ความคิดเห็นที่ 1 เอาฮาหรือครับ จากคุณ : ZERO LOSS1 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 20:54:20

ความคิดเห็นที่ 2 ยังปรับตัวไม่เข้ากับรถ ถ้ารู้จักวิธีหาโอกาสขับทางโค้งแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ ก็จะรู้ว่่าเฟียสต้ากินขาดในรถระดับเดียวกัน ทางไกล16กม/ลิตร ถ้ารู้จักเทคนิคก็จะได้มากกว่านี้ ทดสอบ0-100 หรือออกตัวเหยียบคันเร่งให้จม แล้วจะรู้ว่ามันไต่ไปถึงเท่าไหร่ ถ้าใจถึงก็อย่าเพิ่งถอนคันเร่ง จากคุณ : Maechai เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 21:00:50

ความคิดเห็นที่ 3 เกียร์ powershift ปล่อยเบรคแล้วมันก็ไม่ไหล(มาก)เท่าเกียร์แบบอื่นอยู่แล้วนี่นา? แล้วไปปล่อยบนเนิน มันก็ถอยซิครับ ปล.แล้วมีเหตุผลอะไร ที่ปล่อยเบรคบนเนินแล้วไม่เหยียบคันเร่งต่อละครับ?...ทำอะไรอยู่ตั้ง 3 วินาที? จากคุณ : ฟัก อยู่แม้น เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 21:24:50 A:1.0.145.59 X: TicketID:149505

ความคิดเห็นที่ 4 ใช้ตัวนี้ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันครับ จากคุณ : [Sakura] เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 21:33:41

ความคิดเห็นที่ 5 พอผมมาพูดความจริง เรื่องข้อเสีย รู้สึก กูรู จะออกมาด่ากันเยอะนะครับ จากคุณ : OhmChan (OhmChan) เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 21:38:23

ความคิดเห็นที่ 6 แทนที่จะได้คำปรึกษา.....ขอบคุณ บอร์ดพันทิพ นะครับที่สอนให้ผมรู้ว่าไม่ควรถามปัญหาอะไรในที่นี้ จากคุณ : OhmChan เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 21:40:16

ความคิดเห็นที่ 7 ผมขอเปรียบเทียบกับที่ผมใช้นะครับ  -กำลังรถไม่มี. ==> ขับขึ้นเขาค้อ ทับเบิก ทางชัน สบายมาก -เล่นรอบไม่สนุก ==> เล่นยังไงถึงไม่สนุก -กินน้ำมัน 8-9 km/ลิตร. ==> 15km/Lt.  -ระหว่าง เกียร์ 1-2 มีอาการ คันเร่ง น้ำมัน ค้าง ต้องคอยระวัง ==> ขับมาหลายสภาพเส้นทาง เหยียบหนักๆ ไม่เห็นเป็นใร -ไม่มีเกียร์ไว้สำหรับแซง ==> ข้อนี้ตลกมากครับ คิกดาวน์เป็นมั้ยครับ หรือไม่ก็ถ้าอยากให้ทันใจก็กดปุ่มที่คันเกียร์ แลัวจะรู้ว่า ของจริงมันเป็นยังไง -จุดเด่นกลายเป็น ข้อเสียของรถเอง คือ ระบบกันรถไหล 3 วินาที แต่หลังจาก 3 วินาที ถึงคุณจะใส่เกียร์ D ทิ้งไว้ถ้ารถอยู่บนเนิน  ก็จะยังคงไหลกลับหลัง ซึ่ง จากประสบการณ์การขี่รถยี่ห้อ อื่นๆมา ผมยังไม่เคย พบ รถคันไหนที่เข้าเกียร์ D แล้วไหลมาข้างหลังเลยสักครั้ง อย่างเช่น เฟียสต้า ข้อนี้จึงทำให้ผมรู้สึกว่า รถมันไม่มีกำลังเอาเสียเลย  ==>  ข้อนี้ไม่ขอตอบ มันปญอ. สุดๆ คิดได้ไง ในรถระดับเดียวกันที่ขายในเมืองไทย ผมกล้าท้าว่าเฟียสต้ามีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในระดับสูงสุด เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน เราได้ขนาดนี้เทียบกับรถแปด เก้าแสน ของบ่งเจ้าเค้ายังไม่มีเลยครับ   - ด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอิเล็กทรอนิกส์ (อีเอสพี)  - ระบบกระจายแรงแบรกอิเล็กทรอนิกส์ (อีบีดี) - การใช้เหล็กโบรอนที่มีความแข็งแรงสูง  - ระบบเบรกป้องกันล้อล๊อก (เอบีเอส) - การติดตั้งถุงลมนิรภัย7 ลูก - ระบบปัองกันลัอหมุนฟรี - ระบบช่วยขึ้นทางลาดชัน - ระบบสั่งงานดัวยเสียง เชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านบลูทูท ที่ลดความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ - สุดท้ายอันนี้แฟนผมชอมมาก ระบบเอนเตอร์เทนเมนคอมเพล็กในเฟียสต้า aux usb bluetooth cd mp3 radio  ถึงบริการหลังการขายจะสู้ค่ายอื่นไม่ได้ แต่เรื่องการใส่ใจในความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ฟอร์ดคือเบอร์1ในใจผม จากคุณ : ZERO LOSS1 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 21:44:44

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท ยอมรับเถอะครับว่าตัวเอง User error เกียร์ D ปล่อยไว้ มันไม่มีแรงไหลขึ้นเนียนหรอกครับ ไม่ว่ายี่ห้อไหนๆ ในโลก อ่อ .... ถ้าผมตอบไม่เข้าหู ขออภัยด้วยนะครับ ลืมไปว่า "ศูนย์กลางจักรวาล" มาตั้งกระทู้ถามเองเลยทีเดี่ยว จากคุณ : via Android เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 21:49:01

ความคิดเห็นที่ 9 เกียร์ D แต่เท้าต้องแตะคันเร่งครับ แค่เข้าเกียร์ธรรมดา รถมันหนักเป็นตัน มันต้องไหลลงมาสิครับ ตอบได้ข้อเดียวข้ออื่นไม่รู้ เพราะไม่เคยใช้ อยากลองยี่ห้อแปลกๆ อย่าง skoda เนี่ยมีแต่คนห้าม จากคุณ : เแสงดาว เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 21:53:09 A:124.121.135.158 X: TicketID:378455

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่เหมือนผมเลยแฮะ กำลังมาตามเท้า แต่ต้องเลิร์นนิ่งมันสักพัก ตอนเร่งแซง ลองกดหนักขึ้น ตอนแรกอาจจะยังไม่มา แต่สักระยะเกียร์มันจะรู้ตัวครับ ว่าอ้อไอ้คนนี้มันขับแบบนี้ แล้วท่านจะเหวอเลยว่าเฮ้ย เมื่อก่อนไม่เห็นแบบนี้เลยแฮะ กินน้ำมัน 8-9 โลลิตร ในเมืองผมรับได้นะ พอนอกเมือง เคยวิ่งยาวๆ120-160 กิน 14.9โลลิตร อี20ด้วยนะ เกียร์แซง ผมว่ามีนะ คิกดาวน์จาก 80-100 กดคันเร่งเกียร์ก็ตบให้นะ พอไปถึง110-120 เกียร์ก็เปลี่ยนสูงให้ เรื่องhls ต้องเบรกจนรถหยุดสนิท ระดับเนินได้องศาที่กำหนด พอคลายแรงกดเบรกจะรู้สึกเลยว่าเบรกแข็งขึ้น พอปล่อย เบรกจะค้างสามวินาที แล้วถ้าไม่อยากให้ไหล ผมจะเหยีบคันเร่งนิดๆ ให้เกียร์มันจับโหลด ทีนี้ไม่มีถอยอ่ะ มีแต่มันจะเดินหน้าไต่ขึ้นซะอีก ส่วนเกียร์ 1-2 มีคันเร่งค้าง อันนี้เจอเหมือนกัน แต่เป็นเพราะเกียร์มันไม่ได้รอบ มัน้ลยไม่เปลี่ยนให้ ก็เลยดูเหมือนคันเร่งค้างๆ แต่แก้ได้โดย กดคันเร่งให้รอยสูงพอที่จะเปลี่ยนเกียร์ แล้วปล่อยคันเร่งเอาครับ จากคุณ : deletenumlock เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 21:54:56

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าอยากเล่นรอบสนุก  มีกำลัง ประหยัด มีเกียร์ให้เร่งแซง เปลี่ยนไปขับ MT เถอะครับ fiesta ก็แค่เกียร์ autoที่พยายามเลียนแบบ MT ไม่เหมาะกับคุณหรอก จากคุณ : อาชาสีหมอก_offer เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 23:02:00

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่รู้ว่ารุ่นนี้ เหมือนกับรถที่ผมใช้ป่าวนะ เวลาขับผมชอบเล่นเหมือนรถเกียรMT เหยียบให้ได้รอบ แล้วถอนคันเร่ง แล้วเหยียบต่อ มันจะเปลี่ยนเกียรขึ้น รถจะกระตุกเหมือน ได้ขับเกียรMT เลยหล่ะ สนุกดี เปลี่ยนเกียรที่ หน้าโยกที (New lancer2.0) ลองขับแบบนี้ดู ถ้าระบบใกล้เคียงกัน สนุกแน่ เหยียบยาวๆ ไม่ได้อารม แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 55 23:31:56 จากคุณ : kayali เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 23:30:59

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ ผมว่าตอบกันดีๆ หน่อยก็ได้ครับ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 23:31:47

ความคิดเห็นที่ 14 เรารู้แต่ว่ามันกินน้ำมัน 9 โลลิตรค่ะ ขับใน กทม อะ เราลองคำนวนแล้ว ข้ออื่นเราไม่มีความรู้เลยค่ะ เรากะแฟนลองคำนวนดูแล้วอะค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงฤดูหนาว เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 23:37:36

ความคิดเห็นที่ 15 เฮ้ย มันใช่รถคันเดียวกันกับที่ผมขับทุกวันเหรอเนี่ย ปัญหาเยอะแบบนี้ ไปเรียนขับรถใหม่ก่อนดีไหม ขออภัยที่พูดไม่เข้าหู แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ จากคุณ : SIII (ลูกอีสาน) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 00:05:41

ความคิดเห็นที่ 16 ผมอ่านที่ จขกท. เขียน ผมเข้าใจนะครับ ตอนนี้มันแบ่งออกมาเป็น แบบที่หนึ่งคนที่เข้าใจในตัวรถ กับแบบที่สองคนที่สงสัยว่าทำไมไม่เป็นแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งผมเชื่อว่า ถ้าปรับสเป็คให้สมบูรณ์แบบขึ้นมันจะสมบูรณ์แบบในแบบที่คนที่สงสัยบ่นไม่ได้อีกนั่นแหล่ะ ต้องยอมรับด้วยว่าคนที่ใช้ Fiesta เองมันมีคนแบ่งออกมาเป็นสองกลุ่มจริง ดังนั้น มักจะเห็นอีกกลุ่มที่รู้สึกเข้ากับรถได้ดูถูกคนอีกกลุ่ม ซึ่งผมว่ามันไม่ถูกต้อง Fiesta ถึงจะใส่อะไรต่างๆ มาให้มากมาย แต่ก็ยังไม่ใช่รถในระดับ Don't miss แม้แต่นักวิจารณ์ก็ยังไม่มีใครฟันธงเป็นแบบนั้น รถทุกรุ่นมันยังคงมีข้อดีข้อเสียของตัวมันอยู่ดี นั่นคือทำไมคนที่ใช้ Fiesta ไม่ได้ชอบมันมากทุกคน เสียงก็ออกมาแบบ 50/50 ส่วนหนึ่งก็เพราะถูกกระแสรถสปอร์ตที่นักวิจารณ์ รถแทบทุกคนพยายามใส่หัวมาให้ว่ารถดีต้องช่วงล่างแบบนี้เท่านั้น ทั้งๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นนักขับขี่แบบสปอร์ตเลย Fiesta ไม่ใช่รถที่ขับแล้วสบาย แถมยังต้องเข้าใจในตัวรถด้วย ดังนั้นคนที่รักรถที่ให้ความสบายเมื่อซื้อ Fiesta ในนิยามที่ว่ามันเป็นรถที่ดีที่สุด (ที่ถูกปั่นกระแสขึ้นมาโดยนักวิจารณ์นักซิ่งทั้งนั้น) แล้วมันไม่ได้ให้ความสบายอย่างที่คาด แถมยังมี error defect แถมมาให้ด้วย มันทำให้เกิดความรู้สึกข้องใจ รถตลาดๆ ที่ไม่ได้เน้นการขับอะไรมาก แต่มีข้อดีที่ได้รับการเซ็ตอัพมาเพื่อให้คนโดยสารเกิดความสบาย อาจจะตอบ โจทย์คนกลุ่มนี้ได้มากกว่า แต่พวกเค้าเทใจให้ Fiesta เพราะนึกว่ามันจะตอบโจทย์ทุกอย่างได้ครบแต่ที่จริงมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีรถ perfect ที่ทั้งสบายเอาใจคนนั่ง ทั้งสปอร์ตเอาใจคนขับนักซิ่ง ประเด็นของผมก็คือ บางทีเราต้องทดลองด้วยตัวเอง และต้องเข้าใจรถมากขึ้นว่ามันถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์หลายหลาก สำหรับ Fiesta ผมบอกได้เลยว่า มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้คนนั่งรู้สึกสบายอะไรมาก และมันเป็นรถที่คนขับต้องปรับตัวเข้าหามันมากกว่าและไม่เหมาะกับคนขับแบบสบายๆ เพราะยังมีรถที่ขับได้สบายๆ กว่าขับมัน และความคิดที่ว่ารถที่เน้นการขับและสมรรถนะเต็มที่คือรถที่ดีเลิศสำหรับทุกๆ คน ที่จริงมันไม่ใช่ และนักวิจารณ์รถกำลังปิดกั้นสไตล์ที่หลากหลายของรถและคนใช้มากเกินไป การวิจารณ์รถจึงควรมองจุดประสงค์การใช้งานให้หลากหลาย มากกว่าวัดด้วยมาตรฐานเพียงแบบเดียว (เช่น เอา eco car ที่เหมาะและสบายกว่ามากในกับการขับในเมืองมาวัดมาตรฐานเดียวกับรถเน้นแนวสปอร์ต แล้วสุดท้ายสรุปว่า eco car รุ่นดังกล่าวแย่ยังกับขยะติดล้อเป็นต้น ซึ่งผมรังเกียจการรีวิวแบบนี้ที่สุด) สำหรับกรณี Fiesta เสียงของคนที่ไม่ชอบหรือสงสัยอีก 40-50% ควรจะได้รับการรับฟัง และค่ายรถก็พร้อมที่จะปรับมันให้ดีขึ้นตามนั้นอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามองด้วยจิตใจ ที่เป็นกลาง แล้วสลัดสิ่งที่นักวิจารณ์แค่ไม่กี่คนสะกดจิตเอาไว้ออกไป ก็จะเห็นมุมมองใหม่ๆ ที่หลากหลาย มันไม่มีหรอกรถที่ perfect ครับ แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 55 00:10:13 จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 00:09:08

ความคิดเห็นที่ 17 ที่ว่า จขกท แรงๆ ให้ไปเรียนขับรถใหม่ เพราะปัญหาที่ว่ามา ดูไม่เหมือนเป็นเจ้าของรถเลย เหมือนคนที่พึ่งไปขับ testdrive 15 นาที หรือไปฟังคนอื่นพูดมา เป็นไปได้ไง 9 km/l  ต่อให้เป็นนำมัน 1 2 ถังแรกก็เถอะ ถ้าคนใช้รถมาก่อน ย่อมจะรู้วิธีคาดคะเน อัตตราสิ้นเปลืองแน่ เล่นรอบไม่มัน ไม่มันยังไง เหยียบลึกๆสิ ไม่มีกำลัง ดูรอบเครืองสิ เอาไปเทียบกับ vios ป่ะ อันนั้นเรียกว่าคันเร่งเบา เหยียบเบาๆก็ไป 4000 รอบแล้ว fiesta ต้องเหยีบยลึกกว่า ลองเลี้ยงรอบที่ 4-5 พันรอบดูสิ จากคุณ : SIII (ลูกอีสาน) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 00:32:13

ความคิดเห็นที่ 18 คห.14 ขับใน กทม.ได้ 9 ก.ม.ต่อลิตร ถือว่าไม่เลวเลยนะครับ เวลาวัดอัตราสิ้นเปลือง อย่าวัดในเขต กท.ครับ 1 ชั่วโมง วิ่งได้แค่ 10 ก.ม. จากคุณ : พันละที เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 00:41:25

ความคิดเห็นที่ 19 เอาที่เหมือนกันนะ -กินน้ำมัน 8-9 km/ลิตร **เราก็ได้เท่านี้แหละ ขับทางไกลได้12-13 มันแล้วแต่เท้านะ เคยให้น้องที่ทำงานขับ ระยะทางเท่ากัน เค้าขับได้14+แน่ะ ร่ำๆว่าจะไปติดแกสแล้วนี่ -กำลังรถไม่มี **แรกๆก็คิดอย่างนั้นจริงๆ จะเร่งแซงกระชั้นชิดไม่ได้มันไม่ปรู๊ดปร๊าด ไอ้ครั้นจะกระแทกคันเร่งให้จมก็เกรงใจน้ำมันเหลือเกิน จนเวลาเราติดไฟแดงจะไม่พยายามอยู่ขวามือ ออกซ้ายไปก่อนแล้วไปแซงเข้าขวาเมื่อได้ระยะ เพราะพอได้ระยะความเร่งมัน คราวนี้ปรู๊ดสุดๆ (ทำเหมือน คห12สิ สนุกจริงๆนะ ถอนคันเร่งรอบตกแล้วเหยียบใหม่ กระตุกและพุ่งขึ้นจริง สนุกเท้าและกระเป๋าเลยแหละ) ส่วนข้ออื่นๆ ไม่ได้ทำไม่รู้ ข้อดีที่ชอบ เรื่องเก็บเสียงนี่แหละ 140ไม่ค่อยได้ยินเสียงข้างนอกและไม่ร่อนก็โอแล้ว นอกนั้นก็ไม่ต่างอะไร เอาน่า ได้มาเป็นของกันและกันแล้ว เรียนรู้กันไปนะ ไม่ไหวจริงก็เลิกขายซะ จากคุณ : อะฟ่าว เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 01:21:42

ความคิดเห็นที่ 20 ก็ต้อง ขอขอบคุณ พี่ๆที่มาให้คำตอบทุกคนครับ   ผมยอมรับครับว่าไม่เคยเรียนขับรถจากใครมาก่อน มีแต่เรียนกับพ่อบังเกิดเกล้า  ท่านไม่เคยบอกหรอกครับ ว่า คิก ดาว คืออะไร ท่านแค่สอนเรื่องกฏจราจรอย่างถูกต้องเท่านั้น ผมไม่เคยขับรถซิ่ง เพราะมันจะไปรบกวนคนอื่นเขา แต่ก็จำเป็นต้องวิ่ง ตจว.บ่อยๆ บางครั้งก็ต้องแซง บ้าง ผมรับครับว่า ผมฝีมือ อ่อน และก็ขอขอบคุณมากครับ ทั้ง คำตอบที่มีสาระ และคำตอบที่ด่าว่าผม กระทู้นี้ คงเป็นกระทู้แรก และกระทู้สุดท้ายที่ผมจะตั้งไว้ที่ห้องนี้ครับ ผมคงไม่กล้าถามอะไรเกี่ยวกับ รถคันนี้อีกแล้วครับ จริงๆก็ชอบนะครับ รูปทรงสวยดี กะจะเอาไปโหลด แต่งนู้นนี่นิดหน่อย แต่เจอคนว่า กล่าวแบบนี้ ผมขอลาไปด้วยดีละครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : OhmChan เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 01:31:37

ความคิดเห็นที่ 21 ใจเย็นๆกันนะครับฟิเอสต้าทั้งหลาย จขกท.ต้องเข้าใจธรรมชาติฟิเอสต้าในพันทิพซักหน่อย เค้าออกจะแรงนิดๆ ผมไม่ได้ใช้รถรุ่นนี้แต่ก็ศึกษาก่อนเลือกซื้อบ้างเหมือนกัน คงพูดได้เรื่อง 9 กิโลลิตร ผมดูๆแล้ว เครื่อง 1.5 ขับใน กทม เจอรถติดก็ประมาณนี้ แทบจะทั้งนั้นครับ จากคุณ : mono_nong (mono_nong) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 02:29:29

ความคิดเห็นที่ 22 ขอโทษที่พูดแรงครับ จะด่าจะว่าผมคืนก็ได้ ถ้ามีปัญหาก็เข้ามาถามอีกนะครับ อันไหนเป็นปัญหาจริงๆก็ช่วยแนะนำได้ จากคุณ : ลูกอีสาน เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 02:58:22

ความคิดเห็นที่ 23 กลับไปอ่าน คห20 อีกหลายรอบ เลยกลับมาลบครับ จะประชดทำไมเนี่ย :( แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 55 03:44:17 จากคุณ : i-hata เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 03:33:50

ความคิดเห็นที่ 24 มาเจอรถผมมะครับ กทม 7 โลลิตร ตจว. 12 โลลิตร อ้าว ... ไม่ใช่เลขน้อยกว่าดีกว่าหหรอกหรอ 5555 จากคุณ : Zieg-Hart เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 06:51:16

ความคิดเห็นที่ 25 ปกติเวลา คนมา comment ford ผมเห็นมีแต่คนมาช่วยด่า ford ในพันทิพเยอะแยะเลย  คงมีแต่กระทู้นี้มั้งที่มีคนช่วยแก้ตัวให้ ford ปัญหาที่ จขกท โพสท์ มันเหมือนไม่ใช่ปัญหา เป็นความรู้สึกล้วนๆ ครับ ลองปรับตัว ให้เข้ากับรถแล้วมันจะคุ้นเอง คราวนี้คุณอาจจะรักมันก็ได้ จากคุณ : ckbu (ckbu) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 07:33:39

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นอีกกระทู้ที่สงสาร จขกท.จัง ข้ออื่นเราเฉยๆนะ เพราะรถแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์คงต่างกัน เราสงสัยค่ะ ว่า ประเด็นนี้ มันถามไม่ได้เหรอคะ คือ =================================== เด่นกลายเป็น ข้อเสียของรถเอง คือ ระบบกันรถไหล 3 วินาที แต่หลังจาก 3 วินาที ถึงคุณจะใส่เกียร์ D ทิ้งไว้ถ้ารถอยู่บนเนิน ก็จะยังคงไหลกลับหลัง ซึ่ง จากประสบการณ์การขี่รถยี่ห้อ อื่นๆมา ผมยังไม่เคย พบ รถคันไหนที่เข้าเกียร์ D แล้วไหลมาข้างหลังเลยสักครั้ง อย่างเช่น เฟียสต้า ข้อนี้จึงทำให้ผมรู้สึกว่า รถมันไม่มีกำลังเอาเสียเลย ===================================== คือ เราเคยขับรถมาไม่กี่รุ่นหรอกค่ะ (ไม่เคยขับฟอร์ด) ถ้าเทียบแค่ระหว่างฮอนด้ากับโตโยต้า เราเคยรู้สึกเหมือนกันว่าเวลารถติดค้างอยู่ในลานจอดรถ โตโยต้าไม่ไหลเลย ฮอนด้าไหลนิดๆ  สรุป มันมีความต่างจนรู้สึกได้ แต่ไม่ใช่ความรู้สึก มันเป็น fact เคยอยากถามผู้รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เข้าใจความรู้สึก จขกท.ค่ะ จากคุณ : Orangery Lemon เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 09:30:35

ความคิดเห็นที่ 27 พูดถึงเฟียสต้ากันอยู่รึเปล่า  ของผมเจออย่างเดียว   จอง 4เดือนยังไม่ได้ อิอิ จากคุณ : opby เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 09:32:29

ความคิดเห็นที่ 28 รถคุณปกตินะ ต้องปรับตัวครับ เรื่องรถไม่มีแรงอะไรนั่น ให้ทำความคุ้นเคยกับรอบเครื่อง จังหวะเกียร์ แรงไม่น้อยหรอก แต่ออกตัวไม่ปรู๊ดปร๊าดเหมือนยี่ห้ออื่น หรืออัตราเร่งในจังหวะฉุกเฉินมันต้องกระแทกคันเร่งมากๆเท่านั้นเอง HLA กันไหล 3 วินาที มันใช้เบรคมาจับ เมื่อรถอยู่ในองศาที่เอียงและรถจะไหลต้านกับทิศทางของเกียร์ มันไม่จับเบรคไว้ตลอดอยู่แล้ว 3 วินาทีนานมากๆ สำหรับการออกตัวแล้วครับ เหยียบคันเร่งแล้วไปต่อได้เลย ผมขายทิ้งไปแล้ว เบื่อกับการเกร็งคันเร่ง และปรับตัว อยากขับยังไงก็ขับเลยขายทิ้งไปเลย ขาดทุนย่อยยับ แต่ว่าสบายใจ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 09:41:31 A:115.67.2.98 X: TicketID:182253

ความคิดเห็นที่ 29 ใช้อยู่ ไม่ได้เป็นอย่าง จขกท. กล่าวเลยครับ ยกเว้นวิ่งในเมือง ย่านรถเยอะ 8-9 กม./ลิตร จริง ถ้านอกเมือง วิ่งได้ 12-18 กม./ลิตร (ขึ้นอยู่กับควบคุมความเร็วคงที่ด้วยนะครับ) 1.6 Sport ไม่ใหม่เเล้วนะครับ จขกท. น่าจะไปหาที่รับข้อมูลการขับรถ Ford Fiesta อย่างถูกต้องเสียทีนะครับ จากคุณ : ใต้ร่มเงาขาว-กรมท่า เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 10:34:30

ความคิดเห็นที่ 30 กินน้ำมัน 8-9โลลิตร สงสัยขับ150ตลอดเวลา จากคุณ : เงาะป่าซาไก เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 10:35:10

ความคิดเห็นที่ 31 เค้าขึ้นชื่อเรื่องการบริโภคเชื้อเพลิงอยู่แล้ว จากคุณ : Jelato766 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 11:12:46

ความคิดเห็นที่ 32 ระบบมันเยอะครับ กันลื่นไถล กันล้อฟรี  เจ้าตัวนี้แหละทำให้รู้สึกว่าออกตัวไม่แรง แต่มันดีกะชีวิตคุณนะ ระบบเกียร์ของเฟียสต้าเป็นคลัชคู่ ไส้ในเหมือนเกียร์ธรรมดา ถ้าไม่มีระบบไหล3วิ เวลาคุณใส่ เกียร์n มันก็คือเกียร์ว่างในเกียร์ธรรมดานั่นแหละ เคยขับมั้ยเกียร์ธรรมดาน่ะ เอ... ผมงงนิดนึงนะ รถเกียร์ออโต้ตัวอื่นไม่ไหลเนี่ยนะ คุณขับรถมากี่วันแล้วครับ   ผมใช้มากี่คันกี่คัน ถ้าทางชันมากๆ อย่างที่จอดรถคลองถม วรจักร มันก็ไหลนิดๆนะ แปลกตรงไหน ผมไม่ได้ใช้ฟอร์ดนะครับ แต่ผมว่าคุณอคติไปมั้ย จากคุณ : sayumpoo เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 12:34:06

ความคิดเห็นที่ 33 รถไหลหรือไม่ไหลอยู่ที่องศาครับ แต่ผมชื่อเจ้าของกระทู้ ว่ายี่ห้ออื่นไม่ไหลที่องศาเดียวกัน เห็นใจเจ้าของกระทู้ไม่ค่อยได้อะไรที่เป็นสาระ และความรู้สึกดีๆ นี่หรือครับคนขับ ford และไม่แปลกใจว่าทำไมใครๆว่าศูนย์มันห่วย เท่าที่อ่านดูยกเว้นถุงลม7ลูกอย่างอื่นแย่กว่ายี่ห้อญี่ปุ่นหมดครับ ยืนยัน จากคุณ : silkrosy (silkrosy) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 13:13:33

ความคิดเห็นที่ 34 จขกท. ก็ใช่ย่อยนะ เหน็บคนทุกบรรทัดเหมือนกัน ผู้ดี้ ผู้ดี จากคุณ : My_LovE_HapPyNesS เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 18:48:41

ความคิดเห็นที่ 35 หวังว่าเจ้าของกระทู้ ยังตามอานอยู่นะครับ ใช้ 1.6 คิดว่าน่าจะใช้รถมาระยะใหญ่แล้ว  (ถ้าเพิ่งออกน่าจะเป้น 1.5มากกว่ามั๊ง) -กำลังรถไม่มี  ----> เทียบจากอะไรครับ ผมว่ารถก็แรงดีนะ เพียงแต่เป็นแรงปลาย  ผมกดสุด 200km/h -เล่นรอบไม่สนุก --->  ไม่เข้าใจความหมายของคำว่าไม่สนุกครับ   ผมว่าผมกดหนักๆ นี่ รอบกวาดขึ้นม4-5000 รอบนะ -กินน้ำมัน 8-9 km/ลิตร  ---> ปกติครับ ผมโดนในเมือง 7 โลลิตรมาแล้ว นอกเมืองขับ 120นิ่งๆ ได้เต็มที่ ไม่เกิน 12 โลลิตร  ปกติขับ 120-160  กิน 10โลลิตร -ระหว่าง เกียร์ 1-2 มีอาการ คันเร่ง น้ำมัน ค้าง ต้องคอยระวัง ---> คันเร่งค้าง?  รีบเอาเข้าศูนย์ดีกว่าครับ -ไม่มีเกียร์ไว้สำหรับแซง ---> คิกดาวน์ครับ   ยิ่งถ้าคุณขับตจว  ต้องใช้คิกดาวน์อย่างมากเลย    รถรุ่นอื่นๆผมว่ามันก็เป็นปบบนี้กันนะ -จุดเด่นกลายเป็น ข้อเสียของรถเอง คือ ระบบกันรถไหล 3 วินาที แต่หลังจาก 3 วินาที ถึงคุณจะใส่เกียร์ D ทิ้งไว้ถ้ารถอยู่บนเนิน ก็จะยังคงไหลกลับหลัง ซึ่ง จากประสบการณ์การขี่รถยี่ห้อ อื่นๆมา ผมยังไม่เคย พบ รถคันไหนที่เข้าเกียร์ D แล้วไหลมาข้างหลังเลยสักครั้ง อย่างเช่น เฟียสต้า ข้อนี้จึงทำให้ผมรู้สึกว่า รถมันไม่มีกำลังเอาเสียเลย ----> ไปขึ้นเนินที่ไหนมาครับ  ท่าจะชันมาก    บอกตามตรง ผมไม่เคยปล่อยเกิน 3 วิ สักครั้ง กดคันเร่งก่อนตลอด  เลยไม่รู้ว่ามันไหลหรือเปล่า เฟียสต้าเป็นรถที่ขับสุกมากคันนึงครับ แต่ต้องเรียนรู้กับมันสักหน่อย   และแต่ละขับ ขับให้ความรู้สึกต่างกันด้วย      เคยไปขับรถเพื่อน  พุ่งกว่ารถผมเยอะเลย   อ่านแล้วเกิดคำถามว่า คุณใช้เฟัยสต้าจริงหรือเปล่า  และเชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาเม้นก็คิดเหมือนผมเหมือนกัน ปัญหารถผม ไม่มากมไม่มาย รถ1ปีเข้าศุนย์ 10 กว่าครั้ง อาทิตย์นี้ก็เพิ่งเข้ามา   ศุนย์บอกปกติ(รอบที่3ละ)  เซง แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 55 19:14:31 จากคุณ : kolfparin เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 19:13:13

ความคิดเห็นที่ 36 จขกท ขี้น้อยใจ รับความจริงไม่ได้ ติดแต่ความคิดเห็นตัวเองเป็นใหญ่และถูกต้อง พอมีคนคิดต่างตนก็ตีโพยตีพายร้องไห้งอแง ไร้สาระจริง จากคุณ : เขียนบน iPhone (Nightmare_Yuki) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 20:20:58

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านที่จขกท.โพสแล้วทะ:-) เหมือนคนไปฟังเซลล์คู่แข่งมา ผมอยากให้ขับเฟียสต้าไปศูนย์โตโยต้า แล้วขอลองขับยาริส คุณจะพบว่า คุณใช้แรงเหยียบคันเร่งเท่าเฟียสต้าที่ค่อยๆออกตัว แต่ยาริสกระชากหลังติดเบาะ้เลยพร้อมรอบเครื่องวิ่งไปเกินสามพันห้า เป็นที่ความหนักเบาของคันเร่ง หรือไม่ก็ไปลองเบนซ์รุ่นเก่าๆ คุณจะพบว่าแรงเหยียบเท่าเฟียสต้า เหยียบคันเร่งเบนซ์แทบไม่ลง เรื่องจอดทางชัน 3 วินาที จากข้อดีเป็นข้อเสีย เฟียสต้าเองก็ไม่ไหลได้ ถ้าชันในระดับนึง ซึ่งระดับนั้น รถที่ซีซีเท่ากัน ไหลไปแล้ว เพียงแต่ถ้าชันมาก 3 วินาทีช่วยได้ ถ้าไม่อย่างนั้นต้องพวกเครื่อง สามพันซีซีดีเซล ปล่อยเบรคแล้วยังเดินหน้าขึ้นเขาเองได้ จะเอาความประหยัดกับรถขับสนุก ผมไปกลับที่ทำงานวันปกติ สามารถทำได้ตั้งแต่ 10-14.5 โลลิตร แล้วแต่ว่าขับอย่างไร ประเภทแบบไม่ให้ใครแทรกหรือแซง ไปจนถึงออกตัวไฟเขียว โดนรถคันหน้าทิ้งห่างเป็นเสาไฟฟ้า อารมณ์เป็นส่วนที่ทำให้การกินน้ำมันต่างกัน อยากให้เจ้าของกระทู้เข้าใจครับ ตัวผมเองเฟียสต้าหมดประกันเมื่อไหร่ คงขายเหมือนกัน ส่วนดีก็มี ส่วนไม่ดีก็มี ผมเขียนด่าไปหลายกระทู้แล้ว สุดท้ายก็คงกลับไปเจ้าตลาด นานาจิตตังครับ จากคุณ : Rath เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 21:03:33

ความคิดเห็นที่ 38 #33 นอกจากถุงลม 7ลูก อย่างอื่นแย่กว่าญี่ปุ่นหมด ช่วยอธิบายได้ไหมครับ พูดแบบนี้มันพูดลอยๆ เอารายละเอียดมาเลยครับ จากคุณ : อยากกินตับ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 00:10:47

ความคิดเห็นที่ 39 User error............... จากคุณ : Rubber เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 12:37:26

ความคิดเห็นที่ 40 รถแฟนผมไม่่เป็นครับ ถ้ารถมีปัญหาก็ลองแก้ๆดูครับ จากคุณ : kmart เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 20:21:52

ความคิดเห็นที่ 41 แสดงว่าคุณยังควบคุมรถคันนี้ได้ไม่ดีพอครับ ต้องเรียนรู้การควมคุมคันเร่งไฟฟ้า ของรถคันนี้ใหม่ อีกอย่างคุณอย่าจำเอาวิธีการควมคุมรถเกียร์ออโต้ทั่วไปมาใช้ กับเฟียสต้าครับ แนะนำให้ทำความคุ้นเคยกับรถใหม่ดีกว่าลืมของเก่าไปเสีย เพราะเกียร์เฟีสต้ามันเทพกว่าชาวบ้านชาวเมืองเค้า.. ฟิลลิ่งการขับมันคนล๊ะเรื่อง จากคุณ : ๐ Napram ๐ ชโลมเลือดในอ่างทอง เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 09:56:12

ความคิดเห็นที่ 42 ขอแย้ง จขกท. ครับ ผมเพิ่งกลับจากนครพนม 1700 กม. เรื่องเกียร์ผมก็เป็นครับ 1 ไป 2 ดังนิดๆเวลาขับช้าๆแต่ไม่ตลอด และไม่มีผลกับการขับขี่ ผมให้ผ่าน เรื่องเล่นรอบไม่สนุก อันนี้ผมว่าคนขับไม่เป็นครับ เพราะเกียร์ตัวนี้มันออกแบบมาให้เล่นอยู่แล้ว เมื่อคืนยังวิ่งกับโฟกัส 2.0 ช่วงลงมาจากเขาปัก ทิ้งไม่ขาด หนีไม่ออกครับ อี20 ผมวิ่งแบบรีบๆไม่มีเลี้ยงคันเร่ง เฉลี่ยทั้งทริปได้ 15.15 โลต่อลิตรครับ ระบบกันไหลมันดีครับ แต่ต้องเข้าใจเร่งคันเร่งไฟฟ้าครับ ส่วนเรื่องหลังการขาย อันนี้เฉยๆครับมีดีมีร้าย จากคุณ : H23_Limited เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 10:24:18

ความคิดเห็นที่ 43 เป็นมือใหม่ค่ะ เพิ่งขับรถมา 3 อาทิตย์และมีน้องต้าเป็นรถคันแรก ก็แปลกใจและประทับใจในหลายๆเรื่อง บางทีรถไม่ไหลลื่นตามใจ แต่มีหลายท่านบอกว่าเราต้องเรียนรู้จังหวะของรถด้วย ไม่ใช่เพียงแค่เหยียบคันเร่งกับเบรคเท่านั้น ก็พยายามเรียนรู้กันไป ขับในกทม.อย่างเดียว ตอนนี้อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 10-11 กม./ลิตร จากคุณ : glitterydust เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 17:10:12

ความคิดเห็นที่ 44 ค.ห.35 ครับ รถรุ่น 1.6 s ผมก็เพิ่งถอยมาเหมือนกันเมื่อ 26 -10-55 ไม่ได้นานอะไรเลย ก่อนจะว่าคนอื่นหาข้อมูลให้ดีก่อนครับ จากคุณ : Begin เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 08:16:49 A:27.55.2.238 X: TicketID:380322

ความคิดเห็นที่ 45 คุณไม่เหมาะกับรถครับ เฟียสต้าเลือกคนขับเหมือนกันนะ เหมือนไม้กายสิทธิ์ในแฮรี่พอตเตอร์นั่นแหละ จากคุณ : DellL เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 14:09:29