ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีครับหนุ่มๆสาวๆแห่งปิ๊งๆๆๆๆ และผู้ที่กำลังจะมาสมัครเข้าบ้าน และผู้เยี่ยมชมบ้านทั้งหลายครับ ถ้าจะให้กิฟท์แก่ผู้เปิดบ้าน ก็จะสร้างกำลังใจได้เยอะครับ และจะได้รู้ด้วยว่า มีพี่ๆน้องๆท่านใดมาบ้างแล้วหรือไม่ครับ ข่าวสารและข้อมูลทั้งมีสาระและไม่มีสาระ นำมาเพื่อคิดพิจารณาและวิเคราะห์ ไปด้วยอารมณ์ดีๆด้วยกันนะครับ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 07:32:00

ความคิดเห็นที่ 2 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่ายอดขายในช่วงเทศกาลวันหยุดของสหรัฐและราคาบ้านในสหรัฐชะลอตัว นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 24.49 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 13,114.59 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.83 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 1,419.83 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 22.44 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 2,990.16 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เผยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงซบเซา ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นจากยอดขายช่วงเทศกาลวันหยุดที่ชะลอตัวลงของสหรัฐ โดยมาสเตอร์การ์ด แอดไวเซอร์ส สเปนดิ้งพัลส์เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในระหว่างวันที่ 28 ต.ค.จนถึง 24 ธ.ค. ปรับตัวขึ้น 0.7% ขณะที่ International Council of Shopping Centers (ICSC) และโกลด์แมน แซคส์ เผยดัชนียอดขายของห้างค้าปลีกในสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.7% ในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 22 ธ.ค. เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า แต่เมื่อเทียบรายปีพลว่า อัตราการขยายตัวชะลอลงแตะ 3.2% จากที่ขยายตัว 3.5% ในปีที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง หรือภาวะที่มาตรการลดการใช้จ่ายและการขึ้นภาษีวงเงินรวม 6 แสนล้านดอลลาร์จะผลบังคับใช้พร้อมกันโดยอัตโนมัติในต้นปีหน้า ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ประกาศยกเลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย และเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันเพื่อหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังกับสภาคองเกรส หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง โดยหุ้นโคช และหุ้นราล์ฟ ลอเรน ร่วงลง 5.91% และ 3.31% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นเออร์แบน เอาท์ฟิทเตอร์ ดิ่งลง 2.72% หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ปรับตัวลง 0.84% แม้มีรายงานว่า ซิโนเปค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 5 ของจีนจะร่วมมือในการพัฒนาแหล่งสำรองก๊าซในเมืองเสฉวนร่วมกับโคโนโคฟิลิปส์ในอีก 2 ปีข้างหน้าก็ตาม จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 07:44:34

ความคิดเห็นที่ 3 KR Daily Update : ประเด็นเด่นวันนี้     ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน ธ.ค. 2555 ปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน แต่ยังสะท้อนว่าผู้บริโภคมีทัศนคติเชิงลบมากกว่าเชิงบวก โดยดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 99.0 จุด จากระดับ 98.0 จุดในเดือน พ.ย. 2555 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเกาหลีใต้ในเดือนธ.ค.ยังคงอยู่ในภาวะที่ไม่ฟื้นตัวมากนัก แม้ได้รับปัจจัยบวกจากการที่ ปาร์ค กึน เฮ ว่าที่ผู้นำใหม่ได้ให้สัญญาณว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 20 ล้านล้านวอนในปี 2556 เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมีความกังวลถึงภาคการส่งออกที่ยังมีแนวโน้มซบเซา และอาจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วนักในระยะข้างหน้า ทั้งนี้ มองไปในปี 2556 ภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจเกาหลีใต้น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่ยังมีความอ่อนไหวอยู่มาก จากผลกระทบของความไม่แน่นอนในการหาทางออกจากปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ และปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ดังสะท้อนได้จากการที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เมื่อเดือน ต.ค. 2555 ที่ผ่านมา ได้ปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตของจีดีพีปี 2556 ลงมาที่ร้อยละ 3.2 (YoY) จากร้อยละ 3.8 (YoY) ในการประมาณการครั้งก่อน     กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนพ.ย. 2555 อยู่ที่ 19,556.91 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวร้อยละ 26.86 (YoY) จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปัจจัยที่มีผลฉุดรั้งมูลค่าการส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจยุโรปและการลุกลามของปัญหาหนี้สาธารณะ รวมถึงสถานการณ์ในภาคอุตสาหกรรมบางแห่งที่ยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวหลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมหนักช่วงปลายปี 2554 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 21,010.13 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.53 (YoY) ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1,453.22 ล้านดอลลาร์ฯ  สำหรับช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย. 2555) การส่งออกมีมูลค่า  211,417.4 ล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.32 (YoY) ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 227,123.4 ล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.55 (YoY) ส่งผลให้มียอดขาดดุลการค้า 15,706.0 ล้านดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า การส่งออกในปี 2555 จะขยายตัวได้ร้อยละ 4.17 และตั้งเป้าหมายการเติบโตของการส่งออกในปี 2556 ที่ร้อยละ 8.0-9.0 หรือคิดเป็นมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ฯ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ระดับมูลค่าส่งออกของไทยเดือนพ.ย. 2555 ยังคงถูกกดดันด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนของประเทศคู่ค้าหลัก ซึ่งทำให้การส่งออกในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2555 ไม่อาจฉายภาพการฟื้นตัวที่มั่นคงได้ แม้ว่าอานิสงส์จากฐานเปรียบเทียบที่ต่ำจะส่งผลให้การส่งออกของไทยสามารถบันทึกอัตราการขยายตัวได้ในระดับค่อนข้างสูง และประคองภาพรวมการส่งออกในปี 2555 ให้ขยายตัวได้ใกล้เคียงร้อยละ 4.0 อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยน่าจะเข้าสู่ช่วงการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงต้นปี 2556 หากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกไม่พลิกผันจนกระทบแนวโน้มทั้งปี 2556 ให้ต่างไปจากประมาณการเดิมมากนัก ขณะที่ ราคาสินค้าส่งออกบางรายการน่าจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของทิศทางราคาโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และเมื่อผนวกกับผลของฐานการส่งออกที่ขยายตัวค่อนข้างต่ำในปี 2555 ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปัจจัยหนุนดังกล่าวน่าจะช่วยผลักดันให้การส่งออกของไทย สามารถบันทึกอัตราการขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 10-15 โดยมีค่ากลางกรณีพื้นฐานที่ร้อยละ 12.5 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 07:49:12

ความคิดเห็นที่ 4 ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ จะยกเลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย โดยจะเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันในวันพุธนี้ตามเวลาในสหรัฐ เพื่อหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังกับสภาคองเกรส -- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ท่ามกลางความวิตกต่อเนื่องเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ -- สภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นมีมติเลือกนายชินโสะ อาเบะ ผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นในวันนี้ สภาผู้แทนฯมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากให้นายอาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 7 ในรอบ 6 ปีของญี่ปุ่น หลังนายอาเบะได้รับชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. -- โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยในวันนี้ว่า ทางบริษัทกำหนดเป้าหมายยอดขายทั่วโลกในปี 2556 ไว้ที่ 9.91 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2% จากปีนี้ โตโยต้าเปิดเผยว่า ทางกลุ่มบริษัทวางแผนผลิตรถยนต์ 9.94 ล้านคันทั่วโลกในปีหน้า ซึ่งเกือบเท่ากับยอดผลิตในปีนี้ -- ยามชายฝั่งฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า เมื่อวันพุธ เวลา 7.00 น. ผู้โดยสารจำนวน 5,748 คนยังไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ท่าเรือ 12 แห่งในตอนกลางของประเทศ เนื่องจากผลกระทบจากพายุโซนร้อนอู้คง (ชื่อท้องถิ่นคือ ควินตา) โดยผู้โดยสารส่วนใหญ่ประมาณ 2,550 คนติดอยู่ที่ท่าเรือในเมืองมะนิลา 939 คนในเมืองเซบูและ 454 คน ติดอยู่ในเมืองมาซิน เกาะเลย์เต เป็นต้น จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 07:50:12

ความคิดเห็นที่ 5 Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง 27 ธันวาคม 2555 General News ------------------ • นักลงทุนทั่วโลก คาดการณ์ว่า สหรัฐจะประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาFiscal cliff ถึงแม้ว่าการเจรจาได้หยุดชะงักลงในขณะนี้ก็ตาม ทั้งนี้ โอบามา ได้ยกเลิกการพักผ่อนในฮาวายและเดินทางกลับสู่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff กับสภาคองเกรส • สมาคมธนาคารจีน ชี้ว่า ผู้บริหารแธ.พาณิชย์ยังเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนนอนาคตที่สำคัญคือนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการปฏิรูปเชิงระบบ นอกจากนี้ อัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะต่ำกว่า 1% ในอีก 3 ปีข้างหน้า และสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) จะอยู่เหนือระดับ 10% ในสิ้นปีนี้ • การควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนจะยังดำเนินต่อไปจนถึงปีหน้าเพื่อกันไม่ให้เก็งกำไรมากไป แม้ว่านักลงทุนราว 28% จะขาดทุนอย่างมากจากการปรับตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนในปีที่ผ่านมา และมี 3% ที่ขาดทุนมากกว่า 30% • BOJ มีแนวโน้มดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อเนื่อง เช่น การเข้าซื้อสินทรัพย์แบบไม่ระบุวันสิ้นสุดโครงการ ตามแรงกดดันจาก ชินโซ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ต้องการให้ BOJ ดำเนินมาตรการอย่างแข็งกร้าวยิ่งขึ้นในการแก้ไขภาวะเงินฝืด เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ รมว.คลัง จัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ได้หาเสียงไว้ โดยต้องไม่ทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นหลังสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือประกาศว่าอาจลดอันดับความน่าเชื่อเร็วๆนี้ • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยเดือน พ.ย. มีผลผลิตเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน เนื่องมาจากการผลิตเภสัชภัณฑ์เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลง • เวียดนามมีมูลค่าการลงทุนทางตรงจากต่างชาติ (FDI) ปีนี้ลดลง 15.3% มาอยู่ที่ 13 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตมีมูลค่าสูงที่สุด โดยมีสัดส่วนถึง 69.9% ของ FDI ทั้งหมด หรือกว่า 9.1 พันล้านดอลลาร์ และญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามมากที่สุดโดยมีมูลค่า 5.13 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 39.5% ของมูลค่า FDI • บาร์เคลย์ส รีเสิร์ช คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัว 6.3% ในปีหน้าซึ่งเป็นอัตราเดียวกับปีนี้ แต่ยังต่ำกว่าตัวเลขของรัฐบาลที่คาดว่าจะขยายตัว 6.6-6.8% นอกจากนี้ บาร์เคลย์สยังมีมุมมองต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลดลงจาก 3.5% เหลือ 3.3% • ธ.พาณิชย์กัมพูชายังขยายตัวได้ดีในปีนี้จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อและการฝากเงินยังขยายตัวได้สูง โดยยอดปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนมาอยู่ที่ 5.49 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดเงินฝากเพิ่มขึ้น 24% เป็น 6.02 พันล้านดอลลาร์ • คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา (JC) ประกาศใช้ความตกลงการตรวจลงตราเดียว (ACMECS Single Visa) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดิน ทางข้ามแดนระหว่างกันและเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศให้เติบโตต่อเนื่องปีละ 30% • ก.พาณิชย์ คาดว่า การส่งออกของไทยในปี 2556 จะขยายตัว 8-9% แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัวนัก ทำให้ตลาดการส่งออกใหม่ๆ ยังคงมีการเติบโตที่ช้า โดยจะผลักดันภาคเอกชนให้พัฒนาศักยภาพและสร้างฐานการส่งออกให้แข็งแกร่งขึ้น Equity Market ----------------- • SET Index ปิดที่ระดับ 1,382.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.91 จุด หรือ 0.28% มูลค่าการซื้อขาย 24,452.99 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 169.24 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค นักลงทุนยังคงกังวลต่อปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯที่จะรายงานในวันนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าหากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก่อนสิ้นปี อาจทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯเข้าสู่สภาวะถดถอยในช่วงไตรมาส 1/56 Fixed Income Market ----------------------------- • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบที่ระดับ -0.02% ถึง 0.00% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 13 วัน วงเงิน 30,000 ล้านบาท http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39457 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 07:51:27

ความคิดเห็นที่ 6 สรุปข้อมูลการขายชอร์ตของหุ้นไทย ณ วันที่ 26 ธ.ค. 2555 มีรายละเอียดดังนี้ หลักทรัพย์        ปริมาณหุ้นที่          มูลค่าการ  %ปริมาณการขายชอร์ต ขายซอร์ต          ขายชอร์ต  เทียบกับปริมาณการซื้อขาย (หุ้น)            (บาท)     บนกระดานหลัก TPIPL         1,793,000    25,485,030.00        47.05% DCC             150,900     6,790,500.00        32.24% MAKRO             5,000     2,240,000.00         2.44% KBANK            27,500     5,315,500.00         1.22% MCOT              5,000       213,750.00         0.61% INTUCH          122,000     8,410,000.00         0.59% JAS             500,000     2,725,000.00         0.59% BEC               4,000       276,000.00         0.58% PTT               5,000     1,665,000.00         0.33% LH               27,000       258,850.00         0.32% TMB             100,100       186,186.00         0.31% ADVANC            5,000     1,050,000.00         0.24% EGCO                400        57,400.00         0.08% CPALL             4,000       181,000.00         0.02% ที่มา: www.set.or.th ตลาดอนุพันธ์ (TFEX) รายงานสรุปปริมาณการซื้อขาย All Futures โดยแบ่งตามประเภทนักลงทุน ประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ดังนี้ (หน่วย: จำนวนสัญญา) นักลงทุน              ซื้อ       ขาย       สุทธิ สถาบัน            7,910    10,348    -2,438 ต่างชาติ           6,018     5,000     1,018 ในประเทศ        12,485    11,065     1,420 ตลาดอนุพันธ์ (TFEX) รายงานสรุปปริมาณการซื้อขาย Index Futures โดยแบ่งตามประเภทนักลงทุน ประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ดังนี้ (หน่วย: จำนวนสัญญา) นักลงทุน              ซื้อ       ขาย       สุทธิ สถาบัน            2,721     2,419       302 ต่างชาติ           4,235     4,768      -533 ในประเทศ         4,951     4,720       231 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:01:15

ความคิดเห็นที่ 7 สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 43,078 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 39,336 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 91.28% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้  ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,252 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 5.2%  ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 559 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB15DA LB196A และLB155A (รุ่นอายุ 3.0 ปี 6.5 ปี และ 2.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,482 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ 1. บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) (MINT18OA)   มูลค่า 209 ล้านบาท 2. บมจ. ธนาคาร กรุงไทย (KTB19OA)    มูลค่า 196 ล้านบาท 3. บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) (MINT17DB)   มูลค่า 40 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 444 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้ ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน   ซื้อสุทธิ 12,425 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ    ซื้อสุทธิ 1,672 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 425 ล้านบาท >>ภาพรวมของตลาดในวันนี้ Yield Curve ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 — 2 Basis Point ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง โดยนักลงทุนยังคงติดตามการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน   ด้านนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 425 ล้านบาท จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:02:59

ความคิดเห็นที่ 8 นายกิดาการ สุวรรณธรรมา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาดอนุพันธ์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขายSet50 Futures วันนี้ปรับตัวขึ้นได้แต่ยังอยู่ในกรอบแคบ โดยยังมีการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากยังอยู่ในช่วงคริสต์มาส ตลาดสหรัฐปิดทำการจึงยังไม่มีสัญญาณชี้นำ แต่ตลาดในเอเซียยังเป็นบวก เนื่องจากตลาดยังคาดการณ์เกี่ยวกับ fiscal cliff น่าจะได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 1 ม.ค.56 "โดยรวมตลาดที่เปิดวันนี้เคลื่อนไหวเป็นบวกแต่ไม่มาก มูลค่าซื้อขายเบาบางและน่าจะเป็นต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี" นายกิดาการ กล่าว แนะการลงทุน สถานะ long ให้ทยอยทำกำไร ให้แนวรับที่ 938 จุด แนวต้าน 945 จุด ส่วนตลาดทองคำ วันนี้ปรับขึ้นได้เล็กน้อย โดยนักลงทุนรอการเจรจาของโอบามาในสภาคองเกรส อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังเป็นขาลง ดังนั้น แนะให้ ถือ short แนวรับอยู่ที่ 24,050 บาท แนวต้าน 24,400 บาท ทางบริษัท วายแอลจี บุลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส มีมุมมองว่า สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือและไม่มีสถานะฟิวเจอร์สสามารถรับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้ชะลอการลงทุน แต่สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้มากสามารถเก็งกำไรระยะสั้นได้ หากราคาทองคำมีการปรับลดลงทดสอบแนวรับและไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยรอจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,650 หรือ 1,645 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือหรือมีสถานะซื้อในตลาดฟิวเจอร์ส ทยอยขายหรือปิดสถานะทำกำไรตามบริเวณแนวต้าน1,665 หรือ 1,671 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าราคาหลุดโซน 1,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ขายตัดขาดทุนทันที ดัชนีอ้างอิง SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 939.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.94 จุด, +0.21% ปริมาณ                        สถานะคงค้าง Total Market                      25,885                             282,382 Total Futures                     25,413                            276,537 Brent Crude Oil                          95                                 896 Metal                                     6,127                                43,781 - 50 Baht Gold                   1,781                               15,588 - 10 Baht Gold                   4,342                               27,902 - Silver                                     4                                 291 USD                                         1,377                                13,867 Interest Rate                             -                                     - - 3M BIBOR                               -                                      - - 6M THBFIX                              -                                     - - 5Y Gov Bond                           -                                     - SET50 Index                         11,907                               59,707 - S50Z12                             4,546                               25,501 - S50F13                                  16                                  433 - S50G13                                     7                                     9 - S50H13                             7,239                               32,625 - S50M13                                  89                                  887 - S50U13                                  10                                  252 Sector Index Futures                  -                                     7 - BANK Index Futures               -                                     5 - COMM Index Futures               -                                     - - ENERG Index Futures            -                                      1 - FOOD Index Futures               -                                     - - ICT Index Futures                -                                      1 Single Stock                         6,907                            158,279 - ADVANC Futures                   34                                  132 - BANPU Futures                       1                                  102 - BAY Futures                           5                              1,408 - BBL Futures                           7                                  848 - BTS Futures                       214                             82,724 - CPALL Futures                      68                                 258 - CPF Futures                          83                             1,604 - DTAC Futures                       83                                     48 - HMPRO Futures                      16                                 862 - IRPC Futures                      164                             2,059 - ITD Futures                       535                              9,805 - IVL Futures                           6                                  773 - KBANK Futures                       -                                  829 - KTB Futures                   1,380                                14,319 - LH Futures                              7                             1,199 - MINT Futures                          -                                 127 - PS Futures                              -                                 253 - PTT Futures                          56                                 922 - PTTEP Futures                      40                             2,878 - QH Futures                          722                            11,956 - SCB Futures                           1                                  369 - SCC Futures                           4                                  102 - STA Futures                       126                                  301 - TCAP Futures                          7                                 544 - THAI Futures                       12                                  641 - TMB Futures                          34                             9,839 - TOP Futures                           7                                  529 - TRUE Futures                  1,101                                3,194 - TTA Futures                   2,194                                 9,252 - TUF Futures                           -                                  402 Total Options                             170                             5,845 SET50 Index                              170                              5,845 Call                                     81                              1,638 Put                                        89                             4,207 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:04:54

ความคิดเห็นที่ 9 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับความพยายามในการทำข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงหน้าผาการคลังในสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามายกเลิกวันหยุดพักผ่อนร้อนเพื่อเดินทางกลับมาเจรจาหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังกับสภาคองเกรส สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.7 % มา ปิดตลาดที่ 90.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 88.59-91.30  ดอลลาร์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 2.27  ดอลลาร์ หรือ 2.1 % สู่ 111.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง  109.00-111.52 ดอลลาร์ สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ประกาศยกเลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย และเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันเพื่อหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังหรือภาวะที่มาตรการลดการใช้จ่ายและการขึ้นภาษีวงเงินรวม 6 แสนล้านดอลลาร์จะผลบังคับใช้พร้อมกันโดยอัตโนมัติในต้นปีหน้า นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เผยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ของสหรัฐ ขยายตัว 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเหนือควาคาดหมายของนักวิเคราะห์ โดยมีเพียงชิคาโกและนิวยอร์กเท่านั้นที่ดัชนีราคาบ้านลดลงเมื่อเทียบปีต่อปี นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ธ.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 950,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะขยับขึ้นแตะระดับ 91.6% สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) โดยสัญญาทองคำปิดที่เหนือระดับ 1660 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,660.7 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 30.035 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.8 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 5.15 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 3.5975 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 1,534.90 และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 692.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.85 ดอลลาร์ สัญญาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งจะช่วยสัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่า สัญญาทองคำเริ่มดีดตัวขึ้นหลังจากในช่วงที่ผ่านมานั้น ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันอย่างมากจากแรงเทขาย อันเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง หรือภาวะที่มาตรการลดการใช้จ่ายและการขึ้นภาษีวงเงินรวม 6 แสนล้านดอลลาร์จะผลบังคับใช้พร้อมกันโดยอัตโนมัติในต้นปีหน้า ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ประกาศยกเลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย และเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันเพื่อหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังกับสภาคองเกรส สกุลเงินเยนร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) หลังจากนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าผลักดันให้ญี่ป่นสามารถหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดและเงินเยนที่แข็งค่า ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.29% แตะที่ 1.3220 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3182 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ขยับขึ้น 0.02% แตะที่ 1.6128 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6125 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.620 เยน จากระดับ  84.740 เยน แต่ร่วงลง 0.29% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9133 ฟรังค์ จากระดับ 0.9160 ฟรังค์ เงินเยนร่วงลงหลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนยันว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเงินเยนแข็งค่าและภาวะเงินฝืดที่เรื้อรังเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ รัฐบาลจะจัดทำงบประมาณพิเศษที่มีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพสำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม เพื่อที่จะได้มีเงินไปใช้ในการดำเนินมาตรการนโยบายสำหรับแก้ปัญหาต่างๆ โดยหลังจากทำลายอุปสรรคเบื้องต้นแล้ว รัฐบาลก็จะร่างแผนโร้ดแมปสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้บริษัทต่างๆเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุน ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เพราะได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง หรือภาวะที่มาตรการลดการใช้จ่ายและการขึ้นภาษีวงเงินรวม 6 แสนล้านดอลลาร์จะผลบังคับใช้พร้อมกันโดยอัตโนมัติในต้นปีหน้า ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ประกาศยกเลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย และเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันเพื่อหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังกับสภาคองเกรส ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการวันพุธที่ 26 ธ.ค.เนื่องในวันหยุด -- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการวันพุธที่ 26 ธ.ค.เนื่องในวันหยุด -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่ายอดขายในช่วงเทศกาลวันหยุดของสหรัฐและราคาบ้านในสหรัฐชะลอตัว นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 24.49 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 13,114.59 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.83 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 1,419.83 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 22.44 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 2,990.16 จุด -- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) โดยสัญญาทองคำปิดที่เหนือระดับ 1660 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,660.7 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 30.035 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.8 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 5.15 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 3.5975 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 1,534.90 และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 692.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.85 ดอลลาร์ -- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับความพยายามในการทำข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงหน้าผาการคลังในสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามายกเลิกวันหยุดพักผ่อนร้อนเพื่อเดินทางกลับมาเจรจาหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังกับสภาคองเกรส สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.7 % มา ปิดตลาดที่ 90.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 88.59-91.30  ดอลลาร์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 2.27  ดอลลาร์ หรือ 2.1 % สู่ 111.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง  109.00-111.52 ดอลลาร์ -- สกุลเงินเยนร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) หลังจากนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าผลักดันให้ญี่ป่นสามารถหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดและเงินเยนที่แข็งค่า ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.29% แตะที่ 1.3220 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3182 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ขยับขึ้น 0.02% แตะที่ 1.6128 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6125 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.620 เยน จากระดับ  84.740 เยน แต่ร่วงลง 0.29% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9133 ฟรังค์ จากระดับ 0.9160 ฟรังค์ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:06:23

ความคิดเห็นที่ 10 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศอุ่นขึ้น โดยอุณหภูมิ จะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในภาคเหนือมีลมตะวันตกเฉียงเหนือในระดับบนพัดปกคลุม ทำให้มีอุณหภูมิเย็นลงอย่างต่อเนื่อง บริเวณภูเขาสูงยังคงมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างยังมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่คง” บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนลง  สู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันนี้ (27 ธ.ค. 55) จากนั้นจะสลายตัวใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามในวันที่ 29 ธันวาคม 2555 พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ  มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส  สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง  อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคกลาง  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก  อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส  สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลาปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส  อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพร ขึ้นมา:  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร  ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่  ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.  ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. สำนักงานเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเกิดแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 02.08 น. วันนี้ ( 27 ธันวาคม 2555 ) จุดศูนย์กลางที่ NIAS REGION, INDONESIA   ขนาด  5.0 ริกเตอร์  พิกัดละติจูด : 0° 55' 48'' เหนือ ลองจิจูด : 98° 41' 24'' ตะวันออก  ความลึกจากระดับผิวดิน : 80 กิโลเมตร  ไม่มีรายงานการเตือนภัยหรือแจ้งความเสียหายแต่อย่างใด สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 20.59น.ที่ประเทศพม่า วัดขนาดความรุนแรงได้ 5.1ริกเตอร์ ห่างจาก อ.ปางมะผ้า  จ. แม่ฮ่องสอน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 429 กิโลเมตร ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:08:52

ความคิดเห็นที่ 11 SET วอลุ่มเงียบสงัด แต่ก็ซึมขึ้นเรื่อยๆ ดัชนี SET ปิดวานนี้อยู่ที่ระดับ 1,382.23 จุด เพิ่มขึ้น +3.91 จุด หรือ +0.28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24,453.00 ล้านบาท - นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ +1,004.44 ล้านบาท - บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ -349.32 ล้านบาท - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -169.24 ล้านบาท - นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ -485.89 ล้านบาท นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี บอกในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า การแก้ปัญหา Fiscal cliff ในสิ้นปีนี้น่าจะยังไม่จบ ซึ่งปีหน้าอาจมีการพูดคุยต่อเนื่อง โดยมองว่าหากประเด็นนี้ยังไม่ชัดเจน ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการลงทุนในสิ้นปีนี้จนถึงต้นปีหน้า ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้จะดีหรือไม่ดีนั้น ต้องรอดูทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยในประเทศไม่มีอะไรใหม่ พร้อมมองว่าปีหน้าตลาดหุ้นไทยน่าจะให้ผลตอบแทนปานกลาง จากปีนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงและOutperform กว่าตลาดหุ้นอื่น กลยุทธ์การลงทุน แนะเลือกหุ้นพื้นฐานดี ราคาหุ้นยังไม่แพงเกินไป หรือหุ้น Domestic play เช่นกลุ่มแบงก์ กลุ่มรับเหมาฯ เป็นต้น จากการรวบรวมของ Money Channel บริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ ให้กรอบการลงทุนทางด้านเทคนิคและหุ้นแนะนำในวันนี้ดังนี้ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,375-1,385 จุด บล.คันทรี่ กรุ๊ป ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,380-1,390 จุด หุ้นเด่น RML บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,370-1,390 จุด หุ้นเด่น INTUCH ที่มา http://www.moneychannel.co.th/index....-09-34-06.html http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39459 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:14:49

ความคิดเห็นที่ 12 ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดบวก $1.2 หลัง​เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก​เมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) ​โดยสัญญาทองคำปิดที่​เหนือระดับ 1660 ดอลลาร์/ออนซ์ ​เพราะ​ได้​แรงหนุนจาก​การอ่อนค่าของสกุล​เงินดอลลาร์สหรัฐ อัน​เป็นผลมาจาก​ความวิตกกังวล​เกี่ยวกับภาวะหน้าผา​การคลัง (fiscal cliff) ​ในสหรัฐ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบ​เดือนก.พ.​เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ ​หรือ 0.07% ปิดที่ 1,660.7 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา​โลหะ​เงินส่งมอบ​เดือนมี.ค.ปิดที่ 30.035 ดอลลาร์/ออนซ์ ​เพิ่มขึ้น 13.8 ​เซนต์ ​และสัญญา​โลหะทอง​แดงส่งมอบ​เดือนมี.ค.​เพิ่มขึ้น 5.15 ​เซนต์ ​หรือ 1.5% ปิดที่ 3.5975 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบ​เดือนม.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 1,534.90 ​และสัญญาพัลลา​เดียมส่งมอบ​เดือนมี.ค.ปิดที่ 692.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ​เพิ่มขึ้น 7.85 ดอลลาร์ สัญญาทองคำปรับตัว​เพิ่มขึ้นหลังจากสกุล​เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง​ เมื่อ​เทียบกับ​เงิน​เยน ​ซึ่งจะช่วยสัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุล​เงินอื่นๆ นักวิ​เคราะห์หลายคนกล่าวว่า สัญญาทองคำ​เริ่มดีดตัวขึ้นหลังจาก​ในช่วงที่ผ่านมานั้น ตลาดทองคำ​ได้รับ​แรงกดดันอย่างมากจาก​แรง​เทขาย อัน​เป็นผลมาจาก​ความกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะ​เผชิญกับภาวะหน้าผา​การคลัง ​หรือภาวะที่มาตร​การลด​การ​ใช้จ่าย​และ​การขึ้นภาษีวง​เงินรวม 6 ​แสนล้านดอลลาร์จะผลบังคับ​ใช้พร้อมกัน​โดยอัต​โนมัติ​ในต้นปีหน้า ​ทำ​เนียบประธานาธิบดีสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค ​โอบามาของสหรัฐ ประกาศยก​เลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย ​และ​เดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตัน​เพื่อหาทาง​แก้ภาวะหน้าผา​การคลังกับสภา คอง​เกรส จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:15:37

ความคิดเห็นที่ 13 ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $2.37 จาก​ความหวัง​เจรจา​การคลังสหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบ​เวสต์​เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น​เมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) ​โดยสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้น​แตะระดับสูงสุด​ในรอบกว่า 2 ​เดือน​ในระหว่างวัน ​เนื่องจากนักลงทุนขานรับ​ความพยายาม​ใน​การ​ทำข้อตกลง​เพื่อหลีก​เลี่ยง หน้าผา​การคลัง​ในสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีบารัค ​โอบามายก​เลิกวันหยุดพักผ่อนร้อน​เพื่อ​เดินทางกลับมา​เจรจาหาทาง​แก้ภาวะ หน้าผา​การคลังกับสภาคอง​เกรส สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบ​เดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ ​หรือ 2.7 % มา ปิดตลาดที่ 90.98 ดอลลาร์ต่อบาร์​เรล หลังจาก​เคลื่อนตัว​ในช่วง 88.59-91.30 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ​เบรนท์ (BRENT) ส่งมอบ​เดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 2.27 ดอลลาร์ ​หรือ 2.1 % สู่ 111.07 ดอลลาร์ต่อบาร์​เรล หลังจาก​เคลื่อนตัว​ในช่วง 109.00-111.52 ดอลลาร์ สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจาก​ทำ​เนียบประธานาธิบดีสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค ​โอบามาของสหรัฐ ประกาศยก​เลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย ​และ​เดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตัน​เพื่อหาทาง​แก้ภาวะหน้าผา​การคลัง​หรือ ภาวะที่มาตร​การลด​การ​ใช้จ่าย​และ​การขึ้นภาษีวง​เงินรวม 6 ​แสนล้านดอลลาร์จะผลบังคับ​ใช้พร้อมกัน​โดยอัต​โนมัติ​ในต้นปีหน้า นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยัง​ได้​แรงหนุนหลังจากส​แตนดาร์ด ​แอนด์ พัวร์/​เคส ชิล​เลอร์ ​เผยดัชนีราคาบ้าน​ใน 20 ​เมือง​ใหญ่ของสหรัฐ ขยายตัว 4.3% ​เมื่อ​เทียบ​เป็นรายปี ​ซึ่ง​เหนือควาคาดหมายของนักวิ​เคราะห์ ​โดยมี​เพียงชิคา​โก​และนิวยอร์ก​เท่านั้นที่ดัชนีราคาบ้านลดลง​เมื่อ​เทียบ ปีต่อปี นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ธ.ค. ​ซึ่งสำนักงานสารสน​เทศด้าน​การพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะ​เปิด​เผย​ในวันศุกร์นี้ ​โดยนักวิ​เคราะห์ส่วน​ใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2 ล้านบาร์​เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 950,000 บาร์​เรล สต็อกน้ำมัน​เบนซินจะ​เพิ่มขึ้น 400,000 บาร์​เรล ​และอัตรา​การ​ใช้กำลัง​การกลั่นน้ำมันจะขยับขึ้น​แตะระดับ 91.6% จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:16:16

ความคิดเห็นที่ 14 ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ โดยศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นาชาติ แนะนำ 10 เมนูสุขภาพรับปี 2556 สไตล์อายุรวัฒน์ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลแห่งความสุข หลายคนอาจหลงลืมเรื่องอาหารการกิน หลงเพลินไปกับเค้กของหวานจนอาจจะกลายเป็นพะโล้ไป ขณะที่หลายคนได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ต่างจังหวัดและกำลังคิดเมนูาใจคุณพ่อคุณแม่และญาติผู้ใหญ่ คนที่เรารัก ให้มีสุขภาพดี จึงขอแนะนำอาหารต้านชราใน 10 เมนู กินรับปีใหม่ คือ 1.ส้มตำไก่ย่าง  ที่สุดของอาหารต้านชรา  ในส้มตำมีสุดยอดวิตามินอย่าง “มะเขือเทศ” ที่ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากและเต้านม  ; ส่วนมะละกอนั้นช่วย “ล้างพิษ” ให้กับลำไส้ทั้งน้อยและใหญ่  ในมะละกอยังมีน้ำย่อย “ปาเปน” ช่วยเป็นน้ำยาล้างห้องน้ำทำความสะอาดลำไส้ให้ปลอดคราบโปรตีนเกาะ ส่วนการรับประทานคู่กับไก่ย่างนั้นมีข้อดีคือทำให้ไม่ขาดโปรตีน  และที่สำคัญคือ “ไม่อ้วน” เท่าการกินกับข้าวเหนียวหรือกินแบบหนักแป้งด้วย 2.แกงเขียวหวานไก่ ในน้ำแกงเขียวหวานเป็นอาหารทิพย์ที่อุดมไปด้วยวิตามิน  น้ำแกงเข้มข้นหอมมันคือ “ซุปวิตามินชั้นดี” ที่มีทั้งวิตามินเ อ,ดี,อีและเคที่ละลายอยู่ในกะทิ  ส่วนในเนื้อไก่ก็มีวิตามินบีที่ช่วยบำรุงสมอง  อีกทั้งในพริกที่ใส่เป็นเครื่องแกงก็มี “กรดแคปไซซิน” กับ “เบต้าแคโรทีน” ที่ช่วยบำรุงสายตาด้วย 3.เมี่ยงปลาทู  หยิบกินง่ายๆได้ทั้ง “ซัลโฟราเฟน” เป็นกลุ่มสารต้านมะเร็งจากใบคะน้าห่อเมี่ยง  ถ้าให้ดีต้องหยิบ “มะเขือเทศราชินี” หั่นเสี้ยวใส่เข้าไปด้วยจะช่วยให้ผิวพรรณสวย  ส่วนในเนื้อปลาทูมีทั้งกรดไขมันดีและ “แอสตาแซนทิน” ที่กินเข้ากัน  เพราะวิตามินที่ว่านี้โดยมากละลายในไขมัน  ถ้าท่านใส่ปลาทูทอดเข้าไปจะช่วยให้จับกันได้ดีขึ้น 4.ผัดไท โดยเฉพาะผัดไทแบบต้นตำรับคลาสสิกที่สืบทอดตำนานแต่ครั้งรัฐนิยมของท่านจอมพล ป. มา  ในผัดไทแบบนี้จะมีทั้งถั่วงอกที่ถือเป็นอาหารมงคลรับปีใหม่ด้วยหมายถึงการงอกงามของสิ่งใหม่ๆซึ่งในถั่วงอกมี “วิตามินซี” อยู่มากด้วย  นอกจากนั้นถั่วและเต้าหู้ในผัดไทยังอุดมไปด้วยวิตามินอี,แคลเซียมและสาร “พฤกษฮอร์โมน” ที่เป็นไฟโตเอสโตรเจนป้องกันมะเร็งและลดไขมันได้อีก  โดยมีข้อแม้คืออย่าหนัก “เส้น” มากไป 5.ข้าวหอมนิล  ข้าวไทยหนึ่งในตองอูที่ดูเด่นด้วยสีม่วงเข้มเตะตา  ที่อัดแน่นอยู่ในสีสวยนั่นคือสาร “พฤกษเคมี” ที่มีพลังมากกว่าวิตามินอีกับซีรวมกันเสียอีก  ข้าวหอมนิลสามา รถเอามาจัดเมนูคู่ปีใหม่ได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างน้ำพริกปลาทูข้าวหอมนิล หรือจะกินคู่กับไข่เจียวร้อนๆก็ยังไหว  ขอให้ลองรับประทานดูแล้วจะติดใจ 6.ข้าวตอกน้ำกะทิ  ขนมไทยช่วงปีใหม่ที่ถูกลืมไปนาน  อยากขอให้ช่วยกันปลุกให้คืนชีพมาใหม่ครับเพราะมีคุณค่าทางอายุรวัฒน์มาก  นับตั้งแต่ตัวข้าวตอกเองที่มี “เส้นใย” ช่วยในเรื่องไขมันและน้ำตาลได้  ส่วนวิตามินข้างในนั้นก็เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ 7.ข้าวต้มมัดหรือข้าวเหนียวปิ้งใส่ไส้  เป็นของอร่อยกินอิ่มทนของคนมาตั้งแต่รุ่นบรรพชนไทยเรา  เป็นเมนูที่อยู่ท้องและมีประโยชน์ครบเครื่องมากเพราะมีทั้ง 5 หมู่อยู่ในนั้น ส่วนวิตามินก็มีทั้งเอ,บี,ซี    นอกจากนั้นในกล้วยยังมีเส้นใยกับสารกลุ่มฟีนอลชื่อ “กรดเอลลาจิก” ช่วยต้านมะเร็งและเนื้องอกได้ด้วย  กินแค่เมนูนี้เมนูเดียวก็ได้ครบแล้ว ไม่ว่าจะไส้กล้วยหรือไส้เผือก  ถ้าเลือกได้ก็ขอให้ทำ “สุก” ดีกว่า 8.ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ  ขนมที่ดูบ้านๆนี้ถ้าจัดดีๆให้ขึ้นโต๊ะก็กลายเป็นจานหรูไปได้ เพื่อนบ้านเราอย่างอินโดนีเซียและมาเลเซียก็มีเมนูที่ว่านี้คล้ายกันแต่ไม่มีใครเหมือนของไทยตรงที่เรามีใส่เครื่องเคราเยอะไม่ว่าจะ เผือก,ลำไย,ลูกเดือยและธัญพืชอื่นๆ ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมไฟเบอร์ชั้นสูงเพราะช่วยขัดล้างตั้งแต่หลอดอาหารลงมาถึงลำไส้ใหญ่  ส่วนตัว ข้าวเหนียวดำเองก็มี “วิตามินอี” และ “ธาตุเหล็ก” สูงมาก  รวมถึง “ธาตุม่วงต้านร่วงโรย (OPCs)” ก็มีด้วย 9.ข้าวโพดม่วง  ดูๆไปอาจเห็นว่าเน้นแต่ของม่วงแต่นี่เป็นนวัตกรรมใหม่ของบ้านเราที่อยากนำเสนอคือ “ข้าวโพดทับทิมสยาม”  เป็นข้าวโพดสีสวย  ถ้าเอาไปต้มก็จะได้น้ำต้มสีม่วงสวยจนบางท่านตกใจ  แต่ในข้าวโพดม่วงนั้นประกอบด้วยคุณประโยชน์มากมาย  ทั้งวิตามินบำรุงตาอย่าง “ลูทีน” กับ “ซีแซนทิน” ส่วนวิธีทำก็ทำได้หลายเมนู อย่างทำเป็นข้าวโพดม่วงเปียกราดกะทิกิน,ข้าวโพดปิ้งกินง่ายๆในงานปีใหม่หรือจะเป็นข้าวโพดม่วงคลุกก็อร่อยจนวางไม่ลง 10.น้ำสมุนไพรแสนชื่นใจ  เช่น น้ำอัญชัน,กระเจี๊ยบ,น้ำย่านาง,น้ำใบบัวบก  น้ำเหล่านี้ถือเป็นน้ำวิตามินชั้นดี จัดเป็นน้ำนางเอกของแท้  เริ่มตั้งแต่อัญชันมีวิตามินสีม่วงที่ช่วยปกป้องผิวและบำรุงตับ  ส่วนน้ำกระเจี๊ยบก็มีวิตามินซีและเอช่วยบำรุงไตได้ ส่วนน้ำใบย่านางกับใบบัวบกยิ่งดีใหญ่ประกอบด้วย “คลอโรฟิลล์” ที่หลายคนใฝ่ฝันหาและยังมี “กลูต้าไทโอน” ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:18:06

ความคิดเห็นที่ 15 อสังหาฯเขาใหญ่แจ็กพอต โยธาฯโคราชคลอดร่างผังเมืองรวมฉบับใหม่ให้กฤษฎีกาตรวจสอบ ประกาศใช้ปลายปี"56 บังคับใช้ประโยชน์ที่ดิน 80% ของ อ.ปากช่อง เป็นพื้นที่สีเขียว-เขียวทแยงขาว "ถนนธนะรัชต์-ผ่านศึกฯ-วังน้ำเขียว" โดนหมด ห้ามสร้าง "บ้าน-คอนโดฯ-โรงแรม-รีสอร์ต-สนามกอล์ฟ" ดีเวลอปเปอร์ฝุ่นตลบเร่งออกแบบ-ขออนุญาตก่อสร้างล่วงหน้า หน่วยงานท้องถิ่นเตรียมขอทบทวน หวั่นกระทบท่องเที่ยวเขาใหญ่ แหล่งข่าวจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้สำนักงานโยธาฯ อยู่ระหว่างจัดทำร่างผังเมืองรวมจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีผังเมืองบังคับใช้ ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบรายละเอียด คาดว่าภายในช่วงปลายปี 2556 น่าจะประกาศบังคับใช้ผังเมืองใหม่ได้ 10 ตำบลในปากช่องโดนหมด ทั้งนี้ สาระสำคัญของผังเมืองรวมโคราชฉบับใหม่ จะมีผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ใน อ.ปากช่อง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของทั้งอำเภอ ได้แก่ ตำบลหมูสี จันทร์ทึก หนองสาหร่าย วังไทร ขนงพระ คลองม่วง วังกะทะ โป่งตาลอง หนองน้ำแดง และดงพญาเย็น รวมทั้งถนนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวสำคัญ 3 สายในพื้นที่คือ ถนนธนะรัชต์ ถนนผ่านศึก-กุดคล้า และถนนไปวังน้ำเขียว ซึ่งปัจจุบันกำลังมีการลงทุนโครงการบ้านพักตากอากาศ คอนโดมิเนียม โรงแรม รีสอร์ต และสนามกอล์ฟเป็นจำนวนมาก จะถูกกำหนดเป็น "พื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม" (เขียวทแยงขาว) และ "พื้นที่ป่าไม้" (เขียวอ่อนทแยงขาว) ข้อบังคับผังเมืองคือ ห้ามไม่ให้จัดสรรที่ดินแบ่งแปลงขาย พัฒนาบ้านจัดสรร บ้านพักตากอากาศ คอนโดฯ โรงแรม รีสอร์ต สนามกอล์ฟ และโรงงานอุตสาหกรรม โดยพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรมจะอนุญาตให้ก่อสร้างได้เฉพาะสิ่งปลูกสร้างเพื่อการพักอาศัย โรงเรียน วัด สิ่งปลูกสร้างเพื่อการปศุสัตว์ การเกษตรกรรม และสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา เป็นต้น "ผังเมืองโคราชฉบับใหม่เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2547 ผ่านขั้นตอนประชาพิจารณ์ภาคประชาชนในพื้นที่อย่างถูกต้อง เสียงสะท้อนมีทั้งประชาชนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการให้อำเภอปากช่องเป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม แต่มีส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วย กรมโยธาฯจึงยืนยันเจตนารมณ์กำหนดให้พื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมตลอดไป" แหล่งข่าวกล่าว หวั่นผังเมืองใหม่ทุบท่องเที่ยว แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการที่มีที่ดินอยู่ในความครอบครองและต้องการจะพัฒนาโครงการอสังหาฯในเขาใหญ่ ต้องรีบออกแบบและขออนุญาตก่อสร้างล่วงหน้าไว้ก่อน โดยโครงการพัฒนาที่ดินช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากยังไม่มีผังเมืองรวมประกาศใช้จึงให้ยึดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ พ.ร.บ.อาคารชุดฯ พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินฯ และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มโบนันซ่า เขาใหญ่ และเป็นเจ้าของที่ดินในเขาใหญ่ประมาณ 5,000 ไร่ เปิดเผยว่า ได้ทราบเรื่องการจัดทำร่างผังเมืองใหม่แล้ว เชื่อว่าหากบังคับใช้จะทำให้การลงทุนหยุดชะงัก และจะเกิดการต่อต้านจากผู้ประกอบการอสังหาฯในพื้นที่แน่นอน "ผังเมืองจังหวัดนครราชสีมาไม่ควรกำหนดให้พื้นที่โดยรอบอุทยานฯเขาใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม แต่ควรให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ให้มีสิ่งปลูกสร้างเข้าไปรุกล้ำพื้นที่อุทยานแห่งชาติ" นายไพวงษ์กล่าว ปัจจุบัน กลุ่มโบนันซ่ามีที่ดินในเขาใหญ่รวมประมาณ 5 พันไร่ แบ่งพัฒนาเป็นสนามกอล์ฟ บ้านจัดสรร คอนโดฯ โรงแรมไปแล้วประมาณ 4.5 พันไร่ คงเหลืออีกประมาณ 500 ไร่ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากได้ขออนุญาตจัดสรรที่ดินแบ่งแปลงขายไว้แล้ว รวมทั้งหมดกว่า 200-300 แปลง ที่ดินตระกูลดังเจอแจ็กพอต แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินในเขาใหญ่ กล่าวว่า หากบังคับใช้ผังเมืองใหม่เท่ากับเป็นการคุมกำเนิดการลงทุนอสังหาฯในเขาใหญ่ ดังนั้นตั้งแต่ต้นปีจึงมีความเคลื่อนไหวเปิดตัวโครงการบ้านและคอนโดฯตากอากาศจำนวนมาก ปี 2555 มีถึง 19 โครงการ กว่า 1,500 หน่วย ซึ่งถือว่าสูงมากกว่าปกติเท่าที่ทราบมีเศรษฐีหลายรายที่ถือครองที่ดินในเขาใหญ่ อาทิ ครอบครัวภิรมย์ภักดี (เบียร์สิงห์) มีที่ดินบริเวณถนนผ่านศึก-กุดคล้า, กลุ่มโอเชียนพร็อพเพอร์ตี้ของกลุ่มไทยสมุทรประกันชีวิต, ตระกูลสิริวัฒนภักดี (เบียร์ช้าง) ฯลฯ เชื่อว่าจะเร่งนำมาพัฒนาโครงการในปีหน้า หรืออาจใช้วิธีขออนุญาตก่อสร้างไว้ก่อนแต่ยังไม่เปิดตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขาใหญ่ของบริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด พบว่าในช่วง 11 เดือนแรกปี 2555 มีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ 19 โครงการ รวม 1,517 พันยูนิต ราคา 1.5-30 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 11 โครงการ 1,150 ยูนิต วิลล่า 367 ยูนิต ถือว่าค่อนข้างสูง เนื่องจากสถิติ ณ สิ้นปี 2554 เขาใหญ่มีซัพพลายบ้าน-คอนโดฯสะสมประมาณ 2,500 ยูนิต นายอุทัย อุทัยแสงสุข ผู้บริหารของ บมจ.แสนสิริ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวโครงการที่เขาใหญ่แล้ว 2 โครงการ คือ23 องศา เอสเตท และเดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างมองหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการที่ 3 บริษัททราบเรื่องร่างผังเมืองใหม่แล้ว ดังนั้นภายใต้สมมติฐานว่าเหลือระยะเวลาอีกประมาณ 1 ปีก่อนที่จะประกาศใช้ ก็จะต้องซื้อที่ดินด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ และติดตามความคืบหน้าผังเมืองอย่างใกล้ชิด องค์กรท้องถิ่น 6 อำเภอคัดค้าน แหล่งข่าวจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า นอกจากอำเภอปากช่อง ทราบว่ามีอีก 5 อำเภอ ได้แก่ ปักธงชัย วังน้ำเขียว โชคชัย ครบุรี และสูงเนิน ที่ร่างผังเมืองใหม่ระบายสีเป็นสีเขียวอ่อนและสีเขียวทแยงขาว ทำให้ไม่สามารถพัฒนา สิ่งปลูกสร้างเชิงพาณิชย์ได้เกือบทุกพื้นที่ของอำเภอ ทางผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเตรียมหารือกันเพื่อยื่นหนังสือถึงสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา แสดงเจตจำนงให้ทบทวนร่างผังเมืองอีกครั้ง ทั้งนี้ มีความเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจของเขาใหญ่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก จากที่มีรายได้จากการเกษตร มาเป็นรายได้จากการท่องเที่ยว ประชาชนในพื้นที่ก็มีรายได้จากการทำงานที่โรงแรม-รีสอร์ต และค้าขาย หากถูกห้ามไม่ให้ก่อสร้างโรงแรมรีสอร์ต ก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับคนในพื้นที่ โยธาฯแจงทŽเพื่อสิ่งแวดล้อม แหล่งข่าวจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" เรื่องเดียวกันนี้ว่า ร่างผังเมืองรวมฉบับใหม่ได้ทำการยกร่างแล้วเสร็จ และผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่มาหลายปีแล้ว ตามข้อกำหนดใหม่พื้นที่กระทบมากสุดคือย่านเขาใหญ่ เพราะปัจจุบันนักลงทุนจากกรุงเทพฯเข้าไปพัฒนาโครงการจำนวนมาก แต่ไม่น่าจะกระทบมากเท่าไหร่ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็ก สูง 2-3 ชั้น เช่น บูติคโฮเต็ล เป็นต้น ปัจจุบันมีการพัฒนาไปค่อนข้างมากเกือบเต็มพื้นที่แล้ว กว่าที่ผังเมืองรวมใหม่จะมีผลบังคับใช้ คุมระยะถอยร่นถนนสายหลัก ทั้งนี้ ข้อกำหนดพื้นที่สีเขียวทแยงขาว ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม การปศุสัตว์ ที่พักอาศัย สถาบันราชการ สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา การสาธารณูปโภคและการสาธารณูปการ และการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมแต่หากจะใช้เพื่อกิจการอื่น ต้องไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่หรืออาคารที่มีพื้นที่รวมกันเกิน 2,000 ตารางเมตร หรืออาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป หรืออาคารสูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป (สูง 7-8 ชั้น) อีกทั้งต้องมีที่ว่างไม่น้อยกว่า 80% ของแปลงที่ดินที่ยื่นขออนุญาต เช่น ที่ดิน 100 ไร่ จะพัฒนาได้แค่ 20 ไร่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามอื่น ๆ เช่น ห้ามสร้างโรงงาน คลังน้ำมัน คลังแก๊ส โรงแรม จัดสรรที่ดินเพื่ออยู่อาศัย ประกอบพาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรม ห้ามสร้างสวนสนุก สนามกอล์ฟ ข้อกำหนดยังควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินแนวถนนสายหลัก ต้องมีระยะถอยร่น 6 เมตร เช่น ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2, 24, 201, 204, 224, 226 และ 304 รวมถึงการใช้ประโยชน์ที่ดินริมฝั่งแม่น้ำ คลอง ลำห้วย หรือแหล่งน้ำสาธารณะต้องถอยร่นไม่น้อยกว่า 10 เมตร แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า จังหวัดนครราชสีมา นอกจากผังเมืองรวมจังหวัดแล้ว ยังมีผังเมืองรวมชุมชน ได้แก่ ผังเมืองรวมเมืองโนนสูง ผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่ ผังเมืองรวมชุมชนพิมาย ผังเมืองรวมนครราชสีมา ผังเมืองรวมชุมชนเมืองปัก ผังเมืองรวมเมืองปากช่อง และผังเมืองรวมชุมชนสีคิ้ว ซึ่งทั้งหมดมีหมดอายุแล้ว คือ ผังเมืองรวมเมืองนครราชสีมา ผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่ และผังเมืองรวมเมืองโนนสูง และที่กำลังรอประกาศบังคับใช้ มีผังเมืองรวมเมืองปากช่อง ผังเมืองรวมชุมชนพิมาย ผังเมืองรวมชุมชนสีคิ้ว และผังเมืองรวมชุมชนเมืองปักธงชัย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:20:58

ความคิดเห็นที่ 16 สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น BAY-TISCOสินเชื่อพุ่ง ดันทั้งกลุ่มเพิ่ม12.3% กลุ่มธนาคารพาณิชย์รายงานสินเชื่อถึงเดือนพ.ย. ตัวเลขเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.3% เผยทิสโก้ และแบงก์กรุงศรีฯ เติบโตมากสุด รับยอดขายรถยนต์คันแรก โบรกฯ มองสินเชื่อปี 56 ยังมีทิศทางที่ดีรับเศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่ง SATกำไรปีนี้จ่อนิวไฮ ปี56รายได้โตอีก15% SAT การันตีรายได้ปี 2555 โตทะลัก 48% ดันกำไรสูงสุดประวัติการณ์ "วีระยุทธ" ย้ำอุตสาหกรรมยานยนต์ปีหน้ายังขาขึ้น หนุนรายได้เพิ่มขึ้นอีก 10-15% วงการมองกำไรปีนี้ 875 ล้านบาท แนะนำ"ซื้อ" วางราคาเป้าหมาย 40 บาท/หุ้น MJDปี56งบสวยรายได้5พันล้านผุดโปรเจ็กต์ใหญ่ MJD ปีหน้าสดใสรายได้ส่อแววโตเท่าตัวกว่า 5,000 ล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 2,721 ล้านบาท หลังมีแบ็กล็อกรอรับรู้รายได้ 7,000 ล้านบาท ส่วน Q1/56 เล็งผุดคอนโดและคลับเฮ้าส์ ย่านรามคำแหงมูลค่า 3,000 ล้านบาท OFMปีหน้าทะลุหมื่นล้าน การันตีกำไรโตกระโดด "ออฟฟิศเมท" ลั่นรายได้ปีหน้าทะลุ 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% หลังควบรวมกิจการกลุ่ม "จิราธิวัฒน์" ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 8.5 พันล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิโตก้าวกระโดด เล็งเพิ่มฟรีโฟลตเป็น 15% หวังเข้า SET100 ภายในปี 56 กองLTFดันดัชนีปีนี้ฉลุย แบงก์-ค้าปลีกเด่นปี56 ผู้จัดการกองทุนยันหุ้นไทยทิ้งทวนปีมังกรทองโดดเด่นเกินคาด ดันผลงานกองทุนบลจ.เติบโตสูงโดยไม่ต้องทำวินโดว์เดรสซิ่งช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ แนะการลงทุนต้นปี 56 เก็บหุ้นธนาคารพาณิชย์-ค้าปลีก-วัสดุก่อสร้าง-สื่อสาร-อาหาร และสินค้าอุปโภคและบริโภค เข้าพอร์ต INTUCHกำไร1.43หมื่นล. ถือข้ามปีรับปันผลรอบ3 บริษัทลูกผลประกอบการสวย-ไม่มีขาดทุน INTUCH ถือยาวรอรับเงินปันรอบที่ 3 คาดจ่ายไม่ต่ำกว่า 1 บาท กูรูฟันธงทั้งปี 2555 ลุ้นจ่ายปันผล 4.46 บาทต่อหุ้น ฟันยีลด์สูงถึง 6.4% พร้อมคาดปีนี้โกยกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 1.43 หมื่นล้านบาท รับแรงหนุน 3 บริษัทลูกสวยไม่มีขาดทุน ขณะที่ผลประกอบการโตต่อเนื่อง 5 ปี แนะซื้อราคาเป้าหมาย 82 บาท/หุ้น L&Eวางเป้ารายได้ปี56โต20% โชว์แบ็กล็อก650ล้าน ลุยขยายสาขาเพิ่ม2แห่ง L&E ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 15-20% ส่วนกำไรเชื่อโตมากกว่า โชว์แบ็กล็อก 650 ล้านบาท ล่าสุดเซ็นสัญญารับงาน กฟภ. มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เพื่อเปลี่ยนหลอดไฟ LED 5,000 หลอด พร้อมลุ้นประมูล 200,000 หลอด ด้านโรงงานใหม่ งบลงทุน 500 ล้านบาท แล้วเสร็จปี 57 ดันกำลังการผลิตเพิ่ม 2 เท่า พร้อมขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 1-2 สาขา GRAMMYย้ำธุรกิจเพลงขาขึ้น RSดันทีวีดาวเทียมบุกอาเซียน นายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (สายธุรกิจเพลง) บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า ภาพรวมงวดปี 2555 ธุรกิจเพลงของบริษัทยังมีแนวการเติบโตได้ดี และมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 30% ของยอดรายได้รวมบริษัท โดยปัจจุบันธุรกิจเพลงของ GRAMMY ประกอบไปได้ การจำหน่ายสินค้าเพลง (Physical Products) การจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ การจำหน่ายสินค้าเพลงในรูปแบบดิจิตอล และการจัดการแสดง MINTรุกจีนซื้อธุรกิจอาหารเพิ่ม โบรกมองหนุนการเติบโต เชียร์ซื้อเป้า 26.50 บาท MINT ทุ่ม 1.2 พันล้านบาท ซื้อธุรกิจอาหาร "ริเวอร์ไซด์" ในจีน โบรกฯ มองช่วยหนุนการเติบโต จัดเป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่มการบริโภคและกลุ่มท่องเที่ยว แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายที่ 26.50 บาทต่อหุ้น OISHIได้แคมเปญดันยอดQ4 เดินเครื่องการผลิต 100% โบรกเชียร์ซื้อเป้า 187 บาท "โออิชิ" แคมเปญ "รวยซ้ำรวยซ้อน" ดันยอดขายเพิ่มขึ้นราว 20 ล้านขวดต่อเดือน ส่วนกำลังการผลิตเครื่องดื่มเต็ม 100% มองไตรมาส 4/55 ดี แม้การแข่งขันในตลาดมากขึ้น โบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 187 บาท บีโอไอส่งเสริมลงทุน32โครงการ THAI ได้รับสิทธิโปรเจ็กต์เช่าเครื่องบินแอร์บัส บีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุนรวด 32 โครงการ เม็ดเงินรวม 107,738 ล้านบาท ฟาก THAI ได้ทั้งหมด 3 โครงการ ในส่วนแผนขยายกิจการขนส่งอากาศเช่าเครื่องบินแอร์บัส มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช 'พฤณฑ์'เชื่อเปิดประมูลปี56 "พฤณฑ์" เร่งโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ เชื่อได้ประกวดราคาเส้นทางแรก บางปะอิน-นครราชสีมา ภายในปีงบประมาณ 56 พร้อมสั่งการปรับป้ายบอกทางและสัญญาณต่างๆ ให้เป็นสากล เตรียมรองรับเปิด AEC ปี 58 SCBAMปันผล4กองทุนหุ้น มูลค่า842ลบ.ซีเล็คท์อิควิตี้สูงสุด1.15 บาท/หน่วย บลจ.ไทยพาณิชย์ หรือ SCBAM จ่ายปันผลกองทุนหุ้น 4 กองรวด รวมกว่า 842 ล้านบาท นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดหุ้นปีนี้ยังให้ผลตอบแทนในระดับที่ดี ถึงแม้จะมีปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกก็ยังมีเม็ดเงินไหลเข้า ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 'AEONTS'นิวไฮขึ้นสูงสุด99บาทโบรกเพิ่มกำไร บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์(ไทยแลนด์) หรือ AEONTS วานนี้ราคาปรับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 99 บาท หรือบวก 7.39% หลังโชว์กำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 32% ด้านโบรกฯ ปรับประมาณการกำไรเพิ่ม ลีสซิ่งกสิกรมองเช่าซื้อ ตัวเลขปี56สนั่น28-30% ลีสซิ่งกสิกรไทย เผยปี'56 ค่ายรถโหมแคมเปญกระตุ้นตลาดหลังหมดโปรโมชั่นคืนภาษี เชื่อยอดขายรถยนต์ปี 56 ยังพุ่งแรงแตะที่ 1.3 ล้านคัน ส่วนธุรกิจเช่าซื้อเติบโต 28-30% ตลาดหุ้นเงียบเหงาทั่วโลก ยกเว้นหุ้นญี่ปุ่นพุ่งสูงสุดรอบ 9 เดือนรับนายกใหม่ ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นทั่วเอเชีย โดยหุ้นญี่ปุ่นได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยนอีกวันหนึ่ง จนดัชนีนิกเกอิปรับตัวสูงสุดในรอบ 9 เดือนหลังได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ อย่างไรก็ดี การซื้อขายโดยทั่วไปซบเซา เนื่องจากไม่มีเบาะแสใหม่ๆ เพราะตลาดสหรัฐและยุโรปหยุดคริสต์มาส ในขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาอย่างระมัดระวังต่อการเจรจางบประมาณที่จะเริ่มขึ้นอีกครั้งในเร็วๆ นี้ สภาล่างญี่ปุ่นเลือก'อาเบะ'เป็นนายก สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นได้เลือกชินโซ อาเบะ เป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นอีกครั้งเมื่อวานนี้ หลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของเขาชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเดือนนี้ โดยพรรคแอลดีพีและพรรคร่วมรัฐบาล ได้เสียงในสภาล่างประมาณสองในสาม และคาดว่าอาเบะจะตั้งรัฐบาลใหม่ในเวลาต่อมา 'ไทย-กัมพูชา'ใช้ซิงเกิ้ลวีซ่า วานนี้(26 ธันวาคม) ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายฮอ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือ ระหว่างประเทศกัมพูชา เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในโอกาสการเยือนเพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย - กัมพูชาครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 25 - 26 ธันวาคม 2555 ณ กรุงเทพมหานคร นิสสันร่วมฮอนด้ากังขาวีออสใหม่ โตโยต้าแถลงยังครองตลาดปีนี้ 36.8% ไทยแลนด์อีโคคาร์ยอดจองทะลุ 1.7 พันคัน หลังฮอนด้าขอความชัดเจนกรณีโตโยต้า วีออส ใหม่ ได้สิทธิ์รถคันแรก โดยได้รับหนังสือตอบจากกรมสรรพสามิตชี้แจงเฉพาะหลักเกณฑ์ด้านการผลิต แต่ไม่ชัดเจนเรื่องต้องเป็นรถยนต์ที่มีการจำหน่ายให้กับประชาชนเป็นการทั่วไปในท้องตลาด ล่าสุด "นิสสัน" ทำหนังสือถึง "สรรพสามิต" แสดงความกังขาที่ "วีออส" ได้รับสิทธิตามโครงการรถยนต์คันแรก พร้อมแสดงความเห็นว่า ผู้นำตลาดอย่างโตโยต้าไม่ควรทำเช่นนี้ แต่เป็นการยากที่จะแก้ไขเพราะรัฐบาลตัดสินไปแล้ว TCAPสินเชื่อพุ่งQ4เพิ่มขึ้น50%หนุนกำไรพรวด นายวรพล วิรุฬห์ศรี นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรไตรมาส 4/55 เติบโต 13%qoq และ 50%yoy ขึ้นมาอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท โดยคาดสินเชื่อเติบโดดเด่น 7.5%qoq ซึ่งทั้งปีคาดว่าจะเติบโต 18.6% ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียม และรายได้อื่นๆ โดยเฉพาะค่าเบี้ยประกันคาดว่าจะเติบโตได้ดีตามยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องทุกเดือน สลากลุยแก้พรบ.2517 ลั่นไม่เกิน6เดือนขายหวยออนไลน์ บอร์ดสลากฯ ขอเวลา 6 เดือนแก้ พ.ร.บ.สลากกินแบ่งปี 2517 ให้ทันสมัยรองรับการขายหวยออนไลน์ นำเงินรายได้ไปช่วยเหลือสังคม ระบุผู้เสียประโยชน์มีแต่เจ้ามือใต้ดินและยี่ปั๊วสลากกินแบ่งฯ แต่คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ทั้งคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในสังคม สศค.เพิ่มเป้าจีดีพีปี55 ขยายตัว5.7%จาก5.5% สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ปรับเพิ่มเป้าจีดีพีปี 55 เป็น 5.7% จากเดิม 5.5% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และอุปสงค์ภาคเอกชน ส่วนจีดีพีปี 56 ปรับลดเหลือ 5.0% จากเดิม 5.2% สาเหตุจากอุปสงค์ภาคเอกชนชะลอตัว จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:22:27

ความคิดเห็นที่ 17 สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น NWR ลุยจัดการน้ำ 3.5 แสนล. กองทุนเก็บหุ้นดันเป้า 3 บาท NWR ชูคอกลุ่มกองทุนฝรั่งดอดเก็บหุ้นเข้าพอร์ตแถมรายใหญ่ในประเทศเคาะซื้อ เบียดขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ มั่นใจกำไรปี 2556 ก้าวกระโดด กินรวบซับคอนแท็กงานภาครัฐ จัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และสปีดเทรน 4.5 แสนล้านบาท กูรูแนะรีบสะสมก่อนติดโผหุ้นเด็ด ชูเป้าหมาย 3.00 บาท PRIN รายได้ปีหน้าโต 3 พันล้าน กูรูแนะสอยหุ้นต่ำบุ๊ก 3.02 บาท PRIN คลอดแผนปี 2556 ตั้งเป้ากวาดรายได้โต 3 พันล้านบาท พร้อมตั้งงบซื้อที่กว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่ส่องรายได้จากยอดโอนปีนี้แตะ 2.6 พันล้านบาท พร้อมโชว์แบ็กล็อกในมือกว่า 1.8 พันล้านบาท กูรูแนะสอยราคายังต่ำบุ๊ก 3.02 บาท ฟากเทคนิคเห็นสัญญาณราคาวิ่ง แนะ "เก็งกำไร" ให้ต้าน 2.08 บาท SORKON โค้งท้ายกำไรเด่น ผุดโปรดักต์ใหม่รับไฮซีซัน SORKON สยายปีกบุกห้างดังหลายแห่งผุดสินค้าใหม่ อาหารจานเดี่ยว-อาหารจีน พร้อมเล็งขยายโรงงานเพิ่มตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 15% จากปีนี้ พ่วงยอดขายโตแตะระดับกว่า 2 พันล้านบาท ส่วนปีนี้โค้งท้ายผลงานพีคสุด เหตุเข้าไฮซีซัน ฟากโบรกจับเส้นกราฟมีลุ้นวิ่งต่อ ให้ต้าน 74 บาท INTUCH เป้า LTF-RMF เก็บเตรียมลงทุนทีวีดิจิตอลปี 56 INTUCH ดาวเด่นกลุ่มสื่อสาร เป้าหมายกองทุน LTF และ RMF เก็บหลังส่องธุรกิจปีหน้าแจ่ม เดินแผนประมูลทีวีดิจิตอล 3 ช่อง ปี 2556 ส่วนผลงานคาดฟื้นตัวตามการเติบโตของบริษัทลูก ADVANC-THCOM คาดปีหน้ากำไร 17,089.58 ล้านบาท ส่วนเทคนิคขาขึ้นลุ้นแตะ 71 บาท TTCL ปั๊มรายได้ Q4/55 เพียบ จับมือพันธมิตรลุยโรงไฟฟ้า TTCL มั่นใจผลงานไตรมาส 4/2555 ยังโตต่อเนื่อง หลังเตรียมรับรู้รายได้อีก 15% จาก Backlog ที่มีอยู่กว่า 2.1 หมื่นล้านบาท พร้อมวางแผนยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมปีหน้า แย้มกำลังคุยกับพันธมิตรเพื่อลุยงานโรงไฟฟ้า ด้านโบรกส่องราคาหุ้นเริ่มเห็นสัญญาฟื้นตัว แนะซื้อเก็งกำไร พร้อมวางแนวต้าน 34.50 บาท กูรูเชียร์ช้อน PTT-ลุ้นลอยราคาก๊าซ PTT ลุย 5 ปีทุ่มงบ 3.66 แสนล้านบาท เน้นธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจน้ำมันทั้งในและต่างประเทศ ด้านโบรกมองอนาคตสดใส จับตาแผนลอยตัวราคา LPG และ NGV มีแนวโน้มลอยตัวหลังจาก AEC ในช่วงปี 2558 แนะ "ซื้อลงทุน" เป้าหมาย 409 บาท MCOT ขึ้นค่าโฆษณา 25% ดันกำไรปีหน้าขยับ 7% MCOT จ่อปรับค่าโฆษณาปีหน้า 9-25% ช่วงกลางวัน ข่าวภาคค่ำ ช่วงเวลาหลังข่าว (Primetime) และช่วงเสาร์-อาทิตย์ หนุนปรับกำไรในปี 2556 และ 2557 จะถูกขึ้นราว 5-7% แนะ "ซื้อ" THAI เล็งจัดระบบสายการบิน ไตรมาส 1/56 ไฮซีซันท่องเที่ยว คมนาคมจี้ THAI จัดระดับธุรกิจ แบ่งกลุ่มลูกค้า "การบินไทย-นกแอร์-ไทยสมายล์" ชี้ปัจจุบันบทบาทแต่ละสายการบินยังไม่ชัดเจน พร้อมสั่งเร่งปรับบริการเตรียมรับเปิด AEC คาดมีผู้โดยสารเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นจำนวนมาก ฟากโบรกมองไตรมาส 1/2556 ไฮซีซันธุรกิจ แนะ "ถือ" รอการฟื้นตัวรอบใหม่ OFM ปักธงปีหน้าเข้า SET 100 ปั๊มกำไร-อัพรายได้แตะหมื่นล. ผู้บริหาร OFM "วรวุฒิ อุ่นใจ" เปิดแผนปี 2556 เตรียมเพิ่มฟรีโฟลตเป็น 15% จาก 9% พร้อมเล็งเข้า SET100 หวังจะเป็นหุ้นที่นักลงทุนกลุ่ม AEC ให้ความสนใจ ส่วนผลงานคาดว่ารายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 15-20% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท หลังควบรวมกิจการกับธุรกิจใหม่ "จิราธิวัฒน์" หนุนผลงานแข็งแกร่ง BAFS ปรับโครงสร้าง บ.ขนส่งน้ำมันทางท่อ ถือหุ้นเพิ่ม-จ่ออัพกำไร BAFS ปรับยุทธศาสตร์ ลุยปรับโครงสร้าง "บริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ" เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อแปลงหนี้เป็นทุน พร้อมออกหุ้นสามัญ 27.85 ล้านหุ้น ด้านนักวิเคราะห์เล็งปรับประมาณการกำไรสุทธิของ BAFS เพิ่มขึ้นหลังการเติบโตของปริมาณเติมน้ำมันปี 2556 เพิ่ม บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยได้มีการลดทุนจดทะเบียน QLTแจกโบนัสรับปีงูเล็ก ปันผลก้อนโตมากกว่า50% ผู้ถือหุ้น QLT เตรียมเฮ! จ่อควักกำไรสะสม 100 ล้านบาทจ่ายเงินปันผลมากกว่า 50% ด้าน "สรรพัชญ์ รัตคาม" ชี้ทิศทางธุรกิจยังโตได้อีกมาก พร้อมเผยปีหน้ารุกรับงานมาร์จิ้นสูงหวังดันรายได้เติบโต 10% ปัจจุบันกอด Backlog ราว 250 ล้านบาท โบรกเคาะต้าน 10.50 บาท 'AEONTS' ส่องเป้าปีหน้าโต 10% อัดแคมเปญกระตุ้นยอดรูดปรื๊ด AEONTS วางเป้ารายได้ปี 2556 โตระดับ 10% ขอรอดูเอฟเฟ็กต์จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก่อนทบทวนตัวเลขผลประกอบการปีหน้าอีกครั้ง ขณะที่ไตรมาส 4/2555-56 ยังมั่นใจกำไรเดินหน้าทำนิวไฮต่อเนื่อง หลังประชาชนยังใช้เงินมือเติบช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้านโบรกยก AEONTS หุ้นเด่นชี้เป้า 112.85 บาท MODERN ซื้อบิ๊กล็อต IHL เสริมทัพธุรกิจ WIN-WIN IHL ประกาศ บริษัทโมเดอร์น ฟอร์ม ดอดซื้อหุ้น IHL มูลค่า 63.35 ล้านบาท ผ่านกระดานบิ๊กล็อต 2 ผู้บริหารประสานเสียง WIN-WIN ด้าน "องอาจ ดำรงสกุลวงษ์" ผู้บริหารยักษ์ใหญ่ หวังขยายฐานไปสู่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และได้โนฮาวผลิตหนังในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ PHOLคอนเฟิร์มQ4พลิกกำไร ทุ่มงบ10ล้านรีโนเวตสาขาใหม่ PHOL ฟันธงกำไรไตรมาส 4/2555 พลิกกำไร หลังยอดยอดพุ่งกระฉูด พร้อมควักงบ 10 ล้านบาท ปรับปรุงสาขาระยอง-เชียงใหม่ เชื่อโกยยอดขายเพิ่มหลักสิบล้านบาท ปักธงปี 2555 รายได้ตามฝันพุ่ง 20% จากปีก่อนที่ 723.14 ล้านบาท หลังออเดอร์ทะลักอื้อ ฟากนักวิเคราะห์เทคนิค หนุน "เก็งกำไร" ลุ้นแนวต้าน 4.50 บาท "ฟูจิ ซีร็อกซ์" รุกธุรกิจปี 56 เน้นเจาะกลุ่มแมนูแฟกเจอริ่ง ฟูจิ ซีร็อกซ์ ขายโซลูชั่นใหม่ "Drawing Detection Box" ด้วยรูปแบบ Solution Package ที่มาพร้อมกับเครื่องถ่ายแบบแปลนรุ่น DocuWide 3055 และโปรแกรมจัดการเอกสาร DocuWorks 7.3 ตั้งเป้าเจาะกลุ่มธุรกิจแมนูแฟกเจอริ่งมั่นใจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจยิ่งขึ้น ประเดิมปี 2556 CMOยันQ4งบเด้งทะลุ20% เซียนชี้จุดวัดใจต้าน3.50บ. CMO สดใสผลงาน Q4/2555 มีแววโตเหนือ 20% จาก Q3/2555 ที่มีรายได้ราว 177 ล้านบาท อานิสงส์ Backlog จ่อบุ๊กตรึม ด้านซีอีโอ ย้ำชัดปีนี้รายได้ตามฝัน 1.1 พันล้านบาท หลังงานทะลักต่อเนื่อง "เมกาบางนา" ฉลอง "วันเด็ก" จัดกิจกรรม "คิดดี คิดส์เดย์'13" เมกาบางนา ศูนย์การค้าแนวราบระดับภูมิภาคแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้อนรับวันเด็กแห่งชาติ จัดงาน "Kid D Kid's Day 2013" (คิดดี คิดส์เดย์ 2013) ระหว่างวันที่ 5-13 มกราคม 2556 กรุงศรีปลื้มทอง KFLTFDIV จองลุ้น ชู LTF-RMF กระแสตอบรับท่วมท้น บลจ.กรุงศรี เผยนักลงทุนตอบปรับกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผลเป็นอย่างดี หลังโชว์ผลตอบแทนสวยหรูเฉียด 30% พร้อมระบุงานมหกรรมลดภาษีนาทีสุดท้ายมียอดธุรกรรมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยยอด 190 ล้านบาท บัวหลวงชี้เงินไหลเข้า RMF-LTF เชื่อผลงานสะท้อนลงทุนถูกทาง กองทุนบัวหลวง เผยช่วงสิ้นปีมีเงินไหลเข้าลงทุนกับกองทุนลดภาษีของบริษัทจำนวนมาก ทั้ง RMF และ LTF เชื่อปัจจัยหลักมาจากผลดำเนินงานที่ดี โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในหุ้น สะท้อนวิธีการลงทุนที่มาถูกทาง และเป็นที่ยอมรับ http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39461 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:23:19

ความคิดเห็นที่ 18 สรุปข่าวหุ้น-ตลาดทุน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ OFM หวังหุ้นเอเชียแก้ฟรีโฟลตไต่ขึ้น SET100 กรุยเส้นทางออกนอกใน 3ปี OFM ตั้งเป้าเข้า SET 100 ในปีหน้า ให้หุ้นอยู่ในสายตาต่างชาติ กรุยเส้นทางสู่การเป็นหุ้นออนไลน์ของเอเชีย นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท ออฟฟิศเมท (OFM) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายเป็นหุ้นออนไลน์ของเอเชียภายหลังควบรวมกิจการกับบริษัท ปราณพร ในเครือจิราธิวัฒน์ และย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ มาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เหมราชฯเท 1.2 พันล้านซื้อบริษัทถูก เหมราชพัฒนาที่ดินทุ่ม 1,211 ล้าน ซื้อบริษัทที่ดินระยองได้ที่ถึง 2,000 ไร่ น.ส.ปัทมา หอรุ่งเรือง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทเหมราชระยอง ที่ดิน อุตสาหกรรมบริษัทย่อยของบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท ระยอง 2012 ที่มีที่ดินใน จ.ระยอง กว่า 2,000 ไร่ เพื่อใช้ที่ดินในการดำเนินธุรกิจของบริษัทโดยใช้เงินลงทุน 1,211 ล้านบาท ซีมิโก้คว้าที่ปรึกษาอินโดจีนอื้อ เคที ซีมิโก้ เผยธุรกิจวานิชธนกิจเพื่อนบ้านกลุ่มอินโดจีนเฟื่องฟูงานรุมเร้ารับเปิดเสรีอาเซียน นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ (KTZ) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทให้ความสำคัญกับการรับงานในกลุ่มประเทศอินโดจีน และได้ออกไปรุกธุรกิจในกลุ่มประเทศเหล่านี้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา จนปัจจุบันนี้มีการจัดตั้งบริษัทเพื่อรับงานทางด้านวานิชธนกิจ และดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ใน 3 ประเทศ คือเวียดนาม ลาว และพม่า THแจงขายพีพีเงินด่วน-เลือกได้ ตงฮั้ว ยันเพิ่มทุนขายเจาะจง ได้เงินเร็ว เลือกนักลงทุนได้เป้าหมาย นายสมนึก กยาวัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่น (TH) กล่าวว่าการขายหุ้นเพิ่มทุน 500 ล้านหุ้นให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP) เป็นการขายหุ้นแบบ Private Placement สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ยังกำหนดลักษณะนักลงทุนเป้าหมายที่จะมาเป็นผู้ลงทุนได้ ลุยไฟหุ้นเล็กต่ำบาทส่งท้ายปีปลุกผีเก็งกำไรคึกคักรับข่าวดีเตือนแมลงเม่าระวังเข้ากองไฟ ปลุกผีเก็งกำไรสนั่นเคาะกันไฟแลบ หุ้นต่ำมาวิ่งกันสลอนส่งท้ายปีมังกร "SLC" ซิลลิงขาด LL เกือบซิลลิง LIVE วิ่งเรียกแขก PAE เล่นแรลลี UV วิ่งโต้แดด เจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เก็ตติง) กล่าวว่า นักลงทุนรายย่อย-รายใหญ่ปลุกหุ้นตัวเล็กต่ำบาท และหุ้น 3 ตัวสิบบาท ขึ้นมาเก็งกำไรคึกคัก สลับช่วงที่หุ้นพื้นฐานตัวใหญ่พักตัวและเป็นหุ้นที่มีข่าวหนุน ทริสคงเครดิตหุ้นกู้-บางจากยังปึ้กระดับA ทริส คงอันดับเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ "BCP" ที่ "A-" แนวโน้ม "คงที่" สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท บางจาก ปิโตรเลียม (BCP)ที่ระดับ "A-" ด้วยแนวโน้ม "คงที่"โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท รวมถึงการผสานธุรกิจการตลาดเข้ากับธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน การกระจายธุรกิจไปสู่ธุรกิจพลังงานอื่นที่เกี่ยวข้องและการสนับสนุนจากบริษัท ปตท. บลจ.ไทยพาณิชย์ปันผล 4 กองทุนหุ้น บลจ.ไทยพาณิชย์ปันผลกองทุนหุ้น 4 กองทุน มูลค่ากว่า 842 ล้านบาท นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดหุ้นปีนี้ยังให้ผลตอบแทนที่ดี แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแต่ยังมีเม็ดเงินไหลเข้า ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องบริษัทจึงเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนหุ้น 4 กองทุน รวมมูลค่า 842 ล้านบาท เอ็มเอฟซี 11 เดือนแรกสินทรัพย์ 10% คาดทั้งปีทะยานตามเป้าหมายกองทุนรวม-สำรองเลี้ยงชีพโต MFC คาดปีนี้โตตามเป้า เผย 11 เดือนแรกสินทรัพย์พุ่ง 10% ทาร์เก็ตฟันด์ฮอต น.ส.ประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทคาดว่าจะขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (เอยูเอ็ม) ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยหลักๆ ยังเติบโตจากธุรกิจกองทุนรวมขณะเดียวกันกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังขยายตัวได้ดี ส่งผลให้ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2555 มีมูลค่าสินทรัพย์รวม2.95 แสนล้านบาท จากสิ้นปี 2554 อยู่ที่ 2.68 แสนล้านบาท เติบโต 10% บลจ.ไอเอ็นจีชู3 กอง LTF ผลงานชั้นนำ บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้มกองทุน LTF 3 กองติดอันดับท็อปเทนผลงานดีในรอบ 11 เดือน นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากการจัดอันดับผลตอบแทนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โดยบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)ช่วงตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.-12 ธ.ค. 2555 ปรากฏว่ามีกองทุนภายใต้การบริหารงานของบริษัทติดอยู่ใน 10 อันดับแรกสูงถึง 3 กองทุน ถือเป็น บลจ.ที่มีกองทุนติดอันดับผลตอบแทนสูงสุดเป็นจำนวนมากที่สุด จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:23:56

ความคิดเห็นที่ 19 http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39462 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:24:50

ความคิดเห็นที่ 20 http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39463 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:25:31

ความคิดเห็นที่ 21 หลังจากที่มีกระแสข่าวมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่า ราคาเบียร์จะปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50-60 บาท/ลัง เนื่องจากภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และทำให้เกิดความแตกตื่นตัวในบรรดาเอเย่นต์และซับเอเย่นต์ ในการสต๊อกสินค้า ล่าสุดก่อนเข้าหน้าขายช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตลาดเบียร์เริ่มมีความเคลื่อนไหวในเรื่องราคาอีกครั้งหนึ่ง อาทิ ลีโอ กระป๋อง ราคาขยับขึ้นไป 50 บาท/ถาด (24 กระป๋อง) จาก 570 บาท ส่วนขวดใหญ่เพิ่มขึ้นอีก 30-35 บาท/ลัง (12 ขวด) จาก 495-500 บาท ขณะที่อาชา กระป๋องขึ้นอีก 40 บาท จาก 475 บาท ส่วนขวดใหญ่เพิ่มอีก 30 บาท จาก 390 บาท จากการสอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด นายฉัตรชัย วิรัตนโยสินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเบียร์สิงห์ และลีโอ กล่าวในเรื่องนี้ว่า การปรับราคาเบียร์ที่เกิดขึ้นในตลาดตอนนี้ หลัก ๆ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง และเบียร์เป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นสูงเมื่อเทียบกับช่วงปกติ ที่ผ่านมาเอเย่นต์และซับเอเย่นต์เบียร์ได้เริ่มสต๊อกสินค้ามาระยะหนึ่งแล้ว ประกอบกับ ในแง่ของกำลังการผลิตของโรงงาน โดยเฉพาะเบียร์ลีโอที่ตลาดมีความต้องการสูงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่กำลังการผลิตของโรงงาน 3 แห่งหลัก ๆ ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่านี้ จึงให้บางช่วงสินค้าอาจจะขาดตลาดไปบ้าง นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ตัวแปรอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ราคาเบียร์ในตลาดปรับตัวขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวเรื่องการที่กรมสรรพสามิต มีแนวคิดที่จะปรับเพิ่มเพดานภาษีสรรพสามิตเบียร์ขึ้นไปอีก จากปัจจุบันที่เต็มเพดานแล้วเพื่อจะหาทางในการเพิ่มรายได้ และทำให้เอเย่นต์ และซับเอเย่นต์ มีความกังวลและพยายามจะสต๊อกสินค้าไว้ก่อน "ตอนนี้เรายังยืนราคาขายส่งจากบริษัทไปยังเอเย่นต์ในราคาเดิม ไม่ได้มีการขึ้นราคาแต่อย่างใด ราคาเบียร์ที่ปรับขึ้นดังกล่าว ถือเป็นการปรับตามกลไกตลาด" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจราคาขายปลีกเบียร์ในตลาด ล่าสุด พบว่าเบียร์สิงห์มีระดับราคาประมาณ 605-615 บาท/ลัง ลีโอ 490-500 บาท/ลัง ช้าง 445-450 บาท/ลัง ไฮเนเก้น 740-790 บาท/ลัง ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาเรื่องกำลังการผลิตของ 3 โรงงาน ที่เริ่มมีไม่พอกับความต้องการของตลาด ในระหว่างเตรียมจะลงทุนสร้างโรงงานใหม่ บริษัทจะมีการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตของโรงงานบางเลน ที่จะขยายเฟส 2 ให้เป็น 600-800 ล้านลิตร จากเฟสแรก 400-500 ล้านลิตร และในเฟส 3 จะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านลิตร ส่วนโรงงานปทุมธานี ซึ่งเป็นโรงงานเก่าและเทคโนโลยี่ยังไม่ทันสมัยเท่าที่ควร ก็จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบทั้งหมดให้ดีขึ้น หรือกรณีของโรงงานขอนแก่น ที่ปัจจุบันไม่สามารถขยายกำลังการผลิตเพิ่มได้ และมีปัญหาเรื่องน้ำที่จะนำมาใช้ในการผลิตไม่พอ สิ่งที่ทำได้คือ การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ คลังสินค้า ระบบการจัดจำหน่าย แหล่งข่าวจากบริษัทบุญรอดฯ ยังระบุว่า เมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เบียร์สิงห์และลีโอ มีมาร์เก็ตแชร์รวมกัน ประมาณ 70% และคาดว่าสิ้นปีตัวเลขจะขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 72% จากเดิมที่ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ไว้ประมาณ 67% และปีนี้คาดว่ามูลค่าตลาดรวมน่าจะมีสูงถึง 1.1 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณน้ำเบียร์ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านลิตร จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:25:41

ความคิดเห็นที่ 22 http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39465 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:26:19

ความคิดเห็นที่ 23 วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม 2555 (ตามเวลาประเทศไทย) ญี่ปุ่น                        07.30 น.                            ข้อมูลการนำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย. 11.00 น.                            การผลิตและส่งออกรถยนต์เดือนพ.ย. 12.00 น.                            ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านและคำสั่งซื้อด้านการก่อสร้างเดือนพ.ย. ฝรั่งเศส                    14.45 น.                             ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. 14.45 น.                            ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. อิตาลี                     16.00 น.                             ผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนธ.ค. สหรัฐ                     20.30 น.                             กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ 21.45 น.                            สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เขตชิคาโกเปิดเผยดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนพ.ย. 21.45 น.                            คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค. 22.00 น.                            กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม 2555 (ตามเวลาประเทศไทย) ประเทศไทย                                                    สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรมประจำเดือน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน เกาหลีใต้                   06.00 น.                            ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ญี่ปุ่น                        06.15 น.                            ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธ.ค. 06.30 น.                            อัตราว่างงานเดือนพ.ย. 06.30 น.                            ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. 06.30 น.                            การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนพ.ย. 06.50 น.                            ยอดค้าปลีกเบื้องต้นเดือนพ.ย. 06.50 น.                            การผลิตภาคอุตสาหกรรมเบื้องต้นเดือนพ.ย. เวียดนาม                   09.00 น.                            ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2555 ฝรั่งเศส                    12.45 น.                             ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2555 ครั้งสุดท้าย อิตาลี                     16.00 น.                             ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. สหรัฐ                     20.30 น.                             สถาบันจัดการด้านอุปทาน(ISM)เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขตชิคาโกเดือนธ.ค. 21.45 น.                            สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ย. 22.00 น.                            สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม 2555 (ตามเวลาประเทศไทย) ประเทศไทย                                                    ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันสิ้นปี ออสเตรเลีย                                                       ตลาดการเงินเปิดทำการครึ่งวัน เกาหลีใต้                   06.00 น.                            ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. ญี่ปุ่น                                                             ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันสิ้นปี จีน                                                                ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันสิ้นปี 08.45 น.                            เอชเอสบีซีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนเดือนธ.ค. เยอรมนี                                                           ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันสิ้นปี อิตาลี                                                            ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันสิ้นปี วันอังคารที่ 1 มกราคม 2556 (ตามเวลาประเทศไทย) ประเทศไทย                                                    ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ เกาหลีใต้                                                        ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ 07.00 น.                            ข้อมูลการค้าเดือนธ.ค. จีน                                                                ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ 08.00 น.                            สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธ.ค. ออสเตรเลีย                                                       ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ ญี่ปุ่น                                                             ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ ไต้หวัน                                                         ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ ฮ่องกง                                                         ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ อินโดนีเซีย                                                       ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ มาเลเซีย                                                           ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ สิงคโปร์                                                        ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ อินเดีย                                                            ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ เยอรมนี                                                           ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ อังกฤษ                                                         ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ ฝรั่งเศส                                                           ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ อิตาลี                                                            ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ สหรัฐ                                                            ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ วันพุธที่ 2 มกราคม 2556 (ตามเวลาประเทศไทย) ประเทศไทย                                                    ดัชนี CPI เดือนธ.ค. เวียดนาม                   09.00 น.                            ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. อินโดนีเซีย                10.00 น.                             ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. 11.00 น.                            ดัชนี CPI เดือนธ.ค. อินเดีย                       12.00 น.                            ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. เกาหลีใต้                   07.00 น.                            เอชเอสบีซีเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. ไต้หวัน                    09.00 น.                            ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. ออสเตรเลีย                  05.30 น.                            ดัชนี PMI เดือนธ.ค. ญี่ปุ่น                                                             ตลาดการเงินปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ สหรัฐ                     22.00 น.                             สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เผยดัชนีการผลิตเดือนธ.ค. 22.00 น.                            การใช้จ่ายภาคก่อสร้างเดือนพ.ย. 02.15 น.                            คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงผลการประชุม จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:27:53

ความคิดเห็นที่ 24 สรุปแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) ชื่อบริษัท         ชื่อผู้บริหาร                      ความสัมพันธ์*      ประเภท        วันที่รับเอกสาร           วันที่ได้มา/         จำนวน          ราคา      วิธีการได้มา/ หมายเหตุ หลักทรัพย์                                    จำหน่าย                                                 จำหน่าย BGH     ธวัชวงค์     ธะนะสุมิต                        ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    19/12/2555            60,000       114.00            ซื้อ BLA     ฉันทนา     วิมุกตานนท์                        ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    19/12/2555            10,000        60.75             ขาย CK        วัชระ    แสงหัตถวัฒนา                     ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ        26/12/2555    24/12/2555            37,500        13.00             ขาย DNA     นพคุณ     อุ่นเสรี                                   คู่สมรส        หุ้นสามัญ        25/12/2555    24/12/2555     2,400,000               3.10            ขาย DNA     สิทธิชัย     เกษรสมบัติ                           ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        25/12/2555    24/12/2555         300,000            3.09            ขาย ECL     ประภากร     วีระพงษ์                        ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    25/12/2555         600,000            1.15            ขาย ECL     ประภากร     วีระพงษ์                        ผู้จัดทำ        วอร์แรนท์     26/12/2555     25/12/2555         200,000            0.38            ขาย SST     ศุภสิทธิ์     สุขะนินทร์                         บุตร             หุ้นสามัญ        26/12/2555    13/12/2555         333,400            0.00            รับโอน TWP     พิบูลศักดิ์     อรรถบวรพิศาล                ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    12/12/2555            15,000        24.30             ขาย TWP     พิบูลศักดิ์     อรรถบวรพิศาล                ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    14/12/2555            15,000        24.21             ขาย TTW     ปลิว     ตรีวิศวเวทย์                            ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ        26/12/2555    24/12/2555         397,000            9.15            ขาย DRT     สุวิทย์     แก้วอำพันสวัสดิ์                    ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    25/12/2555            35,000           7.45            ขาย PB        ฉวีวรรณ์    ประคองทรัพย์                 ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ        26/12/2555    21/12/2555             5,000         55.65             ขาย FNS     วรสิทธิ์     โภคาชัยพัฒน์                     ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ        26/12/2555    24/12/2555    14,100,000              2.40            ซื้อ FNS     วรสิทธิ์     โภคาชัยพัฒน์                     คู่สมรส         หุ้นสามัญ        26/12/2555    24/12/2555     6,000,000               2.40            ซื้อ MJD     ประทิน     พูลวรลักษณ์                        ผู้จัดทำ        วอร์แรนท์     25/12/2555     24/12/2555         400,000            0.99            ขาย BH        สิน    อนุราษฎร์                                ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    24/12/2555            30,000        74.25             ขาย SMT     ปรีชา     จรุงกิจอนันต์                        ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    24/12/2555            40,885        11.00             ขาย SCG     บุญเกียรติ        โชควัฒนา                     ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ        25/12/2555    25/12/2555            10,000           4.40            ซื้อ IRC     อภิชาต     ลี้อิสสระนุกูล                     ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ        26/12/2555    25/12/2555            25,000        15.40             ซื้อ IRC     อภิชาต     ลี้อิสสระนุกูล                     ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ        26/12/2555    25/12/2555            25,000        15.50             ซื้อ MFEC    อดิเรก       ปฏิทัศน์                             ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ        26/12/2555    24/12/2555     1,145,500               5.58            ขาย SPCG    ประสิทธิ์    อุ่นวรวงศ์                        ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    24/12/2555     4,200,000            18.49             ขาย SPCG    ประสิทธิ์    อุ่นวรวงศ์                        ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    25/12/2555         227,500         18.51             ขาย LVT     แฮนส์ จอร์เกน อิบเซ่น เนียลเซ่น                    ผู้จัดทำ        หุ้นสามัญ        26/12/2555    25/12/2555     1,000,000               1.39            ขาย ICC     บุญเกียรติ        โชควัฒนา                     ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ        25/12/2555    25/12/2555                 830      42.00             ซื้อ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:42:03

ความคิดเห็นที่ 25 คณะอนุกรรมการพัฒนาสินทรัพย์กทท. เตรียมชงผู้บริหารและบอร์ดไฟเขียวแผนพัฒนาพื้นที่ตลาดคลองเตย ให้เป็นรูปแบบตลาดสามย่าน-บรรทัดทองของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับศูนย์ราชการแห่งใหม่  ด้านสหภาพฯการท่าเรือฯส่งสัญญาณค้านตั้งศูนย์ราชการในพื้นที่  วงในเผยเป็นการแลกหมัดกรณีกทท.ฟ้องพนักงานเกือบ 100 คดีกรณีทวงสิทธิ์ค่าล่วงเวลาตามกฎหมาย    แหล่งข่าวระดับสูงการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) กล่าวว่าภายในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมปีนี้คณะอนุกรรมการด้านพัฒนาสินทรัพย์จะจัดประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาตามแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยโดยจะมีการนำเสนอแนวคิดและรูปแบบการพัฒนาพื้นที่โซนต่างๆให้ที่ประชุมร่วมกันสรุปรายละเอียดเพื่อนำเสนอคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทยต่อไป โดยในเบื้องต้นมีแนวคิดนำเสนอพัฒนาบริเวณตลาดคลองเตย ให้เป็นตลาดรูปแบบตลาดสามย่าน-บรรทัดทองของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วัตถุประสงค์เพื่อรองรับการย้ายศูนย์ราชการมาไว้ในพื้นที่ใกล้เคียง    "จะมีการประชุมภายในสัปดาห์หน้าเพื่อที่เร่งสรุปรายละเอียดเตรียมนำเสนอเข้าสู่การประชุมบอร์ดกทท.ในช่วงเดือนมกราคมปี 2556 โดยในเบื้องต้นเป็นการกำหนดทิศทางเท่านั้น ส่วนการพัฒนาจะเป็นไปในทิศทางใด  และจะดำเนินการได้หรือไม่ต้องรอความชัดเจนและต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล"    สำหรับพื้นที่ทั้ง 4 แปลงตามผลการศึกษาเดิมนั้นครอบคลุมพื้นที่ 2,353 ไร่ คงต้องดำเนินการต่อไป โดยการท่าเรือฯต้องการพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ มาพัฒนาเป็นพื้นที่รองรับตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งขณะนี้ได้ว่าจ้างให้ที่ปรึกษาไทยและสิงคโปร์ร่วมทีมการออกแบบต่อไป ส่วนแผนการพัฒนาพื้นที่จำนวน 223 ไร่ รวม 4 แปลง ที่กทท.ต้องการเร่งพัฒนาประกอบด้วย แปลงที่ 1 พื้นที่ว่างบริเวณอาคารที่ทำการ กทท. จำนวน 17 ไร่ จะมีการบริหารงานเป็นลักษณะอาคารศูนย์ธุรกิจพาณิชยนาวี และจัดตั้งเป็นสถาบันการศึกษาศูนย์ฝึกอบรมด้านพาณิชยนาวี โลจิสติกส์ แปลงที่ 2  บริเวณอาคารทวิช สำนักแพทย์และอนามัย จำนวน 54 ไร่ จะบริหารเป็นศูนย์โลจิสติกส์ แปลงที่ 3 บริเวณตลาดคลองเตย ถึงอู่รถ ขสมก. จำนวน 137 ไร่ จะบริหารเป็นศูนย์การค้า และแปลงที่ 4บริเวณคลังสินค้าผ่านแดน จำนวน 15 ไร่ จะใช้เป็นอาคารสำนักงาน    แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าตามที่คณะอนุกรรมการได้รับมอบหมายและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้นำเสนอให้ผู้บริหารการท่าเรือฯและบอร์ดพิจารณาสำหรับเป็นแนวทางการพัฒนาเท่านั้น โดยจัดเป็นโซนหลักๆดังนี้คือ โซนของกทท.จะนำไปพัฒนาเองประมาณ 600 ไร่ โซนจัดสร้างที่อยู่อาศัยรองรับชุมชนคลองเตย ประมาณ 123 ไร่ โซนสร้างศูนย์ราชการ ประมาณ 100 ไร่ และโซนการพัฒนาช่วงตลาดเก่าคลองเตยประมาณ 300-350 ไร่    "โซนการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่จะให้เป็นไปในรูปแบบคลองเตยนิวซิตี้นั้นจะเร่งผลักดันให้สามารถตอกเสาเข็มในปลายปีหน้า ส่วนโซนศูนย์ราชการจะจัดสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยระบบขนส่งมวลชน ทั้งทางบก ทางรางและทางน้ำเข้าถึงอย่างสะดวก มีการจัดพื้นที่ก่อสร้างริเวอร์ฟรอนต์ปาร์คประมาณ 100 ไร่ ตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมศูนย์ประชุม และจัดพื้นที่โมเดิร์นพอร์ทซิตี้ประมาณ 350 ไร่ ขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวด้วย สิ่งสำคัญต้องมีการขุดคลองและพัฒนาคลองเตยให้สามารถถ่ายเทน้ำให้มีความสะอาด จัดให้มีพื้นที่สีเขียวเพื่อให้เป็นจุดสำคัญของเมืองรองรับการย้ายศูนย์ราชการมาอยู่ในพื้นที่แห่งนี้เอาไว้ด้วย"    ด้านแหล่งข่าวระดับสูงสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงกรณีการขึ้นป้ายคัดค้านการย้ายทำเนียบรัฐบาลและศูนย์ราชการมาไว้ในพื้นที่ท่าเรือคลองเตยว่าเป็นการแสดงความเห็นของพนักงานเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดผลกระทบเพราะไม่มีความชัดเจนในภาคปฏิบัติว่าการท่าเรือฯจะกระทบอย่างไรบ้าง มีเพียงข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆเท่านั้น     เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะย้ายการท่าเรือกรุงเทพไปอยู่แหลมฉบัง ซึ่งนั่นหมายถึงว่าพนักงานจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้บริหารระดับสูงควรรีบออกมาแสดงความชัดเจน"ขณะนี้มีปัญหากรณีที่ผู้บริหารกทท.ฟ้องพนักงานว่าให้การเท็จต่อศาลอาญาใต้ จำนวน 20 คดีในปี 2555   และยังจะเตรียมฟ้องอีก 50 คดีในปีหน้า"    แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าขณะนี้คดีการฟ้องร้องต่อกันระหว่างผู้บริหารกทท.กับพนักงานกำลังส่อเค้าบานปลาย โดยเริ่มจากเมื่อปี 2545 ที่ฟ้องพนักงานกว่า 400 คนที่ต้องการให้ปรับค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้สูงขึ้นตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งต่อมาศาลแรงงานพิพากษาให้ฝ่ายพนักงานเป็นฝ่ายชนะ และสั่งให้การท่าเรือฯจ่ายเงินชดเชย ทั้งนี้งวดแรกต้องจ่าย 24 ล้านบาท งวดที่ 2 จ่ายอีก 13 ล้านบาท และงวดที่ 3 ต้องจ่าย 316 ล้านบาท  โดยขณะนี้กทท.อยู่ระหว่างการอุทธรณ์  ดังนั้นแผนการพัฒนาย่านท่าเรือคลองเตยของผู้บริหารการท่าเรือฯที่อ้างว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลคงไม่ราบรื่นแน่ๆ หากจ้องจะฟ้องร้องข่มขู่พนักงานที่เรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:46:22

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีครับ พี่ๆ น้าๆ ปิ๊งๆๆ เบียร์ขึ้นราคาแบบนี้ ปีนี้ได้จิบชา แกล้ม ทะเลหมอกซะแล้ว จากคุณ : Nat_YFS2011 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 08:49:28

ความคิดเห็นที่ 27 จะจิบได้รึเปล่า ถ้าไปอยู่ทะเลหมอกของอุทยาน “หมอสมาน” สวนกลับ อธิบดีกรมอุทยานฯ ห้ามดื่มเหล้าในอุทยานฯ เหตุผิด กม.2 ฉบับ ระบุ กม.เปิดช่องยกเว้นสำหรับเจ้าหน้าที่อุทยานดื่มได้ในบ้านพักส่วนตัว แต่บ้านพักนักท่องเที่ยว เต็นท์ ที่ให้บริการพักไม่รวมด้วย ชี้ ตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ ห้ามนำเครื่องดื่มมึนเมาเข้ามาอยู่แล้ว เช่นนี้ก็ถือว่าผิดแต่ต้น ทั้ง จนท.และนักท่องเที่ยว             กรณี นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศชัดให้นักท่องเที่ยวสามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาภายในอุทยานแห่งชาติ ได้ แม้จะมีกฎระเบียบห้ามนำเข้าก็ตาม โดยขอให้ดื่มได้เฉพาะในบ้านพักนั้น             วันนี้ (26 ธ.ค.) นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า กรมอุทยานฯ มีประกาศสำนักนายกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ว่าด้วยห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปภายในอุทยานแห่งชาติ หากฝ่าฝืนมีความผิดจำคุก 1 เดือน และปรับ 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหมายความว่า เป็นกฎหมายตั้งแต่ต้น การจะอนุญาตให้ดื่มย่อมทำไม่ได้ เพราะมีกฎหมายอยู่แล้ว หากจะทำต้องแก้กฎหมายใหม่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด ย่อมมีความผิดตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มีโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ             ทั้งนี้ นอกจากความผิดตามกฎระเบียบของกรมอุทยานฯ แล้ว ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอกลอฮอล์ พ.ศ.2551 ว่าด้วยการห้ามจำหน่ายห้ามดื่มในสถานที่ต้องห้าม ซึ่งในที่นี้ คือ สวนสาธารณะของทางราชการ กล่าวคือ อุทยานแห่งชาติ จัดเป็นหน่วยงานของรัฐ  โดยได้ทำการจัดสถานที่ให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มีการเปิดพื้นที่ให้กางเต็นท์ เปิดสถานที่พวกน้ำตกให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำ ฯลฯ  ดังนั้น จึงถือว่าเข้าข่ายการควบคุมตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ โดยหากมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีความผิดตามมาตรา 27 และหากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะของราชการจะมีความผิดตามมาตรา 31  โดยทั้งหมดมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ             “เว้นแต่บ้านพักของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานฯ จะอนุญาตให้ดื่มได้ เนื่องจากระเบียบตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ระบุชัดว่า หากเป็นสถานที่ราชการให้ดื่มได้ในบ้านพักส่วนบุคคล คือ เจ้าหน้าที่  ซึ่งในส่วนของสำนักงานอุทยานฯ จะดื่มได้เฉพาะบ้านพักเจ้าหน้าที่ แต่หากเป็นบ้านพักนักท่องเที่ยวที่กรมอุทยานฯ เปิดบริการให้เช่าพักนั้น ไม่รวมอยู่ด้วย” นพ.สมาน กล่าวและว่า เนื่องจากการจัดบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ถือว่าเป็นบ้านพักส่วนบุคคล จึงไม่อยู่ในข้อยกเว้น แต่ในข้อเท็จจริงไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม ถือว่าผิดตั้งแต่ต้น เนื่องจากตามระเบียบ พ.ร.บ.อุทยานฯ ได้ห้ามนำเข้ามาภายในอุทยานฯอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือเจ้าหน้าที่ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:01:42

ความคิดเห็นที่ 28 ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเช้านี้โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังจากที่เงินเยนอ่อนตัวลงต่ำสุดในรอบ 27 เดือน ดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.3% ที่ระดับ 128.81 จุด ณ เวลา 9.32 น.ตามเวลาโตเกียว ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 10,295.26 จุด เพิ่มขึ้น 64.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,705.46 จุด เพิ่มขึ้น 164.28 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,634.19 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,979.46 จุด ลดลง 2.79 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,182.55 จุด เพิ่มขึ้น 1.74 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 5,835.62 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดวันนี้ที่ 1,673.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.74 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,636.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.80 จุด หุ้นมาสด้า มอเตอร์ คอร์ป ทะยาน 3.2% และหุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ บวก 1.6% ขณะที่หุ้นเอสเค เทเลคอม ร่วงลง 4.7% เงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากที่นายชินโสะ อาเบะ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าเขาจะกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมและใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ นักวิเคราะห์กล่าวว่า สัญญาณใดก็ตามที่บ่งชี้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นชุดใหม่โดยการนำของนายอาเบะจะกดดันให้มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ถือเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้นักลงทุนเทขายเงินเยน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:09:59

ความคิดเห็นที่ 29 นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า หนี้สินของรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มขึ้นถึงระดับ 16.4 ล้านล้านดอลลาร์ในวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดที่รัฐบาลกลางกำหนดไว้ นายไกธ์เนอร์ระบุในจดหมายที่ยื่นต่อบรรดาผู้นำสภาคองเกรสว่า "อีกไม่นานกระทรวงการคลังจะเริ่มใช้มาตรการพิเศษบางอย่างตามกฎหมายเพื่อเลื่อนกำหนดเส้นตายเป็นการชั่วคราว มิฉะนั้นสหรัฐจะต้องผิดนัดชำระหนี้" รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวเสริมว่า มาตรการดังกล่าวอาจทำให้สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้อีกราว 2 แสนล้านดอลลาร์ และยืดเวลาให้รัฐบาลได้อีกประมาณ 2 เดือน อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนอย่างมากหากนโยบายภาษีและค่าใช้จ่ายปี 2556 ไม่ได้รับการแก้ไข หรือที่เรียกว่าภาวะหน้าผาการคลังแล้ว คงไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามาตรการข้างต้นจะได้ผลนานแค่ไหน ทั้งนี้ หากประธานาธิบดีบารัค โอบามา และสภาคองเกรส ประสบความล้มเหลวในการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังก่อนสิ้นปีนี้ มาตรการลดการใช้จ่ายและการขึ้นภาษีวงเงินรวม 6 แสนล้านดอลลาร์จะมีผลบังคับใช้พร้อมกันโดยอัตโนมัติในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:12:31

ความคิดเห็นที่ 30 ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ และธุรกิจเพื่อการปฏิรูป มหาวิทยาลัยรังสิต  เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจฯ คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี พ.ศ. 2556 จะอยู่ที่ระดับ 5.5-6.5% โดยที่อุตสาหกรรมที่น่าจะสดใสและมีการขยายตัวในระดับสูงในปี พ.ศ. 2556 ได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง โดยแนวโน้มการผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ในปีหน้า คาดว่าจะยังขยายตัวได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ นโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนทางด้านการบริหารจัดการน้ำ ขณะที่ตลาดส่งออกยังคงมีการขยายตัวดี ขณะที่ อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ การขยายตัวของเมืองและการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเกิดตามเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพและชานเมือง และตามโครงข่ายคมนาคม รถไฟความเร็วสูงในต่างจังหวัด ส่วน อุตสาหกรรมเหล็ก แนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กในปี พ.ศ. 2556 ยังขยายตัวดีจากภาคก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่เหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น เหล็กทรงแบน เหล็กรีดเย็นรีดร้อน เหล็กเคลือบสังกะสี ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ แม้นนโยบายรถคันแรกจะหมดอายุแล้วแต่ยังมีรถยนต์จำนวนมากยังรอส่งมอบช่วงไตรมาสแรกปี 2556 อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ความสะดวกในการท่องเที่ยวต่อเนื่องไปยังประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนส่งผลกระตุ้นให้การท่องเที่ยวเติบโตสูงขึ้นอีก อุตสาหกรรมบริการทางการแพทย์ การเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์ทางการแพทย์ หรือ Medical Hub ทำให้มีการขยายตัวของกิจการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอย่างต่อเนื่อง “อุตสาหกรรมการเงิน การขยายตัวของสินเชื่อของระบบธนาคารเพิ่มขึ้นโดยรวมไม่ต่ำกว่า 12-14% ขณะที่กระแสเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดการเงินในเอเชียรวมทั้งไทย ทำให้ธุรกรรมและธุรกิจทางการเงินขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก และ ทำให้ตลาดการเงินอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ขึ้นได้”?นายอนุสรณ์ ระบุ ด้านอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์ ไทยได้ประกาศจะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางด้านการพิมพ์ จึงทำให้ผู้ประกอบการเริ่มวางแผนขยายธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาลงทุนของบริษัทต่างชาติ นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังรุกเข้าไปขยายธุรกิจและการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านอินโดจีนซึ่งยังมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยภาพรวมอุตสาหกรรมนี้ในปี พ.ศ. 2556 จึงยังมีแรงกระตุ้นให้ขยายตัวได้ในระดับสูงต่อไป ส่วนอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ในปี พ.ศ. 2556 คาดว่าจะมีการเติบโตเพียงร้อยละ 3-4 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2555 อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตร้อยละ 3 และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ร้อยละ 12 เนื่องจากมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นและประเทศคู่แข่งได้แย่งตลาดส่งออกบางส่วนไปจากการที่ไทยประสบปัญหามหาอุทกภัยช่วงปลายปี พ.ศ. 2554 และไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามคำสั่งซื้อ จึงทำให้สูญเสียธุรกิจบางส่วนไป อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ในปี พ.ศ. 2556 จะขยายตัวในระดับปานกลางและขึ้นอยู่กับการขยายตัวและอุปสงค์ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องและอุตสาหกรรมปลายน้ำทั้งหลาย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมอาหาร มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง การส่งออกเพิ่มขึ้นจากพื้นที่เพาะปลูกและการผลิตอาหารในบางพื้นที่ของโลกได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และ ราคาสินค้าเกษตรโดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น อุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวต่ำหรือทรงตัว ประกอบด้วยอุตสาหกรรมที่จะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงจากปีที่แล้ว ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นผลจากการอิ่มตัวของอุปสงค์ภายในที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากนโยบายรถคันแรกและในปี2556 ตลาดรถยนต์ภายในประเทศอาจจะหดตัว อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตจะถูกโอนมาผลิตเพื่อการส่งออกจึงทำให้ในภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงสามารถขยายตัวเป็นบวกได้โดยมีการคาดการณ์ว่า จะสามารถผลิตรถยนต์ได้ที่ระดับ 2,500,000 คัน ส่วนอุตสาหกรรมสิ่งทอ และ อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนัง ได้รับผลกระทบจากค่าแรงขั้นต่ำ300บาทต่อวัน ทำต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ประเทศคู่แข่งมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ทำให้อุตสาหกรรมนี้ในปีหน้ามีแนวโน้มทรงตัว อุตสาหกรรมไม้และเฟอร์นิเจอร์ มีแนวโน้มเติบโตเพียงเล็กน้อยในปี พ.ศ. 2556 เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดหลักอย่างยุโรป และ สหรัฐอเมริกาลดลง ความต้องการภายในเองก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ตลาดใหม่ในแถบเอเชียมีความต้องการเพิ่มขึ้นบ้างแต่ยังไม่สามารถชดเชยความต้องการจากตลาดหลักเดิมได้ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:15:49

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีครับ ทุกๆท่าน ท่าทางวันนี้ ตลาดท่าจะเงียบ เหงา       จากคุณ : มารหุ้นแสวงพ่าย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:26:12

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีค่ะคุณใหญ่. คุณฮะ คุณพันเกลียว คุณมาร์Nat. คุณมารหุ้น คุณจุ๊กกุ๊ก คุณหมูแดง. คุณตำลึงและเพือ่นๆห้องปิ๊งๆๆๆที่กำลังจะเข้ามาทุกๆท่านนะคะ ^^ จากคุณ : พรุ่งนี้ทำงานอีกวันค่ะ. ^^ (joyly_polly) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:31:18

ความคิดเห็นที่ 33 อาหารเช้าหายยยย ลงใหม่นะคะ ^^ จากคุณ : joyly_polly เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:36:19

ความคิดเห็นที่ 34 ส่วนใหญ่คนเริ่มหยุดยาวกันแล้วมั้งคะ ^^ จากคุณ : joyly_polly เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:38:41

ความคิดเห็นที่ 35 เด็กนักเรียนบางที่หยุดยาวกันจนถึงปีใหม่เลย คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บอร์ดบีโอไอ) เห็นชอบให้ผ่อนผันการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนออกไปอีก 2 ปี โดยจะสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.57 แต่จะต้องเสนอแผนลดการใช้แรงงานต่างด้าวให้บีโอไอพิจารณาภายในวันที่ 28 ก.พ.56 และหากไม่สามารถทำตามแผนจะถูกเพิกถอนสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ พร้อมอนุมัติขยายเวลาให้ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปอีก 2 ปี โดยขยายพื้นที่ให้ส่งเสริมครอบคลุมถึงจังหวัดสตูล และพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ดบีโอไอที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน ได้พิจารณานโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนหลายเรื่อง ซึ่งมีมติทั้งการขยายเวลาการให้ส่งเสริมออกไปอีก และมีมติให้บางมาตรการสิ้นสุดลงตามเดิมคือสิ้นปี 2555 ประกอบด้วย เรื่องการผ่อนผันการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจะสิ้นสุดการผ่อนผันเดิมลงในวันที่ 31 ธ.ค.55 ที่ประชุมฯ มีมติว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการยังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานไทย จึงเห็นควรให้ขยายเวลาการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือของบริษัท 101 รายที่เคยได้รับการผ่อนผันออกไปอีกไม่เกิน 2 ปี และจะเป็นการผ่อนผันครั้งสุดท้ายโดยจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.57 โดยผู้ที่จะขอผ่อนผันใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือจะต้องเสนอแผนการลดใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือแบบขั้นบันไดตามเงื่อนไขที่กำหนด และต้องเสนอแผนดังกล่าวให้บีโอไอพิจารณาภายในวันที่ 28 ก.พ.56 ทั้งนี้ ผู้ขอผ่อนผันจะต้องลดการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือร้อยละ 25 จากจำนวนแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงแรงงานทุกๆ 6 เดือน จนไม่มีการใช้แรงงานต่างด้าวตามระยะเวลาที่ให้ส่งเสริมคือ นับตั้งแต่ 1 ม.ค.58 เป็นต้นไป หากบริษัทไม่สามารถลดการใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือได้ตามแผนซึ่งได้รับอนุมัติจะถูกตัดสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในปีนั้นๆ เรื่องต่อมามีมติให้ขยายเวลาส่งเสริมลงทุน 3 จังหวัดชายแดนใต้อีก 2 ปี และขยายพื้นที่ครอบคลุม จ.สตูล และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอเทพา ออกไปอีก 2 ปี โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.57 ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีพื้นที่ติดกันให้ดีขึ้นตามไปได้ด้วย ทั้งในเรื่องการค้า และการจ้างงาน โดยสิทธิประโยชน์สำหรับกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว อาทิ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปีโดยไม่จำกัดวงเงิน หักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา 2 เท่า เป็นระยะเวลา 15 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มมีรายได้จากกิจการที่ได้รับส่งเสริม เป็นต้น ที่ผ่านมา มาตรการดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ค่อนข้างน้อย โดยตั้งแต่ปี 2547 — ตุลาคม 2555 มีโครงการได้รับส่งเสริมการลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 16 โครงการ เงินลงทุนรวม 2,623 ล้านบาท นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังพิจารณาเรื่องมาตรการด้านภาษีอากรเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย และมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับส่งเสริมการลงทุนที่ประสบอุทกภัยให้ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรที่นำเข้ามาทดแทนเครื่องที่เสียหายจากอุทกภัย ซึ่งจะสิ้นสุดระยะเวลาให้ส่งเสริมในวันที่ 31 ธ.ค.55 โดยที่ประชุมฯ มีความเห็นให้มาตรการดังกล่าวสิ้นสุดตามระยะเวลาที่กำหนด คือ 31 ธ.ค.55 เนื่องจากมีบริษัทที่ได้รับผลกระทบยื่นขอรับส่งเสริมและได้รับอนุมัติเป็นจำนวนมาก อีกทั้งกิจการที่ประสบอุทกภัยก็ได้ฟื้นตัวจนน่าพอใจ ส่วนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมให้นำเข้าเครื่องจักรมาทดแทนเครื่องที่เสียหายก็สามารถดำเนินการผลิตได้หมดแล้ว สำหรับสถิติการให้ส่งเสริมตามมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย มาตรการด้านภาษีอากรเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัยมีผู้ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 190 โครงการ เงินลงทุนรวม 139,819 ล้านบาท และมีผู้ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมแล้วจำนวน 127 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 77,617 ล้านบาท ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับส่งเสริมการลงทุนที่ประสบอุทกภัยให้ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรที่นำเข้ามาทดแทนเครื่องที่เสียหายจากอุทกภัย มีผู้ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมจำนวน 475 โครงการ มูลค่าเครื่องจักรที่นำเข้ามาทดแทนเครื่องที่เสียหาย 108,878 ล้านบาท ด้านนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเรื่องการขยายเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับแม่พิมพ์ ซึ่งตามกำหนดเดิมจะสิ้นสุดระยะเวลายกเว้นในวันที่ 31 ธ.ค.55 โดยที่ประชุมฯ เห็นว่า ปัจจุบันแม้อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ในประเทศไทยจะมีการยกระดับมากขึ้น แต่การผลิตแม่พิมพ์เป็นงานที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ขณะที่การผลิตแม่พิมพ์ในประเทศยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการได้ทั้งหมด และยังมีความจำเป็นต้องนำเข้าอยู่ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อการผลิต นอกจากนี้ อัตราอากรขาเข้าสำหรับแม่พิมพ์บางรายการยังสูงถึงร้อยละ 10 ที่ประชุมฯ จึงเห็นควรให้ขยายเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับแม่พิมพ์เป็นเวลา 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.56 เฉพาะรายการที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ สำหรับมาตรการอื่นๆ ที่จะสิ้นสุดระยะเวลาให้ส่งเสริมในวันที่ 31 ธ.ค.55 เช่นกัน ได้แก่ มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ต่ออายุมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.56 โดยกำหนดว่า หากเป็นโครงการลงทุนใหม่จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขเดิม หากเป็นการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อการประหยัดพลังงานหรือการใช้พลังงานทดแทน หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ร้อยละ 50 ของมูลค่าเงินลงทุนไม่รวมที่ดินและทุนหมุนเวียน จากเดิมที่เคยได้รับยกเว้นร้อยละ 70-100 ขณะที่มาตรการส่งเสริมการลงทุนให้บริษัทที่ได้รับส่งเสริมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ต่ออายุมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 1 ปี หรือสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.56 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:58:42

ความคิดเห็นที่ 36 *NWR -นสพ.รายงาน ชูคอกลุ่มกองทุนฝรั่งดอดเก็บหุ้นเข้าพอร์ตแถมรายใหญ่ในประเทศเคาะซื้อ เบียดขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ มั่นใจกำไรปี 2556 ก้าวกระโดด กินรวบซับคอนแท็กงานภาครัฐ จัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และสปีดเทรน 4.5 แสนล้านบาท *PRIN -*นสพ.รายงาน คลอดแผนปี 2556 ตั้งเป้ากวาดรายได้โต 3 พันล้านบาท พร้อมตั้งงบซื้อที่กว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่ส่องรายได้จากยอดโอนปีนี้แตะ 2.6 พันล้านบาท พร้อมโชว์แบ็กล็อกในมือกว่า 1.8 พันล้านบาท *SORKON -นสพ.รายงาน สยายปีกบุกห้างดังหลายแห่งผุดสินค้าใหม่ อาหารจานเดี่ยว-อาหารจีน พร้อมเล็งขยายโรงงานเพิ่มตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 15% จากปีนี้ พ่วงยอดขายโตแตะระดับกว่า 2 พันล้านบาท ส่วนปีนี้โค้งท้ายผลงานพีคสุด เหตุเข้าไฮซีซัน *SORKON -นสพ.รายงาน สยายปีกบุกห้างดังหลายแห่งผุดสินค้าใหม่ อาหารจานเดี่ยว-อาหารจีน พร้อมเล็งขยายโรงงานเพิ่มตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 15% จากปีนี้ พ่วงยอดขายโตแตะระดับกว่า 2 พันล้านบาท ส่วนปีนี้โค้งท้ายผลงานพีคสุด เหตุเข้าไฮซีซัน *TTCL -นสพ.รายงาน มั่นใจผลงานไตรมาส 4/2555 ยังโตต่อเนื่อง หลังเตรียมรับรู้รายได้อีก 15% จาก Backlog ที่มีอยู่กว่า 2.1 หมื่นล้านบาท พร้อมวางแผนยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมปีหน้า แย้มกำลังคุยกับพันธมิตรเพื่อลุยงานโรงไฟฟ้า *MCOT -นสพ.รายงาน จ่อปรับค่าโฆษณาปีหน้า 9-25% ช่วงกลางวัน ข่าวภาคค่ำ ช่วงเวลาหลังข่าว (Primetime) และช่วงเสาร์-อาทิตย์ หนุนปรับกำไรในปี 2556 และ 2557 จะถูกขึ้นราว 5-7% *THAI -นสพ.รายงาน คมนาคมจี้ THAI จัดระดับธุรกิจ แบ่งกลุ่มลูกค้า "การบินไทย-นกแอร์-ไทยสมายล์" ชี้ปัจจุบันบทบาทแต่ละสายการบินยังไม่ชัดเจน พร้อมสั่งเร่งปรับบริการเตรียมรับเปิด AEC คาดมีผู้โดยสารเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นจำนวนมาก ฟากโบรกมองไตรมาส 1/2556 ไฮซีซันธุรกิจ *BAFS -นสพ.รายงาน ปรับยุทธศาสตร์ ลุยปรับโครงสร้าง "บริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ" เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อแปลงหนี้เป็นทุน พร้อมออกหุ้นสามัญ 27.85 ล้านหุ้น ด้านนักวิเคราะห์เล็งปรับประมาณการกำไรสุทธิของ BAFS เพิ่มขึ้นหลังการเติบโตของปริมาณเติมน้ำมันปี 2556 เพิ่ม *QLT -นสพ.รายงาน จ่อควักกำไรสะสม 100 ล้านบาทจ่ายเงินปันผลมากกว่า 50% ผู้บริหารชี้ทิศทางธุรกิจยังโตได้อีกมาก พร้อมเผยปีหน้ารุกรับงานมาร์จิ้นสูงหวังดันรายได้เติบโต 10% ปัจจุบันกอด Backlog ราว 250 ล้านบาท *AEONTS -นสพ.รายงาน วางเป้ารายได้ปี 2556 โตระดับ 10% ขอรอดูเอฟเฟ็กต์จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก่อนทบทวนตัวเลขผลประกอบการปีหน้าอีกครั้ง ขณะที่ไตรมาส 4/2555-56 ยังมั่นใจกำไรเดินหน้าทำนิวไฮต่อเนื่อง หลังประชาชนยังใช้เงินมือเติบช่วงเทศกาลปีใหม่ *PHOL -นสพ.รายงาน  ฟันธงกำไรไตรมาส 4/2555 พลิกกำไร หลังยอดยอดพุ่งกระฉูด พร้อมควักงบ 10 ล้านบาท ปรับปรุงสาขาระยอง-เชียงใหม่ เชื่อโกยยอดขายเพิ่มหลักสิบล้านบาท ปักธงปี 2555 รายได้ตามฝันพุ่ง 20% จากปีก่อนที่ 723.14 ล้านบาท หลังออเดอร์ทะลักอื้อ *CMO -นสพ.รายงาน สดใสผลงาน Q4/2555 มีแววโตเหนือ 20% จาก Q3/2555 ที่มีรายได้ราว 177 ล้านบาท อานิสงส์ Backlog จ่อบุ๊กตรึม ด้านซีอีโอ ย้ำชัดปีนี้รายได้ตามฝัน 1.1 พันล้านบาท หลังงานทะลักต่อเนื่อง *กลุ่มธนาคารพาณิชย์ -นสพ.รายงาน รายงานสินเชื่อถึงเดือนพ.ย. ตัวเลขเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.3% เผยทิสโก้ และแบงก์กรุงศรีฯ เติบโตมากสุด รับยอดขายรถยนต์คันแรก โบรกฯ มองสินเชื่อปี 56 ยังมีทิศทางที่ดีรับเศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่ง *SAT -นสพ.รายงาน การันตีรายได้ปี 2555 โตทะลัก 48% ดันกำไรสูงสุดประวัติการณ์ “วีระยุทธ" ย้ำอุตสาหกรรมยานยนต์ปีหน้ายังขาขึ้น หนุนรายได้เพิ่มขึ้นอีก 10-15% วงการมองกำไรปีนี้ 875 ล้านบาท *MJD -นสพ.รายงาน ปีหน้าสดใสรายได้ส่อแววโตเท่าตัวกว่า 5,000 ล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 2,721 ล้านบาท หลังมีแบ็กล็อกรอรับรู้รายได้ 7,000 ล้านบาท ส่วน Q1/56 เล็งผุดคอนโดและคลับเฮ้าส์ ย่านรามคำแหงมูลค่า 3,000 ล้านบาท *GRAMMY -นสพ.รายงาน ภาพรวมงวดปี 2555 ธุรกิจเพลงของบริษัทยังมีแนวการเติบโตได้ดี และมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 30% ของยอดรายได้รวมบริษัท โดยปัจจุบันธุรกิจเพลงของ GRAMMY ประกอบไปได้ การจำหน่ายสินค้าเพลง (Physical Products) การจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ การจำหน่ายสินค้าเพลงในรูปแบบดิจิตอล และการจัดการแสดง *OISHI -นสพ.รายงาน แคมเปญ“รวยซ้ำรวยซ้อน" ดันยอดขายเพิ่มขึ้นราว 20 ล้านขวดต่อเดือน ส่วนกำลังการผลิตเครื่องดื่มเต็ม 100% มองไตรมาส 4/55 ดี แม้การแข่งขันในตลาดมากขึ้น *กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง -นสพ.รายงาน “พฤณฑ์"เร่งโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์  เชื่อได้ประกวดราคาเส้นทางแรก บางปะอิน-นครราชสีมา ภายในปีงบประมาณ 56 พร้อมสั่งการปรับป้ายบอกทางและสัญญาณต่างๆ ให้เป็นสากล เตรียมรองรับเปิด AEC ปี 58 *LOXLEY -นสพ.รายงาน บอร์ดสลากฯ ขอเวลา 6 เดือนแก้ พ.ร.บ.สลากกินแบ่งปี 2517 ให้ทันสมัยรองรับการขายหวยออนไลน์ นำเงินรายได้ไปช่วยเหลือสังคม ระบุผู้เสียประโยชน์มีแต่เจ้ามือใต้ดินและยี่ปั๊วสลากกินแบ่งฯ แต่คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ทั้งคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในสังคม *HEMRAJ -นสพ.รายงาน บริษัท เหมราชระยอง ที่ดิน อุตสาหกรรมบริษัทย่อยของบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท ระยอง 2012 ที่มีที่ดินใน จ.ระยอง กว่า 2,000 ไร่ เพื่อใช้ที่ดินในการดำเนินธุรกิจของบริษัทโดยใช้เงินลงทุน 1,211 ล้านบาท *TH -นสพ.รายงาน แจงตลาดหลักทรัพย์ขายหุ้นพีพีให้ 8 นักลงทุนรายใหญ่ 250 ล้านหุ้นถือเป็น กลุ่มทุนที่มีศักยภาพและวิสัยทัศน์ รวมทั้ง ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้บริษัทไม่ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาในการขายหุ้นครั้งนี้แต่อย่างใด *กลุ่มสื่อสาร -นสพ.รายงาน บอร์ด กสทช.ได้ผ่านมติอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบใหม่ เป็นร้อยละของรายได้ในลักษณะขั้นบันได เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้รับใบอนุญาตทุกราย จากเดิมที่เป็นการคิดค่าธรรมเนียมแบบเหมาจ่ายมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2556 เป็นต้นไป *SITHAI -นสพ.รายงาน ในปี 2556 บริษัทวางเป้าหมายรายได้แตะ 9,500 ล้านบาท และยังมองว่ามีโอกาสเติบโตถึง 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมีแนวโน้มขยายตัวสูงมากบริษัทจึงหันมาให้ความสำคัญกับการขยายการผลิตผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มมากขึ้นให้สอดคล้องสภาพตลาด *SCC -นสพ.รายงาน เอสซีจีเคมิคอลส์เชื่อทิศทางราคาปิโตรเคมีปีหน้าดีกว่าปีนี้ ทำให้ยอดขายปี 56 สูงขึ้นแม้ว่าจะมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงมาบตาพุดโอเลฟินส์ 45 วันก็ตาม แต่จะมีกำลังการผลิตเสริมเข้ามาเล็กน้อย มั่นใจปีหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนามมีความชัดเจนมากกว่านี้ *CAWOW -นสพ.รายงาน สมาชิกกลุ่มผู้เสียหายแคลิฟอร์เนีย ฟิตเนส ร้องสภาทนายความ ขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย หลังถูกยกเลิก เบี้ยวค่าสมาชิก จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:00:05

ความคิดเห็นที่ 37 TISCO Market Insight : บทวิเคราะห์กลยุทธรายวัน สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +3.91 จุด ได้แรงหนุนจาก LTF & RMF ตลาดหุ้นไทยยังแกว่งกรอบแคบ เนื่องจากตลาดหุ้นตปท.หลายแห่งยังคงปิดทำการ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ดี SET สามารถขยับขึ้นต่อได้เป็นวันที่ 3 จากแรงหนุนของเม็ดเงิน LTF & RMF ไหลเข้า  ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย 169 ลบ. แต่ทั้งเดือน ธ.ค. (MTD) ยังมียอดซื้อสุทธิ 1.89 หมื่นลบ.  ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งแคบ ให้น้ำหนักอิงทางแดนบวก (บาง ๆ) หุ้นโลกจะกลับมาเปิดทำการตามปกติในวันนี้ (27 ธ.ค.) หลังหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาส ส่วนเมื่อคืน (26 ธ.ค.) ตลาดหุ้นอเมริกาติดลบเล็กน้อย กังวล Fiscal Cliff ใกล้ถึงกำหนดเส้นตาย จับตาสภาคองเกรสหาทางออก Fiscal Cliff ในการประชุมวันที่ 27 ธ.ค. นี้ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดบวกเล็กน้อย นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังเงินเยนเทียบกับดอลลาร์ฯ อ่อนค่าสุดในรอบ 16 เดือน คาด SET ยังแกว่งกรอบแคบ แต่ให้น้ำหนักอิงทางแดนบวก แนวต้าน 1385-90 แนวรับ 1375+/-  กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นขาย-ลงซื้อไปก่อน รอ Fiscal Cliff ชัดเจน ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ จะเป็นช่วงฤดูกาลที่ฝรั่งชะลอการลงทุน และนลท.ในปท.โดยเฉพาะสถาบัน (LTF & RMF ไหลเข้า) จะเป็นผู้กำหนดทิศทางตลาด  แนะนำแบ่งพอร์ตเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ซึ่งเป็นส่วนใหญ่แนะนำถือรอลุ้น Fiscal Cliff มีทางออกทันก่อนสิ้นปี และลุ้นผลกระทบ January Effect ในเดือนหน้า (เรามองมีโอกาสเกิด 80%) หุ้นใหญ่พื้นฐานดีที่เราชอบ คือ ADVANC, BAY, BTS, CPALL, CPF, INTUCH, KBANK, KK, TCAP, PTT  สำหรับการเล่นเทรดดิ้งระยะสั้น ขึ้นขาย-ลงซื้อ แนะนำหุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก AH, CYBER, RML, STANLY   หุ้นเด่นเล่นสั้น : BAY , CPALL BAY – รายงานสินเชื่อเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 16.8% YoY และ 12.3% YTD เติบโตโดดเด่นสุดในกลุ่มแบงก์เนื่องจากสินเชื่อรถยนต์ขยายตัวแข็งแกร่งและดีลการขายหุ้นของ GE ใกล้ได้ข้อสรุป หลัง MUFG และ CIMBT สนใจซื้อกิจการ ทำให้เป็นตัวปลดล็อดราคาหุ้น BAY มูลค่าเหมาะสม 38 บาท (GGM)  CPALL – มั่นใจผลประกอบการ 4Q55F โตสูงเป็นประวัติการณ์จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น, ฐานที่ต่ำในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และการจัดโปรโมชั่น ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในปี 56 ยังแข็งแกร่ง จากการบริโภคในปท.และการลดภาษี อีกทั้งเป็นหุ้นที่กองทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจมาก  ปัจจัยติดตาม วันที่ ปท. เหตุการณ์ 27 ธ.ค. FR ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของฝรั่งเศสในเดือน ธ.ค. IT ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของอิตาลีในเดือน ธ.ค. US สภาคองเกรสนัดหารือกรณี Fiscal Cliff US ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. 28 ธ.ค. TH ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) และอัตราการใช้กำลังการผลิตของไทยในเดือน พ.ย. TH ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ย. JP ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย. JP ตัวเลขอัตราการว่างงานของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย. FR ตัวเลข GDP ของฝรั่งเศสในไตรมาส 3/55 (สุดท้าย) SP ตัวเลขยอดค้าปลีกของสเปนในเดือน พ.ย. US ตัวเลขยอดขายบ้านรอปิดการขายของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. US ตัวเลขดัชนีชี้ภาวะธุรกิจเขตชิคาโก (Chicago Purchasing Manager) ของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค.  IT ประมูลพันธบัตรอิตาลี ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:01:36

ความคิดเห็นที่ 38 หยิบเงินหยิบทอง : บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง กลยุทธ์วันนี้ 1385/1390 ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดบวกเป็นวันที่ 3 อีก 3.91 จุด ทะลุแนว 1380 จุดมาอยู่ที่ 1,382.23 จุด แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายเพียง 24,453 ล้านบาท กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุน แม้ว่าจะขายสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันที่ 2 อีก 169 ล้านบาท Short สุทธิใน Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 533 สัญญา แต่กลับมาซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ 425 ล้านบาท ภาพการลงทุนวันนี้ MBKET ประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ไว้ที่ 1,380 – 1,390 จุด ทั้งนี้แนวต้านบริเวณ 1,385/90 จุดอาจเป็นเพียงการทดสอบระหว่างชั่วโมงการซื้อขายเท่านั้น เว้นเสียจากว่าจะมีพัฒนาการเชิงบวกต่อการเจรจาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโอบามา กลับเข้าทำงานตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 26 ธ.ค.ประเด็นนี้ถือว่ามีน้ำหนักมากที่สุดในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ และเป็นตัวชี้นำทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ และการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเดือนม.ค.เช่นกัน ระหว่างนี้คาดว่าเงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุน ขณะที่เม็ดเงินจาก LTF/ RMF จะเป็นตัวแปรผลักดัน SET INDEX ให้ขยับขึ้นสู่แนว 1,390+/- ในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม การเก็งกำไรระยะ 2 วันทำการต่อกรณีการปรับดัชนี SET50 – SET100 เชื่อว่าจะยังทำงานได้แข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยของ SET INDEX MBKET แนะนำให้ “ถือพอร์ตหุ้น 65% และเงินสด 35%” เพื่อรอจังหวะขายทำกำไร 1,390+/- จุด กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: MBKET แนะนำ “ถือพอร์ต 65% และเงินสด 35%” พร้อม “ทยอยสะสม” TCAP / LPN กลยุทธ์ทางเลือกวันนี้(S50H13): MBKET แนะนำ “พอร์ตเล่นรอบรายวัน การย่อระหว่างวันเป็นโอกาสเปิด Long Stop loss< 935 จุด Portfolio   HOLD: VNT/AMATA/ MAJOR/ SPCG/ SMT/ BTS/ PJW/ IRPC/ TPIPL/ RCI/ MK/ INET/ BCP/ BBL/ KTB/ BAY/ KK/PTTGC/ QH/ MFEC/ LOXLEY/ TRUE/ SIMAT/ KCE/ TCAP Accumulative Buy: TCAP/ LPN Technical View แนวรับ 1375 +/- และ 1360 +/-  จุด แนวต้าน 1385 +/- และ 1400 +/- จุด การดีดตัวขึ้นมาทดสอบแนว 1385 +/-  จึงเป็นโอกาสในการแบ่งขายทำกำไรสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ขายในครั้งก่อน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:02:32

ความคิดเห็นที่ 39 วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : บมจ.ไทยออยล์ " ราคาน้ำมันขึ้นกว่า 2% เชื่อสหรัฐฯ แก้ไข fiscal cliff ได้ และอากาศที่หนาวขึ้นในสหรัฐฯ " เบรนท์ส่งมอบ ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 2.27 ปิดที่ 111.07 เหรียญฯ และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 2.37 ปิดที่ 90.98 เหรียญฯ + นักลงทุนมีความคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะมีบทสรุปเกี่ยวกับมาตราการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังได้ทัน โดยสภาผู้แทนราษฎรจะกลับมาประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้งในวันนี้ (วันพฤหัสบดี) ซึ่งเชื่อว่าจะหาวิธีหลีกเลื่องมาตรการขึ้นภาษีและลดรายจ่ายที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. นี้ได้ + Commodity Weather Group คาดว่าอากาศในสหรัฐจะหนาวกว่าปกติไปอีก 10 วัน ซึ่งจะทำให้ความต้องการใข้น้ำมันดีเซลเพื่อทำความร้อนของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในระยะนี้ + สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ออกมากล่าวว่าได้จับคุมผู้ก่อการร้ายกลุ่มเล็กๆ ของชาวอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบีย ซึ่งวางแผนที่จะโจมตีทั้งสองประเทศและประเทศอื่นๆ โดยสองประเทศนี้เป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก ซึ่งแรงตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นประเด็นที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบอยู่ + แรงซื้อทางเทคนิคกลับเข้ามาในตลาด หลังราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวสูงขึ้นเหนือกรอบค่าเฉลี่ย 100 วันเป็นครั้งแรกหลังนับจากเดือนต.ค. + นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ณ วันที่ 21 ธ.ค. 55 จะปรับลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการนำเข้าที่ปรับลดลง ประกอบกับโรงกลั่นพยายามให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของตัวเองอยู่ระดับต่ำในช่วงสิ้นปี ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีโรงกลั่นในภูมิภาคปิดซ่อมบำรุงหลายแห่งในต้นปีหน้า อย่างไรก็ตามมีการขนย้ายน้ำมันเบนซินจากสหรัฐฯ มายังภูมิภาค ส่งผลให้อุปทานตึงตัวน้อยลง ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในช่วงวันหยุดวันคริสต์มาส ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ เบรนท์ 105 -112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 85 - 92 เหรียญฯ คาดว่าราคาจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในช่วงวันหยุดวันคริสต์มาส จับตามองการจัดการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีหลังช่วงวันหยุด ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพฤหัส: ยอดขายบ้านใหม่ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจและยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ความรู้สึกของผู้บริโภคฝรั่งเศส วันศุกร์: ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอการปิดขายสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตเมืองชิคาโก ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตยูโรโซน จีดีพีไตรมาส 3 และการใช้จ่ายของผู้บริโภคฝรั่งเศส วันอาทิตย์: ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตจีน โดย HSBC - ความคืบหน้าเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) ของสหรัฐฯ ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี ซึ่งหากไม่สามารถหาข้อสรุปได้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 56 จะมีความเสี่ยงที่จะถดถอยและอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ - ติดตามผลการเจรจาครั้งใหม่ระหว่าง IAEA และอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ในวันที่ 16 ม.ค. 56 อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมภายในเดือน ก.พ. ปี 56 อาจส่งผลให้การเจรจาดังกล่าวล้มเหลว - จับตาการเปิดใช้ส่วนต่อขยายของท่อส่งน้ำมัน Seaway Pipeline ในช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่จะทำให้กำลังการขนส่งรวมเพิ่มเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน จาก 150,000 บาร์เรลต่อวัน ในปัจจุบัน และจะทำให้การขนส่งน้ำมันออกจากจุดส่งมอบน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสบริเวณคุชชิ่ง โอกลาโฮมาไปยังโรงกลั่นในบริเวณรัฐเท็กซัสเพิ่มมากขึ้น จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:03:22

ความคิดเห็นที่ 40 นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้น่าจะแกว่งกรอบแคบแต่ให้น้ำหนักอิงแดนบวกมากกว่าแต่บวกไม่มากเพราะตลาดยังคงรอว่าปัญหา Fiscal Cliff จะมีทางออกอย่างไร  ซึ่งวันนี้สภาคองเกรสจะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปเรื่องงบประมาณสหรัฐ ตลาดจึงยังคงไม่ไปไหนไกล แต่ข้อดีตลาดหุ้นไทยเรื่องแรงซื้อกองทุน LTF-RMF ยังคงหนุนตลาดอยู่แต่คงไม่มีอิทธิพลเท่ากับเม็ดเงินของต่างชาติ ช่วงนี้ชะลอการลงทุนเป็นช่วงฤดูกาล "มองดัชนีวันนี้แกว่งกรอบแคบคล้ายเมื่อวาน หลายตลาดกลับมาเปิดทำการปกติในวันนี้"นายอภิชาติ กล่าว ปัจจัยอื่นที่สำคัญวันนี้ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าสุดในรอบ 16 เดือน ช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นขึ้นมาและนำตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย มองกรอบแนวต้าน 1,385-1,390  จุดแนวรับ 1,375 จุด ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน : - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(26 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,114.59 จุด ลดลง 24.49 จุด(-0.19%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,419.83 จุด ลดลง 6.83 จุด(-0.48%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,990.16 จุด ลดลง 22.44 จุด(-0.74%) - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 64.90 จุด ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.79 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.80 จุด ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.74 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.74 จุด ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 164.28 จุด - ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(26 ธ.ค.)1,382.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.91 จุด(+0.28%) - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 171.28 ล้านบาท เมื่อ 26 ธ.ค.55 - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(26 ธ.ค.)ที่ 90.98 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.37 เซนต์ หรือ 2.7% - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(26 ธ.ค.) ปิดที่ 5.66 เหรียญฯ/บาร์เรล - เงินบาทเปิด 30.64/66 ทรงตัว นักลงทุนรอดูผลแก้ปัญหา fiscal cliff - เอกชนระบุรัฐเตรียมประกาศผังเมืองใหม่ "เขาใหญ่" เป็นปัจจัยเร่งให้เอกชนเดินหน้าขอใบอนุญาตและลงทุนก่อนมีผลบังคับใช้ ผังเมืองโคราชย้ำ ช่องว่างกฎหมายเร่งเอกชนแห่ขึ้นโครงการใหม่ ชี้ปีหน้าแข่งเปิดอีกระลอก หลังปีนี้ 5 เดือน เปิดรวดเดียว10 โครงการ หอการค้าอีสานคาดปี 2556 อสังหาฯ ปากช่องโตก้าวกระโดด ขณะที่ราคาที่ดินพุ่งพรวดแล้วกว่า 10 เท่าตัว - "พาณิชย์" หวังยอดส่งออกเดือนธ.ค. ดันส่งออกทั้งปีโต 5% เผยยอดส่งออกเดือนพ.ย. อยู่ที่ 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26.86% ยอดรวม 11 เดือน มูลค่า 2.11 แสนล้านดอลลาร์ ขยายตัว 2.32% เผยตลาดหลักเดือนพ.ย. เริ่มกระเตื้องขยายตัวเพิ่ม 20-30% - ไทย-กัมพูชา เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมสองประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มการค้า 30% พร้อมใช้"ซิงเกิลวีซ่า" 27 ธ.ค.นี้นำร่องก่อนเปิดเออีซี ขณะที่แอตต้ามั่นใจท่องเที่ยวขยายตัว ทั้งสองประเทศได้ประโยชน์ร่วมกัน - สศค.ปรับคาดการณ์จีดีพีปีนี้เพิ่มเป็น5.7%จาก 5.5% ส่วนปีหน้าลดลงเหลือ 5% จับตาปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจปีหน้า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการเคลื่อนย้ายเงินทุน ขณะที่ฐานะแบงก์รัฐยังแกร่ง จากระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ 10.2% ขณะที่ระดับหนี้เสียมีเพียง 4.5% - นายบุญชัย โชควัฒนา สว.สรรหา และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล มอง ตลอดปี 2555 ที่ผ่านมา นักธุรกิจอึดอัดเพราะสถานการณ์มีปัญหาและกำลังซื้อในตลาดมีไม่มากนัก เชื่อว่าเกิดจากความไม่มั่นใจของนักลงทุน ทั้งการเมือง ข้าวของราคาแพง และความหวาดกลัวจะเกิดอุทกภัยขึ้นอีก แม้ตัวเลขกำลังซื้อหรือการลงทุนจะเป็นบวก แต่ผู้ประกอบการไม่ได้เชื่ออย่างนั้น *หุ้นเด่นวันนี้ -BBL(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)ส่งออก พ.ย.โตต่อเนื่องสูงถึง 26.86% แม้ว่าฐานของการคำนวณในช่วงเดียวกันของปีก่อนจะต่ำ เนื่องด้วยผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมก็ตาม แต่หากประเมินจาก mom พบว่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 0.2% mom ในเดือนพ.ย. และเชื่อว่าจะยังเห็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องในเดือนสุดท้ายของปีนี้เช่นกัน สะท้อนกลับมายัง Trade Finance ของธนาคารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ BBL จะขยายตัวในอัตราเร่ง และเป็นตัวแปรที่ผลักดันการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ - CK เป้า 114 บาท, STEC เป้า 28 บาท(กรุงศรี)รับผลดีรัฐบาลจะทบทวนปรับวงเงินก่อสร้างเส้นทางมอเตอร์เวย์ใหม่เส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา และ บางใหญ่-กาญจนบุรี และมีโอกาสสูงที่จะชนะประมูลกลุ่มงานก่อสร้างประเภทนี้ รวมถึงงานโครงการรถไฟฟ้าและรถไฟรางคู่ที่จะเปิดประมูลในปี 56 เช่นกัน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:07:00

ความคิดเห็นที่ 41 ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันจันทร์ ทำอะไรไม่ค่อยมั่นใจ คิดวนไปวนมา และตัดสินใจไม่ลงมือทำในสิ่งที่คิดไว้ การงานมีปัญหาบ้างแต่สามารถก้าวผ่านไปได้  การเงินมีผู้อุปถัมภ์ ไม่ขัดสน และมีโอกาสได้รับเงินก้อนใหญ่แต่ได้มาแล้วก็ใช้จ่ายในทันที การลงทุนที่มีสีเขียวมาข้องเกี่ยวด้วยจะได้รับผลตอบแทนดีมาก และยังได้รับวัตถุมงคลจากหญิงผู้มียศมีตำแหน่งด้วย วันนี้เพื่อนๆ ไม่มีเวลาให้มากนัก ทุกคนกำลังเร่งรัดงานของตัวเอง ส่วนคนรักก็อยากไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงมากกว่าถูกบังคับให้ไปร่วมงานกับคุณ สีเขียว ขาว และชมพู เสริมโชคลาภ ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันอังคาร ช่วงเช้าออกจะรู้สึกเบื่อๆ นั่งคิดแต่เรื่องเก่าในอดีตที่ผ่านมา และยังไม่มีการเตรียมการหรือวางแผนที่จะทำอะไร การเงินสะพัด ใช้จ่ายเพื่อการเดินทางหรือซื้อสิ่งของเครื่องใช้ราคาแพง การลงทุนเสียหายในช่วงแรกแต่จะกำไรดีในภายหลัง ความหวังเรื่องบ้านหรือรถยนต์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ กิจการที่เกี่ยวข้องต่างประเทศต้องเจรจาใหม่อีกครั้ง ความรักอาจมีปากเสียงกันบ้างแต่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ สีฟ้าเสริมบารมี การติดต่อเจรจาสำเร็จได้ง่าย ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันพุธ คนรักหรือคนในครอบครัวมีเรื่องมาให้ปวดหัวแต่เช้า การติดต่อเพื่อดำเนินการบางเรื่องให้เขาหรือเธอไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ต้องใจเย็นๆ ระวังจะไปมีปากเสียงกับผู้ที่ไปติดต่อ วันนี้มีหลายสิ่งที่ต้องจัดการทำด้วยตัวเองทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว แต่ต้องเลือกทำให้จบเป็นเรื่องๆ ไป การเงินที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย การลงทุนไม่ควรเสี่ยงเพราะไม่มีสมาธิในการจะคิดหรือมองหาทางเลือกที่ดี หลีกเลี่ยงสีเขียว เหลือง แดง ฟ้า และน้ำเงิน ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี ต้องคิดและตัดสินใจทุกเรื่องด้วยตัวเอง ทำให้กังวลและลังเลใจมาก ทุกเรื่องจะผ่านไปอย่างราบรื่นหากคุณมีความเชื่อมั่นในการกระทำของตัวเอง ไม่ควรคิดวนไปวนมากับเรื่องเดิมๆ ควรให้จบไปแล้วเริ่มต้นใหม่ การเงินไม่ขัดสน การลงทุนมีผู้ให้การสนับสนุน การสังสรรค์กินเที่ยวกับเพื่อนดูจะเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกเฮฮากับชีวิตในวันนี้ สีฟ้าและขาว ทำให้ได้รับความเมตตาและความช่วยเหลือจากผู้อื่น ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันศุกร์ การจัดการเรื่องการเงินทำให้ปวดหัวพอสมควร ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ทุกคนกำลังจับตาดูความยุติธรรมของคุณอยู่ วันนี้หนีไม่พ้นกับการถูกนินทาหรือพูดพาดพิงลับหลัง ไม่ควรไปใส่ใจหรือเอาเรื่องกับคนเหล่านั้นจะทำให้อารมณ์ขุ่นมัวเปล่าๆ จะได้รับข่าวดีในเรื่องหน้าที่การงานที่ทำให้รู้สึกกังวลใจ การเดินทางในวันนี้ไม่มีความพร้อมสักเท่าไร ควรวางแผนใหม่ ระวังสุขภาพบริเวณหน้าอกและท้อง อาจต้องไปพบแพทย์ หลีกเลี่ยงสีขาวและแดงที่จะทำให้ปวดหัวมากยิ่งขึ้น ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันเสาร์ ช่องทางที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ยังไม่มี การติดต่อเจรจาเรื่องงานหรือการทำงานที่คั่งค้างให้แล้วเสร็จไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ วันนี้ทำอะไรไปวันๆ โดยไม่มีจุดหมายปลายทาง ใช้ชีวิตสนุกสนานไปกับงานรื่นเริงสังสรรค์ การลงทุนต้องมองหาจังหวะและโอกาสดีๆ กำไรที่ได้น้อยมาก การเงินจ่ายไปกับสิ่งของจุกจิกที่ไม่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงสีเขียวเพราะจะทำให้พบกับเรื่องหนักๆ ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกไม่เหมือนใครของคุณทำให้ได้รับรางวัลบางอย่าง สิ่งที่คิดจะทำให้ดำเนินต่อไปจะได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือทั้งจากเจ้านาย ลูกน้อง และเพื่อน การงานสำเร็จราบรื่นด้วยดี การเงินต้องพิถีพิถันในการใช้จ่ายอย่างมาก ระวังจะใจอ่อนยอมควักกระเป๋าจ่ายแทนผู้อื่น การลงทุนต้องดูข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ มิเช่นนั้นจะพลาดพลั้งแทนที่จะได้กลับเสีย ความรักราบรื่นมีความสุข หลีกเลี่ยงสีขาว จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:08:22

ความคิดเห็นที่ 42 ธนาคารกรุงไทย(KTB) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 26 ธ๊นวาคม 2555 ธนาคารขายหุ้นบริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด จำนวน 67.75 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ให้แก่บริษัท กรุงไทย ร่วมทุน จำกัด ซึ่งธนาคารถือหุ้นร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท  ในราคาขาย 56.59 บาทต่อหุ้น (ตามมูลค่า Book Value ของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555) มูลค่ารวม 3,834 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นของธนาคารในบริษัทให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ประกันชีวิต พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม) บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติแผนการเสนอขายหุ้นใหม่ของบมจ.อมตะ วีเอ็น แก่ประชาขนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) ซึ่งปัจจุบัน อมตะวีเอ็นอยู่ในระหว่างเตรียมความพร้อมที่จะนำหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของอมตะ วีเอ็น โดยลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 0.50 บาท พร้อมทั้งอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของอมตะ วีเอ็นจำนวน 75,885,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 384,315,000 บาท เป็น 460,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 151,370,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนทั่วไป กรรมการและพนักงานของอมตะ วีเอ็นและบริษัทย่อย ภายใต้โครงการ Employee Stock Option Program และกรรมการและฝ่ายยบริหารของบริษัทในลักษณะการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่บุคคลในวงจำกัด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของบมจ. ฟินันซ่า (FNS) โดยนายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 24/12/2555 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 9.46% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 14.82% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:19:19

ความคิดเห็นที่ 43 - ใกล้ถึงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่วันนี้ ทางกรมทางหลวงชนบทได้จัดงานปล่อยขบวนรถอำนวยความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2556 เพื่อร่วมรณรงค์ "ก้าวสู่ปีใหม่อย่างปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ" และเพื่ออำนวยความสะดวกปลอด ภัยให้กับผู้ใช้ทางหลวงชนบทในช่วง 7 วันอันตราย (27 ธันวาคม 2555-2 มกราคม 2556) โดยปีนี้มีการตั้งเป้าหมายไม่ให้มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว เทียบกับปีก่อนที่มียอดผู้เสียชีวิตรวม 15 ราย - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับภาคเอกชนจัดโครงการถนนปลอดภัย ดูแลคุณทุกการเดินทาง เพื่อร่วมกันรณรงค์ลดการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2555 ถึงวันที่ 2 ม.ค. 2556 ซึ่งเป็นช่วง 7 วันระวังอันตราย - ด้านตำรวจทางหลวงได้มีการเตรียมมาตรการการดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงกว่า 2,000 นาย ประจำจุดบริการทั่วประเทศกว่า 230 จุด ในแต่ละเส้นทาง พร้อมเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือในกรณีต่างๆ - องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดทำแผนปฏิบัติการเดินรถในช่วงปีใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชน พร้อมแผนรณรงค์ลดอุบัติเหตุ และเพื่ออำนวยความสะดวกโดยในเส้นทางปกติได้เพิ่มจำนวนรถ เที่ยววิ่ง การเปลี่ยนกะพนักงาน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2555-2 ม.ค. 2556 - วาระงานวันนี้ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงปฏิบัติภารกิจที่เชียงใหม่ โดยในช่วงเช้าเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแนวทางการพัฒนาพื้นที่ภาคเหนือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มภาคเหนือตอนบน 1 และ 2 และภาคเอกชน ในเรื่อง “การพัฒนาภาคเหนือตอนบนในภาพรวม” ณ ห้องดวงตะวัน แกรนด์ บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมเซ็นทารา ดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย - นาย กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล - ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับตำรวจทั่วประเทศและผู้ว่าฯ 4 จังหวัดภาคใต้ ในการแก้ปัญหาภาคใต้ - นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล - พล.อ.พฤณฑ์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม เป็นประธานเปิด"ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ (เฉพาะกิจ)" ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารฯ (หมอชิตใหม่) - พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556  ห้องประชุม 352 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย - ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ตรวจกำลังพลเจ้าหน้าที่เทศกิจและหน่วยแพทย์ตามแผนดูแลการรักษา ความสงบเรียบร้อย และการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 ท้องสนามหลวง - ในวันนี้จะมีผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553 ในกลุ่มผู้บาดเจ็บจำนวน 19 ราย เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในคดีพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกาย จะจัดพนักงานสอบสวน 19 ชุดเพื่อสอบปากคำผู้เสียหายทันที ขณะที่ในช่วงบ่ายวันเดียวกันก็นัดประชุมร่วมพนักงานสอบสวน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ดีเอสไอ อัยการ และตำรวจ เพื่อสรุปความเห็นกรณีแจ้งข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) - ศาลอาญาและอัยการนัดนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพวกอีก 6 คน ส่งฟ้องกรณีบุกทำเนียบรัฐบาล และบุกล้อมสภา เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2551 เวลา13.00 น. ศาลจะนัดชี้ชะตานายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) - วันนี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จะเปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ ให้ทหารข้าราชการระดับสูง และนักการเมืองเข้าอวยพรปีใหม่ น่าสนใจตั้งแต่ว่าจะมีคนในพรรคเพื่อไทยถือคติปรองดองเข้าไปเยี่ยมป๋าเปรมที่บ้านหรือไม่ และป๋าจะฝากอะไรถึงคนไทยในปีใหม่ปีนี้ - สถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับ องค์กรเครือข่าย จัดสัมมนา ร่างรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ครั้งที่ 4 หัวข้อ "สิทธิและเสรีภาพ : ช่องว่างระหว่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญกับความเป็นจริง" ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์ - การประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะพิจารณากระทู้ถามทั่วไป โดยมีกระทู้ที่น่าสนใจเรื่อง การนำนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล ของนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ - ประเด็นทางเศรษฐกิจวันนี้ นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม จะแถลงดัชนีอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. 2555 พร้อมสรุปภาพรวมภาวะอุตสาหกรรมของอุตสาหกรรมสาขาต่างๆ ของไทยในปี2555 และแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมรายสาขาในปี 2556 เพื่อให้รับทราบทิศทางการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต - ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) จัดแถลงข่าวกลยุทธ์สายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการปี 2556 ที่ ห้องสุขสามัคคี ชั้น 8 ธนาคารกสิกรไทย พหลโยธิน - สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะที่โรงแรมสุโกศล เรื่องการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง หรือกิจการโทรทัศน์หลังจากบอร์ด กสทช.มีมติเห็นชอบร่างระเบียบดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.พ.ปีหน้า - กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเอ็มเอฟซี อินดัสเตรียล อินเวสเมนท์ เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 27 ธ.ค. นี้" - สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แถลงข่าว"แนวโน้มภาระหนี้สาธารณะในอนาคต" ที่ห้องกมลมาร์ท ชั้น 6 โรงแรมเดอะสุโกศล (สยามซิตี้ เดิม) จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:21:47

ความคิดเห็นที่ 44 กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส - วันนี้สหรัฐเจรจา fiscal cliff อีกครั้ง - สภาผู้แทนฯญี่ปุ่นแต่งตั้งอาเบะเป็นนายกรัฐมนตรี - ราคาทองคาดผันผวนมากขึ้น ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบทางเทคนิค แม้ว่าตลาดการเงินของสหรัฐและหลายประเทศจะกลับมาเปิดทำการหลังจากปิดการซื้อขายเทศกาลคริสต์มาส แต่ด้วยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่กลับเข้ามาลงทุนเนื่องจากบางส่วนรอติดตามประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ ในช่วงการซื้อขายกลางคืนราคาทองคำมีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ราคาขึ้นไปที่บริเวณแนวต้าน 1,665-1,670 ดอลลาร์ แต่มีแรงเทขายช่วงท้ายตลาด วันนี้วุฒิสภาของสหรัฐจะเปิดประชุมอีกครั้งหลังจากปิดการประชุมในช่วงเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องหน้าผาทางการคลังอยู่ในวาระการประชุม แต่อาจมีการพูดคุยระหว่างตัวแทนจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันกันอย่างไม่เป็นทางการเพื่อหาข้อยุติให้ได้ก่อนสิ้นปี ส่วนสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐนั้น ยังคงต้องติดตามว่าจะมีการนัดประชุมกันก่อนสิ้นปีหรือไม่ ดังนั้นรายงานข่าวต่างๆที่อาจมีออกมาในช่วงนี้จึงอาจทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นลงในกรอบที่กว้างขึ้น ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิค ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากช่วงต้นสัปดาห์มากนัก การเคลื่อนไหวยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวรับและแนวต้านเพื่อรอปัจจัยเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ หากยังไม่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจา คาดว่าราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ หากราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับ 1,650 ดอลลาร์และ 1,636-1,640 ดอลลาร์ยังสามารถซื้อเก็งกำไรการดีดตัวกลับ และควรทยอยขายลดความเสี่ยงหากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,665-1,670 ดอลลาร์ หากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ คาดว่าราคาทองคำคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนก.พ.56 Close   chg.  Support        Resistance 24,360  +50   24,200/24,000  24,400/24,500 หากยังไม่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจาแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ การเคลื่อนไหวของราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวระหว่าง 1,650-1,665 ดอลลาร์ นักลงทุนอาจซื้อขายตามกรอบแนวรับและแนวต้านดังกล่าว การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่ยังแนะนำรอให้ราคาทองคำปรับฐานมาที่แนวรับ 1,650 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนที่บริเวณ 1,636-1,640 ดอลลาร์ ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนก.พ.56 Close  chg.  Support  Resistance 923    +1    910/900  930/950 ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 29.50-30.80 ดอลลาร์ นักลงทุนอาจซื้อขายตามกรอบแนวรับและแนวต้านดังกล่าว แนะนำเปิดสถานะซื้อในช่วงที่ราคาปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 29-50-29.60 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนในกรณีที่ราคาโลหะเงินปรับตัวลงต่ำกว่า 29.50 ดอลลาร์ กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส Price Movement: ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,659.76 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.77 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,650 — 1,667 ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ในช่วงแรกราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความหวังว่า ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐว่าจะตกลงกันได้ โดยปธน.โอบาม่าจะเดินทางกลับจากหยุดพักผ่อนเร็วขึ้นเพื่อพิจารณาในเรื่อง Fiscal Cliff อย่างไรก็ตามมีแรงขายออกมาในช่วงท้ายตลาดทำให้ราคาทองคำปิดบวกได้เพียงเล็กน้อย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศออกมาค่อนข้าง mixed และทำให้ราคาทองคำผันผวนในระหว่างการซื้อขายเมื่อวาน ได้แก่ ยอดค้าปลีกในช่วงเทศกาลซื้อของขวัญก่อนคริสต์มาสต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตซับไพร์ม ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดมาก ส่วนปริมาณอุปสงค์ อุปทานของทองคำในช่วงนี้ Trader ได้ลดสถานะซื้อลง ส่วนอุปสงค์ทองคำในตลาด Physical ในลักษณะช้อนซื้อทองคำในช่วงอ่อนตัวมีเข้ามาบ้าง คาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวระหว่าง 1,636 — 1,675 ไปจนกระทั่งถึงสิ้นปี ส่วนแนวรับในวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,640/1,636 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,665/1,675 แนะนำ นักลงทุนปิด Short เมื่อราคาทองคำลงมาใกล้แนวรับ และเปิด Long เล่นรอบใหม่ Technical Analysis: ภาพกราฟในราย 240 นาที ราคาทองคำแกว่งตัวออกทางด้านข้าง ภาพกราฟในรายสัปดาห์หากสร้างฐานเหนือ 1,636 ได้คาดว่าในสัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าวันนี้แนวรับในวันนี้คาดว่ามีที่บริเวณ 1,640/1,636 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,665/1,675 แนะนำ นักลงทุนปิด Short เมื่อราคาทองคำลงมาใกล้แนวรับ และเปิด Long เล่นรอบใหม่ ส่วนนักลงทุนระยะกลาง — ยาว สะสม Long บริเวณแนวรับ Key Point in Precious Market: ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD ทรงตัว (+/ - ) ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น ( + ) การลด Position ของนักลงทุนในช่วงปลายปี ( - ), ความไม่แน่นอนในเรื่อง Fiscal Cliff ( +/- ) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ออกมาดี ( - ) ฟิทช์?เตือนสหรัฐอาจสูญ?เสียอันดับ?เครดิต ( + ) ประเด็นที่ต้องติดตาม การแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐ การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์ เดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. วันศุกร์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนธ.ค. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending home sales) เดือนพย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ SPDR ถือทองจำนวน 1,350.82 ตัน ราคาโลหะเงินปิดที่ 29.97 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 29.84 — 30.20 USDต่อออนซ์ มีราคาทรงตัว ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวน 10,045.85 ตัน ภาพกราฟในรายวันถ้าราคาสร้างฐานเหนือแนวรับบริเวณ 29.6 ได้มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์หน้า คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 29.8 / 29.6 ส่วนแนวต้านบริเวณ 30.2 / 30.6 แนะนำ สะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:27:09

ความคิดเห็นที่ 45 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น US$1.07 มาปิดที่ระดับ US$1,659.36 ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากความหวังของนักลงทุนต่อการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff โดยทั้ง 2 พรรคการเมืองอาจเจรจาตกลงได้ก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และ 4.3% เมื่อเทียบรายปีสะท้อนการฟื้นตัวของตลาดบ้านสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 9 สัปดาห์จากความหวัง Fiscal Cliff และยังเป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นทำให้มีความต้องการน้ำมัน Heating Oil พุ่งสูงขึ้น ค่าเงินเยนเทียบดอลล่าร์สหรัฐฯยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงหลังนายกญี่ปุ่นกดดันให้ BOJ ผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น ค่าเงินบาทช่วงเช้า (10.00 น.) ทรงตัวใกล้ระดับ 30.65 บาทต่อดอลล่าร์ SPDR รายงานการถือครองทองคำที่ระดับ 1,350.82 ตัน คงที่ โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนธันวาคม 2555 (GFZ12) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 24,130 บาท (สัญญาซื้อขายเดือนธันวาคม GFZ12, GF10Z12 หมดอายุวันที่ 27 ธันวาคม) แนะนำลงทุนสัญญาเดือนกุมภาพันธ์ GFG13, GF10G13 ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 24,050 บาท ราคาเสนอขาย 24,150 บาท คงที่ แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า หลังช่วงวันหยุดคริสต์มาสการประชุมหารือประเด็น Fiscal Cliff จะกลับมามีความเข้นข้นมากขึ้นเนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ทำให้ช่วงนี้ตลาดจะกลับมามีความผันผวนอีกครั้งหลัง หากสหรัฐฯไม่สามารถเลี่ยงการเกิดภาวะหน้าผาทางการคลังจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯที่กำลังฟื้นตัว จับตานโยบายการเงินญี่ปุ่นหลังว่าที่นายกกดดัน BOJ มากขึ้นในการผ่อนคลายนโยบายการเงินพร้อมปรับเพิ่มอัตราเงินเฟ้อของประเทศ GT Wealth Management ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,654 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,663 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.64 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,000 บาท กับ 24,100 บาท และกลับมาปิดที่ 24,050 บาท กับ 24,150 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 1,781 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,342 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 4 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.7 % แบบ 10 บาท ลดลง 0.4 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 1% GFZ12 ปิด 24,180 บาท และ GFG12 ปิด 24,360 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,190 บาท GF10G12 ปิดที่ 24,360 บาท SVZ12 เมื่อคืนไม่มีการซื้อขาย สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,660.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 13.8 เซ็นต์ ที่ระดับ 30.035 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,350.82 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิด เพิ่มขึ้น 2.37 เซนต์ ปิดที่ระดับ 90.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 24.49 จุด ปิดที่13,114.59 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 55.3 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ Research News Report: Morning News Bullion Desk, Reuters, Bloomberg และ CNBC - ตลาดทองคำได้ปรับตัวลดลง หลังจากเพิ่มขึ้นในช่วงที่ปริมาณซื้อขายเบาบาง เนื่องจากตลาดลอนดอนปิดทำการ ขณะที่ยังคงจับตา Fiscal Cliff โดยมีสัญญาณว่าอาจจะมีทางแก้ปัญหาในสภา ซึ่งนายโบห์นเนอร์ได้เร่งให้พรรคเดโมแครตออกมาตรการหรือร่างในการแก้ปัญหา ความพยายามครั้งใหม่ของนายโอบามาที่จะแก้ปัญหา Fiscal Cliff เป็นปัจจัยบวกต่อทองคำเมื่อวานนี้ โดยนายโอบามาจะยกเลิกวันหยุดพักผ่อนที่ฮาวาย โดยจะเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันในวันพุธนี้ตามเวลาในสหรัฐ เพื่อหาทางแก้ภาวะหน้าผาการคลังกับสภาคองเกรส - ขณะที่ทองคำที่เคยเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และได้รับแรงกระตุ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ได้เพิ่มความเป็นสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หากมีแนวทางการแก้ปัญหา Fiscal Cliff นักลงทุนบางคนคาดว่าราคาทองคำจะแกว่งในช่วงปัจจุบันจนถึงสิ้นปี และจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ 30 — 40 เหรียญได้ในทั้ง 2 ทิศทาง - นายยุยจิ อิเคมิสุ ผู้จัดการ Standard Bank สาขาโตเกียวกล่าวว่า เขายังมีมุมมองบวกในตลาด แต่ก่อนจะถึงเริ่มต้นปีหน้า ตลาดอาจจะยังได้รับแรงกดดันจากการปิดสถานะ Long อยู่ และในสัปดาห์นี้ราคาน่าจะอยู่ในช่วง 1,640 — 1,670 เหรียญ ทองคำตลาด Tocom ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือน หลังจากเพิ่มความคาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ - ผู้ซื้อขายทองคำกล่าวว่า มีการซื้อทองคำและเครื่องประดับในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตามผู้ซื้อขายในสิงคโปร์กล่าวว่า มีการผลิตไม่เพียงพอในช่วงวันหยุดคริสต์มาส แต่ปริมาณการซื้อขายยังเบาบางในอินโดนีเซียและไทย - RBC Capital Markets กล่าวว่า ตอนนี้กองทุนต่างๆได้ปิดสถานะก่อนสิ้นปี เนื่องจากเหตุผลทางภาษีและการเคลื่อนย้ายการลงทุนไปสู่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า - นายไกธ์เนอร์ เลขาธิการกระทรวงการคลัง ได้เตือนถึงความเสี่ยงของสหรัฐในการผิดนัดชำระหนี้และเขาจะใช้ “มาตรการพิเศษ” เพื่อเลื่อนการผิดนัดชำระหนี้ออกไปเป็นช่วงต้นปี 2013 โดยกล่าวว่าหนี้กำลังแตะระดับเพดานหนี้ในวันที่ 31 ธ.ค.เขาจึงจะกำหนดให้มี 2 แสนล้านดอลลาร์สำรองก่อนจะถึงระดับเพดานหนี้ ซึ่งอาจจะพอใช้ได้เกือบ 2 เดือน และเขาได้กระตุ้นให้รัฐสภาเร่งตกลง Fiscal Cliff ด้วย - จากผลสำรวจของ Gallup ในวันที่ 21 — 22 ธ.ค. เผยว่าชาวสหรัฐมากกว่า 2 ใน 3 (66%) ได้สูญเสียความเชื่อมั่นที่นายโอบามาและรัฐสภาจะสามารถตกลงเรื่อง Fiscal Cliff กันได้ ขณะที่ผลสำรวจครั้งก่อนเมื่อวันที่ 15 — 16 ธ.ค.เผยว่า 57% คาดว่าจะตกลงกันได้ และผลสำรวจล่าสุดยังเผยว่า ชาวสหรัฐส่วนใหญ่ (54%) ได้เพิ่มการสนับสนุนแนวคิดของนายโอบามาและพรรคเดโมแครต เพิ่มจากเดิมที่ 48% - International Council of Shopping Centers (ICSC) และโกลด์แมน แซคส์ เผยดัชนียอดขายของห้างค้าปลีกในสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.7% ในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 22 ธ.ค. เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ถือว่าเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน แต่เมื่อเทียบรายปี อัตราการขยายตัวชะลอลงแตะ 3.2% จากที่ขยายตัว 3.5% ในปีที่แล้ว เพราะในรอบสัปดาห์ดังกล่าวของปีที่แล้วมีวันคริสต์มาสอีฟด้วย - สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เผยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. ส่วนเมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ขยายตัว 4.3% ซึ่งเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ โดยมีแค่ชิคาโกกับนิวยอร์กเท่านั้นที่ดัชนีราคาบ้านลดลงเมื่อเทียบปีต่อปี - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตขยายตัวช้าลงสู่ระดับ 5 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 9 ในเดือนพ.ย. แต่ตัวเลขที่อยู่เหนือ 0 หมายความว่ากิจกรรมภาคการผลิตยังมีการขยายตัว - ผลสำรวจโดยสมาคมธนาคารจีนเผยให้เห็นว่า ผู้บริหารธนาคารจีนเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ โดยคาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ปัจจัยขับเคลื่อนการขยายตัวในอนาคตที่สำคัญ จะได้แก่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการปฏิรูปเชิงระบบ - นายอากิระ อามาริ รัฐมนตรีกระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งเป็นกระทรวงที่จัดตั้งขึ้นใหม่ กล่าวหลังจากได้รับการชี้แนะจากนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่สำนักนายกฯ ในวันนี้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเงินเยนแข็งค่า และภาวะฝืดเคืองเรื้อรังเป็นอันดับแรก นายมอนติจะเสนอผู้ช่วยให้มาเป็นตัวแทนในการเลือกตั้งในเดือนก.พ. เพื่อมาแข่งกับนายเบอลุสโคนี่ที่พยายามจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และนายมอนติได้นัดกับสมาชิกร่วมรัฐบาลในวันนี้เพื่อหารือถึงกลยุทธ์และรายชื่อของตัวแทนในการลงเลือกตั้ง ตัวเลขเศรษฐกิจที่เมื่อคืน - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 361K คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 365K - CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 73.7 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 70.3 - New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 368K คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 382K วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,655-1,665 เหรียญ โดยที่เมื่อวานมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง แต่ราคาสามารถดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,667 เหรียญ โดยประมาณและกลับลงมาใหม่ MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ เพื่อรอข่าว Fiscal Cliff คาดว่าคืนนี้น่าจะมีข่าวบ้าง ในเชิงเทคนิคราคาทองคำมีแนวรับที่ระดับ 1,650 และแนวต้านที่ระดับ 1,670 เหรียญ Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,200 บาท Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,420 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 910 บาท และแนวต้านที่ระดับ 940 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ 1,655 — 1,665 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ยังไม่ทำอะไรรอความชัดเจนทิศทางของตลาด นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังไม่ทำอะไรรอความชัดเจนทิศทางของตลาด Gold Future series Z จะหมดอายุในวันนี้ แนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยน (Roll Over) ไปถือ series G โดยไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่มใน Series ZและหาจังหวะปิดSeries Z ประชาสัมพันธ์ : บริษัทMTS Gold จะมีการออกอากาศในรายการ "รู้ก่อนรวยกว่า" ทางช่อง TNN ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-13.30 น. เริ่มวันอังคารที่ 1 มกราคม 2556 โดยจะพูดถึงสภาพตลาดราคาทองคำอย่างเจาะลึก เพื่อให้ท่านนักลงทุนได้ทราบก่อนใคร บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:45:44

ความคิดเห็นที่ 46 อั้ยย่ะ!! ทำไปได้ งานแถลงข่าวเปิดตัวหนังโรง หนังแผ่นที่ไหนว่าแซ่บ ก็คงไม่แซ่บเกินหน้างานแถลงข่าวโปรโมทดีวีดีหนังสัญชาติอเมริกันเรื่อง "Safe House" หรือ "Dangerous Run" ในประเทศญี่ปุ่นเป็นแน่แท้ เพราะงานนี้พี่ยุ่นเค้าไม่ธรรมดา ถึงกับว่าจ้างนางแบบเอ็กซ์เซ็กซ์เสียว นามว่า "มิซึ ดัน" ที่ไม่ได้มีเอี่ยวกับตัวหนังเลยแม้แต่น้อยมาร่วมโปรโมท โดยช็อตเด็ดที่ทำเอาบรรดาช่างภาพ สื่อมวลชน แทบจะลืมกระพริบตา ก็เห็นทีจะเป็นอีตอนที่นางค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมซานตี้สีแดงที่ห่อหุ่มบิกินีสีดำตัวจิ๋วออก เผยให้เห็นเนินอกขาวๆ ที่เหน็บแผ่นดีวีดีไว้ตรงร่องอก ก่อนจะค่อยๆ เปิดกระโปรงสั่นกุดโชว์จีสตริงแนบเนื้อ กับแก้มก้นที่เพ้นท์ชื่อหนังเป็นภาษาญี่ปุ่นไว้ จนสุดท้ายกระโปรงเจ้ากรรมก็อยู่ในภาวะจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ เพราะมันตกลงมาจากเอวที่ควรจะอยู่จนแทบจะไม่ปกปิดท่อนล่างเลยสักกะนิดเดียว จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:25:34

ความคิดเห็นที่ 47 ใกล้ๆ สิ้นปีสำนักวิจัยเศรษฐกิจต่างๆ จะทำตัวเป็นโหรเศรษฐกิจฟันธงปีหน้าแต่น่าสนใจเมื่อมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) โดย คณิศ แสงสุพรรณ ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ชื่อชั้นระดับซือแป๋เรียกอาจารย์กันทั้งนั้น ออกโรงฟันธงว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวประมาณ 5.2% โดยมีแรงขับเคลื่อนพิเศษจากการใช้จ่ายของภาครัฐโดยเฉพาะแผนเบิกจ่ายตามแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทจะส่งผลขยายตัวระดับ 16.9 ล้านบาท(ยังไม่รวมการลงทุนตาม พ.ร.บ.การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้าน) การส่งออกและบริการขยายตัว 7.3% ภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 6.5% โดยเฉพาะรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน อาหารแปรรูป ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ 3.0-3.5% ตามราคาน้ำมันค่อนข้างทรงตัว ในปี 2556 แม้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจมีโครงสร้างไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2555 มากนัก คือขยายตัว 5.2% และอัตราเงินเฟ้อ 3.5% แต่มีปัจจัยพิเศษคือการลงทุนของภาครัฐตามแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท สำหรับในปีหน้ามีทั้งปัจจัยเสริมและปัจจัยเสี่ยง 3 ประการคือ 1)สถานการณ์เศรษฐกิจโลกค่อนข้างอ่อนไหว เช่น ปัญหา Fiscal Cliff หรือหน้าผาการคลังของสหรัฐ หนี้ยูโรโซน ปัญหาความขัดแย้งเรื่องพรมแดนของประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะจีน เกาหลีเหนือ ญี่ปุ่นทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูง 2)สถานการณ์ความร่วมมือกับเพื่อนบ้านกรณีพม่าเปิดประเทศกลายเป็นปัจจัยใหม่ในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับไทยสูงมาก และ 3) การดำเนินนโยบายของรัฐบาลโดยปรับทิศทางการพัฒนามาสู่การสร้างกำลังให้เศรษฐกิจในประเทศผ่านการสร้างรายได้ให้กับฐานรากเศรษฐกิจจะยังคงเดินหน้าต่อไปในปีที่ 2 ของรัฐบาล ขณะที่มีนโยบายในการปรับโครงสร้างสำคัญโดยเฉพาะการวางมาตรการดูแลครอบครัวเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แปลว่าในปี 2556 รัฐบาลยังคงเดินหน้าประชานิยมและเร่งผลักดันโครงการลงทุน 3.5 แสนล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจแทนรายได้จากส่งออกเนื่องจากตลาดส่งออกสำคัญเผชิญวิกฤต แต่ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ 4 เซียนฟันธงได้ การเมืองต้องนิ่ง งบ 3.5 แสนล้านต้องทำแผนเสร็จตามเป้าที่วางไว้ เป็นที่รู้ๆ กันว่าตอนนี้ไม่เป็นไปตามเป้าเพราะข้าราชการไม่มีความสามารถในการทำแผน ที่สำคัญ โครงการประชานิยมต้องมีประสิทธิภาพ ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น มิเช่นนั้นธงอาจจะหักได้ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:40:57

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีปีใหม่ค่าคุณฮะ_คุณหย๊ายหย่าย_คุณพันเกลียว_คุณตำลึงริมรั้ว_คุณมาร์รูปหล่อ_คุณมารหุ้นแสวงพ่าย_คุณจอยลี่และเพื่อนๆพี่ๆที่น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกทุกท่าน^^ ซาหวักลีปีใหม่งั๊บบบบบบบบบบบบบบบบเอฟวิบอดี้_555 จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:48:06

ความคิดเห็นที่ 49 นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)  เปิดเผยว่า ในปี 56 ธนาคารตั้งเป้ารายได้จากค่าธรรมเนียมเติบโต 26-29% เทียบกับปี 55 ที่คาดว่าเติบโต 26% ขณะที่สินเชื่อรายย่อยคาดว่าเติบโต 10-13% จากปีนี้ เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นค่าแรงงาน 300 บาท/วันที่ช่วยกระตุ้นการใช้ภายในประเทศ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจในประเทศในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตราว 5% ใกล้เคียงกับอัตราเติบโตในปีนี้ กสิกรไทยโชว์ผลงานครองแชมป์ในครึ่งปีหลัง วางแผนครองใจลูกค้าบุคคลด้วยยุทธศาสตร์การเป็น “ไลฟ์สไตล์ แบงกิ้ง” สร้างประสบการณ์ที่ดีในการให้บริการและเข้าถึงการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิตอล เน้น 4 ด้านหลัก ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ บริการ การให้คำปรึกษา และช่องทางสาขา ประเดิมด้วยการเพิ่มศักยภาพช่องทางสาขาให้สามารถใช้บริการได้ทุกที่ทุกเวลาแบบ “ไลฟ์สไตล์ ชาแนล” ด้วยงบกว่า 500 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 56 รับลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 2.6 ล้านราย โตขึ้น 30% นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของสายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการในปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม โดยธนาคารยังครองใจลูกค้าและครองความเป็นอันดับหนึ่งในตลาด ทั้งขนาดกองทุนรวมใหญ่ที่สุด ยอดเบี้ยประกันรับรวมสูงสุด และมียอดรับบัตรจากธุรกิจร้านค้ารับบัตรสูงสุด ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ “บริการทุกระดับประทับใจ” ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับความต้องการและการใช้ชีวิตของลูกค้าเป็นหลัก สำหรับผลการดำเนินงานของสายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลฯ จากประมาณการรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิในปี 2555 มียอดรวมกว่า 17,300 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 26% ซึ่งรายได้ค่าธรรมเนียมหลัก ๆ มาจาก ผลิตภัณฑ์ประกันที่เพิ่มขึ้น 46% ธุรกิจบัตรเครดิตและร้านค้ารับบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 29% โดยยังเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจร้านค้ารับบัตรและยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต่อใบอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้รายได้จากค่าธรรมเนียมจากบัตรเดบิตคาดว่าจะเพิ่มถึง 25%จากการออกบัตรเดบิตใหม่กว่า 3.4 ล้านใบ ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไปพบว่า ปัจจัยด้านการใช้ชีวิตและเทคโนโลยีที่เติบโตก้าวกระโดดเป็นแรงผลักดันสำคัญทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยจะเกิดกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคใหม่ ๆ แตกย่อยลงไปอีก ผู้บริโภคเริ่มมองหาสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วย รวมทั้งมองหาผลิตภัณฑ์และบริการที่พิเศษตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่ม โดยในปี 2556 ธนาคารวางเป้าหมายในการเป็น “ไลฟ์สไตล์ แบงกิ้ง” (Lifestyle Banking) ที่ลูกค้าบุคคลทุกกลุ่มใช้บริการเป็นธนาคารหลัก เน้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้นทั้งในเชิงการให้บริการ (Functional) และความพึงพอใจ (Emotional) ในแบบ “ไลฟ์สไตล์ แบงกิ้ง” เน้นให้ความสำคัญกับการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ Lifestyle Product การออกพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น บัตรคาแรคเตอร์ต่าง ๆ   Lifestyle Advisory สร้างประสบการณ์ที่แตกต่างของบริการที่ปรึกษาด้านการเงินด้วย K-Expert ทีมงานที่ปรึกษาด้านการเงินมืออาชีพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละราย   Lifestyle Channel การพัฒนาศักยภาพช่องทางสาขาให้ลูกค้าใช้บริการของธนาคารได้ทุกที่ทุกเวลา นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงต้นปี 2556 ธนาคารพร้อมเปิดให้บริการรูปแบบใหม่ของ “ไลฟ์สไตล์ ชาแนล” ซึ่งมีกลยุทธ์หลักในการพัฒนาศักยภาพช่องทางสาขา ได้แก่ ความสะดวกสบาย การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ และบริการพิเศษสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยได้จัดรูปแบบสาขา ดังนี้ มินิ ไลฟ์สไตล์ บรานช์ (Mini Lifestyle Branch) บนบีทีเอส 11 สถานี เจาะกลุ่มคนทำงาน เปิดให้บริการในช่วงหลังเลิกงานทุกจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-20.00 น. นอกจากนี้ยังพลิกโฉมสาขาทั่วประเทศด้วยแนวคิด ไลฟ์สไตล์ บรานช์ (Lifestyle Branch) ให้บริการเชื่อมต่อโลกออนไลน์เพื่อการค้นหาข้อมูลในสาขาของธนาคารทั่วประเทศ และ ธีมเมทิก ไลฟ์สไตล์ บรานช์ (Thematic Lifestyle Branch) ซึ่งเป็นสาขาที่ครบครันด้วยบริการด้านไลฟ์สไตล์ โดยจะพร้อมเปิดให้บริการสาขาแรกกลางปี 2556 ที่สำนักงานพหลโยธิน และตามด้วยสาขาที่ The Embassy ในปลายปี ทั้งนี้ ธนาคารจะใช้งบประมาณในการพลิกโฉมสาขาในรูปแบบต่าง ๆ รวมกว่า 500 ล้านบาท โดยปีหน้าจะเพิ่มสาขาทั่วประเทศเป็น 975 สาขา และตู้เอทีเอ็มกว่า 8,300 ตู้ ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วประเทศเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการธนาคารได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งช่องทางการติดต่อหลากหลายทั้งศูนย์บริการลูกค้าและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ นายปกรณ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ไลฟ์สไตล์ แบงกิ้ง จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการของธนาคาร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการด้านการเงินมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ตามกลุ่มลูกค้าที่สาขา ทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ว่าธนาคารเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถเสริมให้กสิกรไทยเป็น ธนาคารที่ลูกค้าบุคคลทุกกลุ่มใช้บริการเป็นธนาคารหลัก ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย และจะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าใหม่โตอีก 30% เพิ่มอีก 2.6 ล้านรายในปี 2556 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:49:52

ความคิดเห็นที่ 50 แก่เอ๊ย!!โตขึ้นอีกปีแล้วเรา.. จากคุณ : 555 (จุ๊กกุ๊กจัง) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:52:54

ความคิดเห็นที่ 51 ทศกาลปีใหม่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน หลายครอบครัวเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามแหล่งท่องเที่ยวหรืออาจกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด ดังนั้น หัวใจสำคัญของการเดินทางคือต้องเช็กเส้นทางให้พร้อมก่อนล้อหมุน เพื่อไม่ให้เสียเวลาและป้องกันอุบัติเหตุช่วงเดินทางได้ด้วย เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าถนนเมืองไทย หลายสายสร้างไม่ได้มาตรฐาน กลายเป็นจุดอันตรายที่ล่อแหลมต่อการเกิดอุบัติเหตุ กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการใช้ถนนหนทาง ได้จัดเก็บข้อมูลจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หรือจุดที่มักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนเส้นทางหลวงไว้ เพื่อวางมาตรการป้องกันและบอกกล่าวให้ผู้ใช้รถใช้ถนนพึงระวัง จุดเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจุดแรก คือ 1.บริเวณ กม.77-78 ทล.1 ถนนพหลโยธิน ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ลักษณะของจุดเสี่ยงเป็นทางโค้ง แนวทางแก้ไขติดตั้งป้ายเตือนทางโค้งอันตรายและติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบสีเหลือง ทำแถบชะลอความเร็วพื้นที่ถนน เพื่อเตือนผู้ใช้รถใช้ความระมัดระวัง 2.กม.27-30 ทล.2 ถนนมิตรภาพ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ลักษณะเป็นทางลงเขาลาดชันคด โค้งหักมุมต่อเนื่อง ทางแก้ไขติดป้ายเตือนทางโค้งเป็นระยะ ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างตลอดแนว ติดป้ายจำกัดความเร็วเป็นระยะ ทำเนินลูกระนาดบนผิวจราจรเป็นระยะ เขียนเลขจำกัดความเร็วบนพื้นทาง ติดตั้งสัญญาณไฟเหลืองกะพริบชนิดโซลาร์เซลล์บนพื้นทางและสองข้างทาง จัดรถวิทยุจอดควบคุมตามแผน 3.หน้าตลาดปลา ถนนพระราม 2 ระหว่าง กม.ที่ 28-35 (ขาเข้า กทม.) อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ลักษณะมีน้ำเมือกปลาไหลจากรถบรรทุกปลาเป็นจำนวนมากทำให้ถนนลื่น ทางแก้ไข ติดตั้งไฟส่องสว่าง ติดตั้งป้ายเตือน จัดเจ้าหน้าที่ยืนให้สัญญาณการจราจร 4.ทางหลวงหมายเลข 304 ช่วงกบินทร์บุรี-ปักธงชัย ระหว่าง กม.42-48 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ลักษณะสภาพถนนเป็นทางขึ้น-ลง เขาลาดชัน โค้งตัวเอส เบี่ยงการจราจรจาก 4 ช่องทาง เหลือ 2 ช่องทาง เป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร (กม.) ทางแก้ไขจัดเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ติดตั้งทำป้ายเตือนเพิ่ม ประสานแขวงการทางสร้างถนนใหม่ปรับความลาดชัน 5.ทางหลวงหมายเลข 348 ช่วงอรัญประเทศ-โนนดินแดง ระหว่าง กม.76-79 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ลักษณะสภาพเป็นทางขึ้น-ลงลาดชัน โค้งตัวเอส มี 2 ช่องจราจร เป็นระยะทาง 3 กม. 6.ทล.2 (มิตรภาพ) ขาขึ้น กม.40+500 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ลักษณะมีร้านขายของฝาก-ขายผลไม้มาก ทำให้มีรถจอดจำนวนมาก และมีจุดกลับรถ ทางแก้ไขเพิ่มป้ายเตือน "เขตชุมชนโปรดใช้ความระมัดระวัง" หรือ "มีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง" ตรวจจับความเร็วอย่างจริงจัง ติดตั้งแท่งแบริเออร์ 7.ทล.2 (มิตรภาพ) ขาล่อง กม.38-35 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ลักษณะเป็นทางลงเนินลาดชัน รถส่วนใหญ่ใช้ความเร็วสูง ทางแก้ไข จัดรถวิทยุจอดสังเกตการณ์ เพิ่มความเข้มงวดจับกุมผู้กระทำผิด ตรวจจับความเร็วอย่างจริงจัง นอกจากจุดเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทั้ง 7 จุดแล้ว ตำรวจทางหลวงยังออกมาตรการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุด้านอื่นๆ ด้วย ซึ่ง พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (รอง ผบก.ทล.) เล่าว่า มาตรการเตรียมความพร้อมเทศกาลปีใหม่ 2556 ของ บก.ทล. เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดย พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. สั่งการให้ตำรวจทางหลวงทั้ง 8 กองกำกับการ 41 สถานี ตั้งจุดตรวจจับความเร็วทุกระยะบนทางหลวง และมีด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ตลอดเส้นทาง จัดวิทยุสายตรวจเคลื่อนที่ ตรวจจับบริเวณเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ เส้นทึบสีเหลืองซึ่งเป็นเขตห้ามแซง ส่วนมาตรการเน้นหนักในช่วงเทศกาลมีทั้งหมด 6 มาตรการ คือ 1.ด้านการบริหารจัดการ มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่ บก.ทล. กก.ทล. และสถานีตำรวจทางหลวง โดยเปิดศูนย์ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม-2 มกราคม 2556 2.มาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมาย ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด โดยเน้นการจับกุมข้อหาขับรถเร็ว ด่านตรวจแอลกอฮอล์เพื่อไม่ให้เมาแล้วขับ 3.มาตรการด้านสังคม เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมปฏิบัติและดำเนินชีวิตอย่างเป็นมงคลในการเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 4.มาตรการด้านวิศวกรรมจราจร เร่งรัดซ่อมแซมถนนที่ชำรุดและหากการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ จะขอให้หยุดซ่อมแซมชั่วคราวในช่วงเทศกาล พร้อมติดตั้งป้ายและสัญญาณไฟเตือนให้เห็นชัดเจน 5.มาตรการด้านประชาสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ และ 6.มาตรการด้านการแพทย์ฉุกเฉินและการกู้ชีพ ประสานโรงพยาบาลจัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาลและหน่วยบริการฉุกเฉิน มูลนิธิต่างๆ เพื่อการช่วยเหลือ กู้ภัย กู้ชีพ นอกจากนี้ ตามจุดทางหลวงต่างๆ ยังมีหน่วยบริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ทั้งหมด 237 หน่วย ภายในหน่วยจะมีห้องน้ำสะอาด น้ำดื่ม ผ้าเย็น กาแฟ ยาสามัญประจำบ้าน ห้องพักผ่อนชั่วคราว ตรวจเช็กสภาพรถ แผ่นผับแสดงเส้นทางเดินรถ และไวไฟฟรีอีกด้วย ส่วนมาตรการบังคับใช้กฎหมาย อัตราโทษของผู้ฝ่าฝืนข้อหาเมาแล้วขับ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาต และข้อหาดื่มสุราบนรถ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท "ปัจจัยสำคัญ ขอให้ประชาชนผู้ขับขี่มีสภาพร่างกายพร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน" พ.ต.อ.ดิเรกกล่าวทิ้งท้าย มาตรการป้องกันอุบัติเหตุที่ตำรวจทางหลวงวางไว้ เป็นเพียงการป้องกันเท่านั้น แต่ถ้าทุกคนที่เดินทางไปฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างปลอดภัยทั้งไปและกลับ ทุกครั้งที่ขับรถต้องไม่ตั้งอยู่บนความประมาท !! จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:54:08

ความคิดเห็นที่ 52 แต่สวยขึ้นนนนนนนนนนนนนทุกปีนะเพคะ..บรู๊วววววววววววววว..ว์ จากคุณ : 555 (จุ๊กกุ๊กจัง) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:57:10

ความคิดเห็นที่ 53 ห้ามมมมมมมมมมมมมมมม..เถียง จากคุณ : 555 (จุ๊กกุ๊กจัง) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:59:18

ความคิดเห็นที่ 54 โดนไฟลนมาหรือ  แม่ดอกกระดังงา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า บมจ.โมโน เทคโนโลยี ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่  26 ธ.ค.55 เนื่องจากบริษัทฯจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 245 ล้านหุ้น โดยบริษัทฯจะดำเนินการนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI) โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์การเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจในต่างประเทศ ลงทุนเพิ่มใน Content ประเภทต่าง ๆ ลงทุนในกิจการอื่น ๆ รวมทั้งใช้ในการประมูลช่องสัญญาณโทรศัพท์ระบบดิจิตอล ตลอดจนใช้ในการขยายพื้นที่สำนักงานและลงทุนในอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บมจ.โมโน เทคโนโลยี ดำเนินธุรกิจให้บริการข้อมูลและสาระบันเทิงผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ สื่ออินเทอร์เน็ต โทรศัพท์เคลื่อนที่ และโทรศัพท์พื้นฐาน โดยบริษัทฯมีบริษัทย่อยทั้งสิ้น 8 บริษัท ซึ่งแบ่งการประกอบธุรกิจออกเป็น 2 สายธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจสื่อและการให้บริการข้อมูล และธุรกิจการให้บริการด้านบันเทิง ณ วันที่ 14 ธ.ค.2555 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 140 ล้านบาท และมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 115.50 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 1,155 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มเป็น 140 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,400 ล้านหุ้น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 14 ธ.ค.2555 คือ นายพิชญ์ โพธารามิก ถือหุ้น 1,006,124,900 หุ้นหรือคิดเป็น 87.11% หลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 71.87% ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังหักสำรองตามกฎหมาย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:59:36

ความคิดเห็นที่ 55 ดีนะ..มีคำว่ากระดังงา จากคุณ : 555 (จุ๊กกุ๊กจัง) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 12:01:40

ความคิดเห็นที่ 56 @ หนังจีนฉุดกระแสเที่ยวไทยคึก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกาหลีใต้ใช้ภาพยนตร์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงสร้างสรรค์ ดึงดูดรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศอย่างเป็นกอบเป็นกำ ล่าสุดมีประเด็นที่กำลังถูกเอ่ยถึงอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ว่า ประเทศไทยก็กำลังได้รับอานิสงส์ในลักษณะคล้ายกัน จากภาพยนตร์ทุนต่ำของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นหนังตลกแนวโรด มูฟวี่ ที่มาถ่ายทำในประเทศเรื่องลอสต์ อิน ไทยแลนด์ (Lost in Thailand) ซึ่งนอกจากทำสถิติรายได้มโหฬารในจีน โดยรายงานของฟิล์ม บิซิเนส เอเชีย (Film Business Asia) ระบุว่าหลังจากเปิดตัว 8 วัน ทำรายได้ในประเทศไปถึง 450 ล้านหยวน หรือเท่ากับราว 72.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2,250 ล้านบาท จากทุนสร้างไม่ถึง 30 ล้านหยวน หรือ 150 ล้านบาท ยังทำให้นักท่องเที่ยวจีนพากันเดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในเดือนนี้ @ ยอดจองทัวร์เชียงใหม่พุ่ง 5 เท่า ภาพยนตร์ลอสต์ อิน ไทยแลนด์ นำแสดงและกำกับโดยดาวตลกของจีนชื่อซูเจิ้ง (Xu Zheng) เป็นการเล่าเรื่องการเดินทางของคู่หูชาวจีนจากกรุงเทพฯไปท่องเที่ยวเชียงใหม่ เพื่อเป็นการส่งท้ายก่อน ?วันโลกแตก? ตามความเชื่อเรื่อง ?วันสิ้นโลก? ว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา ระหว่างทางผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และการผจญภัยอย่างสนุกสนาน ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นที่กล่าวถึงและบอกเล่าปากต่อปาก และมีผู้ชมจำนวนมากตั้งใจจะเดินทางมาเที่ยวไทยในช่วงเดือนนี้เพื่อใช้วันหยุดพักผ่อนประจำปีฉลองวันคริสต์มาสและวางแผนจะไปในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน รายงานแจ้งว่าบริษัททัวร์ต่างๆในจีนจึงใช้จังหวะนี้สร้างโอกาสทางธุรกิจในการเปิดโปรแกรมทัวร์ใหม่พาท่องเที่ยวไปยังสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ดังกล่าว อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต รวมถึงกิจกรรมที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของไทย เช่น การปล่อยโคมลอย นั่งรถตุ๊กตุ๊ก การนวดสปาไทย และชมการแสดงของช้าง ก็ได้รับการเพิ่มเข้าไปในกำหนดการเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยผู้บริหารบริษัทด้านการท่องเที่ยวของจีนรายหนึ่งระบุว่าผลกระทบของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวทำให้ในเดือนธันวาคมนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจองทัวร์เชียงใหม่เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ปัจจุบันตั๋วเครื่องบินที่ไปเชียงใหม่และโรงแรมระดับ 5 ดาวในเชียงใหม่ถูกจองแทบไม่เหลือเลย @ บ.ท่องเที่ยวจัดโปรแกรมรับ นายศิษฎิวัชร ชีวรันตพร สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า กระแสภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวไทย โดยระยะสั้นจะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่ยังลังเลว่าจะไปเที่ยวที่ไหนช่วงปีใหม่และตรุษจีน น่าจะตัดสินใจมาเที่ยวไทยง่ายขึ้น ส่วนระยะยาวจะทำให้คนจีนรู้จักเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่ภาคการท่องเที่ยวต่างพยายามโปรโมตให้คนจีนมาเที่ยว เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชียงใหม่ทางอ้อม โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งภาพวัดวาอาราม แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ กิจกรรมต่างๆ เช่น สปา การปล่อยโคมลอย นั่งรถตุ๊กตุ๊ก ชมการแสดงของช้าง มีการคาดการณ์กันว่า ถ้าหนังเรื่องนี้สิ้นสุดลงจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านหยวน หรือประมาณ 4,880 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับว่ามีคนจีนเข้ามาชมหนังเรื่องนี้จำนวนมาก สูงกว่ายอดผู้เข้าชมหนังฟอร์มยักษ์จากตะวันตกเสียอีก ทำให้บริษัททัวร์เริ่มสนใจมาจัดโปรแกรมทัวร์ โดยเพิ่มเส้นทางเชียงใหม่เข้าไปด้วยมากขึ้น เป็นลักษณะท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาพยนตร์ดังกล่าว แต่ในภาพรวมหากมีรายการหรือภาพยนตร์จากต่างชาติเรื่องใดเข้ามาถ่ายทำในไทย ถือว่าช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่รู้จักได้มากเช่นกัน แม้ผู้ชมอาจไม่รู้ว่าพื้นที่ถ่ายทำในฉากที่ชื่นชอบอยู่ที่ใด แต่กระแสในโลกออนไลน์จะช่วยให้การหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวทำได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ททท.จะช่วยสนับสนุนข้อมูลอีกด้านหนึ่ง จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 12:04:59

ความคิดเห็นที่ 57 เหลืออีก 4 วัน ได้เค้าดาวน์แง๊วววววววววว 555 จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 12:08:44

ความคิดเห็นที่ 58 เค้าดาวน์.. แต่ตะเองผ่อนเองนะ กร๊ากกกกกกกกกกก มุขเก่าเอามาเล่นใหม่ 555 จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 12:12:48

ความคิดเห็นที่ 59 ใครจะกล้าว่านะ เดี๋ยวโดนเจ้า(แม่)ลง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) แจ้งว่าบริษัทเตรียมจะกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 5.50 บาท/หุ้น มูลค่ารวมของหุ้นใหม่ที่แสนอขายไม่เกิน 3,080 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 560 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 15.01 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานกรรมการบริหาร EA ได้คาดว่า จะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI) ได้ราวต้นปี 56 บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ เดิมชื่อ บริษัท ซันเทคปาล์มออยล์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล(B100) น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว กลีเซอรีนบริสุทธิ์ วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์พลอยได้ และธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนก่อสร้างโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แห่งใหม่ ขนาดกำลังผลิต 90 เมกะวัตต์ในจังหวัดนครสวรรค์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนภายในปี 56 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 12:21:08

ความคิดเห็นที่ 60 อุ๊ยยยยยยย.. ไม่กล้าหรอกค่า ปกติเคยแต่เข้าสิงชาวบ้านเค้าไปทั่ว 555 จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 12:50:21

ความคิดเห็นที่ 61 ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,386.61 จุด เพิ่มขึ้น 4.38 จุด(+0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 14,620 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,390.55 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,384.24 จุด นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นได้ต่อ วันนี้น่าจะเป็นการทำตัวเลขเพื่อปิดงบฯปี 55 ประกอบกับ ตัวเลขเศรษฐกิจที่แถลงออกมาวานนี้ค่อนข้างดีทั้งการนำเข้า ส่งออก การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาจากนักลงทุนในประเทศและกองทุน LTF-RMF ที่เมื่อวานนี้ซื้อไม่ทะน ปัจจัยต่าง ๆ ผลักดันให้ดัชนีปรับขึ้นมาแตะสูงสุดที่ 1,390 จุดในช่วงเช้า ทิศทางช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวสูงสุดที่ 1,390 จุด และขึ้น-ลงในกรอบ รอลุ้นคืนนี้ผลการเจรจา Fiscal Cliff ของสหรัฐจะมีความคืบหน้าอย่างไร หากมีคความคืบหน้าและเป็นไปเชิงบวกอาจทำให้ดัชนี SET ปรับขึ้นไปแตะที่ 1,400 จุดได้ ถ้าไม่มีผลเชิงบวกก็คาดว่าตลาดฯตจะแกว่งต่ำกว่า 1,390 จุด และไปรอลุ้นวันแรกเปิดทำการของปี 56 อีกรอบ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 1,333.82 ล้านบาท ปิดที่  46.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท UV     มูลค่าการซื้อขาย   600.64 ล้านบาท ปิดที่   9.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท INTUCH มูลค่าการซื้อขาย   462.14 ล้านบาท ปิดที่  69.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท PTTGC  มูลค่าการซื้อขาย   436.55 ล้านบาท ปิดที่  69.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท PTT    มูลค่าการซื้อขาย   428.70 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 14:36:06

ความคิดเห็นที่ 62 ซาหวักลีปีใหม่งั๊บบบบบบบบบบบบบบบบเอฟวิบอดี้_555 จากคุณ : *-==HUTCHISON==-* เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 15:35:23

ความคิดเห็นที่ 63 โอววววววววววว.. มันนี่ ไอ เลิฟ เว รี่ มัด เว รี่ มัด มากกกกกกกก มายยยยยยยยย 555 จากคุณ : ซาหวักลีปีใหม่ค่าคุณฮัท ม๊วฟฟฟ (จุ๊กกุ๊กจัง) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 15:44:24

ความคิดเห็นที่ 64 เอ๊า!! ตื่นๆ ได้แล้วงั๊บบบบบบบบบบ 555 จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 16:03:46

ความคิดเห็นที่ 65 อาเจ๊ก็ไม่อยู่.. สงสัยหนีไปกะเฮีย จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 16:12:56

ความคิดเห็นที่ 66 คุณฮะก็เตรียมเก็บผ้าขาวม้า ไปเที่ยวเกาะ ฮึ.. จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 16:16:59

ความคิดเห็นที่ 67 เฮ้ออออออออ.. คุณหย๊ายหย่ายกะคุณฮัทก็เอาแต่นั่งนับเงิน นับทอง จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 16:19:15

ความคิดเห็นที่ 68 ขนมคุณจอยลี่เมื่อเช้าก็ย่อยหมดแระ 555 จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 16:20:21

ความคิดเห็นที่ 69 อุ๊ยยยยยย.. อาไรแว๊บบบบบบบบบบบบบบบๆ ซาหวักลีปีใหม่ค่า คุณ PeterMc คุณXceed Abb จากคุณ : เค้าไม่ได้บ้าน๊า.. 555 (จุ๊กกุ๊กจัง) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 16:22:43

ความคิดเห็นที่ 70 Setมารอ1400ละ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 55 16:49:10 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 16:47:39

ความคิดเห็นที่ 71 ติดมาครึ่ง  เอาใหม่ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 16:53:26