 |
LTF Max 15%, แต่ไม่เกิน 5 แสน และต้องถือไว้ 5 ปีปฎิทิน
การผิดเงื่อนไข LTF
ขายก่อน 5 ปีปฏิทิน ซื้อเกิน max (แม้ว่าจะไม่ได้นำไปใช้สิทธิลดหย่อนทางภาษี)
การขายผิดเงื่อนไขบลจ.จะหัก ณ ที่จ่าย 3% สำหรับผลกำไร แล้วต้องนำไปรวมเป็นรายได้ยื่นคำนวณภาษี (บางบลจ.อาจมีเบี้ยปรับเรื่องถ้าไปรับแคชแบคมา ต้องศึกษาเองนะคะ)
ต้องนำสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับจากการซื้อ คืนให้สรรพากรในเวลาที่กำหนด ส่วนที่ซื้อเกิน (แม้ว่าจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี) ก็ต้องเสียภาษี capital gain นะคะ
สิ่งที่ต้องพึงระวังคือ LTF นับหน่วยลงทุนแบบ FIFO ดังนั้นอาจเกิดการผิดพลาดได้ง่าย หลายๆ บลจ.จึงไม่ให้ขายทางเน็ต เพื่อป้องกันความผิดพลาด แต่บางบลจ.เช่น บัวหลวงทำได้ เราต้องระวังความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นเองค่ะ
ลองอ่านรายละเอียดที่เป็นตัวกฎหมายเองด้วยนะคะ ที่เขียนข้างต้นคืออย่างสรุปย่อค่ะ
http://www.kasikornasset.com/TH/Documents/LTF_Tax_manual.pdf ___________________________________________________________
RMF --Max 15% - เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพและ กบข ./ต้องไม่เกิน 500,000 บาท --ขั้นต่ำ 3 % หรือ 5,000 บาท แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า ปีเว้นปีได้ แต่นับเฉพาะปีที่ลง -- ถือไว้จนอายุ 55 ปีเต็ม "และ" ไม่น้อยกว่า 5 ปี
หากผิดเงื่อนไข -- ผู้ออมเงินจะต้อง คืนภาษีที่ได้รับลดหย่อนในช่วง 5 ปีปฎิทิน ที่ผ่านมา --จะต้อง เสียภาษีเงินได้ในส่วนของผลประโยชน์ที่ได้จากการขายคืน (Capital Gain) ด้วย นอกเหนือจากการคืนภาษีที่ได้รับการยกเว้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเฉพาะกองทุนนั้น ---------------------ขอขอบคุณ บลจ.กสิกรไทยด้วยเช่นกันสำหรับข้อมูลค่ะ
ส่วนเรื่องการลงทุน กอง LTF ลงทุนในหุ้นเป็นหลัก อย่างน้อย 65-100% ส่วน RMF มีหลายนโยบาย เช่นตราสารหนี้ หุ้นล้วนๆ กองผสม กองทอง เป็นต้น
จากคุณ |
:
ต๊อตโตะจัง
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ธ.ค. 55 14:24:09
|
|
|
|
 |