ความคิดเห็นที่ 1 มันเป็นหุ้น Clcle ครับ เด๋วก็หมด ยุก IT มาไวไปไว มาก! จากคุณ : sillicon46 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:53:46

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเชื่อว่ามันเลยจุดสูงสุดมาแล้ว Jobs คืออัจฉริยะตัวจริง จากคุณ : SLK55AMG เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 20:56:42

ความคิดเห็นที่ 3 ios 6.01 ยังห่วยเหมือนเดิมมมมม จากคุณ : ขอบคุณที่ตอบ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:06:19

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆแล้ว jobs แค่อยู่ถูกที่ และถูกเวลาเท่านั้นเอง จากคุณ : Post in Android (สมชายตลอดมา) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:07:05

ความคิดเห็นที่ 5 พลิกจากบริษัทที่ใกล้ล้มละลาย มาเป็นบริษัทที่เปลี่ยนวิถีชีวิตคนเกือบทั้งโลก ก็เกินความคาดหมายแล้ว หลังจาก Steve Jobs ตาย มันก็ค่อยๆกลับไปเป็นบริษัทเดิม เหมือนที่เคยเป็นมา จะรุ่งเรืองได้นานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับบารมีที่หลงเหลือของ Steve Jobs จะค้ำไว้ได้ถึงเมื่อไหร่ แต่เคยอ่านบทความของ ดร.ท่านว่า บริษัทที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤตต้องการซีอีโอที่เก่งฉกาจ ครั้นเมื่อหายนะผ่านพ้นไปแล้ว ต่อให้ซีอีโอจากไปบริษัทก็จะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปได้เรื่อยๆ (คงแปลว่าเลยจุดสูงสุดไปแล้ว ไม่หวือหวา อาศัยกินบุญเก่า หมดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น) จากคุณ : ไร้แก่นสาร เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:18:03

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเป็น Apple Fanboy ที่กำลังจะขาย Mac ไปใช้ Windows 8 และขาย iPhone เพื่อเปลี่ยนไปใช้ Windows Phone แทน เพราะต้นทุนของการ เป็น Apple Fanboy ช่างสูงเหลือเกิน เรื่องนี้ถ้าให้ลงรายละเอียด คงต้องจัดสัมมนาสัก 3 ชั่วโมงแล้วเดี๋ยวผมจะ เป็นวิทยากรบรรยายให้ฟัง เพราะมันมีรายละเอียดมาก รวมถึงหลายแง่มุม ให้ได้ขบคิด แต่ขอกล่าวโดยสรุป ตามที่คุณ จขกท บอกว่า "Apple is dying?" สำหรับในตอนนี้ ผมคงต้อง บอกว่า "too early to say that" เรื่องนี้มันต้องมองกันยาว ๆ เพราะจ๊อบส์เพิ่งตาย และตอนนี้แอปเปิลเอง ก็ยังไม่ส่งสัญญาณแห่งความล้มเหลวออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน หลายคนอาจจะกล่าวว่า แอปเปิลเริ่มหมดมุขแล้วหรือเปล่า เพราะผลิต- ภัณฑ์ที่ออกมาหลัง ๆ ไม่ค่อยจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาเท่าไหร่ เลย ก็แค่เปลี่ยนโน่นใส่นี่เพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ถ้าลองมองย้อนดูอดีตก็จะ พบว่าแอปเปิลใช้วิธีการนี้เสมอมาในการออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ จึงไม่ใช่ เรื่องแปลกอะไร เพราะในเมื่อของเดิมยังขายดี ก็ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบเข็นของ ที่ใหม่ "กว่า" ออกมา "เร็วเกินไป" มันมีประเด็นที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่ง คือ สินค้าแอปเปิลนั้นนอกจากจะ ขายดีไซน์แล้วยังขายความเป็นแบรนด์ของตัวเองอีกด้วย ซึ่งการที่แอป- เปิลสามารถขายสินค้าที่แท้จริงแล้วความสามารถไม่ได้ต่างจากคู่แข่งมาก ในราคาที่สูงกว่าเกือบเท่าตัวได้ เป็นเพราะผู้ใช้จงรักภักดีต่อแบรนด์ของ สินค้าเป็นอย่างมาก แต่ต้นทุนของการสร้างความจงรักภักดีเช่นนี้นั้นสูง เพราะแอปเปิลต้องมี นวัติกรรมใหม่ ๆ ออกมา เพื่อดึงดูดพลังศรัทธาของเหล่าสาวกไว้ให้ได้ โดยต่อเนื่อง หากวันใด แอปเปิลหมดมุข หรือหมดความล้ำหน้าทางนวัติกรรมในตลาด เมื่อไหร่ เมื่อนั้นบัลลังก์ของแอปเปิลก็จะสั่นคลอนทันที ถ้าถามว่าตอนนี้แอปเปิลเริ่มหมดมุขแล้วหรือยัง คงจะยังตอบไม่ได้ เพราะ มันต้องดูกันยาว ๆ แต่จากราคาหุ้นหลังจากเปิดตัว iPhone 5 ก็พอบอก ได้ระดับหนึ่งว่า ผู้คนผิดหวังต่อการมาของ iPhone 5 มากอยู่เหมือนกัน โดยส่วนตัวแล้ว ผมให้เวลาแอปเปิล 5 ปีนับจากจ๊อบส์ตาย ในการพิสูจน์ ตัวเอง ว่าสามารถรักษาสถานะของผู้นำด้านนวัติกรรมในตลาด แต่หากว่า หลังจาก 5 ปีไปแล้ว แอปเปิลยังคงมีพฤติกรรม "ขายของเก่ากิน" ก็แสดง ว่าแอปเปิลคงจะถึงจุดจบในไม่ช้า จากคุณ : Shinosuke08 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:21:03

ความคิดเห็นที่ 7 จากใจคนใช้  iphone4 นะครับ ชอบมาก แอปเยอะ ระบบดี ตอนแรกรอลุ้นมากตอน iphone5 จะออก กะว่าถ้าออกมาเจอกันแน่ ปรากฎว่าตอนนี้นอกจากจะยังไม่ได้ซื้อ iphone5 แล้วยังหามือถือเจ้าอื่นอยู่ครับ รอดูอยู่ว่า streaming บน android จะปรับปรุงให้ดีขึ้นมั๊ย หรือ window phone จะเสถียรรึป่าว เพราะ iphone5 ที่ออกมา ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรต่างขนาดต้องถอยเครื่องใหม่เลย รอแค่อัพเวอร์ชัน ios ก็ได้ ถ้าพูดแบบหุ้นคงบอกว่า overvalue ครับ จากคุณ : rabbit sun เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:23:13

ความคิดเห็นที่ 8 โนเกียใกล้ตายกว่าเยอะ จากคุณ : baby_naked เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:26:15

ความคิดเห็นที่ 9 #8 Nokia ตอนนี้ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ Windows Phone เพียง อย่างเดียวเท่านั้นจริง ๆ ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่สามารถอยู่ในตลาดระดับ high end และคงต้องไปเอาดีทางด้าน middle/low end phone แทน ผมยังจำคำพูดของ CEO Nokia เมื่อตอนแอปเปิลออก iPhone ในปี 2007 ได้เลยว่า "iPhone ไม่มีวันกินส่วนแบ่งตลาดระดับ high end ของ Nokia N-Series ได้หรอก" ผลลัพธ์ปัจจุบันคงไม่ต้องพูดอะไรมาก ความหยิ่งยะโสของ Nokia คือสิ่งที่ทำให้ Nokia ใกล้จะล่มสลายอย่าง ทุกวันนี้ สำหรับโทรศัพท์ประเภท Smartphone ในปัจจุบัน สิ่งสำคัญไม่ใช่เรื่อง ระบบปฏิบัติการ ความทันสมัยของเทคโนโลยี หรือรูปลักษณ์ วัสดุอีกต่อ ไปแล้ว แต่มันคือ eco-system เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบ eco-system ของแอปเปิลนั้นแข็งแกร่งมาก ใน ขณะที่ Windows Phone ยังลูกผีลูกคนอยู่ อันที่จริง Windows Phone เปิดตัวมาได้กว่า 2 ปีแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ก็ ยังไม่มีอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน หรือมีแนวโน้มว่าจะกิน market share ของคู่แข่งได้เลย เมื่อเทียบกับแอปเปิลแล้วที่ออก iPhone มาปุ๊บ แล้วดังทันที ทรงอิทธิพล มากถึงขนาดที่ทำให้ตลาดต้องปรับตัวตาม ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเรื่องอนาคตของ Windows Phone สักเท่า- ไหร่ แต่ถ้าภายในปีหน้า Windows Phone ยังคงไม่สามารถสร้างและ พัฒนาระบบ eco-system ของตนให้ดีกว่าในปัจจุบัน ก็เตรียมตัวกลาย เป็น BlackBerry 2 ได้เลย อย่างน้อย App ชั้นนำต้องมีให้ครบ ซึ่งผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว ยังคงไม่มี อะไรที่น่าดึงดูดใจให้ใช้เลย ***ความเห็นส่วนตัว*** ผมคิดว่า Windows Phone นั้น born to fail และจะไม่สามารถขึ้นมาตีตื้น คู่แข่งได้ เพราะความอืดอาดของ Microsoft เช่นเดียวกับ Windows Tablet ที่จะไม่ประสบความสำเร็จเหมือน iPad จากคุณ : Shinosuke08 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 21:52:05

ความคิดเห็นที่ 10 มุมมองผม Apple ยังไปได้อีกไกลครับ ผมพอจะมองเกมออก iPad รุ่นใหม่โทรออกได้ iPhone ยาวขึ้นอีก iPad mini RatinaDisplay ระบบปฎิบัติการ iOS และ OsX จะผสานกัน คล้ายๆWindowsPhone8 และ Windows8 Application ของตระกูล i นักพัฒนาชอบเพราะรุ่นมันมีน้อยจึงไม่ต้องผ่านการทดสอบหลายๆเครื่องหลายๆรุ่นเหมือนฝังAndroidปัญหาเรื่องAppจึงมีน้อยและหากมีก็แก้ไขได้เร็ว สินค้าของAppleยังมีไม่กี่อย่างและไม่กี่รุ่น อาจมีสินค้าประเภทใหม่ๆ ฯลฯ จากคุณ : ก็ประมาณนึงอะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 00:46:37

ความคิดเห็นที่ 11 ..สูงสุด สู่สามัญ ในวันนึง แน่นอน...รอแค่มีฮีโร่คนใหม่่ ถ้าไม่มี ก็คงเปลี่ยนไปตามอะไร ๆ ที่มีอยู่เท่าเดิม... ส่วนเรา สนใจของ samsung มากขึ้น...ยังดู ๆ อยู่ ^ ^ จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 01:38:42

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ตายหรอก อยู่ที่ว่าจะมีผลิตภัณท์อะไรใหม่ๆออกมา ให้มันมีความแตกต่างจาพวก ไอโฟน ไอแพด รึเปล่า  ผมว่าเขาคงคิดกันอยู่แหละ น่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆเร็วๆนี้ อยู่ที่ว่าทำออกมาแล้วถูกใจคนใช้รึเปล่า อันนี้คือประเด็นสำคัญ จากคุณ : dillinger เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 03:03:07

ความคิดเห็นที่ 13 apple อยู่ต่อไปอีกนานครับ เหมือนบริษัทหลายบริษัทในโลกนี้ที่ founder สิ้นไปแต่ปรัชญาในการ สร้างสรรค์มันยังคงอยู่ครับ เช่นบริษัทผลิตรถยนต์เก่าแก่หลายๆบริษัท รวมทั้งคอมพิวเตอร์ PC บางยี่ห้อ และคิดว่ายังมีนวตกรรมใหม่ๆอีกเรื่อยๆคงไม่หมดมุข รถยนต์ก็เช่นกัน Jobs แกเป็นอัจฉริยะก็จริง แต่ถ้าแกไม่มีลูกทีมที่ดีที่ทำงานถวายชีวิตให้แก คอยออกไอเดียใหม่ๆให้แกเลือก คอยคัดค้านห้ามปราม (จากการอ่านประวัติของแก บางเรื่องใช่ว่าแกจะทำถูก) Apple ก็มีวันนี้ไม่ได้หรอกครับ ผมว่าทีมของแก รวมทั้งโครงสร้างองค์กรแกยังแข็งแกร่งครับ ผมยังเชื่อว่าระบบ Hardware และ Software ที่ประสานกันเป็นหนึ่งเดียวซึ่งจะเสถียรที่สุดยังคงอยู่ต่อไป จากคุณ : .NetMagic เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 09:30:00

ความคิดเห็นที่ 14 #6 บอกจะเปลี่ยนมาใช้ WP(คงเป็น 8) และ W8 แทนที่ apple devices แต่ #9 บอก WP born to fail อ่านแล้วแปลกๆดี สรุปแล้วจะ buy to fail เหรอครับ?   ยิ่งถ้าในทางปฏิบัติ Ecosystem สามารถยึดลูกค้าไม่ให้ย้ายค่ายได้จริง คุณจะเปลี่ยนมาใช้ M$ นี่มั่นใจแล้วเหรอครับ?(ยิ่งเป็น Apple Fanboy แปลว่าต้องผูกตัวเองเข้ากับ apple ไปเยอะแล้ว??) อ่านแล้วมันดู:-)ๆครับ จากคุณ : napat_rc เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 13:29:40

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่า Apple ยังอยู่ได้ หากว่ายังมี Stock ความคิดของ Jobs เหลืออยู่ และด้วยระยะเวลาที่ถ่วงให้ยาวนานออกไปได้ Apple ก็อาจหาดาวเด่นมาช่วยสร้างความคิดใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีกได้ แต่หากเมื่อถึงเวลาก๋หาทายาทไม่ได้ เมื่อนั้น Apple อาจตายจริงก็ได้ จากคุณ : ไอไอ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 13:38:08

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าคนไม่เข้าใจและคาดหวังมากเกินไปนะครับ smart phone จะไม่เปลี่ยนดีไซน์ไปมากกว่านี้ นึกถึงรถยนต์สิครับ มันก็มีสี่ล้อ วิ่งได้มาตั้งแต่เริ่ม แค่เปลี่ยนเคริ่อง เปลี่ยนโครง ดูโน๊ตบุคสิครับ มันก็แบบเดิม เปลี่ยนแค่ ไส้ใน smart phone ก็เช่นกัน ไม่ต่างไปจากนี้หรอกครับ นอกจากทำเป็นฝาพับแบบ v series รูดจากจอนี้ไปอีกจอนึงได้ ผมจะซื้อเลยอ่ะ จากคุณ : แอลกอฮอลเรด (แอลกอฮอลเรด) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 14:53:53

ความคิดเห็นที่ 17 หุ้นตกก็จริง แต่ยอดขายของ apple ยังมหาศาล ล่าสุดผมพึ่งซื้อ ipad mini มาใช้ ยอมรับว่า eco system ของ apple นั้นแข็งแกร่ง มากจริงๆ app ดีๆ ก็เยอะ ผมว่าตราบใดที่นักพัฒนายังไม่ทิ้ง ios, apple สามารถลบจุดอ่อนใหญ่ๆ บางจุดของ ios 6 เช่น apple map apple ไม่น่าจะร่วงง่ายๆ ทิม คุก อาจไม่ใช่นักคิดด้านนวัตกรรมที่ดี แต่ด้าน supply chain และความเนี๊ยบไม่น่าเป็นรองใครเพราะเขาเป็นเกย์ จากคุณ : Otaman เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 15:46:06

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าให้คิดอะไรที่แปลก ๆ แหวก ๆ คงต้องประยุกต์ร่วมกับ นวัตกรรมอื่น ๆ เพื่อให้เกิดสินค้าประเภทเครื่องรับส่งสัญญาณโทรศัพท์ 3-4G ในรูปแบบที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น สำหรับโลกยุคใหม่ สิ่งที่คนยังนิยมในตัวสินค้า apple ก็น่าจะมีหลายสิ่งอยู่...ถ้าให้จินตนาการ ให้มันล้ำเข้าไปอีก โดยไม่คำนึงถึงราคา การพัฒนาระบบล๊อคเครื่องด้วยระบบประมวลผลตรวจสอบม่านตา หรือพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือความถี่เสียง ของเจ้าของเครื่อง แบบที่ใช้กับองค์กรที่มีการดูแลความลับความปลอดภัยของข้อมูลระดับโลก น่าจะทำให้คนชื่นชอบยิ่งขึ้น รูปแบบการแสดงผลอาจเพิ่มส่วนขยายให้มีมากกว่าส่วนที่เป็นหน้าจอมือถือเล็ก ๆ เช่นตัวรับคลื่นและประมวลผล สามารถสวมใส่ได้ เป็น wrist band และมีตัวส่งสัญญาณ ไปยังส่วนแสดงผล ที่อาจทำให้อยู่ในรูปเฮดโฟนอันเล็ก ๆ หรือแว่นตา แต่มีการรับสัญญาณภาพเสียงแสงสี โดยตรงกับระบบการทำงานของสมองมนุษย์ แม้เพียงแค่คิด ก็รับสายโทรศัพท์ได้ ตัวเครื่องที่อยู่กับข้อมือ สามารถทำงานโดยการสร้างความถี่ไฟฟ้าที่เหมาะสม เพื่อให้สมองคนเราตอบสนองได้รับรู้ได้ ทั้งในส่วนของภาพที่เห็นได้จากแว่นตาและเสียงที่เฮดโฟน หรือเป็นเพียงที่รับส่งเสียงตนงขาแว่นตา...หากทำสำเร็จ ใครจะรู้ ช่วงทศวรรษถัด ๆ ไป อาจมีการคิดค้น คอนแทกซ์เลนส์ ที่สามารถรับสัญญาณภาพพ่วงกับเครื่องรับส่งสัญญาณ 3 G ก็เป็นได้ :D...ขึ้นชื่อว่า นวัตกรรม ยังไงก็ต้องมีจินตนาการก่อน ว่ามันจะเป็นจริงได้ การสร้างผลงานที่ได้จากฐานความรู้เก่า บวกกับความรู้ใหม่ ที่เกิดจากการพยายามพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ย่อมทำให้ทุกสิ่งที่จินตนาการไว้ เป็นจริงได้เสมอ.. 209 ปีก่อน คนทั่วโลก ก็คงไม่คาดคิดว่า จะมีเครื่องประดิษฐ์ใด ที่ทำให้คนเราท่องเที่ยวไปในน่านฟ้าได้....คนในสมัยโบราณ มาได้เห็นรถไฟฟ้า ก็คงตื่นเต้นไม่น้อย คนที่เกิดมาทันเห็นการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีจากอดีตสู่ปัจจุบันก็คงไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่..สมัยยังเป็นเด็ก เคยคิดสนุก ๆ ว่า อีกสัก 10-20 ปีข้างหน้าประเทศไทยน่าจะมีรถไฟลอยฟ้าให้ขึ้นไปไหนมาไหนได้ทุกวัน เพราะชอบเล่นรถไฟเหาะมาก.. .และมันก็มีจริง ๆ  แล้วก็คิดถึงโทรศัพท์ที่เห็นหน้ากันได้ เพราะเวลาคนมากดออดหน้าบ้าน จะได้รู้ว่าใครมา ไม่ต้องวิ่งไปดูให้เมื่อย ซึ่งก็มีคนผลิตได้ในเวลาต่อมา ก่อนรถไฟฟ้าเล็กน้อย รึป่าวหว่า..^ ^ เทคโนโลยีการผลิตเครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์ดิจิตลอดต่าง ๆ ที่ก้าวล้ำเหนือความคาดหมาย มักดึงดูดความสนใจของผู้คนเสมอ..ถ้า apple ยังไม่หยุดคิดอะไรใหม่ ๆ ก็คงยังไม่หยุดก้าวต่อไปแน่ ๆ จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 02:10:55

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าเร็วๆนี้คิดว่าไม่ แต่ในอนาคตผมว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ย้อนกลับไปสิบปีก่อนแล้วบอกว่าโนเกียในสิบปีข้างหน้าจะมีสภาพอย่างนี้คงได้โดนหัวเราะเศษกระเทียมฉีกกระเด็นเข้าหน้าแหงๆ จากคุณ : Alekalone เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 04:45:13

ความคิดเห็นที่ 20 จริงอะ ทิมคุก เป็นเกย์   เกย์เยอะดีนะ พวกคนเด่นคนดัง อดัม สมิท  ปรมจารย์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ ก็เป็นเกย์ จากคุณ : STOCK_BABY เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 10:28:42