คงต้องรอดูไปก่อนครับ คงต้องอธิบายหลายอย่างประกอบ
ประการแรก เศรษฐกิจญี่ปุ่น "แข็งแกร่ง" มากเป็นอันดับต้นๆของโลก และมีเสถียรภาพทางการคลังมาก รัฐบาลญี่ปุ่นแทบไม่ต้องแบกภาระทางการเงินเพราะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมายาวนานของญี่ปุ่นทำให้สามารถบริการ spread ได้ดี ลองสมมติง่ายๆแค่ว่า คุณสามารถยืมเงินได้ 1 ล้านบาท เสียดอกเบี้ยแค่ปีละ 7 พันกว่าบาท เอาไปลงทุนคุ้มแค่ไหน ซึ่งเหตุผลที่มันเป็นแบบนี้เพราะว่า คนญี่ปุ่นมีอัตราการออมที่สูงมาก ซึ่งน่าจะมากที่สุดในโลกแล้ว ประชากรญี่ปุ่นเฉลี่ย 1 คน อาจจะมีประกันชีวิตมากถึง 3-5 ใบ ยังไม่นับรวมถึงเงินฝากธนาคารและพันธบัตรจำนวนมาก
ในนิสัยรักการออมแบบนี้มันย่อมมีผลเสียต่อเศรษฐกิจ แน่นอนประชาชนมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง แต่เศรษฐกิจมันไม่หมุนเวียน เพราะในเมื่อคนแต่ละคนมีรายได้ ก็หาไว้เก็บซะเป็นส่วนใหญ่ ใช้จ่ายก็มีบ้างแต่ก็ไม่เยอะอย่างชาติอื่นๆ เทียบให้เหมาะสมคือถ้ามีรายได้ต่อเดือน 1 แสนบาท คนญี่ปุ่นอาจแบ่งเก็บมากกว่า 6-7 หมื่นบาท อีก 3 หมื่นบาทก็อาจจะเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆรวมถึงพวกเบี้ยประกันและการลงทุนอื่นๆด้วย คนญี่ปุ่นมีนิสัยไม่นิยมใช้จ่ายมากนัก เทียบกับไทยแล้วเรามีนิสัยการเก็บออมค่อนข้างน้อย และเราหวังรวยแบบข้ามคืนกันมากกว่าพยายามเก็บออมกันเอง (สมมติฐานกับคนญี่ปุ่นที่อยู่อาศัยและทำงานในญี่ปุ่นนะครับ อย่าเอาไปเทียบกับญี่ปุ่นพร้อมพงษ์ซึ่งรับเงินเดือนเรตญี่ปุ่น แต่ใช้จ่ายในไทย)
สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง และเศรษฐกิจก็ไม่เติบโต หรือพูดง่ายๆคือมันอยู่นิ่งของมันมาตลอด ซึ่งญี่ปุ่นอยู่ในภาวะเช่นนี้มาแล้วกว่าหลายสิบปี หรือเราจะเรียกว่า "ทศวรรษที่สาปสูญ" เพราะเศรษฐกิจญี่ปุ่นมันไม่โตแต่ก็ไม่หด นโยบายหนึ่งที่ญี่ปุ่นใช้เพื่อพยายามทำให้เงินเฟ้อขึ้นบ้างคือ QE (Quantitative Easing) หรือการผ่อนคลายทางการเงิน อธิบายคงต้องใช้เวลาอีกนาน พูดให้เข้าใจง่ายคือ "พิมพ์แบงค์เพิ่ม" ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นมีสภาพเงินฝืดในเศรษฐกิจ แตกต่างจากไทยและประเทศอื่นๆโดยส่วนมากที่มีเงินเฟ้อ ซึ่งนั่นหมายถึงรัฐบาลญี่ปุ่นพยายามพิมพ์เงินออกมาให้เงินมันอ่อนค่าลง ญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่ทำ QE หลังจากนั้นชาติอื่นๆก็ทำตามกันบ้างสนุกสนาน โดยเฉพาะสหรัฐ
ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นอัดฉีดเงินเข้าระบบจำนวนมากมาตลอด นั่นก็คือทำ QE ออกมาเพื่ออ่อนค่าเงินเยน หลังจากที่เงินเยนแข็งค่าสุดๆต่อแทบทุกสกุลเงินเพราะเงินร้อนพยายามหาที่ลง แหล่งปลอดภัยที่เงินจะไปหาพันธบัตรลงก็คือ ประเทศที่มีอัตราเรตติ้งระดับ AA หรือ AAA ซึ่งบนโลกเราก็มีแค่ไม่กี่ประเทศเช่น ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์ (ฯลฯ)
ด้วยเงินร้อนที่มันไหลเข้าญี่ปุ่น และเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็พึ่งพาการส่งออก การที่เงินแข็งค่าย่อมส่งผลร้ายต่อการส่งออก รวมถึงว่าเศรษฐกิจที่มันไม่โตอยู่แล้วก็ยิ่งทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้เงินอ่อนค่าลง และให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ให้คนญี่ปุ่นหันเอาเงินออกไปลงทุน ไปใช้จ่าย ไปทำอะไรกันบ้างไม่อย่างนั้นเงินมันก็ไม่เกิดการหมุนเวียน ทำให้เงินฝืด
ปัจจุบันญี่ปุ่นได้ประกาศชัดว่าจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้เงินเยนอ่อนค่าลงให้ได้ รวมถึงนายกที่ได้รับเลือกตั้งมาสดๆร้อนๆก็กล่าวว่าจะทำเช่นนั้น นโยบายทางการเงินของญี่ปุ่นต่างก็ยังคงพยายามทำทุกทางเพื่อให้เงินเยนอ่อนค่าลงให้ได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำได้อีกมากแค่ไหน เพราะท้ายที่สุดแล้วตอนนี้ทั้งโลกเรากำลังอยู่ในสนามรบของสงครามค่าเงิน ที่แต่ละประเทศพยายามปั๊มเงินออกมากันอย่างมากมาย
จากคุณ |
:
venezier
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ธ.ค. 55 05:03:07
|
|
|
|