ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ใช่เงินเย็นอย่าเสี่ยงที่จะลงทุนหุ้นเลยครับ จากคุณ : โนบิตะNobita เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 22:45:23

ความคิดเห็นที่ 2 - ไม่มีความรู้เรื่องการลงทุน - เงินแค่แสนเดียว - จะเอาผลตอบแทนสูง ในระยะเวลาอันสั้น เงื่อนไขเช่นนี้ เท่ากับคุณกำลังบอกว่า ระหว่างนำเงินไปสูญกับการรักษาพ่อ "กับ" เอาเงินมาสูญกับตลาดทุน (ตลาดหุ้น) คุณเลือกที่จะมาเสี่ยงโชค เอาเงินมาสูญกับตลาดทุนมากกว่า เคยได้ยินไหมครับ high risk, high return การลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง นั้นมีความ- เสี่ยงสูงตามไปด้วย มันไม่มีอะไรที่ง่าย ใช้เวลาไม่นาน แล้วได้ผลตอบแทนสูง หรอก โดยเฉพาะในตลาดทุนแห่งนี้ ยิ่งคุณไม่มีความรู้เช่นนี้แล้ว จะเอาผลตอบแทนในระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยความเคา- รพจากใจจริง ที่พูดเพราะความเป็นห่วง คุณมีความเสี่ยงมากที่จะเอาเงินมาผลาญ เล่นแล้วไม่ได้อะไรกับไปเลย เข้าใจครับว่าช่วงนี้ชีวิตยากลำบาก และเป็นห่วงครอบครัว แต่เงื่อนไขที่คุณให้มา มันเป็นไปไม่ได้ ในระยะสั้น ถ้ามันง่ายขนาดนั้น เพราะถ้ามันง่าย ก็คงจะรวยไปหมดแล้ว หลายคนเล่นหุ้นมา  ยังตามทุนคืนกันอยู่เลยก็มี แม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว เงินแสนมันไม่ใช่ว่าจะทำให้มันงอกเงยไม่ได้ แต่ความมั่งคั่งต้องใช้เวลา และห้วง เวลาที่ว่า มันมีหน่วยเป็นปี ด้วยความเป็นห่วง อย่าเอาเงินแสนที่เก็บมานานเข้าตลาดทุนเพื่อแสวงหากำไร เพราะคุณจะแพ้ตั้งแต่คิดแบบนี้ ผมพูดเสมอว่า การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ นั้น คือการลงทุนที่สามารถรักษาทุนของตนเองเอาไว้ได้ แค่คุณลงทุนในตลาด และสามารถรักษาทุนเอาไว้ได้ โดยที่ไม่ขาดทุน ก็เท่ากับว่าคุณประสบความสำ- เร็จแล้ว กำไรถือเป็นผลพลอยได้เท่านั้น การเข้าตลาดทุน เพื่อกำไร ตั้งเป้าว่าจะ ต้องได้กำไร ก็เท่ากับว่าคุณล้มเหลวตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว high risk, high return  จากคุณ : Shinosuke08 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 22:45:44

ความคิดเห็นที่ 3 ผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น แถมไม่เสี่ยงด้วย นี่ไม่มีในโลกนะครับ หากมีคงจะรวยกันหมดแล้ว ยังไงก็ต้องเสี่ยงกันมั่ง แนะนำ IEC ซื้อ 0.01 ขาย 0.02 กำไรเท่าตัวเลยนะ ถ้าทำได้ จากคุณ : Zac2010 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 22:49:19

ความคิดเห็นที่ 4 อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญมาก คือ เงินที่คุณ จขกท กล่าวว่า มันไม่ใช่เงินเย็นเลย แต่เป็นเงินร้อน ที่พร้อมจะถูกใช้ได้ตลอดเวลา เงินเย็น คือ เงินที่คุณสามารถทำหายไปแล้วชีวิตคุณไม่ยากลำบาก หรือเงินที่- นอนค้างอยู่ในบัญชีออมทรัพย์มาแล้ว 27 ปี ที่แม้แต่เจ้าของบัญชีเองก็ยังจะแทบ ไม่ทราบว่ามีมันอยู่ เงินที่ไม่ถูกใช้วันนี้ แต่มีโอกาสถูกใชในวันข้างหน้า มันไม่ใช่เงินเย็น แต่มันคือ เงินร้อนที่ยังไม่ถูกใช้ต่างหาก ชีวิตครอบครัวคุณกำลังตกอยู่ในภาวะยากลำบาก ที่เงินทุกบาททุกสตางค์มีโอ- กาสจะถูกใช้เพื่อพยุงชีวิตและสถานภาพของสมาชิกในครอบครัวเอาไว้ คุณยัง จะเรียกเงินเก็บของคุณว่าเป็นเงินเย็นได้อย่างไร? ที่พูดนี่เพราะความเป็นห่วงจริง ๆ จากหัวอกของคนที่อยู่มาก่อน อยู่มานานและ เห็นอะไรมามาก คนที่นี่อยู่กันมานาน จนมองออกว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากคุณ จขกท เข้าตลาดด้วยสภาพเช่นนี้ ไม่ได้มีเจตนาสบประมาทหรือซ้ำเติม แต่ต้องการเตือนให้เห็น ว่าที่นี่โหดร้ายและ ไม่มีใครกลับออกไปด้วยกำไรมากมายได้โดยง่าย จากคุณ : Shinosuke08 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 22:52:24

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่มเติมจากคุณ Shinosuke08 นะคะ   ห้ามเอาไปให้ใครกู้ยืมเพื่อหวังดอกเบี้ยด้วยค่ะ   ส่วนใหญ่จะสูญทั้งต้นและดอก จากที่เล่ามาคือคุณแม่เป็นแม่บ้านใช่ไหมคะ  คุณแม่ต้องลุกขึ้นมาทำงานแล้วล่ะค่ะ   ต้องเป็นงานที่ลงทุนน้อยและมีรายได้เลี้ยงตัวในแต่ละวันโดยที่ไม่ต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้  มีเงินให้ลูกๆ ไปโรงเรียน แนะนำว่าให้หาทำเลที่คนผ่านไปมาเยอะๆ  ให้ดีที่สุดคือเป็นแหล่งของนักเรียนนักศึกษาอ่ะจ้า    แล้วก็ทำของกินขาย  พวกแซนวิช  หรือลูกชิ้นปิ้ง ขายน้ำด้วยก็ดี ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือรักษาเงินก้อนสุดท้ายนี้ไว้ให้ได้ จากคุณ : ช็อปยันเช้า เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:06:40

ความคิดเห็นที่ 6 กำไรสูงในระยะเวลาอันสั้น  มีแต่แชร์ลูกโซ่ค่ะ  ซึ่งลวงโลกทั้งเพ และคุณตั้งกระทู้แบบนี้  ระวังจะได้รับหลังไมค์แบบในกระทู้นี้นะคะ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I13022211/I13022211.html ซึ่งก็เป็นเรื่องลวงกันเหมือนกัน จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:07:02

ความคิดเห็นที่ 7 ทำตามที่ผมบอกครับ 1.แบ่งเงินออกเป็น 2 ก้อน คือ 95000 กับ 5000 2.เงิน 95000 ฝากประเภทสั้นๆ แต่ให้ดอกเบี้ยสูงๆ มีหลายธนาคารครับ จำพวก 4 เดือน ได้ ...% 3.ลองคิดดูว่า ใน 1 สัปดาห์ มีวันว่างกี่วัน โดยเฉพาะ ช่วงเย็นๆ ที่ไม่กระทบการเรียน 4.หาตลาดแถวบ้าน เป็นพวกตลาดขายกับข้าว ผมแนะนำให้คุณขายข้าวเปล่าเป็นถุงๆละ 5-10 บาท พยายามหาตลาดที่เช่าที่ขายเป็นรายวัน ขายข้าวเป่ล่า กำไรดีครับ โดยเฉพาะใกล้ๆโรงงานที่มีพนักงานเยอะๆ ด้วยเงิน 5000 บาท 5.ข้อนี้สำคัญที่สุด ......อย่าอายที่คิดจะทำมาหาเลี้ยงครอบครัว จากคุณ : แฟนคลับใบเฟิร์น เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:08:55

ความคิดเห็นที่ 8 ทุกปัญหา มีทางออก จะทำอะไรคิดให้ดีครับ การลงทุนมีความเสี่ยง จะลงทุนอะไรต้องรอบครอบครับ ขนาดคนที่มีประสบการณ์ยังพลาดได้นะครับ จากคุณ : mikabi เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:09:16

ความคิดเห็นที่ 9 แบ่งไปลงทุนค้าขายครับ อย่าใช้หมด ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ลองไปเดินสำเพ็งดู มีของน่าขายเยอะ ไม่รู้จะขายอะไร ลองไปเดินตามตลาดนัดดู อะไรขายดีสุด เลียนแบบเค้า แต่หาที่ขายที่อื่นนะ จำเอาไว้ ไม่มีอะไรได้มาง่าย ใช้สติแก้ปัญหานะ จากคุณ : DOG TUTA เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:10:29

ความคิดเห็นที่ 10 ค้าขายครับ แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 23:16:55 จากคุณ : ก็ประมาณนึงอะ เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:10:31

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนตัวน้องเอง  คิดว่าคงต้องทำงานไปเรียนไปด้วยแล้วล่ะ ขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองนิดนึงนะ   สมัยเรียนมหาลัยพี่ไม่ได้ขข้ดสนเงินทอง แต่ความที่เป็นคนชอบทำงานหาเงินก็เลยไปถามอาจารย์ที่เราสนิทว่ามีงานอะไรให้หนูทำไหม หนูอยากได้เงิน  เท่านั้นล่ะค่ะ  งานมาเพียบเลย มีอาจารย์หลายท่านหางานมาให้เพราะคิดว่าพี่ลำบาก แต่จริงๆ ก็คือพี่จะเอาเงินไปช็อปปิ้ง     คือจะบอกว่าบางครั้งเด็กๆ ก็ไม่ค่อยคิดที่จะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากครู  ทั้งๆ ที่ท่านอาจจะรอช่วยเราอยู่ แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 23:15:50 จากคุณ : ช็อปยันเช้า เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:13:08

ความคิดเห็นที่ 12 เอาไปลงทุนขายอาหารอะไรก็ได้ให้มีเงินเข้ามาทุกวัน เล่นหุ้นมันต้องรอกว่าจะได้ตังครับ หมูปิ้ง หมึกย่าง อะไรพวกนี้ ทำอร่อยๆลูกค้าเยอะครับ จากคุณ : ซื้อแล้วดิ่ง ทิ้งเป็นพุ่ง เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:13:19

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกคนนะคะ สำหรับความเห็น เรื่องที่ประสบมาวันนี้มันหนักหนามากจริงๆเลยอาจทำให้ขาดสติและความยั้งคิดไป ตอนนี้ทางบ้านก็ยังมีร้านค้าอยู่ค่ะ แต่ไม่พอสำหรับการใช้จ่ายอยู่ดี เดือนนึงได้ประมาณ 8หมื่น -6หมื่น ออกไปข่ายค่าเช่าบ้าน เพราะเอาไปกู้ธนาคารมาเป็นค่ารักษา 1หมื่นสำหรับ ค่าน้ำ ค่าไฟค่า ค่าโทรศัพ อินเตอร์เนตต่างๆ วันนี้ที่ไปนอนเฝ้าคุณพ่อมาก็ได้ยินผู้ใหญ่คุยกันว่าตกลงจะเอาเงินไปไถ่บ้านและขายแล้ว ซึ่งเพิ่งจะรับทราบเหมือนกันว่าทางบ้านเดือดร้อนมากถึงขนาดนีี้ แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 23:29:26 จากคุณ : M-TinA เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:18:50

ความคิดเห็นที่ 14 ตามความคิดของผม ถ้าอยากได้ผลตอบแทนเร็วๆ คุณจะต้องลงแรงด้วยละ เช่นลงทุนเปิดร้าน ขายเสื้อผ้า อาหาร ของชำร่วย เงินจะงอกไวกว่า ฝากแบ้งค์ แต่ก็เสี่ยงถ้าไม่มีหัวการค้า เงินทุนอาจสูญแต่สิ่งที่ได้มาก็คือกำไรชีวิตที่จะทำให้คุณก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ ไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จคนใหนที่เคยล้มมาก่อนครับ ส่วนเล่นหุ้นถ้าแทงถูกทาง เงินก็งอกไวเช่นกัน จากคุณ : gankstardra เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:26:09

ความคิดเห็นที่ 15 ให้เชื่อที่พี่ๆเขาเตือนนะครับ ทุกคนหวังดี ทั้งนั้น ระวังจะโดนคนไม่หวังดีซ้ำเติม โดยเฉพาะ การชักชวนหลังไมล์ การให้เงินกู้หลังไมล์ หรือขอกู้เงินหลังไมล์ เงิน 1 แสน ไม่มีเงินสำรอง ห้ามเข้าตลาดหุ้นเด็จขาด เกิดพลาดมา จบเห่ ซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ที่ลงทุนไม่มากเกินไป ของกำลังฮิต กำไรค่อนข้างดี ทำเท่าที่กำลังเราสู้ไหว มาขายงานปีใหม่ ผมก็เคยทำนะ กำไรใช้ได้เลย เอาใจช่วยนะครับ ขอให้คุณพ่อหายเร็วๆด้วยครับ จากคุณ : นธีทอง เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:49:49

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านจาก คห. 13   ตีความได้ว่าเงิน 100,000  ที่ว่าคือเงินที่น้องเก็บเองใช่ไหมคะ     เดือนนึงที่บ้านค้าขายมีรายได้ประมาณ 6-8 หมื่น  แต่ไม่พอเพราะต้องเอาเงินไปจ่ายดอกเบี้ยแบงค์   และยังต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์เป็นหมื่น คืออ่านแล้วยังงงๆ อยู่อ่ะค่ะ      คือ ณ ตอนนี้พี่ตีความได้ว่าบ้านน้องมีอันจะกินแต่คุณพ่อป่วยเลยซวนเซกันไปหมด     เอางี้แล้วกันนะคะ    คือปัญหาบางเรื่องมันก็แก้ไม่ได้อ่ะค่ะ  ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือใช้แรงกายของเราดูแลคุณพ่อให้ดีที่สุด  และหางานพิเศษทำเพื่อส่งเสียตัวเองให้เรียนจบ  แนะนำให้ปรึกษาอาจารย์นะคะ   เพื่อนพี่คนนึงก็เรียนจบมาด้วยการที่อาจารย์ป้อนงานให้นี่แหละค่ะ   ทำเท่าที่กำลังเรามีนะคะ  ปัญหาอะไรที่เราไม่ได้ก่อ และเกินกำลังที่เราจะแก้ได้เราก็ต้องทำใจ     ที่พูดนี่เพราะช่วงนึงของชีวิตก็เคยเจออะไรคล้ายแบบนี้เหมือนกันค่ะ  ยังจำความทุกข์ในตอนนั้นได้ดี  แต่พอเวลาผ่านไปก็คิดได้ว่าจริงๆ แล้วเราไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะแก้ปัญหาทุกเรืองได้  ทางที่ดีที่สุดคือทำเท่าที่ทำได้  และเอาตัวเองให้รอดก่อน  เมื่อเรารอดแล้วในวันข้างหน้าเราก็จะเป็นเสาหลักของบ้านได้ แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 23:57:57 จากคุณ : ช็อปยันเช้า เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:55:43

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นใจมากค่ะ น้องกำลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่เรากลัวจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อตอนเรียนมหาลัย เพราะคนที่เรารักและเป็นเสาหลักของครอบครัวเจ็บป่วยหนักจนต้องใช้เงินเกือบทั้งหมดที่เคยหามาได้ มารักษา ทำให้คนอื่นๆ ซวนเซกันไปหมด ยังไงค่อยๆคิดนะคะ แนะนำลดรายจ่ายค่ารักษาก่อนเลย ไม่ได้บอกให้รักษาแย่ลงนะคะ คืออยากให้ลองปรึกษาคุณหมอว่าถ้าย้ายโรงพยาบาลรัฐใหญ่ๆแบบ ศิริราช รามา อื่นๆ เค้ารักษาได้มั้ย เพราะ รพ. เหล่านี้มักใช้สิทธิรักษาได้บางส่วน (คุณต้องติดต่อถามเอานะคะ เค้าไม่ได้มาไล่บอกคนไข้เองหรอกค่ะ) และคุณก็เก็บเงินที่เหลือไว้จ่ายค่ารักษาส่วนเกิน หรือยาที่แพงมากๆได้ในกรณีที่ต้องรักษากันนานเป็นปีหรือหลายปี ส่วนเงินจำนวนนั้นไม่มากไม่น้อย สำหรับ 2 ปีที่ต้องเรียนต่อ ไม่พอใช้เรียนจนจบ แต่พอใช้ตั้งหลักระหว่างรองาน หารายได้เสริมใช้เรียนคะ อย่าเพิ่งกัลวลเรื่องอนาคต ค่อยๆแก้ไปทีละอย่างนะคะ ข้างหน้าอาจมีญาติมาช่วยหรือไม่ก็หาสอนพิเศษพอได้คะ จากคุณ : เรียกฉันว่า rilakkuma เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 00:38:53

ความคิดเห็นที่ 18 #16 ใช่ค่ะ เงินเก็บนู๋เอง ใช่ค่ะ ปกติคุณพ่อจะเป็นคนทำงานหารายได้เข้าบ้าน #17 ขอบคุณนะคะ ตอนนี้รักษาที่รามาอยู่ค่ะ แพงพอๆกับโรงพยาบาลเอกชนเลย คุณพ่อเป็นมะเร็งอ่าค่ะ แพงค่ายา ค่าห้องประมานก็5000/วัน กลับบ้าน10วันนอนโรงพยาบาล20วัน เรื่องลดค่าใช้จ่ายไม่มีเลยค่ะ ประกันสังคม ประกันชีวิต จ่ายเต็ม จากคุณ : M-TinA เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 00:51:22

ความคิดเห็นที่ 19 ได้อ่านแล้วอยากร้องไห้ เงินแสนกว่าจะเก็บได้ บางคนหาง่ายและเร็วมาก ผมเป็นกำลังใจให้ครับ ไม่กล้าแนะนำ จากคุณ : Wingsrapter เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 00:55:35

ความคิดเห็นที่ 20 ป้าเราเป็นมะเร็งเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว รักษาที่ศิริราชค่ะ แทบไม่ต้องใช้เงินเลยทั้งฉายแสง ฝังแร่ และค่าห้อง (ห้องรวม) ต้องลองถามที่พยาบาลดูนะค่ะ ว่ามีเงินช่วยเหลือหรือโครงการอะไรช่วยได้บ้าง เราไม่ค่อยทราบข้อมูลอะไรมากเกี่ยวกับการเดินเรื่อง ทราบแค่ตอนนั้นป้าเราทำเรื่องส่งตัวจากโรงพยาบาลที่มีสิทธิรักษาอยู่ไปรักษาต่อที่ศิริราช รักษาอยู่หลายเดือนค่ะ ตอนนั้นก็มีผู้ป่วยบางรายรักษาจนเงินหมด เพิ่งมาทราบเรื่องการขอความช่วยเหลือนี้จากความกรุณาของพยาบาลค่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เข้มแข็งไว้ค่ะและค่อยๆคิด ตอนนี้ที่สำคัญคือกำลังใจจากญาติๆและลูกๆ จากคุณ : เรียกฉันว่า rilakkuma เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 01:19:59

ความคิดเห็นที่ 21 พี่ๆเค้าแนะนำไปหมดแล้ว ส่วนผมขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ลองศึกษาในส่วนของการ pre-order สินค้าเข้ามาขายด้วยนะครับ ถ้าจะขายของ online แนะใช้ LnwShop.com นะครับ เค้าให้เปิดร้านค้าขายของได้ฟรีครับ เผื่อจะเป็นอีกช่องทางหาเงินช่องนึงสำหรับเรา จากคุณ : JacKaJie เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 01:37:49

ความคิดเห็นที่ 22 น้องต้องเข้มแข็งไว้นะครับ ต้องไม่ทำให้คุณแม่เป็นห่วง แล้วก็ดูแลสุขภาพตัวเอง กับคุณแม่ด้วยนะครับ ขอให้คุณพ่ออาการทุเลา ดีขึ้นเรื่อยๆนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนนะครับ จากคุณ : bpond เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 03:58:07

ความคิดเห็นที่ 23 มีคำแนะนำดีๆจากผู้รู้ไม่น้อยแล้ว...การลงทุนในหุ้นไม่เหมาะกับน้องในตอนนี้ค่ะ!ขอเป็นกำลังใจให้นะ ต้องเข้มแข็งไว้ สู้ๆๆค่ะ จากคุณ : เมฆสี เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 06:49:47

ความคิดเห็นที่ 24 เงิน แสน เก็บเอาไว้ ลงทุนด้วยตัวเราเองใช้ความรู้ที่มี เช่น รับสอนพิเศษ เป็นตัวแทนขายประกันชีวิต 2อย่างนี้ไม่ต้องลงทุนลงแต่แรง ขายประกันชีวิตรายได้ดีมากๆ แต่คงต้องอาศัยลูกตื้อ ครับ จากคุณ : AQG_Area เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 07:01:32

ความคิดเห็นที่ 25 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I13027041/I13027041.htmlเอาไปให้กระทู้ข้างบนกู้ครับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 07:40:46

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าเงินไม่เย็นจริง ๆ เอามาเล่นหุ้นแล้วเกิดติดดอย คัทก็ไม่กล้า แบบนี้ อาจกลุ้มกว่า ฝากธนาคารอีกนะฮะ ถ้าเผื่อมันเย็นเจี๊ยบ ๆ จริง ๆ ซื้อสลากออมสิน ยังไงก้ยังรักษาเงินต้นได้ แต่ไม่ตอบโจทย์สำหรับผลตอบแทนระยะสั้นในอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยธนาคาร.... ถ้าอยากลองวัดดวงจริง ๆ ลองดูสัก 2 หมื่น กับหุ้นที่กลับตัวจากขาลงมั้ยฮะ มีหลายตัว แต่ดูดี ๆ ยังไงถ้าเลือกที่มีปันผลอัตราสูง โอกาสเสียเงินต้นก็น้อยกว่าตัวที่ปั่น ปั่น ปั่น ถ้าจขกท. ไม่มีเวลาตามหุ้น ควรเลือกแนวลงทุน ลุ้นปันผลและส่วนต่างในระยะกลาง-ยาว หรือเล่นรอบ....ส่วนตัวเริ่มเล่นหุ้น โดยไม่รู้เรื่องการดูกราฟเลย ศึกษาแค่พื้นฐานบริษัท แนวโน้มของอุตสาหกรรมที่คาดว่าน่าจะเป็นขาขึ้นแน่ ๆ อย่างพวกของกินของใช้จำเป็นต่าง ๆ เข้าถูกช่วง ขายถูกจังหวะ กำไรน้อย แต่ไม่ขาดทุน บางทีดูกราฟแต่ใจไม่นิ่ง รอไม่ไหว ก็ขายหมูบ้าง ...ยังไงก็คิดดี ๆ เผื่อใจไว้กับการสูญเงินต้นด้วย...ตัดสินใจดี ๆ ฮะ.. จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 07:52:14

ความคิดเห็นที่ 27 คุณกำลังคิดว่า อยากให้เงินก้อนนี้มันโตก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปใช่มั้ยครับ มขอให้คุณทำได้สำเร็จตามหวังนะครับ การลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงและเร็ว คุณต้องเสี่ยงครับ แต่คุณต้องเสี่ยงโดยใช้ฐานความรู้ของตนเอง การสำเร็จในตลาดทุน ไม่ใช่ว่าคุณกำเงินเดินเข้ามาร้อยล้านแล้วบอกว่าคุณคือนักลงทุนรายใหญ่ เงินแค่หยิบมือเดียวหากคุณทำให้มันงอกเงยได้เรื่อยๆ โดยไม่กินทุนตนเองตลอดไป อย่างนี้เรียกว่าสำเร็จคับ แต่ต้องพิจารณาตนเองด้วยว่าเงินที่คุณได้มานั้น เป็นเพราะอะไร มีโชคหรือเปล่า หรือความรู้ 80 โชค 20 ในลักษณะนี้คุณก็ไปได้สวยนะครับ ขอให้โชคดี อยากบอกว่ามีแสนไม่ควรลงทุนเกิน 10000 นะครับ ทำให้ได้ครับ เอาใจช่วย จากคุณ : หวังซินเสีย (kimlt) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 08:33:35

ความคิดเห็นที่ 28 ความรู้ไม่พอจะแนะนำ ขอเป็นกำลังใจให้น้องและคุณแม่นะคะ สู้ๆ ค่ะ อย่าท้อนะคะ ขอให้พระคุมครอง จากคุณ : พีพีค่ะ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 08:59:44

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยกับคุณ ชอปยันเช้า  ค่ะ  เรื่องปรึกษาอาจารย์ ตอนสมัยพี่เรียนมหาวิทยาลัย  พี่รับงานจากอาจารย์มาทำเยอะมาก ๆ เลยค่ะ  รายได้ดีด้วยนะคะ  คืออาจารย์ทุก ๆ คน  ทุก ๆ ปีต้องทำวิจัยเรื่องนึง  แต่อาจารย์ท่านจะไม่ค่อยว่าง  เลยไม่สามารถไปเก็บข้อมูลวิจัยได้เอง   อาจารย์ท่านนึงมีให้ทำหลายชุดเลยค่ะ  :)  เงินดีด้วย  หากต้องเดินทาง  เราขอเบี้ยเลี้ยงได้ด้วย ค่ะ  ^^  หลังจากเก็บข้อมูลเสร็จ  มาสู่ขั้นตอนการป้อนข้อมูล  เราก็สามารถรับจ้างอาจารย์คีย์ข้อมูลได้อีก  :)  ทำไปทำมามีงานทำเกือบ ๆ ทั้งปีเลยนะคะ   หลังจากนั้นอาจารย์มีงานมาให้ทำตลอดเลยค่ะ  มีเพื่อนอาจารย์บ้างที่อยากได้เด็กนักศึกษาทำพาร์ทไทม์  งาน Banquet ตามโรงแรม ช่วงปีใหม่เพียบค่ะ  ^^ เงินดีด้วยนะคะ พี่ไม่เก่งเรื่องหุ้น  แนะนำได้เท่านี้นะคะ  ยังไงขอชื่นชมที่น้องเป็นคนดี  มีความเป็นห่วงเป็นใยคนในครอบครัว :)  ขอให้น้องเจดแต่เรื่องดี ๆ ต่อ ๆ ไปนะคะ :) เป็นกำลัังใจให้น้องนะคะ  ขอให้คุณพ่อสุขภาพดีขึ้นไว ๆ ค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 09:27:54 จากคุณ : joyly_polly เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:23:33

ความคิดเห็นที่ 30 เงินไม่เย็น ฝากประจำเถิดครับ High Risk, High Return เสี่ยงมาก กำไรก็มาก ขาดทุนก็มากได้เช่นกัน กรณีนี้เปรียบได้กับการขายยาเสพติดครับ เห็นภาพไหม ได้รวย พลาดติดคุกโดนยึดทรัพย์ อ้อ อีกวิธีก็เล่นหุ้นปั่นก็ได้ครับ ใครลุกช้าก็จ่ายรอบวงไป Low Risk, Low Return กรณีนี้เปรียบได้กับฝากประจำครับ เงินมันก็อยู่ของมัน ขึ้นแน่นอนตามดอกที่ได้ตกลงกันไว้ครับ จากคุณ : NITBALL เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:31:29

ความคิดเห็นที่ 31 เรียกฉันว่า rilakkuma ขอบคุณนะคะ ไว้เดี๋ยวจะลองให้คุณแม่ลองถามดู ขอบคุณทุกคนมากนะคะ สำหรับคำแนะนำและกำลังใจด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 11:59:00 จากคุณ : M-TinA เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 11:54:35

ความคิดเห็นที่ 32 พี่ๆ ข้างบน ช่วยคิดกันหมดแล้ว   เข้ามาให้กำลังใจค่ะ  เข้มแข็งนะคะ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ไปทีละอย่าง มันจะมีทางออกของมันเสมอค่ะ จากคุณ : คุณคนที่ใส่เสื้อสีชมพูนั่นน่ะ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:00:59

ความคิดเห็นที่ 33 มาให้กำลังใจจขกทค่ะ และขอให้คุณพ่อหายป่วยเร็วๆนะคะ จากคุณ : เรือหางยาว เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:44:48

ความคิดเห็นที่ 34 อย่างแรก พยายามตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกก่อนครับ ควรฝากธนาคารไว้ส่วนหนึ่งก่อนดีกว่า หุ้นมีความเสี่ยงมากครับ ต้องหารายได้พิเศษเพิ่มแล้วครับ ตาม คห ข้างบนบอก ลองปรึกษาอจ.ที่ปรึกษา หรือมหาวิทยาลัยอาจมีงานให้ทำก็ได้ ลองเช็คข้อมูลโรงพยาบาลเรื่องค่าใช้จ่ายเหมือนความเห็น ข้างบนบอกเหมือนกันนะครับ จะลดค่าใช้จ่ายไปเยอะเลยทีเดียว จากคุณ : bantabaton เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 23:38:49

ความคิดเห็นที่ 35 เป็นกำลังใจให้ครับ ^^ จากคุณ : เขียนบน iPhone (KaNkNiGhT) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 16:12:00