ความคิดเห็นที่ 1 เพิ่มเติมครับ ถ้าผมเป็น marketing ประมาณ 2 ปี ผมก็อาจจะมีลูกค้าเพิ่มเติมเป็นประจำ ไม่ทราบว่าพอผมเปลี่ยนงานไปเป็นนักวิเคราะห์แทน ผมก็จะไม่ได้รับ commission อีกแล้วใช่มั้ยครับ? หากเป็นแบบนี้ ถ้าสมมุติว่าผมได้เงินเดือน+commission รวม 40,000 บาท ถ้าเปลี่ยนไปเป็นนักวิเคราะห์ เริ่มต้นที่ 25,000-35,000 ซึ่งอาจน้อยกว่า กรณีนี้ควรตัดสินใจยังไงครับ? ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : csaae เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 05:18:47

ความคิดเห็นที่ 2 เปนมาร์ รายใหญ่คือพระเจ้า จากคุณ : กระเพรากึ๋น เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 08:23:41

ความคิดเห็นที่ 3 ลองประกาศ หา  ท่าน   Nat_YFS2011 ในสินธรดูนี่ ครับ ผมจำได้ว่าเค้าเป็นมาร์ ..  น่าจะมีแนวทางแนะนำหลายๆอย่างๆ ---------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : humble beggar เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 09:23:31

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบ. 1 หากเป็นคนที่ไม่มีเครือข่ายนักลงทุนองตนเอง แนะนำ ให้เป็นมาร์ฯ ในโบรคที่มีแบงค์ เป็น Back up เช่น บัวหลวง กสิกร SCBS เพราะ จะมีการ Refer ลูกค้าจากทางแบงค์มาให้ดูแลตามระดับความรู้และอายุงานครับ กสิกรรับหลายตำแหน่งอยู่ครับ กำลังทยอยขยายสาขาทั้งในกทม. และต่างจังหวัด สอนงานดี...สอนดูกราฟ....สอนวิเคราะห์พื้นฐานแบบนักวิเคราะห์ ถ้าอยากเอาดีทาง เป็นมาร์ฯแล้วต่อด้วยการไปเป็นนักวิเคราะห์ กสิกรก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ ส่วนโบรกเกรอ์ที่ Stand alone ไม่มีแบงค์ไทยมาหนุนหลัง อย่างกิมเอ็ง GBX CGS จะเน้นหาลูกค้ารายใหญ่.. ใครบ้านรวยมีญาติเล่นหุ้นอยู่แล้ว เขาก็รับแล้วครับ ในส่วนของค่าคอมนั้น...โบรก stand alone จะได้ % เยอะกว่านิดหน่อยครับ จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 10:41:36

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบ 2. สาขาใกล้บ้าน...ถ้าอยู่ในห้างได้..หรือที่ๆมีคนเข้าออกตลอดเวลา ไม่เป็นปัญหาครับ เพราะจะมีลูกค้า Walk in เข้ามาตลอด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อย....เราต้องดูแลและบริหารรายย่อยให้ดี คนไหนดึงมาเทรดมือเองได้ ก็ดึงมา...ทำกำไรให้เขาสม่ำเสมอ เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะไปคีย์เนตเอง....ซึ่งแบบนั้น เราควบคุมการเทรดไม่ได้ โวลุ่มไม่สม่ำเสมอ แต่ส่วนตัวผมดูแลลูกค้าคีย์เนตเหมือนคีย์มือเอง...เพราะผมชอบให้ลูกค้าคีย์เอง ^____^ ใช้เทคโนโลยีปัจจุบันให้เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องหาลูกค้า...ผมก็ใช้สังคมออนไลน์เป็นตัวบอกทัศนคติของผม ต่อผู้ลงทุนทั่วไป...ใครถูกใจกัน...ก็จะใช้บริการ...ซึ่งติดต่อกันทาง ไปรษณีย์ Email โทรศัำำพท์ อยู่แล้ว ผมอยู่เชียงราย....เมืองปราบเซียน(โบรกปิดมา 3 โบรกแล้ว) ลูกค้าส่วนใหญ่ผมก็มาจากในเนต ซึ่งเป็นคนที่อื่นครับ จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 10:47:52

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบ 3. มาร์เก็ตติ้งส่วนใหญ่จะรับรายได้ 2 แบบครับ ส่วนที่ 1 ได้อยู่แล้วคือ Salary Base ประมาณไม่เกิน 15,000 ส่วนที่ 2 Commission จะได้มาจากการทำโวลุ่มเกินส่วนของเงินเดือนมา บางที่จ่ายเป็นเดือนต่อเดือน ที่ๆผมอยู่สะสมจ่ายเป็นงวดครึ่งปี ส่วนโวลุ่มที่ต้องทำให้ Cover เงินเดือน 15000 นั้น สำหรับที่ๆผมอยู่ คีย์มือต้อง 35 ล้านต่อเดือน ลูกค้าคีย์เนตเอง ต้อง 75 ล้านต่อเดือน จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 10:51:29

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบ 4. ความรู้จากงานมาร์เก็ตติ้งที่ได้ ต้องตระหนักไว้เลยว่า Marketing เป็นเป็ดครับ ทำได้ทุกอย่าง เช่น 1. ดูเทคนิค(พอได้) 2. ดูพื้นฐาน (พอได้) 3. ประเมินมูลค่า (พอได้) ส่วนที่เป็นวิชาชีพนั้น...มาร์เก็ตติ้งจะทำได้ แต่ไม่เท่ากับนักวิเคราะห์ แต่ส่วนสกิลเสริมอื่นๆที่จะได้คือ 1. อ่านการวาง Bid Offer ออก ว่าเก็บของ สะสม หรือ เตรียมปล่อยตัว 2. รับข่าวสารจากทุกทิศทาง ทั้งจริง ลวง เท็จ 3. Personal Skill เช่น ลูกอ้อน(หากคุยกับลูกค้าผู้หญิง) ลูกกล้าฟันธง(หากคุยกับลูกค้าผู้ชาย) ในระหว่างเป็นมาร์เก็ตติ้ง การลงทุนเองไปด้วย แบบเทรดดิ้ง เป็นเรื่องที่ยั่วใจ แต่คุณจะไม่สามารถดูแลลูกค้าได้เต็มที่ มาร์ฯประเภทนี้สุดท้ายมักออกมา กลายร่างเป็น "นักลงทุน" เองเต็มตัว มาร์ฯที่ Service ดี...จะสะสมลูกค้่าได้ไปเรื่อยๆ สมัยนี้ไม่ต้องกลัวหุ้นลงแล้วจะไม่มีโวลุ่ม เพราะ มีทางเลือกให้จิ้มขาลงด้วย สุดท้าย อาชีพ มาร์ฯ คล้ายกับขายตรง คุณต้องสะสมและดูแลลูกค้าไปเรื่อยๆครับ จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 11:00:26

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบ ในส่วนของนักวิเคราะห์ 1. ที่ต้องมีขั้นต่ำ - Master degree สาย การเงิน Econ - CISA(ในกรณีที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ) หรือ CFA ในกรณีที่ Eng เทพ 2. นักวิเคราะห์ไม่ได้ค่าคอมฯ แต่ได้โบนัสประจำปี...ฐานเงินเดือนสุกว่ามาร์ฯ 3. นักวิเคราะห์จะขายความดัง...ตรงฟันแม่น...หรือวิเคราะห์มีหลักการ จะมีรายได้หลายทางทั้งการออกสัมมนา ออกสื่อ เปิดคอร์ส 4. ก่อนจะได้ข้อ 3 คุณต้องทำงานอย่างหนัก กิน Excel เป็นอาหาร ทำประเมินมูลค่าทุกวัน...แต่จะโชคดีที่ได้เสพข้อมูลภายในบางข้อมูลก่อน นักลงทุนทั่วไป....ซึ่งในส่วนนี้นักลงทุนทั่วไป หาทางออกได้แล้ว โดยการจัดทำเป็น สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า เพื่อ สิทธิ์ในการเข้าพบบริษัทจดทะเบียน 5. มาร์ฯ หาเงินตอนตลาดเปิด พักเที่ยง 2 ชั่วโมง ปิดตลาดหาความรู้เพิ่มเติม หรือไม่หาลูกค้า สังสรรค์ ทานข้าว ส่วน นักวิฯ ตื่นตี 5 มาเตรียมเขียนบทความทุกวัน เลิกงานดึก เดินสายเข้าพอบริษัทจดทะเบียน หัวล้านง่ายกว่า ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว....หากอยากทราบมุมมองนักวิเคราะห์ตัวจริง ให้ลองไปถามดูเลยครับผม จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 11:09:47