11:39 24/12/2012 วิเคราะห์หุ้นรายวัน : BAY : บมจ.เคจีไอ
24 ธ.ค.--บมจ.เคจีไอ Distributor - Bisnews AFE
บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา* พื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง "ซื้อ" ธนินี สถิรเรืองชัย ราคาปัจจุบัน (บ.) 32.0 66.2658.8888 Ext.8851 ราคาเป้าหมาย (บ.) 42.7 thaninees@kgi.co.th Upside (%) 33.4
สรุปประเด็นสำคัญ และข่าวล่าสุด * ผลประกอบการปี2555: ดีกว่าที่ธนาคารคาด * เป้าหมายปี 2556: คาดว่าจะดีขึ้นในทุกด้าน * ธุรกิจดำเนินไปตามปกติ ไม่ว่าจะมี หรือไม่มี GE เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ GE จะกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น * คงคำแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 42.70 บาท
พื้นฐานแข็งแกร่งแต่ราคาหุ้นยังคงถูกกดดัน หลังจากการพูดคุยกับผู้บริหารของ BAY เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เรายังคงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับพื้น ฐาน และการดำเนินงานของธนาคาร พร้อมทั้งคงคำแนะนำซื้อ BAY* โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 42.70 บาท ซึ่งอิงจาก PBV ปี 2556 ที่ 2.0x แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าประเด็นความไม่แน่นอนว่า GE Capital (GE) จะขายหุ้นที่เหลืออีก 25% ของธนาคารออกมาอีกหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนภายในไตร มาสที่ 1/56 จะยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันราคาหุ้นของ BAY สำหรับการประชุมรอบนี้ ผู้บริหารได้เล่าถึงแนว โน้มผลประกอบการปี 2555 และกลยุทธ์ปี 2556 ของ CEO และกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ในขณะที่ทาง ธนาคารได้เปิดเผยเป้าหมายอย่างไม่เป็นทางการสำหรับปี 2556 และอธิบายถึงประเด็นอื่นๆ ที่ตลาดมี ความกังวลในกรณีที่ไม่มี GE เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว ทั้งนี้เราเชื่อว่าพื้นฐานระยะยาวของ BAY ยังคงแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี GE และเราเชื่อว่า BAY จะเป็นหนึ่งในธนาคารไม่กี่แห่งที่มีพื้นฐานที่พร้อมสำหรับอุปสงค์ สินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2556
ผลประกอบการปี2555: ดีกว่าที่คาด สินเชื่อของธนาคารโต 13% YTD และคาดว่าจะโตถึง 15% ในปี 2555 ซึ่งสูงกว่าเป้าของ ธนาคารที่ตั้งไว้ที่ 11% โดยสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (HP) เป็นกลุ่มที่มี การเติบโตสูงและเกินกว่าเป้าการเติบโตที่ธนาคารตั้งเอาไว้ ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อ SME ก็ ขยายตัวตามที่ธนาคารคาดไว้ สำหรับทางด้านของเงินฝาก ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ CASA ซึ่ง เป็นผลมาจากความสำเร็จของการออกผลิตภัณฑ์ทางด้านเงินฝากของธนาคาร ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) น่าจะยังคงอยู่ในช่วง 4.3-4.5% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ในขณะที่อัตราการเติบโตของรายได้ค่า ธรรมเนียมน่าจะสูงถึง 16% ในปี 2555 ส่วน NPL น่าจะลดลงต่อเนื่องเหลือ 2.5% เมื่อสิ้นปี 2555 จาก 3.4% เมื่อสิ้นปี 2554 จากการขาย NPL และการเพิ่มขึ้นของ NPL ใหม่ในอัตราที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 0.8% เนื่องจากธนาคารรักษา underwriting standard ที่เข้มงวดสำหรับการปล่อยสินเชื่อรายย่อยทุก ประเภท ทั้งสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อเงินหมุน ในขณะที่อัตราส่วน coverage ratio ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและน่าจะยืนเหนือระดับ 140% ในปลายปี 2555 จาก 106% เมื่อสิ้นไตรมาสที่ 1/55 ส่วนต้นทุนในการปล่อยสินเชื่อคาดว่าจะสูงเกินกว่าเป้าของธนาคารที่ตั้งเอาไว้ที่ 140bps เนื่องจากการรวมพอร์ตสินเชื่อรายย่อยของ HSBC เข้ามาอยู่ในงบของธนาคารตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/55
เป้าหมายปี 2556: คาดว่าจะดีขึ้นในทุกด้าน ผู้บริหารได้เปิดเผยถึงเป้าหมายอย่างไม่เป็นทางการบางตัวสำหรับปี 2556 ของธนาคารในการ ประชุมรอบนี้ โดย BAY มีเป้าหมายที่จะปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของ สินเชื่อในปี 2556 เอาไว้ที่ 12% ซึ่งจะมุ่งขยายสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อ SME ในขณะที่ยังคงรักษาฐานที่ แข็งแกร่งในกลุ่มสินเชื่อรายย่อยเอาไว้ ทั้งนี้ทางธนาคารเชื่อว่า NIM น่าจะยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3% เนื่องจากธนาคารยังตั้งเป้าที่จะระดมเงินฝากพวก CASA เพื่อดึงต้นทุนทางการเงินให้ต่ำลงมา ในขณะที่ ธนาคารตั้งเป้าที่จะรักษาระดับ NPL ให้อยู่ที่ 2.5% ในปี 2556 ส่วนทางด้านของรายได้ค่าธรรมเนียม ธนาคารคาดว่าน่าจะโตในอัตราที่ใกล้เคียงกับปี 2555 ที่ 16% ในขณะที่อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้น่าจะลด ลงต่อเนื่องจาก 48-49% เหลือ 45% ในระยะยาว ส่วนต้นทุนของสินเชื่อก็น่าจะลดลงเหลือประมาณ 130bps ในปี 2556
ธุรกิจดำเนินไปตามปกติ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี GE เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ BAY ในปัจจุบันค่อนข้างจะแยกตัวเป็นเอกเทศจาก GE ไม่เหมือนกับที่ตลาดเข้าใจ โดยระบบบัตร เครดิตได้เปลี่ยนจากระบบของออสเตรเลียมาเป็นระบบของ BAY เองในประเทศไทยแล้ว ในขณะที่ พนักงานในส่วนปฏิบัติการทั้งหมดในปัจจุบันเป็นพนักงานของ BAY ไม่ใช่พนักงานของ GE เรามีมุมมองเช่น เดียวกับผู้บริหารของ BAY ว่า GE อยู่กับ BAY มานานพอที่จะวางพื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านธุรกิจรายย่อย ให้กับ BAY และในปัจจุบัน BAY ก็น่าจะสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติด้วยตัวเองได้ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี GE เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งนี้ธนาคารน่าจะมองหาพันธมิตรทางกลยุทธ์รายใหม่เพื่อมาแทน GE และเราเชื่อว่าไม่ว่า ใครก็ตามที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรรายใหม่ก็น่าจะนำพาโอกาสใหม่ๆ มาให้กับ BAY นอกจากนี้ผู้บริหารยังได้ เล่าถึงกลยุทธ์ของธนาคารในระยะต่อไปภายใต้การนำของ CEO และกรรมการผู้จัดการคนใหม่ โดย BAY จะยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้สโลแกน 'ทำให้ชีวิตง่าย' ต่อไป และใช้แบรนด์ 'กรุงศรีฯ' รุกไปในทุกๆกลุ่ม ธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารจะมุ่งเน้นไปที่ e-banking (ตามอัตราการเติบโตของ smart phone) และตลาด under-bank เช่น SME(R) ซึ่งมีขนาดของสินเชื่อต่ำกว่า 12 ล้านบาท
คงคำแนะนำ ซื้อ BAY โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 42.70 บาท โดยทางพื้นฐานแล้ว เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ BAY โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 42.70 บาทอิงจาก PBV ปี 2556 ที่ 2.0x แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะยังคงปรับตัวต่ำกว่าหุ้นอื่นในกลุ่มจนกว่าจะ มีความชัดเจนในประเด็นที่ว่า GE จะขายหุ้นที่เหลือออกมาหรือไม่ และจะขายโดยวิธีการใด
จากคุณ |
:
kyujong
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ธ.ค. 55 12:24:21
|
|
|
|