ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าถามว่า คนที่เชื่อ หรือ ศรัทธา เป็นพุทธหรือ ฮินดู ตอบว่า เป็นพุทธนะครับ คนที่เขาศรัทธา เขาเชื่อว่า เป็นเทพ รักษาพระบรมธาตุ รักษาเมือง เป็น พระโพธิสัตว์ เขาเชื่ออย่างนี้ทั้งนั้น จึงแขวน จึงศรัทธา ส่วนคนที่ไม่ชอบ ก็เพราะไม่เชื่ออย่างนี้ ความเชื่อเป็นสิทธิ ส่วนบุคคลกระมังครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 9 เม.ย. 50 20:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความเชื่อเป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ จากคุณ : apornpath - [ 9 เม.ย. 50 20:53:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไปห้ามเขาไม่ได้ครับ เป็นกรรมของเขาเอง เราอาจจะมีบุญน้อยกว่าก็ได้ที่ไม่มีโอกาสได้ศรัทธาแบบนั้นบ้าง จากคุณ : p (ปลาทองสยองเมือง) - [ 9 เม.ย. 50 21:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมก็คิดว่า ห้ามไม่ได้ แต่เปลี่ยนศรัทธาเป็นความดีได้ คนที่นับถือ หรือ แขวน บางคนก็ทำดีขึ้นจริงๆ ครับ เพราะให้สัญญากับท่านไว้ ว่าจะทำดี บางคนก็มีศีลห้า ขึ้นมา เพราะทราบมาว่า ถ้ามีศีลห้าแล้วท่านจะช่วย ไม่มี ศีล ท่านไม่ค่อยช่วย ทำนองนี้ครับ และท่านที่แขวนเหล่านี้ เวลาสัญญาอะไรกับท่าน มักจะทำ มากกว่า แขวนพระพุทธ เพราะแขวนพระ แล้วผิดสัญญา ไม่มีอะไร ย่อมเป็นไปตามกรรม อันนี้ แขวนเทพ พระโพธิสัตว์ กลัวผิดขึ้นมาท่านอาจจะโกรธเอาเรื่องน่ะครับ ก็ดีไปอย่าง จากคุณ : จักรแก้ว - [ 9 เม.ย. 50 21:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าถามความเชื่อของผม.. ผมมองว่ามันก็ไม่ต่างกับซูเปอร์เลม่อนปลุกเสกที่เพิ่งออกข่าวหรอกครับ จากคุณ : nanoguy - [ 9 เม.ย. 50 21:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดี จขกท.ครับ ผมชอบหลาย ๆ ประโยคของ จขกท.นะครับ  เช่น - จตุคามรามเทพ ท่านดัง เพราะสนองความต้องการของคน จำนวนมาก ที่ชอบ ขอ มากกว่า ชอบทำ - พระพุทธเจ้าสอนให้ทำดี มันก็ดี แต่มันยากสำหรับบางคน เหมือนสอนให้คนมีอาชีพ มันก็ดี แต่บางคน ไม่ชอบเท่า สู้ ให้ เลยไม่ได้ ส่วนพุทธสุภาษิตนี้ผมฝากมาให้อ่าน  เพื่อมีประโยชน์ครับ มธวา มญฺญตี พาโล ยาว ปาปํ น ปจฺจติ ยทา จ ปจฺจตี ปาปํ อถ พาโล ทุกขํ นิคจฺฉติ "ตลอดระยะเวลาที่บาปยังไม่เห็นผล คนพาลสำคัญว่าบาปหวานปานน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล เมื่อนั้นเขาย่อมได้รับทุกข์" จากคุณ : yuyu (YUYU-001) - [ 9 เม.ย. 50 21:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทำนองมีกฏหมายอย่างไร คนดีจริง ใจเข้มแข็งไม่มีกฏหมายก็ได้ คนดี แต่ใจไม่แข็ง หรือคนไม่ค่อยดีเท่าไร ต้องมีกฏหมายเสมอ จึงจะกลัว กฏหมาย ไกลตัว เอากฏจราจรก็ได้ คุณชอบ ฝ่าไฟเหลืองมั้ย ไฟเหลือง เขาให้ชะลอเตรียมจอด คุณชอบเร่ง  เตรียมไป พอดี ไปตอนแดงพอดีหรือเปล่า ถ้ามีป้ายห้าม ยเทิร์น พอดีรถว่าง ตำรวจไม่มี คุณ ยูเทิร์นมั้ย หรือจะเลยไปอีกไกลตรงที่ให้ยุได้ จะเห็นว่า ถ้าไม่มีกฏหมาย หรือแม้แต่มี แต่ไม่มีตำรวจคอยคุม เราก็ชอบทำผิด แต่ทำผิดสัจจะ กับเทพนี้ ท่านรู้ครับ กลัวท่านรู้ เลยไม่กล้า มีคนกำกับการทำดี ก็ดีไปอีกอย่าง จากคุณ : จักรแก้ว - [ 9 เม.ย. 50 21:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบ คุณ คุณยู ครับ สุภาษิตนี้ใช้ได้เห็นผลกับ ท่านทัก  เอ๊ยขอโทษ กับทุกคนนะครับ อนุโมทนาครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 9 เม.ย. 50 21:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สำหรับ คุณ นาโน ใช่แล้วครับ อันนั้น เพราะคุณไม่เชื่อ ไม่เชื่อ ก็ดีไปอย่าง หรืออีกหลายอย่าง คนเชื่อ ก็ดีไปอีกอย่าง หรืออีกหลายอย่างเช่นกันครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 9 เม.ย. 50 21:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จตุคามรามเทพ ผมไม่ทราบ แต่ทราบจากประวัติศาสตร์ว่า "ศาสนาพุทธหายไปจากอินเดีย ก็ด้วยศรัทธาแบบนี้" ซึ่งไม่ใช่ศาสนาพุทธ เมื่อมีรูปเคารพ นับถือบูชากัน (ไม่ต่างจากลัทธิบูชาผีของไทยแต่โบราณ) ก็เกิดลัทธิพิศดารมากมาย สุดท้ายศาสนาพุทธก็หมดไปจากอินเดีย พระพุทธเจ้ากลายเป็น ปางหนึ่งของพระกฤษณะ จตุคามรามเทพ คงฮิตกันไปพักหนึ่ง พ้นสมัยไปแล้วก็คงเลิกฮิตไปเองครับ ส่วนที่ จขกท. บอกว่าหลานที่อยู่ฮ่องกงฝัน โดยไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนนั้น บางทีการรับรู้ของจิตใต้สำนึก เพราะเพื่อนพูดถึง เห็นจากข่าว แต่ไม่ได้สนใจจำ ก็เลยคิดว่าตัวเองไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน เมื่อฝันถึงก็เลยศรัทธา ที่จริงทางจิตวิทยาสมัยใหม่เขาถือเป็นกลไกการทำงานของจิตใต้สำนึก สุดท้าย "นี่คือ ลัทธิใหม่" ลัทธิหนึ่งครับ แน่นอนเราคงห้ามความศรัธาของคนอื่นไม่ได้ ก็คงปล่อยไปตามกระแส แต่องค์กรพุทธศาสนาคงต้องมีการ "สัมมนาวิชาการ" อย่างขนานใหญ่แล้วละครับ ปล. คุณจักรแก้วครับ ผมว่า สุภาษิตของคุณยูในได้กับท่าน ป. อีกคนครับ ตอนนี้กรรมเริ่มตามทันแล้ว มีคนตามด่าจนไม่กล้าออกงาน แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 50 21:36:56 จากคุณ : ลูกชาวนาไทย - [ 9 เม.ย. 50 21:33:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณ คุณ ลูกชาวนาไทยนะครับ ผมเองไม่ทราบว่า ศาสนาพุทธสูญไปจากอินเดียด้วยปัจจัยอะไรบ้าง ได้ยินแต่เขาว่ามา บ้างก็ว่า พระทำตัวไม่ดี บ้างก็ว่า ต่างศาสนาลุกลาม ส่วนเรื่องหลานชายผม เขาไม่เคยเห็นครับ ไม่รู้จัก ความฝันเขา สุดที่จะคาดเดาได้ เขาเห็นพญาชิงชัยด้วย เป็นเหมือนหนุมาน ผมเองก็ไม่เข้าใจ ไม่ค่อยอยากเล่า เว้นแต่สงสัยจริง ๆ ส่วนเรื่องสัมมนาวิชาการ ผมสนับสนุนนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 9 เม.ย. 50 21:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลองเอากระทู้นี้ไปตั้งหว้ากอดูสิ จากคุณ : เมก้าซาวะหมายเลข154 - [ 9 เม.ย. 50 21:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณจักรแก้วครับ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าเขาไม่เห็น คงผ่านตาจากหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ไม่ได้สนใจ แต่จิตใต้สำนึกมันจำเอาไว้ แต่เขาจำไม่ได้เอง คนเราเห็นสื่อต่างๆ มากมายในแต่ละวัน คุณจำได้หรือเปล่าว่าเมื่อวานคุณเห็นอะไรผ่านตาไปบ้าง หากคุณไม่สนใจจำมันก็จำไม่ได้ ก็เลยบอกว่าไม่เคยรู้ เรื่องจิตใต้สำนึกนี่เคยมีการทดลอง สะกดจิตนักศึกษาที่ขับรถจากบ้านมามหาวิทยาลัย เขาถามว่า ผ่านเสาไฟฟ้ากี่ต้น ปรากฎว่านักศึกษาที่โดนสะกดจิตตอบได้ถูกต้อง ทั้งที่มีนับร้อยต้น ไม่ผิดเลย ทั้งที่เขาไม่ได้ใส่ใจจำ หรือสังเกตุอะไรเลย แต่จิตใต้สำนึกมันจำเอาไว้แล้ว เมื่อสะกดจิตมันก็เผยออกมา เชื่อเถอะ กรณีหลานชายคุณ หากจะสืบค้นกันจริงๆ สะกดจิต แล้วให้เขาเล่าลำดับมา จะต้องมีครั้งหนึ่งนานจนเขาลืมไปแล้วว่าเขาได้ยินเรื่อง จตุรคามรามเทพ จากที่ใด ไม่ใช่เรื่องที่ผมแปลกใจแต่ประการใด แค่ฝันถึง เพราะมันมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์นานแล้ว เกี่ยวกับกลไกการฝันของคน จากคุณ : ลูกชาวนาไทย - [ 9 เม.ย. 50 21:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดีหรือไม่  ได้หรือไม่  ไม่มีใครรู้นอกจากตัวเอง  แต่ที่แน่ๆผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับพวกหากินกับความศรัทธาของคน  และผมก็ไม่เห็นด้วยที่จะทำให้คนทั่วไปคิดว่าอยากจะได้โดยไม่ทำอะไร  ขอให้มีจตุคามมาบูชาเท่านั้น  มันเป็นวิกฤตของสังคมไทยเลยครับ  เป็นสังคมที่จะถอยหลังเข้าคลอง เพราะ คนในสังคมอยากจะมี แต่ไม่อยากจะทำ มัวแต่งมงายว่าจะได้มาโดยไม่ทำอะไร โดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้อคติอะไรกับจตุคาม  แต่ผมเห็นว่าที่มาของข้อมูลต่างๆมันขาดความน่าเชื่อถือ  เพราะอะไร?  ก็เพราะ   1. ผลประโยชน์มันเยอะ  นายทุนกำไรแน่ๆถ้าสร้างจตุคามมาขาย  อาจจะต้องมีการแต่งเรื่องให้ดูเกินจริง  มีอภินิหาร คนจะได้มาซื้อกันเยอะๆ  แล้วจะได้ปั่นราคาให้แพงขึ้นไปอีก   2. ผลประโยชน์ทับซ้อน  คนเกี่ยวข้องมันเยอะ  ตั้งแต่ นายทุน คนทรง วัด พระ นักข่าว แผงพระ   3. เรื่องที่มาที่ไปของจตุคาม ก็มาจากคนทรงเจ้า เรื่องเป็นพระโพธิสัตว์ก็มาจากคนกลุ่มนี้  คนพวกนี้เราจะรู้ได้ไงว่าเขาพูดจริง  อย่าลืมนะครับ  คนพวกนี้ยังมีกิเลสทั้งนั้น  ยังมีผลประโยชน์ร่วมที่จะหาเงินอีกเป็นกอบเป็นกำ   คนแบบนี้มีคุณสมบัติอะไร ที่ท่านเทพระดับนั้นจะมาเข้าทรงคนแบบนี้ครับ สุดท้ายนี้มันก็แล้วแต่ความเชื่อแต่ละคนละครับ มันห้ามกันไม่ได้  เงินในกระเป๋าท่าน  ท่านหามาเอง  ท่านก็มีสิทธิ์ของท่านเอง จากคุณ : น้องหมูใหญ่ - [ 9 เม.ย. 50 22:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับผมนั้น ศรัทธา คือความเชื่อที่ยึดโยงด้วยเหตุและผล ด้วยสติไตร่ตรองจนเกิดปัญญา ขณะที่ความงมงาย คือ ความเชื่อที่อุดมไปด้วยอคติ ๔ ไร้สติไตร่ตรอง มองสิ่งที่ตนเชื่อไปในด้านดีถ่ายเดียว ในมุมมองของผม คนที่ศรัทธาจตุคาม คงมีเป็นส่วนน้อย ขณะที่คนที่งมงาย กลับมีเป็นส่วนใหญ่ มิฉะนั้นคงไม่เกิดกระแสต้องห้อยเอามาโชว์ออกนอกเสื้อ แทนที่จะสวมแบบคนที่ห้อยพระเครื่องเยี่ยงปรกติ นี่คือตัวอย่างของความงมงาย และการยื้อแย่งกันจนเหยียบคนชราตายในวันนี้ ก็ยิ่งแสดงถึงความงมงายที่ยังฝังรากลึกในสังคมไทย ที่วัตถุเจริญเท่าใด ก็มิอาจสั่นคลอนความงมงายได้ จากคุณ : gunsue - [ 9 เม.ย. 50 22:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับคุณลุงจักรแก้ว แต่ก่อน NJ คิดว่าลุงเป็นพระภิกษุที่มาตอบเสียอีก แต่ในหลายๆกระทู้ เผยว่า "ลูกชายอยากแขวน" เลยต้องเปลี่ยนความคิดว่า คุณลุงไม่ใช่ท่านเจ้าคุณ หรือหลวงลุง หลวงน้า คำถามของกระผมคือ ท่านผู้ศรัทธาที่แขวน พระจตุคามรามเทพน่ะ ควรจะแขวนกี่องค์ถึงจะดี เพราะเห็นหลายๆคนแขวนมากกว่า 1 องค์ (หมายถึงองค์จตุคามนะครับ ) และจำเป็นต้องแขวนไว้นอกคอเสื้อให้สาธารณชนเห็นไหม ขออภัยถ้าคำถามไม่เหมาะสม NJ เป็นคริสต์ขอรับ จากคุณ : NJ & อิกคิว - [ 9 เม.ย. 50 22:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สิ่งต่างๆย่อมมีด้านดีของมันอยู่แล้ว อย่างการเล่นหวยนี่ดีมากๆเลย ให้ความหวังกับหมู่มากได้กลุ่มใหญ่ขนาดนั้น มีคนบอกเราว่า ถ้าเจอคนคิดฆ่าตัวตาย ให้ซื้อหวยให้เค้า เค้าจะไม่กล้าตาย กลัวถูกรางวัลที่หนึ่งแล้วไม่ได้ใช้  มีความหวังไปจนวันหวยออก คงอยู่ที่ว่า มันดีพอหรือยัง จากคุณ : แมวเก้าแต้ม - [ 9 เม.ย. 50 22:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นึกถึงยุคประชานิยม คนจนจะหมดไปจากประเทศไทย เอาเอาหนี้มาให้ ดีใจกันเป็นบ้าเป็นหลัง ทุกวันนี้ที่ดิน เศราฐกิจไม่ดี ที่จะถูกยึด ท้าวจตุคามช่วยได้แน่ครับ ถ้า.....แขวนแล้วทำให้คนคิดดี ทำดี จากคุณ : นายไวรัส - [ 9 เม.ย. 50 22:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบสั้นๆนะครับ ผมไม่แปลกใจหรอกว่าทำไม จขกท. ถึงคิดแบบนี้ จะว่าไปแล้วรากฐานของ จขกท. ก็เป็นอย่างนั้น คือมีรากฐานมาจากการขอ ทำบุญทำทานก็ขอ ขอกันทั้งปีทั้งชาติ สร้างอะไรใหญ่โต สวดมนต์ภาวนาเสร็จแล้วก็ขอ จะทำบุญทั้งทีก็ต้องเกณฑ์พระกันมาเยอะๆ มาไว้ซะที่เดียว ชาวบ้านชาวช่องเขาจะทำบุญก็ลำบากสิ เอ.. จะผิดประเด็นละมั้ง ผมบอกแล้ว คนไทยลูกอีช่างขอ อะไรๆก็ขอ มีส.ส.ก็ขอ มีรัฐมนตรีก็ขอ เคยคิดมั้ยว่า เฮ้ย เราจะทำอะไรเองได้บ้าง ก็ว่ากันไป ขอกันทั้งบ้านทั้งเมือง ไอ้ที่จะให้นะใคร มันเป็นใคร ผีเปรตที่ไหนหรือครับ พระโพธิสัตว์หรือ ประวัติศาสตร์ไม่มี หาเงินเข้าวัดสร้างโบสถ์สร้างวิหาร ทำดี ทำไมไม่รับบริจาคตรงๆ หรือรับความจริงกันไม่ได้ว่า ไม่มีใครเขาเอาศาสนาพุทธกันแล้ว โบสถ์สร้างมาด้วยขี้ คงหอมพิลึก จากคุณ : sirnifti - [ 9 เม.ย. 50 22:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นคุยกันหลายกระทู้แล้ว ก็เห็นพูดแต่เดิมๆ ไม่มีข้อมูลใหม่ๆเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็ติดมองแง่ติดลบไว้ก่อน ซึ่งไม่ได้มีอะไรชัดเจนขึ้นมาเลย ผมว่า จะเอาเรื่องราวจริงๆ ลองไปถามเว็บของทางนั้นโดยตรงเลยน่าจะเข้าท่ากว่า ไม่รู้จะโพสท์ทำไมบ่อยๆ จากคุณ : Sesame Favour - [ 9 เม.ย. 50 23:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ NJ น่ารักมากครับ แจ้งสังกัดด้วย ไม่ทำให้ผู้อ่านสับสน ................................................................... ทำไมละครับ ถ้าคุณจักรแก้วบอกว่า ..ลูกอยากแขวน... แล้วเป็นเครื่องแสดงว่าไม่ใช่พระ.....ไม่แน่นะครับ ท่านอาจมีลูกก่อนบวชก็ได้(ติ้งต่างว่าตอนนี้เป็นพระ) ...................................................................... คุณจักรแก้วครับ   ถ้าท่านจำได้ ข้อเขียนต่างๆของผมที่ผ่านมาจะคัดค้าน และเป็นฝ่ายตรงข้ามกับผู้ที่ดูหมิ่นเทวดาและพรหมเสมอ. ผมเคารพให้เกียรติต่อเทวดาและพรหมเสมอมาและ เชื่อว่าเทวดา-พรหมตามพระไตรปิฎกเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้า กล่าวใว้จริง ไม่ใช่นิทานที่ท่านใช้นำมาโน้มน้าวใจ      ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่รวมถึงเทวดานอกพระไตรปิฏกที่ไม่ มีใครรับรอง  (อย่าบอกว่าโกผ่องรับรองนะ  รับไม่ได้) ฉนั้นถ้าจะเอาอะไรมาแขวนคอแล้ว ส่วนตัวผมขอเป็น รูปพระจะสบายใจกว่า ลูกอมรสเลม่อนรูปหลวงพ่อทวด ก็ยังมั่นใจกว่าครับ  เล่าสู่กันฟังบ้างครับ............... แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 50 07:11:11 จากคุณ : ทิคัมพร (sueki) - [ 10 เม.ย. 50 00:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ ลูกชาวนาไทยครับ เขาไม่เคยเห็น เขาเป็นชาวฮ่องกง ไม่เคยเห็นองค์พระ ในฝันเขายังสงสัยว่า อะไร กลมๆ ใหญ่ๆ เขาไม่เข้าใจ   แต่นั่นเถอะผมเห็นด้วยกับคุณ นะครับ ว่า นักวิทยาศาสตร์มองอะไรก็เป็นวิทยาศาสตร์ครับ หลาน NJ ครับ ผมเป็น คนธรรมดา มีเพียงศีลห้า ไม่มีศีล คุณ น้องหมู กับ คุณ gensue ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ คนเราต่างจิตใจ แปดด้วย มีครอบครัวครับ ตอนเด็กเรียน โรงเรียนคริสต์ แต่นับถือพุทธครับ ชอบทั้งสองศาสนา คุณ แมว กับคุณ ไวรัสเช่นกัน ผมเห็นด้วยครับ คุณ sirnifti  เห็นด้วยครับคนไทยขอเก่ง ตอนเด็กๆ ผมก็ขอเก่ง อย่างที่คุณว่าเช่นกัน เดี๋ยวนี้ ไม่ได้ขอแล้ว อย่าลืมว่า ดอกบัวเกิดจากโคลนตม องคุลิมาร เกิดเป็นโจร ศรัทธา เป็นทรัพย์อันประเสริฐ ตั้งแต่พระพุทธองค์ครัสคำนี้แล้ว ก็เป็นจริงกันมาทุกสมัย คุณ ทิคัมพรที่นับถือ ใจผมก็เช่นเดียวกับคุณครับ วันนี้ลูกสาวแขวนท่านจตุคามครับ เขาพาท่านมาเที่ยวด้วย ทั้งที่พ่อของเขา สอนธรรมะคนมามาก แต่เขามีความสุข ผมก็สอนให้เขาทำตัวดี เพราะบอกเขาว่า ท่านจะคุ้มครองแต่คนดี เขาก็เริ่มดีขึ้น คือใจเขายังอ่อนแออยู่ ตอนนี้พวกเราอยู่กันเมืองนอก นิวซีแลนด์ ผมอาจจะมาตอบได้บางเวลา อยู่กันที่ ไครส์เชิรส์ ครับ วันนี้คงจะไปโบสถ์ของไครส์เชิส ซึ่งผมและลูกๆ เคยมานานแล้วและชอบกันมาก อากาศหนาวมาก ไม่ถึง 10  ฝากความหนาวเย็นไปให้นะครับ ขอให้เจริญในธรรมนะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 10 เม.ย. 50 04:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คนชั่วๆ  พวกโกงบ้านกินเมือง  ปล้น ฆ่า ข่มขืน  เค้าก็มีศรัทธาของเค้าในสิ่งที่เค้าทำนะคุณจักรแก้ว   เป็นศรัทธาที่ตั้งอยู่บนกิเลศ ตัณหา ราคะ โลภ โกรธ หลง  อำมหิต  อย่างรุนแรง   จนไม่ได้นึกถึงบาปบุญคุณโทษความเมตตา กรุณา การเสียสละ หรือกุศลกรรมใดๆทั้งสิ้น คนชั่วกับคนดี คนมีปัญญากับคนมีอวิชชา  พระพุทธองค์ทรงแยกแยะสั่งสอนลักษณะให้เราพิจารณาได้ชัดเจนด้วยเหตุผล   พระองค์ไม่ได้สอนว่าการเป็นคนชั่วคนดี  หรือคนมีปัญญากับคนหลงในอวิชชาขึ้นกับศรัทธาในตัวเค้านะครับ จากคุณ : คนบ้านดาบ - [ 10 เม.ย. 50 05:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ดังนั้นการบูชาจตุคาม รามเทพ  หรือบูชาอะไรสักอย่างควรใช้ปัญญานำหน้าครับ  ให้รู้ตัวว่าทำไมเราถึงบูชาสิ่งนั้นสิ่งนี้  ไม่ใช่พอเค้าบอกว่าจตุคามศักสิทธิ์เราศรัทธาเลื่อมใสก็บูชาตามกันไป  ลักษณะแบบนี้ไม่ใช่ลักษณะของศาสนาพุทธ  พระพุทธเจ้าสอนให้บูชาผู้ที่ควรบูชา   ผมนับถือพุทธเพราะเลื่อมใสในคำสอน  เพราะเมื่อพิจารณาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์และพระสงฆ์สาวกแล้ว  เห็นว่าเป็นการสอนให้เราเป็นคนดี  ปฏิบัติแล้วได้ความเย็นใจสบายใจ  พ้นทุกข์ได้จริง   ไม่ใช่หลงอยู่ในวังวนของกิเลศ ตัณหา จากคุณ : คนบ้านดาบ - [ 10 เม.ย. 50 05:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ศรัทธา คือความเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม เป็นความดีอย่างหนึ่งครับ หลงในอวิชชา คงไม่เรียกศรัทธาครับ งมงายก็ไม่ใช่ครับ คนชั่วเหล่านั้น ก็คงไม่มีศรัทธาในความดีหรอกครับ จึงทำชั่ว จากคุณ : จักรแก้ว - [ 10 เม.ย. 50 05:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมติงเพราะคุณจักรแก้วกำลังพูดถึง  โมหะ อวิชชาว่าคือศรัทธา และศรัทธาของคุณจักรแก้วคืออวิชา ความหลง ความโง่อย่างชัดเจนน่ะครับ จตุคามรามเทพ  ประวัติความเป็นมาคือเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการค้าขายวัตถุมงคล  คุณยังพูดจาสนับสนุนให้คนบูชา  แล้วคุณยังคิดว่าคุณใช้ปัญญาบูชาในสิ่งที่ควรบูชาตามคำสอนของพระพุทธองค์อีกหรือ คุณอยากก้าวออกจากคำสอนของพระพุทธองค์แต่ผู้เดียวผมคงไม่เข้ามายุ่ง   แต่ทนเห็นไม่ได้ที่คุณจะชวนคนอื่นเดินหลงทางกับคุณไปด้วย จากคุณ : คนบ้านดาบ - [ 10 เม.ย. 50 05:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถ่ายรูปโบสถ์ฝรั่งมาลงให้เพื่อนๆดูบ้างนะครับ ขอให้สนุกครับ จากคุณ : ทิคัมพร (sueki) - [ 10 เม.ย. 50 07:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ลองคิดดูเล่นน่ะ.........อืม.......จำได้ม่ะว่าบนสวรรค์ชั้นปรนิมฯอ่ะ มีเทวดาอยู่จำพวกหนึ่งที่อยู่ฝ่ายมาร อ่ะ ไม่รู้ว่าเค้าอยากแกล้งเหล่าพุทธบุตรอีกอ่ะป่าว จึงทำให้เกิด จตุรคามฟีเวอร์อ่ะ เพราะมันแปลกมากที่ตอนแรกบอกว่าองค์จตุรคามรามเทพนี้อยู๋ทางใต้ แต่ไงโผล่ไปอยู่ที่บนดอยสุเทพได้อ่ะ แล้วคนเชียงใหม่ตั้งแต่หลาย ร้อยปีไม่เคยเห็นเหรอไม่เคยสงสัยเหรอว่าคืออะไร อ่ะ ฝากให้คิดเล่น..... จากคุณ : cattym - [ 10 เม.ย. 50 07:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อนุสติ 10 ประกอบด้วย 1. พุทธานุสติ คือการระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ด้วยความรู้สึกเลื่อมใส ศรัทธา 2. ธัมมานุสติ คือการระลึกถึงคุณของพระธรรม ด้วยความรู้สึกเลื่อมใส ศรัทธา 3. สังฆานุสติ คือการระลึกถึงคุณของพระอริยสงฆ์ ด้วยความรู้สึกเลื่อมใส ศรัทธา 4. สีลานุสติ คือการระลึกถึงความบริสุทธิ์ของศีลของตนเอง ด้วยความอิ่มเอิบใจ พร้อมด้วยการพิจารณาถึงอานิสงส์ต่างๆ ที่จะได้รับจากความบริสุทธิ์ของศีลนั้น 5. จาคานุสติ คือการระลึกถึงการให้ทานที่ตนได้ทำไปแล้ว ด้วยความอิ่มเอิบใจ พร้อมด้วยการพิจารณาถึงอานิสงส์ต่างๆ ที่จะได้รับจากการให้ทานนั้น 6. เทวตานุสติ คือการพิจารณาถึงบุญกุศลต่างๆ ที่ทำให้เกิดเป็นเทวดา แล้วระลึกถึงบุญกุศลต่างๆ ที่ตนได้ทำไว้แล้ว อันจะส่งผลให้ได้เกิดเป็นเทวดา 7. มรณานุสติ คือการระลึกถึงความตายที่ต้องมีขึ้นเป็นธรรมดา โดยไม่รู้ว่าจะช้าหรือเร็วเท่าใด จะได้ไม่ประมาทในการรีบทำบุญกุศลต่างๆ รวมทั้งมีความเพียรในการทำกรรมฐาน คือสมาธิ และวิปัสสนา เพื่อให้พร้อมสำหรับความตาย 8. กายคตาสติ คือการพิจารณาถึงร่างกายว่าประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ เช่น ผม, ขน, เล็บ, ฟัน, หนัง, เนื้อ, เอ็น, กระดูก ฯลฯ เต็มไปด้วยของไม่สะอาด น่าเกลียด ไม่สวยงาม เป็นที่เกิดของโรคนานาชนิด ไม่น่ารักน่าใคร่ เพื่อไม่ให้ลุ่มหลงมัวเมาในกาย 9. อานาปานสติ คือการเพ่งลมหายใจเข้าออก 10. อุปสมานุสติ คือการระลึกถึงคุณของพระนิพพาน ขออนุโมทนาบุญกับท่านจตุคามท่านรามเทพที่ดูแลพระ บรมธาตุและขอบคุณ จขกท สำหรับบทความดีดี จากคุณ : maneomicz - [ 10 เม.ย. 50 08:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณจักรแก้ว  .....  แม้ว่าคุณตั้งใจดี แต่พิจารณาก่อนนะครับ...  จตุคามไม่เคยปรากฏในสารบบแห่งพุทธศาสนา หรือฮินดู พราหมณ์ไหน...  ไม่เคยมารับหัวโขนเป็นพระโพธิสัตว์... ข้อเท็จจริง   เราไม่อาจรู้ว่าท่านเป็นเทพจริงหรือไม่  ต้องถามพระวิปัสสนาแก่กล้าไปตรวจดู แต่ดูจากผลที่เกิดขึ้น  ....  คนบ้าคลั่ง เหยียบกันตาย ... ฆ่ากัน ยิงกันแหลก..    มันเห็นชัดกว่าครับ ... ท่านเป็นเทพแบบไหน... ผมไม่ยุ่งว่าท่านจะเป็นเทพแท้ หรือ เทพเก๊  แต่ผมคิดว่านายทุนที่โยงเรื่อง จตุคามมาเป็น  พระโพธิสัตว์   เนี่ย ถือว่า หลู่เกียรติ์ พระโพธิสัตว์ไม่พอ ยังถือว่าหลอกมอมเมาชาวบ้านอีกด้วยครับ.....    ผมเริ่มเห็นแนวคิดเพี้ยน ๆ ชาวพุทธคนนึงบอกว่า  ขอจากพระ พระมีศีลไม่ค่อยให้ ต้องขอพวกเทพ  กิเลสท่านเยอะดี ท่านก็เลยให้ตามกิเลสเราบ้าง ...  โหผิดไปจากคำสอนพุทธมาเลยครับ ผมจำคำพระท่านนึงว่า ...  หากพวกผีบนโลก มันอิจฉาคน มันเลยต้องหลอกคน เพื่อให้มาเป็นผีเฝ้าแทนมัน  หรือพอตายจะได้ไปเป็นบริวารมันตามจิตที่ระลึก หากจตุคามไม่ใช่เทพ  ...  คนที่บ้าคลั่งแล้วโดนเหยียบตายไป ก็จะไปเกิดเป็นขี้ข้าพวกนี้....  มันก็พาเขาลงอบายแบบผิด  ๆ ๆ จากคุณ : pugpuppy - [ 10 เม.ย. 50 10:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ คนบ้านดาบครับ ศรัทธา คือความเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีงาม เป็นความดีอย่างหนึ่งครับ ถ้าไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ดี เราก็ไม่เรียก การที่คนเชื่อมั่นในเทวดาที่เป็นพระโพธิสัตว์ ว่าจะคุ้มครองหรือ ให้ในสิ่งที่ตนขอ เมื่อตนกระทำความดีนั้น ก็มีความดีอยู่ตรงที่เขาก็รู้ว่า ต้องทำดี และเขาก็รู้ว่าเทวดานั้นเป็นพระโพธิสัตว์ แสดงว่า เป็นพุทธ และตั้งใจทำดี ปรารถพุทธภูมิ เขาจึงมั่นใจและศรัทธานะครับ คือ ศรัทธาในคนดีนั่นเอง แต่เป็นเทวดาดี  และก็ศรัทธาในความดีนั่นเอง ว่าท่านมีความดี ต้องทำความดีจึงมีบารมีพอที่จะมาช่วยเราได้ ศรัทธาก็ดี แต่ดีเท่าพึ่งตนเองไหม ก็คงไม่ใช่ครับ แต่อย่างน้อยก็ศรัทธาไว้ก่อนในสิ่งที่ดี คุณ pugpuppy ครับ ต้องดูเป็นเรื่องๆ ไป เช่นที่คุณ บอกว่า คนบ้าคลั่ง เหยียบกันตาย ... ฆ่ากัน ยิงกันแหลก..    มันเห็นชัดกว่าครับ ... ท่านเป็นเทพแบบไหน... คนบ้าคลั่งเหยียบกันตายได้เสมอ ถ้ามีคนมากๆ และแย่งกัน ถ้ามีคนล้ม เป็นเสร็จทุกงาน ครับ ไม่ว่าจะเป็นแข่งบอลหรืองานบุญใดๆ ก็ตามครับ ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นเทพแบบไหน ลองแจกพระ ก็ทำนองนี้เหมือนกันครับ ลองเปิดกรูพระสมเด็จ และบอกว่าจะแจกฟรี ก็จะมีทำนองนี้ได้ ถ้าจัดระบบไม่ดีนะครับ ทั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับพระหรือเทพด้วยซ้ำ ผมไม่ยุ่งว่าท่านจะเป็นเทพแท้ หรือ เทพเก๊  แต่ผมคิดว่านายทุนที่โยงเรื่องจตุคามมาเป็น  พระโพธิสัตว์   เนี่ย ถือว่า หลู่เกียรติ์ พระโพธิสัตว์ไม่พอยังถือว่าหลอกมอมเมาชาวบ้านอีกด้วยครับ.....     ผมก็สับสนในความคิดเชื่อมโยง ของประโยคนี้ คือไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่มีอะไรมาหลู่เกียรติของพระโพธิสัตว์ องค์ใดได้นะครับ  ส่วนนายทุนหลอกมอมเมาหรือเปล่า คงไม่ ถ้าเป็นก็ต้องแต่ต้นเรื่องคือ ท่านขุนพันธุ์  เป็นคนแรกที่บอกว่า ท่านคือ พระศรีธรรมมาโศกราช หรือ จันทรภานุ แต่สำหรับท่านจตุคาม นี้ ผมคิดว่า ท่านขุนพันธุ์ ท่านไม่ได้หลอกนะครับ ส่วนเรื่องกิเลส ของเทวดาพระโพธิสัตว์ ผมก็ได้อ่านคนนั้น ผมก็ว่าเขาเข้าใจผิด ไป ครับ อันนี้ ผมเห็นด้วยกับคุณว่าคนนี้นั้นเขาผิดไปจากคำสอนมากเลย คุณลองดูตรรกะตรงนี้ อาจงงหน่อย ลองดูนะครับ ท่านจตุคามที่คนนับถือ นั้นเป็นพระราชา มาก่อน และเป็นพระโพธิสัตว์ครับ ถ้าไม่ใช่ ตามนี้ ท่านก็จะไม่เป็นองค์ที่เขานับถือ และที่เขานับถือ ก็จะเป็นแบบนี้เท่านั้นครับ อย่างไรก็จะไปถึงท่านองค์นี้หรือ รีเฟอร์ถึงท่านองคนี้ ถ้ามีผีอื่นมาแทรก ผีนั้นก็ไม่ใช่องค์ที่เขานับถือ ทำนองเดียวกัน แขวนพระพุทธ แล้วผีมาแทรก คนแขวน เขาก็นับถือพระพุทธที่แขวน ถึงผีมาแทรก เขาก็ไม่นับถือผีใดๆตัวนั้น เขา รีเฟอร์ ถึงพระพุทธที่แขวนเลยโดยตรง ท่านจตุคามราเทพ ตอนทำพระรุ่นแรก ท่านสั่งให้ทำพระพุทธสิหิงส์ด้วย ท่านบอกว่า ท่านนับถือพระพุทธองค์ และพระพุทธสิหิงส์ ศักดิ์สิทธิ  อันนี้บอกชัดเลยครับ ว่าท่านนับถือพระพุทธเจ้า  คุณไปดูรูปพระแม่กวนอิม บนศรีษะจะมีรูปพระพุทธองค์ประทับอยู่เสมอ เช่นกัน แต่อย่างที่บอก พระพุทธสิหิงส์ คนกลับไม่ชอบ ไม่นิยม เท่าพระจตุคาม ผมคิดว่า คนชอบขอมากกว่า ชอบทำดีด้วยตนเองนั่นเองครับ ผมว่าสมัยพระเวสสันดรท่านอยู่  ต่อให้ท่านสอนธรรมด้วย คนก็ไปฟังน้อย แต่จะไปขอของแจกเยอะกว่า คนเราก็เป็นเสียอย่างนี้แหละ ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ความผิด พระเวสสันดร ใช่ไหมครับ ก็ท่านมีเมตตา ท่านก็แจก ต่อให้คนทำพระของท่านท่านก็ไม่ว่า ใช่ไหมครับ ก็ท่านมีเมตตา อะไรช่วยได้ก็ช่วยกันไป จากคุณ : จักรแก้ว - [ 10 เม.ย. 50 17:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่องที่ว่า เทพไม่มาให้คนทรงดูก็ไม่ใช่ครับ หลวงปู่ทวด นี้นะคนที่เห็นท่านคนแรก เป็นฆราวาสนี้แหละ ผมจำชื่อไม่ได้ เห็นองค์ท่าน เป็นองค์อย่างที่เขาทำที่วัดห้วยมงคลนี้แหละครับ ส่วนหลวงปู่ทิมไม่ได้เห็นเป็นองค์แรกหรอกครับ หลวงปู่ ชีวกโกมารภัจน์ก็เช่นกันครับ เรื่องอย่างนี้ ไม่เห็นเอง ไม่มีประสบการณ์บ้าง ก็ยากจะเชื่อครับ ไม่เชื่อ ก็ไม่ว่ากันหรอกครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 10 เม.ย. 50 17:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถกกับคุณจักรแก้วไปก็เท่านั้น ครับ เขาเอาศรัทธา "ต่อเทพเจ้า" เป็นที่ตั้ง เป็นพวก Anti-Buddhist คือทำตรงข้ามกับปรัชญาของศาสนาพุทธ ไปนับถือ "เทพเจ้า" เอาเป็น "สรณะ" คือการกลับมาของ "ลัทธินับถือผี" นั่นเอง ผมไม่เถียงเรื่องศรัทธาละครับ แต่เขาไม่ได้เอา "ไตรสรณคม" เป็น "สรณะ" แต่ไปนับถือ "ผี หรือ เทพเจ้า" แทน ก็นับเป็น อีก "ลัทธิหนึ่ง" ซึ่งป่วยการที่จะไปถกด้วยครับ เพราะมันคือ "ลัทธิใหม่" นั่นเอง พระพุทธเจ้าไม่ได้ "ปฎิเสธเรื่อง เทวดา ผี ปีศาจ" ต่างๆ แต่ไม่ให้เอาเป็น สรณะ ดังนั้น ผมไม่เถียงเรื่องมีจริงหรือไม่มีจริง มีฤทธิหรือไม่มีฤทธิ เพราะ แม้แต่ "พระพรหม" ที่มีฤทธิมาก ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยน "กรรม" ของบุคคลได้ ไม่สามารถช่วยให้คนพ้นทุกข์ได้ ดังนั้น ข้ามเรื่องมีจริงหรือไม่มีจริงไปเลยดีกว่า เอาเป็นว่า เทวดาในสวรรค์ทั้งหกชั้น และพรหมโลกมีมากมายหลายแสน หลายล้านองค์ จะเลือกนับถือบูชาองค์ใด ก็ได้ครับ แต่คงไม่ได้ช่วยให้พ้นทุกข์อะไร แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 50 17:57:36 จากคุณ : ลูกชาวนาไทย - [ 10 เม.ย. 50 17:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อย่าทะเลาะกันเลยครับ  เขาเชื่ออะไรก็เป็นสิทธิของเขา  เงินก็เงินของเขา  ดีไม่ดีก็ตัวเขาเอง จากคุณ : น้องหมูใหญ่ - [ 10 เม.ย. 50 18:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เรียน คุณจักรแก้ว       คุณหวังรวยทางลัด เลยคิดว่าคนอื่นคงหวังรวย อย่างนั้น ซึ่งอาจจะมีมาก  แต่ไม่จำเป็นที่คุณจะไป ส่งเสริมให้เขาคิดอย่างคุณ  เพราะวิธีสู่ความร่ำรวย แบบยั่งยืนมีมาก          ไอ้การกราบไหว้อ้อนวอน ช่างขอ ถึงได้มา ก็หมดเร็ว เพราะได้มาง่าย ไม่รู้ใช้ ไม่รู้เก็บ สุดท้าย ก็ต้องขออีก ขอจนได้เป็นขอทาน เพราะคนขอ ได้ทำลายศักยภาพแห่งการพึ่งพาตนเองหมดแล้ว       ผมห่วงแต่คนไทย ไม่ห่วงพวกนายทุนปั๊มเหรียญ หรอกครับ พวกนี้ฉลาดเอาตัวรอดได้ เดี๋ยวก็หาสินค้าอื่น มาขายจนได้        คนที่กอบโกยจากการสร้างกระแส หากินโดยเอา รวยมาล่อ เอาตำนานมาหลอก  เงินที่ท่านได้มาไม่ยั่งยืน หรอกครับ...... ปัญญาเท่านั้นก็เกื้อกูลปัญญา จากคุณ : adial (adial) - [ 10 เม.ย. 50 18:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ ลูกชาวนา ผมไม่ได้ถือเป็นที่พี่งหรอกครับ ผมไม่ได้แขวนท่านนะครับ ผมถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง แต่ถูกของคุณนะครับ หลายคนถือท่านเป็นที่พึ่งในแง่ คุ้มครองป้องกันบ้าง โชคลาภบ้าง ก็เชื่อกันไป เถียงไปก็เปล่าประโยชน์ พระพุทธองค์ ทรงใช้คำว่า ไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษม แต่ผมเห็นด้วยกับคุณ คนจำนวนมาก พอพึ่งได้กระมังแต่ไม่เกษม ไม่อาจทำให้พ้นทุกข์ได้ ถูกแล้วครับ ถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งดีที่สุดแล้วครับ แต่ผมจะบอกว่า คนถือท่านเป็นที่พึ่งนี้จำนวนมากจะทำดีด้วยก็เท่านั้นครับ คุณ adai ผมก็ไม่ได้หวังรวยทางลัด ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับธุรกิจนี้ครับ แต่ผมเห็นด้วยกับคุณว่า คนขอ   ได้ทำลายศักยภาพแห่งการพึ่งพาตนเองหมดแล้ว แต่ก็มีบางคนและส่วนมาก มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งและระลึก มีอะไรก็ขอพระรัตนตรัย  แต่มีน้อยที่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งจนยอมกระทำดี ตามพระธรรมที่สอน และเป็นที่พึ่งของตนเองได้อย่างแท้จริง คุณเข้าใจคนอื่นในแง่ดีมากน้อยเพียงใด หรือคุณยึดมั่นในความดีของตน และดูถูกในความคิดคนอื่นแค่นั้น ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็เป็นกิเลสละเอียดครับ ขอให้เจริญในธรรม เป็นที่พึ่งแก่ตน และผู้อื่นได้นะครับ นี้เป็นคำอธิษฐานของผมอยู่เนืองๆ ทุกครั้งที่ทำบุญ ขอมอบให้นะครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 เม.ย. 50 01:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อากาศหนาวเย็นมาก ในโบสถ์สงบที่สุด ไม่มีเสียงประกาศ ไม่มีเสียงหนวกหู เหมาะแก่ความสงบทางจิตวิญญาณ ครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 เม.ย. 50 02:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมสนใจในโบสถ์ แต่เด็กๆ สนใจนอกโบสถ์ ดังนี้ครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 เม.ย. 50 02:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมจะออกไปเที่ยวต่อแล้ว คนมีครอบครัวก็อย่างนี้ ต้องมีหน้าที่ที่ต้องทำ นำรูปมาให้ดูตามสัญญานะครับ สวัสดีครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 เม.ย. 50 02:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่องนี้   ไม่มีความสำคัญว่า จริงหรือไม่จริง  น่าเชื่อหรือไม่น่าเชื่อ แต่.... มีผลมากต่อ แนวทางของชาวพุทธ เรากำลังหลงทาง ย้อนยุค หันเห จากพุทธธรรม ไปสู่ลัทธิบูชาเทพเจ้า อ้อนวอน ร้องขอ จากคุณ : misery - [ 11 เม.ย. 50 08:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 พุทธ..... จะกลายเป็น คล้ายกับ ... ฮินดู ที่มีเทพเจ้ามากมาย สำหรับให้มนุษย์ บูชา  อ้อนวอน และร้องขอ จากคุณ : misery - [ 11 เม.ย. 50 08:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณเข้าใจคนอื่นในแง่ดีมากน้อยเพียงใด หรือคุณยึดมั่นในความดีของตน และดูถูกในความคิดคนอื่นแค่นั้น จากคุณ : จักรแก้ว **************** เรากลับรู้สึกว่าคุณจักรแก้วนั่นแหละ ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ ว่าการงมงายกับการวอนขอนั้น เหมาะสมกับความโง่ของคนเหล่านั้นแล้ว จึงไม่ต่อต้านสิ่งที่จะดึงเค้าออกจากทางแห่งปัญญา กลับสนับสนุนเสียอีก มันดีพอสำหรับเค้าแล้วเหรอคะ ในความคิดของคุณ จากคุณ : แมวเก้าแต้ม - [ 11 เม.ย. 50 11:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เอ ผมไม่เคยคิดว่า ใครโง่เขลา เลยครับ สมัยเด็กๆ ผมเคย แต่โตแล้วยิ่งมาในห้องศาสนา ไม่เคย คุณจะไม่เห็นผมเสียดสีใครว่าโง่เลย ถ้าจะคิด ผมว่า ผมนั่นแหละโง่เขลาอยู่ เพราะผมยังทำไม่ได้ตั้งหลายอย่างที่ โดยหลักการผมรู้ แต่ผมยังทำไม่ได้ ผมให้ความคิดว่า บางคนคิดอย่างนี้ อย่าไปว่าเขาโง่เขลา อย่าไปดูถูกใครเชียวนะครับ ผมคำนึงเรื่องนี้มาก เพราะผมคิดว่า ชาตินี้ผมฉลาดมากๆๆ แต่ถ้าผมดูถูกใครเพราะความฉลาดของผม หรือผมไปหลอกใครเพราะความฉลาดของผม ชาติหน้าผมก็ไม่ควรได้ความฉลาดอย่างนี้อีก อันนี้นอกเรื่อง แต่ความคิดของคุณนั้น สำคัญกว่า มีค่ากว่า ความคิดของคุณแมว นั้นถูกใจผมนัก ท่านปัญญาก็คิดอย่างนี้ ถ้าคิดว่าไม่ถูกควรได้สิ่งที่ดีกว่านี้ ท่านปัญญาก็ไม่ยอมเอาเลย จะต้านกระแส ค้านประเพณีอย่างไรท่านก็จะทำ ผมคิดว่า ท่านพุทธทาสก็เหมือนกัน ผมชอบที่จะค่อยเปลี่ยน ไปใช้สิ่งที่เขายึดเปลี่ยนเป็นให้เขาดีขึ้นๆ  มันก็ได้เหมือนกัน รุนแรงมันก็ได้เหมือนกัน แต่ผมคิดว่ามันไม่น่าจะได้กับคนหมู่มากนัก จะได้กับคนหมู่น้อย วิธีนี้ พ้องกับ พระในสมัยโบราณ คุณศึกษาดูเถิด หลายท่านที่เป็นพระดี พระชอบ แต่ก็มีพระเครื่องออกมา ความคิดคุณ misery ผมก็ชอบ แต่ผมไม่ค่อยกลัว เพราะพุทธส่วนมากที่ผมเห็น ก็นับถือเทพ และอ้อนวอนกันทั้งนั้น ที่สำคัญคือ พระสงฆ์ ผมคิดว่าต้องระวังมาก  ที่ท่านไปร่วมด้วย เช่นในวัดบางวัด มีเทพมากมายเลยครับ อันนี้ เป็นเรื่องของพระ เรื่องจตุคาม สงสัยใครจะค้านกระแสไม่ได้มังครับ ออกมาด่าก็ได้ แต่มันจะไม่มีอะไรเปลี่ยน ชาวบ้านจะรู้แต่เพียงว่า พระรูปนี้ เขาแอนตี้นะ ก็เท่านั้น ล่าสุดผมได้ข่าว มีรุ่นใหม่ สมเด็จเกี่ยวท่านเมตตา แผ่เมตตาให้ด้วยรุ่นนึง เขานำมาลงหนังสือพิมพ์ ผมคิดว่า ท่านอาจจะมีแนวคิด อย่างที่ผมบอกว่าชอบ คือ เปลี่ยนสิ่งที่มีให้เขาดีขึ้นกระมัง จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 เม.ย. 50 16:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 รายละเอียดหลายเรื่องของ คนทรง ต่างๆนานา ผมไม่เชื่อถือนะครับ และที่บอกว่า แย่มากๆ ในเวปข้างบน ผมก็เห็นด้วย จุดยืนผมเพียงแต่บอกว่า การนับถือ ท่านจตุคามรามเทพในมุมมองผมเป็นอย่างไรเท่านั้น เรื่องธุรกิจอะไรของเขา หลายอย่างก็เห็นประโยชน์ หลายอย่างก็ไม่เห็นด้วย และแนวคิดบางอย่างก็รับไม่ได้ เช่นเรื่องพระพุทธสิหิงส์ ตามที่ผมรู้มา ก็เป็นอย่างที่ผมบอก ผมทราบจากลูกชาย ขุนพันธ์ แต่ที่อธิบายในเวปข้างบนอย่างนั้นผมไม่เชื่อถือ และก็รับไม่ได้ครับ จากคุณ : จักรแก้ว - [ 11 เม.ย. 50 16:38:23 ]