 |
ของเอเซีย พลัส ...
บทวิเคราะห์ บมจ. หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ที่ระดับ SET Index 1330 จุด คิดเป็นค่า Current PER ที่ 15.2 เท่า และ PER ณ สิ้นปี 2555 ที่ 15.05 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงกว่าภาวะปกติ ประเด็นที่น่าจับตาในช่วงเดือนสุดท้ายของปีได้แก่ พฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ซึ่งโดยปกติมักจะเห็นกลุ่มนักลงทุนสถาบันเป็นฝ่ายซื้อสุทธิหลัก เนื่องจากมีเงินที่ไหลเข้ามาจากกองทุน LTF / RMF โดยค่าเฉลี่ยช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบว่าช่วงเดือน พ.ย. จะมียอดซื้อสุทธิ 5.58 พันล้านบาท ขณะที่เดือน ธ.ค. มียอดซื้อสุทธิ 1.02 หมื่นล้านบาท ส่วนในปี 2555 พบว่าในช่วงเดือน พ.ย. นักลงทุนสถาบันในประเทศมียอดซื้อสุทธิไปแล้วกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ทำให้คาดว่าในเดือน ธ.ค. อาจไม่เห็นแรงซื้อที่สูงเกิน 1 หมื่นล้านบาท เหมือนค่าเฉลี่ยในปีที่ผ่านๆ มา ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศช่วงปลายปี มักจะเห็นทิศทางการซื้อขายที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร แต่หากพิจารณาจากสถานะการซือสะสมในรอบจาก 29 พ.ย.2554 จนถึงปัจจุบันแล้วยังมียอดคงค้างประมาณ 6 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมรายการ Big Lot) ซึ่งเป็นไปได้ที่อาจเห็นแรงขายสุทธิออกมาได้อีกบางส่วน นักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าจับตามองในช่วงเดือน ธ.ค.55 ได้แก่ กลุ่มพอร์ตการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมา มียอดซื้อสุทธิรวม 5.53 พันล้านบาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 3.77% ซึ่งหากมีการขายสุทธิออกมาเพื่อทำกำไร ก็อาจสร้างแรงกดดันต่อ SET Index ได้ในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการทำ Window Dressing ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีก็เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นกัน จากการประเมินภาพดังกล่าว ทำให้เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของ SET Index ช่วงเวลาที่เหลือของปี 2555 น่าจะเป็นไปได้วยความผันผวน และเป็นไปได้ที่ SET Index อาจมีราคาปิดอยู่ที่ บริเวณ PER 15 เท่าได้ ภายใต้สภาวะดังกล่าวฝ่ายวิจัยเห็นว่าหุ้นที่เหมาะสมที่จะมีไว้ในพอร์ตควรเป็นหุ้นที่ให้ Dividend Yield สูง จึงยังเลือกหุ้นชุดเดิมที่ได้นำเสนอไปในช่วงที่ผ่านมา เช่น DCC, TICON, SNC, INTUCH และ TFUND
จากคุณ |
:
Sunny (iT_member)
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 55 15:05:47
|
|
|
|
 |