ความคิดเห็นที่ 1 ตัวเลขขอคืนมันคงเว่อร์ไป เพราะมีรถที่ขอคืนไม่เต็มแสนก็มีเยอะ นั่งเทียนเอาก็คงน่าจะประมาณ 80,000 ล้านละกัน แต่ถามว่าถ้ารัฐไม่มีนโยบายนี้ออกมา จะมีคนออกรถมากขนาดนี้มั้ย แน่นอนไม่มีทางอยู่แล้ว ก็ฟังหูไว้หู แล้วเอามาคิดก่อน จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 20:10:51

ความคิดเห็นที่ 3 เงินที่รัฐคืน ไม่ได้เป็นรายจ่ายซะทีเดียว มันเป็นเงินที่รัฐควรจะได้แต่รัฐคืนให้ ดังนั้นมันเป็นการเสียรายได้เฉยๆ ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นนโยบายนี้รัฐไม่มีเสีย มีแต่ได้กับได้ 1 ได้ทำประชานิยม ได้คะแนนเสียง 2 ได้ ในกรณีคนผ่อนไม่ไหว ไม่เข้าเกณฑ์ถือครองตามที่เงื่อนไขขอคืนภาษีรถคันแรก ก็เท่ากับรัฐไม่ต้องคืนเงิน บวกกับเป็นรายได้ของรัฐได้เนียนๆ จากคนไม่คิดซื้อรถ ก็หลงกับดักให้มาซื้อรถซะ คนซวย คือ คนที่ผ่อนไม่ไหว คนที่ซวยกว่าคือ คนที่ค้ำประกันไว้ให้ ภาคธุรกิจในอุตฯรถดีใจ ได้ประโยชน์ไป ธุรกิจปล่อยสินเชื่อรถได้ประโยชน์ด้วย ตามมาถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับรถทั้งหลาย ปั๊มน้ำมัน แก๊ซ คาร์แคร์ อู่ ศูนย์บริการ ธุรกิจประดับยนต์ ติดฟิล์ม ทางด่วน ที่จอดรถ ธุรกิจที่เสียประโยชน์ คือ ธุรกิจฟุ่มเฟื่อยที่ไม่เกี่ยวกับรถ ก็ดูๆกันไป ถ้ามีปัญหาก็คงจะมีที่ 1-2 ปีข้างหน้า ครบวงรอบ cycle ของตลาดหุ้น  4-5 ปีพอดี จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 20:24:16

ความคิดเห็นที่ 4 ประชานิยมก็งี้แหละ ประชาชนก็ติดกันงอมแงม จากคุณ : tempestroad เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 20:25:02

ความคิดเห็นที่ 5 พรรคนี้เค้ารู้ว่าคนไทยชอบอะไร จากคุณ : attach43 เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 20:30:47

ความคิดเห็นที่ 6 รถเยอะ มลพิษเยอะ รถก็ติด น่าคิด... จากคุณ : Dragonglass เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 21:12:20

ความคิดเห็นที่ 8 รำคาญ รถเยอะมากๆ จากคุณ : gankstardra เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 21:19:16

ความคิดเห็นที่ 9 รถเยอะ    แต่เป็นรถใหม่ มลพิษ น้อยลงนะ  ไม่ได้มากขึ้น ภาษี  จริงอยู่ดูเผินๆรัฐเสียจากที่ควรได้ แต่ความจริง หากไม่มีนโยบายนี้   ยอดรถออกใหม่ อาจเหลือไม่ถึงครึ่ง       แต่รัฐคิดแล้ว   คืนแค่ สรรพสามิต  แต่ ภาษีอื่นๆยังอยู่อีกเพียบ  โดยรวมรัฐได้ กำไรแยะขึ้น   แต่ส่วนที่ได้จริงๆคือ โรงงานประกอบรถ โรงงานชิ้นส่วน ยาง และอื่นๆ มีงานแยะขึ้น รวมแล้วทำกันไม่ทันเลย  ทำให้คนงานขาดแคลน    คนที่ออกรถส่วนมากก็จะออกรถกันอยู่แล้ว เพียงแต่เร่งให้เร็วขึ้นเท่านั้น ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น    ที่สำคัญ กระตุ้นเศรษฐกิจภายใน  ทำให้คนขยันทำงานมากขึ้น หาเงินมาก   กินแยะ เที่ยวแยะขึ้น จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 21:19:57

ความคิดเห็นที่ 10 มองมุมเดียว ทำให้โลกแคบ เขาเรียกวินวิน รัฐยังเหลืือเงินภาษีอีก ภาระหลังจากนี้ เป็นเจ้ารถไม่ใช่รัฐ จากคุณ : Prosopy เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 21:22:04

ความคิดเห็นที่ 11 ลืมที่รู้สึกว่า ลัลล้าได้ประโยชน์มากๆก็พวก บ.ผลิตชื้นส่วนรถยนต์ จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 21:25:19

ความคิดเห็นที่ 12 เค้าไม่ได้บีบคอให้ซื้อ แต่ก็ดันคิดกันตื้นๆไปซื้อกัน ไม่ประมาณตัวเอง หลายคนซื้อรถเพราะได้คืนแสนนึง แต่ว่าต้องจ่ายไปตั้งหลายแสน ก็คิดเอาล่ะกัน ผมว่าเฉพาะพวกที่ไม่ประมาณตัวเองนะครับ ส่วนคนที่มีจ่ายก็ปล่อยเค้าไป จากคุณ : ปลาโอกินแตงโม เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 21:31:27

ความคิดเห็นที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I13079652/I13079652.html http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I13085120/I13085120.html http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I13093526/I13093526.html แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 55 21:34:14 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 55 21:32:50 จากคุณ : แน่ข้างเดียว เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 21:31:29

ความคิดเห็นที่ 14 ที่จริงตอนหาเสียง นโยบายอันนี้มันเป็นของพรรคชาติไทยพัฒนานะครับ ที่ป้ายเป็นรูปกุญแจสองดอก เห็นทีแรกก็สงสัยว่านโยบายนี้มันมีประโยชน์อะไร ไม่รู้ตัวภาษีรัฐจะคืนมายังไง ครั้งเดียวหรือว่าทะยอยจ่าย 5 งวดเพราะต้องครอบครองรถ 5 ปี ถ้าแบ่งเป็น 5 งวดก็นับว่าเป็นนโยบายที่ดี เพราะภาษีนี่รัฐเก็บเต็มก้อนก่อนนะ เอาไปใช้ไปลงทุนก่อนเลย 1 ปี แล้วค่อยๆจ่ายคืนออกมา 5 งวด ซึ่งคนพอใช้รถก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่มให้รัฐบาลอยู่แล้ว อย่างน้อยก็จากค่าน้ำมัน สุดท้ายเหลือจ่ายคืนออกมาจริงๆไม่เท่าไหร่ ง่ายๆก็คือรัฐรีดภาษีเพิ่มขึ้นก่อนเวลาได้ก้อนนึง ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาไปใช้ได้ประโยชน์ให้มันกลับมาได้แค่ไหน ประโยชน์ทางอ้อมๆของนโยายนี้ก็คือทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำขึ้นมานิดหน่อย 0.25 - 0.3% เพราะแบงค์เล็กแย่งเงินฝากทำให้แบงค์แข่งกันขึ้นดอกฝากนิดหน่อย แต่ถ้าคืนเช็คมาเลยก้อนเดียวก็จะกลายเป็นนโยบายไร้ประโยชน์ทันที เร่งให้คนมีรถทั้งที่ไม่พร้อม เด็กทำงานปีสองปี รีบผ่อนรถเพราะกลัวไม่ได้ส่วนลด เงินเก็บยังไม่มีเป็นก้อนให้มันงอกเองได้เลย กว่าจะผ่อนหมดก็อายุจะ 30 แล้วถึงตอนนั้นภาระรายจ่ายรุงรังจะเริ่มเก็บเงินก็ลำบาก ถ้าเผลอไปก่อหนี้ก็จบเพราะหนี้มันโตเร็วกว่าเงินเก็บ สุดท้ายชีวิตได้เป็นมนุษย์เงินผ่อนไปตลอดชีวิต คุณภาพของคนในสังคมก็ลดลง ถ้ามีรถไฟฟ้าก็ใช้รถไฟฟ้าเถอะครับ สะดวกดี ผมไปกทม.ทีไรก็นั่งแต่รถไฟฟ้า สะดวกและก็สบายใจดีกว่าขับรถออกไปทะเลาะเบอะแว้งกับเพื่อนร่วมทางที่ไม่รู้จักกันเลยที่เดี๋ยวปาดหน้าขอเข้าเดี๋ยวมาเบียดแย่งเลน เหนื่อย กำลังคิดว่าถ้าต้องย้ายไปกทม.ก็ไม่ต้องมีรถแฮะ หมดกังวลไป 1 เรื่อง แต่อยู่ตจว.นี่ไม่ไหวจริงๆครับ ถ้าไม่มีรถชีวิตลำบากมาก สถานที่แต่ละที่กระจัดกระจาย รถรับจ้าง รถสาธารณะก็มีบริการแบบจำกัดเวลา 2-3 ทุ่มนี่หารถยากแล้ว จากคุณ : Bomb308 เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 21:34:44

ความคิดเห็นที่ 15 อย่าลืมคำนวน vat ที่รัฐจะได้ซิ คุ้มโคตรๆ แต่ปัญหาสังคมนี่ซิน่ากลัว รถ 500,000-800,000 ถั่วเฉลี่ย 650,000 (ยังมีพวกผิดเงื่อนไขขายก่อนหรือเปลี่ยรมือก่อนกำหนดก็ต้องคืนเงินให้รัฐ ตัวเลขเบื้องต้น ที่รัฐคำนวนไว้ 30%) แต้รัฐได้ vat เต็มจำนวน หลังจากนั้น ค่าใช้จ่ายในการดูแลตกแต่ง vat อีกเท่าไหร่ รถ 1 คัน สร้างงานเท่าไหร่ เกิดการจ้างงาน มีรายได้ใช้จ่าย vat อีกเท่าไหร่ รวมๆ รัฐได้เงินกลับมามหาศาล พวกเร่งซื้อรถแต่ยังไม่พร้อม นี่คือปัญหา บ. รับบริหารหนี้เสียน่าติดตาม ปัญหาระบบเศรษกิจไม่น่ามีปัญาหา ปัญหาที่ต้องระวังคือ ปัญหาสังคม ขโมยกะโจรยาเสพติดคงเยอะขึ้น นี่ยังไม่รวมบ้านหลังแรก ตกแต่งบ้าน นี่แพงกว่าซื้อบ้านอีกนะ vat กลับมาเท่าตัว จากคุณ : 17247c เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 21:35:38

ความคิดเห็นที่ 16 อยากทราบว่าคนญี่ปุ่นเนี่ยต้องเก่ง ต้องถูกทุกคนมั้ย ทำไมบอกว่าคนญี่ปุ่นแล้วต้องไปถือว่าความคิดเค้าถูก คนญี่ปุ่นทุกคนจะเก่งกว่ารัฐบาลของเราได้อย่างไร เงินที่รัฐจ่ายแค่ 127000 ล้าน คนที่ได้นำไปจับจ่ายใช้สอย เกิดภาษีVAT เกิดการจ้างงานเพิ่มอีกไม่รู้กี่เท่า เงินนั้นก็ได้กลับมารัฐบาลมากกว่าเอา 127000แสนไปสร้างถนน สร้างรถไฟฟ้า ไหนจะขายรถได้เพิ่มอีก ภาษีรถก็ได้มากขึ้นหรือเท่าเดิมจากปริมาณงัย และถ้าไม่ทำอย่างนี้ ประเทศไทยเจ๊งไปแล้ว จากการที่พวกเล่นเก็บน้ำไว้แต่ต้นปีแล้วมาปล่อยเพื่อล้มรัฐบาลปูภายใน1เดือน จากคุณ : nitanlove เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 22:04:42

ความคิดเห็นที่ 17 เอิ่ม... มองอีกอย่างนะ คนที่เข้าไปจองคงน้อยคนที่จะซื้อสด และมีเงินพอจะซื้อได้เลย ส่วนมากซื้อผ่อนทั้งนั้น แล้ว... หนี้นอกระบบละ ผมว่าสถาบันการเงิน ประกันทั้งหลายก็ได้ผลประโยชน์เยอะโขอยู่นะ จากคุณ : VWG เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 22:09:09

ความคิดเห็นที่ 18 ซื้อๆ ไปเหอะ รถอะ...อย่าเครียด เขาให้คืน ก็ทำตามๆ กันไป ได้ก็ดี....อย่าเครียด เลือกมาแล้ว.....อวย อวย กันไป....ดี หนือ เสีย...มันก็แค่ผลลัพธ์ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย.... ด้ายทองคำ.....บริหารประเทศ ก็เหมือนทอดปลา พลิกไปพลิกมา มากๆ ก็เละหมด....อยู่แบบ ตามๆ เขาไปนั่นแหล่ะ สบายใจที่ซู๊ด..... อันไหนจะได้ก็เอา เพราะมันง่าย....อันไหนจะเสีย ก็รั้งๆ ถ้าไม่ไหว ก็ต้องเสียไป....นะจ๊ะ ทุกคน จากคุณ : Golden Thread เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 22:29:35

ความคิดเห็นที่ 20 ซื้อๆ ไปเหอะ รถอะ...อย่าเครียด เขาให้คืน ก็ทำตามๆ กันไป ได้ก็ดี....อย่าเครียด เลือกมาแล้ว.....อวย อวย กันไป....ดี หนือ เสีย...มันก็แค่ผลลัพธ์ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย.... ด้ายทองคำ.....บริหารประเทศ ก็เหมือนทอดปลา พลิกไปพลิกมา มากๆ ก็เละหมด....อยู่แบบ ตามๆ เขาไปนั่นแหล่ะ สบายใจที่ซู๊ด..... อันไหนจะได้ก็เอา เพราะมันง่าย....อันไหนจะเสีย ก็รั้งๆ ถ้าไม่ไหว ก็ต้องเสียไป....นะจ๊ะ ทุกคน จากคุณ : Golden Thread เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 22:31:00

ความคิดเห็นที่ 21 จบเหอะครับ เดี๋ยวไม่กี่วันก็จะหมดเขตให้คืนภาษีแล้ว โพสต์กันก็ทะเลาะกัน ไม่มีใครชนะหรอก เอามุมมองที่ตัวเองมองมันไม่จบหรอก ยิ่งไปโยงประเทศโน้นประเทศนี้อีก จากคุณ : As you know เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 22:40:55

ความคิดเห็นที่ 22 รีบๆสร้างรถไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วกทม.ละกัน  แล้วตามหัวเมืองใหญ่ก็วางแผนขนส่งมวลชนได้แล้ว ถ้ามีรถไฟฟ้ามาถึงหน้าบ้าน ถึงคนมีรถก็ไม่เสียเวลาขัยไปทำงานหรอก จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 22:46:16

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าเป็นเรื่องตัวเงิน กับการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นผลดีเลยทีเดียว อย่างน้อยปีนี้ ถึงปีหน้า  พนักงานโรงงานผลิตรถก็ยังมีงานยาวไปถึงปีหน้า ธนาคาร ไฟแนนซ์ มียอดเพิ่มขึ้น กำไรอาจจะสูงขึ้น ผู้ผลิตยางรถยนต์ อะไหล่ชิ้นส่วนรถ car care ปั้มน้ำมัน โรงกลั่น ผลประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม มากมาย รายได้เพิ่มขึ้น ใช้จ่ายมากขึ้น ผลิตสินค้าอื่นๆ ก็ได้รับผลพลอยได้ไปด้วย แต่มันก็ไม่ได้มีดีอย่างเดียว ผลทางด้านลบ ก็จะมี หนี้รายย่อยเพิ่มขึ้น NPL อาจเพิ่มขึ้น มลพิษจากท้อไอเสีย รถติดในเมือง น้ำเข้าน้ำมันมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลทางสังคมที่ยากจะคำนวณ มุมมองของผม บางทีนโยบายนี้อาจเป็นตัวจุดชนวน ให้เกิดการเร่งดำเนินการก่อสร้างขนส่งสาธารณะระบบรางให้ อนุมัติ และเสร็จเร็วขึ้นก็เป็นได้ to be continue จากคุณ : P-Piya เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 22:48:15

ความคิดเห็นที่ 24 แหมฟังคนที่บอกว่านโยบายนี้ดีมากกว่าเสีย รัฐได้เงินภาษีเยอะแยะเลย ได้ VATเพิ่มยังงั้น การจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างงี้ รัฐได้มากกว่าเสีย อยากจะบอกว่ามีอีกหลายมุมให้มองนะ ไหนลองบอกประเทศที่พัฒนาแล้ว ออกนโยบายส่งเสริมให้คนใช้รถส่วนตัวกันเยอะๆ มาสักประเทศสิครับ เคยคิดเรื่องพื้นผิวถนน สภาพการจราจร ที่จอดรถ การใช้นำ้มันรวมทั้งมลพิษที่เกิดขึ้นหรือยัง แล้วก้อคำถามง่ายๆนะ ถ้านโยบายนี้ดีจริง ได้กำไรจริง ปีหน้าก้อทำต่อสิครับ หยุดทำไมล่ะ อยากให้นักลงทุนพิจารณาให้ลึกหน่อยนะครับ. เรากินข้าวนะครับไม่ได้กินหญ้า จะได้เชี่อนักการเมืองทุกอย่าง จากคุณ : Little_MD เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:00:42

ความคิดเห็นที่ 25 ส่วนตัว คนอื่นไม่เกี่ยว มองว่าเป็นนโยบาย ทำลายชาติ (เอาแรง ๆ เลย) คิดดู ขนาดรถยังออกมาไม่ครบ รถติดระเบิดระเบ้อขนาดนี้แล้ว ที่จริงควรเอาไปสร้างระบบรถที่ขนคนได้ทีละมาก ๆ เพื่อลดจำนวนรถส่วนตัวที่ออกมาวิ่งให้น้อยลง คนออกนโยบายนี้ ตั้งใจทำร้ายประเทศชาติแน่ ๆ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:12:19 จากคุณ : ไอไอ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:05:32

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ต้องถึงคนญี่ปุ่นหรอกคะ คนที่อยู่ในประเทศเจริญแล้วเขาก็ไม่ทำ มีแต่ประเทศขี้ครอกเดินกร่างในถนน แหละที่คิดได้ จากคุณ : mayumijung เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:44:14

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นด้วยอย่างยิ่ง เอาเงินไปทำ ให้ขนส่งสาธารณะดีขึ้นมีประโยชน์กว่าเยอะเลย ประชาชนควรเลิกเห้นแก่ตัวได้แล้ว ต่อไปก็คงต้องคอยแบมือขอเงินอุดหนุนรัฐบาล ไม่พอใจอะไรก็ไปประท้องเอา จากคุณ : ดักดาน (มังกรขงเบ้ง) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:47:19

ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว การมองสิ่งที่เลวรเาย ให้เป็นเรื่องดี อย่างความเห็นข้างบนนี้ ก็อาจเป็นสิ่งที่ดี ที่จะได้จากรัฐบาล uppree แบบนี้ ว่าแล้วก็เพิม BTS เข้าไปใน port อีก อาจเริ่มเก็บ BMCL จากคุณ : nuclearmedicine เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:47:36

ความคิดเห็นที่ 30 ชำ้ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 55 23:53:08 จากคุณ : nuclearmedicine เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:48:55

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นด้วยอย่างยิ่ง เอาเงินไปทำ ให้ขนส่งสาธารณะดีขึ้นมีประโยชน์กว่าเยอะเลย ประชาชนควรเลิกเห้นแก่ตัวได้แล้ว ต่อไปก็คงต้องคอยแบมือขอเงินอุดหนุนรัฐบาล ไม่พอใจอะไรก็ไปประท้องเอา จากคุณ : ดักดาน (มังกรขงเบ้ง) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:51:06

ความคิดเห็นที่ 32 ช็ำ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 55 23:53:47 จากคุณ : nuclearmedicine เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:51:35

ความคิดเห็นที่ 33 เฮ้อ ...เวลาเอารถ honda มา scrap ทิ้งให้คนไทยดูนับพันคัน หลังช่วงน้ำท่วมใหญ่ ไม่เห็นญี่ปุ่นคนที่ถูกอ้างถึง ออกมาโอดครวญเลยว่า ประเทศไทยใจร้าย ไม่ดูแลอุตสาหกรรมรถยนต์ที่บริษัทอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาลงทุนเพื่อคนไทยได้มีงานทำนับแสนคน ทั้งทางตรงและอุตสากรรมต่อเนื่อง มาวันนี้ กลับมาออกความเห็นรายวันตาม facebook กระตุ้นให้คนไทยคิด ว่า รัฐบาลไทยติงต๊องหรือเปล่า ดันออกนโยบาย มาให้บริษัทรถจากญี่ปุ่นต้องเพิ่มกำลังการผลิต ผู้บริหารยุ่นที่ต้องดูแลฐานการผลิตจากประเทศไทย รวมทั้งคนไทยที่ทำงานด้วยต้องถูกโปรโมท ต้องได้รับโบนัสเพิ่มเป็นสถิติเพราะกำไรงวดประจำปีท่วมบริษัท ที่สำคัญ ด้วยนโยบายห่วยๆที่ว่า ผลประกอบการปีนี้ของบริษัท สามารถนำมาตู๊กับช่วงตอนเจ๊ง เนื่องจากเสียหายช่วงน้ำท่วมปีที่แล้วได้อย่างหมดจรด ...โรงงานที่เดิมว่าจะย้ายฐานการผลิตหนีไปเวียดนาม หรืออินโดนีเซีย ก็ต้องระงับแผนไว้ก่อน งงที่สุดคือ ดันมีคนไม่น้อยเห็นด้วยว่า เงินจากการลดหย่อนภาษีรถ 1.27 ล้านคัน น่าเอามาทำประโยชน์ได้อีกเยอะ พูดพาดพิงถึงนโยบายที่ว่า คล้ายเป็นภาระที่รัฐต้องไปจัดหาเม็ดเงินก้อนใหญ่มา compensate หากไม่มีประชานิยมสตึๆแบบนี้ ญี่ปุ่นคนดังกล่าวบอกว่า ก็น่าเอาเงินจำนวนนี้ไปพัฒนาประเทศ เอาไปทำอะไรอื่นได้อีกตั้งเยอะ ก็ไม่แน่ใจนิยามคำว่าภาษี จะหมายถึงประชาชนต้องจ่ายให้รัฐ หรือเป็นเงินที่รัฐต้องจ่ายให้แก่ประชาชน หากเป็นอย่างแรก ลดหย่อนไปเท่าใด ก็ยังมีเงินที่จัดเก็บได้ แม้ภาษีคิดคำนวณเพื่อเรียกเก็บต่อหน่วยจะลดลง สรุปว่ายังไงก็ไม่ได้ควักเนื้อ เพราะเป็นเงินเรียกเก็บ ท้ายสุด ก็ต้องดูภาพใหญ่ หากคูณด้วย 1.27 ล้านคันเข้าไป จำนวนภาษีรถยนต์ที่จัดเก็บด้วยเกณฑ์ใหม่ จะเยอะหรือน้อยกว่า เทียบจากตอนจัดเก็บภาวะปกติ ที่ยอดการผลิตกลุ่มดังกล่าวแค่เป็นหลักแสนคัน... ขายของ ลดราคา กำไรต่อหน่วยลดลง แต่ขายได้มากขึ้น ภาพรวมรายรับมากขึ้นก็เห็นกันดาษดื่นทั่วไป การลดราคา เพื่อให้ได้กำไรสินค้าต่อหน่วยน้อยลง แปลว่าผู้ประกอบการต้องขาดทุน หรือควักเนื้อหรือ? สุดท้าย เห็นด้วยกับ คคห 15 ..ต้องวิเคราะห์ ประโยชน์อันเกิดกับอุตสาหกรรมข้างเคียงในประเทศ ที่เกิดขึ้นมหาศาลในปีนี้เข้าไปด้วย ไม่มีนโยบายที่ว่า เม็ดเงินภาษี extra มหาศาล คูณ 2 คูณ 3 จากอุตสาหกรรมกลางน้ำปลายน้ำข้างเคียงก็ไม่มีให้จัดเก็บ อย่างน้อยปีหน้าก็ต้องเห็นผล ราคาหุ้นชิ้นส่วนฯพวกนี้ ก็วิ่งแห่ขึ้นมารับข่าวกันกี่เท่าตัวแล้ว จริงๆแล้ว จำนวนรถออกมาวิ่งมากขี้น ดูเหมือนเป็นปัญหา แต่น่าจะเป็น good problem มากกว่า เว้นแต่พวก looser คงเห็นแค่ bad problem ประโยชน์รูปธรรมที่เห็นชัดเจน คือคนไทยหลักหมื่นไม่ต้องตกงาน ...บริษัทญี่ปุ่นรวย บริษัท local ของไทยก็รวยตามไปด้วย การจ้างงานใน auto sector ก็มั่นคงขึ้น หากรัฐต้องใช้เงินมาก่อสร้าง เพื่อเพิ่มพื้นผิวถนนก็คงคุ้ม so be it! อีกอย่าง สร้างแล้วก็เป็น asset ของประเทศเก็บไว้ ไม่ได้ระเหิดหายไปไหน ที่สงสัยจริงๆ คือคนญี่ปุ่นที่มาออกความเห็น..มีตัวตนจริงหรือเปล่า เท่าที่คุ้นเคย คนญี่ปุ่นชาตินิยมมาก ดันมาเผาเครื่องกันเอง ดูแปลกๆอยู่ น่าจะให้ใครลองไปสัมภาษณ์ ceo ของ hoda, toyota, nissan, isuzu etc ญี่ปุ่นที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และต้องอยู่ในประเทศไทยอีกนานๆ ว่าคิดเห็นกับนโยบายรถคันแรก เช่นคนญี่ปุ่นผู้หวังดีที่ว่าบ้างมั๊ย? จากคุณ : ads เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:51:57

ความคิดเห็นที่ 34 ขี้ครอกเป็นยังไงเหรอครับ???   ไม่ใช่คนเหรอครับ??? จากคุณ : kobee เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 23:53:49

ความคิดเห็นที่ 36 เรื่องนโยบายมันเป็นเรื่องปกติมีทั้งคนได้และคนเสีย แต่เศร้ากับความคิดที่ว่า ข้ามีรถ แต่ไม่อยากให้คนอื่นใช้รถเพราะกลัวรถข้าติด คนที่มีรถอยู่แล้ว ไม่อยากรถติดทำไมไม่สร้างเทรนด์ใหม่ หันไปใช้รถสาธารณะ จักรยาน บ้างล่ะ โทษโน่นโทษนี่แต่ไม่หันมาดูตัวเองเลย ส่วนนโยบายนี้สร้างหนี้นั้น คิดดูบ้านที่คุณอยู่ รถที่คุณใช้ คุณก็มาจากการสร้างหนี้ในอดีตเหมือนกัน แต่แค่รัฐให้ส่วนลดไปบ้างแค่นั้นเอง อย่าไปอิจฉาเค้าเลย จากคุณ : mynameism เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 00:13:05

ความคิดเห็นที่ 37 บางความเห็นก็ทุนนิยมสุดขั้วนะ ลองมองในแง่สังคมศาสตร์บ้างก็ดีเหมือนกัน จากคุณ : วิญญาณไม่ขายใคร เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 00:13:38

ความคิดเห็นที่ 38 ทุน10บาท ขายข้าวจานละ 100 กำไร 90บาท แต่ขายได้แค่ 10คน กำไร 900บาท ขายข้าวจานละ 90บาท กำไร 80บาท แต่ขายได้ 20คน กำไร 1,600 คิดว่ารัฐเสียรายได้อยู่ไหม กระบวนการล่อเหยื่อชัดๆ จากคุณ : แนะนำด้วยครับ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 00:18:13

ความคิดเห็นที่ 39 อิอิ  ถ้าไม่มีนโยบายนี้ คนก็ซื้อรถใช้ประมาณ ปีละ 6 แสนคัน อยู่แล้ว  แล้วจะเป็นหน้าใหม่สักกี่คน  รัฐบาลให้สิทธิ์ คนไม่เคยมีรถนะครับ ผมมีรถ ผมยังไม่กล้าด่าเลย  ดูเหมือนเราใจแคบไป  ถ้าไม่พูดเรื่องเงินนะ  ถามว่าทำไมเราถึงมีรถได้  แล้วคนอื่นๆ ถึงไม่มีสิทธิ์มีรถครับ   ปัญหาการจราจร เพราะ ขายรถปีนี้ปีเดียวมันเรื่อง ตลกอะครับ  มันก็ยอดขายรถประมาณ 2 ปี มาขายได้ในปีเดียว คือรถติดยังไงมันก็ติดอยู่แล้ว มันเพิ่มมาเป็นสัดส่วน กี่% ของเดิมละครับ  มันคงไม่ใช่ว่า จะไปที่นึง แล้วใช้เวลาเพิ่มขึ้น สองเท่า   ไอ้รถล้น กทม ผมว่ามันคุยกันมาก 20 กว่าปีแล้ว  ก็ยังเห็นรถวิ่งได้ แถมเงินภาษี 8 หมื่นล้านที่รัฐต้องคืน  จะคืนจริงสักกี่บาท  ผมเดาว่าไม่น่าเกิน 5 หมื่นล้าน  เพราะมีคนมั่วตามน้ำเยอะ เคยอ่านข่าวมาว่า ประเทศ ญี่ปุ่นใช้น้ำมัน วันละ  4 ล้านบาเรล  ประชากร 120 ล้านคน  ประเทศไทย 66 ล้านคนใช้วันละ 1 ล้านบาเรล  เฉพาะรถยนต์นะครับ ส่วนบางคนผ่อนได้ไม่ได้  มันก็ขึ้นกับนิสัย การจัดการเงินของบุคคลนั้นนี่ครับ  ไฟแนนซ์ ก็ต้องคัดกรองไม่ใช่สักแต่ว่าขาย   ไปด่าเรื่อง คอรัปชันข้าวเหอะครับ  มาด่าเรื่องนโยบายรถส่วนตัว ก็เห็นส่วนใหญ่ที่ด่ามีรถขับ บางครอบครัวมีรถ ครบคนเลย จะด่าคนมีรถหลายคันก็ด่าไม่ได้  เพราะว่า ให้มี 100 คัน จะขับออกมาก็ขับได้แค่คันเดียว อิอิ อย่าใจแคบกันนักเลย ยิ่งอ่านยิ่งเห็น การแบ่งแยกชนชั้นในสังคมยังไงไม่รู้ จากคุณ : STOCK_BABY เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 00:18:37

ความคิดเห็นที่ 40 ประเทศไทย ไม่ได้มีแค่ กทม นะครับ จากคุณ : Eig Q San เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 00:35:03

ความคิดเห็นที่ 41        มิน่าล่ะครับรัฐบาลญี่ปุ่นถึงต้องอัดฉีดเงินเช้าระบบหลายล้านๆบาท เพราะ ประชาชนคิดแบบนี้นี่เอง มีตังแต่เก็บใส่ไหฝังดินไว้ ภาคธุรกิจเลยเจ๊งกันหมด แล้วยังมีหน้ามาวิจารณ์คนอื่น ประเทศตัวเองยังเอาไม่รอดเล้ย หน้าสมเพชจริงๆ      xx  รายจ่ายของเราคือรายได้ของคนอื่น รายจ่ายของคนอื่นก็คือรายได้ของ เราเช่นกัน ถ้าทุกคนไม่ใช้จ่ายก็ไม่มีใครได้ครับ มองหลายๆมุมหน่อยครับ ผมเห็น คนในที่นี้เกลียดทุนนิยมแต่ชอบเล่นหุ้น เกลียดนโยบายแต่ใช้ประโยชน์ตลอด มีอุดมการณ์แต่ปากกันเหรอครับ ? จากคุณ : ChickenK เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 01:17:37

ความคิดเห็นที่ 42 ฟังความเห็นคุณพัฒนเดช.... จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 06:14:09

ความคิดเห็นที่ 43 รฐไม่เอาเงินแสนล้านก็เท่ากับเพิ่มกำลังการใช้จ่ายอีกแสนล้าน เงินแสนล้านนี่ถ้าเอาเข้ากระเป๋ารัฐปีนึงก็เบิกใช้ได้ครั้งเดียว รอนานกว่าเงินจะเริ่มหมุนในวงจร ถ้าอยู่ในมือผู้คนมันอาจหมุนได้สักสี่ห้ารอบจากการมีกำลังจ่ายครั้งนี้ ก็เท่ากับสี่ห้าแสนล้าน จากคุณ : I love Alpha เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 06:19:41

ความคิดเห็นที่ 44 . แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 13:06:08 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 18:52:56 จากคุณ : PolluxGMN เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 06:54:26

ความคิดเห็นที่ 45 โธ่ คุณประเทศญี่ปุ่นก็มีนโยบายเเจกเงินในการซื้อรถเหมือนกันเเหละ อย่างที่ผ่านเเจกให้1เเสนเยน  ก็เงินภาษีประชาชนนี่เเหละที่เอาไปเเจกอ่ะ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 07:02:29

ความคิดเห็นที่ 46 ข้อดีจากนโยบายนี้กับส่วนรวมคืออะไรครับ จากคุณ : satanone เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 07:02:44

ความคิดเห็นที่ 47 มุมมองคนไทยนี่แหละ ไม่รู้จะอ้างต่างชาติทำไม จากคุณ : Post in Android (สมชายตลอดมา) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 07:29:37

ความคิดเห็นที่ 48 คนที่บอกว่าประเทศเจริญแล้วอื่นๆไม่ส่งเสริมการมีรถ ผมถามตรงๆ มีประเทศไหนเก็บภาษีรถยนต์บ้าเลือดแบบไทยไหม? ดูได้จากราคาขายปลีกรถทั่วโลก ของไทยอยู่ในระดับสูงเพราะเรื่องภาษีนี่แหละ รถผลิตในเมืองไทย ส่งไปขายที่อื่นถูกกว่าเมืองไทยทั้งนั้น ไม่ยกเว้นแม้แต่ญี่ปุ่น แล้วได้เงินจากภาษีมามหาศาลทุกๆปี เรามี ระบบขนส่ง การศึกษา อะไรดีๆ ที่ชอบยกกันจังหรือป่าว ไม่ว่ารัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหน มันก็เอาเงินเราไปถลุงกันทุกรัฐบาล นโยบายลดภาษี คืนภาษีส่วนตัวแล้ว ผมสนับสนุน เพราะคิดว่าสำหรับคนไทย ที่มีแต่การคอรัปชั่นทุกภาคส่วน เจ้าของเงินน่าจะเอาเงินที่ได้รับได้คืนไปใช้ได้มีประโยชน์กว่า จากคุณ : อวิรุืทธ์ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 07:40:25

ความคิดเห็นที่ 49 มองกันแต่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและธุรกิจ มองในแงาสังคมศาสตน์  นิเวศน์วิทยาและสิ่งแวดล้อมบ้างสิครับ ในระยะยาวมันจะมีผลกระทบขนาดไหน จากคุณ : จอหงวนใหม่ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 07:58:03

ความคิดเห็นที่ 50 งั้นถามง่ายๆเลยนะ คนที่เชื่อว่ารัฐได้มากกว่าเสียน่ะ บอกผมได้ไหมครับว่าทำไมนโยบายที่ดีดี๋ดีขนาดนี้น่ะ ทำไมปีหน้าไม่ทำต่อล่ะ หยุดทำไม.... คำตอบน่ะคนในรัฐบาลก็รู้อยู่แล้ว แต่ยังมาโกหก  ให้ชาวบ้านซื่อๆ ตามคนอื่นไม่ทัน เชื่ออีก มันก็แค่นโยบายประชานิยมโง่ ๆ ที่หวังแค่ผลทางการเมืองเท่านั้นล่ะครับ จากคุณ : Little_MD เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 08:18:04

ความคิดเห็นที่ 51 ผมบอกตรงๆ ผมก็ไม่ได้สนับสนุนนโยบายนี้นะครับ แต่ผมก็ใช้สิทธ์นะ (เอ๊ะ ยังไง) ที่ผมไม่ชอบคือ ผมรู้ว่าคนไทยมีนิสัยเห่อตามกัน คนอื่นมีต้องมีด้วย วินัยทางการเงินต่ำมาก ถ้าอยากทำจริงๆ ผมให้คืนภาษี 2 แสนเลย แต่ผมอยากให้คืนเฉพาะรถสัญชาติไทย ผลิตโดยคนไทย 100% เลย ทำได้ ผมสนับสนุนเอาเลย ผมอยากรู้ว่า คนไทยจะซื้อมั้ย ถ้าซื้อแหล่มแน่ๆ เราจะมีรถของเราเองซะที จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 09:35:38

ความคิดเห็นที่ 52 เฮ้อ มันก็เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสั้นๆ ทางภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ แล้วทำไมเวลาแจก 2000 บาทโง่ๆ ทำไมไม่แจกมันทุกปีละครับ จากคุณ : Big cap only เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 09:41:30

ความคิดเห็นที่ 53 เดียวนี้คนไทย เหตุผลมาทีหลังการเมือง ใครที่ชื่นชมรัฐบาลปูนิ่มยังไงเสียก็ดีหมด แต่คนที่ไม่ชอบรัฐบาลปูนิ่ม ก็จะไม่เห็นด้วยกับทุกนโบาย นี้แหละประเทศไทย จากคุณ : ชาวดอยคอยเธอ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 09:53:17

ความคิดเห็นที่ 54 เปล่าเชียร์ข้างไหนนะครับ แค่อยากออกความเห็น ถ้ามองในแง่เศรษฐศาสตร์อย่างเดียว ผมว่า มันพอคำนวนได้ว่า ระหว่างมีกับไม่มีโครงการ อย่างไหนใครได้ใครเสีย คิดเป็นเม็ดเงินประมาณเท่าไหร่ คงไม่ยากเกินไป คือปกติ ถ้าไม่มีนโยบายนี้ รถควรจะขายได้กี่คัน รัฐเก็บภาษีในอัตตาปกติได้เท่าไหร่ ยอดจำหน่ายรถโดยรวมคิดเป็นจำนวนเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเท่าไหร และในทางกลับกัน ถ้าออกโครงการนี้มา ตัวเลขต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นและลดลง มีอะไรบ้าง เมื่อบวกลบคูณหารกันแล้วเอามาเปรียบเทียบกันก็จะรู้ว่า ระหว่างมีกับไม่มีโครงการอย่างไหนจะมีประโยชน์กับใครมากกว่ากัน คิดว่าคงไม่ยากหากจะมองเฉพาะมุมนี้ ถ้าให้ผมเดาใจรัฐบาล คิดว่าคงหวังตัวเลขที่เพิ่มมา สมมุติว่า1ล้านคัน เฉลึ่ยคันละ7แสน ก็เท่ากับ7แสนล้านบาท ที่รัฐจะได้7% ในทุกขั้นตอนการผลิตที่ใช้วัตถุดิบในประเทศกว่า70% รวมทั้งการจ้างงานที่ทำให้เงินสะพัดอยู่ในระบบที่จะส่งผลโดยรวมอีก(ต้องดูด้วยว่าในช่วงแรกๆ เม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นมาในอุตสาหกรรมรถยนต์ ดึงเม็ดเงินจากอุตสาหกรรมอื่นให้ลดลงไปหรือไม่อย่างเช่นอสังหาฯ) รัฐคงจะคิดว่าจะเก็บแวทได้ในอีกหลายๆรอบ ซึ่งถ้าเป็นตามนี้ก็คุ้มในแง่ตัวเงิน แต่ถ้ายอดผลิตเพิ่มมาจากปกติไม่มาก รัฐก็เสียภาษี(งบประมาณ)ไปฟรีๆ ส่วนตัวผมมองว่าเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ ถ้ากลัวผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ก็ต้องหาทางป้องกันไว้ด้วยมาตราการหรือนโยบายอะไรที่เห็นว่าจะช่วยลดผลกระทบให้ได้อย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม   ด้วยงบประมาณจากผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นมานั่นแหละ ก่อนจะนำไปใช้ทางอื่น ก็ควรจะแก้ปัญหาจากตัวมันให้เรียบร้อยก่อน ไม่ควรหลงระเริงจนลืมผลกระทบเหมือนโครงการทั่วๆไป สำหรับผมโครงการนี้ถ้าเป็นการกระตุ้นเศรษกิจในระยะสั้นๆ ในภาวะที่เศรษกิจโลกอยู่ในช่วงถดถอย ก็ไม่เลวเกินไปนัก  สำหรับตัวบุคคลนั้นมันแล้วแต่ว่าใครจะเลือกและใช้โอกาสนี้ไปอย่างไร แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:47:48 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:47:42 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:43:11 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:43:02 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:40:45 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:39:18 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:38:54 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:38:11 จากคุณ : ประภาคารเก่า เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:08:35

ความคิดเห็นที่ 55 คนที่ด่า ถ้ามีรถแน่จริง ก็อย่าใช้รถนะ จากคุณ : Triforce เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:12:38

ความคิดเห็นที่ 56 มาอีกแระ พวกชอบว่าคนคิดต่างว่า แน่จริงก็ บร่า ๆ ๆ .... แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:19:26 จากคุณ : ไอไอ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:17:55

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านไปอ่านมา บางความเห็น ลากไปเรื่องนู้นเรื่องนี้ ซะงั้น รักจนหน้ามืด - -'' จากคุณ : Exzion เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:31:57

ความคิดเห็นที่ 58 แหะ แหะ ดราม่าจนได้ นึกว่าอยู่ห้องราชดำเนิน ผมว่า อย่างน้อย คนที่เค้ามีความจำเป็นต้องใช้รถ เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว เช่นคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ปกติ ต้องซ้อนสาม พ่อแม่ลูก ถ้าได้มีรถยนต์ราคาถูกลงมา ก็ช่วยให้คุณภาพชีวิตของเค้าดีขึ้นนะครับ มองยังไง ก็ยังเห็นประโยชน์ เห็นประโยชน์มากกว่าเอาเงินไปจ้างฝรั่งมาฟันธงว่า.......... ต้องชั่งกิโลไข่นะยู ไข่ถึงจะถูกลง จากคุณ : chomai เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:33:19

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่เกี่ยวกับรถคันแรกนะครับแต่สงสัยเหมือนผมมั้ยครับทำไมกรอบความคิดคนไทยถึงชอบผูกกับประเทศพัฒนาแล้วจังเลย ถ้าเราไม่คิดทางใหม่เราก็ได้แต่ด้อยพัฒนาต่อไป เมกา ยุโรป เค้าไม่พัฒนาเหรอครับเค้าถึงวิกฤตกันอยู่ตอนนี้ ถ้าจะทำตามเค้าจริงๆหาพรรคไหนชูนโยบาย สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลีย สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงทั่วประเทศสร้าง ขนส่งมวลชนชั้นนำ ประกาศเก็บภาษีเพิ่มให้เท่าเค้านะ จะยอมมั้ย อยากรู้ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:49:17 จากคุณ : เด็กตาดำๆ (Silversnow) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:47:28

ความคิดเห็นที่ 60 ฟุตบอลไทยแพ้ฝรั่ง ไม่ได้แพ้สิงคโปร์ ไม่ต้องเสียใจครับ เกี่ยวกันไหมเนี่ย แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 11:58:08 จากคุณ : ประภาคารเก่า เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:53:39

ความคิดเห็นที่ 61 แว่วๆว่าแวทอาจจะขึ้นนะ ประมาณ11% แถวๆนี้ ไม่นานเกินรอ จากคุณ : ประภาคารเก่า เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:54:03

ความคิดเห็นที่ 62 เฮ้อ คนที่บอกว่าเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมน่ะครับ ถามว่านโยบายนี้ ออกตอนไหน แล้วน้ำท่วมตอนไหน อะไรมาก่อนครับ มันก็ข้ออ้างของนักการเมืองล่ะครับ จากคุณ : Little_MD เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 12:11:09

ความคิดเห็นที่ 63 คนที่มีเงินฝากเยอะๆ แต่ไม่คิดจะซื้ออะไรก็ช่วยๆซื้อรถหน่อยเถอะครับ หลายๆคันก็ได้  ซื้อแล้วห่อไว้ขายตอนภาษีขึ้น ส่วนคนที่มีความจำเป็นต้องใช้รถ แต่ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว ก็พิจารณาดีๆเองครับ ส่วนคนที่ไม่จำเป็นต้องใช้รถแล้วก็ชักหน้าไม่ถึงหลังด้วย แต่อยากซื้อรถ  ก็คุยกับไฟแนนซ์เอาครับ จากคุณ : ประภาคารเก่า เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 12:49:13

ความคิดเห็นที่ 64 แหม ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี่  หรอก เขียน สั้นๆ ตรงๆ ไปเลยสิ ว่า ไม่ชอบเพื่อไทย  รัก ประชาธิปปัตย์    จบ............... ถามหน่อย ไอ้เช็ค ช่วยชาติ 2000 บาท นี่ มันเอาหัวอะไรคิด แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 12:54:16 จากคุณ : ก้ามปูจอมพลัง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 12:53:20

ความคิดเห็นที่ 65 ความเห็น 8 ปัจจุบันเวลาไปไหนมาไหนทำไงครับ จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:28:57

ความคิดเห็นที่ 66 ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นคอมเม้นท์แบบในหัวกระทู้จริง กรุณาเอาภาษาญี่ปุ่นมาลงด้วยครับ ผมพออ่านได้ อยากลองอ่านต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:33:26

ความคิดเห็นที่ 67 ความเห็น 29 เวลาไปไหนมาไหนคุณก็เดินตามถนน คุณก็ขี้ครอก ตามคำด่าของคุณ จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:43:05

ความคิดเห็นที่ 68 ความเห็น 25 ปัจจุบันเวลาไปไหนมาไหนคุณทำอย่างไรครับ ขับรถไป หรือ นั่งรถเมล์หรืออะไร ถ้าคุณขับรถไป คุณนั่นแหละตัวการทำให้รถติด ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นอีก SAD จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:46:37

ความคิดเห็นที่ 70 ความเห็น 24 ครับ อ่านความเห็น 23 หรือยัง จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:50:42

ความคิดเห็นที่ 71 เบื่อมาก เวลาที่บอกว่าไม่ชอบรัฐบาลหรือตระกูลนี้เป็นต้องโดนจัดประเภทให้อยู่ บางทีก็ยัดเยียดให่เป็นแมลงสาป บอกไม่ใช่ก็ว่าเป็นสลิ่ม เป็นฯลฯ แล้วแต่จะสรรหา คงต้องให้โกหกว่าชอบประชานิยมลูกกวาดด้วยมั๊งครับ ถึงจะพอใจ จากคุณ : blueart11 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 14:47:53

ความคิดเห็นที่ 72 แค่มุมมองของญี่ปุ่นคนหนึ่งพูดในเรื่องหนึ่ง. อย่าทำเป็นตุ๊กแกเลยดีซะอีกจะได้รู้จักตัวเรามากกว่าที่จะตักน้ำใส่กระโหลกเสียอีก จากคุณ : สัมภเวสี (SomePrivacy) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 14:49:33

ความคิดเห็นที่ 74 นั่นสิครับคุณก้ามปูจอมพลัง ไอ้เช็คช่วยชาติสองพันบาท นั่นเอาอะไรคิดนะ จากคุณ : Little_MD เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 17:51:50

ความคิดเห็นที่ 75 รู้รึเปล่า  รถยนต์ ในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อเมริกา หลายๆรุ่น ราคาถูก หรือ เท่าๆ กับเมืองไทย แต่รายได้คนของเขามากกว่าเราเยอะ การจะซื้อรถสักคัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสำหรับ ประเทศพวก ฝรั่ง จากคุณ : AKB-SKE เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 18:07:51

ความคิดเห็นที่ 76 จากเฟสค่ายยพรรคฟ้า จบนะ จากคุณ : เขียนบนดาวอังคาร (sace22) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 21:25:27

ความคิดเห็นที่ 77 ไม่รู้นโยบาย รู้แต่ ตรูต้องตื่นเช้าขึ้น และ กลับบ้านช้าลง เพราะ รถแม่ม เยอะ กว่า ถนน จากคุณ : C_WIN เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 23:57:47

ความคิดเห็นที่ 78 ลองเอาไปโพสห้องรัชดาสิครับ รับรองสนุก มันเป็นเหมือนราชดำเนินกลาย ๆ นี่เอง นักเลงคีบอร์ดนี่มันเยอะจริง ๆ จากคุณ : 2b-rich เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 01:20:07

ความคิดเห็นที่ 79 ความเห็น 77 ครับ ไปทำงาน และกลับบ้านยังไงครับ ขับรถไปหรือนั่งรถเมล์ครับ จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 07:57:39

ความคิดเห็นที่ 80 งานนี้คนญี่ปุ่นเป็นห่วงคนไทย งานต่อไปชาวนาแม็กอาจจะมาเป็นห่วงชาวโลก 555 จากคุณ : FisherBoy เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 11:11:36

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องรถคันแรก อีกสองปีก็รู้ผลแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่อ่านความเห็นบางความเห็นว่าอภิสิทธิ์เก็บกักน้ำมาปล่อยรบ ยิ่งลักษณ์ เอามาให้ดูว่าเขาสรุปว่ามีคนทำกราฟปลอมมาด่าอภิสิทธิ์(เขาสรุปกันแล้วว่าอภิสิทธิ์ไม่มีความผิด คนยกกราฟปลอมมาก็เงิบไปแล้วด้วยหาเอาเองว่าใครยกเรื่องนี้ในสภา) เดี๋ยวก็มีคนบอกว่าคห เราลิ่วล้อประชาธิปปัตย์ สลิ่ม แมลงสาป  เพลีย! จากคุณ : lengafterwork เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 11:22:05

ความคิดเห็นที่ 82 หุ้นแบตเตอรี่ทำไมไม่ซื้อเก็บกัน BAT-3K เหลือ 65 บาท ซื้อๆไปเหอะ อีกหน่อยรถพวกนี้ก็ต้องเปลี่ยนแบตกัน จากคุณ : apivus เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 11:23:20

ความคิดเห็นที่ 83 แค่นี้ถนนก็ไม่พอวิ่งอยู่ละ รถก็ติด ควันพิษก็เยอะ น่าเบื่อ จากคุณ : Artistex เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 15:57:27