 |
ทำไมราคาถึงต้องขี้นต่อ..และคนซื้อต่อเนื่อง เอามาย้ำให้ดูอีกครั้งครับ ลงมาให้เก็บแล้วครับวันนี้....**
สัญญา9ปีกิน9พันล้าน @ ขึ้นเบอร์หนึ่งเจ้าตลาดป้ายโฆษณาทั่วกรุง TSF ซิวป้ายโฆษณา 3 สัญญา ยอดรวม 3,500 ป้ายทั่วกรุงเทพฯ ปล่อยเช่า 2.4 หมื่นบาทต่อเดือน ลูกค้าจองคิวแล้ว 80% ดันรายได้ต่อปีขั้นต่ำ 806 ล้านบาท หากขายได้เต็มรายได้พุ่ง 1พันล้านบาท กำไรทะลุ 500 ล้านบาท หรือ 0.43 บาทต่อหุ้น เทียบพีอีแค่ 10 เท่า ราคาพื้นฐาน 4.3 บาท นายอรัญ อภิจารี ประธานกรรมการ บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ชนะประมูลงานติดตั้งป้ายโฆษณาริมทางเท้า และศาลารถประจำทางในเขตชุมชนทั่วกรุงเทพฯจากเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 3 สัญญา จากทั้งหมดที่มีการเปิดประมูล 4 สัญญา โดยแบ่งเป็นกลุ่ม A, B, C และ D “บริษัทเป็นผู้รับสิทธิสัมปทานป้ายโฆษณาจาก กทม. ในสัญญากลุ่ม A, C และ D ทั้งหมด 3,500 ป้าย ในย่านธุรกิจที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ หรือคิดเป็นสัดส่วน 80% ของป้ายโฆษณาที่เปิดให้ประมูลทั้งหมดจากกทม. โดยมีสัญญาสัมปทานในกลุ่มA และ C ระยะเวลา 9 ปี ส่วนสัญญา D ระยะเวลา 6 ปี” นายอรัญ กล่าว สำหรับสัญญากลุ่ม B นั้นทางบริษัท เจซีเดอโก (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทโฆษณาชื่อดังของฝรั่งเศส เป็นผู้ได้สิทธิไป ภายหลังจากที่บริษัทได้รับสิทธิสัมปทานมา บริษัทจะดำเนินการเปิดให้เช่าป้ายโฆษณาทันที โดยจะเริ่มวันที่ 1 ธันวาคม 2555 นี้ ซึ่งตอนนี้มีลูกค้าจองแล้วจำนวน 80% ของป้ายโฆษณาที่ได้สัมปทานมา “แต่เดิมก่อนที่ผลประมูลจะประกาศ ทางบริษัท เจซี เดอโกฯในฐานะเจ้าตลาดป้ายโฆษณาทั่วกรุงเทพฯ เชื่อว่าจะชนะประมูลทั้งหมด เนื่องจากเป็นเจ้าตลาดและได้มีการเปิดให้ลูกค้าเช่าป้ายโฆษณาต่างๆ ไปแล้วทั้งหมด 80% ของป้ายโฆษณาที่กทม.เปิดให้ประมูล ต้องบอกว่าลูกค้าที่เช่าสิทธิกับทางเจซี เดอโกฯต้องมาทำสัญญาเช่าป้ายกับทางTSF ใหม่ เนื่องจากเจซี เดอโกฯได้เพียงแค่สัญญาเดียว ทำให้ไม่มีสินค้าส่งมอบให้กับลูกค้า” นายอรัญ กล่าว ขณะที่อัตราค่าเช่าป้ายโฆษณาอยู่ที่ 24,000 บาทต่อเดือน ส่วนลูกค้าที่จองเข้ามาแล้วจำนวน 2,800 ป้าย ทำให้ปัจจุบันยอดรวมรายได้บริษัทอยู่ที่ปีละ 806 ล้านบาท แต่หากคิดจำนวนเต็มที่ 3,500 ป้าย จะทำให้รายได้รวมของแต่ละปีอยู่ที่ 1,008 ล้านบาท สำหรับค่าสัมปทานที่บริษัทจ่ายให้กับกทม.ทั้งหมด 350 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นต้นทุนค่าป้ายโฆษณาอยู่ที่ประมาณ 420 ล้านบาท หากยอดขายป้ายโฆษณาที่ 2,800 ป้าย รายได้จะอยู่ที่ 806 ล้านบาท หักต้นทุนที่มีอยู่ 420 ล้านบาทต่อปี จะทำให้บริษัทมีกำไรอยู่ที่ประมาณ 386 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าคิดจำนวนเต็มที่ 3,500 ป้าย จะทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 588 ล้านบาทต่อปี โดยไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนของต้นทุนสินค้าเหมือนธุรกิจอื่นๆ ปัจจุบันอัตราการรอคิวเพื่อขอเช่าซื้อป้ายโฆษณาประเภทดังกล่าว เฉลี่ยต้องจองคิวล่วงหน้า 3 เดือน เนื่องจากมีจำนวนลูกค้าให้ความสนใจมาก ประกอบกับเป็นสื่อที่เข้าถึงชุมชนในวงกว้าง และมีต้นทุนที่ถูกกว่าสื่อประเภทเดียวกันที่เข้าถึงจำนวนผู้ชมที่มองเห็นได้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า ป้ายโฆษณาที่ TSF ได้สัมปทานมาจะทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรเข้าบริษัทอย่างยั่งยืนอย่างน้อยๆ ต่อสัญญาที่มีอยู่ 9 ปี ทำให้สามารถมีรายได้และกำไรระยะยาวได้ โดยประเมินเบื้องต้น หากมีรายได้ปีละ 1,008 ล้านบาท หักต้นทุนทั้งหมดที่ 420 ล้านบาท จะทำให้มีกำไรปีละ 588 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.43 บาทต่อหุ้น เทียบค่าพีอี 10 เท่า ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 4.30 บาท
จากคุณ |
:
TKlittleboy
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ธ.ค. 55 13:57:07
|
|
|
|
 |