นายกฯพอใจผลการตรวจทวาย
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นจากการไปเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทวาย ว่า ตนได้เดินทางไปชมโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไทยกับพม่าที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทยกับเมียนมาร์ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจนี้ เพราะถือว่าเป็นโครงการท่าเรือน้ำลึกที่มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และเมืองใหม่เกิดขึ้น ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดสำคัญในการเชื่อมต่อจากเมียนมาร์ในส่วนของท่าเรือน้ำลึกทวาย และเชื่อมกับท่าเรือแหลมฉบังและอิสเทินซีบอร์ดของไทย จุดนี้จะเป็นจุดในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจที่สำคัญรวมถึงการเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นด้วยซึ่งเป็นโครงการที่สำคัญ โดยได้มีการตั้งคณะทำงานเป็นคณะกรรมการร่วม ตั้งแต่เดือนพ.ย.ขณะนี้ได้นำเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนไปชมสถานที่จริง เพื่อให้เห็นในเรื่องบรรยากาศ ศักยภาพและความก้าวหน้า รวมถึงการหารือกับประธานาธิบดีเมียนมาร์ นายกฯ กล่าวอีกวว่า โดยสรุปมีความคืบหน้าในเรื่องของแผนงานคร่าวๆ และลำดับถัดไปทางเมียนมาร์คงจะไปสรุปในเรื่องรายละเอียดและความชัดเจนในเรื่องการจัดเขตเศรษฐกิจพิเศษว่าจะมีข้อเสนออย่างไร เพื่อเชิญชวนนักลงทุน และรวมถึงสรุปภาพรวมและแผนการลงทุนทั้งหมด เชื่อว่าคงจะมีความคืบหน้าในเดือนก.พ.และคาดว่าเดือนเม.ย.ปี56 คงจะเห็นความชัดเจนที่จะพร้อมในการเชิญชวนนักลงทุนมาลงทุนที่ท่าเรือน้ำลึกทวาย และอาจจะมีการก่อสร้างบ้าง ขณะนี้อยู่ในช่วงของการทำงานของคณะทำงานทั้งสองฝ่าย ถือว่าเป็นความคืบหน้า นอกจากนี้ไทยได้แจ้งกับทางเมียนมาร์ว่าฝ่ายไทยได้มีแผนที่จะเปิดสถานกงสุลใหญ่ที่ทวาย เพื่ออำนวยความสะดวกในส่วนของการให้ข้อมูลและการติดต่อประสานงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
โครงการนี้เป็นโครงการที่ทางเมียนมาร์ได้ให้ความคาดหวัง จากข้อตกลงที่ทางภาคเอกชนได้ตกลงกับเมียนมาร์มาตั้งแต่ปี53 แต่ในส่วนของไทย รัฐบาลนี้ได้หารือกันในการรื้อฟื้นความสัมพันธ์นี้และการร่วมกันในระดับความร่วมมือระดับประเทศ โดยได้เริ่มตกลงในรูปแบบเอ็มโอยูและมีการตั้งคณะทำงานในการทำงานร่วมกัน และได้เริ่มตั้งพ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าคืบหน้าและเป็นที่พอใจของรัฐบาลเมียนมาร์
โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ทำต่อเนื่องถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่เราเห็นความสำคัญเพราะจุดนี้ไม่เพียงแค่นักลงทุนไทยที่จะลงที่ทวาย แต่เป็นจุดเชื่อมต่อของทางทวายไปยังท่าเรือแหลมฉบังและอิสเทิรนซีบอร์ด ซึ่งเป็นจุดอุตสาหกรรมของไทยด้วย ทั้งนี้ นอกจากการเชื่อมโยงระหว่างไทยกับเมียนมาร์แล้ว ยังมีโอกาสเชื่อมต่อไปยังอินเดียและภูมิภาคอื่นๆ ตรงนี้จะเป็นสิ่งสำคัญในการลดต้นทุนการขนส่งในระยะยาว
ที่มา http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=662826
จากคุณ |
:
อ้วนตุ้ยนุ้ย
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ธ.ค. 55 18:18:48
|
|
|
|