ความคิดเห็นที่ 1 ไม่จำเป็นเสมอไปครับ บางตัวที่มันต่ำเพราะกิจการไม่ดีก็มีครับ จากคุณ : RZENON เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:46:47

ความคิดเห็นที่ 2 การดูว่าหุ้นตัวไหนน่าลงทุนจะดูที่ Book value อย่างเดียวไม่ได้ครับ จากคุณ : kusen เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:51:58

ความคิดเห็นที่ 3 ลองคิดแบบนี้ครับ ถ้ามีเพื่อนของเรา ลงทุนไป 1 ล้านบาททำร้านขายของ แต่ขาดทุนประจำ ลูกค้าไม่ค่อยมีเท่าไร แล้ว เพื่อนเราประกาศขายสัก 9 แสน ถ้าเรามีเงินมากพอ ถามว่าเราจะซื้อต่อจากเพื่อนไหมครับ จากคุณ : jimmykung เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:00:13

ความคิดเห็นที่ 4 คำจำกัดความสั้นๆคือ เป็นอีกหนึ่งตัวประกอบที่ใช้มองหุ้นถูกครับ แต่ไม่ได้หมายถึงหุ้นดีนะครับ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:01:48

ความคิดเห็นที่ 5 ดีครับ ถ้ามันปิดเดี๋ยวนั้นแล้วแบ่งสินทรัพย์กันเลย ปล ข้อมูลต้องไม่หมกเมล็ดด้วยนะครับ จากคุณ : PotionMaster เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:09:19

ความคิดเห็นที่ 6 มันจะดีก็ต่อเมื่อบริษัทจะขายกิจการ ซึ่งอาจจะคาดการณ์ได้ว่าน่าจะขายในราคา Book หรือต่ำกว่านั้นนิดหน่อยเพื่อ discount ดังนั้นราคาหุ้นอาจปรับตัวได้หากบริษัทจะขายกิจการในราคาเท่า Book ซึ่งต้องซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนทั่วไป แต่คำถามคือจะรู้ได้ยังไงหละว่าบริษัทไหนจะขายกิจการ และจะรู้ได้ยังไงว่าจะขายที่ราคาเท่าไหร่ ... เหอๆ จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:17:22

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่จำเป็นครับ #5 เป็นเรื่องฝันเฟื่องน่ะครับ ว่าจะเอาทรัพย์สินมาแบ่งกัน สมมติว่ามีตึกอยู่หลังนึง แล้วบริษัทเจ๊ง คุณคิดเหรอครับว่าเค้าจะขายตึกนั้นแล้วเอาเงินมาเฉลี่ยให้ผู้ถือหุ้น ถ้าจะขายตึกจริงก็คงเอาไปใช้หนี้ก่อนครับ จากคุณ : กระทงหลงทาง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:31:49

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณากิจการครับ ยังต้องดูอีกหลายตัว จากคุณ : ไอไอ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:40:23

ความคิดเห็นที่ 9 นั่นก็ไม่สำคัญ นี่ก็ไม่สำคัญ ผมว่าก็ต้องดูหลายๆ อย่างรวมกันนะ จากคุณ : วันนี้เป็นวันดี เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:43:13

ความคิดเห็นที่ 10 #7 BV มันลบหนี้สินออกไปแล้วนะครับ เฉพาะส่วนของผู้ถือหุ้น ฉะนั้นไม่น่าเกี่ยว แต่ในเคส BV ส่วนใหญ่จะบันทึกด้วยราคาทุน ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับราคา FV ซึ่งถ้าเลิกกิจการ อาจขายได้เกิน BV หรือ น้อยกว่า BV ได้ทั้งนั้น จากคุณ : Roju เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 15:03:14

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องดูหลายๆอย่างประกอบครับ บางบริษัทงบเน่าๆทำให้ราคาต่ำกว่า book ก็ได้ครับ ซึ่งบริษัทนั้นๆอาจถือครองสินทรัพย์มหาศาล แต่ทำกำไรได้ห่วย ราคาก็อาจต่ำ book ได้ ที่สำคัญว่าหุ้น ต่ำ book นั้นมี story ดีๆต่อไปในอนาคตด้วยหรือไม่ หรือจะเป็นที่หมายปองในด้าน สินทรัพย์ของเสี่ยบางท่านที่จะซื้อถูกๆ แล้วล้วงตับมาใช้ประโยชน์ขายราคาแพงๆ book หลายครั้งก็เชื่อถือไม่ได้ เพราะสินทรัพย์บางตัวตีราคาอาจถูกกว่า หรือไร้ค่าก็มี เช่น เครื่องจักร(หักค่าเสื่อมแล้วราคาขายทอดตลาดยังถูกกว่าอีก) หรือค่าความนิยมเป็นต้น บางทีมูลค่าก็สูงขั้นเทพก็มีเช่นที่ดินย่านสาธร สีลม แต่ตอนโชว์ในงบ มันโชว์ราคาทุนที่ซื้อมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จากคุณ : .NetMagic เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 15:15:53

ความคิดเห็นที่ 12 ใช้ได้ช่วงตลาดตกต่ำครับ ตลาดกระทิงยุคนี้หุ้นที่ p/bv ต่ำ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยดีครับ จากคุณ : สายลมแห่งสุข เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 15:59:15

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่เสมอไป ดูอย่าง TTA nav 0.55 เอง ถูกแสนถูก แต่บริษัทขาดทุนไปเรื่อยๆ ใครจะลงทุนด้วย จริงมัยครับ จากคุณ : ไก่อลาสก้า เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:27:17

ความคิดเห็นที่ 14 #10 เป็นประเด็นที่น่าสนใจครับ นั่นหมายความว่าถ้าหนี้สินเพิ่ม book value จะลดลง สมมติเราซื้อหุ้นตอน P/BV 0.8 นึกว่าได้ของถูก แต่ต่อมาบริษัทก่อหนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ P/BV ก็ปรับสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ราคาหุ้นไม่ขึ้น จนตอนปิดบริษัท P/BV อาจจะเป็น 10 ก็ได้ ถ้าเจ้าของขายตึกก็คงเอาไปใช้หนี้เจ้าหนี้ก่อนครับ เห็นหลายคนคิดว่าซื้อต่ำกว่า book value แล้วพอบริษัทเจ๊งจะได้เงินคืน ผมว่าเพ้อฝันครับ มีญาติซื้อหุ้นแล้วบริษัทเจ๊งไปเงินก็สูญครับ ไม่เห็นเค้าจะขายโต๊ะ ขายเก้าอี้เอาเงินมาเฉลี่ยคืนให้ผู้ถือหุ้น จากคุณ : กระทงหลงทาง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 23:48:39