PANTIP.COM : B11077252 เงินเดือนของกลุ่ม Senior ใน Big4 นี่เฉลี่ยประมาณเท่าไหร่หรอคะ [งานและทรัพยากรบุคคล]

ความคิดเห็นที่ 22

คุณคนดีผีคุ้ม : ขอขอบพระคุณแทนน้องๆด้วยน่ะค่ะแล้วก็ขอตอบแทนน้องๆว่าไม่เป็นไรเลยค่ะ 555 พวกเราค่อนข้างชินอ่ะค่ะ คือไปครั้งแรกอาจจะโกรธแต่พอครั้งต่อไป เราก็เรียนรู้ที่จะปรับตัวค่ะ มีลูกค้าที่นึงAcct. Managerเวลาจะโวยออดิทนี่จะเสียงดังมากกกก แต่พอเสียงดังเสร็จก็จะเสียงเบาลงและขอประนีประนอม 555 ครั้งแรกโกรธมากแต่เผอิญว่าต้องไปปีนึงหลายรอบเราก็จะชิน แล้วก็รู้ว่าเค้าเป็นยังงัยหลังๆก็สนิทกันค่ะ เรียกอาหมวยกันตลอด บางทีก็ไอหมวย 555+++

จริงๆเรื่องถามซ้ำซาก ถามทุกปี ไม่รู้จะถามอะไรนักหนา บลาๆๆๆ อันนี้เราก็เข้าใจค่ะเพราะเราก็ไม่อยากถาม 555+++ คือคำถามบางอย่างมันเป็นสิ่งที่เราต้องถามทุกปีอ่ะค่ะ เช่น ระบบการทำงานของแผนกต่างๆ เอกสารที่เกี่ยวข้องแต่ละขั้นตอน การควบคุม การจัดการที่มีอยู่ อันนี้เราต้องถามทุกปี ซึ่งเราก็เข้าใจในมุมของลูกค้าว่า อืมมม ตูก็หน้าเดิมจะแก่ขึ้นก็แค่ปีเดียว เก้าอี้ตูก็ยังนั่งตัวเดิมที่เดิม แล้วจะถามทำแป๊ะอะไรนักหนา แต่ที่ต้องถามเพราะเราไม่ได้อยู่ที่ลูกค้าทั้งปี เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในบ.เราก็ไม่มีทางทราบเลยเพราะลูกค้าไม่ได้มีหน้าที่มาบอกเรา เมื่อเป็นอย่างนี้ครั้งแรกของทุกปีที่เข้าไปเราก็จะไปสอบถามถึงการควบคุมเหล่านี้ว่ายังมีหรือเปล่า เพราะหลายครั้งที่บอกว่า เหมือนเดิมน้อง ตรวจไปเลย จะบอกว่าในการทำงานของ Big4 ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ค่ะ (แต่อาจจะมีบางที่หรือหลายคนทำ อันนี้ส่วนบุคคลค่ะ ไม่ทราบ) เพราะการเปลี่ยนแปลงในองค์กรย่อมส่งผลต่อการควบคุมภายใน ง่ายๆน่ะค่ะแค่มีการย้ายตำแหน่ง เลื่อนขั้นเปลี่ยนคนอนุมัติ การควบคุมก็เปลี่ยนไปแล้วค่ะ เพราะการควบคุมที่มีมันจะเป็นผลก็เมื่อคนนี่แหละค่ะต้องเป็นคนกระทำ เราชาวออดิทจึงต้องถามซ้ำถามซากถามทุกปี เราเองก็เบื่อค่ะ อยากรีบกลับบ้านเหมือนกัน 555++

ส่วนออดิทหน้าใหม่ก็อย่างว่าอ่ะค่ะส่วนนึงก็ Turnover สูงอีกส่วนก็คือการที่ Big4 มีพนักงานเยอะมากกกก เก่าที่นี่ใหม่ที่โน่น เพราะเราเองเคยพาน้องที่มีประสบการณ์ 2 ปีไปบ.นึง พี่ลูกค้าแอบมากระซิบถามทำไมเอาเด็กเพิ่งจบมาบ.พี่ล่ะ คนเก่าไปไหน เราก็น่ะขำๆไปว่า ที่บ.มีออดิทเยอะกลัวพี่เบื่อก็เลยเปลี่ยนมาบ้างไม่ใช่เพิ่งจบหรอกค่ะ เพิ่งจบก็มีค่ะแต่ไม่ใช่คนนี้ น้องยิ้มแก้มแตกเลย 555+++ ดีใจว่าหน้าเด็ก เพราะฉะนั้นเห็นหน้าใหม่ถามคำถามที่ดูเหมือนจะเบสิกมากก็อย่าเพิ่งเหมาน่ะค่ะ แต่ถ้าบ๊องแบ๊วจริงๆก็ตัวใครตัวมันน่ะค่ะ

ด้วยการทำงานที่ค่อนข้างหนักและมากมายเด็กประสบการณ์ 1 ปีก็สามารถดูจ๊อบเล็กๆที่ไม่ยุ่งมากได้แล้วค่ะ เช่นพวกบ.โฮลดิ้งที่รายการน้อยมากก ถือโน่นถือนี่แต่ไม่ยุ่งเลย เพราะขึ้นปีที่ 3ก็มหาชนแล้ว (หมายถึงการดูในส่วนที่เข้าไปเก็บข้อมูลที่ลูกค้าน่ะค่ะแต่เรามีท่านพี่ยักษ์ใหญ่อีกหลายคนที่คอยติดตามถามไถ่อยู่ที่ออฟฟิศมากมาย) นอกจากกรุ๊ปใหญ่ๆจริงๆที่จะมีเด็กยักษ์ไป นอกนั้นก็เด็กน้อยหอยสังข์นี่ล่ะค่ะ แต่อย่าลืมน่ะค่ะรายการปรับมากมายที่เกิดขึ้นก็จากฝีมือเด็กน้อยนี่ล่ะค่ะ

เรื่องอีโก้สูงแล้วไม่ยอมถามถ้าหมายถึงอีโก้ระหว่างในทีมนี่ไม่น่าจะมีค่ะ แต่เรื่องอีโก้กับลูกค้าอันนี้ตอบยากเป็นปัจเจกบุคคล ยิ่งเด็กน้อยนี่ถามจนเราปวดหัวเลยล่ะค่ะ แต่อาจจะเห็นว่าบางทีน้องๆยืนงงที่ลูกค้าแต่ไม่ยอมถามก็เป็นเพราะเค้าไม่รู้จะถามอะไร 555 ด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อยล่ะค่ะแต่ส่วนมากเหล่าเด็กยักษ์ที่ไปด้วยก็จะบอกน้องๆอยู่แล้วว่าถ้าจะถามอะไรลูกค้าให้ถามพี่ก่อน หลายคนอาจจะบอกแล้วทำไมเอาเด็กมาทำงานก็ต้องบอกว่ามันยังมีงานในส่วนอื่นที่ยุ่งยากมากกว่านี้สิ่งที่เข้าไปที่ลูกค้าเป็นงานที่ไม่ได้ยากเกินความสามารถน้องๆจริงๆดูจากการแบ่งงานก็ได้ค่ะงานที่ยุ่งยากมีความเสี่ยงไม่มีทางที่จะให้น้องทำแน่นอน อันนี้ต้องยอมรับอย่างนึงว่าเค้าเลือกมาแล้วน่ะค่ะ คิดอีกแบบดีซะอีกคุยกะเด็กน้อยแสดงว่างานที่เราทำไม่เสี่ยงมากงัย

ตอบมายาวยืด แค่อยากให้ทุกคนเข้าใจน้องๆออดิทที่เข้าไปทำงานว่าสิ่งที่เค้าถามเค้าขอเค้าก็ทำตามหน้าที่ล่ะค่ะ เราเป็นลูกค้าก็ให้เค้าไปตามหน้าที่เช่นกันถ้าอะไรที่ติดขัดก็บอกน้องๆเค้า วันนี้ยุ่งพรุ่งนี้ได้มั๊ย?? มันได้อยู่แล้วค่ะ หรือจะบอกน้องว่าวันนี้พี่ว่างจะขออะไรก็รีบบอกน่ะพรุ่งนี้พี่ยุ่งทั้งวัน เราไม่ได้จะถึงขนาดให้พี่หยุดการทำงานมา Support เราขอแค่บอกดีๆก็พอ ทำงานกันได้ก็วินวินทั้งคู่น่ะค่ะ

จากคุณ : <^^>Hulahop<^^> (<^^>HuLaHop<^^>)

เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 22:57:58