ความคิดเห็นที่ 1   ศาลาท่าน้ำหลังปัจจุบันนี้เป็นการก่อสร้างหลังที่ ๒ ส่วนอาคารหลังแรกทำด้วยไม้ สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ หลังปี พ.ศ. ๒๔๓๑ เป็นอาคารทรงตะวันตก พร้อมหอสูงด้านข้าง ด้านหน้าจั่วมีป้ายสองภาษา ไทย เขียนว่า “ศิริราชพยาบาล” และภาษาอังกฤษ เขียนว่า “Siriraj Hospital” ส่วนตัวท่าเรือเป็นไม้ระแนง ทาสีขาวโดยตลอด จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 16:18:39

ความคิดเห็นที่ 2   จนเมื่อพ.ศ. ๒๔๖๖ – ๒๔๘๘ มูลนิธิร๊อกกี้เฟลเลอร์ ได้ให้ทุนก่อสร้างอาคารแก่โรงพยาบาลศิริราช ดังนั้นกระทรวงธรรมการได้มอบหมายให้พระสาโรชรัตนนิมมานก์ และหลวงวิศาลศิลปกรรม ออกแบบอาคารในโรงพยาบาลและศาลาท่าน้ำ และพร้อมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยพระบรมราชินี ในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ศาลาท่าน้ำแห่งใหม่นี้ เป็นอาคารทรงโถง แบบเรเนซองส์ หัวเสาแบบไอโอนิค พร้อมซุ้มโค้งสี่ด้านสร้างอย่างแข็งแรง พร้อมลูกกรง ลูกแก้วปูนรอบอาคาร ปัจจุบันมีอายุกว่า ๘๐ ปี และต่อมาใช้เป็นท่าขึ้นเรือข้ามฟากของประชาชน ต่อมาได้สร้างท่าวังหลังขึ้นข้างโรงพยาบาลทำให้ท่าเรือแห่งนี้ว่างลง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 16:21:06

ความคิดเห็นที่ 3   เคยไปนั่งเล่นที่ศาลาท่าน้ำอยู่บ่อยบ่อย เพิ่งทราบประวัติก็คราวนี่ ขอบคุณครับ จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 20:23:24

ความคิดเห็นที่ 4   จากคุณ : เจียะป้าอู่สื่อ (tongboy) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 20:39:40

ความคิดเห็นที่ 5   ขอบคุณคุณหนุ่มรัตนะครับ สมัยก่อนทราบว่าเวลานักศึกษาแพทย์นั่งเรือข้ามฟากมาขึ้นท่าศิริราช หากพบคนไข้ลงเรือมาและไม่มีที่นั่งนักศึกษาแพทย์จะต้องลุกให้คนไข้นั่ง เป็นเช่นนี้เสมอด้วยเป็นพระประสงค์ของสมเด็จพระราชบิดา (พระบรมราชชนก) ที่ทรงต้องการให้นักศึกษาแพทย์เสียสละเพื่อคนไข้ ไม่ทราบว่าเดี๋ยวนี้ยังคงปฏิบัติเช่นนี้อยู่หรือไม่ (แม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นท่าศิริราชแล้วก็ตาม) จากคุณ : วศินสุข เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:03:44

ความคิดเห็นที่ 6   เคยสงสัยว่า  เวลาข้ามไปฝั่งศิริราช  ทำไมต้องลงเรือไปขึ้นท่าที่ท่าวังหลัง  แล้วท่าที่เขียนว่าท่าศิริราช ทำไมจึงไม่เห็นเรือไปเทียบ กว่าจะมารู้เอาตอนนี้  ข้าพเจ้าก็เปลี่ยนนิวาสสถานไปแล้ว จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 22:21:01

ความคิดเห็นที่ 7   เคยนั่งเรือข้ามฟาก ลงที่ท่านี้ เมื่อสักปี 2537 แต่ต้องขึ้นที่ท่ามหาราช เลยท่าพระจันทร์มาหน่อยหนึ่ง จากคุณ : ลิลลี่อ้วน เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 23:05:39

ความคิดเห็นที่ 8   ขอบคุณมากครับ จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 09:32:16

ความคิดเห็นที่ 9   เห็นทุกวันเพราะไปเรียนที่ท่าพระจันทร์ค่ะ ได้ทราบประวัติก็คราวนี้ ขอบคุณมากๆนะคะ จากคุณ : สะใภ้จ้าว เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 23:51:29

ความคิดเห็นที่ 10   ขอแจมด้วยครับหนึ่งภาพเล็กๆ (ภาพที่ 3 ครับล่างขวา) จาก: Twentieth century impressions of Siam : its history, people, commerce, industries, and resources. 1908 โดย Arnold Wright ตามมาอ่านเพิ่มได้ที่ http://digital.library.cornell.edu/cgi/t/text/pageviewer-idx?c=sea&cc=sea&idno=sea363&node=sea363%3A2.14&frm=frameset&view=image&seq=130  ครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 52 17:30:43 จากคุณ : Oceanophila เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 17:29:41

ความคิดเห็นที่ 11   ขอแจมภาพด้วยคน ถ่ายไว้เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๔๔๒ ขณะข้ามฝั่งกลับจากไปลงนามถวายพระพร จากคุณ : Max2000 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 20:23:05

ความคิดเห็นที่ 12   ปัจจุบัน ประเพณีรับน้องข้ามฟากของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยังคงใช้ศาลาท่าน้ำเป็นสถานที่ต้อนรับนักศึกษาแพทย์น้องใหม่ โดยนั่งเรือข้ามฟากจากท่ามหาราช ขึ้นท่าที่ศาลาท่าน้ำ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจะเป็นผู้จูงมือนักศึกษาแพทย์น้องใหม่ขึ้นท่าทุกคน ล่าสุด ศาลาท่าน้ำศิริราชได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2549 ครับ จากคุณ : รัตนาดิศร เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 17:27:48