ติดดาวกองทุนรวม'มอร์นิ่งสตาร์'
|
|
วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2012 เวลา 09:57 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ การเงิน Financial - คอลัมน์ : การเงิน-ตลาดทุน
ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มีการเสนอขายโปรดักต์กองทุนรวมจำนวนมาก และมีความหลากหลายในแง่ของการลงทุนมากขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2554 มีจำนวนกองทุนทั้งสิ้น 1,300 กองทุน
มีจำนวนบลจ. 23 ราย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี)รวม ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2555 ทั้งอุตสาหกรรม 2.5 แสนล้านบาท พีร์ ยงวณิชย์พีร์ ยงวณิชย์ แม้ผลการดำเนินงานกองทุนรวมในอดีตจะไม่ได้เป็นการรับประกันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต แต่ข้อมูลผลการดำเนินงานของกองทุนรวมก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารเงินลงทุนของผู้จัดการกองทุนรวม
ในปี 2552 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้ร่วมมือกับบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกทางด้านการให้บริการข้อมูลและการวิเคราะห์เกี่ยวกับการลงทุนต่างๆ เช่น ข้อมูลกองทุนรวม รวมทั้งการจัดอันดับกองทุนหรือมอร์นิ่งสตาร์ เรตติ้ง เพื่อสร้างเครื่องมือหรือเข็มทิศ สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมด้วยการจัดเรตติ้งหรือติดดาวกองทุนรวม
"ฐานเศรษฐกิจ"ได้สัมภาษณ์"พีร์ ยงวณิชย์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด ถึงบทบาทของการจัดเรตติ้งกองทุนรวม ตลอดจนการใช้ข้อมูลของมอร์นิ่งสตาร์อ้างอิงเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
พีร์ กล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนเข้ามาใช้ข้อมูลของมอร์นิ่งสตาร์มากขึ้น เห็นได้จากตอนเริ่มเปิดให้บริการ (ปี 2552 )มีผู้เข้ามาใช้ข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทจาก 100 กว่าคน เพิ่มเป็นกว่า 2 แสนคนในปัจจุบัน "มอร์นิ่งสตาร์ เราอยู่ฝั่งนักลงทุน และการจัดเรตติ้งกองทุนรวมถือเป็นการยกระดับการลงทุนในกองทุนรวมบ้านเรา"
กรรมการผู้จัดการมอร์นิ่งสตาร์ กล่าวอีกว่า การจัดอันดับกองทุนรวมของมอร์นิ่งสตาร์ จะมีการปรับทุก ๆ 6 เดือน หรือทุกวันที่ 5 และวันที่ 6 ซึ่งเป็นการประเมินเชิงปริมาณของผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม โดยจัดอันดับในรูปแบบของดาว ตั้งแต่ระดับ 1-5 ดาว เรียงจากต่ำสุดไปจนถึงสูงสุด นอกจากนี้การจัดอันดับจะแบ่งเป็น 3 ช่วงระยะเวลา คือ 3 ปี, 5 ปี และ 10 ปี
ทั้งนี้กองทุนที่มีผลงานดีที่สุด 10.0% แรกจะได้ "5 ดาว" กองทุนที่มีผลงานดีถัดมา 22.5% จะได้ "4 ดาว" กองทุนที่มีผลงานดีที่สุดถัดมา 35.0% จะได้ "3 ดาว" กองทุนที่มีผลงานดีสุดถัดมาอีก 22.5% จะได้ "2 ดาว" และกองทุนที่มีผลงานดีที่สุดใน 10.0% สุดท้ายจะได้ "1 ดาว"
โดยกองทุนรวมในแต่ละประเภททุกกองทุน จะได้รับการจัดอันดับทั้งหมดไล่ไปตั้งแต่ 5 ดาวจนถึง 1 ดาว ซึ่งนักลงทุนจะต้องนำเรตติ้งของกองทุนในแต่ละประเภทมาเปรียบเทียบกันเอง ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบข้ามนโยบายการลงทุนได้
นอกจากนี้จะนำค่าธรรมเนียมในการซื้อและขายกองทุนมาคำนวณด้วย เพื่อให้นักลงทุนรู้ว่าสุทธิแล้วนักลงทุนจะได้ผลตอบแทนที่แท้จริงเป็นเท่าไร จากนั้นจึงปรับด้วยความเสี่ยงของกองทุนที่ใช้ทฤษฎีอรรถประโยชน์ (Utility Theory) ซึ่งจะสามารถแสดงถึงความรู้สึกของนักลงทุนได้ และแบ่งกลุ่มกองทุนตามแบบของมอร์นิ่งสตาร์ ในต่างประเทศ และปรับให้เข้ากับรูปแบบกองทุนของไทย
อย่างไรก็ตาม พีร์ กล่าวว่า แม้ข้อมูลจากมอร์นิ่งสตาร์ จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจเลือกกองทุนได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการคัดกรองกองทุนในขั้นแรก เพราะการดูตัวแปรใดตัวแปรหนึ่งเพียงอย่างเดียว อาจจะเกิดความผิดพลาดได้ ฉะนั้นต้องดูทั้งข้อมูลระยะยาวและระยะสั้นควบคู่กันไป จากนั้นจึงไปวิเคราะห์ในเชิงคุณภาพอีกครั้งหนึ่ง ในอนาคตอาจจะสามารถวิเคราะห์อนาคตของกองทุนของไทยได้เหมือนต่างประเทศ "การจัดเรตติ้งหรือติดดาวกองทุนรวม เพราะอยากให้นักลงทุนได้รู้ว่าการลงทุนในกองทุนรวมมีผลตอบแทนที่แตกต่างและการลงทุนในกองทุนรวมเป็นการลงทุนระยะยาว"
กรรมการผู้จัดการมอร์นิ่งสตาร์ แนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่เริ่มต้นลงทุนผ่านกองทุนรวมว่า นักลงทุนที่จะลงทุนผ่านกองทุนรวมอาจใช้มอร์นิ่งสตาร์ เรตติ้งที่ 4-5 ดาว เป็นจุดเริ่มต้นในการลงทุน หลังจากลงทุนแล้วก็ต้องไม่ลืมว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งในที่นี้หมายถึง ผลการดำเนินงาน นโยบายการบริหารกองทุน รวมถึงผู้จัดการกองทุน นอกจากนี้การจัดเรตติ้งกองทุนรวมเป็นการวิเคราะห์ในเชิงปริมาณเท่านั้น ดังนั้นนักลงทุนต้องติดตามข้อมูลในเชิงคุณภาพด้วย เช่น นโยบายการบริหารมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุนหรือไม่ เป็นต้น
"เราไม่ได้บอกว่าการลงทุนในกองทุนที่ได้ 5 ดาว แล้วจะรวยนะ เพียงแต่ให้ใช้สำหรับการเริ่มต้นในการลงทุนเท่านั้น"
พีร์ ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงบทบาทของมอร์นิ่งสตาร์ว่า นอกจากจะจัดเรตติ้งเพื่อติดดาวกองทุนรวมในประเทศแล้ว ในอนาคตหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ที่จะมีขึ้นปี 2558 มอร์นิ่งสตาร์มีนโยบายจัดเรตติ้งกองทุนรวมในประเทศเปรียบเทียบกับกองทุนรวมต่างประเทศอีกด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,800 วันที่ 13-15 ธันวาคม พ.ศ. 2555
จากคุณ |
:
Wild Rabbit
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ธ.ค. 55 20:56:14
|
|
|
|