ใครได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างภาษี
|
|
วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2012 เวลา 23:18 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ การเงิน Financial - คอลัมน์ : การเงิน-ตลาดทุน
มติประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ได้อนุมัติการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีผลบังคับในปีภาษี 2556 ที่จะไปยื่นรายการในปี 2557
โดยโครงสร้างอัตราภาษีใหม่ได้กำหนดให้ถี่ขึ้นเป็น 7 อัตรา กำหนดสูงสุดที่อัตราร้อยละ 35 สำหรับเงินได้สุทธิตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป เทียบจากอัตราปัจจุบันที่ใช้อยู่ที่ร้อยละ 37 ขณะที่อัตราต่ำสุดกำหนดที่ร้อยละ 5 สำหรับการคำนวณเงินได้สุทธิตั้งแต่ 0-300,000 บาท เทียบอัตราปัจจุบันที่ร้อยละ 5 บนฐานเงินรายได้สุทธิที่ 0-100,000 บาท ( ปัจจุบันกฎหมายยังยกเว้นภาษี สำหรับเงินได้สุทธิต่ำกว่า 150,000 บาท )
ผลของการปรับโครงภาษีเที่ยวนี้ ต้องถือว่าประชาชนผู้เสียภาษีทั่วประเทศ 10 ล้านคนได้ประโยชน์กันทั่วหน้า แลกกับการที่รัฐยอมหั่นรายได้เม็ดเงินภาษีลงถึง 27,000 ล้านบาท โดยหากมองตามจำนวนผู้เสียภาษี กลุ่มผู้มีรายได้สุทธิตั้งแต่ 1 บาท – 1 ล้านบาท ซึ่งเสียอัตราภาษีใหม่ร้อยละ 5- 20 จะได้ประโยชน์รวมกว่า 9 ล้านคน และเป็นผู้เสียภาษีให้รัฐสัดส่วนรวมกันร้อยละ 32.5
ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้สุทธิ 1 ล้านบาทขึ้นไป ได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราภาษีราว 90,000 คน- 1 แสนคน แต่เป็นกลุ่มที่เสียภาษีให้รัฐรวมกันเป็นสัดส่วน ร้อยละ 68
นอกจากนี้เมื่อแยกเฉพาะผู้เสียภาษีที่มีรายได้ระดับ 4 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราภาษีจากร้อยละ 37 เป็นร้อยละ 35 ซึ่งทั้งระบบมีประมาณ 20,000 กว่าคน แต่เป็นผู้สร้างรายได้เข้ารัฐจากเม็ดเงินภาษีถึง ร้อยละ 37.56 เมื่อเทียบจากฐานรายได้ภาษีบุคคลธรรมดาทั้งระบบในปีงบ 2555 ที่ 276,091 ล้านบาท
ส่วนผลประโยชน์จากเงินภาษีที่จ่ายน้อยลง "ฐานเศรษฐกิจ " คำนวณจากผู้มีรายได้สุทธิทั้ง 7 กลุ่ม คือรายได้สุทธิ 300,000 บาท , 500,000 บาท ,750,000 บาท , 1 ล้านบาท , 2 ล้านบาท , 4 ล้านบาท และ 8 ล้านบาท ตามลำดับ ตามโครงสร้างภาษีใหม่ พบว่าภาษีที่จ่ายจะลดลงเมื่อเทียบกับเงินได้สุทธิ อยู่ระหว่าง ร้อยละ 1.50 -3.50 ดังนี้ ร้อยละ 2.5 , ร้อยละ 1.50 ,ร้อยละ 2.66 ,ร้อยละ 2.00 ,ร้อยละ 3.50 ,ร้อยละ 1.75 และร้อยละ 1.88 ตามลำดับ
โดยกลุ่มที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือกลุ่มผู้มีรายได้สุทธิ 2 ล้านบาท ภาระภาษีจะลดลงเมื่อเทียบกับรายได้สุทธิถึงร้อยละ 3.50 รองมาคือ กลุ่มรายได้ 750,000 บาท ภาษีลดลงร้อยละ 2.66 และรายได้สุทธิที่ 300,000 บาท ภาษีลดลงร้อยละ 2.5
ในแง่ของการประหยัดภาษีโดยเทียบกับภาระภาษีเดิมที่เคยจ่าย ใน 7 กลุ่มรายได้ข้างต้น จะอยู่ที่ร้อยละ 50 , 21.43 , 23.55 , 14.81 , 16.09 , 6.76 และ 5.96 ตามลำดับ
โดยผู้มีรายได้สุทธิ 300,000 บาท จะประหยัดภาษีลงได้มากสุดถึงร้อยละ 50 รองมาคือผู้มีรายได้ 750,000 บาท ประหยัดถึงร้อยละ 23.55 ขณะที่กลุ่มเศรษฐีระดับรายได้ 8 ล้านบาทต่อปีกลับได้ประโยชน์น้อยสุดคือร้อยละ 5.96 เท่านั้น
สอดคล้องกับการประเมินของกรมสรรพากร นายสาธิต รังคสิริ อธิบดี กล่าวกับ ฐานเศรษฐกิจ ว่า จากการคำนวณจากแบบภาษีปี 2554 จริง พบว่า กลุ่มเงินได้สุทธิ 150,001-300,000 บาทต่อปี อัตราภาษีเฉลี่ยลดลงมากที่สุดถึง 50.53% รองลงมาตามลำดับ คือ กลุ่มเงินได้สุทธิ 300,001-500,000 บาทต่อปี ลดลง 31.91% ,กลุ่มเงินได้สุทธิ 500,001-750,000 บาทต่อปี ลดลง 22.74% ,กลุ่มเงินได้สุทธิ 750,001-1,000,000 บาทต่อปี ลดลง 18.71% , กลุ่มเงินได้สุทธิ 1,000,001-2,000,000 บาทต่อปี ลดลง 15.61% ,กลุ่มเงินได้สุทธิ 2,000,001 – 4,000,000 บาทต่อปี ลดลง 10.72% และกลุ่มเงินได้สุทธิ 4,000,001 บาทต่อปีขึ้นไป ลดลง 5.98% หากรวมเงินได้สุทธิทั้งหมด คิดเป็นอัตราภาษีเฉลี่ยที่ลดลง 15.89%
อย่างไรก็ดี "ฐานเศรษฐกิจ" ตั้งข้อสังเกตว่าหากรัฐยังไม่มีการปรับเกณฑ์ค่าลดหย่อนภาษี ซึ่งปัจจุบันมีความซ้ำซ้อนและมีมากถึง 23 รายการ รวมแล้วเป็นเม็ดเงินที่จะหักลดหย่อนได้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท อาทิเบี้ยประกันชีวิตรวมบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้ถึง 300,000 บาท ,การลงทุนใน กบข./PVD/RMF ได้ 500,000 บาท, LTF 500,000 บาท ,ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านลดหย่อนถึง 100,000 บาท ,ค่าลดหย่อนบุพการี ( พ่อแม่) – บุพการีคู่สมรส รวม 120,000 บาท ฯลฯ
การจะมองกันว่า การปรับโครงสร้างภาษีครั้งนี้ ไม่ต่างกับ อุ้มคนรวย " ก็ไม่ใช่คำกล่าวที่ผิดความจริง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีฐานภาษีในอัตราร้อยละ 35 หรือมีรายได้ระดับ 4 ล้านบาทขึ้นไป ยกตัวอย่างผู้มีรายได้ที่ 4 ล้านบาท ต่อปี อัตราภาษีเดิม ( ร้อยละ 37 ) จะต้องเสียภาษีราว 1.035 ล้านบาท ขณะที่อัตราใหม่เสียภาษีอยู่ที่ 965,000 บาท หรือประหยัดภาษีลงกว่า 70,000 บาท แต่หากผู้เสียภาษีกลุ่มนี้ใช้สิทธิหักค่าลดหย่อน อัตราภาษีใหม่จะจ่ายถูกมากกว่า 965,000 บาท หรือระดับ 800,000 กว่าบาทเท่านั้น และคงจะผิดหลักการของภาครัฐ ที่มักจะประกาศปาว ๆว่า เป็นการปรับ เพื่อกระจายรายได้ สร้างความเป็นธรรม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,803 วันที่ 23-26 ธันวาคม พ.ศ. 2555
จากคุณ |
:
Wild Rabbit
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ธ.ค. 55 13:03:50
|
|
|
|