พรปีใหม่ 2556 ...องค์กรสร้างสุข ด้วย พลังความดี [ย้ายจาก : หุ้น]
|
|
ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 27 ธันวาคม 2555 01:00
โดย : ดวงกมล วงศ์วรจรรย์
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ชาวพุทธร่วมโครงการสวดมนต์ข้ามปี
“พุทธศาสนา” ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีปฏิบัติในหลายองค์กรเพื่อสร้างองค์กรแห่งความสุขที่ผลสุดท้ายปลายทางไม่เพียง ธุรกิจได้ แต่สังคมก็ได้ด้วย
หลังความพยายามของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการเผยแพร่แนวคิด Happy Workplace เพื่อขยายผลวิถี “องค์กรแห่งความสุข” ให้เข้าไปสู่หลายภาคส่วน เราเลยได้เห็นองค์กรจำนวนมาก ที่ปรับตัวเข้าสู่องค์กรแห่งความสุขได้อย่างน่าสนใจ
ดูได้จากการนำแนวคิดความสุข 8 ประการ (Happy 8) ไปปรับใช้กับหน่วยงาน โดยเฉพาะ 2 หัวใจสำคัญอย่าง Happy Soul มีความศรัทธาในศาสนาและมีศีลธรรมในการดำเนินชีวิต และ Happy Society มีความรักสามัคคี เอื้อเฟื้อต่อชุมชนและสังคม
หนึ่งภาพสะท้อนที่เห็นได้ชัดเจน คือ พลังของเหล่าองค์กรน้ำดี กว่า 30 ราย ที่ขันอาสาเข้าร่วมสนับสนุนมหกรรมสวดมนต์ข้ามปี ซึ่งจัดโดย สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย เป็นประจำทุกปี และนับถึงปีนี้ก็จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว
ความร่วมมือของแต่ละองค์กร ไม่ได้ทำในสิ่งที่ห่างไกลความเชี่ยวชาญของพวกเขา และไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินสนับสนุนมหาศาล ทว่าเลือกใช้ประสบการณ์และศักยภาพของแต่ละหน่วยงาน มาร่วมส่งพลังแห่งความดี
แน่นอนว่าแนวคิดเพื่อสังคมวิธีนี้ ย่อมส่งผลที่ชัดเจนและยั่งยืนกว่าวิถีปฏิบัติเดิมๆ ทั้งยังจะสะท้อนผลดีกลับไปยังองค์กรของพวกเขาได้อีกมหาศาล
“ทพ. กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์” ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ในฐานะประธานกรรมการคณะทำงานและจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี” ยกตัวอย่าง บริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด ในเครือเอสซีจีเปเปอร์ หนึ่งองค์กรภายใต้กลุ่มเอสซีจี ที่เลือกสนับสนุนกระดาษกรีนออฟเซ็ต ซึ่งเป็นนวัตกรรมผลิตกระดาษเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของเอสซีจี มาพิมพ์เป็นบทสวดมนต์กว่า 70,000 ชุดเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่คาดว่าจะเข้าร่วมงานกว่า 2 แสนคนในปีนี้ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง สถานที่จัดงานหลัก
“กระดาษกรีนออฟเซ็ตเป็นกระดาษที่ผลิตโดยใช้ไมโครไฟเบอร์100% ไม่ได้ทำมาจากต้นไม้ใหญ่ แต่เป็นการนำวัสดุที่ผ่านการใช้งานแล้วมาคัดเลือก และใช้เทคโนโลยีในการผลิตขั้นสูง เพื่อผลิตออกมาเป็นกระดาษคุณภาพพรีเมี่ยม เป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางหนึ่งที่เอสซีจีเปเปอร์พยายามทำมาอย่างต่อเนื่อง"
พันเทพ สุภาไชยกิจ กรรมการผู้จัดการ เอสซีจีเปเปอร์ หนึ่งในหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรมบอกต้นกำเนิดของกระดาษรักษ์โลก ที่ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการน้ำดีในครั้งนี้
การผลิตกระดาษเป็นกิจกรรมหลักของเอสซีจี ซึ่งพวกเขามองว่า นั้นคือหน้าที่ ที่ธุรกิจต้องช่วยสร้างสมดุลและดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ไม่เพียงสังคมเท่านั้นที่ได้ แต่ยังสะท้อนกลับมายังพนักงานในองค์กรของพวกเขาให้มีสำนึกรักษ์โลก และตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ เรียกว่าเป็นการสร้าง "จิตสำนึก" เพื่อโลก และสิ่งแวดล้อม ให้เกิดขึ้นทั้ง องค์กรและสังคม
หรืออย่าง โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่เลือกส่งทีมแพทย์ พยาบาล และอาสาสมัคร มาประจำในเตนท์พยาบาล เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในกรณีฉุกเฉิน บำรุงราษฎร์เลือกส่งเหล่า “พนักงานจิตอาสา” ให้มาประจำการเพื่อผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่มืออาชีพเหล่านี้ ก็พร้อมให้การดูแล และอำนวยความสะดวกด้านพยาบาลแก่ประชาชนที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้อย่างเต็มที่และเต็มใจ
แน่นอนว่าความร่วมมือเกิดขึ้นได้ ก็ล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากนโยบายองค์กร ที่ให้ความสำคัญกับการนำแนวคิดทางศาสนามาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจ
อย่างการชำระจิตใจให้ปราศจากอัตตา และเดินหน้าช่วยเหลือผู้อื่นเพื่อเป็นกุศล หนึ่งในนโยบายของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่หลายคนคงคุ้นหูอย่าง “โครงการ สปาใจ” หรือ Spa Mind ที่มีกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์สลับกับการปฏิบัติธรรม และนั่งสมาธิ โดยมีพนักงานเข้าร่วมอย่างเนืองแน่นในทุกกิจกรรม
“พจนีย์ บุญประสิทธิ์” ผู้จัดการแผนกบริหารพนักงานสัมพันธ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ บอกเราว่า ในแต่ละเดือนจะมีกลุ่ม “จิตอาสา” เข้ามาฝึกทักษะซึ่งจำเป็นสำหรับการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการปฐมพยาบาล การใช้เครื่องมือ และการอำนวยความสะดวกให้กับคนที่เข้ามารับการรักษา พนักงานเหล่านี้ ก็จะสลับกันเดินสายไปกับแพทย์และพยาบาลมืออาชีพไปยังชุมชนต่างๆ เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ
กิจกรรมน้ำดีเหล่านี้ ไม่ได้มุ่งหวังที่ “ผลกำไร” เป็นเป้าหมาย แต่เพียงเพื่อแสดง “เจตนารมณ์เพื่อสังคม” ที่อยากร่วมดูแลคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น
“สิ่งที่เราได้กลับมาคือพนักงานที่พร้อมจะทุ่มเทกับการทำงานในวิชาชีพ เพราะคนที่ออกไปกับหน่วยแพทย์เขาจะได้รับทราบความทุกข์ของผู้อื่น และได้รับความอิ่มเอมใจจากการช่วยเหลือคนเหล่านั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามีจิตใจที่เป็นสุขจากการทำบุญ และทำงานกับเราได้อย่างมีความสุข" เธอบอก
นี่คือตัวอย่างของการเลือกใช้ศักยภาพองค์กร มาร่วมส่งพลังแห่งความดีสู่สังคม ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้ก็ล้วนเกิดจากพลังของเหล่าพนักงานในองค์กรทุกระดับชั้น ที่ถูกบ่มเพาะความคิดเพื่อสังคม ซึมซับเข้าไปในดีเอ็นเอของพวกเขา จนพร้อมส่งพลังสู่สังคมในวันนี้..
ทพ. กฤษดา บอกอีกว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่จะจัดขึ้น ณ มณฑลพีธีท้องสนามหลวง ในค่ำคืนของวันที่ 31 มกราคม 2555 จนล่วงเข้าสู่เช้าวันใหม่ของวันที่ 1 มกราคม 2556 นั้น ไม่ได้มีเพียง 2 องค์กรกรณีศึกษานี้เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายองค์กร ที่พร้อมให้การสนับสนุน และเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
หลายองค์กรเลือกนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ มาสนับสนุนกิจกรรม บางองค์กรเลือกส่งพนักงานมาเข้าร่วม ขณะที่อีกหลายหน่วยงาน ก็พร้อมร่วมจัดกิจกรรมภายในงาน จัดนิทรรศการ การแสดง เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา อานิสงส์ของการสวดมนต์ การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ตลอดจนการเป็นอาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ เพื่อสังคม
เพื่อเนรมิตรให้ท้องสนามหลวงในวันนั้นกลายเป็นแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ของผู้เข้าร่วมงานทุกชีวิต
“เราคาดว่าปีนี้ น่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน จากการจัดงานมา 2 ปีเต็ม ที่พบว่าการสวดมนต์ข้ามปีได้รับความสนใจจากประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ" ทพ. กฤษดา บอกสัญญาณที่ดี ของกิจกรรมส่งพลังบุญ ที่หวังให้ปีนี้ยังได้รับการสนับสนุนและความสนใจจากองค์กร และเหล่าผู้เข้าร่วมงานอย่างทวีคูณจากปีที่ผ่านมา
อีกหนึ่งวิธีคิด ของการใช้พลังแห่งความดี ก้าวข้ามสู่ปีใหม่ เพื่อผลสุดท้ายที่ ธุรกิจก็ได้ สังคมก็ได้
================================================================================
กิจกรรมดีๆสำหรับพุทธสานิกชนที่ร่ำรวยจากการลงทุุนหุ้นปีมะโรงกันมาแล้ว ปีใหม่ก็ไปสร้างบุญเสริมบารมีให้เพิ่มมากยิ่งๆขึ้นนะครับ ขอเชิญชวนผู้ที่มีเวลาไปร่วมสวดมนต์ข้ามปีกันนะครับ มงคลจะได้เกิดกับชีวิตและครอบครัวเพิ่มพูนทวีคูณครับ ปีมะเส็งจะได้โชคดีร่ำรวยต้อนรับศักราชใหม่กัน และโชคดีช่วงส่งท้ายปีเก่า ด้วยกันทุกๆท่านนะครับ
| จากคุณ |
:
Wild Rabbit  
|
| เขียนเมื่อ |
:
27 ธ.ค. 55 08:07:42
|
|
|
|
