ความคิดเห็นที่ 1 .. จากคุณ : เบนเบอนานเก๊ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:09:41

ความคิดเห็นที่ 2 ตรรกะคุณผิดนะครับ คนซื้อหุ้นราคาแพงกว่า ipo เพราะว่า เชื่อมั่น คุณตั้งบริษัท A แล้วไม่สน ปล่อยไปเรื่อยๆ ผมถามง่ายๆว่า ใครจะซื้อหุ้นบริษัท B แนวความคิดของคุณ ในวอลสตรีท เข้าคุกไปเยอะแล้วครับ การระดมทุนในตลาดหุ้น แปลความง่ายๆว่า ขอยืมตังไปขยายบริษัท ไม่ให้ดอกเบี้ยนะ แต่แบ่งกำไรกัน แต่ถ้าเป็นการกู้เงิน วัดว่า มีปัญญาหารายได้ มากกว่าดอกเบี้ยหรือไม่ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 13:13:02 จากคุณ : แฟนคลับใบเฟิร์น เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:11:12

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท. ฉลาด.... เรียนรู้ต่อไป.....ท่านมาใกล้ จนเฉี่ยวความลับแล้ว.... ด้ายทองคำ แนะนำ ให้วิจัยวิจารณ์ แบบนี้ต่อไป.... วันนึง....ความลับจะเปิดเผยในสมองท่าน..... ปิ๊ง.....ป่อง....แบบนี้ จากคุณ : Golden Thread เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:13:45

ความคิดเห็นที่ 4 ตลาดทุนครับ มีทุนมากกว่าย่อมได้เปรียบได้ในการปรับปรุง ขยายตัว และอื่นๆอีกมาก คนที่อยากขยาย ถึงได้วิ่งเข้าหาตลาดทุนครับ แบ่งสัดส่วนความเป็นเจ้าของออกให้คนอื่นบ้าง แต่โอกาสทำกำไรเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ระหว่างทำเองคนเดียว ทุน 100 ล้าน กับเข้าตลาดทุน1000 ล้าน ยอดไหนจะมีโอกาสเติบโตและกำไรมากกว่ากัน จากคุณ : 1fineday เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:15:37

ความคิดเห็นที่ 5 คิดคงง่าย แต่ทำคงไม่ใช่ง่ายเหมือนเขียนในกระดาษ ใครจะรู้ว่าเงินที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท A อาจจะเจ๊งกับบริษัท B ก็ได้ จากคุณ : ชิ[a]ม่อน เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:19:52

ความคิดเห็นที่ 6 ไอเดีย ดี แต่ไม่มีใครทำ จากคุณ : Born to SK เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:45:13

ความคิดเห็นที่ 7 ดูPTT ปตท.ก่อนเข้าตลาด กับตอนนี้ซิ นั่นล่ะครับคำตอบ อีกอย่างการเข้าตลาดหุ้นของบริษัท เขาก็มีเกณฑ์กำหนดไว้เยอะแยะมันไม่ง่ายที่จะทำเช่นนั้นครับ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 14:18:50 จากคุณ : GLUCOSE เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 14:17:05

ความคิดเห็นที่ 8 ผมาว่าแนวคิดที่ท่านว่ามาก็ถูกน่ะ แต่เค้าคงมีวิทีการปล่อยที่แนบเนียนกว่านั้นโดยการขายหุ้นใหญ่ แล้วปล่อยให้หุ้นใหญ่เปลียนมือ ในขนะเดียวกัน ก็ค่อยนำบริษัทถัดไปเข้าตลาด แต่ตอนปล่อย ก็ต้องปล่อยช่วงพีคของธรกิจ ให้คนจำภาพดีๆๆใว้ แล้วค่อยกลับมาล้าฝันบริษัทใหม่ต่อ แบบนี้สุดยอด.... จากคุณ : gooddy good เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 14:31:59

ความคิดเห็นที่ 9 เอาบริษัท A เข้าตลาด ปล่อยปละละเลยไม่ดูแล มัวแต่ไปทำบริษัท B ไม่นานบริษัท A เจ๊งโดนเพิกถอนจากตลาดครับ จากคุณ : กระทงหลงทาง เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 14:48:09

ความคิดเห็นที่ 10 ตามทั่นจขกท.ว่าแหล่ะฮะ เดี๋ยวนี้บริษัทเป็นหนี้ แต่เข้าเกณฑ์ฟื้นฟูของกลต. ยังเข้ามาลั๊ลลาในตลาดได้..ไหนจะพวก ipo อีกนับไม่ถ้วน.. บ. A มีเงินพอไปขยาย B ,c d e และ f ไปได้เรื่อย ๆ ถ้าทำธุรกิจดี ๆ มันก็ดีแหล่ะฮะ เดี๋ยวนี้บริษัทที่ดูว่าดี ดีจริงไม่จริงไม่รู้นะ ภาพลักษณ์ดี พื้นฐานดีมีปันผล ราคาวิ่งไกลกว่าค่าเหมาะสมไปมากมาย..ถ้าผบห.ซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นตัวเองนี่ กำไรดีกว่าทำกิจการบริษัทจมหูเลย มันคงตอบคำถามได้ ว่าทำไม เค้าถึงเอาเข้าตลาดหุ้นกัน..คิดในแง่ดี ก็เป็นการส่งเสริมให้คนทำธุรกิจเก่ง ๆ ได้มีทุนเพิ่ม ให้นลท.ได้มาส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจนั้น ๆ ส่วนในแง่ร้าย ก็ต้องพึ่ง ท่านกลต.ให้ดูแลสอดส่องล่ะฮะ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 14:56:12 จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 14:52:41

ความคิดเห็นที่ 11 บริหารคนเดียว ถ้าตายไปแล้วบริษัททำยังไง จากคุณ : RosieDunne เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 15:16:05

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าไม่เอาเข้าตลาดหุ้นก็ได้แต่กำไร กับปันผล แต่ถ้าเอาเข้าตลาดหุ้น จะได้กำไรจากราคา ipo  มหาศาลในคราวเดียว เช่น  par 10 สตางค์ ขาย ipo 4.20 บาท   ได้กำไรตั้ง 4100 % คุณคิดว่าคุ้มไหมล่ะ รวยทันตาเห็น ส่วนใหญ่ถ้าเป็นบริษัทใหญ่กำไรดีๆ ก็กินจนอิ่มมานานแล้ว สุดท้ายเอาเข้าตลาด กินคำใหญ่   ต่อไปเป็นมหาชน ก็ไม่ต้องหวงกิจการอีก แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 15:47:33 จากคุณ : ** ชายใหญ่ ** เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 15:42:08

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าใจคำว่าระดมทุนไหมครับ จากคุณ : กระเพรากึ๋น เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 15:56:50

ความคิดเห็นที่ 14 ตรงนี้ "บริหารให้มีกำไรมาก ๆ แล้วเอาเข้าตลาดฯ " พูดง่ายทำยากครับ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้นะครับ อาจมีบ้างที่ทำได้ และมีบ้างที่ทำไม่ได้ ปัจจัยหลายหลาก ดังนั้น การระดมทุนจากคนอื่นมาใช้ มันดูดีดว่า ถ้าเกิดพลาดท่าพลาดทาง เราก็ยังไม่หมดตัว จากคุณ : ไอไอ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 16:16:42

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบแยกนะครับ "แล้วเราจะเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อแบ่งกำไรให้กับคนอื่น ๆ ทำไม ??? " - ที่เคยถามเจ้าของที่เค้าอยากเอาบริษัทเข้าตลาดนะครับ เค้าบอกธุรกิจมันทำได้เฉพาะตัวเค้า ไปถึงลูกหลานเค้าไม่สานต่่อก็เจ๊ง สู้ดีเอาเข้าตลาด ลูกหลานไม่ทำต่อ ได้ใบหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ซื้อขายได้สภาพคล่องสูงและมีมืออาชีพมาบริหารให้ นอกจากนี้หุ้นยังได้ส่วนของราคาหุ้น หากทำกิจการดีๆราคาหุ้นมันวิ่งแรงแซงโค้งได้ครับ "สร้างบริษัท A .. บริหารให้มีกำไรมาก ๆ แล้วเอาเข้าตลาดฯ แล้วสร้าบริษัท B แล้วเอาเข้าตลาดฯ " - อันนี้เค้าทำกันเยอะแยะ แต่จะทำธุรกิจเค้าต้องคิดกันมาอย่างดี ว่ามันอยู่ำได้และผ่านขั้นตอนพิจารณาของตลาดหลักทัรพย์ ท่านทำฺฺB แต่ทิ้ง A ทำไปเรื่อยๆรับรองว่า ชื่อเสียงท่านเน่าแน่นอน เปิดIPOก็ขายไม่่ออกครับ จากคุณ : jenwit เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 17:11:02

ความคิดเห็นที่ 16 ทุนจดทะเบียนมันเยอะกว่า ขยายกิจการได้ใหญ่กว่า ถ้าจดทะเบียนเป็น หจก น้อยนักที่จะขยับขยายได้เร็ว เพราะทุนจุดทะเบียนน้อยกว่า จากคุณ : oracleman เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 17:46:46

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบความเห็น #15 ครับ ชัดเจนมาก ตรงประเด็น จากคุณ : ไอไอ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 17:49:42

ความคิดเห็นที่ 18 ขาย ipo เอากำไรไปเปิด บ.ใหม่แล้วไม่ต้องเข้าตลาด ส่วนบ.ที่เข้าตลาดก็ปล่อยให้สาละวันไป จากคุณ : แนะนำด้วยครับ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 18:11:11

ความคิดเห็นที่ 19 บาง บ. บอกเข้ามาระดมทุนไปขยาย บ. บาง บ. บอกเข้ามา listed ใน SET ให้ลูกค้ามั่นใจใน บ. ^^ จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 19:05:39

ความคิดเห็นที่ 20 สหพัฒน์เอาหุ้นเข้าตลาด 14 บริษัทค่ะ ทุกตัว IPO ในราคาต่ำมาก ตัวล่าสุดที่เข้ามาเป็นโรงไฟฟ้่าและพลังไอน้ำ   ผลิตไฟฟ้าขายให้ไฟฟ้าฝ่ายผลิต สัญญา 25 ปี รายย่อยที่ซื้อ IPO 3.20 ขายทิ้ง แต่เจ้าของซื้อเพิ่ม จนเหลือรายย่อยเพียง 1000 ราย ถือหุ้นแค่ 12% เท่านั้น เหตุเพราะไม่สามารถทนต่อการนิ่งเฉย ไร้สภาพคล่องที่สุดในกลุ่ม แต่แล้วจู่ๆ มันก็ลุกขึ้นวิ่งบวก 17 วันต่อเนื่อง ขึ้นมาร่วม 100%   ถามว่าเจ้าของรวยไหม ตอบว่ารวยตัวเลข เพราะไม่ได้ขายหุ้นทิ้ง แถมราคาหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ ดิ่งลงมา แทบจะ new low ในรอบ 2 ปี ปีหน้ากำลังจะเอาเข้ามาอีก 2 แห่ง  แต่มีแนวโน้มจะเอาออก 2 แห่งเช่นกัน จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 03:14:15

ความคิดเห็นที่ 21 14 บริษัท  กำไร 11 บริษัท ขาดทุน 3 บริษัท ยอดขายรวม  8 หมื่นล้าน   ไม่รวมอีก 8 หมื่นล้านของบริษัทลูกๆและบริษัทร่วมทุน อีก 300 บริษัทนอกตลาด   ที่จะเอาออก คือบริษัทที่ขาดทุนมากๆ ถ้าไม่เอาออกก็ยืนตายซาก ที่จะเอาเข้ามาใหม่ คือบริษัทที่มียอดขาย 1000 ล้านขึ้นไป และมีกำไร  เป็นบริษัทลูกของบริษัทที่เอาเข้าตลาดแล้ว จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 03:30:25