PANTIP.COM : I12931092 หุ้นที่ชาวสินธรจับตามอง 15-11-12{แตกประเด็นจาก I12926025} [หุ้น]

หุ้นที่ชาวสินธรจับตามอง 15-11-12{แตกประเด็นจาก I12926025}

กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก I12926025

เซ็ตน่าจะปรับฐานยาวถึงอาทิตย์หน้า เด้งขึ้นแล้วก็ทำนิวโลว์ไปเรื่อยๆ อาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดแต่ขาใหญ่ต้องเขย่าให้รายย่อยกระเดนออกให้ได้ กลยุทธน่าจะทำกำไรตอนเด้งขึ้น ถือเงินสดหรือเลือกซื้อให้ถูกตัวนะครับ

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:15:07

ความคิดเห็นที่ 1

3-1

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:15:32

ความคิดเห็นที่ 2

3-2

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:15:52

ความคิดเห็นที่ 3

3-3

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:16:13

ความคิดเห็นที่ 4

3-4

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:16:37

ความคิดเห็นที่ 5

3-5

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:17:06

ความคิดเห็นที่ 6

4-2

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:17:26

ความคิดเห็นที่ 7

หลายตัวขาใหญ่เขย่าแบบว่าจัดหนักมากขึ้นนะครับ

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:19:37

ความคิดเห็นที่ 8

ขอบพระคุณครับอาจารย์

จากคุณ : auooae4988

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:42:26

ความคิดเห็นที่ 9

สวัสดีครับ อ.โชคดีและเพื่อนๆ

วันนี้เจ้าจัดหนัก บางตัวเล่นเอากำไรหายเกลี้ยง 555
ถ้าปรับฐานยาวถึงอาทิตย์หน้า งานนี้สงสัยต้องถอยมานั่งดูก่อนหละ อิอิ

จากคุณ : noname_c

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:43:13

ความคิดเห็นที่ 10

คุณเอ้ เป็นไงบ้างครับ โดดออกทันไหม

จากคุณ : noname_c

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:43:58

ความคิดเห็นที่ 11

ขอบคุณครับ

จากคุณ : Exzion

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:52:32

ความคิดเห็นที่ 12

สวัสดีคะอาจารย์ เกาะตามขาใหญ่ไปเรื่อย เหาฉลามคะ

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 20:58:42

ความคิดเห็นที่ 13

ขอบคุณอาจารย์ค่ะ ดอกไม้

จากคุณ : money many

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 21:34:21

ความคิดเห็นที่ 14

ขอบคุณคะ พวงมาลัย
แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 21:54:05

จากคุณ : เรือนลำใย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 21:53:40

ความคิดเห็นที่ 15

ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ

จากคุณ : ตุ๊กตาสวย

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 22:16:22

ความคิดเห็นที่ 16

set น่าจะปรับฐานลงไปถึงเท่าไหร่ครับ

จากคุณ : dzire

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 22:17:23

ความคิดเห็นที่ 17

ขอบคุณอาจารย์มากๆค้าบบบบ

วันนี้เพื่อนๆเปงไงกานบ้างครับ หายใจคล่องคอรึป่าววว

จากคุณ : พ่อมดซ่าส์

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 22:34:29

ความคิดเห็นที่ 18

#10 คุณโนเนมเลือดซิบๆนิดหน่อยครับ คุณโนเนมล่ะครับ เป็นไงบ้าง

จากคุณ : auooae4988

เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 23:14:28

ความคิดเห็นที่ 19

รายงานตัว สวัสดีครับอาจารย์และเพื่อน ๆ ทุกท่าน ^^

จากคุณ : Son Sonthaya

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 07:30:01

ความคิดเห็นที่ 20

#18 บางตัวบาดเจ็บ พอประมาณ 555
แต่บางตัวยังมีกำไร ถัวๆ ไปครับ

จากคุณ : noname_c

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 07:53:25

ความคิดเห็นที่ 21

สวัสดีคะ อาจารย์ และเพื่อนๆ ทุกคนคะ

อาจารย์คะเลือกหุ้นให้ถูกตัว มีหลักการอย่างไรบ้างคะ อยากเลือกในจังหวะนี้จังคะ

ขอบคุณอาจารย์คะ ที่แนะนำมาตลอด
เด้งขึ้นให้ขายก่อน

จากคุณ : มารวยมารวย

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 08:50:51

ความคิดเห็นที่ 22

คห17
หายใจ ยังไม่ค่อยคล่องเลยคะ ปอด แดงเถือกเลย

จากคุณ : มารวยมารวย

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 08:52:24

ความคิดเห็นที่ 23

สวัสดีครับอาจารย์และเพื่อนๆครับผม
ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ

จากคุณ : auooae4988

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 09:29:42

ความคิดเห็นที่ 24

ตอนนี้ต้องระวังตัวที่สู้เซ็ต คือถ้าเซ็ตลงหนักขึ้นเรื่อยๆ คนที่ถืออยู่ต่อให้มั่นใจแค่ไหนก็จะมีส่วนหนึ่งที่กลัวแล้วขายออกมาก่อนหรือไม่ก็ทำแซ่บ ส่วนขาใหญ่ก็คงไม่ใจบุญพอที่จะรับซื้อที่ราคาสูงๆ ยังไงซะถ้าขายแล้วก็ต้องหาจังหวะซื้อคืนนะครับ

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:49:58

ความคิดเห็นที่ 25

รบกวนถาม เรื่องการอ่านอ่ะค่ะ

ช่อง น้ำเงิน ทุนขาใหญ่ ซื้อ
I II ต่างกันอย่างไร
SOSB เป็นสีน้ำเงิน แล้ว สูงกว่า I II ไม่ควรซื้อใช่มั้ยค่ะ

จากคุณ : pim_pantip

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:53:58

ความคิดเห็นที่ 26

ขอบคุณค่ะอาจารย์โชค

จากคุณ : กาหยู

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:56:41

ความคิดเห็นที่ 27

I II ต่างกันอย่างไร

ต่างที่เวลาสะสมหุ้น

SOSB เป็นสีน้ำเงิน แล้ว สูงกว่า I II ไม่ควรซื้อใช่มั้ยค่ะ

ไม่ใช่ครับ ถ้าราคาปิดต่ำกว่าค่า SOSB ยังซื้อไม่ได้ ต้องรอให้ราคาปิดกลับมายืนเหนือค่า SOSB ก่อนถึงจะซื้อได้ครับ

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 11:01:34

ความคิดเห็นที่ 28

ขอบคุณคะ อาจารย์ :>

จากคุณ : nam (ผิดเป็นครู)

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 11:52:05

ความคิดเห็นที่ 29

สวัสดีค่ะอาจารย์และพี่ ๆ ลูกสาว

แหมจัดหนักจริงเลยค่ะ ปอดแดงแปร๊ดเลย
ปิดกระดานหุ้นสองอาทิตย์ cry

จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 12:49:53

ความคิดเห็นที่ 30

ขอบคุณมากครับ อ.โชคดีร่ำรวย

จากคุณ : nandel19

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 14:27:01

ความคิดเห็นที่ 31

สวัสดีครับ ทุกท่านครับ
ผมเม่าเพิ่งเข้ากลุ่มครับ
อยากเรียนรู้วิธีเล่นกับไฟ
มีลิงค์กระทู้เก่า ๆ ที่อธิบายมั๊ยครับ ว่าช่องไหนมีความหมายว่าอย่างไร
วิธีการอ่านข้อมูลพวกนี้อ่ะครับ
ขอรบกวนรุ่นพี่ ทุกท่าน รวมถึงท่านอาจารย์ด้วยนะครับ
แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 55 15:23:17

จากคุณ : ถามฟ้า_ไม่ตอบ

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:22:20

ความคิดเห็นที่ 32

คห 31ลองดูนะคะ

จากคุณ : มารวยมารวย

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:28:53

ความคิดเห็นที่ 33

ขอบคุณมากครับ คุณมารวยมารวย

จากคุณ : ถามฟ้า_ไม่ตอบ

เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:46:11

ความคิดเห็นที่ 34

หุ้นที่ชาวสินธรจับตามอง 16-11-12
ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ I12937353

จากคุณ : โชคดีร่ำรวย

เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 02:06:43

ความคิดเห็นที่ 37

Rose Jds
‎10วิธีที่ทำให้เจ็งหุ้นอย่างรวดเร็วและได้ผลแน่นอน
1.เวลาหุ้นลงมีเท่าไหร่อย่าเพิ่งขาย ไม่ขายไม่ขาดทุนครับ เก็บไว้นานๆ โดยเฉพาะหุ้นผลประกอบการแย่ลง เก็บมันไว้ เดี๋ยวมันก็เด้งกลับ
2.เวลาหุ้นลงข่าวร้ายเยอะๆ อ่านข่าวมันเข้าไป กลัวให้มากๆ อย่าไปซื้อตอนข่าวร้ายเต็มตลาดเด็ดขาด เพราะมันไม่น่าซื้อ เดี๋ยวมันจะต้องลงต่ออย่างแน่นอน
3.หุ้นราคาขึ้นมา ได้กำไรนิดนึงรีบขายครับ อย่าโลภ เดี๋ยวกำไรหาย ให้ขายทิ้งให้หมดเลย ไม่งั้นจะติดดอยต่อได้
4.เชื่อฟัง เทพ.เซียน.กูรู ให้เยอะๆ เพราะพวกมีประสบการณ์มากกว่าเรา ต้องเชื่อฟังไว้มากๆ เขาเชียร์ซื้อตัวไหน ซื้อตามเขาไปเลยครับ เอาราคา ATO ไปเลย ซื้อแล้วราคาร่วงอย่าเพิ่งขาย เพราะที่เขาแนะนำดีจริงๆ ให้ถือไว้ยาวๆก็ได้ แล้วบอกคนอื่นๆว่าเราเป็น VI
5.เวลามีข่าวดีเต็มตลาด หุ้นวิ่งกระจาย ดัชนีพุ่งสูงปิ๊ด ต้องรีบซื้อตาม เพราะตอนนั้นแหละคือมันขึ้นแน่ๆ
6.หุ้นปั่นเป็นสิ่งที่ทำให้รวยเร็วที่สุด เรื่องอะไรจะต้องไปอยู่กับหุ้นพื้นฐานดีๆล่ะ กว่ามันจะขึ้นแต่ละบาทแทบกระอัก ไม่คุ้มเสี่ยงหรอก เอาหุ้นปั่นเลยดีกว่า เห็นตัวไหนใน ticker ยาวๆ รีบตามเข้าทันที
7.จากข้อหก ถ้าหุ้นปั่นที่ซื้อราคามันร่วงลงมา อย่าตกใจ ของถูกมากองอยู่ตรงหน้าแล้ว ให้รีบซื้อในราคาที่ลดกระหน่ำทันที โอกาสรวยอยู่ตรงหน้าแล้ว มันลง ก็ถัวซื้อเข้าไป ต้นทุนเราก็ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ทีนี้แหละ พอมันขึ้นเรากำไรเละ...
8.เล่นเองใช้เงินนิดเดียวคงไม่พอ รวยไม่ทันเขา ควรไปกู้ธนาคาร ยืมเพื่อน กดบัตรเครดิตออกมาซื้อด้วย โดยเฉพาะตอนมันเริ่มลงนิดนึง จะได้ถัวซื้อเข้าไป ไม่ต้องกลัว ต้นทุนเราต่ำลงเรื่อยๆ เดี๋ยวกำไรจากหุ้นก็เยอะกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ตั้งเยอะ ยิ่งถ้าลงหนักๆ ควรขายบ้าน ขายรถออกมาซื้อให้ได้
9.เวลาเล่นหุ้น ไม่ต้องหาหนังสือมาอ่าน หรือหาความรู้เพิ่มเติมหรอกครับให้เสียเวลา แน่ใจหรอว่าเราอ่านแล้วจะวิเคราะห์ได้ มือใหม่อย่างเราอย่ามั่นใจตัวเองเกินไปครับ ไม่ต้องไปสนใจมัน เดี๋ยวก็มีนักวิเคราะห์แจกหุ้นให้อยู่ทุกวัน ตามเว็บไซต์เว็บบอร์ดก็มี โทรถามมาร์เอาก็ได้เขาวิเคราะห์ดีกว่าเราเยอะแน่นอน
10.จะซื้อหุ้นไม่ต้องสนใจหรอกครับว่าบริษัทนั้นจะชื่ออะไร ทำธุรกิจยังไง ผลประกอบการเป็นยังไง จำตัวย่อให้ได้ก็พอ มันจะทำธุรกิจอะไรก็ช่างหัวมัน ซื้อตามเขาไปน่ะแหละ
โดย: Phoenix Garuda
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 19:46:29
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 17:27:44

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 11:51:43

ความคิดเห็นที่ 38

หุ้นระบบสแกน

ASK , BAY , BIGC , CEN , DCC , ESSO , GFPT , GLOW , IVL , KTB , LHBANK , LIVE , LIVE-W1 , LPN , MAJOR , NWR , QH , ROJNA , SCC , SITHAI , SVI , SYNTEC , TCMC , THCOM , TICON , TK , TNDT , UNIQ , VIBHA
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 19:51:42
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 17:27:09

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 11:52:27

ความคิดเห็นที่ 39

โลกในมุมมองของ Value Investor 1 ธันวาคม 55

ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

งานเลี้ยงที่กำลังร้อนแรง

เวลาที่ไปงานเลี้ยงหรือปาร์ตี้เพื่อความบันเทิงนั้น ช่วงหัวค่ำที่คนเริ่มทยอยมาบรรยากาศก็มักจะยังไม่รื่นเริงนัก ดนตรีก็มักจะเล่นเพลงเบาๆ สบายๆ เมื่อคนเริ่มมากขึ้น บรรยากาศก็จะคึกคักขึ้น คนเริ่มจิบเหล้าเบียร์และคุยกันสนุกสนาน ดนตรีเริ่มดังขึ้น เพลงเริ่มเร็วขึ้น หลายคนเริ่ม “เปิดฟลอร์” ออกไปเต้นรำ ซักระยะหนึ่งแอลกอฮอก็เริ่มออกฤทธิ์ คนออกไป “ดิ้น” กันเต็มพื้นที่ ดนตรีเล่นเพลงที่เร้าใจและดังจนคุยกันไม่รู้เรื่อง งานเลี้ยงกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ “สนุกและร้อนแรงที่สุด” มันอาจจะเป็นเวลา สี่ทุ่มครึ่ง ห้าทุ่ม หรืออาจจะใกล้เที่ยงคืนที่เป็นกำหนดเวลา “งานเลิก” ไม่มีใครรู้หรือสนใจที่จะรู้เพราะในเวลาที่ทุกคนกำลังสนุกสนานนั้น พวกเขามักจะ “ลืมดูเวลา” ไม่มีใครอยากจะออกจากงานก่อนที่มันจะเลิก—แม้จะมีกฎว่า คนที่ออกหลังสุดต้อง “จ่ายสตางค์”

นั่นเป็นคำบรรยายแบบเปรียบเปรยกับบรรยากาศของตลาดหุ้นในขณะนี้ที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับพุ่งขึ้นเรื่อยๆ นับจากต้นปีที่ 1025 จุดเป็น 1324 จุดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 หรือเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 29% ไม่นับรวมปันผลอีก 3-4% ซึ่งทำให้นักลงทุนที่มีหุ้นในตลาดมีกำไรเป็นกอบเป็นกำ จริงอยู่ การที่หุ้นปรับขึ้นมามากๆ ในเวลาอันรวดเร็วนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ หลายปีที่ผ่านมาหุ้นก็ปรับตัวสูงแบบนี้มาหลายครั้ง แต่การปรับตัวในรอบก่อนๆ นั้นก็มักจะเป็นการปรับตัวขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นตกลงมาอย่างหนัก ดังนั้น คนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาก็อาจจะไม่ได้กำไรนัก อาจจะเพียงแต่ได้ทุนคืนมา แต่การปรับขึ้นของหุ้นในรอบนี้เป็นการขึ้นหลังจากที่หุ้นได้ขึ้นมาสูงแล้ว ดัชนีที่ 1324 นี้ถือเป็นดัชนีที่สูงที่สุดในรอบ 16 ปี ดังนั้น สำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นที่เข้ามาลงทุนในตลาดเพียงไม่กี่ปีหรือไม่เกิน 10 ปี นี่คือเวลาแห่งความ “รื่นเริง” อย่างแน่นอน ประเด็นก็คือ ความ “สนุกสนาน” จากการลงทุนในช่วงนี้กำลังใกล้จบหรือไม่ ดัชนีหุ้นในขณะนี้สูงเกินไปหรือไม่ และโอกาสที่หุ้นจะปรับตัวลงแรงและทำให้คนที่เข้ามาซื้อหุ้นในช่วงนี้ขาดทุนหรือไม่ มาลองคุยกัน

เริ่มจากการดูว่าหุ้นในขณะนี้ร้อนแรงเกินไปหรือไม่ในทาง “จิตวิทยา” หรือการดูบรรยากาศและความรู้สึกของผู้คนที่อยู่ในตลาด คำตอบของผมก็คือ ค่อนข้างร้อนแรงหรืออาจจะพูดว่าร้อนแรงมากก็ได้ เพียงแต่ “คนทั่วไป” เช่น ช่างตัดผมหรือแท็กซี่ยังไม่ได้พูดถึงตลาดหุ้น แต่นี่ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นว่าจะต้องเกิด เนื่องจากประเทศไทยนั้นยังไม่รวยพอที่คนทั่วไปจะสนใจตลาดหุ้นในทุกสถานการณ์ การที่ผมพูดว่าตลาดหุ้นร้อนแรงมากนั้น ผมสังเกตจากจำนวนคนที่เข้าฟังการสัมมนาการลงทุนที่จัดกันอย่างแพร่หลายนั้น ในช่วงหลังๆ นี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากจนเก้าอี้มักจะไม่พอและคนยินดีที่จะยืนฟังกันเป็นชั่วโมงๆ ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ เราสามารถจัด “ทอล์คโชว์” เกี่ยวกับการลงทุนที่เก็บเงินคนเข้าฟังได้แล้วจากที่ต้องหาคนฟังแม้จะไม่ต้องเสียเงินอย่างในช่วงหุ้นซบเซาสมัยก่อน

ประเด็นที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ในช่วงหลังนี้มีนักลงทุนที่ยังมีอายุน้อย อายุตั้งแต่ 20 ถึง 30 ปีต้นๆ ที่เป็นคน Gen Y หรือเป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คนกลุ่มนี้สนใจลงทุนในตลาดหุ้นเพราะเห็นว่าเป็นวิธีที่จะ “รวยเร็ว” โดยไม่ต้องทำงานหนักซึ่งก็เป็น “เทรนด์” ของคนในรุ่นใหม่นี้ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีไอทีที่พัฒนาแล้วและความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นมากของพ่อแม่ พวกเขาเห็นว่าตลาดหุ้นเป็นทางเลือกที่ดีที่เขาจะบรรลุความฝันนั้นได้ ว่าที่จริง หลายคนที่พ่อแม่มีฐานะดีนั้น ได้เลือกเส้นทางที่ไม่ทำงานประจำที่ได้เงินเดือนน้อยและไม่น่าสนใจเลย แต่ลงทุนในตลาดหุ้นเป็นอาชีพ ผมเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังเดินตามรอย “วอเร็น บัฟเฟตต์” หรือเปล่าที่ไม่ทำงานประจำตั้งแต่เรียนจบ อย่างไรก็ตาม การที่ไม่ทำงานหรือออกจากงานมาลงทุนอย่างเดียวนั้น ก็เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งว่าตลาดหุ้นนั้นร้อนแรงมาก เพราะพวกเขาเชื่อว่าผลตอบแทนการลงทุนในตลาดนั้นสูงมากจนทำให้รายได้จากการทำงานกินเงินเดือนไม่มีความหมาย

นอกจากนักลงทุน Gen Y แล้ว ผมพบว่ายังมี “คนมีเงิน” โดยเฉพาะที่เป็นนักธุรกิจต่างก็สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น บางทีพวกเขาอาจจะเห็นว่าการเล่นหุ้นนั้น ทำเงินได้เร็วกว่าการทำธุรกิจเอง แต่ที่น่าจะเป็นมากกว่าก็คือ การลงทุนในหุ้นนั้น น่าจะได้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากเงินที่ได้ดอกเบี้ยต่ำมากของพวกเขา

สิ่งที่ “ยืนยัน” ว่าตลาดหุ้นในขณะนี้น่าจะร้อนแรงเกินไปอย่างหนึ่งก็คือ หุ้น IPO หรือหุ้นที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก ที่มีราคา “ร้อนแรง” เกือบทุกตัว บางตัวเข้ามาซื้อขายวันแรกก็ปรับขึ้นไปแล้วกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์จากราคาจองซึ่งเป็นราคาที่ที่ปรึกษาการเงินมองดูว่าเหมาะสมกับพื้นฐาน การที่มีหุ้นใหม่เข้าตลาดมากและราคาหุ้นปรับตัวแรงในวันซื้อขายวันแรกเป็น “สัญญาณ” ที่พิสูจน์มาแล้วทุกยุคทุกสมัยและในทุกตลาดว่าตลาดหุ้นนั้น กำลัง “ร้อนแรง” และหลายครั้งหลังจากนั้น “ฟองสบู่” ก็แตก ในตลาดหุ้นไทยเองผมก็ยังจำได้ถึงช่วงเวลาที่ “ใบจอง” หุ้นเข้าใหม่บางตัวนั้นมีค่ายิ่งกว่าราคาหุ้นที่จอง นั่นคือในช่วงที่หุ้นไทยเป็นฟองสบู่ในราวปี 2535-36 ที่ดัชนีหุ้นไทยสูงขึ้นไปถึงพันเจ็ดร้อยกว่าจุด

สุดท้ายก็คือเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับประเทศไทยที่คนมองว่ากำลัง “ฟื้น” จากภาวะ “ป่วยไข้” จากเหตุการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะทางการเมืองและน้ำท่วมใหญ่ที่กระทบอย่างรุนแรงต่อการบริหารประเทศและการดำเนินธุรกิจต่างๆ ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ในทางตรงกันข้าม ประเทศใหญ่ๆ ในโลกต่างก็ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจที่ทำให้บริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการที่แย่ลงหรือไม่โต ดังนั้น ประเทศในแถบเอเซียโดยเฉพาะประเทศไทยจึงเป็นเสมือน “โอเอซิส” ที่ยังน่าจะทำกำไรได้อยู่

ทั้งหมดนั้นทำให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปสูงกว่าปกติและทำให้หุ้นมีราคาไม่ถูกเลย คือ PE ประมาณ 15 เท่าจากสถิติระยะยาวของไทยที่ประมาณ 10 เท่าเศษๆ และหุ้นไทยในขณะนี้น่าจะแพงกว่าหุ้นในหลายๆ ประเทศ รวมถึงจีนที่เศรษฐกิจยังเติบโตในอัตราเกือบ 2 เท่าของไทย ว่าที่จริง หุ้นเด่นๆ ของไทยนั้นมีค่า PE สูงกว่าหุ้น “ระดับโลก” ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันแล้ว และนี่ก็ทำให้ผมเองเกิดความกังวลอยู่เหมือนกันว่าหุ้นไทยเวลานี้แพงเกินไปหรือเปล่า?

คำตอบของผมก็คือ มันแพง แต่ก็ยังไม่ถึงกับรับไม่ได้ แต่ถ้าถามว่า หุ้นในเวลานี้ยังเป็น Value หรือเปล่า? คำตอบของผมก็คือ Value นั้นน่าจะหมดไปแล้ว โดยเฉพาะสำหรับ Value Investor ที่เป็นชาวต่างชาติที่สามารถลงทุนในประเทศอื่นเช่นจีนได้อย่างสะดวก สำหรับผมเองซึ่งไม่ใคร่มีทางเลือกมากนักนั้น ถึงผมจะดูว่า Value นั้น “หายหมด” แล้ว แต่ผมก็ยังไม่อยากออกจากตลาด ผมคิดว่าความจำเป็นที่จะต้องออกจากตลาดในเวลานี้ยังไม่มาก ที่เหนือกว่านั้นก็คือ ผมคิดว่าความเสี่ยงที่หุ้นจะปรับตัวลงแรงยังไม่สูง ในขณะเดียวกัน โอกาสที่หุ้นจะปรับตัวขึ้นไปอีกมากก็ยังมีอยู่ ไม่ใช่เพราะว่าหุ้นถูก แต่เป็นเพราะว่าความสนใจลงทุนในหุ้นไทยโดยคนไทยเองและอาจจะต่างชาติบางกลุ่มก็อาจจะยังสูงอยู่ ดังนั้น หุ้นต่อจากนี้ไปอีกระยะหนึ่งอาจจะยังวิ่งขึ้นไปสูงลิ่วได้ เหมือนกับงานเลี้ยงที่เข้าสู่ชั่วโมงสุดท้ายที่จะ “สนุกและมันที่สุด” และถ้ามันเป็นอย่างนั้น ผมก็คงเตรียมตัว “กลับบ้าน” ก่อนที่งานจะเลิก นั่นคือ ถอนตัวจากตลาดหุ้นก่อนที่มันจะปรับตัวลงแรง เนื่องจากราคามันสูงเกินพื้นฐาน
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 19:56:01
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 17:26:48
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 11:55:39

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 11:52:58

ความคิดเห็นที่ 40

‎5 วิธีลงทุนใน LTF-RMF อย่างมีประสิทธิภาพ

2 ธันวาคม 2555

พี่อ่านข่าวขจากเวบไซท์ ASTV ผู้จัดการรายวัน พบว่า น้องอู๋ ฉัตรพี ตันติเฉลิม CEO ของ บลจ.กรุงศรี ให้สัมภาษณ์ที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกลงทุนในกองทุน สรุปได้ ดังนี้

โอกาสที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต้องดูที่ไหน
----------------------------------------------------------------------

1. ให้ศึกษาผลการดำเนินงานกองทุนย้อนหลังกลับไป 3- 5 ปี เนื่องจาก LTF-RMF ถือเป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้น กองทุนก็ควรจะมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่แบบหวือหวา

2. ผลการดำเนินงานในอดีตแม้ไม่ได้การันตีอนาคต แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เห็นภาพรวมของกองทุนว่ามี ผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องหรือไม่ โดยผลการดำเนินงานย้อนหลังควรอยู่ในระดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนประเภทเดียวกัน

3. ผู้ลงทุนควรให้ความสำคัญกับผลการดำเนิงานของกองทุนมากกว่าของสมนาคุณที่บลจ.ให้เป็นโปรโมชัjน เพราะ ก.ล.ต. กำหนดเพดานโปรโมชันหรือของสมนาคุณว่าต้องไม่เกิน 2% ของเงินลงทุน ซึ่งน้อยมากหากเทียบกับผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงจากกองทุนที่มีผลการดำเนินงานที่ดี

เช่น ลงทุน 100,000 บาทในระยะเวลา 1 ปีกับ LTF ที่ไม่มีของสมนาคุณแต่มีผลการดำเนินงานดีจนให้ผลตอบแทนได้ 20% หมายถึง ผู้ลงทุนได้กำไร 20,000 บาท

แต่หากลงทุนกับ LTF ที่ให้ของสมนาคุณ 2% คือ 2,000 บาท แต่กองทุนสร้างผลตอบแทนได้แค่ 3% คิดเป็นเงิน 3,000 บาท เมื่อรวมกับมูลค่าของสมนาคุณแล้วเทียบกับได้ผลตอบแทนเพียงแค่ 5,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับการเลือกลงทุนกับกองทุนที่มีผลการดำเนินงานทีดี

(หมายเหตุ พี่ตู่ได้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ต้นปีหน้านี้ เพดานโปรโมชันหรือของสมนาคุณอาจจะเปลี่ยนไปเป็นไม่เกิน 0.2% ของเงินลงทุนเพื่อกันไม่ให้กองทุนล่อหลอกผู้ลงทุนให้มองแต่ของแจก ของแถม โดยไม่ได้ใส่ใจผลการดำเนินงานหรือวิธีคิดในการลงทุน)

5 แนวทางในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
----------------------------------------------

1. กำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนและเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อใช้เป็นเข็มทิศในการดำเนินตามแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

2. ใช้หลักออมก่อน เหลือแล้วค่อยใช้จ่าย เพื่อลดโอกาสที่ผู้ลงทุนจะนำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นก่อนจนไม่ได้ออมอย่างที่ตั้งใจไว้

3. ลงทุนให้เต็มสิทธิในการลดหย่อนภาษีที่ตนเองได้รับทั้งในส่วนของกองทุน LTF-RMF แต่ไม่ควรลงทุนใน LTF-RMF เกินสิทธิที่ได้รับการลดหย่อนภาษี เพราะเงินลงทุนส่วนเกินหากมีกำไรจากการลงทุนจะถูกนับรวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณเสียภาษีเงินได้บุคคล

(หมายเหตุ ใครอยากลงทุนเพิ่มจริงๆ ก็มีกองทุนประเภทอื่นๆ ให้เลือกลงทุนอีกมากมาย พี่ตู่ไม่เห็น ว่าจำเป็นต้องเลือกเฉพาะ LTF-RMF แถมยังไม่ต้องยุ่งยากเรื่องห่วงว่าถอนแล้วต้องคืนภาษีที่เคยได้รับการลดหย่อน ฯลฯ อีกด้วย)

4. ทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วยวงเงินเท่าๆ กัน ในระยะเวลาที่กำหนด เช่น ทุกเดือน ทุก 2 เดือน หรือทุกไตรมาส จนครบตามจำนวนเงินที่ต้องการซื้อ LTF-RMF ในปีนั้นๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าสภาวะตลาดในช่วงนั้นจะเป็นอย่างไร เพราะการลงทุนสม่ำเสมอจะช่วยลดความผันผวนสูงจากการลงทุนในหุ้น และยังเฉลี่ยต้นทุนในการซื้อให้ถูกกว่าราคาเฉลี่ยของตลาดได้ นอกจากนี้ ให้เริ่มลงทุนตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากราคาหุ้นต้นปีมันจะมีราคาถูกกว่าช่วงปลายปี ส่วนการจับจังหวะตลาดไม่ได้มีความสำคัญนัก เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาว

5. ทบทวนพอร์ตการลงทุนอย่างน้อยปีละครั้ง และปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับภาวะการลงทุน หรือวัตถุประสงค์ของการลงทุนที่เปลี่ยนไปเพื่อเป็นการเพิ่มผลตอบแทนหรือลดความเสี่ยงจากการลงทุน

พี่มองว่าน้องอู๋สามารถขับเคลื่อน บลจ. ของเขาได้ดี ถูกทิศถูกทางทีเดียว ก็หวังว่าข้อเขียนเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนทั้งหลายนะคะ

นกจากนี้ พี่มีแผนที่จะรวบรวม บลจ. ที่มีแนวคิดต่อผู้ลงทุนเหมือนๆ กับเรามาจัดเสวนาเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนร่วมกัน

มันน่าจะเป็นมิติใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนเลยทีเดียว โดยในเบื้องต้น ได้คุยกันคร่าวๆ 3 บลจ แล้ว ต่างก็ชอบแนวคิดนี้ค่ะ

เรียกว่าไม่ต้องเอาแต่รอจัดงานร่วมกันทั้งอุตสาหกรรมละ เราร่วมกันจัดแบบเล็กๆ ของเราก่อนได้
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 20:32:09
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 17:26:21

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 11:56:33

ความคิดเห็นที่ 41

เปิดตลาดบ่ายวันจันทร์ 3 ธค. เข้าซื้อหุ้น TPCORP เท็กซ์ไทล์เพรสทีจ ด่วนที่สุด

TPCORP หรือ เท็กซ์ไทล์เพรสทีจ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผ้าคลุมเบาะรถยนต์และเบาะหนัง รายใหญที่สุดในเอเซีย

สินค้าได้แก่ ผ้าคลุมเบาะรถยนต์ เบาะหนังฟอกย้อม เบาะหนังเทียม

กลุ่มลูกค้า ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลก อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า มิซซูบิชิ นิสสิน เชฟโรเลท เบนซ์ บีเอ็ม มาสด้า อีซูซุ

ผลประกอบการ 9 เดือน กำไรพุ่งทะลุโลกไปแล้ว 78 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น .72 สต. แต่ผลประกอบการสิ้นปี 2555 จะกำไรพุ่งกระฉูด จากยอดผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่พุ่งสูงถึง 2.5 ล้านคัน รวมทั้งการจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร ที่เมืองทอง

ทำให้ TPCORP จะประกาศกำไรสุทธิปี 2555 กำไร 200 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2 บาท

บริษัทมีมูลค่าบัญชีสูงมาถึงหุ้นละ 20.98 บาท มีเงินสดในมือ 700 ล้านบาท ไม่มีภาระหนี้สิน NETCASH และเป็นบริษัทในเครือสหพัฒน์ รวมทั้งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สหเซเรน ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก และกำลังจะเข้ามาจดทะเบียนในกลุ่มยานยนต์

ราคาหุ้น TPCORP ปัจจุบัน 9.55 บาท ยังต่ำกว่ามูลค่าบัญชี และค่าพีอีในกลุ่มยานยนต์ที่เฉลี่ย 25 เท่า จึงแนะนำให้เข้าซื้อหุ้น TPCORP ด่วนที่สุด ทุกระดับราคา แล้วถือรอขาย เป้าหมายที่ราคาหุ้นละ 60 บาท
แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 19:45:36
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 17:26:00

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 11:57:26

ความคิดเห็นที่ 42

จ๋อมแจ๋ม อิอิ
หุ้นเด่นๆในQ2 พักฐานระยะกลาง เช่น focus smm tmi nep apure tmw scp mdx demco nep super btc kmcฯลฯ สำหรับq3-4 ตัวใหม่ๆ ที่เริ่มโชว์ฟอร์มมาซักพักเช่น mbax tsf msc tndt ck bla mcot lh brookฯลฯ
ปล. ตลาด กระทิงจะมีการเปบี่ยนตัวเล่นสลับไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีเวลาดูทุกวันถือคงไม่แปลก แต่ถ้าดูทุกวันเล่นทุกวัน เฝ้าแต่ยึดติดความเรวในครั้งก่อนที่เคยเหน อาจทำให้เสียโอกาสในการเปลี่ยนม้าขี่ หุ้นเวลาพักตัวจะมีกรอบการเคลื่อนไหวค่อนข้างจำกัด ไม่ว่าด้านลงหรือขึ้น ทำให้คนซื๊อก้อเฝ้ารอลง คนขาย ก้อ ไม่วื่งแรงๆให้ขาย อาจเทรดดิ้งได้ส่วนต่างที่จำกัด ควรมองไปให้ทั่ว หาหุ้นที่ทำนิไฮและเข้าซื๊อฟอลโล่เทรนตามสไตล์ที่ถนัด คือบางคนถนัดรอย่อจังหวะสอง บางคนถนัดจังหวะไล่ ก้อไล่ ตลาดแบบนี้ไม่ควรเสียโอกาสในการทำกำไร เนื่องจาก มีไม่บ่อย ถ้าตลาดซึมแล้วจะยาก่านี้มากก

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 19:50:48

ความคิดเห็นที่ 43

วีไอ รักเมืองไทย
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เน้นขายทำกำไร MSCI Play(CPN, AOT, BGH, MAKRO) switch ไปหุ้น SET50/SET100 play (JAS, KK, TTW/SPCG, THRE, ROJNA, WORK, AAV) หุ้น December Effect (INTUCH, ADVANC, SCC, SCCC, MINT, BEC) และเมื่อดัชนีเข้าสู่เป้าหมาย 1335 จุด แนะนำลดพอร์ตลงทุน เพื่อรอซื้อสะสมรอบใหม่ราว ม.ค. 13 (คาด Fiscal cliff ยังไม่มีบทสรุป กรณีผิด Fiscal cliff ตกลงได้ชัดเจนก่อนสิ้นปี ให้ซื้อคืน เพราะรอบของการ Rally จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง)
แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 22:36:32

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 21:11:59

ความคิดเห็นที่ 44

Stock Spiner
‎03/12/12 TargetPrice
ADVANC 229.0 | EPS = 12.14 | Recommendation = Buy
AEONTS 88.0 | EPS = 5.64 | Recommendation = Buy
AOT 92.25 | EPS = 6.18 | Recommendation = Hold
AP 9.6 | EPS = 0.9 | Recommendation = Trading Buy
BAFS 18.0 | EPS = 1.6 | Recommendation = Sell
CK 13.5 | EPS = 0.27 | Recommendation = Outperform Market
CSL 10.1 | EPS = 0.66 | Recommendation = Buy
DTAC 122.0 | EPS = 4.68 | Recommendation = Buy
EGCO 146.0 | EPS = 20.37 | Recommendation = Buy
GLOW 76.0 | EPS = 4.13 | Recommendation = Trading Buy
INTUCH 81.0 | EPS = 4.35 | Recommendation = Buy
ITD 3.55 | EPS = -0.05 | Recommendation = Underperform Market
JAS 5.75 | EPS = 0.27 | Recommendation = Buy
PTTEP 186.0 | EPS = 14.31 | Recommendation = Buy
RATCH 61.0 | EPS = 5.32 | Recommendation = Buy
ROBINS 76.0 | EPS = 1.76 | Recommendation = Buy
SAMTEL 20.8 | EPS = 1.38 | Recommendation = Buy on Weakness
SCC 456.0 | EPS = 19.67 | Recommendation = Buy
SIRI 4.65 | EPS = 0.32 | Recommendation = Buy
STEC 27.5 | EPS = 0.99 | Recommendation = Outperform Market
THCOM 28.0 | EPS = 0.15 | Recommendation = Buy
TICON 15.0 | EPS = 1.67 | Recommendation = Outperform Market
TRUE 5.25 | EPS = -0.4 | Recommendation = Hold
TTA 16.2 | EPS = -5.9 | Recommendation = Hold
แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 22:35:40
แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 22:34:40
แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 22:34:01

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 21:18:31

ความคิดเห็นที่ 45

Stock Pubpub
ดัชนีวันนี้ยังเดินหน้าขึ้นต่อ นับรวมเป็น 60 จุดแล้วที่ขึ้นมารอบนี้โดยไม่มีการพักตัว ระยะสั้น RSI ขึ้นมาอยู่ที่ 72.77 เข้าเขต Overbought แล้ว แต่ตัวอื่นๆยังไม่มีสัญญาณในทางลบ ระยะกลางเป้ายังมองที่ 1347 ส่วนแนวรับมองที่ 1324-1328
หุ้นตัวใหญ่ๆเริ่มชะลอตัว ในขณะที่หุ้นตัวกลางเล็กเริ่มขยับอีกครั้ง ดังนั้นพิจารณาเล่นเป็นรายตัวน่าจะเหมาะสมในช่วงนี้
กลยุทธ ระยะสั้น ร้องเพลงรอไปก่อน รอซื้อตอนอ่อนตัว ระยะกลาง ถือและรอซื้อเพิ่มตอนอ่อนตัว
หุ้นที่น่าสนใจ LOXLEY STEC VGI TFD UNIQ

ิัBy Trend Talk
แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 22:33:23

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 21:34:06

ความคิดเห็นที่ 46

ทุกวันจันทร์ ผมจะไปออกรายการปรับกลยุทธ์ ทางสถานี Money Chanel ผมมีโอกาส ได้พูดยาวๆ อธิบายสิ่งที่ผมเห็น ผมคิด น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟัง ตกเย็นก็จะมีน้องสาวคนสวย มาถอดความให้ ใครที่ไม่้ได้ฟัง ไม่เคยฟัง ลองอ่านดู นะคับ

Chada Jomjam Meowmeow
เซตยืนเหนือ 1295 จุดได้ ไม่ลงมาเลย โวลุ่มก็มา ต่างชาติก็ซื้ออีก เป็นเรื่องที่ดี ปีหน้าต่างชาติเข้าแน่ๆ เข้าตั้งแต่ต้นปีเลย ช่วงนี้ถ้าลงมาซื้อได้ แต่ถ้าไม่ลงมา ทีนี้เราจะเอายังไงกันดี อันนี้เป็นปัญหาที่ผมนั่งคิดอยู่ แต่ผมคิดว่าต่างชาติเค๊าไม่ได้ซื้อตลาดไทยอย่างเดียว ซื้อหุ้นเอเซีย เกาหลี ไต้หวันที่มันเคยทุบลงมาด้วย สัญญาณตอนนี้เป็นสัญญานที่ดี โอกาสทางเทคนิคัลจะขึ้นประมาณ120 จุด จาก 1295 ขึ้นไปซัก 1400 ประมาณต้นปี ตัวเลข 1400 ไม่ใช่เราคิดขึ้นมาเองนะครับ รีเสิรชหลายที่ก็บอกด้วย ประมาณเดือนแรกเลย
นับจากวันนี้ไปอาจจะมีแรงซื้อจากต่างชาติ ที่ดันให้ set index ขึ้นไปอีก 120 จุด แต่เนื่องจากเวลานี้คือช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งน่าจะมีจังหวะพักบ้าง สู้บ้าง แต่ทุกครั้งของการพัก ก็สามารถเข้าไปซื้อได้
สรุปว่าสัญญาณทางเทคนิคตอนนี้ดีมากๆ ดีชนิดที่ว่าเรามีโอกาสได้เห็นอีก 120 จุด จาก 1295 จุดขึ้นไปเลยลุ้นกันจนถึงช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า
ใครที่มีหุ้นอยู่แล้ว ถือลุ้นอย่างเดียวเลย ถือลุ้นจนกว่าจะได้เห็นอีก100 จุด ถ้าไม่มีหุ้นรอเดือนธันวาคม โอกาสที่เซ็ตลงมาให้เข้าซื้อตามสะดวก
ช่วงนี้สัญญาณรอบเกิดหลายตัว โดยเฉพาะตอนที่มันปรับฐานตัวที่โดนทุบ เช่น bbl ptt ลงไปข้างล่าง ตัวพวกนี้ ขยับหมดเลย แปลว่า สัญญาณรอบมันเกิดด้วย สัญญาณเก็งกำไรก็เกิดด้วย แล้วก็เล่นได้ทั้งหุ้นใหญ่ หุ้นกลาง หุ้นเล็กด้วย สมบูรณ์มาก ยังไม่เคยเจอรอบแบบนี้
แล้วสภาพแบบนี้คือสูงสุดของดอยเลย ในรอบ 16 ปีด้วย นิวไฮใหม่อีกแล้ว ด้วยสภาพแบบนี้เราไม่เคยเห็นมาก่อน จะยิ่งสูงยิ่งหนาวหรือปล่าว...../ถ้าในมุมมองของพี่ ณ เวลานี้ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ถ้าลงมาสามารถซื้อได้ การลงมา...มันจะต้องอาศัยข่าว ลงมาเป็นตัวๆ เดือนธ.ค. ไม่น่าจะมีข่าวร้าย เช่น อย่างเมื่อเช้านี้ advance เมื่อเช้านี้คลุมเคลือ ยังไม่มีข่าว(ศาลปรกครองไม่รับคำร้อง) ก็ถอยลงมาให้เก็บ ไม่ต้องกลัว
หุ้นเล็กช่วงนี้ลดบทบาทลง ถ้าจะเล่นให้เล่นเฉพาะหุ้นกลุ่มc
กลุ่มสือสารเล่น advance dtac intuch true loxey ต่ำกว่านี้ลำบาก ถ้ามีกลุ่มสื่อสารในช่วงนี้อยู่ให้ถือเลย ถ้าย่อตัวลงมาเป็นจังหวะซื้อด้วยซ้ำ
หุ้นใหญ่เล่น pttgc ,kbank
pttgc บอก ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนว่าให้ทะลุ 65 ตอนนี้ยังไม่ข้าม รอทะลุ66 ลุ้นไปขาย 70 ใครที่เคยติดอยู่สูงๆ ซัก 70 คราวนี้เป็นจังหวะยิ้มได้ ใครที่ยังไม่มี ให้หาจังหวะถอยให้ได้ค่อยเข้าไป อย่าไล่ราคา
kbank รอข้าม188 ได้ ให้บวกไปอีก 7-8 บาท
รอบนี้ที่ให้เล่นเป็นจังหวะของการดีดขึ้นมาทั้งสิ้น เราจะไม่ใช้วิธีถอยรับ สำหรับกลยุทธ์ในปีหน้า จะมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย เนื่องจากมันเป็นขาขึ้นที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะฉะนั้น เงินเข้าตัวไหนเราก็เล่นตัวนั้นได้เลย
คำถามsms ที่น่าสนใจ
1. ระหว่าง vgi ก่ะ cpn ตัวไหนน่าสนใจกว่ากัน...
cpn น่าสนใจกว่าครับ วิธีเลือกดู คือ ถ้าเป็นvgi ขึ้นมาไม่ได้พัก มันเสี่ยงไปหน่อย แต่ cpn มีขึ้นมาแล้วถอยแบบเป็นขาขึ้นไม่หลุดเส้น20 วัน คือเล่นรอบนี้มีการพัก 2 วัน 3 วัน 5 วัน ก็ดูจังหวะละกัน อย่างงี๊เล่นได้
ถอยมี 2 แบบครับ คือถอยขาขึ้นกับถอยขาลง การเล่นๆตัวถอยดีกว่า มันถอยแต่ไม่ได้ถอยเยอะ ถอยก็เก็บไม่ขาดทุนครับ แต่ถ้าถอยขาลงหลุดเส้น ห้ามเล่น
2.เล็ง mcot ไว้ เป็นไงบ้าง..../รอพักดีกว่า กราฟมันเกิด 3 แท่งเขียวแบบนี้ พอแท่ง 4 ,5 จะพักละ และตกลงมาครับ
3.ติด ivl ที่26 บาท ทำไงดี...../ ยังไปคิดถึงมันหรือครับ ....เอาเป็นว่าขณะนี้ส่งสัญญาณไม่น่าเกลียด ยืนเส้น 20 วันได้แล้ว เป้าต่อไป 26.5 เพราะฉะนั้นคนติด 26 บาท รอขายแถวนั้นก็ได้ สมมุติว่าขึ้นไปแล้วข้ามไปได้ มีความแรงของราคา ก็อาจจะเลยเข้าไปขายแถว 27-28 ก็ได้ ในทางตรงข้ามสมมุติว่ามันยืนเหนือ 25 ไม่ได้ มันจะถอยลงมาแค่24 ไม่ลึกครับ แล้วจะค่อยๆเคลื่อนตัวไปต่อ ฉะนั้น มี 26 ถือละกัน ไม่น่ากลัวครับ
4.ai มี6.09 อยากขาย 7.3 มีหวังไม๊..../ ตัวนี้มีปัญหาครับ เป็นหุ้นที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร ถือว่าเป็นหุ้นเกรดc หรือ d ครับ โครงสร้างกราฟเป็นไซด์เวย์ออกข้างซะเป็นส่วนใหญ่ จะไปขาย 7.3 ก็เป็นไปได้ครับ แต่ไม่ง่าย มันเคลื่อนตัวช้าๆ ยกเว้น วันใดวันหนึ่งมีแรงเก็งกำไรเข้ามา พามันขึ้นไปปิดสูงกว่าราคาที่เปิด เป็นแท่งเขียว เพราะฉะนั้นผมว่าลุ้นอีกซักวันสองวันจึงค่อยขาย 7.3-7.5 จะขายยากนิดนึง เพราะฉะนั้นอาจต้องดูโวลุ่มด้วย ว่ามีแรงดันให้กราฟขึ้นไปรึเปล่า ดูตามกราฟหวังแค่ไฮจากซ้ายมือ โอกาสที่จะแทงแท่งเขียวขึ้นไปได้ ต้องรอการประกาศงบไตรมาส 4 ดูตัวเลขทางการเงินของเค๊าด้วย
5.มี intuch 62 จะทำไงดี จะซื้อต่อ หรือรอขาย.../ก็กำไรแล้วนี่ครับ ตอนนี้แนวต้านด้านซ้ายคือ 66 เมื่อเช้าทดสอบไม่ผ่านครับ ดูแล้วเค๊าไม่น่าผ่าน 66 แนะขาย ที่66
6.tcap น่ารับไม๊ .../ต้าน37 ต้องยืนให้ได้ ถอยยังไงก็ไม่น่าหลุด35

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 22:32:42

ความคิดเห็นที่ 47

HotNews:3เทพหุ้น แจกทีเด็ดปีมะเส็ง ADVANC- DTAC- INTUCH- SYNTEC - SUSCO -TICON- CK- ROJNA
- HMPRO- MCS -PTTGC- EGCO- GLOW- RATCH -NUSA- ITD- DEMCO- LOXLEY- ROJNA- RS

3 เทพหุ้น ส่องกล้องหุ้นปีมะเส็ง พร้อมแจกทีเด็ด แทงแล้ว เฮง ADVANC- DTAC- INTUCH- SYNTEC - SUSCO -TICON- CK- ROJNA- HMPRO- MCS -PTTGC- EGCO- GLOW- RATCH -NUSA- ITD- DEMCO- LOXLEY- ROJNA- RS ปักป้าย 1,420 จุด ฟากบิ๊ก GUNKUL ปรับเพิ่มกำไรปี 55 ขึ้น 19% สะท้อนกำไร Q3/55 ดีกว่าคาด ปักธงรายได้ปี 56 โตไม่ต่ำกว่า 10% มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 4,300 ล้านบาท "วิษณุ เทพเจริญ" นายใหญ่NUSA คาดปี56 กำไรเติบโตก้าวกระโดด หลังทยอยรับรู้รายได้โครงการในมือ เผย 12ธ.ค.เตรียมอัดแคมเปญพิเศษ โดนใจให้ลูกบ้าน ที่เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมหวังก่อสร้างโครงการพัทยา ปี 56 รับรู้ ปลายปี 57 /สวนน้ำรับรู้ปี 57-58 ส่วนโครงการ MY Ozoneคาดรับรู้ปี 56 ปีหน้าเปิดโครงการใหม่ 1-2 โครงการ จากปีนี้เปิดไป2-3โครงการ หวังเปิด AEC หนุน อสังหาฯ ไทยได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 22:56:31

ความคิดเห็นที่ 48

ม้าเฉียว ดูหุ้น
ผู้ใดบูชาและอธิษฐานถึง เซียนเชาก๊กกู๋ จะไม่มี ภูตผี ปีศาจหรือภัยพาลมา กล้ำกลาย................

....................................................................
หุ้นน่าสนใจของผม GUNKUL KGI BAY IFS QH ROJNA SVI TPP UTP

เอากราฟจับดูถ้าสนใจนะครับ

Napatsamon Nenruksa
หุ้นที่คาดจะเข้า SET50/100 Index มีผลต้น มค.13 ( ตลาดจะประกาศกลางเดือน ธ.ค 12 )

SET50 >> KK JAS TTW
SET100 >> AAV, THRE, SSI, SPCG, WORK, ROJNA

โดยหุ้นที่ถูกถอดออก
SET50 >> DCC TPIPL HEMRAJ
SET100 >> HANA, KGI, ASP,MCOT, KBS, LHBANK

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 15:49:13

ความคิดเห็นที่ 49

ชัย เทพหุ้นวีไอ
วันพฤหัสเช้า 6 ธค. เก็บหุ้น AFC หรือ เอเซียไฟเบอร์ ด่วนที่สุด

AFC หรือ เอเซียไฟเบอร์ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเม็ดไนล่อน และ เส้นใยไนล่อน ที่ใช้ในการผลิตผ้าคลุมเบาะรถยนต์และถุงลมนิรภัยรายใหญ่ที่สุดในโลก

กลุ่มลูกค้า ผู้ผลิตผ้าคลุมเบาะรถยนต์และถุงลมนิรภัย ได้แก่ บริษัท สหเซเรน , โตโยต้า , ฮอนด้า

ผลประกอบการไตรมาส 2 จะกำไรพุ่งกระฉูด จากคำสั่งซื้อผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก จากกำลังการผลิตพุ่งทะลุ 2.5 ล้านคัน และจะเพิ่มเป็น 4 ล้านคัน ในปี2556 จนเต็มกำลังการผลิต

ล่าสุดบริษัทจะผลิตผ้าคลุมเบาะรถยนต์และถุงลมนิรภัย ให้ บริษัท โตโยต้า ออเดอร์ยาว 3 ปีเต็ม ดันผลประกอบการกำไรพุ่งทะลุ 300 ล้านบาท

บริษัทมีมูลค่าบัญชีสูงถึงหุ้นละ 22 บาท แต่มีมูลค่ายุติธรรมจากการปรับเพิ่มราคาที่ดินโรงงานบางปู และ อาคารกับเครื่องจัีกรที่ตัดค่าเสื่อมหมดแล้ว ทำให้มีมูลค่าบัญชีที่แท้จริงสูงถึงหุ้นละ 72 บาท

ราคาหุ้น AFC ปัจจุบัน ยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน หากเทียบกับค่าพีอีในหมวดยานยนต์ จึงแนะนำให้้เ็ก็บหุ้น AFC เต็มพอร์ท มองเป้าหมายที่ราคาหุ้นละ 75 บาท
ถูกใจ · · แชร์ · 27 นาทีที่แล้ว ·
2 คน ถูกใจสิ่งนี้
ดูอีก 6 ความคิดเห็นทั้งหมด

ชัย เทพหุ้นวีไอ AFC ตอนนี้เล่นข่าว ผลิตเบาะรถยนต์ให้โตโยต้า เต็มกำลังการผลิต
23 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Aty Atom โห คุณชัย เชียร์ ซะน่ากลัวเลย ซื้อด่วนเลยเหรอคะ ไม่ทันแล้วอ่า บ่อนปิดแล้วคะ
22 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Waemin Waemin Chakmak ขอบคุณครับหายไปนานนึกว่าไหนแล้ว
21 นาทีที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ

ชัย เทพหุ้นวีไอ ดูตัวอย่้าง CPH แนะนำ 7.2 ทุกคนหัวเราะอิอิ วันนี้เป็นไง:-)ซิลลิ่งอยู่บริษัทเดียว TPCORP บอกเมื่อวาน 9.5 วันนี้ 11.8
19 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 17:01:00

ความคิดเห็นที่ 50

ชยุต จึงภักดี
Fibonacci ยัง work หลายตัวตามกฏเลย it ไม่ ยืน 5.8 ก็จะเคลื่อนไหวออกข้าง ส่วน asian ยืน 3.72 เดินหน้าได้ pttgc ทดสอบ 65.75 ผ่านแล้ว ไป ต่อ 70

Uma Umaa
color แรงมาเชียว
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 10 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Muang Patani, Pattani
Jannypen Penkul และ อีก 4 คน ถูกใจสิ่งนี้

ชยุต จึงภักดี ระยะยาวน่าจะดี
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ · 1

ชยุต จึงภักดี ทุนต่ำกว่า 3.00 น่าถือยาว
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ · 1

Kornipar Hongthong หุ้นเพื่มทุนเปิดขายเมื่อไรคะ
10 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Thiti Am ใกล้ XR
10 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

ชยุต จึงภักดี Buy signal เกิดขึ้นเมื่อ 2.60 กดไม่ลง และกลับมาเหนือ 2.64฿ ได้
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ · 2

ชยุต จึงภักดี ไม่ควรไล่ราคา รอหลัง xr
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ · 2

ชยุต จึงภักดี ตรวจสอบพวกเสี่ย ทั้งหลายว่าเข้ามาเก็บของถูก หรือเปล่า
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ

NuJeab Narak ตรวจงัยอ่ะพี่ชยุต
10 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Ekit Thongnuadee ผมลืมไปเลย ว่าจะเก็บกลับเข้าพอร์ต สงสัยตกรถแล้ว
9 ชั่วโมงที่แล้ว · ที่ถูกแก้ไข · ถูกใจ

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 21:21:29

ความคิดเห็นที่ 51

เอามาส่องกราฟกันวันพ่อดีกว่า.............

ภาพบนไทม์ไลน์
หุ้นที่เก็งกันว่าจะเข้า
SET50 ได้แก่
JAS KK TTW
SET100 ได้แก่
AAV ROJNA SPCG SSI THRE WORK

หุ้นที่เก็งว่าจะโดนถอดออก
SET50
DCC HEMRAJ TPIPL
SET100
ASP HANA KBS KGI LHBANK MCOT

การที่เรารู้เรื่องพวกนี้จะมีผลอย่างไร
เนื่องจากว่าพวกกองทุน
จะมีนโยบายการลงทุนที่
ค่อนข้างเน้นความปลอดภัย
ซึ่งส่วนใหญ่จะมีกฎ
ให้ผู้บริหารกองทุน
ลงทุนในสินทรัพย์ใน SET50 หรือ SET100 เท่านั้น
ห้ามต่ำกว่านี้
การที่หุ้นตัวไหนได้เข้า SET50 หรือ SET100
จะทำให้วอลลุ่มของมัน "โดยเฉลี่ย"
เพิ่มสูงขึ้นจากการเข้ามายื่นมือสอดของกองทุน
ตรงกันข้ามหุ้นตัวไหนที่โดนถอด
กองทุนก็จำต้องเอาออกจากพอร์ทของกองทุน
ส่วนผลกระทบต่อราคาจะเป็นอย่างไร
ผมเชื่อว่าทุกท่านก็คงจะพอมองออกนะครับ ^^
โดย: เฒ่าเต่า เม่าขั้นเทพ
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 16 ชั่วโมงที่แล้ว
เฒ่าเต่า เม่าขั้นเทพ และ อีก 7 คน ถูกใจสิ่งนี้
ดูอีก 18 ความคิดเห็นทั้งหมด

เฒ่าเต่า เม่าขั้นเทพ งั้นก็แก้ไม่ได้ละสิ
8 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ

Papaya Salad คลิกตรงลูกศร แล้วเปลี่ยนจาก friend เป็น public
8 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 17:24:59

ความคิดเห็นที่ 52

บทวิเคราะห์กลุ่มปิโตรเคมีจากหลักเอครับ ฝากให้แฟนๆ กลุ่มนี้และผู้สนใจ สรุปความได้ง่ายๆ ว่า กุ้กไก่ ดูดี ส่วน ไอวี่ต้องทนทุกข์ต่อไป http://inv5.asiaplus.co.th/web_research/doc/2012/12/Petro_551204.pdf
http://inv5.asiaplus.co.th/web_research/doc/2012/12/Petro_551204.pdf
inv5.asiaplus.co.th
แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 17:28:05

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 17:26:51

ความคิดเห็นที่ 53

ม้าเฉียว ดูหุ้น
หุ้นที่น่าสนใจ KSL ITD DCON CNT KIAT EASTW CSL ASIMAR BOL

ภาพบนไทม์ไลน์
หุ้นที่เก็งกันว่าจะเข้า
SET50 ได้แก่
JAS KK TTW
SET100 ได้แก่
AAV ROJNA SPCG SSI THRE WORK

หุ้นที่เก็งว่าจะโดนถอดออก
SET50
DCC HEMRAJ TPIPL
SET100
ASP HANA KBS KGI LHBANK MCOT

การที่เรารู้เรื่องพวกนี้จะมีผลอย่างไร
เนื่องจากว่าพวกกองทุน
จะมีนโยบายการลงทุนที่
ค่อนข้างเน้นความปลอดภัย
ซึ่งส่วนใหญ่จะมีกฎ
ให้ผู้บริหารกองทุน
ลงทุนในสินทรัพย์ใน SET50 หรือ SET100 เท่านั้น
ห้ามต่ำกว่านี้
การที่หุ้นตัวไหนได้เข้า SET50 หรือ SET100
จะทำให้วอลลุ่มของมัน "โดยเฉลี่ย"
เพิ่มสูงขึ้นจากการเข้ามายื่นมือสอดของกองทุน
ตรงกันข้ามหุ้นตัวไหนที่โดนถอด
กองทุนก็จำต้องเอาออกจากพอร์ทของกองทุน
ส่วนผลกระทบต่อราคาจะเป็นอย่างไร
ผมเชื่อว่าทุกท่านก็คงจะพอมองออกนะครับ ^^
โดย: เฒ่าเต่า เม่าขั้นเทพ

Dang Lee
ภาค ๒. สอนลูกลงทุน…..

(เชิญชวนเพื่อนของเพื่อนให้เข้ามาเป็นสมาชิกของห้อง ชิว...ชิว....NewRayong กันมากๆครับ....ร่วมเรียนรู้การลงทุนแบบวิธีธรรมชาติไปกับลูกของผมครับ)

๑๐. ต้องไม่ขาดทุน( ต้องรักษาเงินทุนเอาไว้)

…..ผมได้ยินแม่พูดเวลาเจรจาขายของกับลูกค้าเป็นประจำ...คำๆหนึ่งที่แม่พูดกับลูกค้าเสมอ...เวลาลูกค้าต่อรองราคาสินค้ากับแม่.... “ราคาที่ต่อขายไม่ได้มันขาดทุน”....ผมรู้จักคำว่าขาดทุนจากปากของแม่มากกว่าคำอื่นๆเวลาแม่ขายของ....แต่แม่ก็สามารถปิดการขายได้ทุกครั้งกับคำพูดที่ว่า “เอา ๆ ถัวๆกันไป ขาประจำเห็นซื้อหลายอย่าง แล้วอย่าไปบอกใครล่ะ ขายราคานี้ขาดทุนแย่”....ลูกค้ามักจะพอใจกับสินค้าที่ซื้อและสามารถต่อราคาได้ตามที่ตัวเองต้องการ เทคนิคง่ายๆที่แม่ใช้ทำให้แม่มีขาประจำเพิ่มมากขึ้นทุกวัน....ผมถามแม่ว่า แม่ขายของขาดทุนจริงหรือ....แม่หัวเราะลูบหัวผม แม่ยิ้มให้ผมเพราะท่านคงชื่นใจที่ลูกสนใจถามเรื่องการค้า.....แม่บอกผมว่า....การลงทุนทำการค้า เราต้องหวังกำไร...ไม่มีใครที่เขาลงทุนทำการค้าแล้วต้องการขาดทุน.....แต่สินค้าที่เราขายจะกำไรมากกำไรน้อย ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับเราที่คิดจะตั้งราคาขายเท่าไหร่ก็ได้....ร้านค้าที่เป็นคู่แข็งของเราเต็มตลาด....การเสนอขายให้ลูกค้าเราจำเป็นต้องดูตลาดเป็นหลัก....สินค้าบางอย่างถ้าเราสามารถหามาขายแล้วร้านอื่นไม่มี....และเป็นที่ต้องการของลูกค้า..เราก็ตั้งราคาขายสูงได้ ถ้าสินค้าที่เราขายทุกร้านมีเหมือนๆกัน ราคาขายจะแข่งขันกัน...กำไรที่ได้มันจะน้อย เสื้อผ้าที่เราขายเป็นสินค้าตามสมัย....มันล้าสมัย ตกรุ่นเร็ว เราจึงต้องรู้จักปล่อยของออกให้เร็วๆ ถ้าขายออกไม่ทันมันจะตกค้าง เป็นต้นทุนจมที่อยู่ในร้าน อย่างนี้ยิ่งนานวันเรายิ่งต้องเอาเงินสดไปจมทุนไว้ที่สินค้าตกค้างเหล่านี้...แม่ต้องรีบขายออกให้เร็ว...ถึงจะขาดทุนก็ต้องยอม...เพราะมันไม่มีโอกาสจะกลับมาทำกำไรให้เราได้ และถ้าเราไม่รีบขายตัดขาดทุนออกไป..ระยะยาวเราจะขาดเงินทุนหมุนเวียน...แม่ลูบหัวผม แล้วบอกผมว่า....ค่อยๆจำเดี๋ยวก็เก่งเอง

ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 5 ชั่วโมงที่แล้ว
ตัวเลือก

Thanawan Panthachot
มาแล้วคะ RSI ฉบับเต็ม จาก คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ บล.เอเชียพลัส :)

รู้ทันหุ้นบ่าย 5-12-55
www.youtube.com
ไต่บันไดเซียน ตอน การใช้ RSI กับคุณประกิต สิริวัฒนเกตุ นักวิเคราะห์ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเชียพลัส
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · แชร์ · 5 ชั่วโมงที่แล้ว
ม้าเฉียว ดูหุ้น และ อีก 2 คน ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก

คิม พ่อหมูน้อย
หลายคนสงสัยว่าจะออมเงินอย่างไรให้ได้เป็นกอบเป็นกำและสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ แม้ว่าตนเองจะมีรายได้ไม่เท่าไรก็อยากมีฐานะที่มั่นคง เรื่องนี้ผมผ่านมาแล้วและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับคำว่า "ออมเงิน" ตามจริงมันก็ไม่ได้ยากอะไรนักหรอก เพียงแต่ขอให้เราสนุกกับการเห็นเงินที่เราเหลือใช้มันงอกอย่างต่อเนื่อง เดิมทีบ้านผมก็แค่ค้าไก่แช่แข็ง กำไรก็ไม่เท่าไรหรอก สามารถออมได้เดือนล่ะหมื่นบ้างหมื่นกว่าบ้าง ออมครบสี่เดือนก็จะมีเงินหลายหมื่น ซึ่งเพียงพอต่อการเล่นหุ้น ยิ่งได้กำไรจากร้านผลไม้เสริม เดือนหนึ่งก็สามารถออมได้สองสามหมื่นบาทต่อเดือน เพราะรายจ่ายเราเท่าเดิม รายได้เราเพิ่มขึ้น เงินออมก็เร็วขึ้น และเมื่อสนุกกับการออมเงิน เราก็สามารถสนุกกับการขยายพอร์ท เพราะการกำไรหุ้นนั้น มันไม่ได้จำกัดว่าคุณจะสามารถกำไรกี่บาท ๆ ต่อครั้ง แต่มันคุยว่าเราจะสามารถกำไรกี่เปอร์เซนต์ต่อรอบต่างหาก หลายธุรกิจไม่ว่าจะเพิ่มเ...
ดูเพิ่มเติม
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 5 ชั่วโมงที่แล้ว
ถูกใจ Amornthip Suradechawong

ตัวเลือก

ม้าเฉียว ดูหุ้น

ภาพบนไทม์ไลน์
ตัวแปรต่างประเทศ และแนวโน้ม SET Index วันนี้ (06.12.55)
โดย: Trinity Securities
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 6 ชั่วโมงที่แล้ว
ตัวเลือก

ม้าเฉียว ดูหุ้น

ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 7 ชั่วโมงที่แล้ว
ขุนศึก ตลาดหุ้น และ อีก 2 คน ถูกใจสิ่งนี้

ม้าเฉียว ดูหุ้น 3 หุ้นเด่น เทคนิคสวย บล.เคจีไอ

วันพฤหัสบดีที่ 06 ธันวาคม 2555 เวลา 09:26:07 น.
ผู้เข้าชม : 235 คน
...ดูเพิ่มเติม
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น 3 หุ้นเด่นเช้านี้ บล.ธนชาต

วันพฤหัสบดีที่ 06 ธันวาคม 2555 เวลา 09:07:27 น.
ผู้เข้าชม : 1025 คน
...ดูเพิ่มเติม
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น KCE Follow Up

แนวรับ แนวต้าน

9.50 บาท 10.20 บาท...ดูเพิ่มเติม
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น หุ้นเทคนิคเด่นในดวงใจ : บล.เคทีบี (ประเทศไทย)

วันพฤหัสบดีที่ 06 ธันวาคม 2555 เวลา 09:03:01 น.
ผู้เข้าชม : 676 คน
...ดูเพิ่มเติม
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น คนเชียร์เยอะเกิน
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

ตัวเลือก

ม้าเฉียว ดูหุ้น
หุ้นที่มีแนวโน้มทำ WAVE 3 อันนี้ผมได้มาจาก พีท นะครับ

เอากราฟจับดูด้วย

ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 11 ชั่วโมงที่แล้ว
Benjaporn Wongsoung, เฒ่าเต่า เม่าขั้นเทพ และ คนอื่นอีก 15 คน ถูกใจสิ่งนี้

Ning Noy Noy ทั้งหมด หรือเฉพาะสีเขียวคะ ขอบคุณคะ
10 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Dan Morin อันบนกับอันล่างต่างกันยังไงคับ
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ตัวเลือก

Son Sonthaya
PANTIP.COM : I13027858 สรุปข่าวหนังสือพิมพ์เช้านี้ [หุ้น] http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I13027858/I13027858.html
PANTIP.COM : I13027858 สรุปข่าวหนังสือพิมพ์เช้านี้ [หุ้น]
www.pantip.com
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · แชร์ · 8 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bangkok
ถูกใจ Amornthip Suradechawong

ตัวเลือก

ม้าเฉียว ดูหุ้น
http://www.elliottwave.com/affiliates/featured-commentary/lemons-into-lemonade.aspx?code=47613

ผมชอบประโยคนี้มากๆ ...........

Elliott wave analysis is not a crystal ball. (No market-forecasting method is.)

But here's what is remarkable: Even when your Elliott wave forecast doesn't pan out, you have built-in safeguards to alert you -- and help you manage risk.

USD/JPY: Lemons into Lemonade | Elliott Wave International
www.elliottwave.com
On these pages, you've seen examples of how Elliott wave analysis can help you anticipate forex market moves. You've also heard us say that wave analysis is not a crystal ball. But here's what is remarkable: Even when your Elliott wave forecast doesn't pan out, you have built-in safeguards to alert ...
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · แชร์ · 8 ชั่วโมงที่แล้ว

ม้าเฉียว ดูหุ้น วิชาตาบอดคลำช้างมันไม่ใช่ทุกสิ่งหรอกครับ แต่รู้ wave มันก็มีประโยชน์แน่นอนอยู่แล้ว แต่อย่างที่ว่ามันบ่ใช่ลูกแก้งส่องอนาคต
8 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ตัวเลือก

ม้าเฉียว ดูหุ้น
KSL น้ำตาลหวานเจี๊ยบ............

ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · วัน วันจันทร์ เวลา 0:38 น.
Nuntapuck Suksanti และ อีก 13 คน ถูกใจสิ่งนี้
ดูอีก 11 ความคิดเห็นทั้งหมด

ม้าเฉียว ดูหุ้น KSL ดูจากวันนี้ครึ่งเช้า ก็คงแกว่งแตะๆ 13.30 นี่อีกพักนึง รอ MACD>0 ถึงตอนนั้นก็มองไกลได้ ใครสนใจก็ตามดูครับ เข้าซื้อช่วง MACD>0 ก็แล้วกัน ส่วนใครมั่นใจว่าไปแน่ๆ ก็รับแถวๆ 13.00 ลงไป แบบไม้ย่อยๆ
วัน วันจันทร์ เวลา 12:37 น. · ถูกใจ · 1

ม้าเฉียว ดูหุ้น กราฟเหมือนกัน แต่คนอ่านอาจมองต่างกันก็เป็นได้..............
วัน วันจันทร์ เวลา 12:38 น. · ที่ถูกแก้ไข · ถูกใจ · 1

ม้าเฉียว ดูหุ้น ชักจะเริ่มหวาน ยืน 13.30 ได้มั่นคงก็หวานมันส์
10 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

ตัวเลือก

Thanawan Panthachot

ภาพบนไทม์ไลน์
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกหลังจีนส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นศก.

ตลาดหุ้น...
ดูเพิ่มเติม
โดย: รู้ทันหุ้นบ่าย
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 10 ชั่วโมงที่แล้ว
ม้าเฉียว ดูหุ้น, Benjaporn Wongsoung และ Amornthip Suradechawong ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก

Thanawan Panthachot

ภาพบนไทม์ไลน์
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ข้อมูลศก.สหรัฐสดใส หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 82.71 จุด

ดัชนีด...
ดูเพิ่มเติม
โดย: รู้ทันหุ้นบ่าย
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 10 ชั่วโมงที่แล้ว
ม้าเฉียว ดูหุ้น, Benjaporn Wongsoung และ Amornthip Suradechawong ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก

ม้าเฉียว ดูหุ้น
ฮา.......ขนาด

Trading what you think
www.youtube.com
Two Traders, one trading what he sees, one what she thinks.
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · แชร์ · 13 ชั่วโมงที่แล้ว
ถูกใจ Amornthip Suradechawong

ตัวเลือก
โพสต์ก่อนหน้า

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:01:27

ความคิดเห็นที่ 54

ม้าเฉียว ดูหุ้น 3 หุ้นเด่น เทคนิคสวย บล.เคจีไอ

วันพฤหัสบดีที่ 06 ธันวาคม 2555 เวลา 09:26:07 น.
ผู้เข้าชม : 235 คน

KCE (9.85 บาท)

สัญญาณ: ซื้อ

เครื่องชี้: ดี

แนะนำ: เก็งกำไรเร็ว

ความเห็น: แรงเหวี่ยง 10.20; ให้ขายตัดขาดทุนหากราคาต่ำกว่า 9.75
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น 3 หุ้นเด่นเช้านี้ บล.ธนชาต

วันพฤหัสบดีที่ 06 ธันวาคม 2555 เวลา 09:07:27 น.
ผู้เข้าชม : 1025 คน

KCE – แนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง

* ทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ แนวโน้มย่อยมีทิศทางขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่พักตัว 2 วัน เมื่อวันก่อนราคาบวกพร้อมกับปิดสูงกว่ายอดเดิม อีกทั้งเป็นการขึ้นทะลุกรอบแนวโน้มขาลง 9.70 บาท เป็นจังหวะซื้อตาม

* เป้าหมายทดสอบ 10.70 บาท ยอดถัดไปที่เป็นเป้าหมายคือ 10.20 และ 10.70 บาท โดยที่ระดับ 10.70 บาท เป็นยอดสูงสุดเดิมที่ทำไว้ช่วง ต.ค. ในขณะที่หุ้น KCE มีแนวโน้มหลักและแนวโน้มรองขาขึ้นและถ้าทะลุผ่านแนวต้านสำคัญนี้ได้ จะเป็นการทำยอดสูงสุดใหม่ในช่วง 3 ปี มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 13.00 บาท

แนวรับ 9.70 บาท แนวต้าน 10.20 บาท
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น KCE Follow Up

แนวรับ แนวต้าน

9.50 บาท 10.20 บาท

9.40 บาท 10.60 บาท

ตัดขาดทุน 9.30 บาท

มีสัญญาณซื้อ

ระดับราคาได้มีสัญญาณซื้อเกิดขึ้นเมื่อสามารถ Break แนวต้านที่ 9.80 บาทขึ้นมาได้โดยคาดว่าจะมีแนวต้านเป้าหมายที่ 11.20 บาทเป็นอย่างน้อย

กลยุทธ์ Follow Buy เมื่อผ่าน 9.80 บาทได้
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น หุ้นเทคนิคเด่นในดวงใจ : บล.เคทีบี (ประเทศไทย)

วันพฤหัสบดีที่ 06 ธันวาคม 2555 เวลา 09:03:01 น.
ผู้เข้าชม : 676 คน

KCE ปิด 9.85 +0.20 +2.07%

บนโครงสร้างราคา KCE ที่ระดับราคายืนเหนือ Moving average ทำให้คาดว่า KCE น่าจะยังปรับตัวขึ้นต่อได้ตามกรอบการเคลื่อนที่ อีกทั้งกราฟแท่งเทียนเป็นสัญญาณบวก

คำแนะนำ : ซื้อเก็งกำไร

แนวรับ 9.75-9.80 บาท

แนวต้าน 10.20-10.50// 11.00 บาท
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น คนเชียร์เยอะเกิน
7 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:04:54

ความคิดเห็นที่ 55

Love Papang
CK ตุนงานในมือ 1.5 แสนล. ลุยระบบงานถนนลาว 660 ล.

CK ตุนงานในมือ 1.5 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดปีนี้รับรู้รายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท และปีหน้ามากกว่า 2 หมื่นล้านบาท และเตรียมรับงานใหม่ 3-4 หมื่นล้านบาทในปีหน้า ล่าสุดคว้างานใหม่สร้างถนนในลาว 660 ล้านบาท

Love Papang
DEMCO รายได้ทะลุ 6.2 พันล. จ่อประมูลงานใหม่ตุนพอร์ต

DEMCO โชว์โครงการพลังงานลม ดันรายได้ทั้งปี 2555 โตไม่ต่ำกว่า 6,200 ล้านบาท เกินกว่าเป้าที่ 6,000 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์" เผยโค้งสุดท้ายของปีนี้ผลงานบรรเจิด หลังคว้างานสถานีไฟฟ้าเอกชนเพิ่มอีก 2 สถานี และงานปรับปรุงระบบไฟฟ้าอีก 2 สถานี ทำยอดงานในมือล่าสุดเป็น 5,027 ล้านบาท

Love Papang
‎'KBS' ปีหน้าผลงานฟื้น ช้อนราคาถูกสุดในภูมิภาค

KBS ราคาน้ำตาลสัญญาณฟื้นตัว ปิดตลาด 19.23 เซ็นต์ต่อปอนด์ รับอานิสงส์จีนสั่งสร้างโรงงานเก็บน้ำตาลขนาด 1.5 แสนเมตริกตัน หวังลดปัญหาน้ำตาลขาดแคลน ด้านกูรูประเมินปีหน้าผลงานฟื้น คาดปี 2556 กำไร 691 ล้านบาท เริ่มฤดูเก็บเกี่ยว และส่งออก แนะ "เก็งกำไร" ราคาหุ้นซื้อขายระดับ P/E ต่ำสุดในกลุ่มน้ำตาลของภูมิภาคเพียง 7 เท่า เป้าราคา 11 บาท ราคาน้ำตาล NYMEX ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยราคาน้ำตาลตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนธันวาคม 2555 ปิดที่ 19.23 เซนต์ต่อปอนด์ เพิ่มขึ้น 0.42% จากวันก่อนหน้าที่ 19.15 เซ็นต์ต่อปอนด์

Love Papang
‎'IFS' ปั๊มฐาน 2 พันราย ดันรายได้ทะลุเป้า 20%

IFS เดินเครื่องบุกตลาดเต็มสูบ โกยฐานลูกค้าแตะ 2 พันราย หนุนปี 2555 รายได้ทะลุเป้า 20% ฟากกูรูเลือก IFS ขึ้นแท่นหุ้นเด่นปั๊มกำไรปี 2555 พุ่ง 70% จับยามสามตาแจกปันผล 0.21 บาทต่อหุ้น ชูยิลด์ 8.3% แนะ "ซื้อ" เป้า 3.53 บาท

Love Papang
‎'SOLAR' กำไรปี 55 ทุบสถิติ ปิดดีลพันธมิตร-ต้าน 3.60 บ.

SOLAR ชูคองบ Q4/2555 โตอลังการหลังรับรู้รายได้สูงกว่า 9 เดือนรวมกัน หัวเรือใหญ่ฟันธงปี 2555 ปั๊มกำไรสูงสุดตั้งแต่ขึ้นเป็น CEO ลุ้นแจกปันผล คว้างานยักษ์แถมปิดดีลพันธมิตรต้นปีหน้า กูรูเชื่อกำไรทะลุ 100 ล้านบาท ปี 2556 เซ็นงานเข้าพอร์ต 3 พันล้านบาท วิ่งชนแนวต้าน 3.60 บาท

Love Papang
‎'CM' ผนึกพันธมิตรบุก "ตปท." ปันผล 0.40 บ.-เป้าใหม่ 6.70 บาท

CM โชว์กึ๋นทุ่ม 1,000 ล้านบาท ร่วมทุนพันธมิตรบุกต่างประเทศ ผุดโรงงานใหม่หวังต่อยอดธุรกิจโตก้าวกระโดด มั่นใจปี 2556 คว้ารายได้สู่ระดับ 2 พันล้านบาท ส่วนงบ Q4/2555 สุดเริ่ด ออเดอร์ ล้นฟันรายได้เข้าเป้า 20% ยันปันผลสูงกว่านโยบาย กูรูคาดคว้ากำไรทั้งปี 2555 สวยหรู 250 ล้านบาท ปันผล 0.40 บาท เป้าใหม่ 6.70 บาท

Love Papang
ราคาอะโรเมติกส์พุ่งพรวด 'TOP-PTTGC' น่าสอย

กลุ่มปิโตรเคมีสัญญาณฟื้น หลังราคาอะโรเมติกส์ยืนเหนือ 1.453 พันดอลลาร์ต่อตัน สูงสุดรอบใหม่ หลังราคาก๊าซตกต่ำ เหตุค้นพบ Shale Gas หนุนผู้ประกอบการใช้ก๊าซมากขึ้น พร้อมชู TOP-PTTGC ได้ประโยชน์ ล่าสุด TOP ทุ่มงบ 1,650 ล้านบาท ถือหุ้น ไทยออยล์เพาเวอร์ เพิ่มเป็น 74% ดันอนาคตสดใสเป้า 83.50 บาท

Love Papang
เสี่ยเจริญส่งหลงจู๊นั่งGOLD UVเปลี่ยนฐานะเป็นโฮลดิ้ง

"กลุ่มเสี่ยเจริญ" ส่งผู้บริหาร 3 คนนั่งบอร์ดแผ่นดินทองฯ หลังถือหุ้น 50.6% คาด "ปณต" ลูกชาย อรฤดี และสิทธิชัย (หลงจู๊) คุม ส่วนผู้บริหารตั้ง "ธนพล" แทนคริสโตเฟอร์ ขับเคลื่อน GOLD ปี หน้า ขณะที่ UV เปลี่ยนเป็นโฮลดิ้งคัมปะนี
แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 17:28:41

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:28:02

ความคิดเห็นที่ 56

Love Papang
‎5หุ้นเล็กวิ่งแรงเก็งกำไรตัวโก่งเข้าแคชบาลานซ์

5 หุ้นซิ่ง เตรียมเข้าแคชบาลานซ์ประเด็นหลักดูวอลุ่มเทรดวันนี้ หากเกินเกณฑ์ได้สิทธิทันที อาทิ RPC, TCMC และ UWC ส่วน LIVE ไม่ต้องห่วงเพราะติดอยู่แล้ว ไม่มีโบรกฯไหนกล้าปล่อยให้ซื้อบัญชีปกติ ต้องใส่เงินก่อน ส่วน EE พีอี 834 เท่า สูงสุดในตลาดฯ เหตุราคาหุ้นวิ่งเกินงาม กำไรบางเฉียบ

แมว เหมียว
มั่วแต่จ้อง slc tvi แอบมาตอนไหนเนี่ยย 555

Fooney Rainy Naa
UAC ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้หมดทั้งจำนวน 40 ล้านหุ้น Par 0.50บาทต่อหุ้น ราคาเสนอขาย 3บาทต่อหุ้น ได้รับเงินสุทธิ 118 ล้านบาท

Asun Tony
twp พอเราขาย มันวิ่งยาวเลย

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:37:56

ความคิดเห็นที่ 57

Stock Spiner
Update /โบรกฯ คาดหุ้นไทยพรุ่งนี้เผชิญแรงขายทำกำไร กดดันดัชนีฯขยับในกรอบแคบแดนบวก หลังปรับขึ้นติดต่อกัน 3 วันแล้ว แนะขายทำกำไร

โบรกฯ คาดหุ้นไทยพรุ่งนี้เผชิญแรงขายทำกำไร กดดันดัชนีฯขยับในกรอบแคบแดนบวก หลังปรับขึ้นติดต่อกัน 3 วันแล้ว สั่งเกาะติด Fiscal Cliff ใกล้ชิด แนะขายทำกำไร ประเมินแนวรับ 1,335 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,330 ส่วนแนวต้าน1,345 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,350 จุด

วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ ปิดที่ 1,339.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.82 จุด หรือ 0.74% มูลค่าการซื้อขาย 36,750.97 ลบ.
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่
1.SCB ปิดที่ 169.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,126.83 ลบ.
2.KBANK ปิดที่ 194.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,467.31 ลบ.
3.PTT ปิดที่ 328.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,381.06 ลบ.
4.ADVANC ปิดที่ 216.00 บาท ลดลง 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,255.25 ลบ.
5.BBL ปิดที่ 184.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,216.11 ลบ.
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 247.23 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1,318.16 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,780.39 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 2,851.32 ล้านบาท

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากประเทศจีน จากก่อนหน้านี้ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของนาย สี จิ้นผิง ได้แสดงความพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศและเตรียมออกมาตรการใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงได้รายงานภาวะเศรษฐกิจครั้งแรกว่าจีนยังคงรักษาเสถียรภาพของนโยบายเศรษฐกิจมหภาคได้
สำหรับแนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีฯ แกว่งตัวแคบในแดนบวก เนื่องจากอาจได้ รับแรงขายทำกำไร จากก่อนหน้านี้ที่ดัชนีฯ ได้ปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวันและตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการติดต่อกัน 3 วัน ในสุดสัปดาห์นี้ ส่วนปัจจัยที่ยังคงต้องติดตาม คือ การแก้ปัญหาภาวะหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) ที่ยังคงไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งหากสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงกันได้ภายในสิ้นปีนี้ สหรัฐจะเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง หรือมาตรการปรับขึ้นภาษีและการลดการใช้จ่ายวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2556
โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนให้ขายทำกำไร โดยประเมินแนวรับแรกไว้ที่ 1,335 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,330 และประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ 1,345 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,350 จุด

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:46:01

ความคิดเห็นที่ 58

ๅ

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:12:22

ความคิดเห็นที่ 59

Stock Pubpub
ต่างชาติวันนี้ยังซื้อต่อเนื่องทั้งตลาดหุ้นและ TFEX โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่มีเปอร์เซ็นต์ซื้อที่ค่อนข้างสูง ดันให้ดัชนีทำยอดสูงใหม่ต่อ แตกต่างจากที่คาดการณ์ว่าจะปรับฐาน ซึ่งก็ยอมรับในความแรงของต่างชาติ ทั้งนี้เป้าหมายที่มองจะอยู่ที่ 1347 ตามที่เคยกล่าวไว้ ส่วนแนวรับมองที่ประมาณ 1327
หุ้นกลุ่มแบงก์ที่เป็นกลุ่มหลักในวันนี้ที่ดันดัชนีขึ้นเกิดสัญญาณซื้อรอบใหม่ จึงมีแนวโน้มที่จะขึ้นไปต่อได้ ในขณะที่ตัวใหญ่ในกลุ่มอื่นๆปรับฐานกันแล้ว

กลยุทธ ระยะสั้น ขึ้นมาขาย ลง รอซื้อที่แนวรับ หรือ เล่นหุ้นตัวเล็กไปพลางๆก่อน ระยะกลาง ถือต่อและรอซื้อเพิ่มตอนอ่อนตัว
หุ้นที่น่าสนใจ SCB TOP TPIPL TRC TCJ

ฺัBy Trend Talk

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:33:06

ความคิดเห็นที่ 60

Stock Spiner
‎06/12/12 TargetPrice =
CK 12.6 | EPS = 0.29 | Recommendation = Buy
DEMCO 9.7 | EPS = 0.78 | Recommendation = Buy
KBS 12.4 | EPS = 1.55 | Recommendation = Buy
LHK 4.23 | EPS = 0.3 | Recommendation = Buy
MCOT 45.0 | EPS = 2.51 | Recommendation = Hold
PF 1.23 | EPS = 0.1 | Recommendation = Buy
PLE 2.35 | EPS = -0.26 | Recommendation = Buy
QLT 8.7 | EPS = 0.95 | Recommendation = Sell
THCOM 28.0 | EPS = 0.14 | Recommendation = Buy
TOP 77.0 | EPS = 6.2 | Recommendation = Trading Buy
TPOLY 1.6 | EPS = -0.12 | Recommendation = Sell
TUF 88.0 | EPS = 5.01 | Recommendation = Buy
WORK 40.9 | EPS = 1.87 | Recommendation = Buy

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:38:23

ความคิดเห็นที่ 61

Dang Lee
ภาค ๒. สอนลูกลงทุน…..

(เชิญชวนเพื่อนของเพื่อนให้เข้ามาเป็นสมาชิกของห้อง ชิว...ชิว....NewRayong กันมากๆครับ....ร่วมเรียนรู้การลงทุนแบบวิธีธรรมชาติไปกับลูกของผมครับ)

๑๑. ต้องรู้ในสิ่งที่ทำ

….ร้านขายเสื้อผ้าของแม่อยู่ในตลาดผ้า จากปากทางเดินเข้าตลาดมา จะเป็นร้านขายผ้าทั้งซ้ายและขวา ข้างละเจ็ดห้อง ร้านของแม่จะอยู่ข้างซ้ายมือในสุดห้องที่เจ็ดจากปากทางเข้า แต่จะเป็นร้านแรกขวามือ ถ้าเดินจากตลาดสดขึ้นมาหาซื้อเสื้อผ้า ทุกร้านจะขายสินค้าเสื้อผ้าเหมือนๆกัน เวลาลูกค้าเดินผ่านหน้าร้าน จะมีการเชิญชวนเรียกลูกค้าให้แวะเข้ามาเลือกชมสินค้าในร้าน ถ้าลูกค้าเดินผ่านร้านเราไป ก็จะเป็นทีของร้านค้าถัดไปที่จะต้องหาทางให้ลูกค้าแวะเข้าไปในร้านให้ได้ ผมถูกแม่สั่งสอนมาตั้งแต่เด็กให้มานั่งหน้าร้านคอยเรียกลูกค้า “เชิญครับคุณป้า เชิญครับคุณลุง วันนี้ขายของหมดเร็วนี่ วันนี้จะช่วยผมอุดหนุนอะไรดีครับ” ลูกค้าของแม่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวสวน ชาวไร่ ที่เอาผลผลิตของตัวเองออกมาขายที่ตลาด เมื่อขายหมดขากลับบ้านจะมาแวะเสื้อหาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเอาไปฝากคนทางบ้าน ทุกร้านจะมีลูกค้าขาประจำ แม่ค้าจะจำลูกค้าขาประจำของตัวเองได้ การแย่งขาประจำมีให้เห็นทุกวัน หนักเข้าถึงขั้นแม่ค้าทะเลาะกัน
......การแข่งขันเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้เป็นหน้าที่ของแม่และพี่สาวของผม ทุกอย่างต้องมีชั้นเชิง เรียกว่าใครดีใครได้ กลยุทธ์ต่างๆทางการตลาดถูกนำออกมาใช้ทุกกระบวนท่า ผมว่าไอ้ทฤษฎีต่างๆทางการตลาดที่เรียนกันในมหาวิทยาลัย ที่เขาเรียกชื่อกันไพเราะเพราะพริ้ง แม่กับพี่สาวผมเอามาปฏิบัติในการค้าจนหมดสิ้น .....ผมปูเรื่องทั้งหมดเพื่อให้เพื่อนๆในFBมองเห็นภาพ ของการลงทุนทำการค้าที่แท้จริง ที่เวลามีกำไรก็กำไรจริง เวลาขาดทุนก็ขาดทุนจริง และจุดเริ่มต้นเล็กๆตรงนี้ทำให้คนเป็นเศรษฐีมานักต่อนักแล้วครับ.....ผมพยายามลำดับเหตุการณ์ต่างๆให้เพื่อนๆที่อาจจะไม่เคยทำการค้ามาก่อน แล้วเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เผื่อจะเป็นประโยชน์ใช้ตัดสินใจในการลงทุนครับ

ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 3 ชั่วโมงที่แล้ว
2 คน ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก

Kwanruan Promsri
let profit run นี่ มันยากยิ่งกว่า การขายขาดทุนๆทำไปได้ 20% กำไรขึ้นมาแค่ 5%,10% คันมืออยากขายของซะงั้น
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 5 ชั่วโมงที่แล้ว
Jannypen Penkul และ อีก 9 คน ถูกใจสิ่งนี้
ดูอีก 5 ความคิดเห็นทั้งหมด

Noi Orn-Anong จริงด้วยค่ะ ทน ๆ สู้ ๆ
5 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Sirichai Hongkeaw ฮ่าๆๆๆเหมือนกันเรยครับ สู้ๆๆๆ ทนๆๆๆ
5 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Antoni Doi ขึ้นขาย ลงถือ อิอิอิ
3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Nattapa Makpanit ทนรวยไม่ไหว แต่ความจนทนได้
3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

ตัวเลือก

ชยุต จึงภักดี
Synex 5.6, sis 6.95, it 5.45
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 6 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน โทรศัพท์มือถือ
ถูกใจ Kakanda KitNoi
ดูอีก 8 ความคิดเห็นทั้งหมด

ชยุต จึงภักดี หุ้น กลุ่มค้าปลีก กำลังทดสอบ วีไอ
6 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ · 1

ชยุต จึงภักดี อนาคตดีจริง ราคาจะกลับไปได้
6 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ

Antoni Doi it เหมือนยังไม่หยุด
3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ตัวเลือก
โพสต์ก่อนหน้า

Rose Jds
วอเรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสามชองโลกได้กล่าวไว้ เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นว่า "จงกลัวเมื่อคนส่วนใหญ่กล้า.....จงกล้าในเมื่อคนส่วนใหญ่กลัว" หากแปลไทยเป็นไทยก็คือ เมื่อยามคนส่วนใหญ่กำลังเห็นหุ้นยิ่งขึ้นก็ยิ่งแห่ไล่กันซื้อ...ราคาก็แพงเป็นธรรมดา....เราจงกลัวอย่าไปแห่ซื้อตาม....และเมื่อยามหุ้นลงแรงคนส่วนใหญ่ก็พากันตกใจกลัวขายหุ้นกันชนิดว่าต้องขายก่อนให้เร็วกว่าคนอื่น....หุ้นก็จะลงอย่างมากและราคาก็ถูกมากในที่สุด...เมื่อนั้นแหละจงกล้าเข้าไปเลือกเก็บซื้อหุ้นที่พื้นฐานดีแล้วก็ถือนอนรอเมื่อเหตุการณ์ร้ายได้คลี่คลายลงราคาหุ้นก็จะเริ่มขึ้นมาอีกรอบใหม่....หลักการนี้ทำให้ท่านผู้นี้ร่ำรวยจากตลาดหุ้นได้นั้นเอง.... และปีหนึ่งๆเขาทำกุศลโดยบริจาคเงินหลายเหมือนล้านบาททีเดียว.....วันนี้จึงเอามาฝากไว้สะกิดเตือนกัน...เพราะส่วนใหญ่ก็เคยทราบกันดีอยู่แล้วใน..ในคำพูดสุดฮิตของท่านนี้....เวลานี้เกือบทั้งโลกวิตกและกลัวปัญหา"Fiscal cliff"ของอเมริกาที่ต้องแก้ปัญหาเพดานหนี้ การขึ้นภาษีคนรวย การลดสวัสดิการคนจนและคนชั้นกลางหากการเมืองตกลงกันไม่ได้ก่อนสิ้นปีนี้ บอกได้เลยว่าหุ้นทั่วโลกจะดำดิ่งแน่ๆ แต่นักลงทุนบ้านเรากลับกล้าไล่ซื้อกัน.....ได้ไม่คุ้มเสียนะครับ......ความโลภมันอันตราย
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 8 ชั่วโมงที่แล้ว
9 คน ถูกใจสิ่งนี้

Kwanruan Promsri ตอนนี้มันเป็นเวลา ตั้งขายเป็นไม้ๆ นะ ไม่ใช่เวลามาแย่งกันซื้อจ้า จะได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ จงระมัดระวังใจตัวเองกันให้มาก
6 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ตัวเลือก

Renu Thommakesorn
สงสัยต้องปล่อยไก่ไป............ไม่ไปไหนเลย.............
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 10 ชั่วโมงที่แล้ว
ถูกใจ Ekit Thongnuadee
ดูอีก 8 ความคิดเห็นทั้งหมด

ยศกร สารสุวรรณ เจ้ายังเก็บของไม่ครบ
6 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Renu Thommakesorn รอหมักให้ได้ที่ก่อน ค่ะ ลุัน 10...
6 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

ตัวเลือก

ชยุต จึงภักดี
ลุ้น tmb ยืน 1.90฿
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 7 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bang Na
6 คน ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก

ชยุต จึงภักดี
วันนี้ นิวไฮ 1341.xx แต่จะปิดได้ไฮหรือไม่ ต้องลุ้นต่อภาคบ่าย
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 7 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bang Na
8 คน ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก

ชยุต จึงภักดี
โปรดอย่าถามว่า หุ้นตัวไหนดี จงถามใจตัวเองว่า อยากซื้อกิจการบริษัทไหน แล้วค่อยมาหาจังหวะซื้อกัน
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · เมื่อวานนี้ เวลา 20:55 น. บริเวณ Makkasan
Jainop Saetiew, Bear Genuine และ คนอื่นอีก 29 คน ถูกใจสิ่งนี้

Huolong Vi VI หาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเอง ให้มากพอ จะทำให้มั่นใจในการลงทุน เพราะ ถ้าเรารู้ข้อมูล จากตัวเรา เอง เรา จะกล้าซื้อ กล้า ขาย แต่ถ้า หา ข้อมูล ด้วย ตัวเอง แล้วยังไม่มั่นใจ แสดงว่า ข้อมูลของเรายังไม่มาก พอ (ถ้า อดใจไม่ไหว ซื้อขาย ให้เท่ากับความรู้ของตัวเอง ดีที่สุด )ย้ำซื้อขาย มากน้อย เท่ากับความรู้ที่ตัวเอง มีคับ ขอบคุณคับ พี่ชยุต
22 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

โมชา ไชยา สนใจกิจการรถไฟฟ้านะค่ะ ( BTS) อนาคตคนน่าจะใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
8 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ตัวเลือก

ชยุต จึงภักดี
Cfresh 9.90 รอทดสอบ 9.4
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 9 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bang Na
Jannypen Penkul และ อีก 4 คน ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก

Dang Lee
ภาค ๒. สอนลูกลงทุน…..

(เชิญชวนเพื่อนของเพื่อนให้เข้ามาเป็นสมาชิกของห้อง ชิว...ชิว....NewRayong กันมากๆครับ....ร่วมเรียนรู้การลงทุนแบบวิธีธรรมชาติไปกับลูกของผมครับ)

๑๐. ต้องไม่ขาดทุน( ต้องรักษาเงินทุนเอาไว้)
...
ดูเพิ่มเติม

ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 10 ชั่วโมงที่แล้ว
2 คน ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก

ชยุต จึงภักดี
Pttgc 67.25 , fibonacci 0.618 h 76, l 53.25 พอดี ผ่านได้ลุ้น 76, 90 new high
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 11 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bang Na
15 คน ถูกใจสิ่งนี้
ดูอีก 3 ความคิดเห็นทั้งหมด

ชยุต จึงภักดี คนขาย 67฿ มอง ซื้อ 62฿
11 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ

Maraporn Tanakjt หัดตีfibo อยู่ ยังไม่ค่อยเป็นเลยค่ะ
10 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ตัวเลือก

วิลาภ ซุ้นฮ้อ
เรียนถาม คุณชยุตนะคะ อยากทราบแนวรับ-แนวต้าน ck ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 11 ชั่วโมงที่แล้ว
ถูกใจ Ekit Thongnuadee

ชยุต จึงภักดี Ck ต้าน 11฿ รับ 9.6฿
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ · 2

วิลาภ ซุ้นฮ้อ ขอบคุณค่ะ
10 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ตัวเลือก

ชยุต จึงภักดี
Asian 3.84, Cm 5.45, Cfresh 10.20
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 11 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bang Na
3 คน ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก

Son Sonthaya
PANTIP.COM : I13027858 สรุปข่าวหนังสือพิมพ์เช้านี้ [หุ้น] http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I13027858/I13027858.html
PANTIP.COM : I13027858 สรุปข่าวหนังสือพิมพ์เช้านี้ [หุ้น]
www.pantip.com
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · แชร์ · 12 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bangkok
Jainop Saetiew และ อีก 4 คน ถูกใจสิ่งนี้

ตัวเลือก
โพสต์ก่อนหน้า

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:50:26

ความคิดเห็นที่ 62

Stock Pubpub
ตลาดหุ้นสับขาหลอกไปหลอกมา วันอังคารที่ 4 แท่งเทียนฟอร์มตัวเป็นรูป Dark-cloud cover บอกแนวโน้วว่าจะลง ต่อมาในวันพฤหัสที่ 6 หุ้นกลับขึ้น และดูมีแรงที่จะขึ้นไปต่อ แต่วันนี้กลับลง ซึ่งถ้ามองในภาพใหญ่หน่อย จากจุดเริ่มที่ 1273 ถึง 1343 ขึ้นมาแล้ว 70 จุด โดยไม่มีการปรับฐานอย่างจริงจัง ดังนั้นเมื่ออยู่ที่สูง อาการสั่นไหวสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่แท่งเทียนฟอร์มตัวเป็นรูป Bearish Engulfing บอกสัญญาณกลับทิศเป็นลงและมีน้ำหนักมากกว่า Dark-cloud cover จึงมองแนวโน้มว่าตลาดน่าที่จะมีการปรับฐานอย่างจริงจัง เว้นแต่ฝืนขึ้นแบบทฤษฎี 100 จุด ที่จะต้องมีเงินไหลเข้าอย่างจริงจังและวอลุ่มน่าจะไปถึง 4-5 หมื่นล้าน โดยมองแนวรับที่ 1327-1330 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1342-1343
กลยุทธ ระยะสั้น ขึ้น ขาย ลง รอซื้อที่แนวรับ ระยะกลาง ถือต่อและรอซื้อเพิ่มตอนอ่อนตัว
หุ้นที่น่าสนใจ MALEE SNC TVO TTW CTW

By Trend Talk

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:18:00

ความคิดเห็นที่ 63

Napatsamon Nenruksa
TCMC,SLC,RPC,LIVE,EE เข้าข่ายใช้ Cash Balance คาดเริ่ม 11 ธ.ค.ทที่มา : ข่าวหุ้นออนไลน์

วันศุกร์ที่ 07 ธันวาคม 2555

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้หุ้น บมจ.อุตสาหกรรมพรมไทย(TCMC), บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998)(SLC), บมจ.ระยองเพียวริฟายเออร์ (RPC), บมจ.ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น(LIVE) และบมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี(EE) มีโอกาสจะเข้าข่ายต้องใช้เกณฑ์ให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ(Cash Balance)โดยคาดว่าจะเริ่มใช้วันที่ 11 ธันวาคมนี้ และใช้ต่อเนื่องไป 3 สัปดาห์

ทั้งนี้ TCMC มีมูลค่าซื้อขายรวม 102.76 ล้านบาท/วัน มี Turnover list อยู่ที่ 277.88% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน, SLC มีมูลค่าซื้อขายรวม 154.31 ล้านบาท/วัน มี Turnover list อยู่ที่ 140.32% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน, RPC มีมูลค่าซื้อขายรวม 105.04 ล้านบาท/วัน มี Turnover list อยู่ที่ 135.86% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน,

ส่วน LIVE มีมูลค่าซื้อขายรวม 140.10 ล้านบาท/วัน มี Turnover list อยู่ที่ 96.71% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน ส่วน EE มีมูลค่าซื้อขายรวม 132.85 ล้านบาท/วัน มี Turnover list อยู่ที่ 89.15% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:24:37

ความคิดเห็นที่ 64

Rose Jds
‎10วิธีที่ทำให้ -เจ็งหุ้น- อย่างรวดเร็วและได้ผลแน่นอน
1.เวลาหุ้นลงมีเท่าไหร่อย่าเพิ่งขาย ไม่ขายไม่ขาดทุนครับ เก็บไว้นานๆ โดยเฉพาะหุ้นผลประกอบการแย่ลง เก็บมันไว้ เดี๋ยวมันก็เด้งกลับ
2.เวลาหุ้นลงข่าวร้ายเยอะๆ อ่านข่าวมันเข้าไป กลัวให้มากๆ อย่าไปซื้อตอนข่าวร้ายเต็มตลาดเด็ดขาด เพราะมันไม่น่าซื้อ เดี๋ยวมันจะต้องลงต่ออย่างแน่นอน
3.หุ้นราคาขึ้นมา ได้กำไรนิดนึงรีบขายครับ อย่าโลภ เดี๋ยวกำไรหาย ให้ขายทิ้งให้หมดเลย ไม่งั้นจะติดดอยต่อได้
4.เชื่อฟัง เทพ.เซียน.กูรู ให้เยอะๆ เพราะพวกมีประสบการณ์มากกว่าเรา ต้องเชื่อฟังไว้มากๆ เขาเชียร์ซื้อตัวไหน ซื้อตามเขาไปเลยครับ เอาราคา ATO ไปเลย ซื้อแล้วราคาร่วงอย่าเพิ่งขาย เพราะที่เขาแนะนำดีจริงๆ ให้ถือไว้ยาวๆก็ได้ แล้วบอกคนอื่นๆว่าเราเป็น VI
5.เวลามีข่าวดีเต็มตลาด หุ้นวิ่งกระจาย ดัชนีพุ่งสูงปิ๊ด ต้องรีบซื้อตาม เพราะตอนนั้นแหละคือมันขึ้นแน่ๆ
6.หุ้นปั่นเป็นสิ่งที่ทำให้รวยเร็วที่สุด เรื่องอะไรจะต้องไปอยู่กับหุ้นพื้นฐานดีๆล่ะ กว่ามันจะขึ้นแต่ละบาทแทบกระอัก ไม่คุ้มเสี่ยงหรอก เอาหุ้นปั่นเลยดีกว่า เห็นตัวไหนใน ticker ยาวๆ รีบตามเข้าทันที
7.จากข้อหก ถ้าหุ้นปั่นที่ซื้อราคามันร่วงลงมา อย่าตกใจ ของถูกมากองอยู่ตรงหน้าแล้ว ให้รีบซื้อในราคาที่ลดกระหน่ำทันที โอกาสรวยอยู่ตรงหน้าแล้ว มันลง ก็ถัวซื้อเข้าไป ต้นทุนเราก็ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ทีนี้แหละ พอมันขึ้นเรากำไรเละ...
8.เล่นเองใช้เงินนิดเดียวคงไม่พอ รวยไม่ทันเขา ควรไปกู้ธนาคาร ยืมเพื่อน กดบัตรเครดิตออกมาซื้อด้วย โดยเฉพาะตอนมันเริ่มลงนิดนึง จะได้ถัวซื้อเข้าไป ไม่ต้องกลัว ต้นทุนเราต่ำลงเรื่อยๆ เดี๋ยวกำไรจากหุ้นก็เยอะกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ตั้งเยอะ ยิ่งถ้าลงหนักๆ ควรขายบ้าน ขายรถออกมาซื้อให้ได้
9.เวลาเล่นหุ้น ไม่ต้องหาหนังสือมาอ่าน หรือหาความรู้เพิ่มเติมหรอกครับให้เสียเวลา แน่ใจหรอว่าเราอ่านแล้วจะวิเคราะห์ได้ มือใหม่อย่างเราอย่ามั่นใจตัวเองเกินไปครับ ไม่ต้องไปสนใจมัน เดี๋ยวก็มีนักวิเคราะห์แจกหุ้นให้อยู่ทุกวัน ตามเว็บไซต์เว็บบอร์ดก็มี โทรถามมาร์เอาก็ได้เขาวิเคราะห์ดีกว่าเราเยอะแน่นอน
10.จะซื้อหุ้นไม่ต้องสนใจหรอกครับว่าบริษัทนั้นจะชื่ออะไร ทำธุรกิจยังไง ผลประกอบการเป็นยังไง จำตัวย่อให้ได้ก็พอ มันจะทำธุรกิจอะไรก็ช่างหัวมัน ซื้อตามเขาไปน่ะแหละ

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:25:47

ความคิดเห็นที่ 65

Napatsamon Nenruksa
SET ปิดลบ 0.37% จับตาปัจจัยตปท.แนวโน้มสัปดาห์หน้าผันผวน
ที่มา : ข่าวหุ้นออนไลน์
วันศุกร์ที่ 07 ธันวาคม 2555

ผู้สื่อข่าวรายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ปิดตลาดวันนี้ลบ 4.93 จุด หรือ 0.37% มาที่ 1,334.95 จุด สูงสุดที่ 1,343.03 จุด ต่ำสุดที่ 1,330.26 จุด มูลค่าซื้อขายที่ 35,194.67 ล้านบาท โดยมีแรงขายหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพลังงานฉุดตลาด

หลักทรัพย์ทีมีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก

ANAN ซื้อขายวันแรก อยู่ที่ 3.80 บาท (ราคา IPO ที่ 4.20 บาท)

PTTEP ลบ 2.50 บาท มาที่ 153.00 บาท

BBL บวก 0.50 บาท มาที่ 185.00 บาท

SCB บวก 2.00 บาท มาที่ 171.00 บาท

INTUCH ลบ 0.50 บาท มาที่ 66.00 บาท

นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นวันนี้ค่อนข้างผันผวน ดัชนีขึ้นลงในแดนบวกสลับกับแดนลบ ระหว่างวันมีแรงขายทำกำไรออกมา สำหรับตลาดหุ้นบ้านเราช่วงนี้ปัจจัยหลักมาจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาสะสมหุ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความไม่แน่นอนในปัญหาเศรษฐกิจของยุโรปรวมถึง fiscal cliff ของสหรัฐ ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมีความกังวลต่อการลงทุน ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์หน้าเชื่อว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวน โดยจะต้องติดตามการกระชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 11-12 ธ.ค.นี้ว่าจะเป็นอย่างไร รวมถึงยังต้องติดตามเกี่ยวกับ fiscal cliff โดยดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,310 และ 1,300 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,350 จุด

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 19:27:09

ความคิดเห็นที่ 66

Love Papang
อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) บมจ.(ESTAR) ธนัทเดช ชื่นระเบียบ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 06/12/2555 30/11/2555 1,000,000 0.80 ซื้อ
อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) บมจ.(ESTAR) ธนัทเดช ชื่นระเบียบ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 06/12/2555 03/12/2555 500,000 0.80 ซื้อ

Love Papang
กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) บมจ.(BGH) ประดิษฐ์ ทีฆกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 06/12/2555 30/11/2555 400,000 110.50 ขาย

Dang Lee
ภาค ๒. สอนลูกลงทุน…..

(เชิญชวนเพื่อนของเพื่อนให้เข้ามาเป็นสมาชิกของห้อง ชิว...ชิว....NewRayong กันมากๆครับ....ร่วมเรียนรู้การลงทุนแบบวิธีธรรมชาติไปกับลูกของผมครับ)

๑๒. การบริหารต้นทุนของแม่

...... แม่อธิบายเรื่องความสำคัญของทุนให้ผมฟัง สิ่งที่สำคัญของการลงทุนทำธุรกิจคือทุน แรกๆที่แม่เริ่มทำการค้าใหม่ๆ แม่มีทุนน้อย และแม่ก็ไม่ได้คิดอะไร แม่ทำเต้าหู้เป็นตั้งแต่แม่อยู่เมืองจีน แม่ก็เลยมาทำเต้าหู้ขายในเมืองไทย แม่เชื่อว่าเต้าหู้ที่แม่ทำต้องขายได้ แม่ลงทุนเท่าที่จำเป็น ส่วนใหญ่แม่จะใช้แรงกายของตัวเองเป็นต้นทุนที่ลงไป แรกๆสินค้าของแม่ที่ทำออกมาขายได้น้อยมาก แม่บอกว่าเขามีคนอื่นทำขายอยู่แล้ว แม่ทำเต้าหู้ขายขาดทุนทุกวัน เงินทุนที่มีมันน้อยลงๆ ตามจำนวนที่แม่ขาดทุน และนับวันความเป็นอยู่ของแม่ยิ่งแย่ลงแย่ลง สินค้าของแม่เป็นของสด ไว้นานมันเสีย แม่ต้องเพิ่มอาชีพอีกอย่างคือทอดเต้าหู้ขาย เพื่อเป็นการแปรสภาพจากเต้าหู้สดที่ขายเหลือจากตลาดในตอนเช้า เอามาทอดขายเพื่อเรียกทุนคืน การที่แม่ทำแบบนี้ทำให้แม่ยังพอมีทุนในการทำเต้าหู้ในวันต่อๆไป
แม่สอนผมว่าการที่เรามีทุน 100 บาท แล้วนำไปลงทุนเพื่อหวังว่าจะได้กำไรจากการลงทุนนั้นไม่ใช่คิดจะลงทุนทำอะไรก็ได้ ลูกลองคิดดูถ้าเงินที่ลูกลงทุนไปมันขาดทุนไปสักยี่สิบบาท นั่นหมายความว่าในวันต่อไปลูกจะมีทุนเหลือแค่แปดสิบบาท ตอนแม่เริ่มขายเต้าหู้ก็เหมือนกัน ต้นทุนในการทำเต้าหู้ต้องหนึ่งร้อยบาท ขาดทุนไปยี่สิบบาท แม่เหลือเงินแปดสิบบาทมันก็ไม่พอลงทุนทำเต้าหู้ในวันรุ่งขึ้นแล้ว แม่ถึงต้องเอาเต้าหู้ที่เหลือจากขายตอนเช้า มาทอดขายเพื่อให้ได้เงินทุนที่หายไปคืนมา แม่ต้องทำอย่างนี้เพื่อรักษาทุนที่แม่มีอยู่น้อยนิด ไม่ให้หมดไปกับการขาดทุน จำไว้ลูกรัก ตราบใดที่เรายังสามารถรักษาทุนไว้ได้ เราจะไม่อดตาย ช่องทางการทำกำไรมันจะมาหาลูกเอง จากประสบการณ์ที่ลูกเรียนรู้

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:07:25

ความคิดเห็นที่ 67

ม้าเฉียว ดูหุ้น
แบ่งปันแนวคิด เรื่อง มีวิธีการไหนเร็วหุ้นรวยเร็วบ้างครับ
โดย ละนันทิ
เขียนวันที่ 6/12/12

มีนักลงทุนรุ่นใหม่ชอบถามผมบ่อยมากๆในการสัมมนาว่า

A : มีวิธีการลงทุนแบบรวยเร็วๆไหมครับพี่
ละนันทิ : แล้วอยากรวยเร็วแค่ไหนละ

A : ผมตั้งใจว่ากำไรสักปีละ 300%-500% นะครับเพราะเงินต้นผมน้อย

ละนันทิ : อืม ผมถามกลับไปว่า เราคิดว่าในนักลงทุน 100,000 คนนี่ มีคนที่ทำแบบนั้นได้สักก็คน และทำแบบต่อเนื่องสัก 2-3 ปีติดกันด้วยนะครับ

A : อืมน่าจะมีไม่ถึง 100 คนนะครับ
ละนันทิ : แล้วเราเคยได้ยินชื่อเสียงคนที่ทำแบบนั้นไหม
A : ยังไม่เคยนะครับ
ละนันทิ : แสดงว่าน้องคิดว่า ใน 1,000 คนจะมี 1 คนที่ทำผลตอบแทนแบบนั้นได้

A : ครับผม
ละนันทิ : เราคิดว่า นักลงทุนที่ทำแบบนั้นได้ต้องใช้เวลาเท่าไรถึงได้ความสามารถแบบนั้นติดตัวมา อย่างพี่ 6-7 ปียังทำแบบนั้นไม่ได้เลย

A : ก็คงนานอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ผมว่ามันต้องมีวิธีอยู่ครับ

ละนันทิ : แสดงว่าวิธีแบบนั้นมันมีโอกาสจะทำได้ไม่ถึง 1 ใน 1,000 ได้ผลตอบแทน 3-5 เท่า หรือเราจะลองเล่นหวยแบบเลขท้าย 2 ตัว มีโอกาส 1 ใน 100 ได้ผลตอบแทน 60-65 เท่า อาจจะง่ายกว่านะครับ

นักลงทุนหน้าใหม่ท่านนั้น ก็เดินจากผมไป และคงพยายามหาความรู้ในการทำแบบนั้นให้ได้อยู่(หรือไปเล่นหวยจริงๆนะ)

แต่ก่อนผมก็เคยเป็นนักลงทุนแบบน้องคนนั้นมาก่อน ผมมักมองอะไรในมุมที่ผมอยากมอง(หลอกตนเอง) โดยไม่รู้ความเป็นจริงซะเลย

และเฝ้าอิจฉาอยากได้ผลตอบแทนเหมือนเซียนท่านอื่นๆ โดยไม่อยากลงทุนเวลาและเงินทองมากเหมือนเซียนท่านอื่นๆ

คิดอะไรแบบเห็นแก่ได้ (นิสัยในอดีตของตนเองไม่ดีเลยครับT_T) มีหลายอย่างเหลือเกินที่ผมควบคุมไม่ได้ ผมควรจะพยายามทำในสิ่งที่ผมควบคุมให้ได้เสียก่อน ที่เหลือปล่อยให้เวลาเป็นผู้เฉลยคำตอบจากการพยายามของผมในอดีต

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:15:18

ความคิดเห็นที่ 68

ใช่เลยครับคุณม้า
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 2

ซี ศรีวะรมย์ ตำนานไม่ได้เขียนกันแค่วันเดียวครับ.......หุหุ
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 3

Kanongnuk Chaisorn ตำ นาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาานนนนนนนน 555
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 2

ซี ศรีวะรมย์ ใช่ครับเซียนตุ๊ก เพราะมัน นานนนนนนนนนน หุหุ
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Frame Passakorn Only IPO can do ...
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ซี ศรีวะรมย์ ตำไม่นาน จะเสียวได้ไงครับ หุหุ
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Kanongnuk Chaisorn
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น ไม่น่ายากนะครับ ซื้อหุ้นพวกราคา 0.01 แล้วเอาไปขายที่ราคาไหนก็ได้ แค่นี้ก็กำไร 100-300% แล้ว.....

เพียงแต่มันคือทฤษฎีที่เทรดจริงทำได้ยากมาก
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Kanongnuk Chaisorn มีครับ natural park งัยครับ ? 555
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

ซี ศรีวะรมย์ ป๋าตุ๊กเอามาโชว์หน่อยซิ ว่าทางปฏิบัติ ศิษย์สำนักหื่น ทำได้แร้ววววววว กร้ากกกกกก หุหุ
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Kanongnuk Chaisorn หนึ่งเดียวในปฐพี เทพเป็ดดำ โหดแท้
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

ซี ศรีวะรมย์ ตำราหื่นเก่งเรื่องขี้โม้ (โม้มากจนเป็นเรื่องจริง) กร้ากกกกก หุหุ
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Kanongnuk Chaisorn ตอนซื้อ .02 ยังมีคนมองเราเป็นตัวประหลาด ฮ่าฮ่า
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

ซี ศรีวะรมย์ ห่านก็ว่าเซียนตุ๊กปะหลาดนะครับ.......เท่าที่เคยชวน คนปกติ ไม่มีใครซื้อตามห่านแน่นอนครับ หุหุ
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Kanongnuk Chaisorn ซื้อปั๊บขาดทุนทันที 50 % สิวๆ ฮ่าฮ่า
23 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

รวยหุ้น ด้วยเงินหมื่น ซื้อๆ ขายๆ ที่ ATO กับ ATC แล้วหาค่าเฉลี่ยดูนะครับว่าคุ้มไหม ถ้าซื้อไม่เยอะคนคุมคงไม่รู้ แต่ถ้าซื้อเยอะผิดสังเกตุ ก็เสร็จผู้คุม
22 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น ซื้อ 0.01 ไปขาย XXX เอาไว้เล่นขำๆ แต่ไม่ใช่ทางไปสู่ความสำเร็จของการลงทุนแน่ๆครับ
21 ชั่วโมงที่แล้ว · ที่ถูกแก้ไข · ถูกใจ · 1

รวยหุ้น ด้วยเงินหมื่น ดู LIVE แม่ลูก ใครกล้าขำ ก็รวยเหมือนกัน
21 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Kanongnuk Chaisorn LIVE ?
21 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

พิม พอเพียง คุณม้าจัดงานสัมนาเมื่อไร ยังไม่เคยเข้าฟังคะ
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น ไม่ใช่ผมครับ ผมเอามาจาก คุณ ละนันทิ แห่ง efinance
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Rose Jds เขาโยกเล่นตลอดปี ถ้าช่วยกันบอกกันว่าวันนี้รายใหญ่เล่นตัวไหน ถึงได้ตัง ชักช้าพาลแต่เสียเงิน แม้ินเด็กขึ้นมา30%ก็ตามเช่นptt
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:16:42

ความคิดเห็นที่ 69

ล้างพอร์ตรอ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ครับ
วัน วันพุธ เวลา 16:05 น. · ถูกใจ · 1

Soda Freedom ใช่ค่ะ โล่งมากถึงมากที่สู๊ดดดด ^^'
วัน วันพุธ เวลา 22:21 น. · ถูกใจ

Ning Noy Noy แย่แระ ยังเต็มพอร์ตอยุ่เลยคะ
เมื่อวานนี้ เวลา 6:39 น. · ถูกใจ · 1

Dreammy Juntamas เต็มพอร์ตเลยค่ะ
เมื่อวานนี้ เวลา 7:55 น. · ถูกใจ

คุณช้าง เจ้าคับ ข่าว ECB เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาหนียุโรปออกวันนี้ประมาณบ่าย 3 นะครับ ระมัดระวังกันด้วย มีผลกับตลาดหุ้นทั่วโลกแน่นอน
เมื่อวานนี้ เวลา 11:16 น. · ถูกใจ

Payutaifun Red Hearth ช่วงเช้า อัด nusa เข้าไปเต็มๆ มือ มัน คันๆๆ
เมื่อวานนี้ เวลา 12:53 น. · ถูกใจ

สุภาวดี เลิศบัญชาดี rml 7-12-55 หลุดแคชบาลาน
เมื่อวานนี้ เวลา 12:58 น. · ถูกใจ · 1

Payutaifun Red Hearth ปล่อยหมู rml ออกไปทั้งเล้า
เมื่อวานนี้ เวลา 20:12 น. · ถูกใจ

Pete Pongsanam ทำไหม ถึงปล่อย ล่ะ งับ
ผม อุสาวิเคราะห์ ให้ แย้ว ใครว่างๆ ก็ไปขุดขึ้นมา
อ่าน นะ่ ครับ ผมโพสไปไม่นาน
ไม่มีคนโพสมัน เลย ตกไปไหน แล้วก็ไม่รู้
19 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 2

ม้าเฉียว ดูหุ้น หลายๆตัวผมคัดมาจากข้อมูลหุ้น WAVE 3/WAVE 5 ของน้องพีทนะครับ....

ต้องบอกว่าฝีมือนับ WAVE ของพีทนี่ใช้ได้เลย
5 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Payutaifun Red Hearth วันนี้ รู้สึกทำผิด เข้าซือ้ผิดเวลา หุ้น มีแนวโน้มลง จากสัญชาติญาณ แต่ขอให้ทายผิด
2 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

ม้าเฉียว ดูหุ้น ตอนนี้ตลาด EU & ASIA แดงยกเว้น US ที่เขียว
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

ม้าเฉียว ดูหุ้น Japan Earthquake
Nikkei 225 Stock Average futures declined 0.5 percent after a magnitude 7.3 earthquake struck off northeastern Japan. While buildings in Tokyo shook for up to a minute, there was little damage, according to the national police agency.

ผลของแผ่นดินไหวส่งผลถึงตลาดหุ้นพอสมควร
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Rose Jds ถึงฤดูกาลครับ
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:18:47

ความคิดเห็นที่ 70

ม้าเฉียว ดูหุ้น
หุ้นที่น่าสนใจ KSL ITD DCON CNT KIAT EASTW CSL ASIMAR BOL

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:20:42

ความคิดเห็นที่ 71

กดที่รูปค่ะดูภาพขยาย
4 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 2

รับพร บุตรแสง ขอบคุณมากค่ะเฮียกะน้องจิ๋ม...แต่ไม่มีหุ้นตัวนี้ค่ะ
4 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Banchong Tuantranont หมายความว่าหุ้นตัวนี้ ไม่ขึ้นแล้วใช่มั้ย พี่ติดเป็นคั่นบันไดเลย กะว่าจะได้5-6บาท แหะๆ
4 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Apiruk Choobpha โอ้ แสดงว่าติดมานานมากแล้ว นะครับ
4 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Banchong Tuantranont ก็นานจนจำบ่ได้แล้วละเฮีย ถ้าเป็นของเน่าได้ก็คงเน่าไปแล้วละแหะๆ
4 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

วิวัลย์ เทพวัฒนา เฮ้อ...กลุ้มจุงเบย ขาดทุนก็เครียด กำไรก็เครียด
2 ชั่วโมงที่แล้ว · ที่ถูกแก้ไข · ถูกใจ · 1

วิวัลย์ เทพวัฒนา คลื่น 3 ยาวจังเนอะ เฮียจิ๋มคะ คลื่น 5 มันต่ำกว่าคลื่น 3 ได้ชิมิ (ถามแบบคนนับคลื่นไม่เป็น)
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Apiruk Choobpha แบบนี้เรียกว่า คลื่น 5 สั้น
57 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Yong Sajek กรณีไหนครับเฮียจิ๋มที่จะเกิดคลื่น 5สั้นได้
55 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Apiruk Choobpha ก็กราฟ ITD ไง
55 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Apiruk Choobpha คลื่น 3 ยืด มี 3 แบบ แต่แบบนี้ จะเจอบ่อยมาก
54 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Yong Sajek ไม่ไช่ ผมจะถามว่าทำไม ถึงเกิดคลื่น 5สั้น
50 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Apiruk Choobpha คลื่น 5 สั้น จะเกิดในกรณีที่ คลื่น 3 ยาวมากถึง 261.8% หรือ คลื่น 1 เล็กมาก โอกาสที่คลื่น 5 จะสั้นมีได้สูง ทั่วไปจะสั้น 61.8% ของคลื่น 1
46 นาทีที่แล้ว · ที่ถูกแก้ไข · ถูกใจ

Yong Sajek ขอบคุณครับเฮียจิ๋ม ผมจะใช้เป็นกรณีศึกษาครับ อิอิขายไปแล้ว
39 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Apiruk Choobpha คุณ ย้ง ขาย เพราะ ไม่เข้าใจว่าเป็นคลื่น 4 พอจบคลื่น 4 ก็ดีดคลื่น 5 ก็เลยขึ้นใหญ่
37 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Yong Sajek เดี๋ยวถามอีกอย่าง เราวัดอย่างไร ว่าคลื่นนี้ยาวกี่ %ของอีกคลื่น
34 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Yong Sajek ที่ผมขายนะ ไม่ไช่อะไร ผมเชื่อเฮียจิ๋มก็เลยขายหมด ฮ่าๆๆๆ เพราะมันไม่ทำไฮมาหลายวันผมก็กลัวว่า กำไรนิดเดียวดีกว่าขาดทุน
30 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Apiruk Choobpha สัดส่วนตัวเลขนี้ คนที่เขาคิด Elloitt wave เป็นคนที่ค้นพบ แล้วนำมาเพยแพร่ ก็เลยเป็นตำราที่ใช้กัน ปัญหาก็คือ ไม่มีใครรู้ว่าที่นับนี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะในตำราไม่มีตัวอย่าง ผมเลยต้องนั่งดูเองมา 3 เดือนแล้ว บางแพ๊ทเทิ้นก้เริ่มเข้าใจ แต่บางแพ๊ทเทิ้นยังไม่รู้เลยก็มี
25 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Apiruk Choobpha ไม่ขาดทุน ก็ถูกต้องแล้ว ก็ค่อยๆพยายามไป ผมไปเรียนเสียเงินไป 80000 บ ยังไม่เข้าใจเลย ต้องมาอ่านเอง ถึงจะเริ่มเข้าใจ
23 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ · 1

วีรชัย อาภาสกุล ตามศึกษาด้วย
18 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Yong Sajek โอ้...ค่าเรียนแพงขนาด ผมถามเฮียดีกว่า อิอิแอบเรียนไปเรื่อยๆ แต่ผมเล่นหุ้นมา 15ปีแล้ว ยังไม่เข้าใจเลย ฮ่าๆๆๆ
17 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ · 2

รับพร บุตรแสง เฮียเรียนมาเยอะ...อ่านเยอะด้วยค๊า
13 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Yong Sajek เฮียจิ๋มมีหนังสือแนะนำให้ผมอ่านบ้างมั้ยครับ
ไม่กี่วินาทีที่แล้ว · ถูกใจ
แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 21:25:30

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:24:53

ความคิดเห็นที่ 72

กูโสด ช่วยมาจีบกูที ได้แสดงความเห็นบน รูปภาพ ของเธอเอง ผู้หญิงหรือผู้ชาย

น่ารักอย่างนี้โสดไม่เชื่อหรอก
2 ธันวาคม เวลา 12:24 น. · ถูกใจ

กูโสด ช่วยมาจีบกูที
2 ธันวาคม เวลา 12:26 น. · ถูกใจ

Jo Nobra ถ้าโสดจริงอยากคุยด้วยจังเราก็ยังไม่ได้คบใคร
2 ธันวาคม เวลา 12:27 น. · ถูกใจ

กูโสด ช่วยมาจีบกูที ^-^
2 ธันวาคม เวลา 12:29 น. · ถูกใจ

Jo Nobra ยังไง..
2 ธันวาคม เวลา 12:30 น. · ถูกใจ

กูโสด ช่วยมาจีบกูที ป่าว
2 ธันวาคม เวลา 12:31 น. · ถูกใจ

Jo Nobra หาไม่เจอเลยในBOOK
2 ธันวาคม เวลา 12:32 น. · ถูกใจ

กูโสด ช่วยมาจีบกูที รัยหรอ
2 ธันวาคม เวลา 12:33 น. · ถูกใจ

เป็นได้อยู่เสอม ก็แค่คนที่ถูกมองข้าม คนทีรักเทอยูตรงนี ไมต้องมองไกล
3 ธันวาคม เวลา 20:49 น. · ถูกใจ

สุระเดช สำนักดี โสดจริงหรือเปล่า เดี๋ขวให้พ่อไปขอ
55 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Suppakit Toraree น่ารักจัง เลยนร้
11 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

กูโสด ช่วยมาจีบกูที
10 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Suppakit Toraree
7 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

ชัยวัฒน์ บุญทา โสด,,อิหลีติคับ,,? อะเฮ๊ย อะเฮ๊ย
4 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

Tint Vanchai เอารูไปโชวื สามวันคนจีบเพีบย
3 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 21:41:12

ความคิดเห็นที่ 73

มีบทความมาฝากครับผม

คัมภีร์นักลงทุนหน้าใหม่/Road to Billion

ตอนผมเริ่มต้นชีวิตนักลงทุนใหม่ๆเคยฝันว่าอยากจะมี "เซียนหุ้น" เก่งๆคอยให้คำแนะนำ คล้ายๆกับนักกีฬาที่ต้องการโค้ช มาคอยช่วยให้คำแนะนำในการฝึก คอยบอกเราว่าต้องระวังอะไร ต้องศึกษาเรื่องอะไร และอะไรเป็นปัจจัยของความสำเร็จในอาชีพของเรา

วันนี้ผมโชคดีที่ได้รู้จักกับอาจารย์ นักลงทุนรุ่นพี่ รุ่นน้องเก่งๆหลายท่านที่คอยให้คำแนะนำอันมีคุณค่ากับผม ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นให้กับคนที่สนใจเรียนรู้ แต่ก็ได้เพียงแค่คนหยิบมือเดียวเท่านั้น แถมหลายครั้งก็อาจจะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ผมก็เลยสรุปแนวคิดจากประสบการณ์ส่วนตัวและที่รับการถ่ายทอดมาให้ออกมาเป็น "คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นการลงทุน" และหวังว่าคำแนะนำที่ผมเคยอยากได้มากๆตอนเริ่มต้นเส้นทางลงทุนนี้ จะถูกถ่ายทอดให้คนไทยได้อ่านมากที่สุด เท่าที่จะมากได้

(ถึงแม้บทความนี้จะถูกเขียนมาเพื่อ "มือใหม่" แต่ผมเชื่อว่า "มือเก๋า" หลายๆคนน่าจะได้มุมมองและแง่คิดอะไรดีๆกลับไปครับ)

8 ข้อคิดเพื่อชีวิตการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

ข้อ 1: ก่อนจะเริ่มลงทุน เราต้องมีทักษะในการบริหารเงินที่ดีก่อน

ก่อนที่จะถามว่า "ซื้อหุ้นตัวไหนดี?" เราควรจะตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า

ตอน นี้เรามีเงินเก็บเท่าไหร่? ที่ผ่านมาเก็บเงินได้เดือนละกี่บาท? สองคำถามนี้จะตรวจสอบว่าวินัยในการออมของเราเป็นอย่างไร ผมแนะนำให้แยกบัญชีที่ใช้ในการลงทุนออกมาต่างหาก (ห้ามถอนเด็ดขาด) และโอนเงินเข้าบัญชีนั้นด้วยระบบอัตโนมัติทุกๆเดือน ทำอย่างนี้จะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบผลการดำเนินงานของเราได้ง่าย และเป็นการสร้างนิสัยในการออมที่มีประโยชน์มากๆในระยะยาว

การลงทุน มีความหมายต่อเราอย่างไร? เพื่ออิสระทางการเงิน? เพื่อที่จะได้ลาออกจากงานที่ "ไม่ชอบ" ไปทำงานที่ "รัก"? เพื่อที่จะมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น? เหตุผลที่คุณค่าเพียงพอจะทำให้เราทุ่มเทและมุ่งมั่นมากขึ้น

เป้า หมายในการลงทุนคืออะไร? เขียนออกมาให้ชัดเจนพร้อมทั้งกำหนดเงื่อนเวลา เป้าหมายที่ท้าทายจะทำให้เรามุ่งมั่นและสนุกกับการเดินทางมากขึ้น อาจารย์นิเวศน์เคยตั้งเป้าไว้ว่าจะมีเงิน 1,000 ล้านก่อนอายุ 70 ปีแต่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ก่อนเกือบ 10 ปี สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเราไม่มีเป้าหมายที่ดี

เรามีความ รู้ความเข้าใจในการลงทุนมากน้อยแค่ไหน? มีเวลาในการดูแลจัดการเงินของเราแค่ไหน? เรายอมรับความเสี่ยงได้มากหรือน้อย? สามคำถามนี้จะกำหนดแนวทางในการลงทุนของเรา ถ้าเรายังไม่ค่อยเข้าใจการลงทุนเท่าไหร่ การเริ่มต้นด้วยเงินน้อยๆอาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่า ถ้าเราไม่มีเวลาการซื้อกองทุนรวมอาจจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

คำถาม เหล่านี้จะช่วยปูพื้นฐานในการลงทุนให้เรา การเริ่มต้นลงทุนโดยไม่มีการบริหารเงินที่ดีเปรียบเสมือนกับการสร้างบ้านโดย ไม่ได้ตอกเสาเข็ม ปีแรกๆอาจจะยังดูดี แต่ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมาจะแก้ไขได้ยากมากครับ (ถ้าบ้านไม่พังครืนไปซะก่อน)

ข้อ 2: มีทัศนคติเกี่ยวกับการลงทุนที่ถูกต้อง

ผมขอรวบรวมหลักคิดที่เป็นประโยชน์เท่าที่พอนึกออกให้อ่านครับ

"การ ซื้อหุ้น" ไม่ต่างอะไรกับการ "ร่วมลงทุน" กับเพื่อนหรือญาติของเรา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราควรให้ความสนใจไม่ใช่แค่ราคา แต่เป็นการเติบโต (และความสม่ำเสมอ) ของผลตอบแทนที่ได้รับจากธุรกิจนั้นๆ

การคาดเดาตลาดของตลาดเป็นสิ่งที่ทำเงินได้ยาก และการหาเงินจากการคาดเดานั้นทำได้ยากกว่า

การซื้อขายหุ้นบ่อยๆอาจจะทำให้ผลตอบแทนในการลงทุนลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
การลงทุนไม่ใช่การว่ิงแข่ง 100 เมตรแต่เป็นการวิ่งมาราธอน
สิ่งที่คนส่วนมากทำไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป

ราคาหุ้นอาจจะผันผวนไปตามอารมณ์ของตลาดได้ในระยะสั้น แต่สุดท้ายแล้วราคาหุ้นในระยะยาวจะสะท้อนผลประกอบการของธุรกิจ

การซื้อหุ้นตามเซียนไม่ได้ทำให้คุณเป็น "เซียนหุ้น"
"ซื้อตัวไหน?" ไม่สำคัญเท่า "ซื้อเพราะอะไร?"

"โชค" อาจจะมีผลต่อผลตอบแทนของพอร์ตในระยะสั้นๆ แต่ในระยะยาวๆ "ฝึมือ" และ "ความทุ่มเท" จะกำหนดชะตาชีวิตของคุณ

ข้อ 3: เข้าใจหลักของดอกเบี้ยทบต้น

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยบอกไว้ว่า "ดอกเบี้ยทบต้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่ 8 ของโลก" ถ้าเราอยากจะใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้น เราต้องเข้าใจก่อนว่าปัจจัยที่จะมีผลต่อมูลค่าของเงินเราในอนาคตมี 3 ข้อ 1. จำนวนเงินที่เรานำมาลงทุน 2. อัตราผลตอบแทน และ 3. ระยะเวลาการลงทุน นักลงทุนทั่วไปมักจะให้ความสนใจว่าพอร์ตใหญ่แค่ไหน หรือจะได้กำไรปีละกี่เปอร์เซ็นต์ แต่จะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับระยะเวลาที่ใช้ในการลงทุนเท่าไหร่นัก นักลงทุนที่เก่งจะสามารถใช้เวลาเป็น "ตัวช่วย" ให้พอร์ตเติบโตได้โดยการเลือกลงทุนในธุรกิจที่สามารถรักษาความแข็งแกร่งได้ ในระยะยาวๆ

ข้อ 4: ต้องเข้าใจธุรกิจที่จะลงทุนอย่างถ่องแท้

บัฟเฟต์ เคยกล่าวไว้ว่า "การเป็นนักธุรกิจที่เก่งจะช่วยให้เราเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้นได้" ฉะนั้นนักลงทุนหน้าใหม่คนไหนอยากจะประสบความสำเร็จในฐานะนักลงทุนต้องสามารถ วิเคราะห์กิจการที่เราสนใจให้เหมือนเถ้าแก่ที่กำลังจะลงทุนซื้อธุรกิจ เราต้องมองให้ออกว่าธุรกิจที่เราสนใจอยู่มีรายได้จากไหน? ต้นทุนในการดำเนินงานมาจากอะไร? การแข่งขันเป็นยังไง? มีอะไรที่เราต้องกังวลบ้าง? อะไรคือจุดแข็งหรือจุดอ่อนของธุรกิจ? โอกาสในการเติบโตของธุรกิจอยู่ที่ตรงไหน? จะบริหารเงินสดอย่างไร? จะต้องลงทุนอะไรบ้าง?

การซื้อหุ้นโดยไม่วิเคราะห์ธุรกิจให้ถ่องแท้ก็ เหมือนกับการซื้อบ้านโดยดูแค่ราคา การลงทุนก็ไม่ต่างกันอย่างที่ เบน เกรแฮม อาจารย์ของบัฟเฟต์เคยกล่าวไว้ "ราคาคือส่ิงที่คุณจ่าย คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ"

ข้อ 5: ต้องเข้าใจเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางการเงินก่อนนำมาใช้

การ เข้าใจเครื่องมือเหล่านี้อย่างครึ่งๆกลางๆอาจจะทำให้เราประสบกับปัญหาได้ ตัวอย่างเช่น P/E หรือ อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น เราต้องเข้าใจว่า P/E ต่ำไม่ได้แปลว่าดีกว่าเสมอไป เราต้องรู้ว่า "กำไรต่อหุ้น" นั้นมีที่มายังไง (ย้อนหลังหรือปีปัจจุบัน เป็นกำไรพิเศษหรือกำไรจากการดำเนินงาน) และปัจจัยใดบ้างที่จะมีผลต่อค่า P/E เหล่านั้น สิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่ซับซ้อนและอาจจะใช้เวลาในการเรียนรู้ซักระยะ แต่ถ้าอยากจะเรียนทางลัดการเข้าอบรมหรือการหาหนังสือดีๆมาอ่านก็จะช่วยได้ ผมอยากให้คอยถามตัวเองทุกครั้งก่อนนำตัวเลขทางการเงินไปใช้ว่า "ตัวเลขนี้จริงๆแล้วคืออะไร?" "มีอะไรซ่อนอยู่ในตัวเลขนี้รึเปล่า?" "ปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อตัวเลขเหล่านี้?"

ข้อ 6: ต้องรู้จักเรียนรู้และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา

พี่ Web พรชัยเคยพูดไว้ว่า "ถ้าไม่อ่าน ถ้าไม่ศึกษา ออกจากตลาดไปเลยดีกว่า" ผมว่าคำพูดนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงเลย เพราะถ้าเราสังเกตดูนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จเกือบทุกคนมีนิสัยเป็นนักอ่านตัวยงทั้งนั้น บัฟเฟต์ ปีเตอร์ ลินช์ เกรแฮม ดร.นิเวศน์ การที่คนเหล่านี้อ่านเยอะก็เพราะเค้าเชื่อว่า "ข้อมูลคือขุมทรัพย์" หน้าที่หลักของนักลงทุนคือการตัดสินใจ และการมีฐานความรู้ที่กว้างและลึกจะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องมาก ขึ้นในระยะยาว

ข้อ 7: ฝึกการควบคุมตนเอง

เนื่องจาก การซื้อขายหุ้นทำได้ง่ายมาก การควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ไม่ไปทำอะไรที่ไม่ควรทำจะมีประโยชน์อย่างมาก การจด Investment Diary (จดบันทึกการลงทุนของเรา ว่าลงทุนตัวไหน เมื่อไหร่ เพราอะไร) การไม่ตามข่าวตามตลาดจนบ่อยเกินไป และการนั่งสมาธิเป็นประจำก็จะช่วยให้เราแยกแยะ "อารมณ์" ออกจาก "เหตุผล" ได้ง่ายขึ้น

(พี่คนขายของเคยแนะนำว่าการนั่งสมาธิวันละ 5 นาทีจะทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนดีขึ้น ผมนำมาลองใช้ดูแล้วพบว่านอกจากจะทำให้เรา "นิ่ง" ขึ้นแล้วยังช่วยให้เราเครียดน้อยลง มีความสุขกับสิ่งรอบตัวได้ง่ายขึ้นด้วยครับ)

ข้อ 8: มีความสุขในการลงทุน

ผม เชื่อว่าถ้าเราได้ทำในสิ่งที่รัก (ฉันทะ หรือ Passion) เราก็จะทำมันอย่างเต็มที่ ตั้งใจ และก็จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีขึ้น การลงทุนก็ไม่ต่างกัน จะทำผลตอบแทนให้ดีต้องมีความสุขกับการลงทุน แต่นักลงทุนหลายคนกลับมองเพียงว่าจะหาเงินให้ได้เยอะๆอย่างไร แต่สุดท้ายก็ต้องมานั่งเครียดจนไม่มีอันจะกินทุกครั้งเวลาหุ้นที่ซื้อไว้ ปรับตัวลง
ความสุขจากการลงทุนเกิดจากการที่เรามี "แนวทางในการลงทุน" ที่เหมาะกับตัวเรา บางคนชอบความตื่นเต้นเร้าใจก็จะชอบซื้อๆขายๆ บางคนชอบความมั่นคงอาจจะชอบลงทุนในกิจการที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง การได้ลงทุนในแนวทางที่เหมาะกับตัวเองจะช่วยให้เครียดน้อยลง ทำผลงานได้ดีขึ้น และที่สำคัญที่สุด จะทำให้เรามีความสุขในชีวิตมากขึ้น
สุดท้ายแล้วที่เราอยากมีเงินเยอะๆก็เพราะอยากจะมีความสุขไม่ใช่เหรอครับ?

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 20:44:08

ความคิดเห็นที่ 74

ชัย เทพหุ้นวีไอ
วันอังคารเช้า 11 ธค. เก็บหุ้น BUI หรือ บางกอกสหประกันภัย ด่วนที่สุด

BUI หรือ บางกอกสหประกันภัย ดำเนินธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตแบบครบวงจร และให้เช่าพื้นที่สำนักงาน โดยมีสาขาทั่วประเทศ 8 สาขา ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายอีก 10,000 แห่ง โดยมีศูนย์ฮอทไลน์ 24 ชั่วโมง รายได้ของบริษัท แบ่งเป็น

1.ธุรกิจประกันภัย : ประกันภัยรถยนต์ , ประกันภัยอุบัติเหตุุส่วนบุคคล , ประกันอัคคีภัย

2.ธุรกิจประกันชีวต : ประักันแบบสะสมทรัพย์ , ประกันตลอดชีพ , ประกันบำนาญ , ประกันเจ็บป่วย , ประกันโรคมะเร็ง

3.ให้เช่าพื้นที่สำนักงาน อาคารบางกอกสหประกันภัย ตึก 1 และ ตึก 2 สูง 22 ชั้น ติดถนนสุรวงศ์ ใกล้กับ บริษัท ซีพีทาวเวอร์ ปัจจุบันมีผู้เช่า 80 %

บริษัทมีพันธมิตรศูนย์ซ่อมรถยนต์ชั้นนำ 200 แห่ง และโรงพยาบาลชั้นนำ 100 แห่ง อาทิ รพ.กรุงเทพ , รพ.บำรุุุุงราษฏร์ , รพ.รามคำแหง , รพ.เกษมราษฏร์ , รพ.นนทเวช

ผลประกอบการประจำปี 2555 จะกำไรพุ่งกระฉูด สูงสุดในรอบ 10 ปี จากค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ และเบี้ยประกันชีวิตที่พุ่งเป็นประวัติศาสตร์ และเงินชดเชย จากบริษัท รับประกันภัยต่อ จากความเสียหายน้ำท่วมปีก่อน และกำไรในพอร์ทลงทุนในหุ้น จากดัชนีที่พุ่งสูง 1,340 จุด

ทำให้ BUI จะประกาศกำไรสุทธิปี 2555 กำไร 80 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4 บาท สูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรเพียง 5 ล้านบาท

บริษัทมีมูลค่าบัญชีสูงมากถึงหุ้นละ 31 บาท มีเงินสดและเงินลงทุนสูงถึง 700 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ซ่อนมูลค่า อาคารบางกอกสหประกันภัย ทั้ง 2 ตึก ซึ่งปัจจุบันมีราคาที่ดินและอาคารสูงถึง 1,500 ล้านบาท เป็นที่สนใจของกลุ่มทุน ทั้ง ซีพี , เสี่ยเจริญ , เซ็นทรัล กำลังขอเสนอซื้ออาคาร ทำให้ BUI มีมูลค่าบัญชีที่แท้จริงสูงถึงหุ้นละ 85 บาท

ข่าวดีล่าสุด กลุ่มซีพี ได้เข้าซื้อธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตหลายแห่ง ล่าสุด ได้ซื้อบริษัท ผิงอัีน ของจีน และเตรียมเข้าซื้ออีกหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ BUI

ราคาหุ้น BUI ปัจจุบัน 16.80 บาท ยังต่ำกว่ามูลค่าบัญชี และปัจจัยพื้นฐาน จึงแนะนำเก็บหุ้น BUI เต็มพอร์ท แล้วรอขาย เป้าหมายที่ราคาหุ้นละ 120 บาท

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 12:09:16

ความคิดเห็นที่ 76

http://www.youtube.com/watch?v=k-V1xvYjN1k&feature=player_embedded

http://www.youtube.com/watch?v=0c1i-6idFo0

http://www.youtube.com/watch?v=kBFLvfthVBA

http://www.youtube.com/watch?v=VDOUp9WFFaM

http://www.youtube.com/watch?v=BuuiBjL09KY&playnext=1&list=PLF088CF66C34E98E0

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 15:44:43

ความคิดเห็นที่ 77

http://www.youtube.com/watch?v=Vs5LhrxLPeM

http://www.youtube.com/watch?v=5vZ02hkJTyY&feature=share

http://www.youtube.com/watch?v=hPmAqD5mTZQ

http://www.youtube.com/watch?v=fCOm0xVowk0

http://www.youtube.com/watch?v=gD59Z5cE19Q&feature=player_embedded#!

Dang Lee
ภาค ๒. สอนลูกลงทุน…..

(เชิญชวนเพื่อนของเพื่อนให้เข้ามาเป็นสมาชิกของห้อง ชิว...ชิว....NewRayong กันมากๆครับ....ร่วมเรียนรู้การลงทุนแบบวิธีธรรมชาติไปกับลูกของผมครับ)

๑๒. การบริหารต้นทุนของแม่

...... แม่อธิบายเรื่องความสำคัญของทุนให้ผมฟัง สิ่งที่สำคัญของการลงทุนทำธุรกิจคือทุน แรกๆที่แม่เริ่มทำการค้าใหม่ๆ แม่มีทุนน้อย และแม่ก็ไม่ได้คิดอะไร แม่ทำเต้าหู้เป็นตั้งแต่แม่อยู่เมืองจีน แม่ก็เลยมาทำเต้าหู้ขายในเมืองไทย แม่เชื่อว่าเต้าหู้ที่แม่ทำต้องขายได้ แม่ลงทุนเท่าที่จำเป็น ส่วนใหญ่แม่จะใช้แรงกายของตัวเองเป็นต้นทุนที่ลงไป แรกๆสินค้าของแม่ที่ทำออกมาขายได้น้อยมาก แม่บอกว่าเขามีคนอื่นทำขายอยู่แล้ว แม่ทำเต้าหู้ขายขาดทุนทุกวัน เงินทุนที่มีมันน้อยลงๆ ตามจำนวนที่แม่ขาดทุน และนับวันความเป็นอยู่ของแม่ยิ่งแย่ลงแย่ลง สินค้าของแม่เป็นของสด ไว้นานมันเสีย แม่ต้องเพิ่มอาชีพอีกอย่างคือทอดเต้าหู้ขาย เพื่อเป็นการแปรสภาพจากเต้าหู้สดที่ขายเหลือจากตลาดในตอนเช้า เอามาทอดขายเพื่อเรียกทุนคืน การที่แม่ทำแบบนี้ทำให้แม่ยังพอมีทุนในการทำเต้าหู้ในวันต่อๆไป
แม่สอนผมว่าการที่เรามีทุน 100 บาท แล้วนำไปลงทุนเพื่อหวังว่าจะได้กำไรจากการลงทุนนั้นไม่ใช่คิดจะลงทุนทำอะไรก็ได้ ลูกลองคิดดูถ้าเงินที่ลูกลงทุนไปมันขาดทุนไปสักยี่สิบบาท นั่นหมายความว่าในวันต่อไปลูกจะมีทุนเหลือแค่แปดสิบบาท ตอนแม่เริ่มขายเต้าหู้ก็เหมือนกัน ต้นทุนในการทำเต้าหู้ต้องหนึ่งร้อยบาท ขาดทุนไปยี่สิบบาท แม่เหลือเงินแปดสิบบาทมันก็ไม่พอลงทุนทำเต้าหู้ในวันรุ่งขึ้นแล้ว แม่ถึงต้องเอาเต้าหู้ที่เหลือจากขายตอนเช้า มาทอดขายเพื่อให้ได้เงินทุนที่หายไปคืนมา แม่ต้องทำอย่างนี้เพื่อรักษาทุนที่แม่มีอยู่น้อยนิด ไม่ให้หมดไปกับการขาดทุน จำไว้ลูกรัก ตราบใดที่เรายังสามารถรักษาทุนไว้ได้ เราจะไม่อดตาย ช่องทางการทำกำไรมันจะมาหาลูกเอง จากประสบการณ์ที่ลูกเรียนรู้

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 17:33:58

ความคิดเห็นที่ 78

ม้าเฉียว ดูหุ้น
HotNews:3เทพหุ้น แจกทีเด็ดปีมะเส็ง ADVANC- DTAC- INTUCH- SYNTEC - SUSCO -TICON- CK- ROJNA
- HMPRO- MCS -PTTGC- EGCO- GLOW- RATCH -NUSA- ITD- DEMCO- LOXLEY- ROJNA- RS

3 เทพหุ้น ส่องกล้องหุ้นปีมะเส็ง พร้อมแจกทีเด็ด แทงแล้ว เฮง ADVANC- DTAC- INTUCH- SYNTEC - SUSCO -TICON- CK- ROJNA- HMPRO- MCS -PTTGC- EGCO- GLOW- RATCH -NUSA- ITD- DEMCO- LOXLEY- ROJNA- RS ปักป้าย 1,420 จุด ฟากบิ๊ก GUNKUL ปรับเพิ่มกำไรปี 55 ขึ้น 19% สะท้อนกำไร Q3/55 ดีกว่าคาด ปักธงรายได้ปี 56 โตไม่ต่ำกว่า 10% มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 4,300 ล้านบาท "วิษณุ เทพเจริญ" นายใหญ่NUSA คาดปี56 กำไรเติบโตก้าวกระโดด หลังทยอยรับรู้รายได้โครงการในมือ เผย 12ธ.ค.เตรียมอัดแคมเปญพิเศษ โดนใจให้ลูกบ้าน ที่เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมหวังก่อสร้างโครงการพัทยา ปี 56 รับรู้ ปลายปี 57 /สวนน้ำรับรู้ปี 57-58 ส่วนโครงการ MY Ozoneคาดรับรู้ปี 56 ปีหน้าเปิดโครงการใหม่ 1-2 โครงการ จากปีนี้เปิดไป2-3โครงการ หวังเปิด AEC หนุน อสังหาฯ ไทยได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:26:17

ความคิดเห็นที่ 79

ภัยร้ายจากการใช้บัตรประชาชน!!
แชร์ต่อๆ กันไปนะครับผม

เพราะทุกวันนี้ ไม่ว่าเราจะทำธุรกรรมอะไร ก็จะต้องใช้บัตรประชาชน
การเซ็นสำเนาถูกต้อง เพื่อแสดงตัวตนของเรา จึงขอนำเอาวิธีการเซ็นสำเนา
บัตรประจำตัวประชาชนที่ถูกต้องมาฝาก เพราะไม่ควรประมาท
และเพื่อป้องกัน
ตัวเราเองจากกลุ่มมิจฉาชีพในโลกยุคปัจจุบันกันครับ

1. การเซ็นสำเนาถูกต้อง บางคนอาจจะมีวิธีที่แตกต่างกัน เพราะบางคนอาจจะ
ขีดเส้นขนาน แล้วเขียน "สำเนาถูกต้อง" แต่จะมีเส้นหรือไม่มีเส้นขีด
ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น
2. สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเซ็นรับรองสำเนา ทุกครั้งหลัง
จากเซ็นรับรองแล้ว ต้องเขียนรายละเอียดกำกับด้วยว่า ใช้เพื่ออะไร เช่น
ใช้เพื่อสมัครงานเท่านั้น ใช้เพื่อเปิดบัญชีธนาคารเท่านั้น
3. นอกจากจะเซ็นกำกับรายละเอียดแล้ว สิ่งที่ควรเขียนลงบนสำเนาคือ
วัน เดือน ปี เพื่อเป็นการกำหนดอายุการใช้งานของสำเนาเราได้อีกด้วย
4. ต้องเขียนข้อความทั้งหมด ลงบนสำเนา ส่วนที่เป็นบัตรประชาชน
หรือ บนเอกสารสำคัญอื่นๆ
5. และที่สำคัญต้องใช้ปากกาหมึกสีดำเท่านั้น เพราะเครื่องถ่าย
เอกสารบางชนิด สามารถถ่ายเอกสาร โดยดึงหมึกสีน้ำเงินออก
ให้เหลือแต่ข้อความบนบัตรประชาชนได้

สำหรับหลักการทั้ง 5 ข้อนี้ เป็นวิธีการเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง และเป็นเทคนิคในการป้องกันตัวเอง
จากกลุ่มมิจฉาชีพได้อีกด้วยนะครับ ข้อมูลจากเพจ S.M.Cleaning Products
แชร์

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:59:31

ความคิดเห็นที่ 80

ดวง

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:00:23

ความคิดเห็นที่ 81

Ton Prechanont
Road to Billion (ถนนสู่ความมั่งคั่ง)
คำแนะนำธรรมดาๆ เพื่อกำไรที่ไม่ธรรมดา by ลูกอิสาน
(แนวคิดดีๆจากประสบการณ์จริงจาก VI ที่เก่งที่สุดคนนึงในเมืองไทย)

1.การลงทุนในหุ้นไม่มีทางลัด หากนักลงทุนต้องการผลลัพธ์การลงทุนที่ดี การลงทุนศึกษาหาความรู้ ติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานของกิจการเป็นสิ่งจำเป็น นักลงทุนที่ทำมากกว่า ย่อมมีแนวโน้มที่จะทำให้ดีกว่าคนที่ทำน้อย หากเปรียบเทียบผลลัพธ์กับความพยายามในแง่ความคุ้มค่า ชีวิตคนๆหนึ่งอาจใช้เวลาในการศึกษา เล่าเรียนศาสตร์ต่างๆเกือบ 20 ปี และสำเร็จออกมาเพียงเพื่อเป็นมนุษย์เงินเดือน ซึ่งมีโอกาสน้อยที่จะบรรลุอิสรภาพทางการเงิน และมีเวลาที่จะทำสิ่งที่อยากจะทำ มีกำลังที่จะช่วยเหลือสังคม การมุ่งเน้นศึกษาการลงทุนในหุ้นตามแนวทางเน้นมูลค่าเพียงระยะเวลาไม่นาน และสละเวลาติดตามข่าวสาร ความก้าวหน้าของกิจการบ้าง อาจจะเปลี่ยนชีวิตคนทั้งชีวิต

2. ตัดสินใจซื้อและขายหุ้นบนพื้นฐานของกิจการ การลงทุนซื้อหรือขายหุ้นทุกครั้ง นักลงทุนควรพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของกิจการ เพราะหุ้นคือส่วนหนึ่งของเจ้าของกิจการ การวิเคราะห์หุ้นก็คือการวิเคราะห์กิจการนั่นเอง

3. สิ่งที่ยากที่สุดในการลงทุนระยะยาวในหุ้น คือการพยายามเป็นนักลงทุนที่ใช้เหตุผล ในสภาวะที่ไม่มีใครมองหาเหตุผล ความสามารถในการมองเห็นกระแส โดยที่ตัวนักลงทุนเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระแสนั้น สิ่งที่นักลงทุนควรเข้าใจคือเมื่อมนุษย์มาอยู่รวมกัน จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบคล้ายๆกันเกิดเป็นพฤติกรรมหมู่ หากเกิดมากๆเรียกว่ากระแส ซึ่งบ่อยครั้งพฤติกรรมเหล่านี้จะออกห่างจากความมีเหตุมีผลมากขึ้นทุกทีๆ นักลงทุนที่ใช้เหตุผลควรเพิกเฉยและมองหาประโยชน์จากกระแสนั้นๆ การประสบความสำเร็จในการลงทุนระยะยาวนั้น ต้องอาศัยทั้งปัญญาและสติ การขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะทำให้การลงทุนไปไม่ถึงฝั่ง

4. การลงทุนอย่างมีความสุขคือการหาจุดสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง การมุ่งเน้นผลตอบแทนมากเกินไป อาจจะทำให้การลงทุนประสบหายนะ ในขณะที่การเน้นปกป้องความเสี่ยงมากเกินไป จะทำให้การลงทุนไม่อาจสร้างความแตกต่าง เสมือนเรือที่ลอยนิ่งอยู่กลางน้ำ

5. รู้จักตัวเอง และลงทุนให้เหมาะกับสภาพของตัวเอง นักลงทุนแต่ละคนย่อมแตกต่างกันทั้งในด้านทัศนะคติ อุปนิสัยใจคอ ความสามารถในการรับความเสี่ยง จำนวนเงินทุน ดังนั้นการรู้ตัวเอง เข้าใจตัวเอง และนำจุดแข็งมาใช้ประโยชน์ในการลงทุน จะดีกว่าการพยายามเลียนแบบการลงทุนตามนักลงทุนคนอื่นๆ ซึ่งมีสภาพที่แตกต่างออกไป ตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่เน้นความปลอดภัยของเงินต้น ย่อมรับความเสี่ยงได้น้อยกว่า การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และมั่นคงจะเป็นทางเลือกต้นๆ ในขณะที่นักลงทุนที่มีเงินลงทุนไม่มาก สามารถลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่มีขนาดเล็ก ในขณะที่นักลงทุนที่มีเงินทุนสูงไม่สามารถลงทุนได้

6. แรงผลักดันราคาหุ้น ประการแรกคือโดยปัจจัยพื้นฐานความก้าวหน้าของกิจการ ประการที่สองคือแรงผลักดันจากปัจจัยทางด้านอารมณ์ของนักลงทุนในตลาด การเข้าใจแรงผลักดันประเด็นแรก เพียงพอที่จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จ แต่การเข้าใจทั้งสองประเด็น จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จยิ่งกว่า

7. หุ้นของทุกๆกิจการมีมูลค่าที่ควรจะเป็น นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ หากซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น หุ้นที่แม้จะมีความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่น มีการเติบโตของผลกำไรสูง หากนักลงทุนเข้าซื้อที่ราคาแพงเกินไป การลงทุนนั้นอาจจะไม่ทำกำไร แย่กว่านั้นอาจจะขาดทุน ในขณะที่หุ้นที่อาจจะมีพื้นฐานด้อยกว่า หากซื้อในราคาที่ต่ำ มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยเพียงพอ การลงทุนนั้นก็สามารถสร้างกำไรได้ พูดได้ว่าผลลัพธ์การลงทุนขึ้นอยู่กับราคาที่เราจ่ายเปรียบเทียบกับคุณภาพของกิจการที่นักลงทุนได้รับ

8.หุ้นที่ชนะในระยะยาวคือหุ้นของกิจการที่มีอัตราการเติบโตสูง และกิจการต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่น การขาดอย่างใดอย่างหนึ่งจะทำให้ธุรกิจหรือราคาหุ้นไปได้ไม่ไกล ธุรกิจที่โดดเด่น มักจะขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ลูกค้าต้องใช้ซ้ำๆ สามารถขยายฐานลูกค้าออกไปได้ ในขณะที่ลูกค้าเดิมยังคงอยู่ และคู่แข่งไม่สามารถเข้ามาแข่งขัน หรือเข้ามาได้ยาก หากนักลงทุนสามารถซื้อหุ้นกิจการเหล่านี้ได้ในราคาถูกหรือราคาสมเหตุสมผล และถือไว้ในระยะยาว การลงทุนเช่นนี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีเลิศ

9. ราคาหุ้นในระยะสั้นเหมือนเครื่องโหวตคะแนนเสียง แต่ราคาหุ้นในระยะยาวเสมือนเครื่องชั่ง ในระยะสั้นๆมีปัจจัยมากมายที่กระทบราคาหุ้น ทั้งข่าวสารต่างๆ ภาวะเศรษกิจ อารมณ์โลภ กลัว แรงซื้อจากรายใหญ่ แรงซื้อจากต่างชาติ ราคาหุ้นสามารถขึ้นหรือลงได้อย่างไร้เหตุผล แต่ในระยะยาวราคาหุ้นจะไปตามผลประกอบการเสมอ ผลประกอบการเป็นเสมือนมือที่มองไม่เห็นที่คอยกำหนดราคาหุ้น ความจริงที่ว่าราคาหุ้นในระยะยาวจะสะท้อนผลประกอบการเสมอ เป็นความจริงที่สมบูรณ์แบบในตลาดหุ้น

10. จังหวะในการซื้อหุ้นที่ดีที่สุดคือตอนที่มีข่าวร้ายมากที่สุด ทั้งที่พื้นฐานของธุรกิจไม่ได้เปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนทั่วไปมีแนวโน้มจะขายหุ้นเมื่อราคาลดลง และเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้น เพราะนั่นทำให้นักลงทุนสบายใจมากกว่า หากซื้อหุ้นแล้วราคาลดลง นักลงทุนจะรู้สึกผิด และสงสัยว่าทำไมตลาดหรือนักลงทุนคนอื่นๆไม่คิดอย่างนั้น ด้วยความไม่แน่ใจนี้ นักลงทุนจะมีข้ออ้างต่างๆในการขายหุ้นออกไป เช่นว่า หุ้นดีทำไมราคาลง มีข่าวร้ายอะไรที่นักลงทุนยังไม่รู้หรือเปล่า ขายไปก่อนแล้วรอรับกลับที่ราคาต่ำกว่า หรือคำกล่าวที่ว่าถูกแล้วยังมีถูกอีก

และในทางตรงกันข้ามเมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้น นักลงทุนจะกระตือรือร้นที่จะซื้อหุ้น ด้วยข้ออ้างที่คล้ายคลึงกัน เช่น หุ้นน่าจะดี เพราะไม่ดีราคาคงไม่ขึ้น มีข่าวดีๆอะไรที่นักลงทุนยังไม่รู้หรือเปล่า ด้วยเหตุผลเหล่านี้ หุ้นที่ราคาสูงขึ้น จะสูงขึ้นอีก ยิ่งซื้อราคาก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นยิ่งทำให้นักลงทุนสบายใจ เพราะเข้าใจว่าการลงทุนนั้นถูกตัดสินจากตลาดว่าถูกต้อง แนวโน้มที่นักลงทุนทำการขายเมื่อราคาหุ้นถูก ซื้อเมื่อราคาหุ้นแพง อย่างนี้ จะทำให้การลงทุนล้มเหลวหรือไปได้ไม่ไกล นักลงทุนที่ดีควรทำในทางตรงกันข้าม โดยตัดสินใจซื้อและขายบนพื้นฐานของกิจการ หลีกเลี่ยงไม่ให้อารมณ์ของตลาดเข้ามามีผล ข้อควรระวังของประเด็นนี้คือ การซื้อหุ้นเพียงเพราะเห็นว่าราคาลดลง โดยไม่ได้ตรวจสอบดูว่าพื้นฐานของกิจการมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า จะเป็นอันตรายต่อการลงทุนพอๆกัน

11. มองภาพใหญ่ อย่าใส่ใจภาพเล็ก กิจการทุกกิจการย่อมมีข้อดี ข้อเด่นข้อด้อย แตกต่างกันไป ไม่มีกิจการใดที่ดีพร้อม หรือแย่ไปหมดทุกอย่าง นักลงทุนควรจะเลือกกิจการที่มีข้อเสียน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับราคา การให้ความสำคัญมากเกินไปกับข้อเสียเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ได้มีนัยยะสำคัญอะไร ทำให้นักลงทุนหลายๆคนพลาด ปล่อยโอกาสที่จะได้ลงทุนในกิจการที่ดีเยี่ยมหลุดลอยไป

12. พัฒนาการลงทุน เทคนิควิธีการลงทุนที่เคยใช้ได้ผลดีในวันนี้ อาจจะใช้ไม่ได้ผลดีในวันข้างหน้า วิธีที่เคยใช้ได้ผลดีในต่างประเทศ ไม่สามารถนำมาใช้ได้ผลดีภายในประเทศ ธุรกิจที่ดีในวันนี้ อาจจะไม่ใช่ธุรกิจที่ดีในเวลาต่อมา มีธุรกิจดาวร่วงก็มีธุรกิจดาวรุ่ง นักลงทุนที่ดีควรยืดหยุ่นที่จะปรับการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม กาลเวลาที่เปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือควรตัดสินใจลงทุนโดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ

13. อย่าเสี่ยงเกินตัว การกู้หนี้ยืมสินเพื่อซื้อหุ้น การทุ่มซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป แม้อาจจะให้ผลตอบแทนสูงๆติดต่อกันหลายครั้ง แต่หากเกิดความผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียว อาจไม่มีโอกาสแม้จะแก้ตัว แม้ความเสี่ยงสามารถลดลงได้ด้วยความรู้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่นักลงทุนคนหนึ่งๆจะมีขอบเขตความรู้ในทุกๆเรื่อง นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ การกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์หรือในจำนวนกิจการที่ลงทุนบ้าง เป็นสิ่งที่นักลงทุนควรใส่ใจ

14. การลงทุนระยาวในหุ้น แน่นอนที่สุดว่าจะต้องผ่านทั้งวันคืนที่ดี วันคืนที่แย่ และวันที่แย่สุดๆ การรับรู้และเข้าใจเรื่องนี้ พร้อมที่จะรับมือกับวันร้ายๆ จะดีกว่าการพยายามที่จะหาจังหวะเข้าออกจากตลาด โดยการทำนาย ทายทัก คาดเดา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะประมาณความถูกต้อง หากการลงทุนระยะยาว สร้างความหวาดกลัววิตกว่าสักวันเหตุการณ์แย่ๆอาจจะเกิดขึ้น การมีทัศนคติที่ว่าในระยะยาวการลงทุนในหุ้นจะให้ผลตอบแทนสูงสุด จะทำให้นักลงทุนถือหุ้นระยะยาวได้อย่างมั่นคง

อ่านจากใน Webboard ของ Thai VI ได้ที่นี่ครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=7&t=27346

Thai Value Investor Webboard • View topic - คำแนะนำธรรมดาๆ เพื่อกำไรที่ไม่ธรรมดา
board.thaivi.org

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:10:16

ความคิดเห็นที่ 82

http://www.youtube.com/watch?v=kAsg7SvSVuI

http://www.youtube.com/watch?v=1pDARIlFvx8&feature=share

http://www.youtube.com/watch?v=cXdmeTrB7UI

http://www.youtube.com/watch?v=cIwUsOUbzjM

http://www.youtube.com/watch?v=cWzyZYyV0hY

http://www.youtube.com/watch?v=D2IMkyuoAWs

http://www.youtube.com/watch?v=xSuWKN3TWfs

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 16:08:04

ความคิดเห็นที่ 83

http://www.youtube.com/watch?v=rwf9mr4hzLo&feature=share

http://www.youtube.com/watch?v=WQOP-WWGEw0

http://www.youtube.com/watch?v=VShZpJW0izA

http://www.youtube.com/watch?v=rbrCi-JSM3M

http://www.youtube.com/watch?v=lL3pnIClQhY

http://www.youtube.com/watch?v=8JXTBCt-oYw

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 16:55:23

ความคิดเห็นที่ 84

อีกบทความที่ดีครับ เอามาฝากวันหยุดครับ

Value Way ฉบับวันที่ 3 ธันวาคม 2555
โดย ประภาคาร ภราดรภิบาล
เด็ดดอกไม้ รดน้ำวัชพืช

“แอนโทนี่ โบลตัน” ผู้จัดการกองทุนชื่อดังของประเทศอังกฤษได้กล่าวถึงข้อสังเกตเกี่ยวกับ “พฤติกรรมของนักลงทุน” ไว้ประการหนึ่งว่า นักลงทุนนั้นมักจะขายทำกำไรง่ายเกินไป แต่ขายตัดขาดทุนยากเกินไป
“ขายทำกำไรง่ายเกินไป” หมายถึงว่า เมื่อซื้อหุ้นมา แล้วราคาของหุ้นนั้นปรับตัวสูงขึ้นไป นักลงทุนมักจะขายทำกำไรอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ราคาหุ้นนั้นยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นไปได้อีก
“ขายตัดขาดทุนยากเกินไป” หมายถึง เมื่อซื้อหุ้นมา แล้วราคาของหุ้นร่วงลงต่ำกว่าราคาที่ซื้อ นักลงทุนมักจะไม่ยอมขายขาดทุน แต่เก็บหุ้นนั้นเอาไว้ เพื่อรอให้ราคาหุ้นกลับขึ้นมาแล้วจึงค่อยขายทิ้งไป
พฤติกรรมที่ว่านี้ “ปีเตอร์ ลินซ์” เปรียบเทียบว่าเป็นการ “เด็ดดอกไม้ แล้วรดน้ำวัชพืช” คือแทนที่จะเก็บหุ้นที่มีแนวโน้มที่ดีและมีโอกาสทำกำไรสูงๆเอาไว้ กลับรีบขายออกไป เปรียบเหมือนการ “เด็ดดอกไม้” ทิ้ง ทั้งๆที่ควรจะปล่อยให้มันเติบโตงอกงาม ส่วนหุ้นที่แย่ๆและขาดทุนซึ่งน่าจะขายทิ้งไป กลับยังถือเก็บไว้ในพอร์ต เปรียบเหมือนการ “รดน้ำวัชพืช” ทั้งๆที่มันไม่ได้ให้ประโยชน์หรือสร้างผลตอบแทนใดๆให้เลย “ปีเตอร์ ลินซ์” กล่าวว่า ในการลงทุนนั้น “คุณจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี จากการเด็ดดอกไม้และรดน้ำวัชพืช”
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ประสบความสำเร็จสูงในการลงทุนก็คือ เขาทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับนักลงทุนคนอื่นๆที่มัวแต่ “เด็ดดอกไม้ แล้วรดน้ำวัชพืช” เขากล่าวถึงหลักการลงทุนของเขาไว้ว่า “หากเราได้เป็นเจ้าของธุรกิจชั้นยอดซึ่งบริหารโดยผู้บริหารที่โดดเด่น เราก็ต้องการจะถือมันไว้ตลอดไป เราเป็นพวกตรงข้ามกับนักลงทุนที่รีบร้อนขายทำกำไรในบริษัทที่มีผลประกอบการดีๆ แต่มักจะกอดธุรกิจที่มีผลงานย่ำแย่เอาไว้อย่างเหนียวแน่น”
พฤติกรรมที่นักลงทุนมักจะขายหุ้นตัวที่ได้กำไรเร็วเกินไป และเก็บหุ้นที่ขาดทุนไว้ในพอร์ตนั้น ในทางจิตวิทยาเรียกว่า “Disposition Effect” ซึ่งเป็นพฤติกรรมในการ “หลีกเลี่ยงความเสียใจ” และ “เสาะหาความภาคภูมิใจ”
การที่นักลงทุนชอบ “ขายทำกำไร” มากกว่าที่จะ “ขายขาดทุน” ก็เพราะการขายหุ้น “ทำกำไร” ได้ เป็นเหมือนการยืนยันว่า สิ่งที่เขาตัดสินใจทำลงไปนั้นถูกต้องและประสบความสำเร็จ นำมาซึ่งความภาคภูมิใจ
แต่การ “ขายขาดทุน” นั้นเท่ากับเป็นการยอมรับว่า สิ่งที่เขาตัดสินใจทำลงไปนั้นผิดพลาดและล้มเหลว ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงโดยการเลื่อนเวลาขายหุ้นออกไปก่อน ด้วยความคิดที่ว่า “ไม่ขาย ไม่ขาดทุน” และจะรอขายเมื่อราคาของหุ้นตัวนั้นกลับขึ้นมาในระดับเดิม
ในกรณีเช่นนี้ “แอนโทนี่ โบลตัน” ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า นักลงทุนควรจะลืมราคาต้นทุนของหุ้นที่ซื้อมา เพราะราคาหุ้นจะส่งผลเชิงจิตวิทยาต่อนักลงทุนโดยเฉพาะเมื่อราคาหุ้นตก สิ่งที่นักลงทุนควรทำก็คือการหมั่นตรวจสอบกิจการที่ลงทุนเป็นระยะๆ ถ้าพื้นฐานของกิจการนั้นเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง ก็ควรจะขายหุ้นนั้นออกไป ไม่ว่าราคาหุ้นจะต่ำกว่าต้นทุนหรือไม่ก็ตาม
สำหรับนักลงทุนที่กำลัง “รดน้ำวัชพืช” คือเก็บหุ้นแย่ๆไว้ในพอร์ต โดยไม่ยอมขายขาดทุน และได้แต่เฝ้ารอให้ราคาหุ้นกลับขึ้นมาแล้วจึงค่อยขายทิ้งไป “โบลตัน” ให้ข้อคิดไว้ว่า “การพยายามเอาเงินคืนจากหุ้นที่คุณขาดทุนเพียงเพราะคุณต้องการพิสูจน์ว่า เหตุผลเริ่มแรกของคุณถูกต้องเป็นเรื่องอันตราย กฎทั่วไปในแวดวงการลงทุนก็คือ อย่าพยายามเอาเงินคืนจากหุ้นที่คุณขาดทุน”
ลองสำรวจพอร์ตโฟลิโอซึ่งเป็นเสมือน “สวนแห่งการลงทุน” ของคุณดูนะครับ ว่ามี “ดอกไม้” อยู่มากแค่ไหน และมี “วัชพืช” บ้างหรือไม่ ถ้าพบว่ามี “วัชพืช” ปะปนอยู่ก็ให้เด็ดทิ้งไปซะ เอาเวลาที่มีค่าของคุณมาดูแลและรดน้ำ “ดอกไม้” ดีกว่าครับ

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 17:01:05

ความคิดเห็นที่ 85

เรียนรู้วิธีคิดพิชิตหุ้น ตอนที่ 30 เมื่อไหร่ที่คุณเล่นหุ้นที่มีเจ้าของหุ้นลงเล่นทำเกมซะเอง คุณมีโอกาสที่แพ้กับแพ้ครับถ้าคุณตามเกมไม่ทันหรือไม่รู้จริง

การลงทุนในหุ้นมิใช่เล่นเพียงแค่ซื้อมาขายไป หรือรู้เพียงแค่วิธีซื้อวิธีขายหุ้น ดูจากข่าว เล่นตามกระแส เดินตามบทวิเคราะห์ ฟังมาร์เก็ตติ้ง เท่านั้นนะครับ แต่ในมิติที่ลึก มีมุมที่ซ่อนเร้นอยู่มากมาย ที่พวกเรายังไม่รู้ไม่ทราบแอบแฝงพรางตัวเป็นกับดักเป็นไปหมด เรื่องการเล่นกับเงิน ซึ่งเป็นจุดรวมของผลประโยชน์อันมหาศาล ที่หลายคนหลายกลุ่มหลายพวกพึงหวังเข้ามากอบโกยเงินจากตลาดทุนกันทุกคน ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ว่า ใครจะมีชั้นเชิง มีกลวิธี มีโอกาสที่ดีกว่ากัน

พวกเจ้าของหุ้นก็มียุทธวิธีจะโกยกำไรจากตลาดทุน เช่น รู้อินไซด์ สร้างกระแสข่าว ชี้นำแนวโน้มธุรกิจ พวกเจ้าของหุ้นก็จะใช้ความได้เปรียบในเชิงข้อมูลนี้ละครับ นำมาตักตวงผลประโยชน์เข้าสู่ตัวเองโดยพวกเราปฏิเสธไม่ได้ หุ้นบางตัวเจ้าของหุ้นก็ลงมาเป็นเจ้ามือซะเอง กระชากลากดันทำเกมดูดเงินจากประเป๋านักเล่นหุ้น มีการสร้างกระแสจริงกระแสเทียม วาดฝันชี้นำให้นักเล่นหุ้นเกิดอาการฝันหวานตามแห่เข้ามาเป็นแมงเม่าเล่นกับกองไฟ

ความอันตรายของการเล่นหุ้น ก็คือการเล่นหุ้นกับเจ้าของหุ้นโดยที่เรานั้นไม่รู้แจ้งรู้ชัดและรู้จริง เช่นเจ้าของหุ้น การได้เปรียบเสียเปรียบในจุดนี้ระหว่างเจ้าของหุ้นที่เข้ามาเล่นหุ้นซะเอง กับนักเล่นหุ้นโดยทั่วไปที่ต้องการแสวงหาเพียงแค่กำไรติดปลายนวม ซึ่งปั้นปลายของเกมการเล่นหุ้นตัวที่มีเจ้าของเข้ามาคุมเกมซะเอง ย่อมสร้างความเสี่ยงอย่างที่สุดต่อผู้ที่ร่วมลงเล่นด้วยอย่างแน่นอนครับ

ส่วนที่พูดกันว่า หุ้นตัวไหนตัวใดที่มีเจ้ามือลงมาเล่นด้วยนั้น น่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะช่วยให้ภาวะหุ้นนั้นมีภาพที่ดูคึกคักขึ้น ผมว่าคำพูด หรือการคิดเช่นนี้เป็นสิ่งที่ผิดอย่างสิ้นเชิงครับ เพราะการที่เจ้าของหุ้นลงมาเล่น ทำเกมในหุ้นตัวเอง ซะเองเช่นนั้นแล้ว การได้เปรียบในเชิงข้อมูลย่อมมีมากกว่าผู้อื่นแน่ และในแง่ของกำลังเงิน และจำนวนหุ้น เขาก็สามารถที่จะคุมเกมหุ้นได้อย่างสบาย ในขณะเดียวกันจ้าของหุ้นยังสามารถสร้างกระแส ออกข่าว โฆษณาชวนเชื่อได้อีก

นักเล่นหุ้นที่เข้าเล่นในหุ้นที่มีเจ้าของหุ้นลงมาเล่นหุ้นด้วยเองนั้น จะตกกลายเป็นจิ้งหรีด ที่ถูกปั่นหัวให้หมุน งง ตัวเอง แล้วก็ได้แต่ร้อง สุดท้ายก็หนีไม่พ้นกับผู้ที่อยู่ในภาวะขาดทุนซ้ำซาก เพราะพวกเจ้ามือหุ้นที่เป็นเจ้าของหุ้น จะคอยตักตวงเงินจากการทำเกมในหุ้น จากกระเป๋านักเล่นหุ้นที่รู้ไม่เท่าทัน นำเข้ากระเป๋าตัวเองอย่างง่าย ๆ ดังนั้นการเล่นหุ้นพวกเราต้องเคยตรวจสอบดูละครับว่า เรากำลังเล่นหุ้นตัวนั้น ๆ กับอะไร กับพื้นฐานของหุ้น หรือกับเจ้าของหุ้น

ที่ผ่านมามีให้เห็นมากมายนะครับ เกี่ยวกับหุ้นที่มีเจ้าของเข้ามาคุมเกมเป็นเจ้ามือ มีทั้งหุ้นที่เน่า หุ้นที่ดี หุ้นที่กำลังจะดี และหุ้นที่ดีกำลังจะเน่า แม้แต่หุ้นที่พึ่งเริ่มเข็นเข้าสู่ตลาดกระจายขาย IPO ก็ตามครับ ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะ เช่น หุ้นที่มีการออกข่าวธุรกิจจะโตได้ในอนาคต แต่แท้ที่จริงอนาคตของหุ้นกับย่ำแย่ เช่นหุ้นในหมวดเหล็กอยู่ตัวหนึ่ง เข้าตลาดมาขาย IPO แถวราคา 3 บาท เจ้าของหุ้นบอกว่าอนาคตหุ้นดี ยกตัวอย่างร้อยแปดพันประการ ที่สุดแล้วงบการเงินโชว์ออกมากำไรไม่ดีอย่างที่พูด ราคาหุ้นตกลงเรื่อยๆ ผู้ได้ประโยชน์คือเจ้าของหุ้นละครับ

หุ้นที่เทรดอยู่ในตลาด ที่มีเจ้าของร่วมลงเป็นคนทำเกม หลายตัวหุ้นครับ ที่มีการเรียก เชิญนักวิเคราะห์ ไปเยี่ยมชมกิจการแล้วเจ้าของก็ให้ข้อมูลเชิงบวกแก่นักวิเคราะห์ พวกนักวิเคราะห์ก็นำมาเขียนบทวิ เคราะห์เชียร์แนะนำให้นักเล่นหุ้นซื้อกันโดยชี้ราคาเป้าหมายไว้ซะเลิศหรู สุดท้ายผลการดำเนินงานโชว์ออกมาไม่เป็นอย่างที่เจ้าของว่าหุ้นก็ตกซะแล้ว แต่ก่อนหน้าเจ้าของขายคว้ากำไรไปบาน คนเล่นหุ้นทั่วไปก็ขาดทุนกันทั่วหน้า แต่ก็ทำได้เพียงแค่บ่นๆๆ เท่านั้นละครับ

วิธีการดูหุ้นที่มีเจ้าของหุ้นทำเกมเล่นซะเอง มักจะมีกระแสข่าวที่ประชาสัมพันธ์ออกมาเป็นระยะ ๆ โดยส่วนใหญ่จะชี้ว่าเป็นข้อมูลจากแหล่งข่าว ดูการรายงานของตลาดหลักทรัพย์ว่าผู้บริหารขายหรือซื้อหุ้นในช่วงนั้น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง ถี่ขึ้นหรือมากขึ้น เกมบนกระดานหุ้นจะร้อนแรงในเชิงการเก็งกำไรมีกระชากลากทุบจนวอลุ่มหนาตา สังเกตมองจากโบรกเกอร์ที่มีการซื้อขายในหุ้นตัวดังกล่าวมาก ๆ มีความเกี่ยวข้องผูกพันกับเจ้าของหุ้น หรือเจ้าของหุ้นใช้บริการอยู่หรือไม่

ผมเองนั้น หากเล่นหุ้นแล้วรู้ว่าเจ้าของหุ้นลงมาร่วมเล่นด้วย อย่างเอาจริงเอาจัง หรือเป็นคนคุมเกมหุ้นซะเอง ผมจะหลีกเลี่ยงและไม่เล่นหุ้นตัวดังกล่าวอย่างแน่นอน เพราะเราจะไม่ทันเกมเขา เราจะกลายเป็นผู้ตามที่ถูกเขาลากจูงได้ แต่หากเราจะเล่นหุ้นที่เจ้าของคุมเกม เราต้องยืนอยู่ซีกฝั่งเจ้าของหุ้นให้ได้ เล่นไปตามแนวทางเดียวกับเจ้าของหุ้น ซึ่งนักเล่นหุ้นรายย่อยคงทำไม่ได้ และคงทำได้อยาก แต่สำหรับนักลงทุนมือใหญ่แล้วเจ้าของหุ้นอาจจะต้องพึงพิงเพื่อหวังให้ร่วมเป็นพันธมิตร

ดังนั้นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหนีห่างคือ หุ้นที่มีเจ้าของลงเล่นคุมเกม หุ้นที่มีเจ้าของคอยตักตวงผลประโยชน์จากหุ้นมากกว่าการทำธุรกิจหรือบริษัทให้เจริญรุ่งเรือง หุ้นที่เจ้าของขาดความรับผิดชอบ ไม่มีจรรยาบรรณ ไม่มีหลักธรรมาภิบาล ไม่มีความรับผิดชอบต่อนักลงทุนรายย่อย ยังมีหุ้นในตลาดหุ้นอีกมากมายครับ ที่เป็นหุ้นพื้นฐานดี มีผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพ มีเจ้าของหุ้นที่มุ่งเน้นทำธุรกิจมากกว่าการเข้ามาดูแลหุ้นหรือกอบโกยผลประโยชน์จากส่วนต่างราคาหุ้นอย่างเดียว เราควรพิจารณาแล้วเลือกหุ้นที่ดีพร้อมครับเข้าลงทุนอย่างรู้จริง ท้ายสุดเราจะชนะหุ้นเองครับ

ช่วงนี้อากาศบนเขาค้อเย็นมาก เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ สัมผัสบรรยากาศที่ดี ธุรกิจ รีสอร์ทเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า White Home ของผมเปิดให้บริการแล้วนะครับ ยินดีต้อนรับทุกท่าน หากท่านมาเยือนจองที่พักได้หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 081-8670054 นะครับ หวังว่า คุณ ๆ ทั้งหลายจะมาเยี่ยมเยือนผมบนเขาค้อนะครับ ขอบคุณ
3ถูกใจ · · แชร์
จ๋อมแจ๋ม อิอิ, Nuntapuck Suksanti, Kan's Natveena และ คนอื่นอีก 66 คน ถูกใจสิ่งนี้

Kuntapon Chooharun ขอบพระคุณมากครับ แล้วจะหาโอกาสไปพักนะครับ
3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Totti Lor ได้เพิ่มมุมมองอีกหลายชั้น ขอบคุณมากครับ
3 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ

Ladaratana Sriruxsar จะเดินทางไปเขาค้อ 3มกรา ยังพอมีห้องว่างไหมคะ อาจารย์ยุ่เปล่าคะ
3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Tachapon Kraisithkul ขอบคุณครับ อาจารย์ แล้วจะหาโอกาสไปครับ
3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Tachapon Kraisithkul ขอบคุณครับ อาจารย์ แล้วจะโทรไปจองครับ
3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Learning Fluctuations ไปพรุ่งนี้ครับ แต่พักที่ The sense โอกาสหน้าจะไปอุดหนุน White home แน่นอนครับ
3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Kaewalee Triamjangarun ขอบคุณค่ะ อยากไปแต่ป่วยเรื่องอากาศเปลี่ยนแปลง คอยอ่าน FB อาจารย์อยู่ที่บ้านค่ะ และขอให้ตลาดหุ้นพรุ่งนี้อย่าหนาวเหน็บเจ็บปวดเหมือนอากาศเย็นบนดอยนะคะ
2 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Praneet Jantarabenjakul ขอบคุณค่ะสำหรับข้อคิดดีๆ หุ้นเหล็กที่อาจารย์กล่าวถึงคือchow ผิดหวังกับหุ้นตัวนี้มากเหมือนกันค่ะ
2 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Suki Prepream ขอบคุณคับ
2 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Wakul Thanasongsin วันที่ 30 ธค-1 มค ยังว่างไม๊คะ
2 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Viyada Yok Yok ขอบคุณค่ะ
2 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ

Maraporn Tanakjt ขอบคุณสำหรับข้อคิดดี ๆ จาก อจ.ค่ะ
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Sukanya Boonchalermkit ขอบคุณค่ะอาจารย์สำหรับข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ ทำให้รู้ว่าการเล่นหุ้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด อาจตกเป็นเหยื่อให้เจ้าของหุ้นสูบจนหมดตัวก็ได้ แต่ข้อมูลก็มีมากจนไม่รู้อันไหนจริงอันไหนเท็จนะคะ พี่คิดว่าเราต้องมีผู้รู้จริงอย่างอาจารย์ไว้เป็นที่ปรึกษาค่ะ และก็เป็นโชคดีของพี่ที่มีโอกาสได้รู้จักอาจารย์และเป็นสมาชิกพญาเหยี่ยวค่ะ
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

สิปปกร ขาวสอาด ตอนนี้รีสอร์ทยังว่าง
27 นาทีที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 17:04:31

ความคิดเห็นที่ 86

5 อันดับหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด

1.BBL ปิดที่ 190 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท หรือ 2.70% มูลค่าการซื้อขาย 2,550 ล้านบาท
2.SCB ปิดที่ 175.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.5 บาท หรือ 2.63% มูลค่าการซื้อขาย 2,358 ล้านบาท
3.PTTEP ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.33% มูลค่าการซื้อขาย 2,010 ล้านบาท
4.KBANK ปิดที่ 196 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 1.01% มูลค่าการซื้อขาย 1,930 ล้านบาท
5.CPALL ปิดที่ 42 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 2.44% มูลค่าการซื้อขาย 1,802 ล้านบาท

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 19:33:27

ความคิดเห็นที่ 87

Dang Lee
ภาค ๒. สอนลูกลงทุน…..

(เชิญชวนเพื่อนของเพื่อนให้เข้ามาเป็นสมาชิกของห้อง ชิว...ชิว....NewRayong กันมากๆครับ....ร่วมเรียนรู้การลงทุนแบบวิธีธรรมชาติไปกับลูกของผมครับ)

๑๔. บทเรียนของผม....เหรียญที่พลิกกลับด้าน

.......สามวันก่อนหวยออกมักจะเป็นช่วงที่ขายดีของล็อตเตอรี่ แต่มันไม่เป็นไปอย่างที่ผมคิด งวดกลางเดือนมันขายยากจนผมหมดกำลังใจ มิน่าเจ้าของร้านถึงเร่งขายส่งออกโดยยอมขายถูกลงมา เช้าวันหวยออกผมเหลือล็อตเตอรี่อยู่ร่วม 90 ใบ แม่บอกผมว่า ถ้าลูกขายไม่หมด พรุ่งนี้มันก็เป็นแค่เศษกระดาษ แม่ให้ผมลดราคาขายจาก 11 บาท มาขาย 10 บาท ผมยังดื้อขาย 11 บาท จนถึงเที่ยง ผมยังเหลือล็อตเตอรี่อีก 80 ใบ ผมเริ่มคิดถึงสิ่งที่แม่สอน แต่มันไม่ทันเวลาแล้วครับ...เพราะทุกร้านที่ขายล็อตเตอรี่ก็เหลือกันทุกร้าน ต่างลดราคาหนีตายกันทุกร้าน ผมยังขาดเงิน 430 บาท ถึงจะได้ทุนคืน แม่บอกผมให้ผมขายออกไปในราคาใบละ 9 บาท 8 บาท ขาดทุนก็ต้องขาย ผมบอกแม่ว่าผมไม่ขาย ถ้าขาดทุนผมเก็บไว้ตรวจเองดีกว่า ผมตัดสินใจเก็บล็อตเตอรี่ที่ขายเหลือไว้ตรวจเอง ผลก็คือล็อตเตอรี่ที่เหลือไม่ถูกรางวัลอะไรเลยแม้แต่เลขท้ายสองตัว ผมขาดทุนไป 400 บาทในงวดนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้นผมเอาเงินที่ขายได้ทั้งหมดออกมานับดู ผมมีเงินที่ขายได้ทั้งหมด 1,320 บาท กับเศษกระดาษอีก 80 ใบ ผมต้องจ่างเงินที่ยืมคืนแม่อีก 300 บาท ผมเหลือเงินสดอยู่ 1,020 บาทจากเงินทุนที่ผมลงไป 1,450 บาท ผมใจเสียเลยครับที่จู่เงินที่ผมเก็บสะสมมาตั้งนานหายไปเป็นเศษกระดาษแค่ข้ามคืน ผมขาดทุนไปร่วม 30% สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องใหญ่มากที่ผมสูญเสียเงินไปขนาดนี้
ผมมานั่งทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ถ้าผมขายล็อตเตอรี่เล่มเดียวเหมือนงวดที่แล้ว ผมจะขายหมดสบายๆ ได้กำไร 200 บาท รวมกับงวดแรกที่ได้ 200 บาท ผมจะกำเงินกำไรไว้ในมือ 400 บาท แต่ตอนนี้ ผมกลับมาขาดทุน 430 บาท ถ้าผมขายล็อตเตอรี่งวดละหนึ่งเล่ม ผมต้องใช้เวลาขายอีกกสองงวดถึงจะได้ทุนคืน ถ้าผมเชื่อแม่ยอมลดราคาเพื่อรักษาทุนไว้ ผมจะประหยัดเวลาการขายล็อตเตอรี่ไปได้ถึงสองงวด.....นี่คือความสำคัญของการรักษาเงินทุนที่แม่ผมสอนมา และผมเอาประสบการณ์จริงที่ผมเจอมากับตัวเองมาสอนลูกผมอีกทีครับ ในการลงทุนในตลาดหุ้นก็เหมือนกันครับ อย่ามองแต่จะทำกำไรจนลืมนึกถึงเหรียญอีกด้านหนึ่งนะครับ และถ้าเหรียญมันพลิกกลับด้านเพื่อนต้องกล้าที่จะตัดขาดทุนนะครับ อย่าโลภแบบผม

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 19:35:29

ความคิดเห็นที่ 88

Dang Lee
ภาค ๒. สอนลูกลงทุน…..

(เชิญชวนเพื่อนของเพื่อนให้เข้ามาเป็นสมาชิกของห้อง ชิว...ชิว....NewRayong กันมากๆครับ....ร่วมเรียนรู้การลงทุนแบบวิธีธรรมชาติไปกับลูกของผมครับ)

๑๓. บทเรียนของผม....เรื่องเงินทุนที่หายไป

......แม่สอนผมเรื่องการรักษาทุน....เพราะเหตุว่าผมเคยพลาดจากการเดินขายล็อตเตอรี่ ซึ่งเป็นกิจการของผมเอง....แรกๆที่ผมเดินขายล็อตเตอรี่ผมใช้วิธีซื้อล็อตเตอรี่จากร้านขายทีละใบสองใบ ขายได้แล้วค่อยไปซื้อมาขายใหม่....เมื่อกิจการมันดีขึ้นผมก็อยากได้กำไรมากขึ้น ผมไปเจรจากับร้านขายส่งล็อตเตอรี่เพื่อที่จะซื้อล็อตเตอรี่ในราคาขายส่ง แต่ผมต้องซื้อยกเล่ม หนึ่งเล่มมีล็อตเตอรี่ 100 ใบ ผมต้องลงทุนด้วยเงินจำนวน 900 บาท ทางร้านให้ผมกำไร 10% จากราคาขายใบละ 10 บาท และเมื่อบวกกับส่วนเกินที่ผมขาย 11 บาท เท่ากับว่าผมจะได้กำไรใบละ 2 บาท นั่นหมายความว่าถ้าผมขายหมด 100 ใบ ผมจะได้กำไร 200 บาท ผมมั่นใจว่าผมขายหมดภายในเวลา 10 วันก่อนล็อตเตอรี่ออก ....เงิน 200 บาทมันเป็นเงินจำนวนมากสำหรับเด็กอย่างผม...ผมตัดสินใจเอาเงินกำไรที่ผมเก็บสะสมไว้จากการขายผงชูรส เอามาลงทุนซื้อล็อตเตอรี่....งวดแรกผ่านไป...ผมได้กำไรตามเป้าหมาย.....งวดที่สองซึ่งเป็นงวดกลางเดือน คือเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ถึงวันที่ 20 เป็นวันหวยออก งวดนี้ทางร้านที่ขายส่งบอกผมว่าให้เอาเพิ่มอีกเล่ม เขาจะให้กำไรผมเพิ่มอีกใบละ 25 สตางค์....ผมมีเงินไม่พอที่จะลงทุนขาดไปสามร้อยบาท ผมกลับมาขอยืมเงินแม่ ผมเล่าให้แม่ฟัง แม่เตือนผมว่า อย่าโลภเกินกำลังนะ ระวังขายไมหมด จะขาดทุน.....ผมกำลังอยู่ในอารมณ์ความโลภ เห็นเงินกำไรที่ผมจะได้จากการขายล็อตเตอรี่ ผมบอกแม่ว่า เชื่อฝีมือผมเถอะ ผมทำได้แน่นอน แม่ให้ผมยืมเงินตามที่ผมต้องการ
.....งวดนี้ผมเดินขายล็อตเตอรี่ด้วยความมั่นใจ....ว่าผมจะได้กำไรจากการขายล็อตเตอรี่เป็นเงิน 450 บาท แต่มันไม่เป็นไปตามที่ผมตั้งใจไว้ งวดกลางเดือนมันขายไม่ดีเหมือนงวดต้นเดือน ผมมีเวลาสิบวันเท่าเดิม แต่ผมต้องขายมากขึ้นอีกหนึ่งเท่า ในวันที่ 11-14 ผมขายล็อตเตอรี่ได้ไม่ถึง สามสิบใบเลย....ผมต้องเพิ่มเวลาขายมากขึ้น...แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นเวลาผ่านมาถึงวันที่ 17 ผมยังเหลือล็อตเตอรี่อยู่ในมืออีก ร่วม130 ใบ ผมต้องขายให้ได้อีก 90 ใบผมถึงจะได้ทุนคืนที่ 1,750 บาท

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 19:37:11

ความคิดเห็นที่ 89

PTTEP เกิด common Gap ทำให้ราคาจะแกว่งตัวเป็น Sideway ในกรอบ 153-159
PTT ยังให้แนวรับที่ 324
BANPU คนที่จะรอ Short รอที่ 440
PTTGC รับที่ 66
ADVANC มีแนวรับ 2 แนว ให้แบ่งไม้รับ 210 กับ 203
SCC TOP ให้หลีกเลี่ยงไปก่อนในช่วงนี้
BBL แนวรับ 185
KABNK ติดแนวต้านสำคัญที่ 200
SCB ถ้าผ่าน 172 ได้ จะเป็นตัวนำตัวต่อไป

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 20:02:24

ความคิดเห็นที่ 90

: pluem [11 ธันวาคม 2555 10:17]

ผมเป็นเพื่อนเรียนคณะเดียวกันครับ ขี้เกียจออกตัวในกระทู้ เพราะที่อ่านดู ทุกท่านมีความเชื่อเหนียวแน่น เอาแม่น้ำมาล้างก็ไม่สะอาด ผมก็ยังไม่รู้เธอผิดอะไร เรื่องร้ายแรงขนาดไหน แต่เธอคงไมเข้าแล้วครับ จะให้ผมไม่เข้าด้วย ชวนมาแท้ๆๆ หุ หุ หุ แต่ก็ไม่เข้าบ่อยหรอกครับ ผมเล่นแค่สนุก ไม่มีเงิน วันนี้ต้องไปง้อๆๆหน่อยยังไงก็เพื่อนกัน ชื่อเล่นที่คณะหนูนกการะเวก หรือน้องแน๊ต (แนนซี่)ครับ แล้วแต่เพื่อนเรียก วันหนึ่งความจริงปรากฏจะมีใครเสียใจที่ทำให้คนดีๆๆต้องไปไหมครับ คนละแบบกับนายแสนดี(คุณkiss)ก็คุยแล้วครับ หลังไมค์คุยกัน คุณkissก็รู้จักแม่นางไซซีครับ อ.ธราธิปรู้จักแม่นางไซซี แต่อ.คงเหมือนผม พูดไม่ออกครับ
To : m-ko [10 ธันวาคม 2555 12:09]

ขอโทษครับ ผมตลกเท่านั้น ไม่มีจุดประสงค์อื่นครับ อย่าโกรธครับ อยากคุยแบบสนุกๆๆมากกว่าครับ บายๆๆๆ
To : *Stolen Kiss* [9 ธันวาคม 2555 17:00]

คุณkiss ฟังเพลงครับ ข้อคิดก็ให้ดูที่ห้องปออันแล้ว เราปิดปากใครไม่ได้ มีแต่เราไม่สน เราไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอครับ ช่วยคนอื่นๆให้มากไว้ กำลังใจสำคัญที่สุดครับ ผมเป็นเพื่อนที่มหาลัยเดียวกันกับแม่นางไซซี ตอนนี้แม่นางโดนหาว่าเป็นชาย ด้วยสารพัดข้อหา ผมออกหน้าช่วยไม่ได้เพราะพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ ความคิดคนเปลี่ยนยาก เราไม่สนอย่างเดียว ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนครับ
To : pluem [9 ธันวาคม 2555 13:21]

เห็นวิจารณ์กันมาก ว่าหญิงหรือชาย มีคนหลังไมค์ ให้อ่านเมื่อวาน เลย มีfbชุดหนึ่ง เค้าเล่นกัน ให้ทาย เลยให้เพื่อนลงให้คะ หนูเล่นfb กะไม่เข้าพันทิปแล้วคะ

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 10:05:05

ความคิดเห็นที่ 91

Stock Spiner
‎12/12/12 TargetPrice

BAY 36.0 | EPS = 2.4 | Recommendation = Hold
BBL 220.0 | EPS = 17.25 | Recommendation = Outperform Market
BEAUTY 13.8 | EPS = 0.54 | Recommendation = Buy
BECL 35.0 | EPS = 2.95 | Recommendation = Buy
CK 14.0 | EPS = 0.22 | Recommendation = Trading Buy
CPN 90.0 | EPS = 2.84 | Recommendation = Buy
GFPT 8.5 | EPS = 0.01 | Recommendation = Hold
GL 83.3 | EPS = 4.88 | Recommendation = Hold
KCE 11.5 | EPS = 1.32 | Recommendation = Buy
LPN 19.25 | EPS = 1.39 | Recommendation = Trading Buy
PTT 403.0 | EPS = 37.95 | Recommendation = Buy
PTTGC 74.0 | EPS = 6.03 | Recommendation = Buy
SC 29.0 | EPS = 1.82 | Recommendation = Buy
SYMC 29.0 | EPS = 0.84 | Recommendation = Buy
THCOM 28.0 | EPS = 0.14 | Recommendation = Buy
TTA 17.5 | EPS = 0.23 | Recommendation = Trading Buy

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 18:37:50

ความคิดเห็นที่ 92

อ่านช้าๆ และทำความเข้าใจ กับมันว่าพื้นฐานมันเปลี่ยนจริง จากอายุสัมปทาน A=600,C=600,สองรายการนี้ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แล้ว ส่วน D=1,000ป้ายอันนี้ได้แล้วครับเพียงแต่รอทางการประกาศแล้วบริษัทถึงจะแจ้งตลาดอีกครั้ง เหมือนตอนได้AกับCเวลาประมูลได้ คนที่ประมูลเค้าจะรู้ว่าเค้าได้แต่ไม่สามารถประกาศได้ต้องรอทาง ข.ส.ม.กประกาศก่อนเค้าถึงจะกล้าประกาศ รวมทั้งหมด2,200ป้ายส่วนที่เหลืออีก1,300ป้ายมาจากของเก่าที่ได้สัมปทานมาอายุ10ปี คือสถานี Airport link 8สถานี ,สุวรรณภูมิทั้งหมดทั้งoutdoor และindoor ,รถcity line ทีนี้ส่วนหลังเค้าทำอยู่แล้ว ส่วนสัญญาใหม่ ต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา คิดแบบง่ายๆ สัญญา AกับCรวมกัน1,200ป้าย ทางtsfเค้าเซ้งต่อ ได้กำไรทันทีปีล่ะ200ล้านแล้วคนที่เซ้งต่อเค้าต้องมีกำไร ต่อจากการเซ้ง อย่างน้อย net profit 30% หมายความว่าคนที่เซ้งต่อ จะกำไร60ล้านต่อปี หลังจากหักค่าใช้จ่ายหมดแล้ว ส่วนสัญญาDทางTSF ทำเอง ค่าใช้จ่ายยิ่งน้อยเพราะมีบุคลากรอยู่แล้ว และกำลังreorganize องค์กรอยู่ เพราะกรรมการชุดใหม่ จะทำให้การบริหารสานีAirport link สุวรรณภูมิ city line สามารถ cover ค่าใช้จ่ายได้และมีกำไร ดังนั้น สัญญาD ผมคาดว่าจะมีรายได้ =24,00*1,000*12เดือน จะมีรายได้ 288ล้านต่อปีหักออกบ้างเล็กน้อยกรณีไม่เต็มcapacityเหลือซัก250ล้านต่อปี หักค่าใช้จ่ายไม่มาก เพราะป้ายเดิมที่ทุกคนเห็นอยู่ทางเจซีเดอโก้ เค้ามีหน้าที่ต้องดูแลอย่างดี เมื่อหมดสัมปทานสิ่งที่เค้าทำลงไปต้องส่งมอบคืนทั้งหมดห้ามถอนหรือรื้อ อย่างงี้ทางTSF สวมต่อเลย ผมคิดว่าเมื่อรวมรายได้ A+C+D =200+250=450ล้าน ส่วนอีก1,300ป้าย ผมว่าผู้บริหารชุดใหม่สามารถบริหารให้มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วน่าจะได้ซัก 180ล้านเมื่อรวมกันแล้ว ประมาณ=630ล้าน หักภาษีปีหน้าที่20%จะเหลือnet profitประมาณ617ล้าน (บริษัทมีขาดทุนสะสมน้อยมาก).ส่วนหักค่าเสื่อมลิขสิทธ์สัมปทาน ประมาณปีล่ะ38ล้าน ผมสรุปเป็นตัวเลขกลมๆคือnet profit ประมาณ600ล้าน บริษัทนี้มีหุ้นประมาณ2พันล้านหุ้น ดังนั้นกำไรต่อหุ้นประมาณ0.30 ถ้าเล่นpe10=ก็3บาท pe15. ก็4.50บาท เนื่องจากบริษัทแทบไม่มีหนี้ เปลี่ยนผู้บริหารใหม่ การเกิดeconomy of scale และสัญญาสัมปทานซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้บริษัทมีรายได้แน่นอน และคิดว่าเสร็จจากงานนี้ สัญญาสัมปทานของทาง ก.ท.ม. พื้นที่มหาศาลทะยอยหมดไปโอกาสที่TSF จะได้สัมปทานมีสูงมาก (เมืองไทยทำธุรกิจต้องมีconnection)ส่วนข่าวที่ลงผมเอามาแปะให้ เอาไว้อ่านประกอบ ที่เค้าประเมินไว้ก็ใกล้เคียงเพราะเค้าเขียนตามที่ผู้บริหารให้สัมภาษณ์ ป.ล. หุ้นSlc,liveผมไม่กล้าเข้าเพราะไม่รู้ว่ามันมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือปั่นแปะ แต่TSF นี้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าเป็นหุ้นเหมือน2ตัวนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา นี่แหละครับหุ้นสามารถพลิกportได้ถ้าเราเข้าใจมัน อย่าลืมดูภาพประกอบด้วยน่ะครับ

ธันวาคม 8, 2012 เทคนิคส่วนตัว 0 Comment(s) ข้อมูลข้างล่างดังต่อไปนี้ พยายามอ่านช้าๆ และทำความเข้าใจ กับมันว่าพื้นฐานมันเปลี่ยนจริง จากอายุสัมปทาน A=600,C=600,สองรายการนี้ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แล้ว ส่วน D=1,000ป้ายอันนี้ได้แล้วครับเพียงแต่รอทางการประกาศแล้วบริษัทถึงจะแจ้งตลาดอีกครั้ง เหมือนตอนได้AกับCเวลาประมูลได้ คนที่ประมูลเค้าจะรู้ว่าเค้าได้แต่ไม่สามารถประกาศได้ต้องรอทาง ข.ส.ม.กประกาศก่อนเค้าถึงจะกล้าประกาศ รวมทั้งหมด2,200ป้ายส่วนที่เหลืออีก1,300ป้ายมาจากของเก่าที่ได้สัมปทานมาอายุ10ปี คือสถานี Airport link 8สถานี ,สุวรรณภูมิทั้งหมดทั้งoutdoor และindoor ,รถcity line ทีนี้ส่วนหลังเค้าทำอยู่แล้ว ส่วนสัญญาใหม่ ต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา คิดแบบง่ายๆ สัญญา AกับCรวมกัน1,200ป้าย ทางtsfเค้าเซ้งต่อ ได้กำไรทันทีปีล่ะ200ล้านแล้วคนที่เซ้งต่อเค้าต้องมีกำไร ต่อจากการเซ้ง อย่างน้อย net profit 30% หมายความว่าคนที่เซ้งต่อ จะกำไร60ล้านต่อปี หลังจากหักค่าใช้จ่ายหมดแล้ว ส่วนสัญญาDทางTSF ทำเอง ค่าใช้จ่ายยิ่งน้อยเพราะมีบุคลากรอยู่แล้ว [...] Continue reading

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 19:47:00

ความคิดเห็นที่ 93

Rose Jds
วันหุ้นไทยคงขึ้นในช่วงเช้า....ตามเกม... Be events คือการที่นักเก็งกำไรอาชีพ.....จะใช้ทำให้หุ้นขึ้นโดยใช้เวลาที่ก่อนที่มีการคาดหวังของข่าวใหญ่.....ไม่ว่าจะลุ้นว่าเป็นข่าวใหญ่ที่จะออกมาดีหรือจากร้ายเป็นดี......โดยใช้การตีข่าวโหมโรงโดยอาศัยการข่าวทุกแขนงโดยใช้นักวิเคราะห์ระดับโลกและใช้คำว่าการ"คาดการณ์" การเก็งกำไรในช่วงเช่นนี้นิยมเรียกว่า"การจุดไฟล่อแมลง" จะมีขึ้นก่อนการประชุม FOMC/ยูโรโซน......ซึ่งวันนี้เรื่องสำคัญคือเรืองกรีซหากจ่ายหนี้ไม่ได้ก็จะน่ากลัวมาก...จะกระทบประเทศในกลุ่มยูโรโซน ที่ใช้สกุลเงิน เดียวกันที่มี17 ประเทศที่ประเทศหลายประเทศ กำลังเกิดปัญหาหนี้สินอยู่ เช่นโปตุเกต กรีซ และสเปน....ก็จะไม่มีผลใดๆเพราะจะปิดข่าวกัน.....ขาใหญ่คงหยิบยกข่าวการประชุมของทางสหรัฐเป็นกระแสในการสร้างข่าวเก็งกำไรกันในวันนี้....แต่หากข่าวมีข้อสรุปของการประชุมFOMEหรือเฟด ...ปรากฎออกมาในวันนี้...ก็ต้องโดยขายทันที่ที่เรียกว่า"Sell on fact"เหมือนข่าว3Gเป็นตัวอย่างพอศาลไมารับฟ้องซึ่งเป็นข่าวดี...แต่ราคาก็ลงทันที(เป็นตัวอย่าง) ข่าวสร้างความโลภ ก็คงดังขึ้นตามแหล่งข่าวต่างๆเป็นวิธีการของนักเก็งกำไรในตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีรายย่อยเป็นเหยื่อของระบบเสมอ.... จึงขอเตือนมือใหม่ระมัดวังด้วยอย่าแห่ไล่ราคาไปเดียวจะโดนขังไว้บนดอยนะครับ....แต่หากทนการขึ้นชั่วคราวอดไม่ได้ก็ต้องเฝ้าจอเตรียม CUTทันที่เมื่อความจริงปรากฎ...... และขออภัยบรรดาเซียนมา ณ โอกาสนี้ อีกเรื่องอดไม่ได้ที่ต้องกล่าวถึง คือ เมื่อคืนนี้ฟังข่าวช่องดาวเทียมของไทยที่เสนอข่าวหุ้นเป็นหลัก ผู้ดำเนินรายการได้อ้างถึงการวิเคราะห์คาดดการณ์(เดา)ว่าปีหน้า ดัชนีจะขึ้นไปถึง1478จุด ผมฟังแล้วก็นึกหัวเราะในตายบนเตียงเลย หากเป็นตัวเลขกลมๆก็ฟังได้ แต่มีเศษ1478จุด เป็นการชี้นำที่ให้เกิดความน่าเชื่อมากขึ้น เหมือนกับเราเคยฟังเด็กโกหกให้ฟังว่าวันนี้ ไปเทียวมาเจอนกสวยมากๆสีแดงปากสีทองมีจุกสีเหลือง เพื่อโน้วน้าวในคนฟังเชื่อนั่นเอง ชั่งน่าขันและน่า แจ้งให้ ก.ส.ท.ช ฟังหรือหน่วยงานที่ดูแลการทำข่าวชี้นำ

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 19:56:55

ความคิดเห็นที่ 94

http://www.youtube.com/watch?v=4AzKsXCjcfo&feature=player_detailpage

http://portal.settrade.com/actions/customization/IPO/webboard/pre_board.jsp?content=qa.jsp&tid=34093

Nattawat Onratn
สถาการณ์ของหุ้นส่วนใหญ่ ชนแนวต้านสำคัญ
หรือไม่ก็ห่างจากแนวต้านสำคัญ ไม่มาก
มีเพียง SCC เท่านั้น ที่ยังมีแรงซื้อที่แข็งแรงมาก
เพราะเกี่ยวเนื่องกับ ธุรกิจที่น่าสนใจในปีหน้า
คือ ปิโตรเคมี กับ ก่อสร้าง SCC มีทั้งสองธุรกิจ
ยังมี PTTGC อีกตัว ที่ขายแล้ว รับคืนไม่ได้ ถือว่าแข็งแรง
วันนี้มี BANPU อีกตัวที่ มีแรงซื้อแบบมีนัยสำคัญเข้ามา
ไม่มีแรงขายหนักๆ แบบนี้อาจจบขาลงแล้วก็ได้คับ
ADVANC ช่วงนี้ตั้งรับ ที่ 210 น่าจะปลอดภัยกว่า
แล้วก็ไม่ควรรับเต็มไม้
IVL ต้องยืนเหนือ 26.5 ให้ได้ก่อน ผมถึงจะพิจรารณา ว่าจบขาลงแล้ว
ส่วน THAI สวยมาก ภายใน 3 วันนี้ ถ้ายืนเหนือ 22 บาทได้ก็จะไปได้เรื่อยๆ

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 22:03:21

ความคิดเห็นที่ 95

Nitikorn Sukumal
ซีพี” เปิดแผนร่วมทุน “จีน” ตั้งบริษัท “ซีพี มอเตอร์ โฮลดิ้ง” เพื่อเป็นฐานผลิตรถยนต์ “เอ็มจี” ป้อนตลาดโลก คาดดันไทยเป็นดีทรอยต์แห่งเอเชีย

นายนพดล เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรม (จีน) เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ร่วมทุนกับ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Shanghai Automotive Industry Corp. - SAIC) ในสัดส่วน 49% ในการจัดตั้งบริษัท ซีพี มอเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ MG ป้อนสู่ตลาดไทยและตลาดโลก โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตและส่งออกไปยังทุกประเทศทั่วโลก เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของเอเชีย หรือดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia) ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน และมีส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน

โดยในเฟสแรกของการลงทุนจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเลือกที่ตั้งโรงงานซึ่งต้องการสร้างโรงงานที่อยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบังเพื่อสะดวกในการส่งออกไปต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มทำการตลาดในปี พ.ศ. 2557 ซึ่งรถยนต์ MG รุ่นแรกที่จะจำหน่ายในไทยนั้นจะเป็น MG 6 MG 3 และ MG 5 ซึ่งในระยะเริ่มต้นจะนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบในไทย และในช่วงแรกตั้งเป้าหมายผลิต 50,000 คัน/ปี และมีแผนที่จะขยายการผลิตเป็น 200,000 คัน/ปี ในอนาคต

“เครือเจริญโภคภัณฑ์เชื่อมั่นในการลงทุนครั้งนี้ มั่นใจว่ารถยนต์ MG ที่จะผลิตในไทยและส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลกจะได้รับความนิยม เนื่องจาก MG รถยนต์มาตรฐานยุโรปที่มีคุณภาพระดับโลก ซึ่งผู้บริโภคไทยรู้จักและยอมรับในคุณภาพมาตรฐาน” นายนพดลกล่าว

ทั้งนี้ SAIC เป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในจีน ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ปีละกว่า 4 ล้านคัน และยังเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในการร่วมทุนกับบริษัทรถยนต์ระดับโลกอีกหลายแห่งมาเป็นเวลานาน และเมื่อเร็วๆ นี้ SAIC ได้ลงทุนมหาศาลเป็นเงินกว่า 20,000 ล้านบาทสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ จะมีการออกแบบ ค้นคว้า วิจัยเพื่อรองรับตลาดในอนาคต โดยมีพนักงานออกแบบกว่า 300 คน และเมื่อ SAIC มีนโยบายที่จะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาเพียงแห่งเดียวเพื่อป้อนตลาดโลก เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงไม่ลังเลที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจลงทุนเปิดตลาดรถยนต์ MG ในประเทศไทย และส่งออกไปทั่วโลก

สำหรับ MG เป็นรถยนต์ที่มีประวัติยาวนานเกือบ 100 ปี โดยมีต้นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ SAIC เข้าไปซื้อกิจการ MG ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 และได้ตั้งโรงงานผลิต MG ขึ้นใหม่อีกแห่งที่ประเทศจีน โดยผลิตเป็นรถยนต์พวงมาลัยซ้ายเพื่อรองรับตลาดรถยนต์ในจีน
Cr.ผู้จัดการออนไลน์
ถูกใจ · · ติดตามโพสต์ · 5 ชั่วโมงที่แล้ว
10 คน ถูกใจสิ่งนี้

Nitikorn Sukumal เจ้าสัวแกโหดจริงๆ พอน้องไก่กำลังตั้งหลักจะวิ่ง แกก็ทิ้งบอมบ์อีกลูก เบื่อแล้วเนี่ย ว่าแต่นิคมอะไรเอ่ยอยู่แถวแหลมฉบัง
5 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ

Nitikorn Sukumal โดนข่าวนี้เข้าไป ติดที่1 เลยน้องไก่วันนี้โดนขายนะไม่ใช่โดนซื้อ สงสัยต้องเลิกคบหุ้นเจ้าสัวซะแล้ว
5 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

May Patcharasorn ข่าวนี้ มีผลกับcpf. หรอค่ะ. ผุ้รุ้ช่วยตอบด้วยค่ะ
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ · ถูกใจ

Nitikorn Sukumal ตามความคิดนะครับ คือ นลท.คงกลัวจะมีการขายหุ้นในกลุ่ม CP ออกมาอีก เหมือนคราวในการซ้ือกิจการผิงอันมีการขาย cpf,cpall ออกมาแบบบิ๊กล๊อต ซึ่งคราวนี้เราก็ยังไม่รู้ขนาดของการร่วมทุนว่าใหญ่แค่ไหน แล้วเจ้าสัวแกจะเอาเงินตรงไหนมาลงอีก แกจะขายหุ้นออกมาอีกมั๊ย cpal...ดูเพิ่มเติม
ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1

Sonchai Boonmung จ้าวสัวตั้งเยอะ
40 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 22:17:36

ความคิดเห็นที่ 96

Ning Duangjai
ตลท.เผย JAS-KK-TTW ถูกนำเข้าคำนวณ SET 50, ส่วน AAV- ROJNA-SPCG-
SSI-THRE-WORK นำเข้าคำนวณ SET 100

ตลท.ได้ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET50, SET100 และดัชนี
SETHD เริ่มใช้ 1 ม.ค. 2556เผย JAS-KK-TTW ถูกนำเข้าคำนวณ SET 50, ส่วน AAV-
ROJNA-SPCG-SSI-THRE-WORK นำเข้าคำนวณ SET 100

นางเกศรา มัญชุศรี ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ตลาดหลัก
ทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะใช้
ในการคำนวณดัชนี SET50 ดัชนี SET100 และดัชนี SET High Dividend 30 Index
(SETHD) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 โดยเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน
2556
การคัดเลือกหลักทรัพย์สำหรับดัชนี SET50 ในครั้งนี้ มีหลักทรัพย์ที่ได้รับคัดเลือกเข้า
มาใหม่ 3 หลักทรัพย์ คือ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน
(KK) และบมจ.น้ำประปาไทย (TTW) ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี SET50 มี
มูลค่าตามราคาตลาดรวม ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2555 ทั้งสิ้น 8,319,112 ล้านบาท คิดเป็น 78.96
% ของมูลค่าตามราคาตลาดของหลักทรัพย์ทั้งหมด เมื่อเทียบกับมูลค่าตามราคาตลาดของดัชนี
SET50 ช่วงกลางปีที่ผ่านมาพบว่าเพิ่มขึ้น 7 %
ส่วนดัชนี SET100 มีหลักทรัพย์ใหม่ 6 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น
(AAV) บมจ. สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) บมจ. เอสพีซีจี (SPCG) บมจ. สหวิริยาสตี
ลอินดัสตรี (SSI) บมจ. ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE) และ บมจ. เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เท
นเมนท์ (WORK) โดยหลักทรัพย์ในดัชนี SET100 มีมูลค่าตามราคาตลาดรวม ณ สิ้นเดือน พ.
ย. ที่ผ่านมาเท่ากับ 9,078,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.88 % จากช่วงกลางปี และคิดเป็น 86.17
% ของมูลค่าตามราคาตลาดของหลักทรัพย์ทั้งหมด
สำหรับดัชนี SET High Dividend (SETHD) มีหลักทรัพย์เข้าใหม่จำนวน 2 หลัก
ทรัพย์ คือ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) และ บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม
(PTTEP) โดยกลุ่มหลักทรัพย์ของทั้ง 30 บริษัทที่ใช้คำนวณดัชนี SETHD รอบนี้ มีอัตราผลตอบ
แทนเงินปันผลเฉลี่ยสูงถึง 4.12 % ในขณะที่อัตราผลตอบแทนเงินปันผลของตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยรวมเท่ากับ 3.03 %

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 22:26:36

ความคิดเห็นที่ 97

Napatsamon Nenruksa
หุ้นไทยปิดลบ 0.76 จุด ที่ 1,353.81 จุด ตามตลาดต่างประเทศ ท่ามกลางแรงขายทำกำไรระยะสั้น
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 ธ.ค.) ดัชนีแกว่งตัวในช่วงแคบตามตลาดต่างประเทศ ท่ามกลางแรงขายทำกำไรระยะสั้น เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่า จะยังคงอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 1,360.23 จุด และต่ำสุดที่ 1,350.55 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,353.81 จุด ลดลง 0.76 จุด หรือ 0.06%

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย

CPFปิดที่ 34.00บาท -0.25 (-0.73%)

PTT ปิดที่ 329.00บาท -2.00 (-0.60%)

SCB ปิดที่ 175.50บาท +1.50 (+0.86%)

SCCปิดที่ 426.00บาท +8.00 (+1.91%)

BBLปิดที่ 191.50บาท -0.50 (-0.26%)

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 22:40:29

ความคิดเห็นที่ 98

ชัย เทพหุ้นวีไอ
ชัย เทพหุ้นปั่น

เนื่องจาก ดัชนีตลาดหุ้นไทย เข้าสู่ภาวะกระทิงไฟ โบรกเกอร์ทุกแห่ง ยืนยันดัชนีในปี 2556 จะเข้าสู่้ 1,800 จุด ทำสถิติสูงสุด จากตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่เติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีน และ อเมริกา

ดังนั้นจากวันนี้เป็นต้นไป ชัย เทพหุ้นวีไอ จะแนะนำหุ้น ในลักษณะเรียลไทม์ นาที ต่อ นาที หุ้นตัวไหน กำลังจะปั่น กำลังไล่ราคา บริษัทไหนมีข่าวอินไซเดอร์ จะรายงานทันที นาทีต่อนาที

โดยข้อมูลสดๆ จาก 3 จ้าววีไอ 3 โบรกเกอร์จ้าวเดย์เทรด กิมเอง , ฟินันเซียไซรัส , คันทรี่กรุ๊ป และ 3 เสี่ยแห่งวงการ เสี่ยปู่ หมอ เสี่ยฉาย

เก็งกำไร ไม้สั้น ไล่ราคาทันที มีกำไร 10 % ขาย แล้วลุยตัวใหม่ โดยจะรายงานสด ในระบบ 3 G เรียลไทม์ ทันที

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:47:16

ความคิดเห็นที่ 99

Rose Jds
กระชากหน้ากาก “เจ้ามือ” ในตลาดหุ้น มี 5 พฤติกรรมปั่น หลอกแมงเม่าเข้าปิ้ง เผยวิธีดู Bid-Offer ที่จะได้รู้ทัน “เจ้ามือ” เอกยุทธเตือนรายย่อยเล่นหุ้น อย่าโลภ-อย่าเป็นเสือหวน

นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานบริหารเครือโอเรียนเต็ล มาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า อยากแนะนำวิธีในการพิจารณาดู Bid-Offer (ฝั่งซ้าย-ฝั่งขวา) ให้กับนักลงทุนรายย่อยว่า จะมองอย่างไรถึงจะรู้ว่า ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้น-วิ่งลง ซึ่งข้อมูลทั้งหมด ขอยืนยันว่าไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัว แต่เป็นเพียงมุมมองหนึ่งที่ศึกษาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่คลุกคลีอยู่ในแวดวง ตลาดหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เห็นภาพอะไรบางอย่างชัดเจนว่า ตลาดหุ้นแต่ละประเทศจะมีรูปแบบการเล่นที่ไม่เหมือนกัน

“โดยเฉพาะกับตลาดหุ้นในเมืองไทย ที่ต้องยอมรับกันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การกำหนดเกมของ “เจ้ามือ” เป็นหลัก จึงจะขอวิเคราะห์จากตลาดเมืองไทยเป็นหลัก และนี่ก็ไม่ใช่ตำราที่จะนำไปใช้อ้างอิงใดๆ เป็นเพียงมุมมองของคนที่อยู่ในแวดวงตลาดหุ้น ที่ไม่อยากให้
นักลงทุนรายย่อยทั้งหลายต้องตกเป็น “เหยื่อ” อันโอชะให้ “เจ้ามือ” ทั้งหลายกอบโกย...เฉพาะอย่างยิ่งกับ “เจ้ามือ” ที่อาศัยฐานอำนาจรัฐมาเป็นเกราะป้องกันให้ตัวเอง สร้างความร่ำรวยบนความทุกข์ระทมของคนอื่น”นายเอกยุทธกล่าว

สำหรับ 5 หลักการคร่าวๆ ที่ขอแนะนำให้นักลงทุนรายย่อยได้พึงสังเกตพฤติกรรมและวิธีการเล่นของ “เจ้ามือ” ว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากหุ้นแต่ละตัวนั้น จะมีปัจจัยพื้นฐานและความน่าสนใจที่แตกต่างกัน จึงต้องมีรูปแบบการเล่นที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้...คือ

1.พฤติกรรมย่ำราคา โดยสังเกตได้จาก Bid ด้านซ้าย จะหนามากๆ และมีปริมาณการซื้อ-ขายที่มาก ในระดับราคาที่ยืนอยู่นิ่งๆ นานๆ โดยแนะนำให้สังเกตดูเป็นรายชั่วโมง เพราะจะสามารถแยกรูปแบบการเล่นนี้ ออกได้เป็น 2 ลักษณะคือ

1.1 ย่ำราคาเพื่อเรียกร้องความสนใจ...จะ เป็นการสร้าง Volume แบบหนามากๆ ตลอดเวลา โดยราคาไม่ได้พุ่งขึ้นตามไป ถือว่าเป็นการ “โชว์” ให้นักลงทุนได้เห็นว่า หุ้นตัวนั้นๆ มีแนวโน้มที่จะ “เล่น” กันในระยะเวลาอันใกล้นี้ เปรียบได้กับเป็นอีกรูปแบบที่
“เจ้ามือ” ทยอยเก็บของ เพราะหาก “เจ้ามือ” ซัดช่องขวาเข้าไปเมื่อไหร่ ราคาจะวิ่งขึ้นทันที
1.2 ย่ำราคาเพื่อทุบลง...เป็นการสร้าง Volume แบบหนาๆ เพื่อหลอกล่อให้นักลงทุนเข้ามาเล่น จากนั้นหากได้จังหวะ ก็จะยก Bid ทิ้งออกไป เพื่อตบราคาให้ร่วงลงมา หากนักลงทุนรายใด “ตกใจ” และ “เทขาย” ของออกมา ก็จะทำให้ “เจ้ามือ” เก็บของ
ในราคาที่ถูกลงได้อีก

“พฤติกรรมย่ำราคานี้ ให้สังเกตดีๆ ว่า จะมี Volume หนาแน่นมาก 2-3 ช่องในด้านซ้าย (Bid) ซึ่งไม่ใช่สัญญาณที่ดีนัก”

2.พฤติกรรมสร้าง Volume มากๆ แบบผิดสังเกต โดยที่ราคาไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก อาจขึ้น-ลง แค่ 1-2 ช่อง...วิธีนี้ให้นักลงทุนรีบย้อนหลังกลับไปดู Volume การซื้อ-ขายอย่างต่ำ 1-2 เดือน เพราะหากดูประวัติย้อนหลังแล้วพบว่า Volume การซื้อ-ขาย
น้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลยนั้น แต่อยู่ๆ กลับมีขึ้นมาอย่างผิดสังเกต ถือว่า “เจ้ามือ” กำลังสร้าง Volume เพื่อเตรียมทำราคา วิธีการนี้หากนักลงทุนรายใด มีหุ้นตัวนั้นๆ อยู่ในมือก็ให้ท่องจำอยู่ในใจว่า “อย่าขาย” เด็ดขาด เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะทำราคากันขึ้นไป
เล่นในเร็ววัน

“พฤติกรรมสร้าง Volume หนักๆ เช่นนี้ โดยราคายังนิ่งๆ ทั้งที่แต่เดิม Volume ของหุ้นนั้นแทบจะมีน้อยมาก หรือไม่มีเลย ทำให้นักลงทุนบางคนอาจตื่นตระหนก แล้วรีบเทขายออกมา เพราะเห็นว่า หุ้นที่ตัวเองถืออยู่นี้ ราคาไม่ได้วิ่งมานาน จึงกลัวจะต้องถือยาวกว่านี้
เมื่อเทขายหุ้นออกมา ก็เข้าทาง “เจ้ามือ” ที่วางกลอุบายเอาไว้แล้ว และสามารถเก็บของได้เพิ่มขึ้นอีก”

3.พฤติกรรมลากไปติดดอย มีวิธีสังเกตคือ ฝั่ง Offer จะหนามาก ในขณะที่ Bid จะเบาบาง และมีราคาวิ่งขึ้นตลอด ถือว่าเป็นยุทธวิธีที่ “เจ้ามือ” วางกับดักล่อ โดยจะกินช่องขวา (Offer) ตลอด เมื่อมีคนแห่เข้ามาเล่นตามในช่องขวาเป็นจำนวนมาก ถึงจุดหนึ่ง
ที่ “เจ้ามือ” จะออกของก็จะไล่ราคาร่วงลงมาได้ในทุกระดับ เพราะเจ้ามือสามารถออกของได้ทุกระดับราคาอยู่แล้ว โยนออกมาไม้ไหนก็มีแต่กำไร

“พฤติกรรมนี้ ให้นักลงทุนสังเกตให้ดีๆ ว่า หากมีการไล่ราคาในช่องขวา (Offer) ขึ้นไปกันหลายช่องและวิ่งขึ้นตลอด อย่าเข้าไปซื้อเด็ดขาด เพราะถ้าเข้าไปก็มีสิทธิติดยอดดอยกันได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ รอให้มีการทุบราคาลงมาจนเห็นสีแดงนานๆ ก็อาจเข้าไปซื้อได้ แต่ต้องดู
ประวัติย้อนหลังของหุ้นตัวนั้นๆ ด้วยว่า น่าเล่นหรือไม่”

4.พฤติกรรมเจ้ามือใหญ่เล่นหุ้นปั่นตลอด ให้สังเกตว่า Volume ทั้งด้านซ้าย (Bid) และด้านขวา (Offer) จะหนามากๆ และตลอดเวลา อีกทั้งราคาจะมีการวิ่งขึ้น-ลง วันละ 10-20 ช่องตลอด ซึ่งรูปแบบการเล่นเช่นนี้ ขึ้นกับนักลงทุนเองว่า จะมีความเร็วในการ
“เข้า-ออก” หรือไม่ เพราะราคาจะสวิงขึ้น-ลงตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องสังเกตเป็นพิเศษคือ หากราคาไปหยุดนิ่งอยู่ที่ระดับไหนนานๆ ให้ตระหนักไว้เลยว่า มีสิทธิที่จะลากขึ้นไปไกล หรือทุบลงมาอย่างแรงได้ทั้งสองทาง จึงขึ้นกับความไวของตัวนักลงทุนเอง

“วิธีนี้ขึ้นกับตัวเจ้ามือแล้วว่า จะทำให้นักลงทุนติดยอดดอยกันในระดับราคาไหน เพราะเขาสามารถออกของได้ทุกระดับราคา จากนั้นเมื่อทุบร่วงลงมาก็จะเข้าไปช้อนซื้อเก็บไว้ จากนั้นก็จะนำกลับมาเล่นกันใหม่ หุ้นลักษณะนี้จะพบว่า มีการเล่นกันตลอดทั้งสัปดาห์ อาจมีหยุดบ้างก็
1-2 วัน แต่ Volume ก็ยังมีให้เห็นอยู่”

5.พฤติกรรมเจ้ามือใหญ่เล่นหุ้นปั่นเป็นรอบ วิธีนี้จะเล่นกันสัปดาห์ละครั้ง หรือสองครั้ง จึงขอให้นักลงทุนต้องย้อนกลับไปดูประวัติย้อนหลังของหุ้นที่อยู่ในระดับต่ำ สุดที่นิ่งนานๆ บวกกับการดูราคาที่วิ่งขึ้นไปสูงสุดว่าอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วนำมาหารครึ่ง เพื่อดูราคาว่า ระดับไหนถึงจะซื้อได้
ตัวอย่างเช่น หากหุ้นตัวนั้น เคยอยู่ที่ระดับต่ำนิ่งๆ ประมาณ 4 บาท แต่มีการทำราคาไล่ขึ้นไปแตะสูงสุดที่ 12 บาท ดังนั้น ราคาที่เหมาะสมที่น่าจะซื้อได้จึงอยู่ที่ระดับ 8 บาทต่อหุ้น (12-4 = 8)

“พฤติกรรมการเล่นเป็นรอบนี้ นักลงทุนต้องพึงระวังว่า เจ้ามืออาจจะกลับมาเล่น หรือไม่เล่นเมื่อไหร่ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับความน่าสนใจของหุ้นตัวๆ นั้นว่า เป็นที่สนใจของนักลงทุนหรือไม่”

นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า วิธีการทั้งหมดนี้...อยากบอกว่า เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องใช้เวลาในการศึกษาและติดตามอย่างใกล้ชิด ตนไม่สามารถยกตัวอย่างหุ้นเป็นรายตัวออกมาให้เห็นได้ เพราะเกรงจะมีข้อกฎหมายตามมาภายหลัง แต่เชื่อว่า หากนักลงทุนที่เล่นหุ้นกันอยู่ในตลาดหุ้น
ไทย คงรับทราบดีว่า หุ้นตัวไหน เป็นหุ้นที่เข้าข่ายใด ใน 5 พฤติกรรมข้างต้น เพื่อที่จะได้รู้ว่า ตัวเราเองจะเล่นแบบไหน และจะสังเกตวิธีการที่เจ้ามือเล่นกันได้อย่างไร แต่ที่สำคัญคือ นักลงทุนต้องพึงระลึกว่า “อย่าโลภ” ถ้าอยากเล่นหุ้นปั่น หากได้กำไรแค่ไหน จงนึกเสมอว่า...
อย่าเป็น “เสือหวน” เด็ดขาด

“เชื่อว่า หากนักลงทุนเข้าใจในหลักการนี้แล้ว ต่อไป...บรรดา “เจ้ามือ” ทั้งหลายก็คงต้องมีวิวัฒนาการใหม่ๆ ออกมา เพื่อไม่ให้ “รายย่อย” ได้ตามทัน มิเช่นนั้น... “เจ้ามือ” เองก็คงไม่สามารถ “ล่อ” แมงเม่าให้เข้ามาในกองไฟได้อีก

Credited : เอกยุทธ อัญชันบุตร

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:55:25

ความคิดเห็นที่ 100

Stock Spiner
อ่านดีๆ เพิ่งจะอนุมัติ นะจ๊ะ จ่ายตังเดือน เมษา ปีหน้า ใครจะเข้า ระวัง ด้วย ความพลิกผันไม่เข้าใครออกใคร อิอิอิ
--------------------------------------------

“ประชา มาลีนนท์” และพันธมิตร ทุ่ม 1,551 ล้านบาท ซื้อหุ้นแนเชอรัล พาร์ค 44.42% หวังพัฒนาที่ร้อยชักสาม

นายนคร ลักษณกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค (เอ็นพาร์ค) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้นำหุ้นเพิ่มทุนส่วนที่เหลือจากการจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 5.39 หมื่นล้านหุ้น ขายในราคาหุ้นละ 0.029 บาท ให้กับนายประชา มาลีนนท์ หรือบริษัทของนายประชา จำนวน 2.95 หมื่นล้านหุ้น หรือสัดส่วน 24.5% เป็นเงินจำนวน 855.5 ล้านบาท นายศานติ ประนิช และนายฟิลิปวีระ บุนนาค คนละ 1.2 หมื่นล้านหุ้น หรือ 9.96% เป็นเงิน 348 ล้านบาท ทำให้บริษัทได้เงินทั้งสิ้น 1,551.5 ล้านบาท

“ผู้ซื้อหุ้นใหม่จะเข้ามาถือหุ้นรวมกัน 44.42% และจะต้องชำระเงินก่อนวันที่ 25 เม.ย. 2556”นายนคร กล่าว

สำหรับการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนกลุ่มนี้ เนื่องจากบริษัทต้องการสร้างความมั่นใจให้กับสถาบันการเงินในแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในชำระหนี้ก่อนที่บริษัทจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ประนอมหนี้กับธนาคารสินเอเซียแล้ว

ปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า เดอะ แนเชอรัล พาร์ค อพาร์ทเมนท์ และโรงแรมสยามเคมปินสกี้ และเคมปินสกี้ เรสซิเดนซ์ สยาม

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพหลายโครงการ พร้อมหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนและการบริหารโครงการ อาทิ โครงการโรงแรม อามันรีสอร์ท กรุงเทพ ซึ่งเป็นโครงการโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 36 บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ติดกับสถานทูตฝรั่งเศส ประกอบด้วยห้องพัก 35 ห้อง พื้นที่ใช้สอยรวมทั้งสิ้น 1.23 หมื่นตารางเมตร การออกแบบยึดหลักแนวคิดการพัฒนาเชิงอนุรักษ์โบราณสถาน เน้นความกลมกลืนระหว่างสิ่งก่อสร้างอาคารโบราณสถานโรงภาษีร้อยชักสาม

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 22:28:39

ความคิดเห็นที่ 101

BLS : บ่าย แนวทางการลงทุน: แนะนำซื้อ BAY(35-36) GFPT(8.8-9) MAJOR( 20.5-20.8) และ KBANK(200-203)

Harvard Trader
บ่าย เด็กแนวเชียร์ หุ้นในเพจ DIMET SAM

Finansia Syrus Thai Summit
‎### TRT ประมูลงานหม้อแปลงไฟฟ้า-ตู้คอนเทนเนอร์ในพม่า รวมกว่า 300 ลบ. ###

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บมจ.ถิรไทย(TRT)เปิดเผยว่า ในช่วงสิ้นปี 55 บริษัทมีข่าวดีเรื่องการเข้าไปประมูลงานในประเทศพม่าที่กำลังมีการเปิดประเทศ และกำลังขยายการเติบโตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 27 ซึ่งมีการกำหนดจัดขึ้นที่เมืองเนปีดอ เมืองหลวงแห่งใหม่ของพม่าในปี 56

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เข้าไปประมูลงานการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย (Distribution Transformer) มูลค่า 100 ล้านบาท และหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง(Power Transformer) ขนาด 150 เมกกะวัตต์ มูลค่า 100 ล้านบาท และผลิต“ตู้คอนเทนเนอร์ น็อคดาวน์"สำหรับเป็นที่พักนักกีฬาจำนวน 200 ยูนิต ยูนิตละ 6 ตัน รวม 1,200 ตัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ภายใต้ บริษัท แอล ดี เอส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ผลิตตัวถังหม้อแปลงขนาดใหญ่ และงานผลิตเหล็กคุณภาพสูง รวมมูลค่างานทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท โดยบริษัทมีโอกาสได้รับงานค่อนข้างแน่นอนแล้ว

“การเข้าไปเปิดตลาดในประเทศพม่าในครั้งนี้ ถือเป็นฤกษ์ดีสำหรับบริษัทฯ เป็นอย่างมาก โดยยังมีอีกหลายช่องทางในการเข้าไปทำตลาด และคาดว่าในขั้นต้นจะมีผลกำไรที่ดี ซึ่งเป็นไปตามแผนของบริษัทฯ ที่จะมีการปรับหาตลาดใหม่ที่มี Margin สูงขึ้น ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยจะเน้นไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย" นายสัมพันธ์ กล่าว

สำหรับผลประกอบการในปี 55 คาดว่าจะใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ปรับลดลงแล้ว และในปี 56 คาดว่าจะเป็นปีที่บริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโตที่ดีประมาณ 20-25 % และบริษัทฯ ยังคงมุ่งตลาดในการผลิตหม้อแปลงให้กับโปรเจ็คโซลาร์ฟาร์มอีกหลายแห่ง ถือได้ว่าขณะนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ครองตลาดนี้กว่า 70-80 % และในกลุ่มของผู้ผลิตไฟฟ้า พลังงานทดแทนประเภทอื่น ซึ่งบริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดนี้กว่า 40-50 % โดยถ้ารวม 2 กลุ่มนี้แล้ว บริษัทฯ จะมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 50-60%

ส่วนบริษัทลูกของ TRT คือ บริษัท ถิรไทย อี แอนด์ เอส ที่ทำธุรกิจรถกระเช้าปั้นจั่นไฮดรอลิคขนาดใหญ่ในระบบไฟฟ้า และบริษัท แอล ดี เอส จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตตัวถังหม้อแปลงขนาดใหญ่ และงานผลิตเหล็กคุณภาพสูง คาดว่าในปีหน้าจะมีอัตราการเติบโตกว่า 20 % ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำรายได้ประมาณ 200 ล้านบาทและ 300 ล้านบาท ตามลำดับ

"ช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ มีแผนในการเข้าไปประมูลงานต่างๆ ด้วยวงเงินกว่า 3,600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง 100 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,500 บาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ 200 ล้านบาท เอกชนภายในประเทศ 900 ล้านบาท ตลาดส่งออก 500 ล้านบาท และอื่น ๆ อีก 400 ล้านบาท คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถชนะการประมูลได้มากว่า 20-25% และขณะนี้บริษัทฯ มียอด Backlog แล้วกว่า 1,300 ล้านบาท"นายสัมพันธ์ กล่าว

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 14:42:11

ความคิดเห็นที่ 102

Sathit Arayasamphan
กูรู มองกรณี CK ขาย TTW ให้ BECL 438.9 ล้านหุ้นที่ราคา 7.55 บาท เป็นบวก และไม่
มีผลกระทบต่อ TTW

บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า CK ขาย TTW ให้ BECL 438.9 ล้านหุ้นที่
ราคา 7.55 บาท คาดบันทึกกำไรก่อนภาษี 2.2 พันล้านบาทปลาย 1Q13 ทำให้สัดส่วนการถือหุ้น
ใน TTW ลดลงเหลือ 19% จาก 30% และจะรับรู้รายได้เป็นเงินปันผล ส่วน BECL จะถือ TTW
เพิ่มเป็น 20% จากเดิม 9% ทำให้ต้องรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนที่ถือ กำไรรวมของ BECL
จึงเพิ่มขึ้น เรามองดีลนี้เป็นบวกกับทั้ง CK และ BECL และไม่มีผลกระทบต่อ TTW

จากคุณ : แม่นางไซซี

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 16:34:02

ความคิดเห็นที่ 103

เทพ ตลาดหุ้น
พรุ่งนี้วันศุกร์เช้า 21 ธค. แนะนำให้เข้าซื้อหุ้น ARIP หรือ เออาร์ไอพี ด่วนที่สุด

ARIP หรือ เออาร์ไอพี ดำเนินธุรกิจผลิตสื่อดิจิตอล ผลิตรายการทีวีและทีวีดาวเทียม รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แบ่งสัดส่วนรายได้ดังนี้

1.ธุรกิจรับจัดงานคอมมาร์ต เกี่ยวกับสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ท โทรศัพท์มือถือ

2.ธุรกิจจัดทำป้ายโฆษณา ป้ายดิจิตอล บนทางด่วน รถไฟฟ้าบนดินและใต้ดิน รถโดยสาร ขสมก. และในห้างสรรพสินค้า

3.ธุรกิจผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เกี่ยวกับวงการธุรกิจและด้านไอที อาทิหนังสือ COMPUTER.TODAY , COMMART , Business.Com

4..ธุรกิจผลิตรายการทีวี ในนาม บริษัทย่อย สแพลช อินเตอร์แอ็คทีฟ ซึ่งผลิตรายการทางทีวีช่อง 5 จำนวน 1 รายการ และทีวีดาวเทียมอีก 2 รายการ รวมทั้งเตรียมผลิตรายการทีวีดิจิตอลอีก 1 รายการ

ผลประกอบการประจำปี 2555 กำไรพุ่งกระฉูด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการรับรู้งานคอมมาร์ต เดือน พย. และเม็ดเงินโฆษณา ทั้งจากป้ายดิจิตอล และ รายการทีวีช่อง 5 และทีวีดาวเทียม

ทำใ้ห้ ARIP จะัประกาศกำไรสุทธิปี 2555 กำไร 55 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น .12 สูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรเพียง 21 ล้านบาท

บริษัทมีเงินสดๆในมือ 150 ล้านบาท ไม่มีหนี้สินแม้แต่บาทเดียว พื้นฐานแกร่งที่สุดใน MAI

ARIP กำลังเนื้อหอมที่สุดในโลก ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสารและบันเทิง รุมจีบเพื่อให้ร่วมธุรกิจผลิตสื่อดิจิตอล อาทิ บีอีซี เวิลด์ , เคเบิ้ลไทยโฮลดิ้ง , เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมน

ราคาหุ้น ARIP ปัจจุบัน 1.27 บาท ถูกที่สุดในตลาด MAI แนะนำให้เข้าซื้อหุ้น ARIP ด่วนที่สุด ทุกระดับราคา แล้วรอขาย เป้าหมายสูงสุด 5 บาท

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:23:18

ความคิดเห็นที่ 104

Phee Radaล่ามังกร
สรุปมังกรวันนี้ปลอดภัยทุกตัวจ้าอย่าได้กังวล หุหุ

เทพ ตลาดหุ้น
สื่อดิจิตอล แรงสนั่นโลก TSF SLC ไปไกล แล้ว ทุ่มเงินทั้งหมดซื้อ ARIP หุ้น 10 ซิลลิ่ง
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 17:28:40

จากคุณ : พร้อมเพรียง

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:25:03

ความคิดเห็นที่ 105

http://www.pantip.com/cafe/krazip/index.php?qd=UOEt@cCoAAQAAHZaHhg&newmsg=1

http://www.pantip.com/cafe/krazip/outbox.php?rd=UOEv0cCoAAkAAEaPNcA

http://www.pantip.com/cafe/krazip/index.php?rd=UOEwaMCoAAQAAHaUPiU

http://www.pantip.com/cafe/krazip/outbox.php?rd=UOEwdsCoAAkAAEa5Q0c

http://www.pantip.com/cafe/krazip/index.php?rd=UOEw4MCoAAUAAA@VMZY

http://www.pantip.com/cafe/krazip/outbox.php?rd=UOEw58CoAAkAAEamP60

จากคุณ : จอมดาบไร้นาม

เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 13:30:49

[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่]

[กติกามารยาท] [Help & FAQ]

ความคิดเห็น :

Rich Mode (เฉพาะสมาชิก) | Classic Mode

จัดรูปแบบ :

ไฟล์ประกอบ :

ชื่อ :

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป