ความคิดเห็นที่ 1 ช่วงขาขึ้น ดูง่ายไปหมด หุ้นมีขึ้นมีลง อย่าย่ามใจครับ พี่น้อง จากคุณ : คุณดี. ซี. เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:20:56

ความคิดเห็นที่ 2 มีให้ทำแค่ซื้อกับขาย ซื้อมากซื้อน้อย ขายมากขายน้อย ราคาก็มีแค่ขึ้นกับลง ขึ้นมากขึ้นน้อย ลงมากลงน้อย It's Not Easy, But It Is Simple. Simple, But Not Easy. แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 21:25:01 จากคุณ : แน่ข้างเดียว เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:24:37

ความคิดเห็นที่ 3 ใกล้เข้าสู่ช่วงหลับตาจิ้มแล้ว ช่วงแบบนี้ อิจฉามือใหม่จัง  มาตอนขาขึ้น มือเก่า ยังติดระแวงอยู่ ....... ผมก็แอบดู comment ไปเรื่อยๆ จากคุณ : PeterMc เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:26:25

ความคิดเห็นที่ 4 28 ธ.ค. วันทำการสุดท้ายของปีนี้ เอาเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนรวม มาเป็นตัวอย่างกรณ์ศึกษาแก่เม่าด้วยนะครับ ว่านักลงทุนที่ตกผลึกทางความคิดในการลงทุน มีผลงานเทียบกับเซ็ตเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่เม่าๆทั้งหลาย ขอบคุณล่วงหน้าครับ ^^ จากคุณ : เพียงผ่านมา เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:29:15

ความคิดเห็นที่ 5 TKS... จากคุณ : icute123 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:51:23

ความคิดเห็นที่ 6 ปล. เราก็มีเคล็ดลับ แต่เราไม่บอกใครหรอกนะ เดี๋ยวคนอื่นมาแย่งเรา"เจ๊ง" เราจะเจ๊งของเราคนเดียว555 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 22:14:15 จากคุณ : icute123 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:51:59

ความคิดเห็นที่ 7 เม่า  มือ  ใหม่  ชัวร์ จากคุณ : sockeye salmon เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 22:27:20

ความคิดเห็นที่ 8 เขาก็บอกหมดนั่นแหละที่เขารู้อ่ะ แต่คนเราถนัดไม่เหมือนกัน ทั้งๆที่เรียนหนังสือเรื่องเดียวกัน ยังเข้าใจไม่ตรงกัน แสดงวิธีทำต่างกัน บางทีผลลัพธ์ยังต่างกัน แต่เท่าที่สังเกตุคนที่ประสบความสำเร็จ เขาไม่ลอกเลียนใคร แต่เอาวิธีของแต่ละคนที่เข้ากับสไตล์ตัวเองมาประยุกต์ใช้ได้มากกว่า ถึงมีคำบอกว่า "ทำในสิ่งที่ถนัด ที่ชอบ โอกาสประสบความสำเร็จจะมากกว่า ทำตามคนอื่นเขา" จากคุณ : basic10th เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 23:01:16

ความคิดเห็นที่ 9 นักลงทุนที่เก่งแล้ว ก็เหมือนนักสนุกเกอร์ ที่เหลี่ยมเข้าตา แทงยังไงก็ลงครับ จากคุณ : jimmykung เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 23:43:58

ความคิดเห็นที่ 10 เล่นหุ้นตามวิถีทางที่ตัวเองถนัด แล้วจะเข้าใจว่าที่ จขกท พูดว่า "ตกผลึก" คืออะไร ใครชอบหุ้นเร็ว เก็งกำไร อย่าริไปเป็น VI เพราะยังไงคุณก็ถือได้ไม่เกิน 1 วัน ใครชอบหุ้นมีข่าว ก็สรรหาข่าวเล่นตามข่าวกันไป อย่าไปเลือกทางอื่น เพราะยังไงมันก็ขัดกับใจตัว ถือไปก็ไม่สบายใจ ใครรักเป็นนักเทคนิค อย่าสนเวลาคนเอาพื้นฐานมาพูด เพราะอาจทำให้คุณเขว ใครเป็นคนเล่นหุ้นพื้นฐาน ถ้าเชื่อมันว่าพื้นฐานมันดี อย่าไปแกว่งตามสัญญาณทางเทคนิค แต่ขอโทษเถอะนะครับ ส่วนใหญ่ที่เจ๊งๆกันเนี่ยคือ เล่นตามคนอื่นบอก ไม่ได้คิดเอง ไม่ได้มีแนวทางของตัวเอง พอซื้อหุ้นมากลับมีแต่ความว่างเปล่า เราซื้อเพราะอะไรยังไม่รู้ มีหุ้นแล้วเครียด เพราะไม่รู้คนบอกจะว่ายังไงต่อไป เพื่อนก็ไม่ใช่ สนิทก็ไม่สนิท เจอกันในบอร์ด หุ้นมีดีอะไรก็ไม่รู้ มีข่าวอะไรก็ไม่รู้ ควรขายตรงไหนก็ไม่รู้ เป้าหมายแถวไหนก็ไม่รู้ นี่ล่ะ คือสาเหตุที่ทำให้เจ๊ง ผมไม่เคยดูถูกแนวทางการลงทุนในหุ้นแบบไหนเลย ถ้าเจ้าของเงินเขาถนัดทางด้านนั้น แต่ทางเดียวที่ผมไม่ยอมรับเลยก็คือ เล่นตามที่เขาบอก เพราะมองเข้าไปข้างในแล้วทุกอย่างมัน "กลวงโบ๋" จากคุณ : wattanac เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 00:08:05

ความคิดเห็นที่ 11 กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้มือเก่าๆโดนค่าวิชาไปแล้วถึงจะตกผลึก รู้ว่าตัวเองสายไหน บางครั้งมันก็ง่ายจริงๆอย่างที่จขกท.ว่ามองปร๊าดเดียวรู้ว่าเค้ากำลังทำอะไรกันอยู่ แต่นับรวมๆแล้วก็ยากนะ กรองชั้นแรก คัดเม่ามือใหม่ว่าจะอยู่ในตลาดได้ตลอดหรือเปล่า ชั้นแรกเม่าก็หายไป80%แล้ว กรองชั้น2 คัดว่าทำกำไรได้สม่ำเสมอหรือเปล่า กรองชั้น3 กำไรสม่ำเสมอแล้วพอร์ทใหญ่ขึ้น รูปแบบการซื้อ-ขายก็ต้องเปลี่ยนไป พอร์ทยิ่งใหญ่ยิ่งซื้อขายลำบาก ต้องค่อยๆซื้อ-ขายขยับตัวลำบาก กรองชั้น4 เมื่อถึงวันนึงที่เจ้าอัพเกรดตัวเอง เริ่มดักทางรายย่อยถูกเช่นแกล้งทุบให้ทะลุแนวรับ ทุบให้คัทลอสรายย่อยที่จะรอดได้ต้องปรับปรุงเทคนิค วิธีคิดไปเรื่อยๆ กว่าจะตกผลึกได้ เม่าทั้งรังจะเหลือรอดกี่ตัว สำหรับคนที่ตกผลึกได้จริงๆเหมือนอยู่บนสวรรค์  งานการแทบจะไม่ต้องทำ ช่วงไหนตลาดขาขึ้นก็ไปพักผ่อนหย่อนใจ ตีกอล์ฟ ช๊อปปิ้งตามสบาย รายได้ดีกว่าเม่าที่นั่งเทรดหน้าจอมันทั้งวัน จากคุณ : laminos เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 02:55:59

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาสักระยะ ก็จะรู้ นิสัยหุ้น ก์คือนิสัยคน(เจ้า)ที่เล่นหุ้นส่วนใหญ่นั่นเอง นิสัยหุ้นแต่ละตัวไม่เหมือนกัน หัดสังเกตดี ๆ มีเวลาทำการบ้าน จะรู้ว่า ตัวไหนเจ้าใจดี ตัวไหนเจ้าเขี้ยว ตัวไหนมีรอบการขึ้นลงเป็นอย่างไร สำรวจหุ้นมากหน้าหลายตาแล้ว ดูว่าแต่ละกลุ่มมันมีพฤติกรรมอิงแอบแนบชิดกับปู่เซ็ตแค่ไหน ขึ้นลงด้วยกันเป็นปาท่องโก๋ หรือมันชอบทางใครทางมัน อินดี้แต่ละตัว มีอำนาจในการชี้ชัดไม่เท่ากัน บางทีดูกราฟดีแล้ว แต่ก็ยังขายหมูได้ ใครว่าเข้าตามหุ้นที่มีโวลุ่มยังไงก็น่าจะมีลำไยติดไม้ติดมือมาบ้าง สุดท้ายก็ยังมีติดดอยได้...ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย หุ้นทั้งตลาด มีเยอะมาก ใช้เวลาดูกันนาน ยิ่งตัวที่รักชอบถึงขั้นเอามาเชยชมในพอร์ท บางตัวนิสัยหรือสันดานแท้ ๆ ก็ยังไม่ออก ต้องใช้เวลาดูใจกัน อาจจะนานพอ ๆ กับการพิสูจน์ใจคนรู้ใจก็เป็นได้ ที่คิดเอาเองว่า ตลกผลึกแล้ว สุดยอดแล้ว บางทีมันก็ไม่จริงเสมอไป ขายหมู ซื้อควาย ติดดอย คอยเป้ายาว..ก็ยังเกิดประจำ หลาย ๆ ครั้ง ก็มีความรู้สึกคล้ายอยู่ในบ่อนพนัน ลงทุนกับความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา กว่าจะหาเหตุผลสำหรับการซื้อขายหุ้นตัวใดตัวหนึ่งได้ ราคามันก็วิ่งไปไกลมากแล้ว พอทำนิวไฮ ยิ่งอยากขาย อยากขาย กว่าจะได้รู้ว่า ไอ้ตัวเรานี่แหล่ะ ที่รู้จักตัวเองน้อยเกินไป กลัวเกินไป โลภเกินไป กล้าเกินไป แหวกแนวเกินไป ในบางครั้ง ก็ทำให้เสียกำไรไปหลายกระบุง ใจไม่นิ่ง สติไม่มา ปัญญาไม่เกิด เล่นไปเรื่อย ๆ ไม่มีจุดยืน มันคงต้องพลาดเข้าสักวัน...หันมาทำความรู้จักตัวเอง ให้มากยิ่งขึ้น เวลาโลภ มันเป็นยังไง อาการกลัว อาการอยากขึ้นรถ มือสั่นอยากขาย มันจะควบคุมยังไง เตือนตัวเองยังไง ให้ใจเย็น ๆ มีเหตุผล ดูปัจจัยแวดล้อมก่อนซื้อขาย ถ้ากราฟ และเครื่องมือประกอบการตัดสินใจอื่น ๆ จะช่วยให้แนวทางในการเข้าซื้อขายได้ถูกช่วง ก็ควรหาเวลาศึกษาให้มาก ๆ ให้เวลากับหุ้นที่สนใจ ก่อนจะเป็นเจ้าของ จะได้ไม่เสียใจ ว่าเลือกผิดตัว ไม่ต้องคัทลอสบ่อย ๆ พยายามทำการบ้านสม่ำเสมอ ดูเทรนวัน สัปดาห์ เดือน ปี หัดวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจที่สนใจ หรือ มีหุ้นในส่วนนั้น ๆ ฟังข่าว อ่านกระทู้ แล้วกลั่นกรองให้เป็น ไม่ต้องพึ่งเซียน ไม่ต้องเรียนจากการสูญเสีย..เคล็ดลับไม่มี มีแต่คนจะทำ หรือไม่ทำ เท่านั้น.. จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 04:13:31

ความคิดเห็นที่ 13 ผมสังเกตว่าคนส่วนมากชอบหาเรื่องยากๆมาคิด ??? จากคุณ : หวังซินเสีย (kimlt) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 07:20:38

ความคิดเห็นที่ 14 1. ไม่มีสูตรสำเร็จในการเล่นหุ้น 2. ไม่มีสูตรสำเร็จใดใช้ได้ตลอดกาล...ใช้ได้ทุกสถานการณ์ 3. เซียนหุ้นทุกรายล้วนเคยผิดพลาดในการเล่นหุ้น ไม่มีใครทำถูกทุกครั้งในการเล่น...แม้ วอเรนต์ บัฟเฟต ก็ตาม 4. ถ้าจะเล่นหุ้นให้ได้กำไรทุกครั้ง...คุณต้องรู้อนาคต...แล้วมีใครล่ะที่รู้อนาคต...คุณหรือ? จากคุณ : เม่าน้อยสู่พญาปลวก เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 07:44:53

ความคิดเห็นที่ 15 คห.14 อย่าตัดพ้อเสียก่อน แสงสว่างปลายอุโมงค์มันอยู่แค่เราพลิกฝ่ามือ หรือเปลี่ยนมุมมองเท่านั้นเอง สู้ๆนะครับ (เมื่อคุณทำได้คุณจะรู้ว่าไม่มีอะไรทำร้ายคุณได้เลย) จากคุณ : หวังซินเสีย (kimlt) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 08:02:36

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ทุกสิ่งที่เราไม่เคยเจอ ไม่ใช่ว่ามันไม่มี เมื่อคุณเชี่ยวชาญในการผ่าตัด บางครั้งไม่ต้องผ่า ก็รู้ว่าคนนี้ไม่รอดแน่ๆ <<< ข้อนี้คงตอบโจทย์เรื่องไม่มีเทคนิคใดใช้ได้ตลอดกาล เมื่อคุณเป็นนักแม่นปืน = โอกาสยิงเข้าเป้าของคุณมากแค่ไหน คิดดูเอาเอง หากไม่เข้าเป้า การสูญเสียของคุณก็แค่กระสุน 1 นัด สู้ๆครับทุกคน จากคุณ : หวังซินเสีย (kimlt) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 08:21:58

ความคิดเห็นที่ 17 เขาเรียกว่า บรรลุแล้วซึ่งสัจจธรรม ขึ้นได้ ก็ลงได้ ดอยได้ ก็เหวได้ all time high ได้  ก็  all time low ได้   ตั้งแต่เปิดตลาดไทยมา มีจำนวนหุ้นที่เจ๊ง ที่เหลือแค่ 0.10 ให้พอค่าคอม ที่ต่ำกว่าราคาจอง  ที่ราคายังต่ำกว่าดอยในช่วงฮันนีมูน ที่ต้องล้วงเงินจากผู้ถือหุ้นเพิ่มทุนอัดเข้าไป (เพื่อ re finance)  ที่แทบไม่เคยปันผล  ที่ปันผลมั่งไม่ปันมั่ง  ที่ส่วนของผู้ถือหุ้นต่อหุ้นรวมปันผล  เพิ่มขึ้นต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ปาเข้าไป มากกว่า 50% ของจำนวนหุ้นที่เข้ามาเทรดในตลาด ทั้งนี้ ยังไม่นับกลุ่ม warrants ที่ใช้สิทธิ์ไม่คุ้ม หมดอายุเหลือ 0 มากกว่า 90%   แถมปัจจุุบัน หนักกว่าเก่า เพราะมีสารพัดตราสารอนุพันธุ์ยกกำลังสองออกมานับไม่หวาดไม่ไหว จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 14:09:16

ความคิดเห็นที่ 18 หุ้นเกิดจากคน ยังไงมันก็หนีไม่พ้นคน ^^ ศาสตร์การบริหารองค์กร ยังให้บริหารแบบร่างกายคนเลย ดังนั้นในมุมผมหุ้นแต่ละตัวมันเลยมีบุคลิก ท่าทางและกิริยาของมันในระดับนึง เปรียบได้กับคนๆนึงนั่นเอง คนก็มีหลายแบบ แบบที่เข้ากับเรา แบบที่ไม่เข้ากับเรา และแบบที่ไม่เอาใคร เรียนรู้ตัวเองว่าตัวเองสายไหน รูปแบบใด มักไปได้ดีกับใคร หุหุ -------------------- รู้เขารู้เรา  รบร้อยชนะร้อย ไอ้ที่รู้ว่าจะแพ้ ก็ไม่ต้องรบ ก็ไม่แพ้แล้วไงครับ อิอิ ^_^ จากคุณ : เม่ามือใหม่หัวใจสะออน (SundayroyaL) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 12:24:31

ความคิดเห็นที่ 19 รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะหนึ่งครั้ง นอกนั้นเสมอหมด จากคุณ : ชายน้อง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 21:21:06