ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนตัวเมื่อก่อนผมเป็นคนไม่ได้มีศาสนา แล้วเวลานี้มีศาสนาแล้วยังครับ จากคุณ : ซุนจื๊อ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 17:27:06

ความคิดเห็นที่ 2 ตักบาตรอุทิศส่วนบุญให้ครับ เพราะเป็นบุญใหญ่ พวกนี้ไม่จำเป็นจริงๆไม่มาหาหรอกครับ ไม่รู้จักกันเลย มาหาเพราะลำบากกันทั้งนั้น ถ้ายังมากวนอีกอาจไม่ได้มาขอส่วนบุญ แต่เป็นเจ้ากรรมนายเวร จากคุณ : imanust_261204 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 18:17:34

ความคิดเห็นที่ 3 กวนได้กวนไปค่ะ เราก็จะแผ่เมตตาต่อไป ที่พวกนั้นมากวน เพื่ออยากให้คุณกลัว พอคุณกลัว คุณก็ลนลานรีบๆแผ่เมตตาให้เค้า พอเค้าทำอย่างนี้ เค้าก็ได้สิ่งที่เค้าต้องการ แล้วพวกนี้เค้าก็ทำไปเพราะมิจฉาทิฎฐิ ดังนั้น เวลาเราแผ่เมตตา เราก็เพิ่มไป ว่าให้เป็นไปเพื่อสัมมาทิฎฐิค่ะ เค้าจะได้เห็นถูกต้องสักที แนะนำเพิ่มค่ะ เพราะคุณประสบปัญหาเดียวกับเราเลย ตอนแรกเราก็ไม่รู้ เพราะแต่ก่อนจะมาปฏิบัติ ไม่เคยได้เฉียดกายกับเรื่องพวกนี้เลย ส่วนมากจะมาตอนกึ่งหลับกึ่งตื่น คืนไหนถ้ารู้สึกตัวตื่นกลางดึก เราแทบจะนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะมัวแต่กังวลว่าจะเจออีก พอเอาไปปรึกษาผู้รู้ เค้าก็แนะนำว่า แผ่เมตตานั่นแหละ แต่ ... เวลาแผ่เมตตา ให้เพิ่มเข้าไปว่า ขอให้การแผ่เมตตานี้ เป็นไปเพื่อเหตุและปัจจัยแห่งสัมมทิฎฐิ ***เพิ่มตรงนี้นิดนึง*** เวลาแผ่เมตตา ให้แผ่เมตตาให้เทวดาประจำตัวเราด้วยค่ะ แล้วก็พ่วง ...สัมมาทิฎฐิ... ไปด้วยนะคะ --------------------------------------------- วันที่เราเอาไปถามเค้า เราเจอครั้งที่สาม จากที่เกือบๆจะเลิกกลัวแล้ว เพื่อนดันมายืนยันว่าของจริง เราก็จ๊ากเลย กลัวต่ออีกสามคืน หาอุบายทุกอย่างให้ตัวเองเลิกกลัว จนเราค้นพบว่า การสวดมนต์บทยากๆ ช่วยให้เราหลับ เราก็เลยสวดมนต์ มงคลจักรวาลใหญ่ ก่อนนอนค่ะ สวดพร้อมเสียงพระสวดเลยค่ะ หลับป๊อกทุกคืนมาสามคืนแล้ว ดีใจมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 19:12:17 จากคุณ : =U_U= PoRpLe เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 19:10:23

ความคิดเห็นที่ 4 อยากถามคำถามเดียวกับข้อ 3 ของเจ้าของกระทู้มานานแล้วครับ ส่วนตัวไม่ใช่คนเคร่ง แต่มีเวลาอยู่บ้านทั้งวัน ก็เลยถือโอกาสใช้วันพระในการสวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา มีโอกาสก็จะไปใส่บาตรบ้าง ทำเอง สวดเอง แบบงูๆ ปลาๆ ครับ อาศัยทำให้ใจสงบ เน้นฝึกสมาธิตัวเองมากกว่า ซึ่งก็ยังไม่เคยเจอระดับเจ้าของกระทู้หรือคุณคห.สามนะครับ ส่วนมาก จะประเภทว่า พอเช้าวันพระปุ๊บ จะมีอะไรบางอย่างปลุกให้ตื่นหรือรู้สึกตัวเอง ทั้งที่คืนนั้นจะเพิ่งนอนได้เพียงชั่วโมงสองชั่วโมงก็ตาม มันจะตื่นแล้วเหมือนพร้อมให้เราลุกมาทำกิจกรรม (ปกติเป็นคนนอนเช้ามืดครับ แล้วก็จะตื่นสาย) แต่ถ้าวันไหนขี้เกียจก็จะคุดคู้นอนต่อแล้วก็หลับยาวไปเลย จากคุณ : Jeremizz เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 19:24:08

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าคุณเชื่อว่ามีจริง มันก็จะเป็นจริงเฉพาะคุณ  ทั้งที่มันไม่มีจริง ผมไม่แน่ใจว่า หากให้ยอมรับความเป็นจริงจะเป็นการทำร้ายจิตใจคุณหรือไม่ เพราะการเริ่มมองเห็นภาพหลอนนั้นเป็นอาการของจิตเภทซึ่งเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง คนนอนไม่หลับ กระวนกระวายใจ ความคิดฟุ้งซ่าน ไม่สามารถทำสมาธิได้ คงจะได้แต่สวดมนตร์ ซึ่งเป็นเทคนิคในการทำให้จิตใจสงบได้บ้าง นอกจากนั้นควรทานอาหารที่เน้นเส้นใยจำพวกผักและผลไม้ ลดพวกแป้งและเนื้อสัตว์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ที่สำคัญควรหาความรู้และปรึกษาแพทย์ หากจำเป็นต้องทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ หากยังมองเห็นภาพทั้งขณะตื่นหรือนอนก็ตาม ให้เข้าใจว่ามันไม่จริง และพยายามทบทวนกับตนเองด้วยว่า ทุกคนต่างปรารถนาดีต่อเรา เพียงแต่เราเข้าใจผิดเท่านั้นเอง จากคุณ : jonathan w. เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 20:21:01

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องผีอำนั้น ผมคิดว่า ผมโดนบ่อยไม่แพ้คนอื่น  ถูกอำจนรู้วิธีแก้ไขครับ คือ ผมจะใช้วิธีการนอนคว่ำไปเลยครับ เวลาที่เริ่มจะถูกอำ สุดท้ายแล้วผม ก็ได้คำตอบว่า  แท้จริงแล้ว ไม่ได้มีผีใดๆ มาเกี่ยวข้องเลย  มันเป็นที่สภาพร่างกายของเราเท่านั้น พอถูกอำ เราก็คิดจินตนาการไปต่างๆ นานา   เราหลอกตัวเราเองว่า มันเป็นผี จริงๆ แล้วไม่ได้มีผีมาอำอะไรเราเลย  มันน่าจะเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทมากกว่า จากคุณ : bodymind เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 20:34:33

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่รุ้ว่าทำสมาธิแบบไหนนะครับแต่แนะนำว่าให้เดินจงกลม30นาทีสลับนั่ง30ยืนเฉยๆ30นอนตะแคงไสย30ทำสลับกันเพิ่มพลังสมาธิได้มากเมื่อทำใด้ผีอำก็จะหายไปเองอาจมีอย่างอื่นมาแทนหรืือไม่มีก็ได้นี่แค่เริ่มต้นยังมีรออีกเยอะครับสงสัยอะไรถามได้ครับพอรู้บางเรื่องที่รูุ้ก็จะบอกครับ จากคุณ : chick_alive เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 22:51:36

ความคิดเห็นที่ 8 ถาม : ยิ่งเราทำดีเท่าไร ยิ่งทำให้คนอื่นเขามองไม่ดี ? ตอบ : จำไว้ว่าคนเราถ้าตั้งใจทำความดี มารจะขวาง คนรอบข้างสามารถเป็นมารได้ทั้งหมด ซึ่งเกิดจากการดลจิตดลใจของมารเขา ถ้าหากว่าตั้งหน้าตั้งตาสู้ฟันฝ่าไปด้วยกำลังใจที่เข้มแข็ง เราก็จะพ้นผ่านไปได้ แต่ถ้าหากไม่ยอมสู้ ยื่นเท้าเข้าไปให้เขาผูกแต่โดยดี ก็ไม่ต้องไปไหนหรอก เสร็จเขาแน่..! สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕ ที่มา : ยิ่งทำดีเท่าไร ยิ่งทำให้คนมองไม่ดี ? - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน จากคุณ : phutakun เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 23:03:52

ความคิดเห็นที่ 9 มันไม่ใช่ผี หรอก  จะทำความดี ต้องถูกทดสอบเสมอ จากคุณ : phutakun เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 23:04:35

ความคิดเห็นที่ 10 #6 ลองไปถามหมอรึยังครับ ว่าหมอรู้มั้ยว่า ทับเส้นประสาทชื่ออะไร ส่วนไหน ถึงมีอาการแบบนี้   ผมว่าหมอก็ไม่รู้เหมือนกัน  เพราะผมก็ถามมาแล้ว ขอตอบ จขกท แบบของผมบ้างละกันครับ  ผมว่ามันไม่ใช่นอนทับเส้นประสาทนะ เพราะผมไปหาหมอมาแล้วหมอเค้าก็ตอบไม่ได้หรอกครับ ว่าเส้นอะไร อยู่ตรงไหน เส้นประสาทนั้นชื่ออะไร  แค่ตอบไปมั่วๆ เพราะหาเหตุผลไม่ได้ แนะนำว่า อย่าทำสมาธิตอนนอนครับ  ยิ่งทองพุทโธ มันยิ่งไม่หลุด  พอเป็นอาการนี้ยิ่งสวดมนต์ก็ยิ่งไม่หลุดแน่นอน  คือทางแก้ก็คือ ตอนเป็น ก็แค่อยู่เฉยๆ แล้วคิดแค่ว่าอยากขยับตัวได้ ซักพัก ประมาณ ไม่เกิน 1-2 นาที ก็ขยับตัวได้เองครับ ถ้าตอบในแบบของผม คือ มันเป็นอาการสมาธิอย่างนึง  ที่จิตเหลื่อมจากกายครับ คือกายหลับแล้วแต่จิตตื่น ช่วงนี้จะเห็นไรแปลกๆได้  แต่มันไม่ตรงกับของจริงเท่าไหร่หรอกครับ เพราะต้องฝึกสมาธิอีกเยอะ ปล. จขกท ก็คงต้องเลือกคำตอบที่คิดว่าดีที่สุดแล้วแหละครับ เพราะมาถามในเว็บบอร์ด 10 คน ก็ 10 คำตอบครับ 55+ จากคุณ : เกียดเกียด เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 23:04:56

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นจริงหรือ กลัวจะไม่่จริงนะครับ แต่ถ้าเห็นจริง คุณเป็นคนมีบุญและโชคดีมาก ปฎิบัติธรรมต่อไปครับ จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 23:27:27

ความคิดเห็นที่ 12 จขกท.ลองวิธีก่อนนอน หายใจเข้าลึกๆให้ท้องพอง(พองจนตึง ถ้าไม่ตึงก็พยายามให้ตึง) หายใจออกก็หายใจออกยาวๆ ทำไปเรื่อยๆ รู้สึกตัวอีกทีก็เช้า เรื่องผีอำ เป็นอาการประสาทตื่นตัวแต่ร่างกายยังไม่ทำงาน ผลคือ รู้สึกตัวแต่ขยับร่างกายไม่ได้ แก้โดยสวดมนต์ตอนที่โดนผีอำไปเรื่อยๆครับ ท่องมันไป ถ้าไม่ไหว บอกมันว่า ช่างมันละ ก.จะนอนละ ตายก็ตาย แล้วก็นอนไปเลยครับ ผมเคยบ่อยๆ ตอนเด็กๆ ผลคือ ผมก็หลับมันไปทั้งอย่างนั้นแหละ  บางทีมีแถมว่าหายใจไม่ออกด้วย พอหลุดมาก็โพล่งขึ้นมาเฮือกใหญ่ หัวโล่งเลยครับ สนุกดี จากคุณ : เส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 23:33:06

ความคิดเห็นที่ 13 หาพระมาแขวนสักองค์สิครับ พระหลวงพ่อทวด ก็ดีนะครับ หรือ ท่องชินบัญชรก่อนนอนก็ได้ ผมก็เคยผ่านแบบนี้มาเหมือนกัน แต่หนักกว่านี้เยอะครับ นอนไม่ได้ต้องหาพระมาแขวน เพราะบางทีไม่ทันหลับก็รู้ว่ามาแล้ว และจะแทรกตอนก่อนหลับทุกที ตามที่ประสบการณ์ของผม ผมว่าเป็นผีอำจริงครับ ถ้าแขวนพระยังไม่ไหวก็ดื้อนอนไปเฉย ๆ เลย ไม่เป็นไรหรอกอาจจะรำคาญบ้างเดี๋ยวก็ชินไปเอง แต่ถ้าสมาธิดีผีไม่มากวนครับ ถ้านั่งแล้วเห็นแสง สร้างนิมิตเป็นรูปร่างได้ ก็ใช้นิมิตนั้นคุ้มกัน หรือลองสร้างมีดหรือกริชแล้วลองแทงไปที่สิ่งนั้นดูนะครับ ผมว่าสนุกดีเหมือนกัน แต่ผมเคยทำแล้วตอนเข้ากรรมฐานตื่นเช้ามาโดนพระอาจารย์เตือนโดยไม่ต้องบอกเลย ว่าอย่าไปทำเขา เพราะตอนนั้นผมก็ยังไม่ค่อยเชื่อว่ามันจริง อ่อ อย่างนี้ก็ได้นะครับ เวลาก่อนนอนให้ทำสมาธิแน่วแน่แล้วเป่าคาถาพุทโธ ๆ เป่าแล้วน้อมใจให้ป้องกันไปทั่วทิศก็ใช้ได้นะครับ แต่สำหรับผู้ฝึกใหม่จะตัดอารมณ์ได้ยากนี่สิ ทำให้เวลานอนแล้วคิดถึงอารมณ์ตอนผีอำ แล้วมันจะหวิว ๆ แล้วพอใจมันระดับตรงกัน ผีก็อำได้ง่าย อันนี้ต้องใช้เวลาเป็นไปตามกำลังอินทรีย์ จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 23:45:38

ความคิดเห็นที่ 14 หันมาสวดมนต์ กับเจริญสติ ดีไหมครับ  แล้วก็อย่าไปเชื่ออะไรที่แปลกๆ พวกนี้ บางทีจิตคิดไปเอง จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 00:11:36

ความคิดเห็นที่ 15 คุณทำสมาธิโดยที่สติยังไม่แน่นพอ.... เมื่อเห็นไปต่างๆนานา แล้วยังไม่สามารถดึงสติกลับได้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ ทำสมาธิตามพระเลยทีเดียว โอกาสสำเร็จมีน้อย เพราะไม่ได้ฝึกสติควบคู่กันไป ส่วนพระนอกจากมีสัปปายะแล้ว ท่านยังพิจารณาตลอด มีเดินจงกรมเสริมอีก แนะนำให้เพลาๆการนั่งสมาธิลงก่อนแล้วหันมาเจริญสติในชีวิตประจำวัน เมื่อได้สติดีขึ้นแล้วก็ค่อยเจริญสมาธิควบคู่กันไปครับ จากคุณ : BlueDelphi เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 00:36:12

ความคิดเห็นที่ 16 คุณหาอาจารย์ที่ท่านเป็นพระ ปฎิบัติดี ปฏิบัติชอบ เข้าไปกราบท่านสอบถามท่านได้ค่ะ การที่เรามีครูอาจารย์ไว้สอบถามเป็นการดีค่ะ เหมืนอกับการเดินทาง เพื่อนที่ร่วมทางก็ช่วยตอบกันดี แต่ถามท่านที่เดินผ่านทางนี้ไปก่อนเราจะกระจ่างกว่านะคะ ลองเข้าหาท่านดูค่ะ จากคุณ : ตถตา (ตถตา) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 00:49:27

ความคิดเห็นที่ 17 เราเป็นเพื่อนกับ "เขา" ไปแล้วคะ หุหุ.. เพราะ.. สงสารเหลือเกิน ก็เมตตาเปี่ยมล้น คุยกันรู้เรื่อง บางทีไม่พร้อมให้มาใกล้ก็บอกในจิต ก็ไม่มา ให้อยู่ห่างเราหน่อยแต่เราจะแผ่เมตตาให้เสมอ.. เวลาไปปฎิบัติธรรม แผ่ส่วนบุญไปทั้ง 3 โลกเลย.. เชิญท่านที่อยู่แถวนั้นใกล้ๆ มารับบุญ และมาปฎิบัติธรรมด้วยกันกับเรา..  ^-^ จขกท. อาจเป็นเจ้ากรรมนายเวร ก้ได้ ปฎิบัติต่อไป.. แต่.. ควรถือศีล 5 ทางมังสวิรัติ ทำบุญทำทาน สวดมนต์ ปฎิบัติธรรม ไปปฎิบัติกับพระอาจารย์บ้างก็ดี ให้อุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตา ขออโหสิกรรม ลองอ่านกระทู้อื่นๆ ที่แนะนำการปฎิบัติธรรมนะคะ จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 02:06:25

ความคิดเห็นที่ 18 #5 เมื่อล็อกคำตอบว่าไม่มีจริง ก็ย่อมพยายามทำให้มันไม่มีจริง ด้วยการใส่เหตุผลต่างนานา แม้จะเเป็นหตุผลวิบัติก็ตาม อย่างอยู่ในบ้านสามคน เห็นผีพร้อมกัน ก็ให้เหตุผลว่าอุปาทานหมู่ ซึ่งมันหลอนกันอิท่าไหน ถึงได้เห็นภาพพร้อมกัน เหมือนกัน ลักษณะเดียวกันได้ หรือเห็นต่างเวลากัน แต่กลับบอกรูปพรรณได้ตรงกัน เพราะล็อกคำตอบ จึงทำให้เชื่อว่ามันเป็นได้ โดยไม่เคารพต่อความเป็นจริงและความเป็นไปได้ จากคุณ : imanust_261204 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 04:28:34

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นภาพอะไรที่น่ากลัว ถ้าทำอย่างไรไม่หาย วิธีสุดท้ายภาวนาว่า ชินนะปัญจะระ ๆๆๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ ภาพจะหายไป   ลองดูนะ....... เป็นชื่อท้าวมหาพรหมขินนะปัญจะระ อาจารย์ที่เป็นเทวดาของสมเด็จโต ผู้พิชิตมารของโลกวิญญาณ จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 07:41:41

ความคิดเห็นที่ 20 จาก จขกท. ขอบพระคุณสำหรับทุกๆ คำตอบครับ ส่วนตัวผมเป็นคนรักษาสุขภาพมาก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ วิ่ง 5 กิโล + Cross Training + เวท ทำมาจะสิบปีแล้ว วันเว้นวันไม่เคยขาด แต่กายแข็งแรง จิตไม่ได้แข็งแรงตาม อยู่ๆ วันหนึ่งเครียดหลายเรื่องมาก ก็เลยพาลทำให้เป็นโรคนอนไม่หลับซะงั้น รักษามาสารพัดทั้งฝังเข็ม ทานยา นวดกดจุด จนจะปาเข้าไป 5 เดือน ตอนนี้ดีขึ้นมากจากการฝึกโยคะ และเข้าชินสาสมาธิของพระธรรมมงคล ก็นำมาปฏิบัติใช้ที่บ้านครับ ซึ่งผมจะทำโยคะนิทรา สวดมนต์ และตามด้วยเข้าสมาธิ 30 นาที บริกรรมพุทโธๆๆๆ เพียงแต่สังเกตุมาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติธรรม วันไหนไม่ทำ จะเริ่มโดนผีอำ ฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้นอนไม่เต็มที่ ส่วนตัวก็เลยโมโหเล็กน้อยครับ ว่า "เอ๊ะ!! มันกลายเป็นว่าถ้าวันไหนไม่สวดมนต์ ไม่เข้าสมาธิ ก็จะโดนก่อกวน แบบนี้มันอันธพาลกันนี่นา" ก็เลยเกิดข้อสงสัยและมาสอบถามในนี้ดูครับ จะบอกว่าความเชื่อเรื่องผี ไม่อยู่ในหัวผมเลย พื้นเพผมเคยนับถืออิสลามนะครับ คืออิสลามเขาไม่ให้เชื่อเรื่องผีเลย มีแต่พระเจ้าองค์เดียว เรื่องโดนผีอำ หรือสัมผัสอะไรที่เกี่ยวกับผีสักนิดไม่มีจริงๆ และผมกับครอบครัวก็ออกจากศาสนามาโดยไม่นับถืออะไรอีก แต่มาช่วงนี้เป็นเพราะนอนไม่หลับ ผมเลยเปิดใจหันเข้าหาสมาธิและลองปฏิบัติดูก็พบว่ามันช่วยได้ครับ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดผลข้างเคียงอะไรลักษณะนี้ ผมจะลองทำตามความเห็นที่ 3 ดูครับ คือลงท้ายไปว่า "ขอให้การแผ่เมตตานี้ เป็นไปเพื่อเหตุและปัจจัยแห่งสัมมทิฎฐิ" เพราะผีตัวไหนมันนิสัยไม่ดี ผมก็ไม่อยากไปแผ่ให้เขาครับ แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 12:12:36 แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 12:09:20 แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 12:08:05 แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 11:42:04 จากคุณ : จขกท. (buddycreative) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 11:41:17

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่ต้องไปกลัวครับผีน่ะ เขาทำอะไรเราไม่ได้หรอก ถ้าเขากวนคุณได้ขนาดนั้นก็แปลว่าเขาเคยเป็นคนรู้จักใกล้ชิดกับคุณมาก่อนนั่นแหล่ะ อาจจะเป็นบิดา มารดา บุตร ภรรยา สามี หรือ ญาติ ใกล้ชิด สักชาติไหนสักชาตินั่นแหล่ะ ก็แผ่เมตตา อุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศล ทำบุญกรวดน้ำไปให้ก็จบ นึกถึงใจเขาใจเราครับ นึกภาพว่าผีน่ะ ลำบากอยู่แล้วเป็นปกติ ถ้ามีแสงสว่าง แม้เพียงน้อยนิด ถ้าเป็นคุณ คุณจะไม่อยากได้เหรอ? วิธีการของผี มันอาจจะดูน่ารำคาญไปบ้าง แต่ถ้าเราเข้าใจ เราก็ไม่ซีเรียสหรอกครับ ยังไงก็ทำดีต่อไปเถอะครับ อย่าเลิกเลย จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:18:12

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่า รวมๆคงมี 3 คำตอบนะครับ 55+ 1) นอนทับเส้น   ตอบแบบวิทยาศาสตร์   แต่คำตอบนี้ หมอก็ไม่รู้ว่า ทับเส้นชื่ออะไร แก้ยังไง  ให้เปลี่ยนท่านอนก็ยังเป็นอยู่ดีแหละครับ  ผมลองมาแล้ว 2) มีผีมาแกล้ง  ตอบแบบพุทธ  ให้สวดมนต์ ท่องพุทโธ  เอาพราะมาคล้องคอ  ผมก็เคยแก้วิธีนี้นะแต่ก็ไม่หายเหมือนกัน  แต่ผมก็ไม่เคยเห็นผีมาทับอะนะ แค่ขยับตัวไม่ได้ ร้องไม่ได้ ส่วนข้อ3อันสุดท้ายนี้ ผมหาคำตอบอยู่นาน น่าจะเป็นไปได้มากสุดนะ 3) มันเป็นอาการสมาธิเราเอง ที่กายทิพย์เหลื่อมออกจากกายหยาบ แล้วเราหลับไปครับ พอผีเห็นกายทิพย์เรา เค้าก็คิดว่าเราเห็นเค้า  เค้าก็จะมาบอกให้เรา อุทิศบุญให้เค้าครับ ถ้าเป็นอาการตอนกลางวัน  ลองสังเกตุสิครับ ว่าเรานอนหลับตาอยู่ แต่เราเห็นคนในบ้านเดินไปเดินมา ทั้งๆที่เราหลับอยู่   แต่ส่วนมากภาพที่เห็นมันไม่จริง 100% นะครับ เพราะเป็นแค่จิตส่วนน้อยที่ตื่นอยู่ จากคุณ : เกียดเกียด เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 14:12:23

ความคิดเห็นที่ 23 เท่าที่รู้เป็นกันทุกคนที่เริ่มต้น ที่จิตยังหลอกตนเอง (ปรุงแต่ง) อยู่ๆ ก็จะรู้สึกว่ามีอะไรอยู่ตรงหน้า หรือด้านข้าง หูแว่วไปบ้าง ได้ยินเสียงของกระทบบ้าง  จิตก็จะปรุงแต่งว่าต้องเป็นเช่นนั้น อาการของขนลุก เสียวสันหลังก็จะตามมา หากลืมตาขึ้นมาเลยก็จะไม่เห็นว่ามีอะไร (เป็นมารที่มาแกล้งให้จิตเราปรุงแต่ง) วิธีแก้ของผมคือ น้อมนำจิตที่ปฏิบัติสมาธิอยู่ระลึกถึงพระพุทธเจ้าที่กำลังปฏิบัติสมาธิ อยู่ใต้ต้นโพธิ์ พระองค์ก็ไม่ได้สนใจอะไรปฏิบัตินิ่งสงบตลอด   สำหรับผมนั้นได้ผล ไม่ปรุงแต่งต่อไป ความกลัวจะหายไปด้วยแม้จะจินตนาการไปว่า นั่งอยู่หน้าหลุมศพ ก็ไม่กลัว หากเราไม่ปรุงแต่งใดๆ ความกลัวก็จะไม่มี จากคุณ : จันตรีบุตร เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 15:06:17

ความคิดเห็นที่ 24 ไปถามพระที่ท่านปฏิบัติครับ ยิ่งเป็นพระเถระที่บวขมานาน ปฏิบัติมานาน ยิ่งดี ผมไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่แก่กล้าพอครับ จากคุณ : เฒ่าวัย 56 เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 04:49:01

ความคิดเห็นที่ 25 ในกรุงเทพฯ พอจะมีพระสายวัดป่า สายนั่งกรรมฐานไหมครับ จะลองไปขอคำปรึกษากับท่านดูครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : จขกท. (buddycreative) เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 09:44:09