ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเงินเดือน 62,180.00 บาท เบี้ยเลี้ยง 3,000.00 บาท = 65,180x12 = 782,160.00 บาท ปีนี้ได้โบนัส 2 เดือน = 62,180x2 = 124,360.00 บาท รวม 782,160+124,360 = 906,520.00 บาท x 0.15 = 135,978.00 บาท (ซื้อ LTE ได้เท่านี้ใช่หรือไม่ครับ) แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 10:18:28 จากคุณ : eawpk เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:14:28

ความคิดเห็นที่ 2 LTF นับหน่วยลงทุนแบบ  FIFO   แปลว่าสมมติตอนเราขาย หน่วยลงทุนที่ขายได้เต็มที่ในปีนั้นจะต้องไม่เกินจำนวนหน่วยที่ครบกำหนด 5 ปี เพื่อไม่ให้ผิดเงือนไขการลดหย่อนภาษีใช่มั๊ยคะ ถ้าไม่ระวัง ขายเกิน จำนวนหน่วยที่เกิน ก็จะโดนเรียกคืนภาษีไป อย่างนั้นใช่มั๊ยคะพี่ต๊อตโตะจัง ถามพี่อีกคำถามว่า พี่จัดสรรสัดส่วนของเงินเก็บในรูปแบบของ LTF/RMF อย่างไรคะ อยากทราบความเห็น สามีบอกจะซื้อเก็บเลย ไม่ขายออกมา เค้าบอกว่าเป็นกองทุนสำหรับตอนกเษียณ แต่เพื่อนบางคนก็บอกว่า ขายออกมาบ้าง เอาไปลงทุนอย่างอื่น แบบขายแล้วซื้อ ๆ แบบหมุน ๆ เอาให้ได้ผลประโยชน์ทางภาษีพอ ตอนนี้ก็ฟังหูไว้หู เพราะไม่คิดว่าลงอย่างอื่นจะได้ผลตอบแทนสูงเท่า ณ เท่าที่ผ่านมานะคะ ปกติก็กระจายความเสี่ยงเก็บเงินในรูปแบบอื่นอยู่แล้วบ้าง แต่หนักสุดคงจะอยู่ใน LTF/RMF นี่แหละ เห็นมูลค่าหน่วยลงทุนมันเพิ่มขึ้น ๆ แล้วก็เสียดาย ไม่อยากขายออกไป เพราะลงอย่างอื่นมันก็ไม่ได้เพิ่มขึืนเยอะขนาดนี้ แต่ก็กลัวตอนแก่ จำเป็นต้องขายจริง ๆ ถ้าสถานการณ์หุ้นไม่ได้ก็จะซวยเอา จากคุณ : นู๋อัง เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:17:51

ความคิดเห็นที่ 3 LTF พี่ซื้อเต็ม  max  แล้วครบเงื่อนไขก็ขายค่ะ ถ้าราคาดีนะคะ  เพราะมันเป็นกองที่ ลงในหุ้น >65%  ดังนั้นถ้าตลาดหุ้นดี  ราคาก็ดีก็จะขาย  แต่ถ้ายังขาดทุน ซึ่งมีตอน ปี 51-52 ที่ซ้ือไว้ตั้งแต่ปี  47 ก็ขาดทุน  ก็ไม่ได้ขาย เพิ่งมาขายตอนนายกปูขึ้นนะคะ กำไรเยอะอยู่  ก็เอามาลงทุนใหม่  ดังนั้นLTF ถ้าบริหารดีๆ  เรามีเงินลงทุน 4-5 แสน ก็จะลดภาษีได้ตลอดชีพค่ะ ส่วน  RMF ซื้อเต็มเหมือนกัน  อันนี้สมควรเก็บจริงๆ  ลองดูกระทู้นี้นะคะ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I13080738/I13080738.html ตัวเองยังอยากนั่งไทม์แมชชีนกลับไปซื้อ  กองทุนหุ้น RMF bbl  เลยค่ะเมื่อตอนเขียนนะคะ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 10:56:34 จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:51:50

ความคิดเห็นที่ 4 คห. 1  ใช่ค่ะ  แล้วเงินเบี้ยเลี้ยงเป็นแบบเหมาจ่ายทุกเดือนหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้ให้ถามทางบุคคลคุณดูนะคะว่าเขาเอามารวมคิดภาษีหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นแบบเหมาจ่ายต้องเสียภาษีและเอามารวมเป็นฐานคำนวณซื้อ LTF ได้ด้วยค่ะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:58:53

ความคิดเห็นที่ 5 RMF ผมลงแบบถือยาวจนปลดเกษียณ จะสำรองไว้ใช้ร่วมกับ provident funds LTF เอาเงินหมุนไปเรื่อยๆ ครับรอจังหวะซื้อเข้า ขายออก จากคุณ : เพลิงน้ำค้าง (Dianix) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 13:25:52

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมาก ๆ นะคะสำหรับข้อมูล หลาย ๆ คนน่าจะเข้ามาอ่าน จะได้ไม่ต้องถามซ้ำ ๆ กันบ่อย ๆ ตอนนี้ซื้อ RMF ยังได้แค่ครึ่งเดียวค่ะ เพราะยังมีเงินไม่มาก กลัวเงินจมแล้วมีเหตุฉุกเฉินเลยซื้อแค่พอประมาณไว้ก่อน แต่ LTF ซื้อเต็มสิทธิเหมือนกัน จากคุณ : arce เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 15:03:25

ความคิดเห็นที่ 7 คห 2 FIFO ที่ควรระวังที่ทำให้ผิดพลาดได้ง่ายๆคือว่า เกิดเราเคยซื้อ LTF มาแล้วปีนึงคือปีที่แล้ว 2011 เช่นซื้อไป 100,000 แล้วปีนี้ 2012 ดันซื้อเกินไป 50,000 บางคนมารู้ทีหลังเลยคิดว่าขายที่เกินไป 50,000 ของปี 2012 เลย ซึ่งทำแบบนี้จะต้องโดนเรือ่ง 3% ไปก่อนแน่ๆ เพราะถือไม่ครบ 5 ปี แล้วที่จะโดนต่อมาคือเราดันขายปีนี้ไป 50,000 แต่ระบบ FIFO จะคิดว่าเราขายของปี 2011 ไป ก็จะทำให้เราผิดเงื่อนไขของปี 2011 ด้วย ทำให้ต้องคืนภาษีที่ได้มาในปี 2011 พร้อมดอกเบี้ยนับตั้งแต่เดือนเมษา มั้งประมาณ 3% ต่อเดือน (ตัวเลขจำไม่ได้) จากคุณ : ดีเจน้อย เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 16:24:59