ความคิดเห็นที่ 1 รถมอไซค์แบบ ออโต้ มันไม่มีเกียร์ในห้องเครื่องยนต์ ยังไงซะมันต้องมีระบบส่ง-ถ่ายกำลัง มันจึงมีระบบ ถ่าย-ส่ง ไว้ล้อหลังแทน ตอบแบบชาวบ้านๆ นะ จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 00:02:49

ความคิดเห็นที่ 2 คือ เฟืองท้ายเป็นส่วนหนึ่งของระบบ CVT แล้วหรอครับ? จากคุณ : กล้องจ๋าขาโจ๋ เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 00:22:09

ความคิดเห็นที่ 3 CVT ย่อมาจาก continuously variable transmission แปลกันตรงๆ คือ เกียร์ออโต้แบบอัตราทดต่อเนี่องนั่นเอง โดยหลักๆจะมีพูเล่สองตัว ที่สามารถ ขยายตัว ตามรอบการทำงานและน้ำหนักของภาระได้ เช่น ขึ้นเขา ภาระก็จะหนักกว่าวิ่งทางปกติอัตราทดก็จะเยอะกว่าปกติ คล้ายเกียร์ต่ำ เฟืองที่เห็นก้อเป็นกลไก เกี่ยวข้องกัน กะพูเล่ ที่ว่า ลองนึกดูถ้าไม่มีเฟืองท้าย จู่ๆมีพูเล่ติดล้อหลังเฉยๆ ทีนี้จะขี่กันยังไง ลองไปดูคลิป http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=pjmv-dX2PWs จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 00:38:31

ความคิดเห็นที่ 4 แต่รถเกียร์ธรรมดาที่ใช้โซ่ส่งกำลัง ก็ไม่เห็นต้องมีเฟืองท้ายเลยครับ หรือว่ามีแต่ผมไม่รู้อะครับ? เห็นมีแต่เสตออะครับ แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 55 00:45:59 จากคุณ : กล้องจ๋าขาโจ๋ เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 00:42:46

ความคิดเห็นที่ 5 มีแต่คุณที่ไม่รู้สิครับ รถเกียร์ธรรมดา มันมีเฟืองเกียร์ 12345-6 และครัช อยู่ให้ห้องเครื่องยนต์รวมในตัวเสร็จสรรพแล้วครับ คุณเอาเท้าซ้าย เหยียบเกียร์ ห้องเกียร์มันก้ออยู่ข้างในนั้นแหละ ส่งกำลัง มาสเตอร์หน้า ไปเสตอร์หลัง ไงครับ จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 00:50:50

ความคิดเห็นที่ 6 ผมหมายถึงเฟืองท้ายครับ ไม่ได้หมายถึงเกียร์ รถธรรมดาก็มีเกียร์ในการส่งกำลังแน่นอน แต่ไม่มีเฟืองท้ายนิครับ? ส่วนรถออโต้ก็มีชุด  cvt มีชาม มีเม็ด ว่ากันไป แต่ก็มีเฟืองท้ายด้วย ที่ผมสงสัยคือ ทำไมถึงต้องมีเฟืองท้ายครับ? เพื่อเปลี่ยนอัตราทด? หรือว่าเพื่อชุดประสงค์ใด ทำไมล้อหลังถึงต่อกับpulley โดยตรงไม่ได้ เหมือนกับที่ในรถธรรมดา เฟืองเสตอสามารถต่อกับล้อหลังโดยตรงได้เลยอะครับ? กลัวไม่เข้าใจคำถามผมงะ... จากคุณ : กล้องจ๋าขาโจ๋ เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 01:00:09

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเดานะครับว่าไอ้เฟืองท้ายของมอเตอร์ไซค์ออโตเนี้ยมันทำหน้าที่เป็นตัวทดรอบเฉยๆ ไม่ได้ทำหน้าที่เหมือนเฟืองท้ายรถยนต์  แต่ที่เรียกว่าเฟืองท้ายเหมือนกันเพราะมันเป็นชุดเฟือง ที่อยู่ด้านท้ายของรถเท่านั้นเอง   ตรงนี้ผมเดาล้วนๆนะครับเพราะดูจากรูปแล้วผมว่ามันน่าจะ เป็นแค่ชุดเฟืองทดกำลังเฉยๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : รถผมวิ่งได้ร้อยเดียว (koda@บางมด) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 01:16:55

ความคิดเห็นที่ 8 เฟืองท้าย( final drive) กับ differantial มันคนละหน้าที่กันครับ แยกกันอย่างแตกต่าง รถยนต์มีทั้ง2อย่าง รถมอไซมีแค่เฟืองท้าย เช่นรถโซ่ทั่วๆไป รวมถึงจักรยาน ซึ่งไม่จำเป็นต้องมี diff ไว้แยกกำลังล้อซ้ายขวาเหมือนรถยนต์ มอไซออโต เป็นเกียร์cvt มันรวมชุดกันหมด ไม่ได้แยกเฟืองท้ายออกมา จากคุณ : viper_ttt เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 07:39:49

ความคิดเห็นที่ 9 ความรู้ทั้งน้านน ^ ^ จากคุณ : marionet666 เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 08:29:43

ความคิดเห็นที่ 10 รถเกียร์ธรรมดา่อเฟืองสเตอร์เข้ากับล้อหลังได้เลยเพราะมันมีเฟืองทดที่หัวเพลาข้อเหวี่ยมาที่เรือนคลัทช์ที่อยู่บนหัวเพลาเกียร์ ที่เรียกกันว่าอัตราทดขั้นที่หนึ่งอยู่ด้วย ส่วนโซ่+สเตอร์เป็นอัตราทดขั้นที่สอง ที่ต้องแยกกันเพราะการทำให้เครื่องยนต์เล็กๆมีแรงขับมากพอมันต้องทดรอบลงมาก ถ้าไปทดกำลังลดรอบด้วยโซ่สเตอร์อย่างเดียวเราอาจจะต้องใช้สเตอร์ขนาด 13/138 ในเวฟ 110 แต่พอเราแยกอัตราทดขั้นที่หนึ่งไปที่เรือนคลัทช์แล้วเราก็ใช้สเตอร์แค่ 13/32 ได้สบายๆ และยังช่วยลดการสึกหรอและการกระชากของคลัทช์เพราะมันทำงานที่รอบต่ำลงได้ด้วย แต่เกียร์ออโต้มอไซค์ต้องเอาเฟืองทดไปไว้ด้านท้ายเพราะมันใช้สายพานในชุดเกียร์ ถ้าผ่านเฟืองทดลดรอบก่อนแล้วมาที่คลัทช์ก่อนจะไปสายพาน เวลาเร่งเครื่องจนคลัทช์แรงเหวี่ยงเริ่มจับ มันจะเกิดการกระชากอย่างแรงที่สายพาน และสายพานยางมันทนแรงกระชากได้ไม่เท่าโซ่ แล้วยังทำให้การขับขี่ไม่มีความนุ่มนวลเลย แต่ถ้าผ่านเฟืองทดก่อนแล้วไปสายพาน แล้วคลัทช์เอาไว้ท้าย รอบหมุนจะต่ำเกินไปจนคลัทช์แรงเหวี่ยงไม่มีแรงจับ ก็เลยสรุปที่ระบบปัจจุบันคือข้อเหวี่ยง พุลเล่ย์สายพาน คลัทช์ เฟืองท้าย เปลืองน้ำมันหน่อยเพราะพุลเล่ย์สายพานหมุนพร้อมข้อเหวี่ยงตลอด แต่ทำงานนิ่มนวล ยืดอายุสายพาน คลัทช์แรงเหวี่ยงทำงานเต็มประสิทธิภาพ ดูภาพชุดเฟืองท้ายจะเห็นว่าทดสองครั้งเพื่อให้ใช้เฟืองขนาดเล็กแทนที่จะทดครั้งเดียวด้วยเฟืองขนาดใหญ่ชุดเดียว ทำให้ระบบส่งกำลังมีขนาดเล็กลง สรุปคือมันเอาไว้ทดแรงเท่านั้นเพราะเอาไปไว้ที่จุดอื่นของระบบมันไม่เหมาะเท่าที่นี่ เพียงแต่มันอยู่ที่ส่วนท้ายสุดของระบบส่งกำลังก็เลยเรียกเฟืองท้าย แค่นั้นเอง แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 55 08:43:15 จากคุณ : หกขาสองหางสี่ปีก เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 08:30:10

ความคิดเห็นที่ 11 Final Gear (Drive) Differential Gear มันคนละตัวกันนะครับ จะว่าไป มอ`"ซค์ ธรรมดา Final Gear ก็คือที่เราเรียกว่า "สเตอร์หลัง" นั่นแหละครับ นืยามของคำว่า Final คือ "สุดท้าย" ถึงตรงนี้ไม่มีอะไรมาต่ออีกแล้ว ขับเคลื่อนลงพื้นแล้วครับ ส่วน Diff. ในรถมอ`ไซค์ ออโต้ (จากตรงนี้ไป วิเคราะห์เดานั่นแหละเอานะ ไม่ได้รู่จริงๆหรอก) มีเพื่อป้องกันระบบส่งกำลัง ทั้งสายพาน ทั้งพูเลย์ เมื่อความเร็วล้อหลัง กับเครื่องยนตร์ไม่สัมพันธ์กันครับ ขออนุญาต จขกท. หน่อยนะครับ สวัสดีครับ คุณหกขาสองหางสี่ปีก สบายดีนะครับ จากคุณ : srich เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 10:02:58

ความคิดเห็นที่ 12 ความรู้อะ ขอบคุณครับ จากคุณ : Nipon_V-Max เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 18:48:57

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาเสริมให้ครับ......ตัวดิฟเฟอร์เรนเชี่ยนนั่นคือคัวแปรเปลี่ยนอัตราหมุนของเพลารถยนต์ให้มันผ่อนถ่ายกำลังซึ่งกันและกัน ไม่งั้นรถยนต์จะเลี้ยวไม่เข้าโค้ง....อย่างที่เรารู้อยู่(ไม่อธิบายมากนะครับ เดี๋ยวจะผิดเป้าประสงค์ของจขกท.)......ส่วนเฟืองท้ายของรถ AT.ที่จขกท.สงสัยว่าทำไมต้องมีด้วย......ที่จริงมันเป็นการกระจายอัตราทดจากสายพานชุดหน้าแบบแบ่งเบาภาระออกมาให้มองดูไม่ลงตัวมากกว่า(โดยความหมายคือจานคลัตช์แรงเหวี่ยงหนีศูนย์(ตัวหน้า) มันมีขนาดเทียบเท่าสเตอร์ของรถทั่วไปประมาณ20ฟัน-ส่วนจานคลัตช์แรงเหวี่ยงกลับทางชุดหลังมันมีอัตราทดประมาณ30ฟัน)....จะเห็นได้ว่าสัดส่วนของมันห่างกันแค่10ฟันเท่านั้นแหละ(หากเป็นรถที่มีเกียร์1-2-3-4-5 แบบรถทั่วไป..การทดในระดับนี้ก็แทบจะออกตัวรถไม่ไหว).....เพราะฉะนั้นผู้ผลิตเขาจึงกระจายอัตราทดเอามาไว้ที่เฟืองท้ายอีกต่อหนึ่งในอัตราทดแบบเดียวกับจานคลัตช์ของรถปกติ(รถปกติจะมีชุดคลัต์อยู่ข้างคันสตาร์ทขวามือไงครับ เฟืองหน้าประมาณ15......เฟืองหลังประมาณ45......มันทดรอบลงมาได้3เท่าก่อนที่จะเข้าไปในห้องเกียร์.......แต่รถออโต้ไม่มีชุดคลัตช์....เขาเลยย้ายเอามาทดไว้ที่เฟืองหลัง..........ไม่งั้นรถออกตัวไม่ไหวครับ).........ส่วนเฟืองท้ายจริงๆของรถแบบไม่ใช่ AT ก็คือรถมอเตอร์ไซค์ BMW ที่มีเฟืองท้ายของจริงๆตามนัยของการขับเคลื่อนแบบปกติครับ จากคุณ : น้าหยอย (เคี้ยงโมโต) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 20:39:54

ความคิดเห็นที่ 14 V(^.^)V จากคุณ : หกขาสองหางสี่ปีก เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 11:27:38