Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โบรกแนะเลือกซื้อ 12 บจ.อนาคตรุ่ง ดัชนีแกว่งตัวพัก ปรับพอร์ต โยกซื้อหุ้น laggard ราคาถูก vote ติดต่อทีมงาน

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2555 เวลา 09:53:59 น.
จาก ทันหุ้นออนไลน์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.34 น.ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 30.55 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและแดนลบ นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยแกว่งตัวพัก ถือเป็นช่วงเวลาปรับพอร์ตขายหุ้นแพง และซื้อหุ้นราคาถูกและยังปรับตัวขึ้นน้อยเข้าพอร์ต เก็งกำไร 12 หุ้นเด่น ได้แก่ HMPRO, ROBINS, KSL, PS, PTTGC, BCP, INTUCH, BECL, AAV, THAI, ITD, SPCG

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ คาดตลาดกำลังจะแกว่งพัก ดังนั้นจะเทรดดิ้งสั้นควรรอซื้อช่วงตลาดอ่อนตัว

กลยุทธ์: ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นซื้อได้ในช่วงตลาดปรับตัวลง แต่เน้นเป็นซื้อเพื่อเทรดดิ้งสั้นตามรอบเท่านั้น ขณะที่ส่วนถือลงทุนยังเน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอทยอยขายทำกำไรเฉพาะช่วงตลาดบวกขึ้น โดยเฉพาะเมื่อดัชนีสามารถขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีก ก็ยิ่งน่าทยอยขายทำกำไร เพราะถึงแม้ว่าเรายังมีมุมมองเชิงบวกกับตลาดหุ้นไทยในปีหน้า แต่สำหรับรอบนี้เราคาดว่าโอกาสที่ SET จะขึ้นถึง 1400 จุดยังเป็นไปได้ยาก

หุ้นเด่นทางเทคนิค  HMPRO, KSL, BECL (SBL)

แนวโน้ม เนื่องจากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดยังไม่มีข่าวใหม่ๆ ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของทางการจีน และความคืบหน้าของการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal cliff จากทางสหรัฐ ทำให้นักลงทุนเริ่มมองว่ามีความเป็นไปได้สูงขึ้นว่านักการเมืองสหรัฐจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการตกหน้าผาการคลังได้ทันก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะถดถอยอีกครั้ง และยิ่งทำให้โอกาสในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีน้อยลง ขณะที่ SET ในรอบ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ขยับขึ้นมาถึงกว่า 7% แล้ว ก่อนที่ในระยะหลังตลาดก็เริ่มลดช่วงบวกลงพอควร ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งพักตัวลงก่อนได้ อย่างไรก็ตามการปรับลงของตลาดในช่วงนี้คาดว่าจะยังไม่ลึกนัก และยังมีโอกาสที่จะพลิกกลับขึ้นใหม่อีกครั้งอยู่ และมีแนวโน้มที่จะสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่า 1360 จุดได้ในช่วงถัดไป

แนวรับ  1355-1350 , 1345-1340 จุด   แนวต้าน 1360-1362 , 1367-1370 จุด

โดยวันนี้ยังเลือก TOP (FV@B80.12) เพราะเข้าสู่ฤดูกาลใช้พลังงาน ปลายปี-ต้นปีหน้า สอดคล้องกับหุ้นโรงกลั่นในตลาดหุ้นจีนและญี่ปุ่นขยับขึ้นกว่า 3.7% และ2.5% ตามลำดับ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ยังมีความเชื่อมั่นว่า SET Index ที่ปรับตัวขึ้นมาสูงเกินกว่า 15 เท่าในปี 2555 มีโอกาสปรับฐานสูง ฝ่ายวิจัยประเมินว่าช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่น่าจะเริ่มปรับพอร์ตมากที่สุด โดยแนะนำให้เลือกขายหุ้นแพงที่ขึ้นเกินมูลค่าพื้นฐาน (Upside ติดลบ) และตรงกันข้ามเลือกซื้อหุ้น PER ต่ำ Upside สูง และมีประเด็นบวกหนุน

กลุ่มพลังงานและโรงกลั่น PTT (FV@B420) และ TOP (FV@B80) ช่วงปลายปี ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเริ่มเห็นแนวโน้มการขยับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มโรงกลั่นในตลาดหุ้นจีนและญี่ปุ่น กว่า 3.7% และ 2.5% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

กลุ่มสื่อสาร คือ DTAC (FV@B 110) และ INTUCH (FV@B 87) หลังจาก กทค. ไฟเขียวให้ออกใบอนุญาต 3G ได้ตามกำหนดโดยทั้ง DTAC และ INTUCH ยังมีจุดเด่นที่ Dividend Yield สูงราว 5% และ 7% ในปี 2556

KGI มองตลาดหุ้นไทยวันจันทร์บวกได้บ้างแต่ไม่มากนัก ข่าวบวกจะมาจาก i) ความคาดหวังว่า ธ.กลางทั่วโลกจะแข่งกันกระตุ้นทางการเงิน ล่าสุดพรรค LDP ที่นำโดยนายชินโสะ อาเบะ ชนะเลือกตั้งที่ญี่ปุ่น และเป็นที่คาดหมายว่าเขาจะผลักดันให้ BoJ ทำการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม และ ii) จิตวิทยาของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีในระดับหนึ่ง หลังจากดัชนี HSBC Flash PMI เดือน ธ.ค. ของจีนเพิ่มขึ้นสู่ 50.9 จุด เทียบกับ 50.5 จุดในเดือน พ.ย. และชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจภาคการผลิตที่ดูดีขึ้นในจีน อย่างไรก็ดีทางขึ้นของ SET จะถูกจำกัดโดย i) ราคาหุ้นที่ขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา และ ii) ปัจจัยใหญ่ที่สุดอย่าง fiscal cliff ของสหรัฐฯ นั้นยังไม่มีทางออก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่านายจอห์น โบห์เนอร์ ผู้นำสภาล่างรีพับลิกันเสนอว่าจะยอมให้ขึ้นภาษีเงินได้คนรวยที่มีรายได้เกิน 1 ล้านเหรียญฯ ต่อปี (โอบามาต้องการขึ้นภาษีคนที่รายได้เกิน 2.5 แสนเหรียญฯ ต่อปี) แต่ต้องแลกเปลี่ยนกับการลดรายจ่ายสวัสดิการหลายประการ ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้และหากยังไม่สามารถตกลงกันภายในวันศุกร์นี้จะเป็นข่าวลบต่อตลาดได้ ด้านปัจจัยในประเทศ มีโอกาสสูงที่กระแสทุนต่างชาติจะเริ่มชะลอในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี และเช่นเดียวกันก็มีโอกาสสูงที่สถาบันในประเทศจะกลับมาซื้อหุ้นในโค้งสุดท้ายของปีหลังจากยังไม่เห็นการซื้อที่ชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา

กลยุทธ์: แนะให้ถือพอร์ตหุ้นต่อไปก่อน ส่วนการปรับพอร์ตนั้นเราแนะขายหุ้นที่เข้าสู่ SET50 (คาดว่ารับรู้ข่าวในราคาแล้ว) เช่น JAS, KK และเข้าซื้อหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4 แข็งแกร่ง เช่น HMPRO*, PS*, PTTGC* และ BCP* เป็นต้น และแนะซื้อหุ้นหลักที่ยังขึ้นช้ากว่ามูลค่าของบริษัทลูกเช่น INTUCH*

บล.ไทยพาณิชย์ระบุว่า กลยุทธ์การลงทุน: แนวโน้มหุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดจะยังได้แรงหนุนจากเม็ดเงินต่างชาติพยุงตลาดให้ยืนเหนือระดับ 1,350 จุดได้ แต่คาดว่าเม็ดเงินต่างชาติจะเริ่มแผ่วลงในปลายสัปดาห์ และอาจทำให้ตลาดเจอแรงขายหนักออกมาอีกรอบ ส่วนหลังจากนี้ ตลาดจะกลับมาถูกหนุนโดยเม็ดเงินจาก LTF แทน โดยเดือนธ.ค. พบว่ากองทุนฯ ขาย 2.9 พันล้านบาท ซึ่งเราคาดหวังเม็ดเงินใน 2 สัปดาห์ที่เหลือราว 1 หมื่นล้านบาทที่จะคอยพยุงตลาดหุ้นไว้ สำหรับ Fiscal Cliff คาดจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดเหวี่ยงขึ้นลงส่วนการประกาศตัวเลข US GDP แนวโน้มออกมาดูดี แนะนำซื้อ AOT (เงินเยนอ่อนค่าบวกกับ Sentiment)

บล.กสิกรไทย ระบุว่า แนวโน้มตลาด: ในช่วงสัปดาห์นี้ต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้าตลาดอาจเผชิญแรงเทขายทำกำไรเป็นระยะๆ จากประเด็น Fiscal cliff อย่างไรก็ตามเรายังคงมองภาพทั้งสัปดาห์ที่เป็นบวกเนื่องจากภาพเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้ง การผลิตในภาคอุตสาหกรรมสหรัฐเดือนพ.ย.ขยายตัว 1.1% สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี ตัวเลขเศรษฐกิจจีน (HSBC PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น) แข็งแกร่งสุดในรอบ 14 เดือน ขณะเดียวกันญี่ปุ่นได้นายกฯ คนใหม่จากพรรค LDP ซึ่งมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่และน่าจะส่งผลให้สภาพคล่องของทั่วทั้งโลกเพิ่มมากขึ้นในระยะข้างหน้า

เราจึงเชื่อว่าปัจจัยหนุนข้างต้นน่าที่จะชดเชยแรงกดดันจาก Fiscal cliff และผลักดันให้ตลาดการลงทุนทั่วโลกแกว่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี / คำแนะนำรายอุตสาหกรรม กลุ่มขนส่งเริ่มเห็นการผลักดันหุ้น laggard (BECL AAV THAI) / กลุ่มค้าปลีก เน้นหุ้นที่ปีหน้ามีการเติบโตของกำไรโดดเด่น (HMPRO ROBINS) /โมเมนตัมของกลุ่มธนาคารอ่อนแอลง เน้นเลือกซื้อรายตัว (KTB) ส่วนกลุ่มพลังงานเน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว (อาทิ ได้ผลดีลด LPG)

กลยุทธ์การลงทุน: คาด SET Index สัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1380 อย่างไรก็ตามตลาดอาจเผชิญแรงกดดันระหว่างสัปดาห์จากประเด็น Fiscal Cliff กลยุทธ์การลงทุนแนะนำเลือกหุ้นที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/55 ที่แข็งแกร่ง/สูงกว่าคาด และหุ้นที่มีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการขึ้น รวมถึงหุ้นใหญ่ที่นักลงทุนต่างชาติยังคงมีการถือครองต่ำ หุ้นแนะนำ ITD SPCG THAI

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้น 10% เป็น 70% (ตั้งแต่ 3 ธ.ค.55) หลังภาพการลงทุนระยะกลางมีความเสี่ยงลดลงและมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น โดยคาดว่าตลาดจะปรับขึ้นได้ถึงช่วงต้นปี (ม.ค.56) *** ทยอยสะสม TTA SOLAR ERW AJ KCE SPCG และตั้งแต่ (29 พ.ย.) ขอเพิ่มสะสม NMG

จากคุณ : Wild Rabbit
เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 19:32:34




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com