 |
กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส Price Movement ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,720.20 USDต่อออนซ์เพิ่มขึ้น 7.50 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบ 1,714.20 - 1,724.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวอย่างไร้ทิศทาง ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง การประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิตโดย ISM ลดลงมาที่ 49.5 ในเดือนพ.ย.ต่ำสุดนับจากก.ค. 2009 ทำให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง และราคาทองคำปรับขึ้นไปชนแนวต้านบริเวณ 1,721 แต่มีแรงขายทำกำไรทำให้ในเช้าวันนี้ราคาอ่อนตัวลงมาที่บริเวณ 1,713 ปัจจัยลบในวันนี้ ได้แก่ ราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และความกังวลของนักลงทุนในเรื่องปัญหา Fiscal Cliff เมื่อปธน.โอบาม่าปฏิเสธข้อเสนอของพรรครีพับลิกัน ส่วนทางด้านยูโรโซน ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น เมื่อสเปนได้ดำเนินการอย่างเป็นทางการในการขอให้สหภาพยุโรปช่วยเพิ่มทุนให้กับธ.พ. และทางเยอรมันจะเปิดทางให้กรีซสามารถซื้อคืนหนี้ได้ในมูลค่าที่ลดลง นอกจากนี้กองทุน SPDR ได้เข้าสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง คาดว่าวันนี้ทองคำมีแนวต้านบริเวณ 1,720/1,730 แนวรับบริเวณ 1,710/ 1,705 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,705 1,730 หากพ้นกรอบบริเวณ 1,730 1,740 ได้ให้ follow buy แต่ถ้าไม่ผ่าน แนะนำให้เปิด Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,710/1,705 หรือถ้าอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับให้เปิด Long
Spot Gold Technical Analysis ภาพกราฟทางเทคนิคในราย 240 นาที ราคาแกว่งตัวในลักษณะ side way down โดยมีฐานรับสำคัญบริเวณ 1,705 1,700 และแนวต้านบริเวณ 1,720/1,730/1,740 indicator ต่างๆส่งสัญญาณอ่อนแอลง ถ้าหากไม่มีแรงซื้อหนาแน่นและผ่าน 1,730 1,740 ไปได้ มีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวลงได้อีก แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,705 1,730 หากพ้นกรอบบริเวณ 1,730 1,740 ได้ให้ follow buy แต่ถ้าไม่ได้ให้เปิด Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวรับ
Key Point in Precious Market - ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ( + ) ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ( + ) สเปนขอรับความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการจากสหภาพยุโรปในการเพิ่มทุนให้กับธ.พ. ( + ) ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อลดลง ( - ) ความต้องการทองคำจากธนาคารกลางประเทศต่างๆเพิ่มขึ้น ความต้องการของกองทุน ETF ทองคำเพิ่มขึ้น ( + ) เยอรมันเปิดโอกาสให้กรีซซื้อคืนหนี้ได้ในมูลค่าที่ลดลง ( + ) ปัญหา Fiscal Cliff สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ( - )
- ประเด็นที่ต้องติดตาม การแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ การแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐ การชุมนุมประท้วงในอียิปต์ การชุมนุมประท้วงในซีเรีย
- การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันอังคาร ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ วันพุธ ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนพ.ย. ตัวเลขที่มีการปรับแก้ไขสำหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 3/2012 ดัชนีภาวะธุรกิจรัฐนิวยอร์คเดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนต.ค. ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.
- SPDR ถือทองจำนวน 1,348.83 ตัน Spot Silver ราคาโลหะเงินปิดที่ 33.76 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 33.46 - 33.93 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวน 9,757.86 ตัน คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 33.0/32.5 แนวต้านบริเวณ 34.0/34.3 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส - ดอลลาร์ร่วง แต่ทองยังทรงตัว - ติดตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐคืนพรุ่งนี้และวันศุกร์ - พรุ่งนี้ตลาดอนุพันธ์ปิดทำการ ส่วนระบบออน์ไลน์เปิดตามปกติ ราคาทองคำเริ่มดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงกลางวัน หลังจากมีการปรับฐานลงค่อนข้างแรงในการซื้อขายวันศุกร์ แต่ความกังวลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปที่ยังมีสัญญาณชะลอตัว เป็นปัจจัยลบกดดันให้ราคาทองดีดตัวขึ้นได้ในกรอบค่อนข้างจำกัด เช่นเดียวกับราคาโลหะเงินซึ่งมีการดีดตัวขึ้นในระหว่างวันหลังจากปรับตัวลงแรงในการซื้อขายวันศุกร์
ผลสำรวจพบว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 46.2 ในเดือนพ.ย.แต่ก็ยังคงต่ำกว่าระดับที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัวเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกัน โดยประเทศสมาชิกในยูโรโซนทั้ง เยอรมัน ฝรั่งเศส ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดก็ยังคงมีรายงานว่าตัวเลขภาคการผลิตหดตัวลง มีเพียงไอร์แลนด์ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศและกลุ่มยุโรปไปเมื่อ 2 ปีก่อนเท่านั้นที่มีการรายงานว่าภาคการผลิตสามารถขยายตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล คาดว่าเป็นเพราะนักลงทุนต่างไม่มั่นใจว่ารัฐบาลสหรัฐจะสามารถแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐได้ทันกำหนด และหากใกล้กำหนดที่จะต้องมีการเพิ่มภาษีและลดรายจ่ายทางการคลังลงในช่วงปลายเดือน และยังไม่มีสัญญาณว่าสมาชิกจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถหาแนวทางร่วมกันได้ ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองดีดตัวขึ้นได้ต่อไป
ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 1,700-1,730 ดอลลาร์ เพื่อรอติดตามรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในคืนวันพุธและศุกร์ หากราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ ต้องระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมามาก โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,690 และ 1,680 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านของวันยังอยู่ที่บริเวณ 1,725-1,730 ดอลลาร์ หากสามารถผ่านขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ ก็จะเป็นการยุติสัญญาณขายที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ก่อน และราคาทองก็จะมีการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องมากขึ้น ส่วนราคาโลหะเงินมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 33.30-33.50 ดอลลาร์ หากปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับดังกล่าว คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมากจนราคาอาจปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 32.50 ดอลลาร์ และคาดว่าจะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาจนราคาเริ่มดีดตัวขึ้นได้ต่อไป
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.55 Close chg. Support Resistance 25,310 -130 25,150/25,000 25,400/25,600 หากราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,705 ดอลลาร์ ยังสามารถเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการดีดตัวกลับ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,695-1,700 ดอลลาร์ และด้วยตลาดอนุพันธ์จะปิดทำการในวันพรุ่งนี้หากไม่ต้องการรับความเสี่ยงอาจเลือกวิธีซื้อและขายระหว่างสัญญาต่างเดือน
ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.55 Close chg. Support Resistance 1,030 -20 1,020/1,010 1,040/,060/1,065 ราคาโลหะเงินมีการดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเคลื่อนไหวไปจากเดิมมากนัก การเก็งกำไรฝั่งซื้อควรรอเปิดสถานะที่แนวรับบริเวณ 33.30-33.40 และ 33.0 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 32.80-32.90 ดอลลาร์
จากคุณ |
:
ฮะ ว่าไงนะ
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ธ.ค. 55 11:11:07
|
|
|
|
 |