| 
ภาพด้านบนแสดงตัวอย่างให้เห็นถึง %Win ตามระยะเวลาการถือครองหุ้น (Holding Period) จากระบบ Turtle System 2 Simplify ซึ่งถือเป็นตัวแทนของระบบ Trend Following ในระยะกลาง
 เราจะเห็นได้ว่าในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่วันหลังจากที่เกิดสัญญาณซื้อขึ้นมานั้น อัตราส่วน %Win จะยังไม่สูงเท่าไหร่นักซึ่งอยู่ที่ราว 40% (หรือพูดง่ายๆก็คือสัญญาณกว่าครึ่งจะขาดทุนอยู่) จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปราว 13 วัน %Win จะเริ่มสูงขึ้นเกินกว่า 50% เป็นครั้งแรกและจะค่อยๆทรงตัวอยู่ราวๆนั้นเมื่อ Holding Period ยาวขึ้นไป และแน่นอนว่าระยะเวลาที่สัญญาณจากระบบนี้จะเริ่มแสดงประสิทธิภาพของมันก็คือตั้งแต่ราวๆ 20 วันขึ้นไปนั่นเอง เมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้ว มันก็คงจะเป็นเรื่องงี่เง่ามากๆหากคุณจะยังคงนั่งจ้องหุ้นลุ้นให้มันเป็นกำไรตั้งแต่วันแรกๆที่เข้าซื้อหุ้นไปจริงไหมครับ ^^
 
 * เมื่อเห็นข้อมูลจากกราฟนี้แล้วคุณจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเหตุใดเมื่อคุณเข้าซื้อหุ้นตามระบบ Trend Following คุณจึงมักจะรู้สึกว่าซื้อทีไรติดดอยทุกที (โดยเฉพาะช่วงแรกๆหลังจากเข้าซื้อ) ซึ่งนั่นก็เพราะสัญญาณการ Breakout มักจะต้องเจอกับการแกว่งตัวของราคาจนร่วงลงมาในช่วงเริ่มต้นก่อนที่จะค่อยๆวิ่งไต่ไปตามแนวโน้มของมันอีกครั้ง
 
 ** การตั้งจุดขายหรือ Stop Out จึงควรจะสัมพันธ์กับช่วงของ Holding Period ที่ให้ผลกำไรดีที่สุด มิเช่นนั้นหุ้นของคุณจะต้องหลุดมือไปโดยไม่จำเป็นครั้งแล้วครั้งเล่า หรือแย่ที่สุดคือระบบจะขาดทุนเพียงเพราะเราตัดขาดทุนเร็วเกินไป
 
 แม้ระบบที่ดีก็อาจไม่สามารถทำกำไรได้ตั้งแต่ช่วงแรก
 
 ว่ากันว่าโดยเฉลี่ยแล้ว นักเล่นหุ้นส่วนใหญ่มักทนการขาดทุนจากระบบการลงทุนได้อย่างมากก็เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น ความอดทนที่ต่ำมากๆเช่นนี้ถือเป็นลักษณะพิเศษของแมงเม่าโดยทั่วๆไปในตลาดมาอย่างยาวนาน ซึ่งพฤติกรรมที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากการขาดทุนติดๆกันเพียงไม่กี่ครั้งหรือไม่กี่เดือนก็คือการพยายามหาแนวคิดใหม่ๆหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของระบบการลงทุนไปๆมาๆ จนในที่สุดแล้วเมื่อระบบถึงช่วงเวลาทำกำไรของพวกมัน 
 พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว!
 
				 
				
					| จากคุณ | : 
ไร้แก่นสาร   |  
					| เขียนเมื่อ | : 
24 ธ.ค. 55 23:44:14   |  
					|  |  |  |