ห้อยกับแพรแถบ                                                                  ผูกเป็นรูปแมลงปอ  ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย                                         ดารา              ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย ชั้นที่ ๓    ทุติยดิเรกคุณาภรณ์                สำหรับพระราชทานบุรุษ                                         ดวงตรา        มีลักษณะอย่างทุติยดิเรกคุณาภรณ์  ห้อยกับแพรแถบ  ขนาดกว้าง ๔ เซนติเมตร                                                                 ใช้สวมคอ                สำหรับพระราชทานสตรี                                         ดวงตรา        มีขนาดย่อมกว่า  สำหรับห้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ  ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:25:46

ความคิดเห็นที่ 53   ชั้นที่ ๔    จตุตถดิเรกคุณาภรณ์                สำหรับพระราชทานบุรุษ                                         ดวงตรา        มีลักษณะอย่างตติดิเรกคุณาภรณ์  แต่มีขนาดย่อมกว่า  ห้อยกับแพรแถบ                                                                  มีดอกไม้จีบติดบนแพรแถบ  ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย                 สำหรับพระราชทานสตรี                                         ดวงตรา        ร้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ  ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย ชั้นที่ ๕    เบญจมดิเรกคุณาภรณ์                สำหรับพระราชทานบุรุษ                                         ดวงตรา        มีลักษณะอย่างจตุตถดิเรกคุณาภรณ์  ห้อยกับแพรแถบขนาดกว้าง ๓ เซนติเมตร                                                                 แต่ไมมีดอกไม้จีบติดบนแพรแถบ  ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย                 สำหรับพระราชทานสตรี                                         ดวงตรา        ร้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ  ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย   ชั้นที่ ๖    เหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์                 สำหรับพระราชทานบุรุษ                  มีลักษณะเป็นเหรียญรูปกลมสีทองล้อมรอบด้วยกระจังกลีบบัวแปดกลีบ  เบื้องบนมีพระมหามงกุฎ  มีรัศมีและอุณาโลม  ห้อยกับแพรแถบขนาดกว้าง ๓ เซนติเมตร  สีเขียวริมสีแดงชาด  มีริ้วสีขาวและสีเหลืองขนาดเล็ก ควบคั่นทั้งสองข้าง  ด้านหลังมีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ  ภ.ป.ร. ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย                 สำหรับพระราชทานสตรี                 มีลักษณะรูปกลมสีทอง  แพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ  ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย ชั้นที่ ๗   เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์                 สำหรับพระราชทานบุรุษ                  เป็นเหรียญรูปกลมสีเงิน  ห้อยกับแพรแถบอย่างเดียวกับเหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์  ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย                 สำหรับพระราชทานสตรี                 เป็นเหรียญรูปกลมสีเงิน  ร้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ  ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:26:25

ความคิดเห็นที่ 54   การพระราชทาน  และการส่งคืน / การเรียกคืน ๑.    พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประธานของเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์  และทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะพระราชทานและเรียกคืน ๒.    เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ สำหรับพระราชทานแก่ผู้กระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ  ศาสนา  และประชาชน  ตามที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควร ๓.    การขอพระราชทาน  ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์  วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา ๔.    ผู้ได้รับพระราชทานจะได้ประกาศนามในราชกิจจานุเบกษา  สำหรับผู้ได้รับพระราชทานตั้งแต่ชั้นที่ ๕ ขึ้นไป  ให้มีประกาศนียบัตรทรงลงพระปรมาภิไธย  และประทับพระราชลัญจกร ๕.    เมื่อได้รับพระทานชั้นสูงขึ้นต้องส่งคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นรอง  ถ้าไม่ส่งคืนจะต้องชดใช้เงิน  และเมื่อผู้ได้รับพระทานวายชนม์ให้ทายาทเก็บรักษาเครื่องราชอิสริยาภรณ์เฉพาะชั้นสูงสุดไว้เป็นกรรมสิทธิ์ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:26:53

ความคิดเห็นที่ 55   ๓)  เครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับบำเหน็จความชอบในพระองค์พระมหากษัตริย์            พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ ๖  ทรงสร้างขึ้นสำหรับพระราชทานเป็นเฉพาะพระองค์  มี ๓ อย่างคือ ๓.๑    ตรารัตนวราภรณ์ (ร.ว.) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:52:27

ความคิดเห็นที่ 56   ตรารัตนวราภรณ์ (ร.ว.) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:53:11

ความคิดเห็นที่ 57   ๓.๒    ตราวัลลภาภรณ์ (ว.ก.) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:54:05

ความคิดเห็นที่ 58   ๓.๓    ตราวชิรมาลา (ว.ม.ล.) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:54:55

ความคิดเห็นที่ 59   ขออนุญาต คุณ Tintila นะครับ ผมว่า รูปประกอบกับเนื้อหาบางช่วง ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน คือ ใน ค.ค.ห.ที่ ๓ และ ๔ เนื้่อเรื่องคือ ม.จ.ก. แต่ภาพประกอบเป็น ร.ม.ภ. ค.ค.ห.ที่ ๕ และ ๖ เนื้อเรื่องคือ น.ร แตภาพเป็น ม.จ.ก. ค.ค.ห. ที่ ๗ และ ๙ เนื้องเรื่องคือ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า แต่ ภาพเป็น น.ร. ข้อสังเกต ของเครื่องราชทั้ง ๔ ตระกูลคือ ร.ม.ภ. และ ม.จ.ก. จะเป็นแพรแทบสีเหลืองทั้งคู่ แต่ ร.ม.ภ. จะมีริ้วสีขาว และน้ำเงินด้านข้าง ส่วนดารา จะเป็นรูปพระครุฑพ่าห์ และสายสร้อยจะเป็นตรามหาจักรีเช่นกัน แต่ด้านบน จะปรากฎอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. เพื่อแสดงว่า เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงสร้างขึ้นฃ ส่วน ม.จ.ก. นั้น สีของแพรแทบ ที่เป็นสีเหลือง ก็จะสื่อถึงว่า สีเหลืองเป็นสีประจำพระบรมจักรีวงศ์ ส่วนดารา จะเป็น ตรามหาอนุโลม อันคือ พระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ ๑ และตรามหาจักรีและจุลจักรี จะเป็น ตรามหาจักรี อันเป็นพระนาม แห่งพระบรมราชวงศ์ น.ร. สีของแพรแถบ คือ สีเหลือง ขอบเขียว ริ้วแดงและน้ำเงิน ส่วนดารานพรัตน์ และตรามหานพรัตน์ จะมีการประดับ อัญมณี ทั้ง ๙ ชนิด ซึ่งเป็นที่มาของนามเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลนี้คึอ นพรัตนราชวราภรณ์ ส่วนเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า สีของแพรแถบ คือ สีชมพู คือ สีประจำวันพระบรมราชสมภม ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนดารา จะเป็น อักษรพระปรมาภิไธย จ.จ.จ. จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:56:31

ความคิดเห็นที่ 60   * จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 18:03:13

ความคิดเห็นที่ 61   พระฉายาลักษณ์หมู่ พระบรมวงศานุวงศ์ ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ในการพระราชพิธีเก็บพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ประดับ ป.จ.ว. สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์, และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประดับ ป.จ. ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ประดับ ท.จ.ว. ที่มาของภาพ: สำนักพระราชวัง จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 18:12:27

ความคิดเห็นที่ 62   ** จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 18:13:04

ความคิดเห็นที่ 63   ขอบคุณจขกท.ที่ข้อมูลน่ารู้มาสู่กันนะคับ แต่ว่า บางส่วนภาพไม่ตรงกับเนื้อหานะคับ ภาพราชมิตราภณ์ลงมาอยู่กับมจก นร.ลงมาอยู่กับจุลจอมเกล้า^^? จากคุณ : antigen-U เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 18:44:43

ความคิดเห็นที่ 64   ขอทราบแหล่งที่มาเนื้อหาหน่อยครับ จากคุณ : mr.benz เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 19:34:46

ความคิดเห็นที่ 65   คุณ : พระนายไวย คะ   ดิฉันแก้ข้อมูลถูกต้องหรือยัง เป็นความผิดพลาดที่ดูภาพสลับกัน     ต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบคุณที่ช่วยแก้ไขให้ถูกต้องค่ะ ขอบคุณคุณ : antigen-U ที่ช่วยทักท้วงค่ะ ข้อมูลไม่ได้บอกเพราะโพสท์ยังไม่เสร็จค่ะคุณ : mr.benz พอดีต้องรีบไปรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ กลับจากเชียงใหม่ ข้อมูลจากหอมรดกไทย จากเว็บของกระทรวงกลาโหม (ผ่านทางสมาคมภริยาข้าราชการ สปค่ะ ) จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:30:34

ความคิดเห็นที่ 66   *** จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:33:18

ความคิดเห็นที่ 67   เหรียญที่ระลึกต่าง ๆ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:42:21

ความคิดเห็นที่ 68   เหรียญที่ระลึก จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:43:17

ความคิดเห็นที่ 69   การประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทยกับเครื่องแบบต่าง ๆ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:47:11

ความคิดเห็นที่ 70   * จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:48:51

ความคิดเห็นที่ 71   ฝ่ายหญิง จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:52:04

ความคิดเห็นที่ 72   การประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 52 01:00:22 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:53:57

ความคิดเห็นที่ 73   ชั้นสายสะพาย แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 52 01:01:03 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:55:01

ความคิดเห็นที่ 74   ขั้นตอนการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 00:59:17

ความคิดเห็นที่ 75   * จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 01:03:50

ความคิดเห็นที่ 76   ** จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 01:05:32

ความคิดเห็นที่ 77   พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์(Knight Grand Cross (First Class) of the Most Admirable Order of the Direkgunabhorn) จากคุณ : อ.ม.ภักดิราช เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 10:01:45

ความคิดเห็นที่ 78   ตกลง ม.จ.ก. สูงกว่า น.ร. เหรอครับ หลเข้าใจผิดตั้งนานว่า น.ร. สูงกว่า ม.จ.ก. ขอบคุณจขกท.ที่นำความรู้มาให้ครับ  หายไปนานเลย หลังจากกระทู้มาลัยข้อพระกร อิอิ จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 13:25:08

ความคิดเห็นที่ 79   สงสัยคุณ : U4704570 ไมได้เข้าห้องสมุดมากกว่าค่ะ  ตั้งไปหลายกระทู้นะคะ K8484543    เหรียญอันเนื่องจากการรบ K8476515     น้ำอภิเษก K8460814      ภาพวาดที่วัดเจดีย์งาม K8406899       ธงในองค์พระมหากษัตริย์ ขอบคุณที่เข้ามาทักทายค่ะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 15:23:57

ความคิดเห็นที่ 80   ก่อนไปทำวัตรเย็น ขอมอบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์(The Ancient and Auspicious Order of the Nine Gems) อีกพระรูป นะขอรับ จากคุณ : อ.ม.ภักดิราช เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 16:27:32

ความคิดเห็นที่ 81   ขอบคุณ หลวงพี่อ.ม.ภักดิราช ด้วยครับ ส่วนตัวแทบไม่ค่อยได้เห็นในหลวงทรงเครื่องราชย์ฯปฐมดิเรกคุณาภรณ์เลย วันนี้เลยได้เห็นเลย เข้ามาลงชื่อขอบคุณความรู้เรื่องเครื่องราชยฯ คุณ tintila ครับ ว่าแต่เห็นได้มีโอกาสไปเฝ้าเจ้านายอีก หากจะนำพวงมาลัยข้อพระกรมาให้ชมอีกก็ดีนะครับ จากกระทู้เก่า ตามชมทุกรูป สวยจริงๆ จากคุณ : เด็กท้ายวัง เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 18:22:59

ความคิดเห็นที่ 82   กระทู้ดีอีกแล้ว อยากเห็นครุยที่เป็นลักษณะของเครื่องราชฯด้วยครับ คุณ tintila หรือ ท่านใดมีช่วยลงประกอบเป็นความรู้ด้วยครับ จากคุณ : เจ้่าชายกบ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 22:25:54

ความคิดเห็นที่ 83   ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ จากคุณ : หัวใจถวายวัด เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 22:57:26

ความคิดเห็นที่ 84   มิเป็นไรหามิได้ นำพระบรมฉายาลักษณ์ มาแบ่งปันเพื่อที่จะได้ชื่นชมพระราชบารมี นะขอรับ คุณโยม เด็กท้ายวัง จากคุณ : อ.ม.ภักดิราช เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 12:49:47

ความคิดเห็นที่ 85   ภาพที่ หลวงพี่ อ.ม.ภักดิราช โพสต์ใน ค.ค.ห ที่ ๗๗ น่าจะเป็นครั้งเดียวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นปฐมภรณ์ดิเรกคุณาภรณ์ ในการถวายบังคับพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและในปี ๒๕๔๐ จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 14:54:16

ความคิดเห็นที่ 86   ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยากทำสารนิพนธ์มากกก รองจากพระเมรุเลยทีเดียว แต่... อาจารย์ไม่ให้ เพราะมีคนทำไปแล้วสองรอบ และรอบสุดท้ายก็ทำไว้ได้ดีมาก อดเลยล่ะครับ จากคุณ : เด็กประวัติศาสตร์ศิลปะ (DirrtyVanilla) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 23:16:40

ความคิดเห็นที่ 87   คุณ : เด็กท้ายวังคะ ไปรับเสด็จที่ผ่านมาเสด็จภายในวันเดียวไม่ต้องถวาย เลยไม่มีมาลัยข้อพระกรมาอวดค่ะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 21:51:23

ความคิดเห็นที่ 88   ดวงตราสวยงามมากเลยครับ จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 52 22:52:03