ความคิดเห็นที่ 1 ยางพาราคิดแล้วยังได้กำไร ประมาณกิโลละ 30 บาท แต่ไม่ใช่เงินจำนวนมากหรอกนะครับ สมมติที่ 25 ไร่ ปีนึงจะได้เป็นเงินกำไรจริงๆประมาณไม่ถึง สองแสนบาท ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายแบบละเอียดนะ (ลืมลงรูปราคาปาล์มครับ) จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 19:35:35

ความคิดเห็นที่ 2 ขอชมภาพสวนด้วยได้หรือเปล่าครับ เผื่อเป็นแนวทาง ในอนาคตว่าจะย้ายไปอยู่สวนอะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 19:42:54

ความคิดเห็นที่ 3 ขายสวนทิ้ง แล้วไปทำสวนอื่นแทน มีตั้งหลายสวน ทำไมต้องพารา (เซตามอล) ปวดหัวเปล่าๆ อย่าไปยึดติด จงเลือกโอกาสที่ดีที่สุด ณ เวลานั้นๆ จากคุณ : นักลงทุน999 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 19:44:39

ความคิดเห็นที่ 4 สวนยางพารา เพื่อนบ้านอีกไม่นานก็กรีดได้แล้วนะครับ ท่าทางจะไม่ดีเท่าไหร่ต่อราคายางพารา แต่ราคายางรถยต์แพงขึ้นทุกๆปี งง... จากคุณ : ออมเพชร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 19:51:22

ความคิดเห็นที่ 5 จากคำแนะนำ ของท่าน นักลงทุน999 แสดงว่าต้องทำสวนอยู่ด้วยแน่ๆ แก้ปัญหาได้เด็ดขาดจริงๆ จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 19:53:44

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพสวนครับ แต่ถ่ายไว้นานแล้ว ราวๆปีนึงนะครับ จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 19:59:08

ความคิดเห็นที่ 7 ปาล์ม จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 19:59:41

ความคิดเห็นที่ 8 อยู่ จว ไหนครับ แล้วน้ำมีตลอดทั้งปีหรือเปล่าครับ เป็นน้ำจากบ่อ (บึง) หรือว่าเป็นน้ำจากชลประทานครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:03:39

ความคิดเห็นที่ 9 ธุรกิจทำง่าย ไม่มีBarrier ตอนนี้ ลาว พม่า เขมร เริ่มปลูกกันแล้ว ยิ่งภาคอิสาน ตรึม รอกรีดกันแล้ว บอกได้เลยว่าราคามีแต่จะลง ใครคิดทำสวนยาง ระวังได้ตัดทำฟืน จากคุณ : por_sas_a เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:03:51

ความคิดเห็นที่ 10 การบริหารในภาพรวมทำผม งงๆ ไม่ว่ายุคไหนนะครับ ทำผม งงเหมือนกันหมด หรือเพราะผมคิดได้น้อยกว่าผู้มีหน้าที่บริหารก็ไม่รู้ ผมชอบสวนนะครับ แต่การทำสวนที่ต้องทำไปร้องไห้ไปก็ไม่ไหว 55+ จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:03:56

ความคิดเห็นที่ 11 ต่อไปราคายางจะตกต่ำลงอีกครับ เพราะปลูกในจีนกับลาวเยอะมาก แถมภาคอีสานของเราก็เริ่มกรีดกันแล้ว ถ้าเศรษฐกิจอเมริกาไม่ฟื้นซึ่งก็คงจะไม่ฟื้นในเร็ววันเป็นแน่ อยากให้วางแผนดีๆครับ ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ผมเพิ่งล้มขายต้นไป 40 ไร่ เหลืออยู่ 60 ไร่ เพราะ 40 ไร่ปลูกมาเกือบ 30 ปีแล้ว จากคุณ : พ่อน้องซุปเปอร์ฮีโร่ (พ่อน้องซุปเปอร์ฮีโร่) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:08:43

ความคิดเห็นที่ 12 ลองเปลี่ยนจากสวนจริงมาทำสวนทางซีครับ เช่น เขาฮิตยางพารากัน แห่ปลูกกันมาก ๆ แค่นี้ก็มองเห็นอนาคตแล้วครับ ว่าจะย่ำแย่อย่างไร เราก็สวยทาง หาไอ้ที่เขาไม่ปลูกกัน เราปลูกมันอยู่คนเดียว อนาคต เขาไม่มีใครปลูก เราปลูกคนเดียว ผลผลิตเราก็ต้องหายาก ราคาก็ต้องดี แบบนี้น่ะครับ ชาวสวน(กระแส) จากคุณ : ไอไอ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:12:24

ความคิดเห็นที่ 13 อยู่ตราดครับ เป็นที่ต่ำอยู่ใกล้คลองครับ เมื่อก่อนทำนา แต่ข้างๆเลี้ยงกุ้งทำนาไม่ได้ ทิ้งไว้หลายปี จนรัฐสนับสนุนให้ปลูกปาล์มให้ความรู้ว่าปาล์มใช้ประโยชน์ได้มากทั้งของกิน ไบโอดีเซล เครื่องสำอางค์ แถวบ้านมีได้พันธุ์ปาล์มฟรีด้วยนะครับ  ธกส มี โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ เมื่อก่อนรู้จักปาล์มแต่ไม่เคยสนใจครับ คราวนี้ไปเชื่อเขาง่าย ลงทุนได้สี่ปีกว่าๆกำลังจะได้ผลผลิตมากขึ้น ลงทุนไปห้าแสนกว่าบาท ยังไม่ได้เสี้ยวของทุนกลับมาเลย เจอราคาแบบนี้เข้าไป เงิบครับ จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:19:05

ความคิดเห็นที่ 14 พี่ไอไอ ทำสวนไม่ได้พลิกเปลี่ยนตัวได้ง่ายเหมือนขายบ้านปู ไปซื้อ อินทัช อ่ะครับ เช่นลงทุนของเก่ายังไม้ได้ทุน จะเปลี่ยนอีกก็ต้องใช้ทุนใช้เวลาอีก ถ้าเขาแห่มาปลูกตามกัน เราจะทำไงต่ออีกล่ะ คุณพ่อน้องซุปเปอร์ฮีโร่ ผมก็เริ่มคิดครับ คิดหนักด้วยเนี่ย จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:25:52

ความคิดเห็นที่ 15 ปาล์มได้เปรียบยางตรงที่ว่า 1. ปาล์มออกลูกทั้งปี ถ้าพันธ์ดีและน้ำถึง ในขณะที่ยางมีช่วงผลัดใบประมาณสี่เดือน 2. ยางปลูกกันเยอะ ปลูกได้ทุกภาค ปาล์มปลุกได้บางภาคแต่ดินแต่ละพื้นที่ต้องใช้พันธ์ปาล์มต่างกัน 3. ผลผลิตปาล์มใช้ในหลายอุตสาหกรรมกว่ายาง 4. ยางใช้แรงงานกรีด เก็บ ทำยางแผ่น ปาล์มตัดแล้วขนขึ้นรถเอาไปขาย ยางใช้เวลาทำนานกว่าปาล์ม 5. ปาล์มถ้าพันธ์ดีออกลูกดกๆ เทียบพื้นที่ต่อไร่ ราคาตอนนี้ได้เปรียบกว่ายาง จากคุณ : พ่อน้องซุปเปอร์ฮีโร่ (พ่อน้องซุปเปอร์ฮีโร่) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:38:50

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเป็นชาวสวนส้มเขียวหวานมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นภาพหมดเพราะตอนเด็กได้ตามพ่อไปสูบน้ำจากแม่น้ำมาใส่ส้ม ดูการฉีดยา เอาหญ้ารอบวงต้นส้ม ตกแต่งกิ่งส้ม เก็บส้มเน่าใต้ต้น เด็ดส้มลูกเล็กพวงที่มากเกินไปออก ฯ และที่สำคัญเห็นการกดราคาของพ่อค้า การลดราคาให้พ่อค้าคนกลางซื้อ เห็นการล่มสลายของการปลูกส้มตามกระแส บัดนี้ที่แถวสวนผมไม่มีใครปลูกส้มแล้ว ปลูกไม้สักแทน สวนนั้นปู่ได้ขายไปแล้ว เสียดายมาก จากคุณ : เพียงผ่านมา เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:44:37

ความคิดเห็นที่ 17 ฟังไป ก็เก็บเอาไว้ เผื่อมีที่กับเขาบ้าง ในชีวิต มีที่ดินสูงสุด คือ 6 ไร่ ไม่เคยเยอะกว่านี้ ((ที่ดินสวน ไม่มีราคา อยู่ลึก)) จากคุณ : PeterMc เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:49:48

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ พ่อน้องซุปเปอร์ฮีโร่ ถ้าาล์มกิโลละ ห้าบาทขึ้นไปผมเห็นด้วยแต่ราคานี้ผมว่ายางก็ยังดีกว่า(หน่อย) ปาล์มก็มีช่วงขาดคอครับ ประมาณ3 เดือนเหมือนกัน ไม่ว่าปาล์มจะมีข้อดีมากกว่าอย่างไร ถ้าไม่สะท้อนออกมาในราคา  ก็ไม่มีประโยชน์ใดใดเลย --* จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:54:40

ความคิดเห็นที่ 19 ว่าจะกลับไปกรีดยางบ้านพ่อตาที่อีสาน  ยังไงยังมองว่ายางราคาดีกว่าข้าวเปลือก จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:35:52

ความคิดเห็นที่ 20 น่าเห็นใจคุณจขกท.นะครับ ปลูกไม้ยีนต้นไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงกันได้ง่ายๆ ดีที่ยังพอมีกำไรบ้าง ...ค่อยๆขยับขยายกันไป เอาใจช่วยครับ                                         จากคุณ : pitan เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:54:34

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าผมจะบอกว่า.  ราคาปัจจุบันนี้ที่จขกท.เขียนมา ก็ไม่ได้แย่นะครับ เท่าที่ผมจำความได้ ราคาปาล์ม สมัยเมื่อซักสิบกว่าปีที่ผ่านมา ปาล์มทลายกิโลละ1บาท   ปาล์มร่วงกิโลกรัมละ2บาทแล้ว สัก1-2ปีที่แล้วพุ่งราคาขึ้นมา ประมาณ 5-6บาท ราคายาง.  สมัยเมื่อซักสิบกว่าปีที่ผ่านมา น้ำยางดิบและยางแผ่นอยู่ที่ประมาณ กิโลกรัมละ10-15 บาท สก 2-3ปีที่แล้วราคาพุ่งประมาณ. 150-170บาท จริงๆแล้วอาจเปรียบเทียบราคาในช่วงเวลาที่ต่างกัน คงไม่เหมาะ แต่ผมเพียงคิดว่า ทั้งยางทั้งปาล์มมันมีวัฏจักรของมัน ถ้าอดทนรอได้ เด๋วก็จะดีเอง ถึงแม้จะอยู่ที่ราคานี้. หรือต่ำกว่านี้ก็ยังไม่ขาดทุนใดๆนะครับ (ผมคิดหักค่าแรงงานค่าปุ๋ยค่าอื่นๆจิปาถะแล้วก็ยังถือว่าได้กำไรครับ)โดยไม่ต้องออกแรงเองเพียงไปเยี่ยมเยียนดูแลเป็นระยะๆ ระหว่างที่รอราคาให้ดีขึ้น. ก็ปลูกผลไม้หลายชนิดแซมไปบ้าง ถ้าถามรุ่นปู่ย่าตายายเค้าก็บอกราคา ราคาสมัยนี้ยังถือว่าดีครับ แต่ถ้าทนไม่ได้ก็คงตามคำแนะนำท่านนักลงทุน999.  ครับ แฮ่ๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : จิ้มทีละตัวบนไอแป๊ดดด (humble beggar) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 22:00:32

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาอ่านเพราะเป็นชาวสวน(ยาง)ด้วย ดีกว่าปาล์มนนะ ปีก่อนตอนยางราคาพุ่งรวยกันเป็นแถบๆจ้าาา อิอิ มีวามสุขจริงๆเรยยย (ตอนนั้นนะ เหอ เหอ) จากคุณ : money many เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 22:33:22

ความคิดเห็นที่ 23 ต้นทุนสูง ราคาผลผลิตตกต่ำ ยังไงก็ยังพอทำรายได้บ้าง....แต่ออกไปกรีดยาง แล้วโดนเสือตะปบมั่ง โดนช้างเหยียบตายมั่ง...แบบนี้ น่ากลัวกว่าเยอะ.. สู้ ๆ ฮะ จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 01:04:53

ความคิดเห็นที่ 24 นายทุนนอนตีพุงสบายเลย ซื้อถูกขายแพง อิอิ จากคุณ : @@GBTH@@ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 05:29:35

ความคิดเห็นที่ 25 ก็น่าคิดนะครับ ราคาปาล์ม กก ละ หกบาท น้ำมันขวดละ 42 บาท ราคาปาล์ม 2.7 บาทน้ำมันก็ขวดละ 42 บาท จากคุณ : ขอบคุณที่ตอบ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 07:10:53

ความคิดเห็นที่ 26 。。。 จากคุณ : Worthog เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 08:03:12

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามามุงปาล์ม.. จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 09:07:55

ความคิดเห็นที่ 28 คห 26 พอจะมีข้อมูลมั๊ยว่า น้ำมันปาล์ม 1ขวด 42บาท กลั่นมาจากผลปาล์ม กี่กิโล จากคุณ : Wai-ta-min เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 09:36:52

ความคิดเห็นที่ 29 น้ำมันปาล์มขวดละ42 บาท โรงงานคงขายได้เงินจริงราวๆ35 บาท ที่เหลือก็เป็นกำไรให้คนขาย ทางแก้ผมว่าไม่ใช่ลดราคาน้ำมันขวดลง แต่ทำให้ราคาล์มดิบ สมกับราคาขายน้ำมันปาล์มขวดดีกว่า เพราะราคานี้คนทำสวนปาล์มรายย่อยไม่รอดแน่ ส่วนยางราคาแพงก็มีปีเดียว กรีดได้ไม่กี่เดือนราคาก็ลงแล้ว ราคาปัจจุบันเจอค่าครองชีพ ต้นทุนสมัยนี้เข้าไปก็แทบป่วยเหมือนกันครับ รู้งี้ขายที่ตอนแพงๆได้สักสิบกว่าล้านใช้หนี้สองล้าน ที่เหลือเอาไปซื้อหุ้นปันผลดีๆยังสบายใจกว่าตอนนี้ ที่ตัองลุ้นทั้งราคา ฝน เดือนธันวาแล้วฝนยังตกอยู่ ปุ๋ยใส่ไปแล้วยังเก็บเงินกลับมาได้ไม่หมดเลย แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 55 10:47:47 แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 55 10:46:00 จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 10:45:25

ความคิดเห็นที่ 30 # 28  ข้อมูลแบบนั้นในหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจไม่มีค่ะ   จะมีก้อแต่โรงงานค่ะ  ใช้เป็นสูตรการผลิตในการควบคุมกระบวนการ โทรถามจากเพื่อนที่ทำโรงงานน้ำมันพืชบอกว่า รับซื้อปาล์มมาทั้งทะลาย โรงงานนำมากะเทาะเปลือกออก เอาส่วนของกะลาปาล์มและกากออกไป ส่วนเนื้อปาล์มบีบเป็นน้ำมัน ตรงนี้ได้ประมาณ 50-50  (ปาล์ม 1 กิโลได้น้ำมัน 5 ขีด) จะคิด 5 ขีดกลับเป็นปริมาณ  ต้องเอาความถ่วงจำเพาะมาช่วย   เช่นน้ำมีความถ่วงจำเพาะ = 1 น้ำมันปาล์มมีความถ่วงจำเพาะประมาณ 0.81-0.95 แปลว่าดังนั้นน้ำมันปาล์ม 1 ลิตร หนักประมาณ  810 - 950 กรัม จากคุณ : Worthog เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 10:52:51

ความคิดเห็นที่ 31 ราคาผลผลิตในอนาคตไม่มีใครทราบแน่นอนครับ ปาล์มดูผลผลิตต่อไร่สู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้มีนำเข้ามาทางชายแดนจำนวนมาก ยางราคาไปมา20-200ในช่วงหลายปีโดยประมาณแต่ที่แน่ๆ ณ วันนี้สวนยางราคาสวนยาง ขยับ จาก 50,000ต่อไร่ไปถึง 500,000บาทต่อไร่(บางพื้นที่ ณ บริเวณเดิมอย่างรวดเร็ว) จากคุณ : d.hunt เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 11:01:54

ความคิดเห็นที่ 32 http://www.posttoday.com/กทม.-ภูมิภาค/ภาคใต้%20/192499/ชาวสวนเตรียมบุกจี้นายกฯแก้ราคาปาล์มร่วง 09 ธันวาคม 2555 เวลา 13:16 น. นายโอภาส หนูชิต กรรมการสมาคมปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานสหกรณ์ปาล์มน้ำมันจังหวัดพัทลุง (นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง) กล่าวว่า ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ชาวสวนปาล์มทั่วประเทศจะนัดพบกันที่กรุงเทพฯ แล้วส่งตัวแทนเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้ช่วยแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ โดยขณะนี้อยู่ที่ 2.82บาท/กก. ขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 4.29 บาท/กก. ส่งผลให้ชาวสวนปาล์มประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก   การเข้ายื่นหนังสือต่อนายกฯครั้งนี้จะไม่มีการปักหลักชุมนุมประท้วง แต่หากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการให้ได้ ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการปะท้วงหรือไม่ ขณะที่ในวันที่ 11-12 ธ.ค.นี้ ชาวสวนปาล์มทั่วประเทศไทยจะยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีพื้นที่การปลูกปาล์มด้วย สำหรับข้อเรียกร้องของชาวสวนปาล์มต่อรัฐบาลคือต้องการให้รัฐบาลประกันราคาปาล์มประมาณ 6 บาท/กก. เช่นเดียวกับที่รัฐบาลประกันข้าว ยางพารา อ้อย มัน เป็นต้น ส่วนข้อเรียกร้องเสริมคือ รัฐบาลจะต้องดำเนินการช่วยเหลือด้านการขนส่งระหว่างสวนปาล์มกับลานเท และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มซึ่งสามารถจะลดต้นทุนการผลิตได้ถึง 50 สตางค์/กก. ขณะที่ในการประชุมชาวสวนปาล์มครั้งล่าสุด นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ซึ่งได้เข้าร่วมประชุมด้วย ได้รับปากกับชาวสวนปาล์มว้า ว่าจะดำเนินการประสานให้ระหว่างเกษตรกรชาวสวนปาล์มกับรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ จากคุณ : Worthog เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 11:10:14

ความคิดเห็นที่ 33 。。 ถ้าคิดที่ความถ่วงจำเพาะ 0.92  [ตอบความเห็น 28] จากคุณ : Worthog เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 11:29:41

ความคิดเห็นที่ 34 ผมคิดเองว่า......สวนยาง สวนปาล์ม ก็คล้ายกับลงทุนหุ้นอะครับ ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น....คล้ายกับราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น (แต่เป็นเพิ่ม 10-20 เด้งเลย สำหรับทำเลที่ดี) ผลผลิตที่เหลือเป็นกำไร... คล้ายกับปันผลที่ได้รับจากหุ้น (หักลบต้นทุนทุกอย่าง  ได้กำไรประมาณ 5 -10 % ของราคาที่ดิน)      กรณี จ้าง ทุกอย่าง  ไม่ได้ลงแรงเอง ------------------------------------------------------------- เพียงแต่ การซื้อ ขาย หรือ cut loss จะดูยุ่งยากกว่า หุ้น ครับ และผมคิดข้อแตกต่างอีกอย่างหนึ่ง คือ การได้ครอบครองที่ดิน ที่มีประโยชน์ใช้สอยจริง...ไม่ได้ครอบครองแผ่นกระดาษแบบหุ้น (ปริมาณ ประชากรในโลก เพิ่มขึ้นทุกปี  แต่จำนวนที่ดินไม่ได้ขยายเพิ่มขึ้น          คงต้องขยายพื้นที่ ไปดาวอังคารแหละมั้ง  แหะ ๆ) ---------------------------------------------------------------- ปล. การแสดงความคิดเห็นของผม  ออกแนวเชียร์สักหน่อย     เพราะผมเป็นทั้งชาวสวนยาง สวนปาล์ม  ตั้งแต่เกิด     สืบทอดมาตั้งแต่ รุ่นบรรพบุรุษ ครับ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 55 11:37:15 จากคุณ : humble beggar เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 11:30:39

ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อต้นเดือนกลับไปบ้าน พ่อตัดปาล์มพอดี คนงาน 1 คน ตัดไม่ถึงวัน ได้1.6 ตันได้ ราคา กิโละ 3.10 บาท ได้เงิน 4976 บาท แต่ว่าหักจ่ายค่าแรงคนตัดปาล์ม ตันละ 400 บาท สรุปคนงานตัดปาลฺ์มได้ค่าแรง 642 บาท ทำงานค่อนวัน (ไม่เต้มวัน) แต่ปาล์มตัดได้ ทุก 3 สัปดาห์ จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 13:08:38

ความคิดเห็นที่ 36 ตัดจากสวนนำไปขาย ขึ้นตาชั่ง เสียค่าชั่ง 30 หรือ 40 บาทนี่ล่ะ จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 13:09:35

ความคิดเห็นที่ 37 วันต่อมาแม่ชวนไปดูสวนยางที่เพิ่งเริ่มเปิดกรีดหน้ายาง (พื้นที่กี่ไร่ก็ไม่รู้จำไม่ได้) 3คืน กรีด 2 คืน ได้น้ำยางทำเป็นยางแผ่นได้11-12 แผ่น แผ่นละโล แบ่งกับคนกรีดคนละครึ่ง แม่ลองคิดแล้วบอกว่าทำปาล์มดีกว่า จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 13:12:30

ความคิดเห็นที่ 38 เอาใจช่วยจขกทค่ะ จากคุณ : เรือหางยาว เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 16:12:51

ความคิดเห็นที่ 39 คุณดอกนางแย้ม ผ่านมา10วัน ราคาลดลงไปอีก 10กว่า% เป็นหุ้นนี่ต้องคัทลอสกันเลยทีเดียว55+ ส่วนคนตัดตันละ400 นี่คือแทงอย่างเดียวหรือป่าวครับ หรือต้องขนขึ้นรถให้ด้วย สวนยางคุณน่าจะมีราวๆ6ไร่ ยางราวๆ500 ต้น 12*75 = 900 /2 =  450 บาท ถ้าผลผลลิตไม่ได้มากขึ้น ราคานี้คงหวังอะไรไม่ได้ คุณ เรือหางยาว ขอบคุณมากครับ และขอบคุณทุกท่านด้วยครับ  ^ ^ จากคุณ : งามหน้า เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 16:57:28

ความคิดเห็นที่ 40 ค่าแรง 400 บาทต่อตันที่ รวมแทงปาล์ม-ขนขึ้นรถ-ขนลงตอนไปขายครับ ส่วนสวนยางก็เป็น มากกว่า 6 ไร่ครับ จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 10:19:10