แด่ผู้ที่อยากไปทำงานบนเรือสำราญ

    ขอตอบคนที่อยากไปทำงานบนเรือ

    นี่คือความเห็นส่วนตัวและประสบการณ์ตรงที่เจอมากับตัวเองเมื่อ2 ปีที่แล้ว... ไม่ได้คิดที่จะทำลายใคร แต่อยากเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง และเก็บไปคิดให้ดี ว่าควรไปหรือไม่ จะได้ไม่ต้องเสียใจ เสียเงิน เสียเวลา เสียความรู้สึก

    จะขออธิบายเป็นเรื่องๆ เท่าที่จำได้ก็แล้วกันนะ

    1 เขาส่งเราไปประจำลำที่ล่องอยู่ฮ่องกง ชื่อเรือว่า Star Leo เป็นลำใหม่ล่าสุดของเขาในขณะนั้น เครื่องมือ อุปกรณ์ไฮเทคหมด แต่ไม่เอื้อประโยชน์โดยตรงกะเราเท่าไหร่

    ทางบริษัทจะพิจารณาเองว่า จะส่งใครไปไหน อันนี้ขึ้นอยู่กะดวงนะว่าใครจะได้ไปไหน ลำดีหรือไม่ดี ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดก่อน ถ้าอยู่ครบสัญญา 5 เดือน เขาจะทำเรื่องคืนเงินให้

    2 เงินเดือน: 15,000 บาท ไม่รวมค่าทิป แต่ไม่รู้นะว่ารวมแล้วได้เท่าไหร่ เพราะทนอยู่ไม่ถึงเดือนอ่ะ ทำงานที่ casino ซึ่งเป็นส่วนที่เงินดีที่สุด เขาว่ากันยังงั้น

    มันสะกิดใจนิดนึงอ่ะ คือ เราได้เงินเดือนเป็นเงินบาท ในขณะที่ staff ชาติอื่นๆ ได้เป็นดอลล่าร์ฮ่องกง (1 ดอลล่าร์ = 5 บาท) ยกเว้นไทยกับอินโดนีเซียที่ได้เงินเป็นเงินสกุลของตัวเอง

    3 staff: ก็จะมี ไทย (ไม่ถึง 20 คน จาก staff หลายร้อยคน) , เวียดนาม, จีน+ฮ่องกง (เยอะมาก) , ฟิลิปปินส์ (เยอะมาก) , อินโดนีเซีย , มาเลเซีย , พม่า , สิงคโปร์, แขก ระหว่าง staff ด้วยกันเองก็จะดูถูกกัน อินโดจะโดนดูถูกมากที่สุด ไทยนี้จะมีแต่คนอยากรู้จัก ทั้งประสงค์ดี และประสงค์ร้าย พวกฟิลิปปินส์+จีน+ฮ่องกงจะดูถูกคนไทย และชาติอื่นๆ มาก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีดีอาไร เราไปอยู่แค่ 2 อาทิตย์ ก็มีคนอยากรู้จักมากมาย ด้วยความที่เป็นผู้หญิงไทย ก็เลยมีผู้ชายสนใจเยอะ (แต่จะเอียงไปทางด้านไม่ดี) ไม่รู้ว่าบ้านมันไม่มีผู้หญิงหรืองัยก็ไม่รู้ เราไปอยู่ได้ 3 วัน ถึงจะหาเพื่อนคนไทยเจอ พอดีเพื่อนเราจะทำเรื่องกลับอยู่พอดีเพราะเขาก็ทนไม่ได้ เกือบจะต่อยกะผู้จัดการแล้ว เพราะกฎบนเรือถ้าใครทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันจะถูกส่งกลับทั้งคู่ ผู้จัดการก็เลยกลัวไม่กล้าต่อยกะมันเดี๋ยวถูกส่งกลับด้วย เรากะเพื่อนเราก็กลายเป็นซี้+เป็นบอดี้การ์ดให้เราด้วย หลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาวุ่นวายกะเราเท่าไหร่นัก เพื่อนเราเล่าให้ฟังว่าเพื่อนผู้ชายชาติอื่นๆ มาถามมันว่าผู้หญิงไทยเท่าไหร่ ติดต่อให้หน่อย มันนะอึ้งไปเลย แล้วก็ด่าไอ้พวกนั้นกลับไปเลย

    วันแรกที่ไปถึงนะมีชายมาเลย์คนนึงก็ทำท่า friendly มากเลย เราก็ไม่ได้คิดรัย มันเป็น senior มันก็ take care อย่างดี อาสานำทางมาที่ห้อง พอมาถึงห้องมันก็วางกระเป๋าเราลง แล้วก็เดินมาหาเราจะหอมแก้มเรา แต่ยังไม่ถึงตัวนะ เจอฝ่ามือเราซะก่อน มันก็หน้าม้านเดินออกไปเลย ถ้ามันทำรัยนะมีหวังเราได้ฆ่ามันแน่เพราะเรามีมีดอยู่ในกระเป๋าที่เราสะพายไว้...

    Staff บนเรือส่วนใหญ่การศึกษาไม่สูงนัก staff ไทยการศึกษาดีสุด จบปริญญาตรีเกือบทุกคน ส่วนใหญ่จะจบจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของรัฐบาล เลยยิ่งทำให้คนไทยกิริยาดี ดูนุ่มนวล ดูดีอ่ะ ว่ากันง่ายๆ

    4 ลูกค้าบนเรือ: จะเป็นชาวจีนซะส่วนใหญ่ มีจีนทุกค่าย พูดจีน เวลาเขาพูดภาษาอังกฤษก็เหมือนเขาพูดภาษาจีนนั่นแหล่ะ แยกแยะยากมาก แล้วไม่ค่อยมีมารยาท ไม่เกรงใจ แล้วกิริยาที่เขาแสดงกะเรานี่ ไม่ดีเลย ใช้แววตา น้ำเสียง การกระทำ ซึ่งแย่มากๆ แต่ก็อย่างว่าอ่ะนะเขาเสียเงินเพื่อมาเที่ยวเยอะนี่ เขาจะแคร์ทำไม แต่ขอบอกว่ารับไม่ได้อ่ะ ไม่นึกว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้

    5 คุณภาพชีวิตไม่ค่อยดีนัก อาหารไม่อร่อย สกปรก แต่พอกินกันตายได้ ที่อยู่ก็อับๆ ไม่มีหน้าต่างเลย เหมือนอยู่ในคุก แต่เราโชคดีหน่อย ได้ห้องพักแบบลูกค้าก็เลยมีหน้าต่างให้มองน้ำทะเล แต่ชวนอ้วกมากเลย แล้วห้องก็อยู่ชั้นล่างสุดๆ คือถ้าเปิดหน้าต่างได้แล้วยื่นมือออกไปนี่แตะถึงน้ำเลย เรือมีประมาณ 15-17 ชั้น ห้องนึงอยู่ 3 คน เราได้เพื่อนร่วมห้องเป็นจีนนะ เธอจะทำอาไรกันเสียงดังมาก แล้วก็สูบบุหรี่ในห้องด้วย ซึ่งมีกฎอยู่ว่าสูบในห้องได้แต่ห้ามสูบในพื้นที่ลูกค้า ยูนิฟอร์ม ให้ 3 ชุด ไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ ทำงานทุกวัน แต่เป็นช่วงๆ เวลาพักน้อย

    ความเป็นอยู่ จากการที่ได้คุยกะคนที่อยู่บนนั้นนานๆ เขาเล่าให้ฟังนะว่า ทำงานอยู่บนเรือนานๆ วนไปวนมาอยู่ยังงี้ มันก็จะเหงา พอเหงาก็จะเริ่มมองกันเอง เล่นกันเอง มั่วกันเอง แต่ไม่มีใครถือสาอาไร เล่นกันสนุกๆ เราฟังแล้วกึ๋ยเลย แล้วก็บอกกะตัวเองว่าตูต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดแล้วก็ทำเรื่องกลับบ้านให้เร็วที่สุด เราอาจจะโชคร้ายด้วยมั้งที่เจอกะเหตุการณ์ที่ไม่ดี ไม่มี first impression ที่ได้จากที่นี่เลยทำให้ไม่อยากอยู่อ่ะ

    6 การสื่อสาร: มีอินเตอร์เน็ต แต่แพงมาก แต่เราก็ต้องยอมเพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เราติดต่อกับคนทางบ้านได้ โทรศัพท์จะใช้ได้เฉพาะเวลาเรือเข้าฝั่ง แล้วคนจะรอคิวกันใช้เยอะมาก แล้วก็จะคุยกันนานๆ

    7 ภาษา: ช่วงแรกที่ไปก็นึกว่ากลับมาภาษาต้องดีแน่เลย แต่ไม่ใช่อ่ะ ถ้าอยู่นานกว่านี้ภาษาที่ดีๆ ของเราต้องกลายพันธุ์แน่นอน

    8 เมาเรือ: ทรมานมากกกกกกก เขาบอกว่าจะเมาอยู่สักอาทิตย์นึงแล้วก็จะหาย แต่เราเป็นอยู่ตลอด 2 อาทิตย์ที่ใช้ชีวิตอยู่บนนั้นเลยอ่ะ กลับมา น้ำหนักลดไป 6 กิโล

    9 ประกันชีวิต: ไม่มีให้ เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่มี ออกไปทำงานกลางทะเลขนาดนั้น ถ้าเกิดอาไรขึ้นมาก็ตายฟรี เขาจะมีแค่ค่าประกันให้ผู้โดยสาร

    10 พื้นที่ของลูกค้าจะห้ามมิให้พนักงานไปเดินเล่นโดยเด็ดขาด ยกเว้นพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ พื้นที่ของลูกค้ากะของพนักงานจะถูกกั้นด้วยประตู ซึ่งเปิดไปทางลูกค้า ทางก็จะถูกปูด้วยพรมตลอด สวยงาม น่าอยู่เชียว กลับมาฟากที่เป็นของพนักงานจะออกแนวแห้งแล้งหน่อย คล้ายๆ อยู่ในโรงงาน (นรก) อ่ะ

    11 อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าใครยังอยากสมัครอยู่ ก็ให้สมัครได้โดยตรงเลยที่บริษัท Star Cruise อยู่แถวๆ สีลม บางรัก นี่แหล่ะ อย่าสมัครผ่าน agency เพราะพวกนี้จะคิดค่าหัวเป็นหลักหมื่นขึ้นไป แล้วถ้าอยู่ไม่ครบสัญญาบริษัทก็จะไปเก็บค่าปรับจากพวกนี้ด้วย พวกนี้เลยเรียกเก็บค่าหัวแพงเพื่อเอาไว้จ่ายค่าปรับอ่ะ ถ้าเราไม่ผิดสัญญามันก็ไม่คืนนะ มันก็เอาไปเลย... แต่เราโชคดีหน่อยที่ไม่ต้องไปเสียเงินให้พวกนั้น เพราะสมัครตรงที่บริษัทเลย แล้วตอนกลับ นึกว่าจะต้องโดนบริษัทปรับซะแล้ว ปรากฏว่าไม่โดนอ่ะ ไม่รู้เหมือนกัน แต่เท่ากับว่า ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเดินทางเองทั้งหมด

    12 Passport: เมื่อขึ้นเรือปุ๊บเขาจะริบ passport ไว้ทันทีเลย เพราะว่ากลัวเราหนีอ่ะ ฟังดูแล้วเหมือนนักโทษนะ แต่ก็เข้าใจนะว่าที่เขาทำยังงี้เพราะอาไร แต่มันก็อดรู้สึกไม่ได้อ่ะ

    13 ที่เราไปอยู่2 อาทิตย์ เรือจะเข้าเทียบท่าที่ ฮ่องกงประมาณ 2 ครั้งอ่ะ เราจะกลับตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว แต่มันยื้อไว้ไม่ให้กลับ ต้องล่องเรือออกไปอ้วกกะมันต่ออีกอาทิตย์นึง แต่ขอบอกว่าน้ำทะเล กลางทะเลจริงๆ มันน่ากลัวมากเลย น่ากลัวมากกว่าสวยอ่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่น้ำ ไม่เห็นฝั่งเลย น่ากลัวจริงๆ แล้วยิ่งตอนฝนตกนะ โ ค ต ร น่ากลัวเลย นึกถึง หนังเรื่อง Titanic เลยอ่ะ

    14 ถ้าจะไปให้พกเงินUS$ ไปด้วยเผื่อฉุกเฉิน จะได้มีเงินบินกลับบ้าน แต่ต้องเก็บไว้ดีๆ ด้วยนะ ขโมยชุม

    เฮ้อ..... ตกระกำลำบากอยู่บนนั้น 2 อาทิตย์เต็มๆ แต่ไม่เสียดายเงินเลยนะที่ต้องสูญไปกับค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นประสบการณ์ที่แพงจริงๆ สำหรับเรา ใครห้ามก็ไม่ฟัง จะไปให้ได้ เห็นว่า เงินดี ทำงานก็แค่ 5 เดือนเอง ได้ภาษาด้วย แต่ไม่รู้หรอกว่าอยู่แบบคับใจหน่ะ วันนึง มันนานแค่ไหน แล้วต้องเสียเงินเสียทองอีก แต่ก็ยังดีใจที่ไม่เสียชีวิตซะก่อน

    ถ้าใครทนอยู่ได้ครบเทอมก็คงได้รายได้แบบน่าพึงพอใจกลับมา แต่สำหรับเราเราเลือกที่จะทิ้งเงินก้อนนั้น แล้วเอาชีวิตกลับมาก่อนดีกว่าเพราะสภาพความเป็นอยู่ที่เราเจอ มันไม่ดีเอามากๆ เลย ที่เล่าให้ฟังนี่เป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้น

    แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เราคิดหน้าคิดหลังมากขึ้น รักครอบครัว รักเมืองไทย รักตัวเอง ขึ้นมากๆๆๆ ประมาณว่า ตูจะไม่รั้นอีกแล้ว ตอนนั่งเครื่องกลับแล้วเครื่องเข้าเขตประเทศไทยนะ ดีใจมากๆ เลย น้ำตาคลอเบ้า..... รอดตายแล้ว ยิ่งตอนเห็นครอบครัวมารออยู่นะ (พ่อ แม่ พี่ น้อง) รู้สึกว่ามีความสุขที่สุดเลยหล่ะ แล้วก็บอกกับตัวเองว่า ถ้าไม่งอมืองอเท้า ทั้งเรื่องงาน+เงิน แล้วก็เรื่องภาษา ก็สามารถหาทำได้ที่บ้านเรานี่แหล่ะ ... ดีใจมากที่คิดถูกแล้วกลับมา ตอนนี้มีงานดี เงินดี เจ้านายดี ภาษาก็ได้ใช้สมใจอยาก แถมสุขภาพจิตเยี่ยม

    หวังว่าคงจะให้ข้อคิดกับผู้ที่ต้องการไปทำงานบนเรือได้ อย่ามองที่เม็ดเงินที่มาล่อใจอย่างเดียว เอาเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ไปพิจารณาด้วย ถ้ามันหักล้างกันไม่ได้ ต้องการจะไปจริงๆ คงห้ามกันไม่ได้ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนแล้วหล่ะ

    จากคุณ : ex-crew - [ 6 ธ.ค. 45 02:08:06 A:203.107.135.46 X: ]


 
 



ความคิดเห็น :
ชื่อ / e-mail : ตรวจสอบสถานะของ member ที่นี่
ไฟล์ประกอบ : ( gif, jpg, png, mid, wav, mp3, wma, swf )
 
PANTIP Toys